15 นาทีต่อมา...
บนเวที...
“ขอขอบพระคุณอาจารย์ก้องภพ หัวหน้าภาควิชาสาขาวิศวกรรมเครื่องกลเป็นอย่างสูง ที่ให้เกียรติมาเปิดงานสานสัมพันธ์น้องพี่คณะวิศวะ นะครับ”
MC หญิง...
“และต่อจากนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราจะเข้าสู่กิจกรรมพี่รหัสน้องรหัสของเราเลยนะคะ”
“นั่นไง ฉันว่าแล้ว รุ่นพี่จะต้องเอากิจกรรมบ้านี่ขึ้นมาอีก”
เกวลินกระซิบข้างหู เธอไม่อยากเจอพี่รหัสขี้เก๊กของตัวเองเลย คนบ้าหลงตัวเอง ‘น้องข้าวตู คงจะตกใจที่พี่รหัสของน้องข้าวตู ทำไมถึงหล่อหน้าตาดีขนาดนี้ใช่มั้ย ^<>^’ คำพูดบ้าๆ ของพี่รหัสนี้ ยังคงอยู่ในหัวของเกวลินไม่ไปไหน คนดีที่ไหน เขาจะชมตัวเองบ้าง TvT
“อือ...นั่นสิ ทำไมต้องดึงพี่รหัสกับน้องรหัสมาทำกิจกรรมร่วมกันด้วยก็ไม่รู้ ฉันเครียดอีกแล้วข้าวตู”
ตอนแรกความกังวลของอลินดาแทบจะกลายเป็นศูนย์ไปแล้ว แต่ดูตอนนี้สิ มันกลับตีขึ้นมาจะถึงร้อยแล้ว อลินดาไม่ได้ตั้งใจ ที่จะอยากเข้าใกล้พี่วินท์หรอกนะ แต่สถานการณ์มันพาเธอไป พี่วินท์จะเข้าใจเรื่องนี้มั้ย จะคิดว่าอลินดาอยากที่จะเข้าใกล้เขาหรือเปล่า...
“กิจกรรมของเราก็คือ การเต้นรำ เราจะให้รุ่นพี่ เดินเข้าไปหาน้องรหัสของตัวเองค่ะ แล้วเชิญรุ่นน้องเต้นรำ หนึ่งบทเพลง สำหรับแนวนี้อาจจะโบราณไปสักนิดนะคะ จะมีรุ่นพี่ทำเป็นตัวอย่างค่ะ”
“งั้น! ตอนนี้รุ่นพี่ทุกคน เริ่มมองหาน้องรหัสตัวเองได้แล้วนะครับ ใครที่หาน้องรหัสตัวเองไม่เจอ ตามเวลาที่กำหนด จะถูกลงโทษทั้งพี่รหัสและน้องรหัสเลยนะครับ เพราะฉะนั้น! น้องรหัสเตรียมสอดสายตามองพี่รหัสของตัวเองเลยนะครับ เราจะเริ่มจับเวลา 60 วินาทีนะครับ”
“พร้อมมั้ยคะ!”
ด้านหนึ่ง...
“เฮ้ย! ทำไมรุ่นพี่เอาเกมแบบนี้มาเล่นวะ!”
เตชินทร์โวยวายขึ้นมาทันที เขาไม่ได้เตรียมตัวมาเพื่อกิจกรรมนี้เลย น้องรหัสเขา ‘ยัยสาวห้าว’ นั่นจะมาหรือเปล่าเนี่ย สายตาคมเริ่มที่จะสอดส่องไปทั่วบริเวณงาน
“นั่นสิ กูยังมองหาน้องรหัสกูไม่เจอเลย มาหรือเปล่าก็ไม่รู้”
ณภัทรก็เริ่มที่จะกระวนกระวายใจ เขาเองก็ไม่ได้เตรียม เรื่องแบบนี้ไว้ก่อนเลย น้องรหัสเขาเป็นผู้ชาย วันนี้แต่งตัวแบบไหน ยังไง เขายังไม่รู้เลย ให้ตายสิ!
