[เกวลิน]
เคยรู้สึกอยากหลับไปแล้วไปไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลยบ้างมั้ย? หรือไม่ก็…อยากหลับไปสักร้อยปี แล้วค่อยตื่นขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ตอนที่ทุกอย่างรอบตัวมันสลายหายไปหมดแล้ว ปริบๆ!! ตอนนี้ฉันกำลังนอนกระพริบตาปริบๆอยู่บนเตียงด้วยความเวิ้งว้างใจสุดๆ ฉันพยายามหลับตาลงไปอีกหลายๆรอบ เพื่อหวังว่าเวลาที่ลืมตาขึ้นมาใหม่แล้ว ทุกอย่างที่เห็นตรงหน้ามันจะเป็นเพียงแค่ความฝัน แต่ไม่ว่าจะหลับแล้วลืมตาขึ้นมาใหม่อีกสักกี่รอบ ทุกอย่างที่เห็นตรงหน้ามันก็ยัง…เหมือนเดิม! เนื้อตัวที่เปลือยเปล่าใต้ผ้าห่มผืนหนาของฉัน ร่องรอยต่างๆที่ทิ้งไว้บนผิวเนียน ความรู้สึกปวดร้าวไปทั่วทั้งร่าง โดยเฉพาะช่วงเอวและส่วนล่างลงไป สภาพเตียงนอนที่ยับยู่ยี่ไม่เหลือชิ้นดี และสิ่งนั้น…คราบเลือดสีแดงเข้มที่ฝังลึกอยู่บนผ้าปูเตียงข้างๆตัว หลักฐานทุกอย่างที่เห็นตรงหน้า ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดี ว่าฉัน…ไม่ได้ฝันไปจริงๆ “เฮ้อออ!! นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย!!?” ไม่ใช่ความฝัน ไม่ใช่เพราะเมา ไม่ใช่การฉวยโอกาส แต่เป็น…สมยอม!! เป็นฉันเองที่สมยอมเขาไปอย่างน่าไม่อาย โอ้ยยยย!! ฉันทำบ้าอะไรลงไปเนี่ยยยย?! มันคงจะดีกว่านี้ถ้าฉันเมาแล้วตื่นขึ้นมาจำอะไรไม่ได้เลย แต่นี่มันไม่ใช่!! ฉัน…จำเหตุการณ์เมื่อคืนได้ทุกอย่าง จำได้ทุกช่วงเวลา ทุกท่วงท่า เอ้ย!! ไม่สิ ไม่ๆๆ มันต้องไม่ใช่เรื่องนี้สิ บ้าจริง! ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ แล้วแบบนี้ฉันจะเอาหน้าที่ไหนไปมองเขาได้ล่ะเนี่ยยยย?! >///< แอ๊ดดด!! เสียงประตูห้องน้ำที่เปิดออกมาทำฉันสะดุ้งตกใจ และนั่นทำให้ฉันต้องรีบปิดตาแกล้งหลับลงไปอีกครั้งโดยอัตโนมัติ เพราะฉันมั่นใจว่าคนที่เปิดประตูออกมาจากห้องน้ำนั่นจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก…คุณคิมหันต์!! ไม่ๆๆ ต้องไม่ใช่ตอนนี้ ฉันยังไม่พร้อมเจอหน้าเขาตอนนี้จริงๆ “ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้หลับ! ถ้าอยากกลับบ้านก็รีบตื่นขึ้นมาแต่งตัว” “…” ฉันรู้ว่ามันไม่เนียน แต่…คุณช่วยออกไปก่อนได้มั้ย? ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณตอนนี้!! พรึ่บ!! และในตอนที่ฉันกำลังแกล้งหลับต่อไปไม่รู้เรื่อง จู่ๆฉันก็รู้สึกว่าผ้าห่มที่คลุมตัวฉันไว้มันถูกดึงออกไปจากตัวซะงั้น “0///0!! คุณคิมหันต์!! นี่คุณทำอะไรของคุณเนี่ย?!” และเมื่อลืมตาขึ้นมามันก็เป็นอย่างที่คาดไว้จริงๆด้วย ตอนนี้ฉันถูกคนตัวสูงที่ยืนอยู่ปลายเตียงแย่งผ้าห่มออกจากตัว ทำให้ตอนนี้ฉันนอนแผ่ร่างที่เปลือยเปล่าของตัวเองต่อหน้าคนตัวสูงซะได้ ฟุ่บ!!! ฉันรีบเด้งตัวขึ้นมาก่อนจะหยิบหมอนใบใหญ่ข้างๆมากอดปิดร่างกายตัวเองเอาไว้อย่างไว แม้ว่ามันจะปิดได้ไม่มิด แต่อย่างน้อยก็หวังให้มันปิดสิ่งสงวนที่ไม่ควรปล่อยให้เด่นหราต่อหน้าคนตัวสูงตอนนี้ “ก็ปลุกให้เธอตื่นไง!" ในขณะที่ฉันหน้าร้อนผ่าวด้วยความรู้สึกอายที่โดนคนตัวสูงแย่งผ้าห่มไป แต่เขากลับยกยิ้มมุมปากออกมา ราวกับพึงพอใจที่ได้เห็นฉันร้อนรนใจแบบนี้งั้นแหละ นี่เขา...จงใจแกล้งฉันใช่มั้ย? "เอาผ้าห่มคืนมาให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ!!" "หึ! จะอายทำไม? เมื่อคืนฉันเห็นหมดแล้วแหละน่า" เฮอะ! ทำไมเขาถึงได้ดูสนุกที่ได้แกล้งฉันนักนะ ">///< นี่คุณเป็นโรคจิตรึไงกัน!? เอาคืนมาเดี๋ยวนี้นะ!!" "อ้อนวอนฉันสิ!" อะไรนะ? นี่เขาบ้าไปแล้วเหรอ? "เอาคืนมาค่ะ >///<" "ไม่เอาแบบนี้สิ! เอาให้มันอ่อนหวานกว่านี้ แบบที่เธออ้อนวอนขอร้องฉันเมื่อคืนนี้ไง" ">///<" สิ้นเสียงของคนตัวสูงภาพความทรงจำเมื่อคืนก็ย้อนกลับขึ้นมาในหัวชัดแจ่ว ทำฉันหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ "เรียกชื่อฉันด้วยยิ่งดีนะ!" นี่เขา...สนุกมากนักรึไงที่ได้แกล้งฉันน่ะ ไม่ทำหรอก ฉันไม่ยอมทำตามที่เขาต้องการเด็ดขาด!! ถ้าจะเลี่ยงไม่ทำตามที่เขาต้องการ ฉันควรทำยังไงดีนะ? คงจะแย่งผ้าห่มจากมือเขามาไม่ได้แน่ๆ รอบๆตัวก็ไม่มีอะไรให้เอามาคลุมตัวได้เลย ถ้างั้นก็เหลือแค่วิธีเดียวแล้วล่ะ ฟึ่บ!! ฉันยกมือขึ้นชี้ไปที่กระจกหน้าต่างนอกห้อง "โอ๊ะ! คุณคิม! ดูนั่นสิค่ะ ช้างบินได้!!" แผนของฉันคือ...ดึงความสนใจของคนตัวสูงไปทางอื่น แล้วรีบวิ่งหนีเข้าห้องน้ำไปให้ไวที่สุดไงล่ะ!! ขวับ!! สำเร็จ! คนตัวสูงหันออกไปมองตามที่ฉันชี้จริงๆด้วย ฟุ่บ!! ทันทีที่คนตัวสูงหันไปทางอื่นแล้ว ฉันรีบก้าวเท้าลงจากเตียงเพื่อวิ่งตรงไปที่ห้องน้ำทันที แต่...เหมือนว่าจะมีอะไรแปลกไปเลยแฮ่ะ ตุบ!! เดี๋ยวนะ! ทำไมมันไม่เป็นไปอย่างที่ฉันคิดไว้เลยล่ะ! ทันทีที่เท้าฉันก้าวลงไปแตะพื้นห้องแล้ว ฉันกลับล้มลงไปนั่งจ้ำอยู่กับพื้นซะงั้นอ่ะ ขาฉัน...ขาฉันมันอ่อนแรงจนก้าวเท้าไม่ออกเลยสักนิด นี่ฉัน...