เพราะน้ำเสียงตื่นเต้นของคนไข้โรคประหลาดขาประจำเมื่อเช้ามืด ทำให้วันหยุดที่แสนหายากของคุณหมอเฉพาะทาง ระบบสืบพันธุ์โอเมก้าต้องละทิ้งการนอนโง่ ๆ บนตักภรรยาออกมาเข้าเวรพิเศษ ที่หมายถึงการเข้าเวรเพื่อคนไข้กิตติมศักดิ์เพียงคนเดียวแต่เช้า
“รอผลแล็บออกก่อนแล้วจะโทรไปบอก แต่เท่าที่ดูผลอย่างอื่น ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนะ แน่ใจนะว่าไม่ได้คิดไปเอง” ลุคหมุนเก้าอี้กลับมาตั้งตรง หลังดูหน้าจอแสดงผลตรวจโดยละเอียดของเพื่อนรัก
“กูไม่ได้คิดไปเอง กูว่ากูขนลุกแป๊บหนึ่งด้วยนะ” ว่านตอบรัวเร็ว เขายังจำได้ว่าในตอนที่โดนเด็กนั่นหอมแก้ม เพียงเสี้ยววินาทีที่ใบหน้าหล่อเหลากำลังจะย้ายไปฝังริมฝีปากกับแก้มเขาอีกข้าง กลิ่นหอมเย็นบางอย่างโชยเข้ามาในจมูกเขาแม้จะระบุไม่ได้ชัดและเป็นเพียงกลิ่นเจือจางบางเบาแต่ทำให้เขาขนอ่อนลุกชันตั้งแต่ปลายเท้ายันหลังคอทีเดียว
ต้องเป็นกลิ่นฟีโรโมนอัลฟ่าอย่างแน่นอน
เขาเคยอ่านเจอในหนังสือสักเล่มเมื่อนานมาแล้ว ในตอนที่ยังว้าวุ่นใจกับเรื่องโรคประหลาดของตัวเองมากกว่าตอนนี้ คุ้น ๆ ว่าในบทความนั้นเขียนไว้ว่ากลิ่นฟีโรโมนของอัลฟ่าจะทำให้ร่างกายของโอเมก้าวูบวาบ
“มึงทำหน้างี้ ไม่เชื่อกูสินะ” เมื่อได้รับเพียงใบหน้านิ่งของคุณหมอเฉพาะทางตอบกลับมา โอเมก้าพรีวิลเลจจึงหุบยิ้มลงฉับเอ่ยถามกลับเสียงห้วน
“ไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มึงตื่นตูม ถึกทักเอาเองว่ามึงรับกลิ่นฟีโรโมนอัลฟ่าได้บ้างแล้ว อีกอย่างเมื่อคืนมึงก็เหมือนจะเมา”
“แต่ครั้งนี้กูขนลุกทั้งตัวเลยนะ ถ้ากลิ่นมันอยู่นานกว่านี้ก็อาจจะฮีตก็ได้ไง”
“ว่านมึงใจเย็น กูว่ามึงหมกมุ่นเกินไปแล้ว เอาตามตรงกูว่าไอ้โรคที่มึงเป็นอยู่ก็ไม่ได้แย่ไปเสียหมดหรอก มึงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโอเมก้าทั่วไปเขาทรมานเวลาฮีตมากแค่ไหน ทำไมอยากมีนักวะ กูกลับมองว่าการที่มึงไม่ฮีต ไม่มีกลิ่น และไม่ได้กลิ่นอัลฟ่าทั่วไปเนี่ยบางทีก็ดีกับโอเมก้าแบบมึงเหมือนกัน ถ้ามันไม่ส่งผลต่อสุขภาพมึงกูคงไม่ยอมฉีดยากระตุ้นให้ทุกเดือนแบบนี้ คุณท่านก็คิดเหมือนกู”
