Share

บทที่ 4 ได้เวลาชอปปิง

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-04 05:19:00

“สวัสดีค่ะ เชิญชมด้านในก่อนได้นะคะ”

พนักงานหญิงที่อยู่หน้าร้านขายมือถืออย่างเป็นทางการของแบรนด์ที่มีหน้าตาคล้ายแอปเปิลกัดเอ่ยขึ้น พร้อมกับผายมือไปด้านในอย่างกระตือรือร้น

ในดาวอความารีนนี้ Orange เป็นหนึ่งในยี่ห้อมือถือที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในจักรวรรดิกริม และมียอดจำหน่ายอยู่ในระดับ Top3 ในทุกทวีป

เด็กหนุ่มค่อย ๆ ดูมือถือที่ที่เขาหมายตา ก่อนจะจับเครื่องพลิกหน้าหลังลองน้ำหนักมือ เขาตัดสินใจมาตั้งแต่อยู่บ้านแล้วว่าจะไม่ซื้อมือถือที่มีราคาแพงที่สุด ขอเพียงเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดในราคากลาง ๆ ก็พอ เพราะแค่นี้ Orange ก็เป็นมือถือที่มีราคาแพงกว่าคู่แข่งไม่น้อย

“รุ่นนี้ตอนนี้กำลังมีโปรโมชั่นนะคะลูกค้า ผ่อน 0% 10 เดือน หรือถ้าจ่ายสดจะลดลงจาก 3259 เหรียญ เหลือ 3000 เหรียญเงินถ้วน แถมฟรีหูฟัง orange ด้วยค่ะ”

“งั้นผมเอารุ่นนี้สีดำ 1 เครื่อง จ่ายสดครับ”

เธอได้ยินดังนั้นก็ยิ้มกว้างอย่างยินดีเมื่อเจอลูกค้าตัดสินใจเร็วไม่เรื่องมาก

“ได้ค่ะลูกค้า ตามมาชำระเงินและลองเครื่องตรงที่พักรับรองด้านนี้เลยค่ะ” กล่าวพร้อมกับเดินนำไปที่โซนรับรองพิเศษที่ยังว่างอยู่

เซนยื่นเงินสด 3000 เหรียญเงินให้เธอ หลังจากที่เดินมานั่งรอที่ที่นั่งโซฟาโออ่าด้านใน

“รับมา 3000 เหรียญถ้วนนะคะ เดี๋ยวคุณลูกค้ารอสักครู่ ดิฉันจะจัดการจ่ายเงินและนำเครื่องมาให้ลูกค้าลองเทสค่ะ” เธอเสิร์ฟน้ำเปล่าให้เขา ก่อนจะเดินไปที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน

“ได้ครับ”

เซนมองไปรอบ ๆ ร้านอย่างสนใจ สมกับเป็นมือถือที่มีคนใช้เป็นลำดับต้น ๆ ของจักรวรรดิ ตกแต่งร้านสบายตาการบริการก็ดี แถมยังมีผู้คนเข้ามาดูสินค้าไม่ขาดสาย พนักงานที่นี่แทบจะไม่เคยได้หยุดพักก็ต้องบริการลูกค้าติด ๆ กันแต่พวกเขาก็ยังบริการอย่างยิ้มแย้มนอบน้อม

พลันสายตาของเด็กหนุ่มก็ไปหยุดที่ร่างของชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังควงแขนกันเข้ามาดูโทรศัพท์ ในห้วงความทรงจำของเขาเหมือนจะจำได้ว่าทั้งคู่นี้เป็นเพื่อนในกลุ่มของแอชตัน ลูกติดของแม่เลี้ยงเจ้าของร่างเดิม

ในขณะที่เซนพยายามคิดว่าคนนี้ใช่เพื่อนของแอชตันจริง ๆ ไหม เขาก็คิดถึงทักษะที่เขาพึ่งได้มา และเมื่อคนทั้ง 2 เดินเข้ามาในระยะรัศมีที่สแกนได้ เข้าจึงเรียกใช้ทักษะดวงตาแห่งความจริงตรวจสอบชายหนุ่มเบื้องหน้าทันที

// ชื่อ : นากามูระ ไค

อายุ :19

อาชีพ : นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งเมืองโบรอน สาขาเครื่องยนต์ ปีที่ 1