“ก่อนที่มึงจะตื่นเต้นโวยวาย มึงดูไอ้วินท์ก่อนเถอะ”
พิรัชย์มองสภาพเพื่อนที่เมามายแล้ว รู้ผลทันที สุดท้ายก็ต้องกลายเป็นจุดสนใจอยู่ดี ‘ไอ้วินท์เอ้ย...ต่อให้มึงหลบขนาดไหน...โลกก็ยังเหวี่ยงเรื่องที่มึงหลบมาจนได้’
“ไอ้วินท์! นี่มึงสนใจกิจกรรมพี่เขาหน่อยดิวะ”
เตชินทร์เขย่าแขนเพื่อน ‘อาการมึงหนัก กว่าที่กูคิดไว้มากไอ้วินท์’
“กูไม่ทำ! แล้วแต่พวกมึงเลย!”
กวินท์ตอบกลับเพื่อน เขาไม่ชอบทำอะไรที่มันวุ่นวายแบบนี้เลย ‘น้องรหัสงั้นเหรอ? เขาไม่สนใจหรอก!’
“แต่! น้องรหัสมึง! น้องน้ำตาล จะต้องตามหามึงนะวินท์ และถ้ามึงไม่ให้ความร่วมมือล่ะก็ มึงกับน้องน้ำตาลก็จะโดนทำโทษ มันจะทำให้เรื่องยุ่งยากไปอีกนะโว้ย มึงไม่อยากเจอน้องเขา แต่กูว่ากิจกรรมทำโทษต้องหนักกว่าแน่นอน เชื่อกูดิ ลุกขึ้น! ไอ้วินท์!”
“มึงเชื่อไอ้ชินทร์เถอะวินท์ เรื่องง่ายๆ มันจะกลายเป็นเรื่องยากนะโว้ย ลุกขึ้น เดินไปหาน้องเขาเถอะ แล้วนี่ใครเห็นไอ้กันต์บ้าง มันมาหรือยังเนี่ย แต่ละคน กูละปวดหัวเลย”
พิรัชย์บ่นความวุ่นวายในกลุ่มแก๊ง 5 คนของเขา ไม่คนนั้น ก็ต้องเป็นคนนี้ เฮ้อ เมื่อไหร่จะโตเป็นผู้ใหญ่กันก็ไม่รู้
อีกด้านหนึ่ง...
โต๊ะที่ 4 ข้างเวที...
“ฉันจะต้องเดินไปหาพี่วินท์มั้ยข้าวตู”
ความกังวลของอลินดามันเหมือนกับว่าเธอโดนกดดันจากทุกทิศทาง ความรู้สึกไม่สบายใจทําให้หายใจไม่เต็มปอด ทั้งที่อลินดา มองเห็นเขาอยู่ไม่ไกล แต่ทำไมเธอถึงได้รู้สึกตื่นกลัวแบบนี้นะ มือบางเย็นเฉียบ เล็บของเธอจิกเข้ากับฝ่ามือ เพื่อกระตุ้นให้ตัวเองรู้สึกตื่นตัวตลอดเวลา
“ดูแล้ว ก็น่าจะไปนะ เดี๋ยวเดินไปกับฉันก็ได้ เพราะพี่รหัสของฉัน ก็อยู่กลุ่มเดียวกันกับพี่วินท์ของเธอ”
สายตาของเกวลินกำลังจับจ้องไปที่พี่รหัสของเธอ ‘ความเป็นจริง นายรุ่นพี่ก็ดูหล่อเหมือนกันนะ แต่น่าเสียดาย...สติไม่ดี!’
“พี่รหัสเธอ คือคนไหนเหรอ?”
“ก็ยืนเก๊กอยู่นั่นไง คิดว่าตัวเองหล่อตายล่ะ”
“อ่อ...พี่คนนี้เจ้าชู้มากนี่ เห็นกลุ่มสาวๆ เขาพูดกันอยู่ เธอจะโดนพวกแฟนพี่เขาดักตบหรือเปล่าข้าวตู”
“เฮอะ! เคยกลัวที่ไหน และอีกอย่างนะ ถ้าไม่มีกิจกรรมบ้าๆ นี่ล่ะก็ ฉันไม่มีทางที่ไปเกี่ยวข้องกับนายพี่รหัสนี่แน่นอน คนอะไร หลงตัวเอง! คิดว่าโลกหมุนรอบตัวเองงั้นสิ!”
