Share

ยุงตัวใหญ่

Author: Darann
last update Last Updated: 2025-05-16 15:16:14

หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว ตอนนี้ฉันก็มายืนกระวนกระวาย ไม่สบายใจอยู่ที่หน้าประตูบ้านรอคุณคิมหันต์ออกมาสักที ฉันยังคิดเรื่องรอยที่คอของตัวเองไม่ตกเลย ฉันสงสัยว่ามันคือรอยอะไรกันแน่? จะว่ารอยยุง มันก็…ใหญ่เกินไปรึเปล่านะ? แถมมันก็ไม่ได้คันหรือแพ้อะไรเลยด้วย จะว่าไปแล้วมันเหมือนรอย…โอ๊ย! เกวลินคิดบ้าอะไรของแกเนี่ย!? ไม่น่าใช่ฝีมือของเขาหรอก…มั้ง? เฮ้อออ…แล้วมันคือรอยอะไรกันล่ะ? ทำไมฉันถึงจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้เลยเนี่ย? เมื่อคืนฉันคงไม่ได้เมาจนไปทำอะไรแปลกๆใส่อีตานั่นหรอกใช่มั้ย?

“แต่งตัวอะไรของเธอ?” ฉันสะดุ้งเฮือกทันทีที่ได้ยินเสียงของคุณคิมหันต์ดังขึ้นมาไม่ให้ซุ้มให้เสียง ทันทีที่หันไปมองก็เห็นคนตัวสูงกำลังยืนขมวดคิ้วจ้องมองมาที่ฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า

ก็ไม่แปลกหรอกที่จะมองแบบนั้น ก็ฉันเล่นแต่งตัวซะมิดชิดทั้งตัวขนาดนี้ ตั้งแต่เสื้อแขนยาวคอเต่าสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว แถมยังใส่แจ็คเก็ตทับอีกตัวด้วย จุดประสงค์ที่แต่งตัวมิดชิดขนาดนี้ก็เพราะ…ตั้งใจจะปิดรอยที่คอฉันน่ะสิ ถึงจะไม่รู้ว่ามันคือรอยอะไรกันแน่ แต่สภาพมันก็ไม่น่าดูเลยสักนิด ถ้าปล่อยมันไว้เฉยๆคนอื่นคงมองฉันไม่ดีแน่ๆ

“ก็แล้วคุณจะพาฉันไปไหนล่ะคะ?” มาบอกให้ฉันแต่งตัวรอ แต่ก็ไม่บอกว่าจะพาไปไหน คิดจะทำอะไรก็ทำ ไม่สนความคิดคนอื่นเลยสักนิด ไอ้คนเอาแต่ใจตัวเอง!!

“ขึ้นรถ!!” นี่เขาคงไม่ได้หูฝาดหรอกใช่มั้ย? เฮ้อออ! ช่างเถอะ ฉันจะไปคาดหวังคำตอบอะไรจากคนเอาแต่ใจตัวเองอย่างเขาได้ล่ะ?

“ฮู่ววว!!” ฉันเดินไปยืนอยู่หน้าประตูรถข้างคนขับ พลางถอนหายใจออกมาเพื่อสงบจิตสงบใจตัวเองเอาไว้ ขึ้นรถแปบเดียวเดี๋ยวก็ถึงแล้วเกวลิน แม้จะไม่รู้ว่าเขาจะพาฉันไหนก็เถอะ

บนรถ

อึดอัดชะมัด! ตั้งแต่ขึ้นรถมาบรรยากาศในรถตอนนี้ก็มีแต่คำว่าอึดอัด! อึดอัด!! แล้วก็อึดอัด!!! แต่ดูเหมือนว่าจะมีแค่ฉันคนเดียวที่อึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว เพราะคนข้างๆฉันยังคงขับรถต่อไปด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิด ให้ตายเถอะ! เมื่อไรจะถึงสักทีเนี่ย?!

“อะแฮ่มๆๆ เอ่อ…คุณคิมหันต์คะ คุณจะพาฉันไปไหนเหรอคะ?”

