ตอนที่ 4
ความอดทนของคนรอ
“ไม่ไปจริงหรอ” พอเรียนคาบสุดท้ายเสร็จ นิสารู้ว่าเพื่อนไม่ได้ไปด้วยเสียดายแทน คืนนี้มีปาร์ตี้สนุกๆ รอพวกเขาอยู่คราวนี้ลูกสาวนักธุรกิจมาแรงอย่างเธอขอเป็นเจ้าภาพ ลงทุนปิดผับจัดปาร์ตี้เพื่องานนี้โดยเฉพาะ
“นั่นสิ ปกติแกไม่เคยพลาดสักครั้ง เกิดอะไรขึ้น” พาย ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นคนชอบเที่ยวชอบสังสรรค์อย่างหงส์ปกติไม่เคยพลาด
“งานนี้ขอผ่าน พรุ่งนี้มีนัดสำคัญไม่อยากตื่นสาย” ความจริงเธอทั้งเสียดายและเสียความรู้สึกอุตส่าห์นัดกับเพื่อนไว้ตั้งแต่อาทิตย์ก่อนอยากไปเมาไปสนุกดื่มให้เต็มที่
“งั้นพวกฉันไปก่อนนะ” นิสาและพายเดินไปขึ้นรถหรูที่จอดรออยู่ส่วนหงส์ได้แต่ยืนมองตาละห้อยในระหว่างนั้นเธอคิดอะไรดีๆ ออก
ในเมื่อคนมารับยังมาไม่ถึง เท่ากับว่า เธอมีโอกาสชิ่งหนีหรืออาจควรนั่งแท็กซี่ตามไปแต่พอมาคิดดูดีๆ ไม่เห็นต้องลำบากไปเองเพราะแค่สั่งการ คนขับรถของพ่อก็พร้อมจะซัพพอร์ตทุกอย่าง
หงส์ นั่งรอคนมารับอยู่หน้าคณะ ชุดนักศึกษากระโปรงทรงเอสั้นๆ แหวกข้าง รองเท้าส้นสูง เสื้อขาวคอปก ติดกระดุมเม็ดที่สี่ลงไป เผยให้เห็นเนินขาวอวบอิ่ม คนตัวสูงรูปร่างเพรียวบาง เอวสับคอดดูดีมีสง่ากว่าใคร
ยิ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าพ่อยิ่งถูกจับตามองเป็นพิเศษ หงส์นั่งรออยู่นาน ทำไมป่านนี้คนขับยังมาไม่ถึงสักที เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเขี่ยเล่น จนในที่สุดเวลาล่วงเลยผ่านไปเกือบสองชั่วโมง สิ่งนี้ทำให้โมโหมากกะจะเล่นงานคนมาช้าให้หนัก
“เอี๊ยกกก...” และแล้วก็มาถึง รถยนต์มายบัคสัญชาติเยอรมันวิ่งมาช้าๆ เหมือนขับกินลมชมวิวมาตลอดเส้นทาง หงส์ลุกพรวดเธอโกรธจนตัวสั่นยอมรับว่าควบคุมสติไม่ได้กล้าดียังไงปล่อยให้รอนานขนาดนี้
“พึบ...ปังง” ประตูทางฝั่งผู้โดยสารเปิดออก หญิงสาวเข้าไปนั่งก่อนจะปิดอย่างแรงจนรถสั่นสะเทือนไปทั้งคัน
“อยากตายรึไง! ปล่อยให้นั่งรอตั้งสองชั่วโมง แกทำบ้าอะไรอยู่ขับรถเป็นรึป่าวห๊ะ”
".........." ไร้การตอบรับจากคนขับ
“ไอ้เวรนี่ หูหนวกหรอหรือเป็นใบ้ มีปากทำไมไม่พูด” ยิ่งเขาเงียบมันยิ่งทำให้เธอโกรธ
“รอนิดรอหน่อยไม่ตายหรอกมั้ง” หงส์อ้าปากค้างเพราะไม่เคยมีใครหน้าไหนกล้าพูดกับเธอแบบนี้ ทำไมคนต่ำต้อยอย่างเขาถึงกล้า