เสียงของ MC ดังขึ้น...
“และ...เรา! จะเริ่มนับแล้วนะครับ พร้อมหรือเปล่าทุกคน จะเริ่มแล้วนะครับ...5 4 3 2 1 เริ่มครับ!!”
“กรี๊ด! / จะทันมั้ยเนี่ย / แล้วพี่รหัสฉันอยู่ไหน / เฮ้ย! น้องรหัสของผม! /พี่รหัสทางนี้ %$!&%#*$#!”
“ไปเถอะน้ำตาล ไปหาพี่เขา ง่ายกว่า จะได้จบๆ”
เกวลินจูงมือเพื่อนฝ่าวงล้อมความชุลมุนวุ่นวายของกลุ่มนิสิตรุ่นน้องรุ่นพี่ ที่วิ่งวุ่นตามหากันในกิจกรรมสานสัมพันธ์ครั้งนี้
“แต่ว่า...”
อลินดาเครียดหนักเข้าไปอีก เธอรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออกเพราะความกังวล หัวใจเต้นรัวเหมือนกลองศึก เหงื่อซึมไปทั่วฝ่ามือด้วยความประหม่า ตื่นกลัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ในไม่กี่นาทีข้างหน้า เธอจะต้องเจอกับพี่วินท์ อลินดาจะต้องทำตัวอย่างไรดี? และพี่วินท์จะตะคอกใส่เธอหรือเปล่า? พี่วินท์จะด่าเธอมั้ย? ทุกอย่างดูสับสนวุ่นวายไปหมด
“น่า...ฉันอยู่ทั้งคน พี่วินท์ทำอะไรเธอไม่ได้หรอก ลองทำสิ ฉันจะด่าให้กระเจิงไปเลย มาสิ!”
อีกฝ่าย...
“มึงสองคนไม่ต้องเดินให้เมื่อย น้องเขามาโน่นแล้ว”
“คนมันหน้าตาดี ก็ประมาณนี้แหละ ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องพยายามนะ”
เตชินทร์หันไปคุยอวดเพื่อน
“เฮอะ! ไอ้ชินทร์ มึงนี่ มันหลงตัวเอง จนเกินเยียวยาจริงๆ”
“อิจฉากูล่ะสิไอ้ภัทร มึงไปหาน้องรหัสมึงให้เจอเถอะ โชคดีโว้ยเพื่อน ไม่หล่อ ก็ต้องเหนื่อยหน่อยนะ”
“เชอะ! เดี๋ยวเจอดีแน่มึง!”ณภัทรชี้หน้าคาดโทษ
ร่างอวบอิ่มของสองสาวกำลังมุ่งหน้ามายังโต๊ะ ที่รุ่นพี่ทั้งสองที่กำลังยืนสนทนากันอยู่
“พี่รหัส!”
เกวลินเอ่ยทักรุ่นพี่ขี้เก๊กของเธอก่อน ขืนให้คนขี้อวดแบบเขาทักก่อนล่ะก็ คงไม่จบแน่งานนี้
“ใครครับ คุณหมายถึงผมหรือเปล่าครับ”
เตชินทร์ถามกลับ เขาไม่แน่ใจ ว่าสาวสวยที่เดินมาทักเขานี้ ใช่คนเดียวกันกับน้องรหัสเขาหรือเปล่า
“ก็พี่นั่นแหละ จะใครล่ะ!”
เกวลินรู้สึกหมั่นไส้ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอแบบสุดๆ
“อ่อ...แล้วนี่น้องน้ำตาล มาหาไอ้วินท์เพื่อนพี่หรือเปล่า... ไอ้วินท์ ตื่นเร็ว! น้องน้ำตาลเขามาหามึงเนี่ย”
เตชินทร์หันไปตบไหล่ของเพื่อน ที่กำลังนั่งฟุบหน้าลงกับโต๊ะ
“เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะพี่ คือเดี๋ยวน้ำตาล เรียกพี่เขาเองค่ะ”
อลินดารวบรวมความกล้า เธอต้องรีบทำกิจกรรมนี้ให้มันเสร็จๆ ไป อย่างน้อย มันก็ช่วยขจัดความกังวลของเธอ ออกไปได้บ้าง พี่วินท์จะต่อว่าเธอก็แล้วแต่พี่วินท์เถอะ อลินดาไม่มีทางเลือกแล้ว...