ความถนัด : ไม่มี

หมายเหตุ : ลูกชายคนเดียวของตระกูล นากามูระ เจ้าของอู่ซ่อมและตัวแทนจำหน่ายอะไหล่รถหรู นากามูระ 10 แห่ง ในจักรวรรดิกริม (เพื่อนในกลุ่มของแอชตัน ลูกพี่ลูกน้องของคุณ) //

เซนหรี่ตาลง ก่อนจะหันข้างให้คนทั้ง 2 ทำตัวไม่รู้จักอย่างแนบเนียน

ในความทรงจำของเจ้าของร่าง นากามูระคนนี้เป็นหนึ่งในกลุ่มเพื่อนของแอชตัน ลูกติดของแม่เลี้ยงตัวเอง แต่ด้วยความที่ตระกูลนากามูระมีอิทธิพลในเมืองโบรอนอยู่บ้าง เวลาที่พวกเขารวมหัวแกล้งเซนจะทำลับหลังชายคนนี้เสมอ เสมือนเป็นบุคคลที่แม้แต่ตระกูลพวกเขาก็ไม่สามารถล่วงเกินได้

// ชื่อ : หลิวกุ้ยอิง

อายุ :18

อาชีพ : นักเรียนมัธยมปลายปีที่ 6/10 โรงเรียนประจำเมืองโบรอน

ความถนัด : ไม่มี

หมายเหตุ : ลูกสาวคนกลางของร้านขายยาผิงอัน //

เซนอ่านรายละเอียดของหลิวกุ้ยอิงแล้วก็ยิ่งต้องส่ายหัว

ผู้หญิงคนนั้นเขายิ่งไม่รู้จักเลย มีสิ่งเดียวที่เชื่อมโยงพวกเขาได้ก็คือการที่เธอเรียนอยู่ที่โรงเรียนประจำเมืองโบรอน ที่เดียวกับเอรินกับแอชตัน

และแน่นอนเซนถูกแยกให้ไปเข้าโรงเรียนอันดับ 2 คนเดียว โดยอ้างว่าผลการเรียนของเด็กหนุ่มไม่ดี ทำให้ไม่สามารถสอบเข้าโรงเรียนประจำเมืองได้ แถมการเข้าเรียนที่นี่ก็ยังต้องใช้เงินจำนวนมากยัดให้อาจารย์ใหญ่เพื่อซื้อที่เรียนให้เจ้าของร่างอีกทีหนึ่ง

ชีวิตของเจ้าของร่างจะน่าสงสารเกินไปแล้ว เด็กหนุ่มคนนี้ตั้งแต่เล็กจนโตทั้งที่เป็นทายาทสายตรงของตระกูลดักกลาส กลับไม่เคยมีหนังสือใหม่เป็นของตัวเองด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะหนังสือหรือเสื้อผ้าต่าง ๆ ล้วนเป็นของมือ 2 ที่ตกทอดมาจากแอชตัน ไม่ก็ของญาติพี่น้องฝั่งไหนไม่รู้ให้มา ไม่มีโอกาสได้เรียนพิเศษไม่ว่าจะทั้งทางวิชาการหรือดนตรีเหมือนที่ลูกทั้ง 2 ของแม่เลี้ยงเรียนได้ ทั้งๆ ที่ลูกของพ่อจริง ๆ มีเพียงแอรินเท่านั้น ส่วนแอชตันเป็นลูกติดของน้านาตาลี แต่เชื่อเหอะเขาใช้ชีวิตได้เหมือนเป็นคุณชายของตระกูลดักกลาสมากกว่าเซนเยอะ

ขนาดไปโรงเรียนยังถูกเด็กเกเรในห้องคอยกลั่นแกล้งเสมอ รู้ดีว่าเบื้องหลังเป็น 3 คนแม่ลูกนั่นกลับทำอะไรไม่ได้ ด้วยนิสัยไม่สู้คนเป็นทุนเดิม แถมเมื่อไหร่ที่เขาเริ่มเปิดปากพูดกับพ่อ แม่เลี้ยงก็จะชักจูงพ่อให้ออกนอกประเด็นเสมอ เรื่องราวต่าง ๆ จึงไม่เคยถึงหูผู้เป็นพ่อเลยสักครั้ง