เป็นอะไรไปเนี่ย? "ทำอะไรของเธอน่ะ?" โอ้ยยย! น่าอายชะมัด!! ฟึ่บ!! ในเมื่อไปต่อไม่ได้แล้ว ฉันเลยหันกลับไปหยิบหมอนบนเตียงมาปิดตัวไว้เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเปลี่ยนจากนั่งบนเตียง มานั่งจ้ำอยู่บนพื้นแทน "บ้าที่สุดเลย >///<" ฉันไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองคนตัวสูงเลยสักนิด ได้แต่ก้มหน้าลงไปมองพื้นด้วยความอาย "ฮ่าๆๆๆ!! ช้างบินได้เนี่ยนะ? คิดได้แค่นี้เองเหรอเกวลิน?" ขวับ!! ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองคนตัวสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ตึกตักๆๆ!! จู่ๆหน้าอกข้างซ้ายของฉันมันก็เต้นรัวขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ทันทีที่ได้เห็นภาพคนตัวสูงกำลังยิ้มหัวเราะชอบใจออกมา นี่เขา...กำลังหัวเราะจริงๆเหรอ? ฉันไม่เคยเห็นเขาหัวเราะมาก่อนเลย นี่เป็นครั้งแรกเลยรึเปล่านะที่ฉันเห็นเขาหัวเราะชอบใจออกมาแบบนี้ ทำไม...สีหน้าตอนที่เขาหัวเราะมันถึงได้ดูดีขนาดนี้ล่ะ >///< "อ้ะ! คุณคิม! คุณจะทำอะไรน่ะ?” หมับ!! ฉันร้องตกใจออกมา เพราะจู่ๆคนตัวสูงก็ก้มลงมาอุ้มตัวฉันขึ้นไปไว้ในอ้อมแขนทั้งตัวอย่างง่ายดาย จริงๆก็กลัวตกนั้นแหละ แต่ฉันปล่อยมือจากหมอนที่ปิดร่างตัวเองไว้ไม่ได้ ไม่งั้นมันคงจะน่าอายมากกว่านี้แน่ๆ เพราะถึงแม้ตอนนี้ร่างกายส่วนหน้าของฉันจะถูกหมอนบดบังเอาไว้ แต่ส่วนหลังมันก็โล่งโปร่งไม่มีอะไรปิดไว้เลย แค่นี้ฉันก็...อายจนกู้หน้ากลับมาไม่ได้แล้ว >///< "ถึงกับเข่าอ่อนเลยเหรอหืม?" เอาอีกแล้ว! เขายกยิ้มมุมปากออกมาด้วยความพอใจอีกแล้ว ทำไมเขาถึงได้ดูสนุกกับการแกล้งฉันนักนะ? “>///< ปล่อยฉันค่ะ!!” “ฉันให้เวลาเธอแค่ยี่สิบนาทีเท่านั้นนะ ถ้ายี่สิบนาทีแล้วเธอยังอาบน้ำแต่งตัวไม่เสร็จล่ะก็…” ฟึ่บ!! คนตัวสูงเว้นช่วงคำพูดเอาไว้พร้อมทั้งเพ่งสายตาเจ้าเล่ห์ลงมามองฉัน ทั้งยังโน้มหน้าลงมากระซิบใกล้หูฉันมากกว่าเดิมอีกด้วย “…ฉันจะเข้าไปจัดการเธอถึงในห้องน้ำเองเลย!!” “>///<” ตึกตักๆๆ!! เป็นรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ ที่ใจฉันมันเต้นแรงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ทั้งใบหน้าก็ยังร้อนผ่าวขึ้นมาทั้งหน้า เพราะคำพูดน่าอายที่คนตัวสูงพูดออกมา นี่เขา…รู้ตัวรึเปล่าว่าคำพูดของเขามันน่าอายมากขนาดไหน? แล้วทำไม…ทั้งๆที่เขาเป็นคนเอ่ยคำพูดน่าอายแบบนั้นออกมาแท้ๆ แต่ทำไมถึงมีแค่ฉันที่รู้สึกเขินอายกับคำพูดนั้นของเขาได้ล่ะ? เขามัน…บ้าที่สุดเลย!![คิมหันต์]“คุณคิมหันต์!! มาดูนี่เร็ววว~” เสียงของคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ริมทะเลหันมาร้องเรียกผมพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส“หึๆ” ผมที่ที่กำลังเดินอยู่ก็รีบเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปหาเกวลินโดยทันที พร้อมกับหิ้วไก่ทอดที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ติดมือมาด้วย ตามคำสั่งของคนตัวเล็ก“คุณคิมหันต์ พระอาทิตย์ตกสวยมากเลยว่ามั้ยคะ?” พอเดินเข้ามาถึงตัวเกวลินแล้ว เธอก็ยังคงยกยิ้มสดใสออกมาด้วยความสดใส แถมยังกระโดดไปมาดุกดิกด้วยความตื่นเต้นกับวิวพระอาทิตย์ตกริมทะเลตรงหน้าอีกด้วยผมที่ได้เห็นท่าทีของเธอที่น่ารักของเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู“ไหนว่าจะกลับห้องไง ทำไมถึงพามาที่นี่ล่ะ?” หลังจากออกมาจากห้างก่อนหน้านี้ ผมตั้งใจว่าจะพาเกวลินกลับไปพักที่ห้องของเธอทันที แต่เธอก็ดื้อดึงอ้อนให้ผมพามาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่จนได้ แล้วท่าทีตอนที่เกวลินอ้อนผมมันก็ดันน่ารักซะจนผมปฏิเสธเธอไม่ลงเลยจริงๆ“จะกลับเลยได้ยังไงล่ะคะ วันนี้อุตส่าห์ได้พักทั้งที ต้องออกมาเที่ยวซะหน่อยสิ”หมับ!! เกวลินพูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ผม ขณะเดียวกันเธอก็ยื่นมือตัวเองมาจับมือที่ว่างอยู่ของผมเอาไว้ ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมใจสั
[เกวลิน]“แน่ใจนะว่าไม่ต้องไปโรงพยาบาล” คุณคิมหันต์ที่ขับรถอยูข้างๆเอ่ยถามคำถามนีเป็นรอบที่สิบได้แล้วมั้ง? หลังจากที่ฉันดีขึ้นแล้ว คุณริมหันต์ก็จัดการเรื่องลางานกับผู้จัดการให้ฉัน แถมยังอาสาพาฉันกลับห้องอีกด้วย และตั้งแต่ที่ออกมามาจากโรงแรม เขาก็เอาแต่ถามย้ำกับฉันอยู่ได้ว่าไม่เป็นไรแน่นะ? ไม่ต้องโรงพยาบาลแน่นะ? ให้ฉันพาไปโรงพยาบาลมั้ย? ถามย้ำรอบที่สิบได้แล้วมั้งน่ะ“เกวไม่เป็นไรแล้วจริงๆค่า แข็งแรงดี สบายใจหายห่วงได้ค่ะ”“ถ้างั้นกลับห้องไปก็พักผ่อนให้เต็มที่่นะ”“เอ่อ คือว่า…ก่อนกลับห้อง เกวมีที่ที่ต้องไปก่อนน่ะค่ะ” จริงๆวันนี้ฉันต้องไปทำธุระสำคัญอย่างหนึ่ง ตอนแรกฉันตั้งใจว่าจะไปคนเดียวด้วยซ้ำ แต่คุณคิมหันต์ก็ดื้อดึงจะไปส่งฉันให้ได้ ฉันปฏิเสธเขาไม่ได้เลยจริงๆ เลยต้องยอมให้เขามาส่งให้จนได้“ไว้รอหายดีก่อนแล้วค่อยไปวันหลัง วันนี้เธอต้องกลับไปพักก่อน”“ไม่ได้ค่ะ เกวต้องไปทำธุระสำคัญมากๆ ต้องไปวันนี้เท่านั้นค่ะ”“ฉันไม่ให้ไป” คนตัวสูงข้างๆเอ่ยออกมาอย่างเด็ดขาด“คุณคิมหันต์! นี่คุณจะเห็นแก่ตัวเกินไปแล้วนะ ฉันไปแค่แปบเดียว คุณแค่ไปส่งฉันแล้วนั่งรออยู่บนรถก็ได้”“ธุระอะไรจะสำคัญไป
