“คุณว่านคะ คุณท่านให้มาตามไปทานข้าวเช้าค่ะ”
“อือ อือ รู้แล้ว”
เสียงเคาะประตูสองสามทีไม่ดังมากนักพร้อมกับเสียงเอ่ยเรียกของแม่บ้านปลุกให้คนนอนเลยเวลากว่าทุกวันรู้สึกตัว
เจ้าของห้องขานรับออกไปเพียงผ่าน ๆ ก่อนจะหาวออกมาเมื่อถูกขัดการนิทราที่แสนสบาย โอเมก้าขยับตัวเล็กน้อยตั้งใจจะลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตาเพื่อลงไปหาชายชราที่เอ่ยถามถึง
งัวเงียได้ไม่นานโอเมก้าเจ้าของห้องก็ต้องลืมตาตื่นเต็มที่เมื่อสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างพาดอยู่ที่เอวซึ่งทำให้ขยับร่างกายไม่ได้อิสระมากนัก
ภายในหัวของว่านผุดใบหน้าและชื่อของบุคคลเพียงคนเดียวขึ้นมาทันที ทั้งที่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เคยนอนกกกอดกันอย่างนี้ แต่ไม่รู้ทำไมใจของเขาถึงได้เต้นแรงราวกับโจรถูกจับ
“ตื่นแล้วหรอครับ” เสียงแหบพร่างัวเงียของคนด้านหลังดังขึ้นชิดใบหูจนคนที่ยังตื่นตูมอยู่หดคอหนีอัตโนมัติ
ไม่จริงน่า ไม่ใช่หรอก
เสียงปฏิเสธดังขึ้นในใจซ้ำ ๆ ราวกับจะสะกดจิตตัวเองให้หลงเชื่อ ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีทางสำเร็จ เพราะคำเหล่านั้นถูกปัดทิ้งไปด้วยสัมผัสอุ่นนิ่มที่จรดลงมาบนหลังใบหู เรียกขนอ่อนของโอเมก้าร่า
สุดท้ายแล้วลายเซ็นยินยอมของโอเมก้าเพื่อยอมรับการรักษาตามแผนทางการแพทย์ก็ถูกประทับลงบนหน้ากระดาษท้ายเอกสารเอเดนส่งเอกสารนั่นคืนให้กับพยาบาลที่เดินนำมาให้เขาดูก่อนที่จะนำไปดำเนินการต่อตามขั้นตอนคนอยู่ในฐานะสามีและว่าที่คุณพ่อลูกแฝดได้แต่นั่งถอดถอนใจท่ามกลางวงล้อมของครอบครัวและญาติสนิท“ว่านเป็นยังไงบ้างคะคุณปู่” แวววาววางแจกันดอกกุหลาบสีแดงสดที่นำติดมือมาเยี่ยมญาติผู้น้อง“อาทิตย์หน้าคงได้คลอดแล้วล่ะ แล้ววิเป็นยังไงบ้างล่ะ” เจ้าสัวเม้งหันไปถามหลานสาวที่เดินไปยืนคู่กับหลานเขยที่บานประตูใสซึ่งกั้นระหว่างโซนห้องพักญาติกับโซนการรักษา“แข็งแรงดีค่ะ อีกเดือนกว่า ๆ ก็น่าจะคลอดเหมือนกันค่ะ” แวววาวเอ่ยตอบผู้เป็นปู่ สายตาก็ยังคงมองทอดออกไปยังญาติผู้น้องที่นอนหลับอยู่บนเตียงผู้ป่วยถึงจะกระทบกระทั่งกันตลอดเวลาเจอหน้า แต่เธอก็ไม่ได้อยากเห็นอีกฝ่ายล้มเจ็บไปแบบนี้ อย่างไรว่านก็มีศักดิ์เป็นน้อง เป็นความจริงที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้“วิฝากมาเยี่ยมด้วย อีกไม่นานฉันคงได้เห็นหลาน ๆ มาวิ่งเล่นกันแน่ ว่านเป็นคนดวงแข็งต้องไม่เป็นอะไร เจ้าแฝดก