“…” เงียบ ไม่มีเสียงอบรับใดๆตอบกลับมาทั้งนั้น เปลี่ยนเรื่องดีกว่า

“คุณคิมหันต์คะ ฉันขอ…เปิดเพลงหน่อยได้มั้ยคะ?” ถึงตอนนี้ฉันไม่ได้มีอารมณ์อยากจะฟังเพลงเท่าไร แต่บางทีเสียงเพลงมันอาจจะช่วยลดความอึดอัดของบรรยากาศตอนนี้ลงบ้างก็ได้…

“ฉันไม่ชอบฟังเพลงตอนขับรถ”

“โอเคค่ะ!” ยิ่งพยายามยิ่งอึดอัด อยู่เงียบๆต่อไปดีกว่า

ฟุ่บ!! ฉันพิงหัวเข้ากับกระจกพลางมองออกไปนอกหน้าต่างรถเพื่อหนีความอึดอัดที่ประสบอยู่ตอนนี้ นี่เขากำลังจะพาฉันไปไหนนะ? ทางรอบข้างดูไม่คุ้นตาเลยสักนิด นี่เขาคงไม่ได้กำลังจะพาฉันไปฆ่าหรอกใช่มั้ย? เอ๊ะ! หรือว่า…เขาจะทำอย่างนั้นจริงๆ

ขวับ!! ฉันแอบเหลือบหันไปมองคนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาขับรถอยู่ข้างๆอย่างไม่ไว้วางใจ สีหน้าของคนข้างๆยังคงเรียบนิ่งเหมือนเดิม แววตาก็เรียบนิ่ง ไม่ได้เยือกเย็นจนน่ากลัวอย่างที่คิด สีหน้าแบบนี้เป็นสีหน้าปกติของผู้ชายคนนี้ ถือว่าปลอดภัย ไม่มีอันตรายใดๆ เพราะฉะนั้น…เขาคงไม่ได้พาฉันไปฆ่าจริงๆหรอก

“จ้องขนาดนั้น หน้าฉันสึกหมดแล้วมั้ง?” เฮ้ย! นี่เขารู้ได้ไงว่าฉันจ้องเขาอยู่เนี่ย?

“เปล่านะคะ! เกวไม่ได้มองซะหน่อย” ฉันรีบหลบหน้ากลับมาอีกทางทันทีที่โดนเขาจับได้

“หึ! เกวงั้นเหรอ?” จู่ๆเขาก็พึมพำบางอย่างออกมา ทั้งสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปด้วย รอยยิ้มนั่นมันยกยิ้มมุมปากขึ้นมาอีกแล้ว แบบนี้เหมือนจะเป็นลางไม่ดีเลยนะเนี่ย? “เมื่อคืน…เธอก็แทนตัวเองแบบนั้นเหมือนกันนะ จำได้มั้ย? เกวลิน” ตอนแรกก็ไม่ได้สังเกตหรอก แต่พอคนข้างๆพูดขึ้นมาเท่านั้นแหละ ฉันก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าเมื่อกี้ฉันเผลอพูดแทนตัวเองว่าเกวกับเขาไป

“0 0!! อะไรนะคะ?”

“นี่เธอจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้จริงๆเหรอเกวลิน?” นั่นไง! ฉันต้องไปทำอะไรแปลกๆใส่เขาแน่ๆ เขาถึงได้มีท่าทีแบบนี้ อะไรกันนะ? เมื่อคืนฉันทำไรลงไปเนี่ย?

“เมื่อคืน…ฉันทำอะไรแปลกๆใส่คุณรึเปล่าคะ?”

“หึ! อะไรแปลกๆเหรอ? จะว่างั้นก็ได้นะ” พูดอะไรของเขาเนี่ย? ทำก็บอกว่าทำ ไม่ทำก็บอกว่าไม่ทำสิ ทำไมต้องพูดให้เข้าใจยากด้วย แบบนี้มันทำฉันใจคอไม่ดีเลยนะ

“อะไรเหรอคะ? ฉันทำอะไรคุณเหรอ?”

“มาถามฉันทำไมล่ะ? เธอเป็นคนทำแบบนั้นกับฉันเอง ก็ต้องจำมันให้ได้เองสิ” ทำแบบนั้น แล้วทำอะไรล่ะ?

