“สวบๆๆ”ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่ดูเหมือนไกลแต่ใกล้ ฉู่เฉินตามหาที่มาของเสียง ผู้อาวุโสที่สวมชุดนักพรต ในมือถือแส้หางม้า ปรากฏร่างหนึ่งขึ้นมาห่างจากฉู่เฉินไม่ถึงห้าเมตรหยุดอยู่กับที่ตรงนั้น“เจ้าหนุ่ม แกนี่บังอาจจริงๆ !”หลี่เต้าผิงกัดฟันพูดขึ้นมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความอาฆาตจ้องมองมาที่ฉู่เฉิน “ ฉันให้เวลาแกแค่สามลมหายใจ ยอมรับผิดต่อหน้าฉันซะ ไม่อย่างนั้นคฤหาสน์นี่จะถูกฉันทำลายอย่างสิ้นซาก!”ฉู่เฉินกวาดสายตามองไปที่หลี่เต้าผิงทีหนึ่ง ขมวดคิ้วพร้อมพูดขึ้นมาว่า “ตาแก่ ต่อมลูกหมากแกมีปัญหาเหรอ? ทำไมพูดจาไม่รู้เรื่องแบบนี้?”ไอ้ฉิบหาย!หลี่เต้าผิงตะคอกออกมาด้วยความโมโห โกรธจนใบหน้าบูดเบี้ยวไปหมด ฟาดแส้หางม้าที่อยู่ในมือไปทางฉู่เฉิน เสียงดังเพียะ ไอกระบี่ที่เงียบและมองไม่เห็นปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วในหมอกหนาทึบและหายไปทันทีฉู่เฉินก็หัวใจเต้นแรงขึ้น ราวกับว่าเป็นเพราะสัญชาตญาณเขารีบหลบไปข้างๆตูม!ต้นสนที่หนาพอๆ กับปากชามด้านข้าง ฉู่เฉินก็ถูกตัดออกเป็นส่วนท่อนเมื่อเห็นภาพแบบนี้ ฉู่เฉินอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา ปลดปล่อยพลังวิญญาณงั้นเหรอ?เป็นไปไม่ได้!หรือว่านี่จะเป็นเวทมนตร์วิชาลึ
หลังจากที่หลี่เต้าผิงพูดจบ กลิ่นอายรอบๆ ตัวเขาก็เปลี่ยนไปด้วยตูม!แรงกดดันความน่าสะพรึงกลัวของปรมาจารย์การฝึกฝนระดับหก แผ่คลุมไปทั่วทุกแห่ง และกระบี่อ่อนในมือของเขาก็เปล่งประกายแสงเย็นภายใต้แสงจันทร์อันมืดมิดบนท้องฟ้า“ชิ้ง!”ในขณะนี้ หลี่เต้าผิงไม่ได้ยับยั้งสิ่งใดและปลดปล่อยการเคลื่อนไหวอันทรงพลังทันทีที่เรียกว่าวิชาแยกภูเขาหัวซาน ไอกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวฟันผ่านอากาศรอบตัวเขา ทิ้งรอยร้าวสีขาวเงินเอาไว้เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงวิกฤตที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน!พูดจริงๆ ฉู่เฉินในตอนนี้ ถึงแม้ว่าระดับพลังของเขาจะมั่นคงในการฝึกปราณชั้นหกแล้วแต่ว่าหากเทียบกันในด้านประสบการณ์การต่อสู้แล้ว เขายังห่างชั้นกับหลี่เต้าผิงไปหลายขั้นเมื่อเห็นกระบี่กำลังจะตกลงบนศีรษะ ฉู่เฉินก็ไม่กล้าออมมืออีกต่อไป เขารีบบินถอยหลังเพื่อสร้างระยะห่างระหว่างตัวเขากับหลี่เต้าผิงในทันที“เจ้าหนุ่ม จะหนีไปไหน!”หลี่เต้าผิงโบกกระบี่ยาวในมือ โดยสามารถตัดผ่านภูเขาหลายพันลูกได้ในครั้งเดียวชิ้ง!แสงกระบี่สีเงินผ่านหน้าเขาไป!ฉู่เฉินรีบกระโดดขึ้นอย่างรีบร้อน ในขณะที่เขากำ