ตอนแรกความโกรธแค้นบังตา มันทำให้เธอลืมสังเกตว่าเขาไม่ใช่คนขับที่เคยมารับมาส่งเป็นประจำ หงส์หรี่ตาเพ่งมองคนขับผ่านกระจกมองหลังและทันทีที่เธอสบตากับเขาก็ถึงกับตกใจ
“ปราบ!” เธอรู้จักชายคนนี้ เขาเป็นลูกบุญธรรมของป๊าทั้งคู่เคยเจอกันเมื่อ 13 ปีก่อน แม้จะผ่านไปนานแต่ใบหน้าหล่อๆ ของเขาไม่เปลี่ยนเลย
ตอนนั้นเธออายุได้เพียง 7 ขวบ ยังไร้เดียงสา ป๊ารับเขามาเลี้ยงจากบ้านเด็กกำพร้าและสั่งให้เขาคอยดูแลปกป้องเธอ หงส์เกลียดขี้หน้าเขามาก เพราะโดนแย่งความรัก ปราบเก่งกว่าเธอทุกด้าน ป๊าเลยปลื้มเป็นพิเศษ
“ใช่ฉันเอง ยินดีที่ได้เจอกันอีก” ปราบกล่าวทักทายด้วยท่าทางและคำพูดเย็นชาสายตาแข็งกระด้าง
“กลับมาทำไม ไสหัวไปซะ! จะมาขอส่วนบุญส่วนกุศลหรอ” คนขับยังคงนิ่งเฉยไม่ได้สะทกสะท้านใดๆ หงส์คิดในใจทำไมเขาถึงหน้าด้านขนาดนี้
“ทำไม หรือว่าตังค์ไม่พอใช้ ถึงได้คลานกลับมาหาพ่อฉัน” ชายหนุ่มจับพวงมาลัยแน่น เขากัดฟัน เพียงแต่เก็บอาการได้ดี จากนั้นเท้าเหยียบคันเร่งจนมิด รถพุ่งออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วหงส์ที่ไม่ทันตั้งตัวถึงกับหงาย
“ไอ้ เชี่xx!! ขับรถดีๆ ไม่ได้รึไง ไอ้เวรเอ้ยยยย..” เธอหลุดคำหยาบแต่เขาไม่รับฟังราวกับเสียงนกเสียงกา ปราบขับออกไปด้วยความเร็วเขาแซงซ้ายแซงขวาปาดหน้าคันอื่นๆ มีเสียงแตรบีบด่าแทบทุกคัน ในขณะที่หงส์เวียนหัวจนอยากอ้วก
“อร๊ายยยยย” รถเบรกกะทันหันเพราะติดไฟแดงทำให้เธอหัวทิ่มไปชนเบาะข้างหน้า เธอรู้ว่าเขาจงใจ
“ไอ้ สัxx! กูฟ้องป๊าแน่”
“ระวังปากด้วยครับ คุณหนู ไม่เจอกันตั้งหลายปียังหยาบคายอยู่เหมือนนะ”
“คนอย่างแก ทำไมต้องพูดดีด้วย” เขากระตุกยิ้มมุมปาก
“คงไม่มีใครสอนเรื่องมารยาทสินะ ไม่เป็นไร ฉันจะสอนให้” หงส์หัวเราะในลำคอ
“ไม่จำเป็น”
“ไม่จำเป็นอะไร ก็เห็นๆ อยู่ว่านิสัยเหี้xx!” เป็นเขาที่หลุดคำหยาบออกมาแทน
“ไอ้ xxx!!! มึงมันxxxx!!! ไอ้ระ xx!!! ชาติxxx หน้า he!$%^&* (O) P_{” นาทีนี้เธอไม่สามารถควบคุมสติตัวเองได้เพราะผู้ชายหน้าด้านคนกำลังด่าเธอ มีหรือเธอจะยอมง่ายๆ
คำหยาบคายมากมายหลุดออกมาจากปาก เรียกได้ว่ายกมาทั้งสวนสัตว์ ทั้งสัตว์น้ำ สัตว์บก สัตว์ปีก หรือสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำก็ด้วย เธอรัวใส่เขาในขณะที่รถยังคงติดไฟแดง ปราบนั่งเฉยรอให้เธอด่าจนจบ
“จบยัง” เธอด่าจนเหนื่อยเลยต้องสงบปากสงบคำเพราะหายใจไม่อิ่ม แต่เขากลับถามขึ้นหน้าตาเฉย
“ยัง....”