ลุคตอบตามความจริงเป็นรอบที่ล้านเห็นจะได้ ไม่ใช่ว่าเขาคิดเองเออเอง แต่เพราะผลการรักษาและผลการประเมินมันออกมาแบบนั้น โดยรวมร่างกายของว่านไม่มีสิ่งไหนที่ทางการแพทย์มองว่าผิดปกติ มีเพียงเรื่องเดียวที่น่าห่วงและส่งผลให้เขาต้องฉีดยากระตุ้นให้เพื่อนตัวเองทุกเดือนคือ ระดับฮอร์โมนและระดับฟีโรโมนของว่านสูงกว่าโอเมก้าปกติมาก แต่ร่างกายกลับไม่ยอมปลดปล่อยออกมาตามที่ควรจะเป็น
อย่างที่รู้จักโดยทั่วกันว่า ‘รอบฮีต’
และเพราะแบบนั้นการฉีดยากระตุ้นในระดับความเข้มข้นสูงจึงเป็นตัวเลือกที่ถูกหยิบมารักษา ไม่บ่อยนักที่จะมีโอเมก้ารักษาโดยการฉีดยากระตุ้น ส่วนมากมักมาด้วยปัญหาที่จบลงด้วยการฉีดยาระงับเสียมากกว่า
“อีกอย่างที่กูจะบอกมึงอีกรอบ เลิกมีเซ็กที่ทำให้ตัวเองเจ็บได้แล้ว ถ้าไม่รู้สึกก็ไม่ต้องเอากับใคร เพราะมึงมัวแต่เอาใจพี่ไทม์อะไรนั้นกูถึงต้องเพิ่มโดสยากระตุ้นให้มึงเรื่อย ๆ ตลอดสามปี ปู่มึงอกจะแตกตายแล้ว มึงก็รู้ว่ามันอันตรายถ้ายังต้องเพิ่มโดสอยู่อย่างนี้”
“มึงกับปู่ก็ไม่เคยเชื่อกูอยู่แล้ว กูไม่น่ามาหามึงเลย” ว่าจบร่างเพรียวก็ลุกพรวดขึ้นจนเก้าอี้ในห้องตรวจที่ใช้นั่งล้มหงายหลังเสียงดัง ขาเรียวยกยันเก้าอี้ตัวเดิมออกให้พ้นทาง ก่อนจะเดินปึงปังออกจากห้องตรวจ
ปัง!
เสียงประตูบานเลื่อนของห้องตรวจคนไข้พรีเมียมกระแทกปิดดังก้องไปทั้งแผนกระบบสืบพันธุ์โอเมก้าพาให้บุคลากรและคนไข้ที่รอตรวจสะดุ้งโหยง ขวัญยังไม่ทันได้กลับมาก็สะดุ้งอีกครั้งเมื่อโอเมก้าหนุ่มร่างเพรียวผิวขาวเดินกระแทกรองเท้าหนังราคาสูงลิบผ่านไป
“ไอ้เพื่อนเหี้ย ชีวิตเหี้ย แม่งเอ๊ย”
ว่านพ่นคำสบถหยาบคายออกมาทันทีที่เข้ามาภายในรถยนต์คันหรูของตัวเอง ความรู้สึกหลากหลายตีวนในหัว ทั้งโกรธ โมโห ผิดหวัง เสียใจ ทุกอย่างอัดแน่นอยู่ในอก จนมือเรียวที่กำพวงมาลัยแน่นต้องทุบลงแตรรถรุนแรงหลายครั้งอย่างหาที่ระบาย
คนเอาแต่ใจไม่เสียเวลาแม้แต่จะหันมองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลที่เดินเข้ามาเคาะกระจกด้านข้างหลังจากการได้ยินเสียงแตรดังลั่น รองเท้าหนังคุณภาพดีขัดเงาเหยียบลงคันเร่งพารถหรูพุ่งออกไปจากบริเวณด้วยความเร็วสมราคาเครื่องยนต์ หากเป็นคนอื่นคงชนเข้ากับกำแพงรั้วกั้นจบชีวิตอนาถไปแล้ว แต่เพราะนี่คือ ว่าน วรกิจ สุทธิศิลป์ เรื่องแบบนั้นไม่มีทางเกิดขึ้นกับนักเหยียบตีนผีเช่นเขาได้