“ก็ฉันจำไม่ได้นี่ค่ะ ถ้าฉันจำได้ฉันจะมาถามคุณมั้ยล่ะ? ฉันจำไม่ได้ว่าฉันทำอะไรลงไปบ้างหลังจากที่เมาไม่ได้สติ แล้วฉันก็อยากรู้ด้วยว่าไอ้รอยที่คอฉันมันมาได้ยังไงกันแน่?!” โอ๊ะ! ซวยล่ะ เผลอพูดออกไปซะหมดเปลือกเลย

“ทำไม? เธอคิดว่ามันคือรอยอะไรงั้นเหรอ?” คนตรงหน้ายกยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์ขึ้นมา พลางเหล่ตามามองฉันครู่หนึ่ง

ขวับ!! ทันทีที่ฉันสบตาเข้ากับดวงตาเจ้าเล่ห์ของคนข้างๆ ฉันถึงกับต้องหลบตาหันออกไปอีกทางทันที

ตึกตักๆๆ!! คำถามที่เขาถามออกมาเมื่อกี้ มันทำให้ฉันหวนนึกถึงคำตอบที่เคยคิดไว้ก่อนหน้านี้ รอยแดงที่คอนี่ คงไม่ใช่รอยอย่างที่ว่าหรอกมั้ง?

“ระ…รอยยุงกัดค่ะ”

“หึ! ยุงที่กัดเธอ…น่าจะตัวใหญ่น่าดูเลยนะ” อะไรกันเนี่ย? ทำไมคำพูดของเขามันดูน่าสงสัยขนาดนี้ แบบนี้มันก็ยิ่งน่าเข้าใจผิดมากกว่าเดิมสิ

“ก็…ก็ถ้าไม่ใช่ยุงแล้ว…จะเป็นอะไรได้ล่ะคะ?” ใช่! เป็นรอยยุงกัดน่าจะดีกว่าเยอะเลย

“แล้วเธอชอบมั้ยล่ะ?” คำถามบ้าอะไรของเขาเนี่ย?

“0 0! ชอบอะไรคะ?”

“เมื่อคืนเธอก็ดูจะชอบมากเลยนะ” รอยยิ้มแบบนั้นอีกแล้ว ชอบบ้าอะไรล่ะ? ใครเขาจะชอบโดนยุงกัดกันเล่า? นี่เขาพูดอะไรของเขาเนี่ย?

“มะ…ไม่ชอบค่ะ! ไม่ชอบเลยสักนิด ชอบก็บ้าแล้ว!!” สรุปแล้ว…รอยบนคอฉันมันคือ…รอยยุงกัดจริงมั้ยเนี่ย?

“ไว้ถ้าเธอจำได้…ก็จะรู้เองว่าเมื่อคืนเธอชอบ…หรือไม่ชอบกันแน่” บ้าไปแล้วรึไง!? เขาจะพูดย้ำทำไมนักหนาเนี่ย?

“ไม่เอาค่ะ! ฉัน…ไม่อยากรู้ ไม่อยากจำมันได้แล้ว เรื่องเมื่อคืนน่ะ ลืมๆมันไปซะน่าจะดีกว่า” ดูท่าว่าสิ่งที่ฉันทำลงไปเมื่อคืนคงจะไม่ค่อยน่าจดจำเท่าไรแน่ๆ ลืมไปแบบนี้น่ะดีแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ปราถนารัก   ตอนจบ

