ความมืดกำลังปกคลุม เหมือนกับว่าอำนาจมนต์ดำกำลังจะเริ่มก่อตัวขึ้น หญิงสาวในคราบของนางฟ้าใครเห็นเขาบอกว่าเธอสวยและเซ็กซี่กำลังจะกลายเป็นปีศาจ เหมือนดังที่เจสันเคยกล่าวเอาไว้ เมื่อหล่อนกำลังคิดที่จะทำในสิ่งที่เรียกว่าผิดศีลธรรม รวีมองไปที่โทรศัพท์ครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่เธอนั้นจะตัดสินใจส่งข้อความไปหาอาร์มันโด้
"คุณอาร์มันโด้ ช่วยมาดูไฟที่ห้องรวีให้ทีค่ะ ไม่รู้ว่าเสียหรือเปล่า ตอนนี้ที่ห้องมืดสนิทเลย" รวีพิมพ์เสร็จก่อนตัดสินใจกดส่งข้อความนี้ไปหาชายหนุ่ม ซึ่งเป็นน้องเขยในทันที ภายในใจของเธอกำลังเต้นรัว เมื่อรวีกำลังลุ้นว่าอาร์มันโด้จะอ่านหรือไม่ เธอกดปิดเปิดหน้าจอสมาร์ตโฟนอยู่หลายครั้ง แต่เขาก็ยังไม่อ่านข้อความที่เธอนั้นส่งไปสักที
ตอนนี้เวลาเกือบสามทุ่มแล้ว ปกติชายหนุ่มน่าจะยังไม่เข้านอน เธอยอมนั่งอยู่ในห้องมืดๆ นี้เป็นเวลาเกือบชั่วโมง กว่าจะคิดหาวิธีออก แต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะได้ผลหรือเปล่า ไวน์สองแก้วที่วางเอาไว้บนโต๊ะโคมไฟข้างหัวเตียง รวีได้ผสมอะไรบางอย่างลงไปทั้งสองแก้ว และมันจะออกฤทธิ์ในไม่กี่วินาที แน่นอนต่อให้อาร์มันโด้อยากกลับไปหานารีเพียงใด เขาก็จะไม่มีทางควบคุมตัวเองได้ เมื่อมันคือยาชนิดพิเศษ ที่ไวต่อความต้องการทางเพศสูง
"รอสักครู่นะครับคุณรวี นารียังไม่หลับเดี๋ยวผมจะเข้าไปดูให้" เสียงข้อความตอบกลับทำให้รวีนั้นฉีกยิ้มกว้างที่มุมปาก พร้อมกับฉายแววตาเจ้าเล่ห์ออกมาด้วยความหวัง
หล่อนนั่งรออยู่สักพักใหญ่ เสียงคนเคาะประตูดังขึ้น พร้อมกับชายร่างบึกบึนได้เปิดเดินเข้ามาภายในห้อง รวีไม่รอช้าลุกไปหยิบแก้วไวน์ แล้วส่งให้กับชายผู้มาเยือน เงาจากแสงจันทร์เลือนราง แต่ก็ทำให้รวีแน่ใจว่าชายตรงหน้าคืออาร์มันโด้แน่นอน
"รวีต้องขอบคุณล่วงหน้า ที่คุณอุตส่าห์สละเวลาเข้ามาช่วยดูไฟให้ ดื่มเพื่อแทนคำขอบคุณรวีหน่อยนะคะ" รวีพูดพร้อมกับยื่นแก้วไวน์ไปให้ชายตรงหน้า หล่อนพึงพอใจที่เขาไม่ปฏิเสธ แถมยังกระดกมันขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว เมื่อเห็นดังนั้นรวีจึงรีบยกไวน์ในแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวเช่นกัน
มือเรียวค่อยๆ ลูบลงไปที่อกกว้างของชายตรงหน้า รวีไม่รอช้า ผลักชายร่างหนากำยำให้ล้มลงนอนราบกับเตียง ก่อนจะค่อยๆ จัดการแกะกระดุมเสื้อทีละเม็ด ไม่นานชุดนอนของผู้ชายบางๆ ได้หลุดออกจากกายเขาในชั่วพริบตา
"อืม... รวีร้อนจังเลยค่ะ และต้องการคุณ เรามาเป็นของกันและกัน รวีพร้อมแล้ว" หล่อนพูดพร้อมกับขึ้นไปนั่งคร่อมร่างชายร่างบึกบึนเอาไว้