รถสปอร์ตคันหรูมุ่งหน้าออกจากเมืองหลวง ว่านไม่ได้คิดถึงจุดหมายปลายทาง คิดเพียงแค่อยากขับไปเรื่อย ๆ ให้พ้นจากผู้คนที่เคยรู้จัก สถานที่ที่คุ้นเคย พาตัวเองออกไปอยู่สักที่ เพื่อซ่อนน้ำตาของความเจ็บปวดเอาไว้ให้ห่างไกลจากการมองเห็น
ทั้งลุคและคุณปู่ คิดว่าเขาไม่รู้หรือว่าการเพิ่มโดสเรื่อย ๆ ตลอดสามปีมานี้อันตรายแค่ไหน ไม่ใช่เพราะเขาดื้อรั้นหรือร่านอยากสมสู่กับอัลฟ่าจนตัวสั่น แต่เพราะโรคบ้านี้มันทำให้เขามีทายาทลำบาก จริง ๆ อาจจะเรียกว่าเป็นไปไม่ได้เลยเสียด้วยซ้ำ ในเมื่อเขายังไม่เคยทำให้คู่นอนคนไหนนอตใส่เขาได้เลยสักคน
และไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าพี่ไทม์กอบโกยอะไรจากเขาไปบ้าง แม้แต่คำรักลวงหลอกเขาก็ฉลาดพอที่จะมองออก ในเมื่อคนเอ่ยบอกก็ไม่ได้ใส่ใจแสดงให้แนบเนียนอะไร แต่เพราะพี่ไทม์เป็นอัลฟ่าคนเดียวในบรรดาคนที่เขาเคยคบด้วยที่อย่างน้อยก็เคยรัทเพราะเขา
แม้จะแค่สองครั้งก็เถอะ
แต่นั้นก็มากพอแล้วที่เขาจะทุ่มร่างกายถวายให้ทั้งหมด โดยหวังจะมีทายาทสืบทอดเพื่อจะได้ยังรักษาธุรกิจที่คุณปู่เขาก่อร่างสร้างมากับมือด้วยความรักและใส่ใจไว้ได้
เหตุผลไร้สาระมากมายที่เขาพูดเสมอ ก็เป็นเพียงข้ออ้างที่เขาจงใจยกขึ้นมาเท่านั้น หากให้บอกออกไปตามตรงกับคุณปู่ว่าเขาอยากมีทายาทเพื่อทำให้บอร์ดบริหารและญาติคนอื่นมั่นใจว่า สุทธิศิลป์ จะไม่จบลงที่เขาหากคุณปู่ยกธุรกิจให้สานต่อ คุณปู่คงตอบเขาอย่างใจดีว่าไม่เป็นไร
แต่เขาจะยอมได้อย่างไร ในเมื่อเขารู้อยู่เต็มอกว่าคุณปู่รักธุรกิจเครื่องหนังนี้มากแน่ไหน และคนอื่น ๆ ที่คอยจ้องจะแย่งชิงตำแหน่งเก้าอี้ประธานคนใหม่เอาแต่คิดว่าจะขายต่อธุรกิจนี้ด้วยราคาเท่าไหร่ดี
เขาไม่ยอมเด็ดขาด
และนั่นเป็นสาเหตุให้เขายอมแสดงเป็นคนโง่ เพื่อรั้งพี่ไทม์ไว้โดยหวังเพียงน้ำเชื้อที่ไร้รักและการรัทที่เคยเกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้วอีกสักครั้งเพื่อผลิตทายาทสักคนออกมา
ที่เขาต้องยอมทั้งโดนกระแทกและทั้งยอมขย่มโยกทำกิจกรรมอย่างว่าโดยซ่อนความเจ็บของการเสียดสีเข้าออกของช่องทางที่มีสารหล่อลื่นเพียงน้อยนิด แท้จริงแล้วไม่ใช่เพราะความใคร่ของเขาเลยสักนิดเดียว