@ คฤหาสน์เตชะวรากูล...@ ห้องรับแขก... “วันนี้เป็นวันพิเศษอะไรคะพี่วินท์ ทำไมต้องมานั่งรวมตัวกันพร้อมหน้าแบบนี้ล่ะคะ...แต่ว่า...เอ๊ะ ยังขาดน้ำตาลนะคะ เดี๋ยวเวนิสตามเองค่ะ” “ไม่ต้องตามหรอกลูก พี่เรานัดกันมาแค่นี้น่ะถูกแล้ว”คุณหญิงเจนเนตรพอรู้เรื่องมาบ้างแล้ว วันนี้ ลูกชายคนกลางของเธอ นัดครอบครัวเพื่อจะบอกเรื่องราวบางอย่าง ลูกชายของเธอไม่เคยมีสีหน้าจริงจังขนาดนี้มาก่อน และผู้ที่ถูกนัด ก็ไม่มีบุตรสาวบุญธรรมของเธอด้วย คงไม่มีเรื่องอะไร นอกจากเรื่องของเขาทั้งสองคน แน่นอน “มีอะไรก็พูดมาเถอะลูก ป๊าก็อยากจะรู้แล้วเหมือนกัน ลูกชายป๊ามีปัญหาอะไร ไหนลองบอกป๊ามาซิ”ทักษ์ดนัยไม่เคยเห็นบุตรชายเขาคนนี้จะมีท่าทีจริงจังขนาดนี้มาก่อน เรื่องราวคงต้องใหญ่พอสมควร ไม่อย่างนั้น คงไม่นัดทุกคนมาเพื่อจะพูดกันภายในครอบครัวแน่นอน “ครับป๊า...”กวินท์มองทุกคนอย่างชั่งใจ เอาเข้าจริงๆ เขาก็รู้สึกประหม่าอยู่เหมือนกัน ปกติเวลาครอบครัวรวมตัวกัน ก็จะเป็นการทานมื้อเย็นด้วยกันเท่านั้น วันนี้ เขานัดทุกคนมา เพื่อจะบอกความจริง เรื่องของเขากับอลินดา “นายคงไม่ไปทำผู้หญิงท้องห
@ บนเตียงใหญ่ขนาดคิงไซส์... หลังจากพายุรักผ่านพ้นไป อ้อมแขนอันแข็งแกร่งล้อมรอบเรือนร่างอวบอิ่มเอาไว้ ฝ่ามือหนาค่อย ๆ ลูบไปตามแผ่นหลังเนียนนุ่มของเธอ สัมผัสนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายซ่อนอยู่... “พี่รักเธอนะ...” เสียงทุ้มกระซิบข้างหู “พี่วินท์รักน้ำตาล...ตอนไหนคะ?”อลินดาถามกลับ พร้อมรีบซุกหน้าของเธอเข้าไปในอกกว้าง ใบหน้าเนียนร้อนผ่าว ‘ปากของเธอปฏิเสธ...แต่ร่างกายของเธอกลับตอบสนองอย่างเต็มใจ ยัยบ้าน้ำตาลเอ้ย...สุดท้ายเธอก็หนีพี่วินท์ไม่พ้นอยู่ดี’ “ตอนพี่เจอเราครั้งแรก...” “หืม...อย่าบอกนะ ว่าตอนน้ำตาลแปดขวบ!” “อืม...แต่ตอนนั้น พี่ก็อายุ 11 แล้วนะ” “เป็นไปไม่ได้ค่ะ...” “มันเป็นไปแล้ว...พี่รักเธอตอนนั้นจริงๆ” “แล้วทำไม...พอน้ำตาลเข้ามหาลัย...พี่วินท์ถึงไม่ชอบน้ำตาลคะ...พี่วินท์ด่าน้ำตาล เกลียดน้ำตาล และไม่อยากให้น้ำตาลเข้าใกล้พี่วินท์อีก” “ตอนนั้น...พี่ยอมรับ ว่าพี่สับสน เราอายุ 18 พี่ก็ 21 เราทั้งคู่ยังเป็นเด็ก พี่คิดว่า เราสองคนไม่ควรรักกัน เพราะเราเป็นพี่น้องกัน” “แต่เ