แคว่ก!! เสื้อชุดนอนซีทรูสายเดี่ยวบางๆ ถูกชายด้านล่าง ดึงอย่างแรงจนขาดว่อนคามือ การกระทำของเขายิ่งสร้างความพึงพอใจให้กับรวี นี่คือสิ่งที่เธอนั้นกำลังต้องการ การมีเซ็กกับชายเถื่อนๆ มันเป็นรสนิยมของเธออยู่แล้ว
"ชอบความรุนแรงก็ไม่บอก แต่ตอนนี้มังกรยักษ์ของคุณ มันกำลังพองตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แต่คุณไม่ต้องกลัว รวีจะปราบให้มันสิ้นฤทธิ์เอง" พูดจบหญิงสาวได้โน้มใบหน้าเข้าหาชายหนุ่ม เรียวปากของเธอประกบกดจูบลงไปอย่างเร่าร้อน ในขณะที่มือเรียวทั้งสองได้ประคองใบหน้าของชายหนุ่มเอาไว้ เพื่อไม่ให้เขาโฟกัสหันไปทางอื่น
"อืม" เสียงครางจากลำคอของทั้งคู่ดังออกมาพร้อมกัน บ่งบอกให้รู้ว่าฤทธิ์ของยากำลังจะส่งผล ให้พวกเขาสองคนได้ขึ้นไปชมวิมานฉิมพลี
ริมฝีปากของรวีได้เปลี่ยนจุดมุ่งหมายลงมาที่แผ่นอกกำยำ เธอพรมจูบพร้อมกับใช้ฟันครูดไปมา ก่อนจะค่อยๆ ใช้ปลายลิ้นเลียไล้ลงต่ำไปหยุดที่เป้ากางเกงที่มันตุงแข็งขึงราวกับท่อนไม้ รวีไม่รอช้าเธอใช้มือจัดการกับชุดนอนเอวยืดออก ความสลัวจากแสงจันทร์ทำให้มองเห็นมังกรยักษ์หัวแดงบ้านเบ่ง ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า รวีไม่รอช้า เธอจับมันยัดเข้าปากในทันที
"โอ้ววว! " เสียงทุ้มครางออกมาด้วยความเสียว เมื่อรวีนั่งคุกเข่าเปลือยเปล่าล่อนจ้อน เธอใช้มือจับลงไปที่โคนของมันก่อนจะค่อยๆ ใช้ปลายลิ้นเล็มเลียไปมา ไม่นานเธอเปลี่ยนมาเป็นอมแล้วดูดอย่างเมามัน ช่วงเวลานี้ชายหนุ่มแทบจะคลั่ง เพราะการใช้ปากของเธอช่างช่ำชอง
"โอ้มายก๊อด! ดีจังเลย" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับจัดการพลิกร่างอรชรให้นอนราบลงกับเตียง ก่อนที่เขาจะขึ้นไปคร่อมร่างเพรียวของเธอไว้แทน
"อูยยย รีบดันมังกรยักษ์ของคุณเข้ามาเลยได้ไหมคะ คุณอาร์มันโด้" เสียงหวานออดอ้อนพูดจากระเส่าออกมา เมื่อเธอนั้นต้องกายแก่นกายจากเขา จนยากที่ควบคุมอารมณ์ที่มีไว้ได้
"ผมจะให้โอกาสคุณเรียกชื่อใหม่ รู้ใช่ไหมว่าผมเป็นใคร อย่าเอ่ยชื่อใครขณะที่คุณกำลังอยู่บนเตียงกับผม!" คำพูดที่เกรี้ยวกราด ทำให้รวีรู้ทันที ชายตรงหน้าคือเจสันไม่ใช่อาร์มันโด้อย่างที่คาดหวังเอาไว้ แต่เวลานี้ความต้องการของเธอที่มี จะเป็นใครก็ได้ ขอแค่ทำให้ความใคร่ที่ก่อตัวขึ้นเป็นทวีคูณ จากฤทธิ์ของยาได้บรรเทาลงไปบ้าง
"เจสัน! ฉันต้องการมัน! คุณช่วยทำให้ฉันที ได้โปรด เร็วเข้าดันมันเข้ามาเลย! อ๊า" รวีนอนหงายพร้อมกับถ่างขาออกอย่างไม่อาย เสียงพูดของหล่อนนั้นเต็มไปด้วยความหอบถี่ เม็ดเหงื่อแตกพลั่กไปทั่วผิวกาย เวลานี้ใบหน้ารูปไข่ได้เปียกชุ่มไปหมด เพราะฤทธิ์ยา