โอเมก้าไร้กลิ่น ไม่รับรู้ฟีโรโมนอัลฟ่าอย่างเขาน่ะหรือจะติดใจการสืบพันธุ์ที่มีแต่จะทำให้เจ็บปวดร่างกาย
ว่านไม่รู้ว่าเขาพาตัวเองมาอยู่ที่ไหน แต่ภาพตรงหน้าคือทะเลกว้างยามพระอาทิตย์ใกล้ตก หาดที่เขาพารถหรูมาจอดคงไม่ใช่หาดที่เป็นที่นิยม คนถึงบางตามาก
แต่นั่นก็ดีแล้ว
มือเรียวปาดเช็ดคราบน้ำตาออก ใบหน้าสวยฟุบลงซบกับพวงมาลัย ดวงตาเรียวหลับลงพักสายตาจากความเห่อร้อนเพราะร้องไห้มาตลอดเส้นทางตั้งแต่พ้นรั้วโรงพยาบาล
ไม่รู้ว่าเขาเผลอหลับไปนานแค่ไหน แต่รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงเคาะกระจกเรียกที่ด้านข้างตำแหน่งคนขับ ว่านกะพริบตาสองสามครั้งสะบัดหัวไล่ความมึนเบลอจากความงัวเงียทิ้งไป ท้องฟ้าตรงหน้ามืดลงแล้วและผืนน้ำก็กลายเป็นสีดำสนิทเช่นกัน หน้าหาดทรายมีไฟประดับติดห้อยระหว่างต้นไม้ยาวเป็นเส้น ไม่สว่างมากนัก แต่ก็ทำให้พอมีแสงส่องลงหาดให้ไม่ดูน่ากลัว
เมื่อเสียงเคาะดังขึ้นอีกครั้ง โอเมก้าหนุ่มจึงหันหน้าไปมองยังที่มาของเสียง พลันคิ้วเรียวก็ยกสูงเมื่อพบกับใบหน้าคุ้นเคยที่ก้มลงมองเข้ามาภายในรถในระดับสายตาเดียวกัน จะไม่ให้คุ้นตาได้อย่างไรในเมื่อ...
เพิ่งเอากันมาเมื่อคืน
ว่านกดเลื่อนกระจกฟิล์มทึบลงเพียงครึ่ง เพื่อถามข้อสงสัยว่าเหตุใดเด็กยักษ์คนนี้ถึงมาอยู่ที่นี่ได้
“ทำไมนายมาอยู่ที่นี่”
“ผมต้องถามคุณว่านมากกว่าครับ ว่าทำไมถึงมาที่นี่” ใบหน้าเรียวแสดงความสงสัย จนคนร่างใหญ่ภายนอกยกยิ้มกว้างส่งมาให้ก่อนจะอธิบายขยายความโดยไม่รอให้คนโตกว่าถามเพิ่ม
“ผมมาถ่ายแบบครับ เห็นรถคุ้น ๆ เลยเดินมาดู แล้วก็เป็นรถคุณว่านจริง ๆ ด้วย”
ตาเรียวสวยละสายตาออกจากใบหน้าหล่อเหลามองเลยไปทางด้านหลังจึงเห็นว่ามีรถตู้และรถกระบะตู้ทึบกำลังจัดเก็บของตกแต่งต่าง ๆ และไฟฉากอยู่ไกลออกไป เดรสสีเขียวสะท้อนแสงที่ยืนหันมามองทางนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ดีว่าคงเป็นผู้จัดการโอเมก้าสุดแซ่บของเจ้าเด็กนี่
“อือ ก็ดูว่าเสร็จงานแล้วนี่ ผู้ปกครองนายรออยู่ รีบกลับไปซะ”
ว่านตอบเสียงเรียบ บานกระจกยังคงอยู่ในระดับเดิม ภายในรถหรูไม่ได้เปิดไฟไว้ นั่นเพราะเขาจงใจซ่อนสภาพน่าสมเพชไว้ในความมืดสลัว ถึงจะรู้ตัวว่าตัวเองหน้าตาดีมากก็เถอะ แต่การร้องไห้มาหลายชั่วโมงทั้งยังฟุบหลับไปไม่รู้นานเท่าไหร่ ไม่ต้องส่องกระจกก็พอจะรู้ว่าสภาพคงดูไม่จืด