ขณะที่สายลมยามค่ำคืนพัดชุดบางๆ ของเธอปลิวขึ้น เธอก็เปลือยกายหมดทั้งตัวในตอนนั้นเอง ผู้ชื่นชอบดาราศาสตร์พวกนั้นก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงกรีดร้องออกมานี่มันลาภก้อนโตชัดๆ ในตอนนั้นเอง ภายในกล้องส่องทางไกลจู่ๆ ก็มีดวงตาที่สวยงามเย็นชาคู่หนึ่งก็ปรากฏขึ้น ทำเอาคนเหล่านั้นตกใจจนทิ้งกล้องส่องทางไกล แล้ววิ่งหนีลงเนินเขาไปหลังจากที่ขับไล่พวกมดแมลงพวกนี้ไปได้แล้ว สตรีศักดิ์สิทธิ์กลั้นหายใจอีกครั้งและตั้งสมาธิ รู้สึกถึงคลื่นพลังที่ล้นออกมาอย่างต่อเนื่อง“มังกรลามก ครั้งนี้เจ้าอย่าได้จะคิดหนีออกไปจากน้ำมือของข้าได้อีก!”ด้วยเสียงร้องคำรามที่ชัดเจนและเย็นชา เธอก้าวขึ้นไปในอากาศเบาๆ ด้วยเท้าที่เหมือนหยกของเธอ ร่างของเธอเหินไปในทิศทางของเทียนเฟิ่งวิลล่าราวกับ ‘เหินฟ้า’ ในภาพยนตร์!......ขณะนั้นเอง การต่อสู้ในเทียนเฟิ่งวิลล่าก็มาถึงขั้นที่ดุเดือดเช่นกันฉู่เฉินและหลี่เต้าผิงล้วนแต่ปลดปล่อยท่าไม้ตายและเทคนิคต่างๆ ออกมาจนหมดแล้ว ตอนนี้เป็นหมัดต่อหมัด ฝ่ามือต่อฝ่ามือกำลังประจันหน้ากันอยู่“ปังๆๆ !”ทั้งสองปะทะหมัดกันอีกสามครั้ง คลื่นพลังที่น่าหวาดกลัวก็กระจายไปยังบริเวณรอบๆ แม้แต่ทรายและหินท
ฉันยังจะเข้าไปอะไรอีก!หลี่เต้าผิงเอามือกุมที่หน้าอก คลานขึ้นมาจากพื้นด้วยความยากลำบากหลังจากแลกหมัดกันไปมากกว่าสิบครั้ง เลือดที่เขาพ่นออกมาก็แทบจะเกือบครึ่งลิตรแล้ว หากยังต่อสู้ต่อไปอีก ฉู่เฉินอาจจะทำให้เขาหมดแรงจนตายได้ในเมื่อที่นี่คือที่ของฉู่เฉิน ผู้ช่วยเหลือก็เยอะแม้ว่าจะเป็นแค่คนธรรมดา ก็สามารถทำให้พลังวิญญาณในร่างกายเขาหมดแรงลง และสามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายดายฉู่เฉินใช้ประโยชน์จากเวลา สถานที่ และผู้คนให้เต็มที่ หลี่เต้าผิงไม่ใช่คนโง่ เมื่อเขาลุกขึ้น เขาก็วางแผนเส้นทางหลบหนีไว้แล้ว“ไอ้เด็กนี่ วันนี้ฉันจะขอสู้ตายกับแกละ!”ทันใดนั้นหลี่เต้าผิงก็ตะคอกออกมาเสียงดัง กลิ่นอายแห่งความป่าเถื่อนเพิ่มขึ้นไปไม่รู้กี่ขั้น หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยหมัดที่ดั่งแสงหนาวผ่านหน้าของฉู่เฉินไป!“นายท่านระวัง!”อินซู่ซู่เมื่อเห็นแสงหนาวนั้น รวดเร็วราวกับสายฟ้าพุ่งไปทางฉู่เฉิน ก็รีบนำตัวบังข้างหน้าฉู่เฉินฉู่เฉินหัวใจรัดแน่น ที่จริงแล้วสถานการณ์ของเขาตอนนี้ก็ไม่ได้ต่างจากหลี่เต้าผิงมากนัก เมื่อเห็นว่าแสงหนาวนั้นเข้าใกล้ตัวเอง ก็หลับตาขึ้นมาอย่างอดไม่ได้แค่อินซู่ซู่คนเดียวไม่สามารถป้องกันอาว
เขาเห็นแค่รอยฝ่ามือที่ยังคงประทับไว้ตรงหน้าอกข้างซ้ายฉู่เฉินหยิบเข็มเงินสามเหลี่ยมออกมาจากถุงเข็ม แล้วแทงตามรอยฝ่ามือพู่!เข็มเงินเพิ่งปักลงไป เลือดสีดำข้างในก็ทะลักออกมาฉู่เฉินสูดหายใจเข้าลึกๆ โน้มตัวลง ใช้แรงดูดลงไปที่บาดแผลตามมาด้วยความรู้สึกไร้เรี่ยวแรง ฉู่เฉินรีบหันหน้าไปเพื่อพ่นเลือดสีดำนั่นออกมาหลังจากที่เขาพ่นเลือดสีดำออกมาอย่างต่อเนื่องแล้ว อินซู่ซู่ที่หมดสติไปถึงฟื้นขึ้นมา“อือ...”อินซู่ซู่ที่เพิ่งฟื้นขึ้นมา ดวงตาที่สวยงามหรี่ลงอย่างหวาดกลัว เมื่อได้สติเธอก็ดิ้นรนไม่รอให้ฉู่เฉินได้อธิบาย ร่างขาวราวกับหิมะลอยมาจากกลางอากาศแสนไกลสตรีศักดิ์สิทธิ์ได้ยินเสียงอินซู่ซู่ร้องขอความช่วยเหลือด้วยความหวาดกลัว เธอจึงมองไปทางเทียนเฟิ่งวิลล่าไม่เป็นไรถ้าไม่มอง แต่เมื่อมองมันแล้ว ในดวงตาสวยคู่นั้นก็เผยให้เห็นสายตาพยาบาทที่ปะทุขึ้นมา!“ใต้แสงจันทร์และดวงดาวที่สดใส กล้าดียังไงมาทำสิ่งที่น่ารังเกียจเช่นนี้ เจ้าต้องตาย!”เมื่อพูดประโยคนั้นจบ สตรีศักดิ์สิทธิ์ก็ยกมือหยกของเธอขึ้น ฟาดฝ่ามือวายุไปที่ฉู่เฉินแม้ว่าเธอจะคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตในโลกมนุษย์แล้วก็ตาม แต่ภายในใจก็ยังคง
ลัทธิศักดิ์สิทธิ์ที่จริงแล้วเป็นนิกายที่สตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือก่อตั้งหลังจากที่มายังโลกมนุษย์แล้วหากจะถามว่าตอนนี้ความก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ว เธอไม่เคยแม้แต่จะสนใจเลยเพียงแค่ว่าภายในลัทธิศักดิ์สิทธิ์สิ่งที่สอนล้วนแต่เป็นวิชาที่เธอถ่ายทอดให้ทั้งหมดกลิ่นอายบนตัวอินซู่ซู่ ทำให้สตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างมาก เธอถึงสามารถจำอินซู่ซู่ได้ทันทีว่านี่คือลูกศิษย์จากลัทธิศักดิ์สิทธิ์เมื่อได้ยินคำว่าลัทธิศักดิ์สิทธิ์ อินซู่ซู่ก็ตกตะลึงไปสักพักแต่ต่อมา เธอก็รับพยักหน้าพร้อมตอบกลับไปว่า “ใช่ค่ะ!”“ท่านผู้อาวุโสคือใครเหรอคะ?”เงยหน้าขึ้นไปมองสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือ แม้แต่อินซู่ซู่ได้สูดลมหายใจเข้าไปไม่ต้องบอกก็รู้ว่าด้วยความสามารถของสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือที่สามารถเดินบนอากาศได้ เธอต้องเป็นท่านอาวุโสในลัทธิศักดิ์สิทธิ์แน่นอนแต่ปัญหาคือ ลักษณะการแต่งกายของท่านอาวุโสผู้นี้ดูใจกล้าเกินไปหรือเปล่า?แม้ว่าจะเป็นตอนเย็น ก็ไม่ควรสวมบางๆ แบบนี้นะ โดยเฉพาะสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือที่ตอนนี้ลอยอยู่บนอากาศห่างจากเธอสามกว่าเมตรนี่... นี่มันทำให้คนอื่นเห็นหมดเลยไม่ใช่เหรอ?ลัทธิศัก
“ข้าบอกว่าให้เจ้านำมือวางลงไป!”ดวงตาสวยคู่ของสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือจ้องเขม็ง พูดขึ้นมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอาฆาต“ครับๆๆ ผมจะทำตามที่คุณบอก อย่าโกรธไปสิครับ ผู้หญิงโกรธง่ายทำให้แก่เร็วนะครับ”ฉู่เฉินเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและมองไปที่ ‘ชุดซีทรู’ ของสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือ จากนั้นก็ยื่นมือใหญ่ของเขาออกไปและกดลูกพีชของอินซู่ซู่“ไม่ใช่มือข้างนี้”สตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือจ้องเขม็งไปที่ฉู่เฉิน ทั้งๆ ที่รู้ว่ารอยฝ่ามือนั้นเป็นมือข้างขวา ฉู่เฉินก็จงใจใช้มือข้างซ้าย นี่มันถือว่าฉวยโอกาสชัดๆ!