"ผมจะทำให้คุณหายคันเองรวี เวลานี้อย่าว่าแต่คุณเลย ความต้องการภายในกายของผมมันได้พุ่งสูงปรี๊ดเช่นกัน เพราะสาเหตุมาจากไวน์แก้วนั้นผมรู้ดี" เจสันพูดพร้อมกับคืบคลานเข้าหาหญิงสาวตรงหน้า สายตาของเขาจ้องมองไปที่ร่างเพรียว เมื่อเวลานี้เธอหายใจหอบถี่ขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับลำตัวที่บิดเกร็งไปมา ผ้าปูเริ่มยับยู่ยี่เนื่องจากฝีมือของรวีหล่อนพยายามที่จะเก็บอาการเหล่านั้นเอาไว้ แต่มันก็ยากที่จะยับยั้งชั่งใจได้แล้ว
"ถ่างขาออกให้กว้างกว่านี้!" เสียงทุ้มของเจสันที่ออกคำสั่ง ไม่ได้สร้างความขัดใจให้กับหญิงสาวร่างเพรียวเลยสักนิด เธอยินยอมทำตามเขาอย่างว่าง่าย โดยไม่มีทีท่าว่าจะขัดขืนใดๆ เลยด้วยซ้ำ
"รีบหน่อยได้ไหม หรือต้องการให้ฉันขึ้นไปขย่มเองก็ได้ ฉันไม่ไหวแล้วตอนนี้ อืม! อ๊า" รวีไม่พูดเปล่ามือของเธอโอบไปที่ลำคอแกร่งของเจสันในทันที ในขณะที่สะโพกกลมแอ่นเข้าหา มังกรยักษ์ใหญ่อย่างไม่มีท่าทีหวาดกลัวเลยสักนิด
"เย้! คุณพ่อใจดีที่สุดในโลกเลยครับ" เด็กชายร้องออกมาเสียงดังพร้อมกับกำมือชูขึ้นสองข้าง จนนารีแอบฉีกยิ้มที่มุมปาก ที่พ่อกับลูกนั้นเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย "คุณหนูพบรักไปบ้านคุณยาย ย่านวลคงจะเหงาน่าดูเลย รีบไปรีบกลับนะครับคนเก่ง" น้ำเสียงของป้านวลช่างออดอ้อนให้เด็กน้อยนั้นอยากเอาใจ จนนักรบและนารียิ้มไม่หุบให้กับในความน่ารักของย่ากับหลาน "ผมไปบ้านคุณยายไม่กี่วันก็กลับแล้วครับคุณย่านวล เดี๋ยวพบรักจะเอาผลไม้มาฝาก ที่บ้านของคุณตาคุณยายมีผลไม้เยอะแยะเลย "ช่างพูดช่างเจรจาจังเลยนะเราเนี่ย อย่างนี้จะไม่ให้ย่ารักอย่าหลงได้ยังไง" หญิงสูงวัยพูดพร้อมกับเอามือลูบลงที่ศีรษะของพบรักไปมาเบาๆ ก่อนที่เด็กชายจะส่งยิ้มร่าให้ย่านวล พลอยทำให้ทุกคนยิ้มตามออกมา เมื่อพบรักมีความน่ารักสมวัยรถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านกะสิเทพ ก่อนจะมีเด็กชายเปิดประตูวิ่งแจ้นออกมาจากรถ จนทำให้นักรบนั้นรีบเปิดประตูลงมาคว้าตัวลูกชายมาอุ้มเอาไว้
สักพักปลายลิ้นร้อนลากผ่านลงมาที่หน้าท้องของภรรยา เขาได้จุมพิตอย่างทะนุถนอมลงไปเบาๆ เมื่อมีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ภายในนี้ ซึ่งมันคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ที่นักรบตั้งใจไม่คิดป้องกันตั้งแต่แรก เพราะชายหนุ่มนั้นหวังจะได้ทายาท ตามที่ใจเคยปรารถนาเอาไว้ และภรรยาของเขาก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลยแม้เพียงนิด "พ่อรักหนูนะ รักแม่ของหนูด้วย" สิ้นเสียงพูดของชายหนุ่ม เขาได้สัมผัสไปที่มังกรยักษ์ก่อนจะค่อยๆ สอดมันเข้าไปในช่องแคบของภรรยาอย่างเบามือ "อืม แน่ใจนะคะว่าจะไม่มีผลต่อลูกของเรา" แม้ความต้องการของเธอจะมีมาก แต่นารีก็ยังเป็นห่วงลูกมากมายเช่นกัน "ไม่เป็นไรหรอกหนูนา ท่าเบสิกอย่ากลัวไปเลย ผมจะทำเบาๆ นะครับคนดี" นักรบพูดในขณะที่สะโพกของเขาเริ่มทำการขยับโยกเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ แม้ว่ามันจะไม่หนักหน่วงหรือรุนแรง แต่ทว่าความคับแน่นของช่องแคบ เมื่อมังกรยักษ์ผลุบเข้าผลุบออกก็ได้สร้างความเสียวซ่านให้กับสองสามีภรรยาไม่น้อยเลย "อ้า อ๊าคุณนักร
"ลูกของพ่อเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเนี่ย ทำไมแม่ถึงได้ดุจังเลย" การกระทำของสามีหนุ่ม ทำให้นารีนั้นรู้สึกใจเต้นแรง เมื่อตัวเธอเองก็โหยหาเขาเช่นกัน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่คืนกี่วัน ผู้ชายคนนี้ก็มักจะทำให้เธอรู้สึกดีเสมอ โดยที่เขานั้นไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลยด้วยซ้ำ "เงยหน้าขึ้นมาสิ เดี๋ยวไม่ทำแผลให้เปลี่ยนใจไปนอนไม่รู้ด้วยนะ" นารียังคงใช้คำพูดแข็งกระด้าง มีใบหน้าที่เรียบเฉยอีกตามเคย แต่นักรบก็รู้ว่าเธอใจอ่อนลงไปบ้างแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่เดินมาหาเขา เพื่อขอดูแผลแบบนี้หรอก สามีหนุ่มยอมทำตามภรรยาอย่างว่าง่าย ยอมแหงนหน้าขึ้นไปให้เธอทำแผลให้ พร้อมกับจ้องมองไปที่ดวงตากลมโต ที่เวลานี้ความหมองหม่นได้หายไปสิ้น "แผลบวมนูนขึ้นมาแบบนี้ ฉันว่าคุณไปเย็บแผลดีกว่า ไม่อย่างนั้นต้องเป็นแผลเป็นแน่ๆ" คราวนี้นารีพูดออกมาจากใจด้วยความรู้สึกผิด เมื่อแผลมันลึกและกว้างอยู่มาก และที่สำคัญเลือ
วันนี้ทั้งวัน ตั้งแต่เธอเดินไปหาอะไรกิน ในตอนเช้านารีไม่ยอมเดินออกจากห้องอีกเลย เพราะไม่อยากเจอนักรบ หญิงสาวขังตัวเองไว้ในห้องที่ชั้นบนของบ้าน ส่วนข้าวปลาอาหารนั้นมีรินสาวใช้คนสนิทของพี่สาวคอยบริการเธอทุกอย่าง ตอนนี้เวลาล่วงเลยมาเกือบยี่สิบนาฬิกาแล้ว นารีไม่ได้สนใจใครทั้งสิ้น เธออาบน้ำแล้วเตรียมตัวจะเข้านอน ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! "นารีขอแม่เข้าไปหน่อยได้ไหมลูก" เสียงของผู้เป็นมารดาดังแว่วมา หลังจากที่เสียงเคาะประตูเงียบไป ทำให้นาทีนั้นค่อยๆ ลุกจากเตียง เพื่อเดินไปเปิดประตูให้กับมารดา และเธอก็ต้องแปลกใจ เมื่อชายร่างสูงใหญ่รีบเบี่ยงตัวเข้ามาในห้องของเธอทันที พร้อมกับกระเป๋าใบเล็กๆ "แม่... แม่ แม่ค่ะ" นารีร้องเรียกหามารดา แต่จะดูเหมือนว่าเธอนั้นโดนหลอกเข้าให้ซะแล้ว "คุณไม่ต้องเรียกหรอก คุณแม่เดินเข้าห้องไปแล้ว" นักรบพูดพร้อมกับค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด จนทำให้นารีนั้นมองเขาตาเขียว "ออกไปให้พ้นจากห้องฉันเลยนะ คุณแม่นะ
"จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน สายแล้วนะคุณ ลุกไปอาบน้ำจะได้มาทานข้าวพร้อมกัน" เจสันกระซิบลงไปที่ข้างหูของรวี ทำให้หญิงสาวรู้สึกคุ้นกับเสียงทุ้มนี้เป็นอย่างมาก เธอค่อยๆ ปรือตาขึ้น ก่อนจะหลับลงอีกครั้ง เมื่อแสงมันแยงมา และคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป จากนั้นรวีค่อยๆ ปรือตาลืมขึ้นมาอีกครั้ง "ว้าย! เจสัน! คุณเข้ามาอยู่ในห้องของฉันได้ยังไงออกไปเลยนะ" รวีพูดพร้อมกับหยิบหมอนตีลงไปที่ลำตัวของเจสัน ชายหนุ่มรีบเอามือขึ้นมาป้องตัวเอาไว้ พร้อมกับจับหมอนไว้แน่น ก่อนที่ทั้งสองจะยื้อกันไปมา "นี่คุณ! ไปเอาแรงมาจากไหนเนี่ย แรงอย่างกับช้างหยุดก่อนได้ไหม" เจสันพยายามพูดปรามรวีให้หยุดดึงหมอน แต่ดูท่าทีของเธอแล้วไม่น่าจะยอมเขาง่ายๆ "ใครอยู่ข้างนอก ทำไมปล่อยให้คนแปลกหน้าเข้ามาในห้องของฉันแบบนี้ รินอยู่ไหมเข้ามาช่วยหน่อยซิ" รวีตะโกนออกมาเสียงดัง แต่ดูเหมือนว่าคนข้างนอกจะไม่ใส่ใจ เพราะไม่เห็นมีใครตอบกลับมาเลยสักคน"ผมจะบอกอะไรให้นะ คุณไม่ได้ลงกลอน ผมแค่เปิดประตูเดินเข้ามา ตอนแรกพ่อของคุณกำลังจะไปหากุญแจสำรองมาเปิดใ
"ดูสิของเด็กเล่นพวกนั้น เขาสั่งมาเป็นคันรถเชียวนะ เขาไม่รู้หรือไงว่านาเพิ่งท้องได้เดือนกว่า" คำถามของมารดาทำให้นารีเริ่มสงสัย นักรบรู้เรื่องที่เธอตั้งครรภ์ได้ยังไง ในเมื่อเธอไม่เคยบอกให้ใครที่บ้านนั้นทราบ"บอกให้เขาขนกลับไปค่ะพ่อ นาไม่ขอรับอะไรจากเขาทั้งนั้น คนแบบนี้ตบหัวแล้วลูบหลัง อย่าฝันว่าเอาของพวกนี้มาล่อแล้วนาจะใจอ่อน ลูกของนาไม่จำเป็นต้องใช้ของพวกนั้นหรอกค่ะ เสื้อผ้านาตัดเย็บให้ลูกเองก็ได้ ส่วนของเล่นก็ประดิษฐ์ขึ้นเอง ไม่เห็นยากอะไร ไม่ต้องใช้เงินซื้อมาให้ฟุ่มเฟือยด้วยซ้ำ" นารีพูดระบายออกมาซะยาวเหยียด เมื่อเธอนั้นยังรู้สึกโกรธและน้อยใจในตัวของสามี ซึ่งนารียังไม่คิดว่าจะคืนดีกับเขาง่ายๆ เมื่อชายหนุ่มพาภรรยาเก่ามาหยามน้ำใจ จนทำให้เธอต้องนอนร้องไห้สามเวลา "พ่อว่ามีอะไรก็พูดกันดีๆ สามีของลูกเล่าทุกอย่างให้พ่อกับแม่ฟังหมดแล้ว เขาก็ไม่ได้ผิดอะไรมาก นาควรจะหันไปปรับความเข้าใจกันนะ ยังไงลูกก็ต้องมีพ่อ พ่อกับแม่ไม่อยากเห็นหลานเป็นกำพร้า เพราะสาเหตุที่หนูกับสามี ผิดใจกันเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย" นักรบได้เล่าทุกอย่างให้กับบิดาและมารดาของนารีได้รับฟัง ยกเว้นเร