“คุณว่านมาหาผมถึงนี่เลยหรือครับ ดีใจจัง”
“เพ้อเจ้อ ฉันแค่บังเอิญขับรถมาเรื่อยเปื่อย”
ว่านตอบกลับอย่างเอือมระอา เขาไม่ชอบอัลฟ่าที่ทำตัวนุ่มนิ่มเท่าไหร่นัก จะว่าตามตรงคือเขาไม่นิยมคนเด็กกว่า และที่สำคัญการมีอะไรกับลูกค้าถือเป็นเรื่องต้องห้ามที่เขายึดถือเป็นอันดับหนึ่งกับตัวเอง
เมื่อคืนก็แค่พลาดไปเท่านั้น
และนั้นก็มากพอแล้วที่จะทำให้เขาไม่สบอารมณ์มากนักเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนที่ทำให้เขาแหกกฎเหล็กตัวเองเมื่อคืนนี้
“คุณว่านมาคนเดียวหรือครับ ให้ผมนั่งกลับไปเป็นเพื่อนไหมครับ หรือจะให้ผมขับกลับให้ก็ได้นะ” ดาราหนุ่มยังคงยื่นข้อเสนอด้วยความห่วงใยดวงตาสีเทาอ่อนส่องประกายใสซื่อ
“ฉันขับเองได้” ว่านไม่ชอบการสนทนาในตอนที่ตัวเองไม่ต้องการ ปากบางจึงเอ่ยตอบปัดไปเพียงสั้น ๆ ก่อนนิ้วเรียวจะเลื่อนไปกดปุ่มเพื่อปิดกระจกขึ้น
“คุณว่าน เดี๋ยวสิครับ...”
“เฮ้ย! ทำอะ...”
เด็กยักษ์รีบร้อนยัดหัวโต ๆ ของตัวเองเข้ามาผ่านช่องที่เปิดเพียงครึ่งก่อนที่กระจกจะถูกเลื่อนขึ้นปิด ฝ่ามือใหญ่จับขอบกระจกไว้แน่น เจ้าของรถยกนิ้วออกจากปุ่มโดยเร็ว ไม่ใช่เพราะกลัวไอ้เด็กนี่ได้รับบาดเจ็บ แต่เพราะตกใจกับการกระทำมากกว่า
ปากเล็กอุทานตกใจในทันที ว่านกำลังจะพ่นคำด่าออกไป แต่คำเหล่านั้นกับถูกกลืนหายไปพร้อมกลิ่นหอมเย็นเบาบางที่โชยเข้าจมูก ใจดวงเล็กกระตุกวูบผิดจังหวะ ขนอ่อนตามตัวลุกชัน ดวงตาสีนิลเบิกกว้างมองสำรวจคนบุกรุกไปทั่วทั้งส่วนที่เจ้าตัวยัดเข้ามาภายในรถ
ไม่ผิดแน่ กลิ่นนี่มาจากไอ้เด็กเวรนี่แน่
สมองโอเมก้าชั้นสูงประมวลสถานการณ์รวดเร็วในเมื่อไม่มีใครเชื่อและเขาเองก็ไม่พร้อมจะพูดเหตุผลจริงออกไป คนที่จะทดลองและพิสูจน์เรื่องนี้ได้ก็คงมีแต่ตัวเขาเอง
ในเมื่อกลิ่นไอ้เด็กนี่ ยังคงเป็นกลิ่นเดียวที่เขารับรู้ได้ แม้จะบางเบาก็ตาม แต่จากทฤษฎีที่เขาเคยอ่านการผลิตทายาทของเขา
ไอ้เด็กบ้านี่อาจจะช่วยเขาได้ก็ได้
ก็เห็นอยู่ว่าเมื่อคืนมันทำเขาสร้างสารหล่อลื่นออกมามากมายขนาดไหน ไม่นอตเมื่อคืน ก็อาจจะนอตเข้าสักครั้ง ถ้าเขายังได้กลิ่นฟีโรโมนเจือจางนี้อยู่
“คุณว่านเป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
.
.
