Share

บทที่ 5

last update Last Updated: 2025-09-20 16:33:41

บทที่ 04 หวังดีผิดคน

"แกกลับมาทำไม ทำไมไม่ไปทำงาน" ทันทีที่เท้าเรียวก้าวเข้ามาในบ้านหลังเล็ก ๆ ที่ทำจากไม้เก่า ๆ ที่ใกล้จะผุพังเต็มที เรียงกันหลาย ๆ หลังภายในหมู่บ้านที่ห่างไกลจากถนนใหญ่ เสียงที่ไม่ค่อยอยากฟังก็ดังขึ้นแต่ฉันก็เลือกที่จะเดินผ่านแล้วเข้าไปในห้องของตัวเองเพื่อหยิบของที่ต้องการ

"ฉันพูดกับแกอยู่นะ!" เป็นเสียงของแม่เลี้ยงฉันเอง บ้านนี้เราอาศัยกันอยู่สามคนคือฉันแก้วตา ไอต้นกล้าน้องชายคนละแม่ ส่วนนั้นก็แม่เลี้ยงที่พ่อแต่งงานได้ไม่กี่ปีก็ตายจากกันไป ทิ้งความวุ่นวายและยากลำบากให้ฉันเพียงคนเดียวเพราะแม่เลี้ยงมัวแต่กินนอนดื่มเหล้าไม่ทำการทำงานอะไรเลยสักอย่าง

"ฉันลืมของ" ฉันตอบเสียงเรียบแล้วกำลังจะเดินออก หางตาก็เหลือบไปเห็นไอต้นกล้าที่กำลังทำอะไรบางอย่างจนต้องชะงักเท้าเดินวนกลับไปหามัน

"นั้นแกทำอะไร?" ฉันเอ่ยปากถาม

"ก็กีตาร์ไง ไม่รู้จักหรือไง" ไอต้นกล้าเงยหน้าขึ้นมาตอบหน้าตาย

"ฉันรู้ว่ามันคือกีตาร์ แต่แกเอาเงินที่ไหนไปซื้อ"

"ก็เงินแกไง"

"แกขโมยเงินฉันอีกแล้วเหรอ!?" ฉันรีบถลาเข้าไปหามันอย่างเอาเรื่อง มือบางกระชากคอเสื้อมันไว้หมายจะลงหมัดบนใบหน้าแต่กลับโดนแม่เลี้ยงรีบเข้ามาห้ามผลักฉันจนกระเด็น

"จะอะไรนักหนากับอีแค่เงินไม่กี่บาท สุดท้ายเงินนี้แกก็หามาให้มันอยู่ดี"

"แต่ฉันตั้งใจเก็บไว้จ่ายค่าเทอมมัน เอาไปซื้ออะไรไร้สาระแบบนี้แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายวะ ทำไมทำอะไรไม่เคยคิด เมื่อเช้าก็ทำฉันเกือบตายทีนึงแล้ว ไม่สร้างปัญหาสักวันมันจะตายหรือไง!" ความอดทนของฉันถึงขีดจำกัดตะคอกใส่สองแม่ลูกอย่างเหลืออด มันคือเงินเก็บหลายเดือนของฉันที่ตั้งใจจะให้เป็นค่าเทอมเข้ามหาวิทยาลัยของมันแต่กลับเอามาใช้อะไรไร้สาระจนไม่เหลือสักบาทเดียว