[คิมหันต์]พรึ่บ!! ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ก่อนที่จะต้องหรี่ตาลงเมื่อแสงที่เล็ดลอดผ่านผ้าม่านสอดส่องเข้ามากระทบกับดวงตา และเมื่อปรับสายตาให้คงที่ได้แล้ว ผมถึงได้รู้ว่าตัวเองยังคงนอนอยู่ใขอบนเตียงในห้องพักของเกวลินเหมือนเดิมเพียงแต่ตอนนี้ที่ข้างๆที่เคยมีเกวลินนอนอยู่ด้วย กลับเหลือไว้เพียงแค่รอยยับที่ว่างเปล่าเท่านั้นเกวลิน…ยัยนั่นทิ้งผมไปอีกแล้วเหรอเนี่ย?ฟุ่บ!! ผมลุกขึ้นมาจากเตียงนอน ก่อนจะเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา แต่เมื่อก้าวเข้าไปในห้องน้ำแล้ว บางสิ่งบางอย่างอยู่ในนั้นกลับทำให้ผมแปลกใจขึ้นมาบนกระจกในห้องน้ำมีกระดาษอยู่สามแผ่นแปะเรียงกันไว้อย่างเป็นแถวเลยล่ะฟึ่บ! ผมเอื้อมมือไปหยิบกระดาษโน้ตแผ่นที่แปะอยู่บนกระจกห้องน้ำมาอ่าน‘เกวต้องออกไปทำงานแต่เช้าเมื่อคืนคุณดูเหนื่อยมากเกวเลยไม่อยากปลุก ขอโทษที่ปล่อยให้อยู่คนเดียวนะคะ’“หึ! ใครกันแน่ที่เหนื่อย” ผมยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจทันทีที่ได้อ่านข้อความที่เกวลินทิ้งไว้ให้ฟึ่บ!! จากนี้ก็หยิบกระดาษโน้ตใบที่สองขึ้นมาอ่านต่อ‘คุณอาบน้้ำแปรงฟันก่อนได้นะคะ เกวแขวนเสื้อผ้าที่คุณพอจะใส่ได้ไว้ให้ที่ตู้แล้ว’ผมอดไม่ไ
วันต่อมาณ โรงแรมพาวิลงเลียน“อ้าวเกว” เสียงของรินณ์เอ่ยทักขึ้นทันทีที่รินณ์เดินเข้ามาในห้องพักพนักงาน ซึ่งมีฉันที่นั่งอยู่ก่อนหน้าแล้ววันนี้ฉันตั้งใจออกจากห้องมาแต่เช้า เช้าถึงขนาดที่คุณคิมหันต์ยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ “ไงรินณ์”“ทำไมมาเช้าจังอ่ะ วันนี้เกวเข้างานกะบ่ายไม่ใช่เหรอ?”“อ่อ เราแลกเวรกับพี่แอนอ่ะ พอดี…ตอนเย็นเรามีธุระต้องไปทำธน่ะ” ใช่แล้วล่ะ! จริงๆ วันนี้ฉันเข้างานกะบ่าย แต่ช่วงเย็นวันนี้ฉันมีที่ที่ต้องไปน่ะ เลยแลกเวรกับพี่แอนไว้“ไปไหนอ่ะ? หรือว่า…ไปเดทเหรอ?” รินณ์ยิ้มกรุ้มกริ่มพลางเดินเข้ามากระซิบใกล้ฉัน อะไรกัน? ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไงเนี่ย?“ดะ เดทอะไรกันเล่า? ไม่ใช่ซะหน่อย” “เอ้า! ไม่ใช่หรอกเหรอ แต่เมื่อคืนเราเห็นน้า ผู้หญิงชุดฟ้าที่เดินควงแขนกับคุณคิมหันต์” รินณ์เข้ามานั่งใกล้ๆ ก่อนจะเขยิบมากระซิบข้างๆหู“นี่รินณ์เห็นด้วยเหรอ?0_0!” ฉันถึงกับเบิกตาโพลงออกมาด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเมื่อคืนจะมีคนเห็นฉันกันคุณคิมหันต์ด้วย นี่ขนาดแอบย่องออกไปตอนไม่มีคนแล้วน่ะเนี่ย ยังมีคนเห็นอีกเหรอเนี่ย? “อื้ม เมื่อคืนเราอยู่ทำโอทีน่ะ”“นอกจากรินณ์แล้ว…”“ไม่ต้องห่วงหรอก เมื