    [คิมหันต์]“คุณคิมหันต์!! มาดูนี่เร็ววว~” เสียงของคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ริมทะเลหันมาร้องเรียกผมพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส“หึๆ” ผมที่ที่กำลังเดินอยู่ก็รีบเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปหาเกวลินโดยทันที พร้อมกับหิ้วไก่ทอดที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ติดมือมาด้วย ตามคำสั่งของคนตัวเล็ก“คุณคิมหันต์ พระอาทิตย์ตกสวยมากเลยว่ามั้ยคะ?” พอเดินเข้ามาถึงตัวเกวลินแล้ว เธอก็ยังคงยกยิ้มสดใสออกมาด้วยความสดใส แถมยังกระโดดไปมาดุกดิกด้วยความตื่นเต้นกับวิวพระอาทิตย์ตกริมทะเลตรงหน้าอีกด้วยผมที่ได้เห็นท่าทีของเธอที่น่ารักของเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู“ไหนว่าจะกลับห้องไง ทำไมถึงพามาที่นี่ล่ะ?” หลังจากออกมาจากห้างก่อนหน้านี้ ผมตั้งใจว่าจะพาเกวลินกลับไปพักที่ห้องของเธอทันที แต่เธอก็ดื้อดึงอ้อนให้ผมพามาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่จนได้ แล้วท่าทีตอนที่เกวลินอ้อนผมมันก็ดันน่ารักซะจนผมปฏิเสธเธอไม่ลงเลยจริงๆ“จะกลับเลยได้ยังไงล่ะคะ วันนี้อุตส่าห์ได้พักทั้งที ต้องออกมาเที่ยวซะหน่อยสิ”หมับ!! เกวลินพูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ผม ขณะเดียวกันเธอก็ยื่นมือตัวเองมาจับมือที่ว่างอยู่ของผมเอาไว้ ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมใจสั

  • ปราถนารัก   แผนเซอร์ไพรส์กลับ

    [เกวลิน]“แน่ใจนะว่าไม่ต้องไปโรงพยาบาล” คุณคิมหันต์ที่ขับรถอยูข้างๆเอ่ยถามคำถามนีเป็นรอบที่สิบได้แล้วมั้ง? หลังจากที่ฉันดีขึ้นแล้ว คุณริมหันต์ก็จัดการเรื่องลางานกับผู้จัดการให้ฉัน แถมยังอาสาพาฉันกลับห้องอีกด้วย และตั้งแต่ที่ออกมามาจากโรงแรม เขาก็เอาแต่ถามย้ำกับฉันอยู่ได้ว่าไม่เป็นไรแน่นะ? ไม่ต้องโรงพยาบาลแน่นะ? ให้ฉันพาไปโรงพยาบาลมั้ย? ถามย้ำรอบที่สิบได้แล้วมั้งน่ะ“เกวไม่เป็นไรแล้วจริงๆค่า แข็งแรงดี สบายใจหายห่วงได้ค่ะ”“ถ้างั้นกลับห้องไปก็พักผ่อนให้เต็มที่่นะ”“เอ่อ คือว่า…ก่อนกลับห้อง เกวมีที่ที่ต้องไปก่อนน่ะค่ะ” จริงๆวันนี้ฉันต้องไปทำธุระสำคัญอย่างหนึ่ง ตอนแรกฉันตั้งใจว่าจะไปคนเดียวด้วยซ้ำ แต่คุณคิมหันต์ก็ดื้อดึงจะไปส่งฉันให้ได้ ฉันปฏิเสธเขาไม่ได้เลยจริงๆ เลยต้องยอมให้เขามาส่งให้จนได้“ไว้รอหายดีก่อนแล้วค่อยไปวันหลัง วันนี้เธอต้องกลับไปพักก่อน”“ไม่ได้ค่ะ เกวต้องไปทำธุระสำคัญมากๆ ต้องไปวันนี้เท่านั้นค่ะ”“ฉันไม่ให้ไป” คนตัวสูงข้างๆเอ่ยออกมาอย่างเด็ดขาด“คุณคิมหันต์! นี่คุณจะเห็นแก่ตัวเกินไปแล้วนะ ฉันไปแค่แปบเดียว คุณแค่ไปส่งฉันแล้วนั่งรออยู่บนรถก็ได้”“ธุระอะไรจะสำคัญไป