“อุ๊บ!!” ปากบางถูกปิดอย่างรวดเร็ว เสียงร้องของหญิงสาวขาดหายไปด้วยริมฝีปากหนาบดจูบอย่างหนักหน่วง ปลายลิ้นสากกำลังชอนไชดูดดุน เกี่ยวพันลิ้นเล็ก จูบของเขาหนักแน่นและเร่าร้อน ราวกับเปลวไฟที่เผาผลาญทุกความรู้สึกให้ลุกโชน มือใหญ่จับล็อคศีรษะเล็กของเธอเอาไว้ เพื่อบังคับให้รับจุมพิตจากเขาได้อย่างถนัด “พี่...ต้องการเธอ...”เสียงแหบพร่าพึมพำกับเรียวปากเล็ก มือของเขาลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของเธอ ภายใต้ชุดนอนเนื้อดีบางเบา จูบของเขาทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้น “มะ-ไม่นะ!” เสียงของหญิงสาวดังอู้อี้ออกมาเพื่อประท้วงคนตัวใหญ่ เรือนร่างของเธอกำลังโดนฟ่อนเฟ้นอย่างหนัก ปากบางถูกบดขยี้อย่างหนักหน่วง สมองของอลินดาขาวโพลน เรี่ยวแรงต่อต้านลดลง มือบางที่พยายามดันอกกว้างเอาไว้นั้น กลับหมดแรงผลักไปโดยปริยาย... “พี่...ขอนะ...” กวินท์อ้อนวอนกับปากนุ่ม ความกระสันแล่นผ่านไปทั่วเรือนกายของเขา อารมณ์ความต้องการของบุรุษเพศสูงขึ้น มือใหญ่ลูบไล้ลงเบื้องล่าง“อื้อ” เสียงครางของหญิงสาวหลุดออกมา ความรู้สึกแปลกใหม่แผ่ซ่านไปทั่วร่างของเธอ มือบางที่ตอนแรกต่อต้าน กลับคว้
เวลา 23.00 น. @ คฤหาสน์เตชะวรากูล บรรยากาศยามค่ำคืนเงียบสงบ อลินดากำลังเดินขึ้นบันได เพื่อที่จะเข้าห้องนอนของตัวเอง หลังจากที่อลินดาได้เล่าเรื่องเธอกับพี่วินท์ให้เกวลินฟังเสร็จแล้ว อลินดาก็ลงมาข้างล่าง เพื่อหาน้ำดื่ม สายตาของเธอ เหลือบมองไปที่ห้องของเขา ซึ่งอยู่ถัดออกไปจากห้องของเธอ ‘พี่วินท์...ออกไปไหนนะ?’ อลินดาเดินมาจนถึงหน้าประตูของเธอ และด้วยความอยากรู้ เธอเลยเดินไปหยุดยืนอยู่ที่ห้องของเขา พร้อมกับแนบหูไปกับบานประตูใหญ่ เพื่อฟังเสียงจากด้านใน “หรือพี่วินท์ จะออกไปเมานะ”อลินดาพึมพำกับตัวเอง พร้อมกับเดินกลับไปที่ห้องของเธอ วันนี้ สิ่งที่เขากับเธอทะเลาะกัน พออลินดากลับไปคิด บวกกับ สิ่งที่เกวลินพูด มันทำให้อลินดาเข้าใจพี่วินท์มากขึ้น แต่ ไม่ว่าจะยังไง อลินดาก็ปฏิเสธเรื่องนี้อยู่ดี เธอจะทำให้ทุกคนผิดหวังในตัวเธอไม่ได้เด็ดขาด ยิ่งทุกคนดีกับเธอมากแค่ไหน อลินดาก็ยิ่งรู้สึกผิดขึ้นไปอีกเท่าตัว มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว... แกร๊ก! ประตูห้องนอนถูกเปิด ร่างอวบอิ่มเดินเข้าไปด้านใน เธอกำลังคิดถึงเรื่องราวระหว่างเธอกับเขา ‘ตอนที่พี่วินท์โกรธ เขาขู