"แกก็หาใหม่ดิ เงินแค่นี้แกหาได้แป๊บเดียวหนิ" ไอต้นกล้ามันก็คือไอต้นกล้า ใช้ชีวิตสุขสบายทุกวันโดยที่ไม่ต้องทำงานงก ๆ เพราะมีแม่คอยซัพพอร์ตทุกอย่าง เงินที่ใช้ทุกบาททุกสตางค์ก็มาจากฉัน นั่งงอมืองอเท้าไปวัน ๆ ทั้งที่ฉันทำงานสายตัวแทบขาด แต่ที่ฉันไม่ว่าอะไรก็เพราะเห็นว่ามันเป็นน้อง ฉันไม่อยากให้มันต้องมาเผชิญชะตากรรมแบบเดียวกับฉันที่ต้องทำงานเหนื่อยแทบตายแต่กลับได้เงินไม่กี่บาท ฉันอยากให้มันเรียนสูง ๆ พาตัวเองออกจากจุดที่เป็นอยู่แล้วพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น แต่เหมือนว่าฉันกำลังคิดผิด ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันทำให้ไม่เห็นเป็นเหมือนที่ฉันคิดไว้เลยสักนิด มันมีแต่ทำให้อะไร ๆ แย่ลงไม่เว้นแม้แต่ชีวิตฉันที่กำลังทำเพื่อใครสักคนแต่กลับไม่มีใครเห็นคุณค่าเลย

"น้องก็น้องแก จะงกกับมันไปทำไม?" แม่เลี้ยงออกปากพูดอีกคน นิสัยที่ไม่ต่างกันเลยสักนิด พูดไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาฉันจึงเลือกที่จะเดินออกไปโดยไม่พูดอะไรเลย

เหตุการณ์แบบนี้มันไม่ใช่ครั้งแรกของฉัน บ้านหลังนี้ไม่มีอะไรที่เป็นเซฟโซนสำหรับฉันหลังจากวันที่พ่อของฉันตายไปเมื่อห้าปีก่อน ฉันเลือกที่จะกลับบ้านดึก ออกจากบ้านแต่เช้าเพราะไม่อยากเจอความสัมพันธ์เชิงลบที่ทำให้ฉันไม่อยากกลับบ้านนี้อีกต่อไป

@Bar & Beer

"รีบเปลี่ยนเสื้อเลยแก้วตา วันนี้พี่เบียร์เข้าร้านเดี๋ยวก็โดนดุหรอก" กว่าจะมาถึงร้านเหล้าที่ทำงานในตอนเย็นก็เล่นเอาเกือบสาย ที่นี่เป็นร้านเหล้าของพี่ชายเพื่อนสนิทที่เป็นคนฝากฉันเข้าทำงาน พี่เบียร์เจ้าของร้านอายุสามสิบที่ยังคงความหล่อตลอดกาลผู้ซึ่งใจดีกับฉันมาตลอด แต่คนที่นี่จะไม่มีใครรู้หรอกเพราะฉันไม่อยากให้ใครเขาพูดได้ว่าฉันเป็นเด็กเส้นของใคร

"อืม ๆ ขอบใจ" ฉันรีบเข้าไปหลังร้านเพื่อเปลี่ยนเป็นยูนิฟอร์มของเด็กเสิร์ฟ เสื้อกั๊กสีดำทับเสื้อเชิ้ตสีขาวกระโปรงทรงเอยาวเลยหัวเข่ายูนิฟอร์มที่เป็นกฏของทางร้าน เพราะเหตุผลนี้ด้วยที่ฉันเลือกจะทำอย่างไม่ลังเล ความปลอดภัยของพนักงานสำคัญมากฉะนั้นใครที่ปล่อยให้ตัวเองถูกแขกลวนลามแล้วไม่แจ้งถือว่าเป็นความผิดที่ร้ายแรง

ฉันถึงเก็บความซิงความโสดของตัวเองมาได้ถึงทุกวันนี้ ไม่ใช่เพราะฉันหัวโบราณที่คิดจะเก็บซิงไว้ใช้ตอนแต่งงาน แต่เพราะทุกวันนี้ทำงานจนไม่มีเวลามองใครชีวิตยัยแก้วตาถึงมีแต่ความโดดเดี่ยวไม่มีแฟนกับเขาสักที