“สนใจเอากันอีกทีไหม”
“แน่ใจแล้วใช่ไหม ว่าจะทำจริง ๆ”“แน่ใจสิครับ”ว่านมองชายหนุ่มที่ในตอนนี้ยังคงสถานะคู่หมั้นหลังจากที่ได้ฟังคำยืนยันว่าจะเข้ารับการทำหมันในวันนี้แน่นอนว่าว่านรู้ดีเพราะการกระทำจากเอเดนที่ทำให้เขาตลอดระยะเวลาที่รู้จักกันมา จนกระทั่งมีเจ้าแฝดร่วมกัน เอเดนแสดงออกชัดเจนว่าคิดกับเขาอย่างไรแม้เขายังไม่เคยออกปากบอกคำรักแม้สักครั้ง แต่ความรู้สึกนั้นดังชัดในหัวใจเขาอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน แม้แต่คนรักเก่าที่คบกันมายาวนานกว่าสามปีอย่างพี่ไทม์ว่านเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตอนไหนกันแน่ที่เขาไม่ได้โหยหาความต้องการอื่นอีกนอกจากการมีอยู่ของชายหนุ่มและเจ้าแฝดตัวน้อยที่ผ่านมาเขามัวแต่หมกมุ่นกับเรื่องที่ไม่ใช่ความต้องการที่แท้จริงของตนเองเลยแม้แต่น้อย ในตอนที่คุณปู่บอกความประสงค์และสาเหตุที่ยกตำแหน่งประธานบริษัทให้ลูกพี่ลูกน้องอย่างวิเวียน เขายอมรับแต่ไม่เคยเข้าใจเลยสักนิด“ปู่อยากเห็นหลานของปู่อยู่กับสิ่งที่รัก งานที่รัก มีคนรักและครอบครัวที่ดี เพราะนั่นเป็นความสุขที่แท้จริงที่ปู่อยากให้ว่านได้รู้จัก เหมือนกั
สุดท้ายแล้วลายเซ็นยินยอมของโอเมก้าเพื่อยอมรับการรักษาตามแผนทางการแพทย์ก็ถูกประทับลงบนหน้ากระดาษท้ายเอกสารเอเดนส่งเอกสารนั่นคืนให้กับพยาบาลที่เดินนำมาให้เขาดูก่อนที่จะนำไปดำเนินการต่อตามขั้นตอนคนอยู่ในฐานะสามีและว่าที่คุณพ่อลูกแฝดได้แต่นั่งถอดถอนใจท่ามกลางวงล้อมของครอบครัวและญาติสนิท“ว่านเป็นยังไงบ้างคะคุณปู่” แวววาววางแจกันดอกกุหลาบสีแดงสดที่นำติดมือมาเยี่ยมญาติผู้น้อง“อาทิตย์หน้าคงได้คลอดแล้วล่ะ แล้ววิเป็นยังไงบ้างล่ะ” เจ้าสัวเม้งหันไปถามหลานสาวที่เดินไปยืนคู่กับหลานเขยที่บานประตูใสซึ่งกั้นระหว่างโซนห้องพักญาติกับโซนการรักษา“แข็งแรงดีค่ะ อีกเดือนกว่า ๆ ก็น่าจะคลอดเหมือนกันค่ะ” แวววาวเอ่ยตอบผู้เป็นปู่ สายตาก็ยังคงมองทอดออกไปยังญาติผู้น้องที่นอนหลับอยู่บนเตียงผู้ป่วยถึงจะกระทบกระทั่งกันตลอดเวลาเจอหน้า แต่เธอก็ไม่ได้อยากเห็นอีกฝ่ายล้มเจ็บไปแบบนี้ อย่างไรว่านก็มีศักดิ์เป็นน้อง เป็นความจริงที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้“วิฝากมาเยี่ยมด้วย อีกไม่นานฉันคงได้เห็นหลาน ๆ มาวิ่งเล่นกันแน่ ว่านเป็นคนดวงแข็งต้องไม่เป็นอะไร เจ้าแฝดก