  • ปราถนารัก   เป็นห่วง

    [คิมหันต์]พรึ่บ!! ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ก่อนที่จะต้องหรี่ตาลงเมื่อแสงที่เล็ดลอดผ่านผ้าม่านสอดส่องเข้ามากระทบกับดวงตา และเมื่อปรับสายตาให้คงที่ได้แล้ว ผมถึงได้รู้ว่าตัวเองยังคงนอนอยู่ใขอบนเตียงในห้องพักของเกวลินเหมือนเดิมเพียงแต่ตอนนี้ที่ข้างๆที่เคยมีเกวลินนอนอยู่ด้วย กลับเหลือไว้เพียงแค่รอยยับที่ว่างเปล่าเท่านั้นเกวลิน…ยัยนั่นทิ้งผมไปอีกแล้วเหรอเนี่ย?ฟุ่บ!! ผมลุกขึ้นมาจากเตียงนอน ก่อนจะเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา แต่เมื่อก้าวเข้าไปในห้องน้ำแล้ว บางสิ่งบางอย่างอยู่ในนั้นกลับทำให้ผมแปลกใจขึ้นมาบนกระจกในห้องน้ำมีกระดาษอยู่สามแผ่นแปะเรียงกันไว้อย่างเป็นแถวเลยล่ะฟึ่บ! ผมเอื้อมมือไปหยิบกระดาษโน้ตแผ่นที่แปะอยู่บนกระจกห้องน้ำมาอ่าน‘เกวต้องออกไปทำงานแต่เช้าเมื่อคืนคุณดูเหนื่อยมากเกวเลยไม่อยากปลุก ขอโทษที่ปล่อยให้อยู่คนเดียวนะคะ’“หึ! ใครกันแน่ที่เหนื่อย” ผมยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจทันทีที่ได้อ่านข้อความที่เกวลินทิ้งไว้ให้ฟึ่บ!! จากนี้ก็หยิบกระดาษโน้ตใบที่สองขึ้นมาอ่านต่อ‘คุณอาบน้้ำแปรงฟันก่อนได้นะคะ เกวแขวนเสื้อผ้าที่คุณพอจะใส่ได้ไว้ให้ที่ตู้แล้ว’ผมอดไม่ไ

  • ปราถนารัก   เป็นลม

    วันต่อมาณ โรงแรมพาวิลงเลียน“อ้าวเกว” เสียงของรินณ์เอ่ยทักขึ้นทันทีที่รินณ์เดินเข้ามาในห้องพักพนักงาน ซึ่งมีฉันที่นั่งอยู่ก่อนหน้าแล้ววันนี้ฉันตั้งใจออกจากห้องมาแต่เช้า เช้าถึงขนาดที่คุณคิมหันต์ยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ “ไงรินณ์”“ทำไมมาเช้าจังอ่ะ วันนี้เกวเข้างานกะบ่ายไม่ใช่เหรอ?”“อ่อ เราแลกเวรกับพี่แอนอ่ะ พอดี…ตอนเย็นเรามีธุระต้องไปทำธน่ะ” ใช่แล้วล่ะ! จริงๆ วันนี้ฉันเข้างานกะบ่าย แต่ช่วงเย็นวันนี้ฉันมีที่ที่ต้องไปน่ะ เลยแลกเวรกับพี่แอนไว้“ไปไหนอ่ะ? หรือว่า…ไปเดทเหรอ?” รินณ์ยิ้มกรุ้มกริ่มพลางเดินเข้ามากระซิบใกล้ฉัน อะไรกัน? ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไงเนี่ย?“ดะ เดทอะไรกันเล่า? ไม่ใช่ซะหน่อย” “เอ้า! ไม่ใช่หรอกเหรอ แต่เมื่อคืนเราเห็นน้า ผู้หญิงชุดฟ้าที่เดินควงแขนกับคุณคิมหันต์” รินณ์เข้ามานั่งใกล้ๆ ก่อนจะเขยิบมากระซิบข้างๆหู“นี่รินณ์เห็นด้วยเหรอ?0_0!” ฉันถึงกับเบิกตาโพลงออกมาด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเมื่อคืนจะมีคนเห็นฉันกันคุณคิมหันต์ด้วย นี่ขนาดแอบย่องออกไปตอนไม่มีคนแล้วน่ะเนี่ย ยังมีคนเห็นอีกเหรอเนี่ย? “อื้ม เมื่อคืนเราอยู่ทำโอทีน่ะ”“นอกจากรินณ์แล้ว…”“ไม่ต้องห่วงหรอก เมื