ฉู่เฉินยิ้มเจ้าเล่ห์ หลังจากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นมืออีกข้างกดลงไปแทนขณะนั้นเอง ใบหน้าเล็กของอินซู่ซู่ก็แดงระเรื่อขึ้นมา แดงจนเหมือนลูกแอปเปิลนี่เป็นผู้อาวสุโสของสำนักท่านไหนกันแน่?ไม่ใช่แบบนี้ให้ฉู่เฉินใช้มือซ้ายและมือขวาสัมผัสต่อหน้าเธอ เธอเอากฎของสำนักไปไว้ที่ไหนกัน?ปัญหาคือนี่มันจะหยามกันเกินไปแล้วนะ?เมื่อแน่ใจว่าขนาดของมือฉู่เฉินไม่เหมือนกับรอยฝ่ามือที่ประทับอยู่บนหน้าอกของอินซู่ซู่แล้ว สตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือถึงค่อยๆ เปลี่ยนสีหน้าและพยักหน้าเบาๆ“ก็คือจะบอกว่าเมื่อครู่เจ้าได้ช่วยลูก
“อวี้ลู่!”ธิดาศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือยิ้มตอบอวี้ลู่?!อินซู่ซู่ย้อนนึกถึงเหล่าผู้อาวุโสในสำนัก ก็ไม่มีใครชื่อนี้นี่?หรือว่าเป็นผู้อาวุโสที่ไม่ค่อยปรากฏตัวในสำนักกันนะ?นึกมาถึงตรงนี้ อินซู่ซู่จึงประสานหมัดและเอ่ยว่า “อาวุโส ฉะ…ฉันบาดเจ็บสาหัส เกรงว่าจะไม่สามารถกลับลัทธิศักดิ์สิทธิ์ได้ตรงเวลา ถ้า…ถ้าหากเป็นไปได้ ฉันอยากรั้งอยู่ที่นี่ชั่วคราว ไม่ทราบว่า…”สตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือได้ยินอย่างนั้นก็ครุ่นคิดอย่างละเอียด ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ “อืม ก็ดีเหมือนกัน เจ้ารักษาตัวอยู่กับหมอฉู่ก่อนก็แล้วกัน มีเขาคอยดูแลเจ้า ข้าก็วางใจ”“อีกอย่าง ห้ามออกไปข้องแวะกับพวกคนไม่เอาไหน เข้าใจหรือไม่?”อินซู่ซู่รีบพยักหน้ารับ “ค่ะ ศิษย์จะทำตามคำสั่งสอนของผู้อาวุโสอย่างเคร่งครัด!”นี่เป็นผลพลอยได้ที่ไม่คาดคิดจริงๆ นึกไม่ถึง ผู้อาวุโสอวี้ลู่จะเจาะจงให้เธออยู่ข้างกายนายท่าน ถ้าอย่างนั้น แสดงว่านางสามารถอยู่กับนายท่านต่อได้น่ะสิ?ถึงอย่างไรถ้าท่านอาจารย์ถามขึ้นวมา เธอก็บอกได้ว่าเป็นคำสั่งของอาวุโสอวี้ลู่หืม?ฉู่เฉินได้ยินอย่างนั้นก็อดเงยหน้ามองสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้เป็นคนดีเหมือนกันนะ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก
ในความเป็นจริงทั้งเมืองชิงหลง แทบจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของสำนักชิงอวิ๋นตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ก็ล้วนเป็นศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นเช่นกันถ้าตระกูลหลินเป็นฝ่ายเริ่มเสนอการสังหารฉู่เฉินพื่อแย่งชิงสมบัติ จากนั้นนำหยกโลหิตกิเลนไปมอบให้กับธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋น ดูเหมือนว่าตระกูลหลินของพวกเขาก็คงจะได้ความดีความชอบเป็นอันดับแรกสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจ้าวเต๋อฉวนเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลจ้าวและยังเป็นเจ้าสำนักชิงอวิ๋นอีกด้วยถ้าใจร้อนอยากได้ความดีความชอบโดยปกปิดตระกูลจ้าว ทันทีที่เป็นศัตรูกับตระกูลจ้าว ก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าในอนาคตจะไม่ถูกจ้าวเต๋อฉวนกีดกันดังนั้น ข้อเสนอของหลินฮ่าวจึงได้รับการเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากบรรดาผู้เฒ่าตระกูลหลินอย่างรวดเร็วในไม่ช้า ตระกูลหลินก็เริ่มดำเนินการ โดยส่งยอดฝีมือจำนวนมากติดตามหลินฮ่าวไปดักรอฉู่เฉินนอกเมืองชิงหลงอีกด้านหนึ่ง ยังได้ส่งลูกหลานตระกูลหลินไปจำนวนไม่น้อยไปแจ้งตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่แค่ยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานขั้นที่หกของตระกูลหลิน ก็มีมากถึงสิบกว่าคนแล้วเมื่อรวมกับตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ ภายใต้การร่วมมือของสามตระกูล ไม่ต้องพูดถึง
แม้ว่าจะไม่มีตึกสูง แต่ที่นี่ก็มีสินค้าอุปโภคบริโภคสมัยใหม่บางชนิดจำหน่ายด้วยเหมือนกันหลังจากฟังคำแนะนำของหลิงเสวี่ย ฉู่เฉินก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ได้ งั้นไปที่เมืองชิงหลงกันก่อน”อันที่จริง ในด้านหนึ่งฉู่เฉินต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับโลกแห่งการหยั่งรู้ และในอีกด้านหนึ่งก็ต้องการค้นหาวัตถุดิบยาในเมืองชิงหลงด้วยอย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจ้าทึ่มก็ถึงคอขวดแล้ว และจำเป็นต้องคิดหาวิธีที่จะเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นผีดิบเหินฟ้าโดยเร็วที่สุดไม่อย่างนั้น ฉู่เฉินก็คงจะขาดคู่ซ้อมที่แข็งแกร่งไปคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ“คุณจะไปเมืองชิงหลงจริงๆ เหรอ? คุณควรรู้ไว้ว่าตอนนี้คุณในโลกแห่งการหยั่งรู้ก็เหมือนกับเป็นสมบัติที่มีชีวิต ไม่รู้ว่ามีคนจำนวนเท่าไหร่ที่กำลังเล็งคุณอยู่”หลิงเสวี่ยกล่าวพลางขมวดคิ้วแน่นไม่ใช่ว่าเธอเป็นห่วงฉู่เฉินมากขนาดนั้น แต่ถ้าฉู่เฉินตกอยู่ในอันตราย เธอก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย“เมื่อวานเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ยังมีใครกล้าคิดร้ายกับผมอีกงั้นเหรอ?”ฉู่เฉินถามด้วยความสงสัยชิ!หลิงเสวี่ยกลอกตามองฉู่เฉินและกล่าวด้วยสีหน้าจนใจ “คุณคิดว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้จะสร้างความฮือฮาได้มากขนาดไหน แม้ว่า