@ แผนกฝ่ายขาย... เวลา 11.30 น. “ร่างแบบโครงสร้างเป็นรูปสามมิติ พร้อมกับใส่คำอธิบายลงไป เพื่อลูกค้าจะได้เห็นภาพที่ชัดเจน เดี๋ยวพอเสร็จแล้ว เอามาให้พี่ดูหน่อยนะ...น้ำตาล” “ได้ค่ะพี่โมทย์ น้ำตาลขอเวลาสักครึ่งชั่วโมงค่ะ”อลินดากำลังจ้องหน้าจอ มือของเธอกดแป้นคีย์บอร์ด เมื่อรุ่นพี่กำลังบรีฟ (brief) งานเธออยู่ วันนี้ เป็นครั้งแรกที่อลินดาได้ทำงานอย่างเต็มตัว ในฐานะเด็กฝึกงานของบริษัท... แต่ทว่า...ก็มีเสียงหนึ่งดังแทรกเข้ามา... “น้ำตาล! คุณกวินท์ให้เราไปพบที่ห้องนะ”ภาคินตะโกนบอกเด็กฝึกงานในสังกัดของเขา ดูแล้ว น้องฝึกงานคนนี้ น่าจะหนีไม่พ้นท่านรองประธานบริษัทคนนี้เสียแล้ว “ไปทำไมคะพี่คิน?”อลินดาถามกลับด้วยความงุนงง เธอก็ปฏิเสธและพูดกับเขาไปชัดเจนแล้วนะ ว่าอลินดาจะขอฝึกงานแผนกฝ่ายขาย ทำไมเขาจะต้องทำตัววุ่นวายขนาดนี้ “เห็นเลขาคุณกวินท์บอกพี่ว่า คุณกวินท์จะออกไปสำรวจการวางระบบเครื่องจักรอุตสาหกรรมในโรงงานแถวสมุทรปราการ พี่ก็ไม่รู้รายละเอียดมาก...แต่เอ๊ะ! ทำไม ไม่เอาทีมช่างไปล่ะ” “นั่นน่ะสิคะ...งั้น...น้ำตาลรบกวนพี่ค
“อุบัติเหตุงั้นเหรอ? สรุป! เรื่องที่ผ่านมา เธอคิดว่ามันคืออุบัติเหตุไม่ตั้งใจงั้นสิ!”กวินท์ลุกพรวดขึ้นทันที เพราะความโกรธ ที่เขาโดนปฏิเสธอย่างไม่ใยดีจากคนตรงหน้า “แล้วพี่วินท์ คิดว่ามันเป็นอะไรล่ะคะ!”อลินดากระชากเสียงออกมาเช่นกัน พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่ลดละ ‘เขาโมโหได้คนเดียวหรือไง’ “เป็น...ผัวเมียไง! พี่น้องจริงๆ เขาเอากันได้เหรอ!”กวินท์ตะคอกกลับด้วยอารมณ์เดือดอีกครั้ง เมื่อสองปีก่อน เขาอาจจะทำผิดต่อเธอ แต่เขาไม่เคยปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเธอเลยสักครั้ง เพียงแต่ ในตอนนั้น เธอกับเขายังเป็นเด็กกันทั้งคู่ กวินท์ในวัยนั้น ก็คิดว่า การเป็นพี่น้องกัน ไม่ควรที่จะรักกัน แต่นั่นมันก็เป็นเพราะ ความรู้สึกของเขาที่ไม่ได้คิดรอบด้านก็เท่านั้นเอง... “พี่วินท์!!!”อลินดาพรวดลุกขึ้นยืนทันทีเช่นกัน เธอตกตะลึงกับคำพูดของเขา มือบางกำหมัดแน่น พยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้ระเบิดใส่เขา อลินดาไม่คิดเลยว่า เขาจะกล้าเอาเรื่องน่าอายเช่นนี้มาพูดกับเธอได้ หมับ! มือใหญ่คว้าที่แขนของเธอ พร้อมกับดึงร่างอวบอิ่มเข้ามาประชิด โดยที่ยังมีโต๊ะทำงานกั้นอยู่ ทั้งสองจ