  • ปราถนารัก   ทำให้หายโกรธ nc 20++

    “อื้มมม~” เสียงครวญครางของเราสองคนดังลั่นไปทั่วทั้งห้องพักของฉัน เพราะรสจูบที่ร้อนแรงเกินกว่าจะต้านทานของกันและกัน เรียวลิ้นที่สอดประสานกันไปมาของเราสองคน มันเต็มไปด้วยความรุ่มร้อน แต่ก็แฝงไปด้วยความปรารถนาที่เหลือล้น ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าริมฝีปากของคนตัวสูงยิ่งหอมหวานน่าช่วงชิมมากกว่าเดิมขึ้นไปเรื่อยๆหมับ!! ฉันเอื้อมมือออกไปค้วาท้ายทอยของคนตัวสูงเหนือร่างลงมากอดไว้แน่น เพื่อให้เราสองคนแลกเปลี่ยนรสจูบจากกันและกันได้แนบแน่นกันมากยิ่งขึ้น“อื้อออ~” ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวที่ต้องการสัมผัสจากคุณคิมหันต์ เขาเองก็คงจะรู้สึกเช่นเดียวกันกับฉัน ฉันส่งเสียงครวญครางผ่านลำคอออกมาด้วยความเสียวซ่าน เมื่อคนตัวสูงเลื่อนไล้มือหนาของตัวเอง ลงไปสัมผัสกับกลีบกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ใต้กางเกงนอนของฉัน ในขณะที่ปากของเขาก็ยังคงดูดเม้ม ช่วงชิมรสหวานจากปากของฉันอย่างไม่ลดละ“อื้อ!!~” ฉันเริ่มจะทนกับความเสียวซ่านที่ถูกกระตุ้นทั้งช่วงบน และช่วงล่างไม่ไหวแล้ว จนต้องส่งเสียงร้องประท้วงผ่านลำคอออกมาเพื่อให้เขาปล่อยส่วนใดส่วนหนึ่งซะที ก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหวจนขาดใจตายไปซะก่อน“อึก!

  • ปราถนารัก   ทำให้หายโกรธ

    หลังจากที่คุณคิมหันต์บุกเข้ามาหาถึงห้อง แล้วขอนอนค้างด้วย ตอนนี้เขา…กำลังนอนอยู่บนเตียงข้างๆฉันถึงแม้ว่าคุณคิมหันต์จะนอนก่ายหน้าผากอยูข้างฉัน แต่เขากลับไม่เอ่ยปากคุยอะไรกับฉันต่อเลยแม้แต่คำเดียวนี่เขา…กำลังไม่พอใจฉันอยูแน่ๆเลย“คุณคิมหันต์ หลับรึยังคะ?” ฉันรู้ว่าเขายังไม่หลับแน่ๆ“หลับแล้ว” หลับแล้วเขาจะตอบฉันได้ยังไงล่ะ?“คุณ…โกรธเกวเหรอคะ?”“…” สิ้นสุดคำถามของฉัน ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากคนข้างๆอีกเลย“เกวขอโทษนะคะ ที่ทิ้งคุณไว้ที่ร้านอาหารคนเดียว”“…” คราวนี้ก็ยังเงียบเหมือนเดิม“เกวแค่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับความจริงน่ะค่ะ”“เกวลิน…”“คะ?”“รู้ใช่มั้ย…ว่าฉันรักเธอ?” คุณคิมหันต์ที่เอาแต่หลับตาในตอนแรก ตอนนี้เขากลับลืมตาหันมามองฉันที่อยู่ใกล้ๆ ด้วยแววตาที่อ่อนโยน“…รู้ค่ะ” ฉันจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขา พลางเอ่ยคำตอบที่รู้ดีอยู่แก่ใจออกไปอย่างลึกซึ้ง“แล้วเธอล่ะ?” คำถามที่คาดไม่ถึงจากคนตัวสูงตรงหน้า ทำฉันอึ้งจนอ้าปากค้าง ทำไมเขาถึงถามแบบนี้ออกมาได้“รักสิคะ เกวรักคุณมากๆค่ะ”“ถ้างั้น…อย่าทิ้งฉันไปอีกได้มั้ยเกว?” คำถามที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือของคนตรงหน้า บวกกับ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status