“ด่าให้จบซะ” ปราบกำลังท้าทายคุณหนูที่เอาแต่ใจ ควบคุมสติตัวเองไม่ได้ไร้วุฒิภาวะ ไม่แปลกที่เจ้าพ่อจะหวั่นใจ ตราบใดที่ลูกสาวตัวเองยังเป็นแบบนี้ในไม่ช้าสิ่งที่สร้างมาคงไม่เหลืออะไร
“ฉันจะฟ้องป๊า แกเตรียมไปลงนรกได้เลย”
“เชิญ” ยิ่งได้ยินแบบนี้ ยิ่งกระตุ้นความโกรธเป็นสิบเท่าแต่ตอนนี้เธอทำอะไรเขาไม่ได้เลย
“ไอ้โรคจิต ขับรถเหี้xxๆ แบบนี้ไปตายคนเดียวเถอะ” หงส์ไม่สามารถไปต่อกับผู้ชายคนนี้ได้ในขณะที่รถยังจอดติดไฟแดงเธอตัดสินใจเปิดประตูรถลง
“ปี๊นนนน เอี๊ยกกก โคร้มมมม!!!”
“อร๊ายยยยยยยยย....” แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ที่เบียดมาตามช่องเล็กๆ เบรกกะทันหันเพราะไม่คิดว่าจะมีใครเปิดประตูลงจากรถพรวดพราดแบบนี้
โชคดีที่เธอโดนเฉี่ยวเพียงเล็กน้อยแต่นั่นก็ทำให้เธอล้มทั้งยืนเพราะแฮนด์รถมอเตอร์ไซค์ดันเกี่ยวกับแขนเสื้อของเธอเข้าพอดีร่างของหญิงสาวไถลไปบนถนน
เนื้อตัวของเธอมีรอยถลอกที่บริเวณหัวเข่าและข้อศอก เธอทั้งเจ็บทั้งปวดแสบปวดร้อน หงส์ร้องออกมาด้วยความทรมาน ส่วนรถมอเตอร์ไซค์คู่กรณีที่เฉี่ยวเธอเมื่อกี้ตั้งหลักได้มันรีบชิ่งหนีไปทันที
“ช่วยด้วยยย.......” หงส์พยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากพื้นแต่ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถพยุงร่างขึ้นมาได้ เพราะเท้าพลิกซึ่งเป็นจังหวะที่ไฟเขียวพอดี
ปราบมองเห็นร่างหญิงสาวนั่งกองอยู่บนพื้นถนนจากกระจกข้าง เขายิ้มมุมปากอย่างเลือดเย็นก่อนจะเหยียบคันเร่งขับออกไป หงส์กรีดร้องออกมา เธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าปล่อยเธอทิ้งไว้กลางถนนเช่นนี้
สภาพของเธอตอนนี้ดูไม่ได้ เนื้อตัวมอมแมมแทบไม่เหลือคราบลูกสาวเจ้าพ่อผู้มีอิทธิพล เธอนั่งอยู่ข้างถนนไม่มีใครสนใจผู้คนในละแวกนี้ดูใจจืดใจดำทุกคนต่างมีวิถีชีวิตเร่งรีบ
หงส์นั่งอยู่บนขอบฟุตบาทในใจของเธอเต็มไปด้วยความโกรธแค้นรวมทั้งอับอาย แผลที่ถลอกตามร่างกายทำให้เธอไม่รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใดเพราะในใจของเธอเจ็บปวดมากกว่า ปราบเขาต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำกับเธอถ้าพ่อของเธอรู้คงไม่ปล่อยไว้แน่
แต่ตอนนี้เธอต้องหาทางกลับบ้านให้ได้ก่อนเพราะติดต่อใครไม่ได้เลย ตอนลงมาจากรถไม่ได้หยิบกระเป๋ามาด้วย ในนั้นมีทั้งโทรศัพท์ บัตรเครดิต เงินสด หญิงสาวนั่งกุมขมับเพราะยังหาทางออกไม่ได้
เธอนั่งอยู่สักพักมองรถที่ขับผ่านไปมาบนถนนอย่างเหม่อลอย เมื่อสงบสติอารมณ์ได้แล้วจากตอนแรกที่ไม่ได้รู้สึกเจ็บแผลตอนนี้กลับรู้สึกถึงความเจ็บปวดขึ้นมาทันที
“เอี๊ยกกกก” หงส์เช็ดน้ำตาออกจากแก้มทันทีที่รถมายบัคสัญชาติเยอรมันมาจอดตรงหน้า คนขับวนกลับมา เขาลดกระจกลงมองเธอด้วยสายตาเวทนา ก่อนจะพูดประโยคสั้นๆ
“ขึ้นมา”