"แก้วตา…พี่เบียร์เรียกไปห้องทำงาน" ไม่ทันจะได้เข้าไปในร้านอยู่ ๆ เสียงผู้จัดการก็เดินมาบอก ฉันพยักหน้ารับด้วยความเข้าใจ ก่อนที่จะเลิกสนใจสายตาของพนักงานคนอื่น ๆ ที่กำลังมองฉันด้วยความสงสัยและความอิจฉาเดินขึ้นไปหาพี่เบียร์ที่ชั้นสองห้องทำงานของเขาทันที

ฉันชินกับสายตาพวกนี้แล้วแหละ มีไม่กี่คนหรอกที่หวังดีกับฉันจริง ๆ ทุกคนต่างอิจฉาที่ฉันมักเป็นคนโปรดที่พี่เบียร์เลือกให้มาจัดการแขกวีไอพีชั้นสอง ถึงจะเลี่ยงสถานการณ์แบบนี้อยู่บ่อย ๆ เพราะไม่อยากมีปัญหากับใคร แต่ยังไงเขาก็เป็นเจ้านาย จะให้ทำตัวมีปัญหาปฏิเสธงานที่เขาสั่งฉันคงถูกไล่ออกพอดี

ก็อกๆ

"เข้ามา" ทันทีที่ได้ยินเสียงอนุญาตจากคนข้างในฉันก็รีบเปิดประตูเข้าไป และก็เป็นเหมือนที่คาดคิดไว้คือคนที่เรียกฉันมากำลังนั่งยิ้มอยู่บนโซฟา เขาไม่ใช่พี่เบียร์หรอก…แต่เป็นยัยเบบี้เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวสมัยมัธยมน้องสาวของเจ้าของร้านที่ใช้หน้าที่การงานของฉันเรียกมาเจอตัว

"ฉันทำงานอยู่ยัยเบบี้" ฉันรีบเอ่ย

"ฉันรู้หนา เรียกมาเพราะคิดถึงเพื่อนไง อีกอย่างพี่เบียร์ก็มีงานให้แกทำด้วย ใช่ไหมคะพี่เบียร์?" ยัยเบบี้คือผู้หญิงตัวเล็กๆ ตาโตน่าทะนุถนอม เธอเป็นคนน่ารักอ่อนโยนซึ่งแตกต่างจากนิสัยของฉันแทบทุกอย่าง แต่เพราะความจริงใจของเราที่มีเหมือนกันทำให้เราสามารถคบกันมาได้ถึงทุกวันนี้ ฉันมักจะได้รับความช่วยเหลือจากเธอเสมอแม้จะปฏิเสธอยู่บ่อยครั้ง และครั้งไหนที่ปฏิเสธฉันก็จะโดนเธอโกรธจนทำอะไรไม่ได้สุดท้ายก็ต้องยอมแต่โดยดี

"อืม…วันนี้แก้วตาอยู่เสิร์ฟเหล้าชั้นสองแล้วกัน" พี่เบียร์เอ่ย

"วันนี้พวกเพื่อนพี่เบียร์มา แกอยู่ประจำห้องนั้นนะ"

"…" ฉันเงียบ

"นะๆ ฉันก็อยู่ด้วย แกมาเสิร์ฟห้องนั้นน้า~" เบบี้มองฉันด้วยสาตาออดอ้อน มาถึงขนาดนี้ฉันก็คงจะปฏิเสธอะไรไม่ได้
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บ่วงบำเรอรัก   บทที่ 115

    "ฉันเป็นคนทำทำไมฉันจะไม่รู้""ชิ จงใจชัด ๆ เลย""เมื่อกี้ฉันห้ามแล้ว เธอจะกินเอง" ก็จริงเมื่อครู่เขาส่งสายตาให้ฉันตลอด ทว่าฉันเป็นคนรั้นจะกินเอง"เพื่อความสุขของลูกกับพี่ แม้เค็มฉันก็ยอม""เจ้าเล่ห์จริง ๆ" มือหนาขยี้หัวฉันด้วยความมันเขี้ยว แน่นอนว่าท่าทางฉันเมื่อกี้คือการออดอ้อนใส่เขาต่างหาก แต่ก็มี