“จากผลตรวจ หมอคิดว่าร่างกายของคุณแม่น่าจะรับการตั้งครรภ์อีนิกม่าไม่ไหวค่ะ พื้นฐานคุณว่านไม่ใช่โอเมก้าที่แข็งแรงมากเท่าไหร่ อาจจะเพราะคุณเอเดนเป็นอีนิกม่าและคู่ชะตาของคุณว่านทำให้ระบบสืบพันธุ์ของคุณว่านถูกกระตุ้นและฟื้นฟูเป็นปกติจนตั้งท้องได้ค่ะถึงจะเรียกว่าร่างกายของคุณว่านกลับมาปกติแล้วแต่ก็นับว่าการตั้งครรภ์ครั้งนี้เร็วไปสำหรับร่างกายโอเมก้าที่ต้องอาศัยยากระตุ้นมาตลอดอย่างคุณว่านค่ะ ดังนั้นทำให้เมื่ออายุครรภ์เข้าช่วงไตรมาสสามซึ่งถือว่าเป็นช่วงใกล้คลอด ร่างกายคุณว่านจึงแสดงอาการออกมาค่ะ”เอเดนรู้สึกราวกับมีระเบิดดังขึ้นใกล้ ๆ จนหูอื้อไปหมด นั่นแสดงว่าที่ผ่านมาที่เขาเข้าใจมาโดยตลอดว่าทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีนั่นไม่ใช่เลยสักนิด ที่เห็นว่าพี่ว่านยังคงกินได้นอนหลับอาจจะเป็นเพราะพี่ว่านอดทนเก็บอาการเอาไว้คนเดียวอย่างนั้นหรือ“คุณเอเดนคะ อย่าเพิ่งกังวลนะคะ ยังไงตอนนี้ก็มาถึงมือหมอแล้ว และตอนนี้ทุกอย่างก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ยังสามารถควบคุมได้ค่ะ แต่นับจากวันนี้จนกระทั่งวันคลอดคงต้องให้คุณว่านแอดมิทไปก่อน เพื่อลดการเคลื่อนไหวน่ะค่ะ โดยเฉพาะช่วงเดือนนี้อย่างน
“เอายังไงต่อดี”เสียงพึมพำเอ่ยออกมาแผ่วเบาเท่าน้ำหนักของฝ่ามือเรียวที่วางลงบนหน้าท้อง ไม่อยากเชื่อว่าตอนนี้ตัวเองกำลังจะกลายเป็นคุณแม่โอเมก้ามือใหม่“ยังไงก็ยินดีด้วยนะ หลังจากนี้อย่าลืมเข้าไปฝากครรภ์ด้วย มีหลายอย่างที่ยังต้องระวังอยู่ แต่ยังไงกูก็ดีใจกับมึงด้วยนะ ในที่สุดก็มีลูกสมใจแล้วนี่”สมใจอย่างนั้นหรอใช่ เขาดีใจ ดีใจมากเสียด้วย แต่ในความดีใจก็ยังมีความสับสนอยู่ว่าตัวเองจะต้องรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้กันแน่“พรุ่งนี้เราไปโรงพยาบาลกันนะครับ” เสียงทุ้มและฝ่ามืออุ่นที่วางทาบทับลงบนหลังมือเหนือหน้าท้องที่ยังคงราบเรียบเหมือนเดิมราวกับว่าภายในนั้นยังไม่มีสิ่งมีชีวิตก่อเกิดเมื่อสมาชิกร่วมโต๊ะอาหารมากันครบข่าวดีของคู่รักจึงถูกป่าวประกาศอย่างเป็นทางการจากปากของอีนิกม่าว่าที่คุณพ่อท่ามกลางความยินดีและคำอวยพรมากมายทั้งจากเจ้าสัวและครอบครัวบรู๊กที่ว่านไม่รู้ว่าเอเดนเอาเวลาไหนไปจัดการเชิญสองครอบครัวมารวมตัวกันได้อย่างพร้อมเพรียงได้ในเวลาเพียงเท่านี้ โอเมก้าท้องอ่อนยังคงมึนงงไม่รู้จะทำตัวอย่างไรกับสถานการณ์ของตน