ผู้ชายคนนั้นยังคิดว่าเขาเลี้ยงเจ้าของร่างมาอย่างดี ให้เป็นคนประหยัด ไม่ฟุ้งเฟ้อ ลูก 3 คนได้เงินไปโรงเรียนวันละ 5 เหรียญเงินอย่างเท่าเทียม

เหอะ ความจริงคือเซนได้เงินแค่วันละเหรียญ ไม่รู้อีก 4 เหรียญมันหายไปไหน

“ขอโทษที่ทำให้ต้องรอนะคะ นี่เป็นบิลค่ามือถือค่ะ” พนักงานสาวค้อมตัวพร้อมกับยื่นบิลใบเสร็จพร้อมกับวางกล่องมือถือรุ่นใหม่สีดำที่เขาพึ่งจ่ายเงินไว้ด้านหน้า

“จะให้ดิฉันแกะกล่องเพื่อเริ่มเทสเลยรึเปล่าคะ”

เด็กหนุ่มถอนหายใจเมื่อเห็นว่าพนักงานของร้านมาสักที หากปล่อยนานไปกว่านี้ก็กลัวว่านากามูระจะจำเขาได้ บรรยากาศของคนคู่นี้ทั้งที่ดูเหมือนจะเป็นเด็กวัยกำลังเรียน แต่สายตาที่มองต่ำหยิ่งผยองไม่เห็นใครในสายตาทำให้คนทั่วไปในร้านไม่อยากมีปัญหาด้วย

ขนาดที่ทั้ง 2 เดินผ่านเซนไปยังไม่มีทีท่าว่าจะเขาได้แม้แต่น้อย แถมหลิวกุ้ยอิงอะไรนั่นยังเดินเลี่ยงหลบเขาอย่างกับเด็กหนุ่มเป็นโรคระบาด

เฮ้ เขาก็แค่ไม่มีชุดใหม่เท่านั้นรึเปล่า ผมยาวก็มัดรวบไว้อย่างดีแล้วแท้ ๆ แค่แลดูเก่าซอมซ่อไปหน่อยเอง

นายช่างหนุ่มก้มหน้าก้มตาเทสมือถือรุ่นล่าสุดอย่างชำนาญ วิทยาการของโลกกับดาวอความารีนต่างกันไม่มาก อย่างไรมือถือหลักการเทสก็เหมือน ๆ กัน

เซนรีบเทสรีบจัดการเซ็นประกันหน้าจอของเครื่องหลังจากฝากทิ้งกล่องหรืออื่น ๆ ใด ๆ ที่ไม่จำเป็นกับพนักงานแล้ว เด็กหนุ่มก็รีบเดินตัวปลิวออกจากนอกร้านทันที ไม่ทันได้สังเกตสายตาของชายตระกูลนากามูระที่ปลายตามาพลางครุ่นคิดแม้แต่น้อย

เซนเริ่มต้นชอปปิงอย่างบ้าคลั่ง เครื่องสำอาง สกินแคร์ ชุดใหม่นับ 10 ชุด ไม่ว่าจะชุดไปรเวท ชุดออกกำลังกาย ที่ควรมีแต่เจ้าของร่างไม่เคยได้มีเขาก็ซื้อหมด รวมถึงรองเท้าอีก 5-6 คู่ ที่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตประจำวันและนำมามิกซ์แอนด์แมตช์กับเสื้อผ้าได้ง่าย

โชคดีที่สามารถยัดทุกอย่างลงไปในช่องเก็บของในสร้อยข้อมือได้ ไม่อย่างนั้นคงหาคำตอบให้กับคนที่คอยเกาะติดชีวิตของเขาไม่ได้แน่ ๆ

จนเวลาบ่ายแก่เด็กหนุ่มรูปร่างผอมเพรียวก็แทบจะเรียกได้ว่าเปลี่ยนไปทั้งตัว ทั้งทรงผมสั้นที่ถูกช่างเซตผมไว้อย่างดี จับเข้าคู่กับชุดแนวสตรีทขาวดำที่ซื้อมาใหม่ ตอนนี้แม้กระทั่งให้พ่อหรือใครมาเห็นก็ไม่มีทางที่จะจำเซนได้แน่นอน