  • บ่วงบำเรอรัก   บทที่ 114

    "ผมคิดว่าเมื่อกี้เราทำเค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม""อันนี้มันเค้กช็อกโกแลตหน้าไหม้หนิครับ" ฉันถึงทำกับหลุดขำพรืดในตอนที่ลูกชายสองคนที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จกำลังจดจ้องเค้กก้อนแรกของพวกเขาสีหน้าขมวด ก่อนที่จะปรายตาไปมองคนเป็นพ่อพร้อมกัน พี่สงครามจึงกระแอมคอนิดหน่อยราวกับกำลังคิดคำตอบ"พ่อว่า…เตาอบที่บ้านน่าจะม

  • บ่วงบำเรอรัก   บทที่ 113

    ห้าปีผ่านไป"นี่มันอะไรกันเนี่ย!" ฉันได้แต่อ้าปากค้างแล้วเหลือบมองคนสามคนที่กำลังทำอะไรบางอย่าง ไล่มองสามร่างต่างขนาดทีละคนก่อนที่จะหยุดที่คนสุดท้ายที่ฉันคิดว่าเป็นตัวต้นเรื่อง"…" ไม่มีเสียงตอบรับจากใครสักคนที่อยู่ในครัว ตอนนี้ฉันกำลังเล็งผู้ชายสามคนที่กำลังพังห้องครัวของฉัน ไล่เรียงตั้งแต่หกขวบคาม

  • บ่วงบำเรอรัก   บทที่ 112

    ท่อนเอ็นปูดนูนกำลังถูกฉันค่อย ๆ นั่งทับลงรูสวาท ความใหญ่โตเต็มที่กำลังทำให้กลีบดอกไม้ที่ฉ่ำเยิ้มแหวกออกจากกัน สุดท้ายมันก็เข้ามาในร่างกายของฉันสำเร็จ เอ็นร้อนแท่งใหญ่ทำให้ฉันต้องงอตัวไปข้างหน้า สอดประสานมือหนาของพี่สงครามแน่นเพื่อเป็นที่ยึดไม่ให้ฉันตกลงไปคอหักจากโต๊ะทำงานตัวสูง"ซี๊ดดด~" ร่างสูงคราง

  • บ่วงบำเรอรัก   บทที่ 111

    "เป็นยังไงบ้างเหนื่อยไหม?" ร่างสูงเอ่ยถามในขณะที่ฉันเพิ่งกลับเข้ามา วันนี้ฉันเบบี้และแม่บ้านอีกสองคนพากันออกไปตามหาเนื้อผ้าหายากเพื่อมาตัดชุดคนสำคัญ ทั้งบ้านจึงเหลือแค่พี่สงครามคนเดียวที่เลี้ยงลูกเพราะป้าปิ่นลางาน แต่สิ่งที่เขาถามฉันว่าฉันควรเป็นคนถามเขามากกว่า เพราะใบหน้าคมดูเหนื่อยล้าต่างจากก่อนหน

  • บ่วงบำเรอรัก   บทที่ 110

    ใช่…มันมาจากผมกับไอกวินที่ถอนหายใจออกมาพร้อมเพรียง เหมือนเพิ่งผ่านการสู้รบกับกองทัพข้าศึก ผมกับมันจึงมองหน้ากันอย่างโล่งใจ"งั้นผมไปนะครับนาย" กวินเอ่ย"มึงหยุด อยู่ในบ้านนี่แหละ ช่วยกูดูลูก""แต่นาย…" กวินมันเรียกผมเสียงเบาลง"มึงกล้าขัดคำสั่งกูเหรอวะ""อยู่ก็อยู่ครับนาย" คามิลที่เริ่มได้กินนมก็เริ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status