“คุณว่านคะ คุณท่านให้มาตามไปทานข้าวเช้าค่ะ”“อือ อือ รู้แล้ว”เสียงเคาะประตูสองสามทีไม่ดังมากนักพร้อมกับเสียงเอ่ยเรียกของแม่บ้านปลุกให้คนนอนเลยเวลากว่าทุกวันรู้สึกตัวเจ้าของห้องขานรับออกไปเพียงผ่าน ๆ ก่อนจะหาวออกมาเมื่อถูกขัดการนิทราที่แสนสบาย โอเมก้าขยับตัวเล็กน้อยตั้งใจจะลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตาเพื่อลงไปหาชายชราที่เอ่ยถามถึงงัวเงียได้ไม่นานโอเมก้าเจ้าของห้องก็ต้องลืมตาตื่นเต็มที่เมื่อสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างพาดอยู่ที่เอวซึ่งทำให้ขยับร่างกายไม่ได้อิสระมากนักภายในหัวของว่านผุดใบหน้าและชื่อของบุคคลเพียงคนเดียวขึ้นมาทันที ทั้งที่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เคยนอนกกกอดกันอย่างนี้ แต่ไม่รู้ทำไมใจของเขาถึงได้เต้นแรงราวกับโจรถูกจับ“ตื่นแล้วหรอครับ” เสียงแหบพร่างัวเงียของคนด้านหลังดังขึ้นชิดใบหูจนคนที่ยังตื่นตูมอยู่หดคอหนีอัตโนมัติไม่จริงน่า ไม่ใช่หรอกเสียงปฏิเสธดังขึ้นในใจซ้ำ ๆ ราวกับจะสะกดจิตตัวเองให้หลงเชื่อ ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีทางสำเร็จ เพราะคำเหล่านั้นถูกปัดทิ้งไปด้วยสัมผัสอุ่นนิ่มที่จรดลงมาบนหลังใบหู เรียกขนอ่อนของโอเมก้าร่า
“พี่ว่าน พี่โกรธผมเรื่องอะไรเนี่ย ผมยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะครับ” เอเดนขยับเข้าไปหาคนที่เอาแต่ทำตาขวางใส่ทุกครั้งที่เจอหน้าโอเมก้าร่างเล็กปรายตามองคู่หมั้นหนุ่มก่อนจะถอนหายใจอย่างไม่สบอารมณ์ ว่านปล่อยให้เอเดนทำหน้าหงอยเหงาอยู่ข้างกายต่อไปโดยที่ไม่คิดตอบโต้เอเดนกลับมาอยู่ร่วมบ้านตั้งแต่เมื่อวาน ตอนที่ออกมาจากห้องชายหนุ่มคู่หมั้นแล้วเจอหน้าเจ้าของห้องยืนอยู่นั้น ในทีแรกว่านยอมรับว่าเขาดีใจที่ได้เห็นใบหน้านี้อีกครั้งหลังห่างหายจากกันไปหลายวัน แต่อีกใจก็รู้สึกผิดที่เคยเอ่ยคำขอถอนการหมั้นหมายไม่ใช่ว่าที่ผ่านมาเขาไม่รู้ว่าเอเดนดีกับตนเองมากเพียงใดและการกระทำต่าง ๆ ที่เอเดนทำให้ล้วนสัมผัสได้ว่าเด็กนี่มันรักเขามากตามคำที่เจ้าตัวชอบเอ่ยบอกเสมอความจริงแล้วเขาเพิ่งรู้ใจตัวเองชัดขึ้นก็ตอนที่เห็นแผ่นหลังใหญ่ของเอเดนเดินห่างออกไปในวันนั้น แน่นอนว่าเขาอยากจะรั้งไว้ แต่ความจริงที่การหมั้นหมายเป็นเพียงเรื่องที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์สุดวิสัยและการคาดหวังเพียงทายาทของเขานั้นเป็นเรื่องจริงในเมื่อตอนนี้เขาเองก็ยังไม่สามารถมีทายาทได้ และต่อให้มีก็ไม่ทันการณ์สำหรับการร