“อื้มมม~” เสียงครวญครางของเราสองคนดังลั่นไปทั่วทั้งห้องพักของฉัน เพราะรสจูบที่ร้อนแรงเกินกว่าจะต้านทานของกันและกัน เรียวลิ้นที่สอดประสานกันไปมาของเราสองคน มันเต็มไปด้วยความรุ่มร้อน แต่ก็แฝงไปด้วยความปรารถนาที่เหลือล้น ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าริมฝีปากของคนตัวสูงยิ่งหอมหวานน่าช่วงชิมมากกว่าเดิมขึ้นไปเรื่อยๆหมับ!! ฉันเอื้อมมือออกไปค้วาท้ายทอยของคนตัวสูงเหนือร่างลงมากอดไว้แน่น เพื่อให้เราสองคนแลกเปลี่ยนรสจูบจากกันและกันได้แนบแน่นกันมากยิ่งขึ้น“อื้อออ~” ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวที่ต้องการสัมผัสจากคุณคิมหันต์ เขาเองก็คงจะรู้สึกเช่นเดียวกันกับฉัน ฉันส่งเสียงครวญครางผ่านลำคอออกมาด้วยความเสียวซ่าน เมื่อคนตัวสูงเลื่อนไล้มือหนาของตัวเอง ลงไปสัมผัสกับกลีบกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ใต้กางเกงนอนของฉัน ในขณะที่ปากของเขาก็ยังคงดูดเม้ม ช่วงชิมรสหวานจากปากของฉันอย่างไม่ลดละ“อื้อ!!~” ฉันเริ่มจะทนกับความเสียวซ่านที่ถูกกระตุ้นทั้งช่วงบน และช่วงล่างไม่ไหวแล้ว จนต้องส่งเสียงร้องประท้วงผ่านลำคอออกมาเพื่อให้เขาปล่อยส่วนใดส่วนหนึ่งซะที ก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหวจนขาดใจตายไปซะก่อน“อึก!
หลังจากที่คุณคิมหันต์บุกเข้ามาหาถึงห้อง แล้วขอนอนค้างด้วย ตอนนี้เขา…กำลังนอนอยู่บนเตียงข้างๆฉันถึงแม้ว่าคุณคิมหันต์จะนอนก่ายหน้าผากอยูข้างฉัน แต่เขากลับไม่เอ่ยปากคุยอะไรกับฉันต่อเลยแม้แต่คำเดียวนี่เขา…กำลังไม่พอใจฉันอยูแน่ๆเลย“คุณคิมหันต์ หลับรึยังคะ?” ฉันรู้ว่าเขายังไม่หลับแน่ๆ“หลับแล้ว” หลับแล้วเขาจะตอบฉันได้ยังไงล่ะ?“คุณ…โกรธเกวเหรอคะ?”“…” สิ้นสุดคำถามของฉัน ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากคนข้างๆอีกเลย“เกวขอโทษนะคะ ที่ทิ้งคุณไว้ที่ร้านอาหารคนเดียว”“…” คราวนี้ก็ยังเงียบเหมือนเดิม“เกวแค่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับความจริงน่ะค่ะ”“เกวลิน…”“คะ?”“รู้ใช่มั้ย…ว่าฉันรักเธอ?” คุณคิมหันต์ที่เอาแต่หลับตาในตอนแรก ตอนนี้เขากลับลืมตาหันมามองฉันที่อยู่ใกล้ๆ ด้วยแววตาที่อ่อนโยน“…รู้ค่ะ” ฉันจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขา พลางเอ่ยคำตอบที่รู้ดีอยู่แก่ใจออกไปอย่างลึกซึ้ง“แล้วเธอล่ะ?” คำถามที่คาดไม่ถึงจากคนตัวสูงตรงหน้า ทำฉันอึ้งจนอ้าปากค้าง ทำไมเขาถึงถามแบบนี้ออกมาได้“รักสิคะ เกวรักคุณมากๆค่ะ”“ถ้างั้น…อย่าทิ้งฉันไปอีกได้มั้ยเกว?” คำถามที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือของคนตรงหน้า บวกกับ