“จากผลตรวจ หมอคิดว่าร่างกายของคุณแม่น่าจะรับการตั้งครรภ์อีนิกม่าไม่ไหวค่ะ พื้นฐานคุณว่านไม่ใช่โอเมก้าที่แข็งแรงมากเท่าไหร่ อาจจะเพราะคุณเอเดนเป็นอีนิกม่าและคู่ชะตาของคุณว่านทำให้ระบบสืบพันธุ์ของคุณว่านถูกกระตุ้นและฟื้นฟูเป็นปกติจนตั้งท้องได้ค่ะถึงจะเรียกว่าร่างกายของคุณว่านกลับมาปกติแล้วแต่ก็นับว่าการตั้งครรภ์ครั้งนี้เร็วไปสำหรับร่างกายโอเมก้าที่ต้องอาศัยยากระตุ้นมาตลอดอย่างคุณว่านค่ะ ดังนั้นทำให้เมื่ออายุครรภ์เข้าช่วงไตรมาสสามซึ่งถือว่าเป็นช่วงใกล้คลอด ร่างกายคุณว่านจึงแสดงอาการออกมาค่ะ”เอเดนรู้สึกราวกับมีระเบิดดังขึ้นใกล้ ๆ จนหูอื้อไปหมด นั่นแสดงว่าที่ผ่านมาที่เขาเข้าใจมาโดยตลอดว่าทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีนั่นไม่ใช่เลยสักนิด ที่เห็นว่าพี่ว่านยังคงกินได้นอนหลับอาจจะเป็นเพราะพี่ว่านอดทนเก็บอาการเอาไว้คนเดียวอย่างนั้นหรือ“คุณเอเดนคะ อย่าเพิ่งกังวลนะคะ ยังไงตอนนี้ก็มาถึงมือหมอแล้ว และตอนนี้ทุกอย่างก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ยังสามารถควบคุมได้ค่ะ แต่นับจากวันนี้จนกระทั่งวันคลอดคงต้องให้คุณว่านแอดมิทไปก่อน เพื่อลดการเคลื่อนไหวน่ะค่ะ โดยเฉพาะช่วงเดือนนี้อย่างน
“เอายังไงต่อดี”เสียงพึมพำเอ่ยออกมาแผ่วเบาเท่าน้ำหนักของฝ่ามือเรียวที่วางลงบนหน้าท้อง ไม่อยากเชื่อว่าตอนนี้ตัวเองกำลังจะกลายเป็นคุณแม่โอเมก้ามือใหม่“ยังไงก็ยินดีด้วยนะ หลังจากนี้อย่าลืมเข้าไปฝากครรภ์ด้วย มีหลายอย่างที่ยังต้องระวังอยู่ แต่ยังไงกูก็ดีใจกับมึงด้วยนะ ในที่สุดก็มีลูกสมใจแล้วนี่”สมใจอย่างนั้นหรอใช่ เขาดีใจ ดีใจมากเสียด้วย แต่ในความดีใจก็ยังมีความสับสนอยู่ว่าตัวเองจะต้องรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้กันแน่“พรุ่งนี้เราไปโรงพยาบาลกันนะครับ” เสียงทุ้มและฝ่ามืออุ่นที่วางทาบทับลงบนหลังมือเหนือหน้าท้องที่ยังคงราบเรียบเหมือนเดิมราวกับว่าภายในนั้นยังไม่มีสิ่งมีชีวิตก่อเกิดเมื่อสมาชิกร่วมโต๊ะอาหารมากันครบข่าวดีของคู่รักจึงถูกป่าวประกาศอย่างเป็นทางการจากปากของอีนิกม่าว่าที่คุณพ่อท่ามกลางความยินดีและคำอวยพรมากมายทั้งจากเจ้าสัวและครอบครัวบรู๊กที่ว่านไม่รู้ว่าเอเดนเอาเวลาไหนไปจัดการเชิญสองครอบครัวมารวมตัวกันได้อย่างพร้อมเพรียงได้ในเวลาเพียงเท่านี้ โอเมก้าท้องอ่อนยังคงมึนงงไม่รู้จะทำตัวอย่างไรกับสถานการณ์ของตน
“คุณว่านคะ คุณท่านให้มาตามไปทานข้าวเช้าค่ะ”“อือ อือ รู้แล้ว”เสียงเคาะประตูสองสามทีไม่ดังมากนักพร้อมกับเสียงเอ่ยเรียกของแม่บ้านปลุกให้คนนอนเลยเวลากว่าทุกวันรู้สึกตัวเจ้าของห้องขานรับออกไปเพียงผ่าน ๆ ก่อนจะหาวออกมาเมื่อถูกขัดการนิทราที่แสนสบาย โอเมก้าขยับตัวเล็กน้อยตั้งใจจะลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตาเพื่อลงไปหาชายชราที่เอ่ยถามถึงงัวเงียได้ไม่นานโอเมก้าเจ้าของห้องก็ต้องลืมตาตื่นเต็มที่เมื่อสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างพาดอยู่ที่เอวซึ่งทำให้ขยับร่างกายไม่ได้อิสระมากนักภายในหัวของว่านผุดใบหน้าและชื่อของบุคคลเพียงคนเดียวขึ้นมาทันที ทั้งที่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เคยนอนกกกอดกันอย่างนี้ แต่ไม่รู้ทำไมใจของเขาถึงได้เต้นแรงราวกับโจรถูกจับ“ตื่นแล้วหรอครับ” เสียงแหบพร่างัวเงียของคนด้านหลังดังขึ้นชิดใบหูจนคนที่ยังตื่นตูมอยู่หดคอหนีอัตโนมัติไม่จริงน่า ไม่ใช่หรอกเสียงปฏิเสธดังขึ้นในใจซ้ำ ๆ ราวกับจะสะกดจิตตัวเองให้หลงเชื่อ ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีทางสำเร็จ เพราะคำเหล่านั้นถูกปัดทิ้งไปด้วยสัมผัสอุ่นนิ่มที่จรดลงมาบนหลังใบหู เรียกขนอ่อนของโอเมก้าร่า
“พี่ว่าน พี่โกรธผมเรื่องอะไรเนี่ย ผมยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะครับ” เอเดนขยับเข้าไปหาคนที่เอาแต่ทำตาขวางใส่ทุกครั้งที่เจอหน้าโอเมก้าร่างเล็กปรายตามองคู่หมั้นหนุ่มก่อนจะถอนหายใจอย่างไม่สบอารมณ์ ว่านปล่อยให้เอเดนทำหน้าหงอยเหงาอยู่ข้างกายต่อไปโดยที่ไม่คิดตอบโต้เอเดนกลับมาอยู่ร่วมบ้านตั้งแต่เมื่อวาน ตอนที่ออกมาจากห้องชายหนุ่มคู่หมั้นแล้วเจอหน้าเจ้าของห้องยืนอยู่นั้น ในทีแรกว่านยอมรับว่าเขาดีใจที่ได้เห็นใบหน้านี้อีกครั้งหลังห่างหายจากกันไปหลายวัน แต่อีกใจก็รู้สึกผิดที่เคยเอ่ยคำขอถอนการหมั้นหมายไม่ใช่ว่าที่ผ่านมาเขาไม่รู้ว่าเอเดนดีกับตนเองมากเพียงใดและการกระทำต่าง ๆ ที่เอเดนทำให้ล้วนสัมผัสได้ว่าเด็กนี่มันรักเขามากตามคำที่เจ้าตัวชอบเอ่ยบอกเสมอความจริงแล้วเขาเพิ่งรู้ใจตัวเองชัดขึ้นก็ตอนที่เห็นแผ่นหลังใหญ่ของเอเดนเดินห่างออกไปในวันนั้น แน่นอนว่าเขาอยากจะรั้งไว้ แต่ความจริงที่การหมั้นหมายเป็นเพียงเรื่องที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์สุดวิสัยและการคาดหวังเพียงทายาทของเขานั้นเป็นเรื่องจริงในเมื่อตอนนี้เขาเองก็ยังไม่สามารถมีทายาทได้ และต่อให้มีก็ไม่ทันการณ์สำหรับการร
“นั่งเหี่ยวเป็นผักต้มขนาดนี้ก็ไปหาพี่เขาสิลูก” เสียงเอ่ยทักของผู้เป็นแม่ดังมาจากทางด้านหลัง อีนิกม่าหนุ่มที่เอนหลังนั่งมองท้องฟ้าอยู่ในศาลากลางสวนหลังบ้านจึงหันไปมอง“แม่ อย่าจี้ใจดำน่า มันเจ็บนะครับ”“ไอ้ลูกหมาเอ๊ย คิดถึงก็ไปหาเขาสิ ทีเมื่อก่อนโดนเขาบ่นเขาไล่ทุกวันไม่เห็นจะเชื่อฟัง ทีตอนนี้ทำเป็นหางตกนั่งเหงาอยู่บ้าน” พลิ้วแพรนั่งลงที่เก้าอี้ข้างลูกชาย“แม่ว่าตอนนี้พี่ว่านเขาจะทำอะไรอยู่ครับ”“คิดถึงลูกแม่ไง”“เรื่องนั่นมันแน่อยู่แล้ว แต่นี่จะสองอาทิตย์แล้วนะแม่”“แล้วตอนแรกทำเป็นพูด ว่าจะรอให้พี่เขามาง้อ” พลิ้วแพรยกยิ้มให้กำลังใจลูกชายคนเล็กใช่ เอเดนเคยพูดแบบนั้น แต่สองอาทิตย์ก็เกินจากที่เขาคิดไว้ไปสักหน่อยตอนที่พี่ว่านเอ่ยปากขอถอนหมั้นกับเขากลางโต๊ะอาหารนั้น ไม่ใช่แค่เขาที่ตกใจทุกคนที่ได้ยินต่างก็นิ่งอึ้งไปไม่ต่างกัน‘ว่านอยากถอนหมั้น’‘พี่ว่าน...พูดอะไรน่ะครับ’ เอเดนมองใบหน้าของโอเมก้าคู่ชะตาที่หันกลับมาสบตาเขาก่อนจะเอ่ยขอตัวออกจากโต๊ะอาหารกับเจ้าสัวเม้งแล้วจึงดึงมือเขาให้ลุกเ