พอได้นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ จัดการทรงผมการแต่งตัวเดิม ๆ ออกไป ออร่าความหน้าตาดีที่แผ่ออกมาจนทำให้คนที่เดินผ่านบางคนต้องแอบเหลียวหลัง

‘นี่แคนดี้ ภารกิจที่บอกว่าเป็นที่สนใจของคนทั่วไป 2000 คน ด้วยเสียงเพลง/การเต้น ถ้าเต้นในติ๊กต็อก เอ้ย ใน SEE ก็ได้เหมือนกันใช่ไหม’

หน้าจอโฮโลแกรมปรากฏขึ้นทันทีพร้อมกับเจ้าแมวตัวน้อยที่นอนกลิ้งบนพื้นอย่างสบายอารมณ์

// ได้เนี๊ยว //

แบบนี้ดีเลย ดูท่าวันนี้นอกจากจะลองไปดูย่านบันเทิงแล้วคงต้องลองเต้น SEE สักคลิปแล้วล่ะ

// ที่จริง ตอนนี้คนก็เริ่มสนใจเจ้านายแล้วนะเนี๊ยว //

เจ้าตัวเล็กเตือน ก่อนจะเปิดหน้าภารกิจ

[ภารกิจเริ่มต้น : เป็นที่สนใจของคนทั่วไป 2000 คน ด้วยเสียงเพลง/การเต้น (เวลาจำกัด 72 ชั่วโมง)

เริ่มนับเวลาถอยหลัง 2 วัน 17 ชั่วโมง 32 นาที

ความสำเร็จ 12/2000]

“...”

นี่มัน อานุภาพของคนหล่อสินะ อย่าบอกว่าแค่เดินฮัมเพลงชอปปิง ก็มีคนสนใจเป็นสิบคนแล้ว

เขาสาวเท้าออกจากห้าง Grand center เหลือบมองท้องฟ้าที่แสงเริ่มอ่อนลงแล้วก็รีบเดินไปทางย่านถนนบันเทิงจากแผนที่ในแอปพลิเคชัน ตอนแรกว่าจะใช้โอกาสนี้สำรวจให้มากหน่อย แต่กลับหมดเวลาไปกับการซื้อของซะเป็นส่วนมาก

ชายหนุ่มเดินมองบ้านเมืองที่เต็มไปด้วยร้านรวง ป้ายโฆษณาหลายแบบหลายขนาดแล้วก็ต้องทอดถอนใจออกมาไม่ได้ อย่างกับเดินที่สยามตอนวันเสาร์อาทิตย์ที่คนกำลังคึกคักมาก ๆ เลยแฮะ เผลอ ๆ ที่ดาวอความารีนแห่งนี้ความเจริญทางเรื่องวงการบันเทิงจะมากกว่าที่ไทยอยู่มาก

อาจจะเป็นเพราะเมืองโบรอนนั้นเป็นเมืองหนึ่งที่อยู่ในจักรวรรดิกริมที่นับว่าเป็นเมืองที่มีดารานักร้องไอดอลผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ทั้งยังครองตลาดความบันเทิงใหญ่ระดับอันดับ 2 ของดาวอความารีน ไม่ใช่เพียงแค่ในทวีปกลางเท่านั้น แม้กระทั่งทวีปตะวันออก ทวีปทางใต้ก็ล้วนให้ความสนใจอุตสาหกรรมบันเทิงของที่นี่ทั้งนั้น การเงินและกำลังซื้อที่หมุนเวียนในธุรกิจบันเทิงของจักรวรรดิกริมต้องเป็นตัวเลขที่น่ากลัวอย่างไม่ต้องสงสัย

เรียกได้ว่าเป็นจักรวรรดิที่เป็นที่ฝันใฝ่ของผู้ที่ต้องการจะเดินทางสายบันเทิงทั้งเพลง ภาพยนตร์

ก็ไม่แปลกที่จะมีคนทำอาชีพไอดอล ดารา นักแสดงอยู่มากมายจนแทบจะเดินชนกัน

เด็กหนุ่มนัยน์ตาสีเทาอ่อนยิ้มอย่างจนใจ ถึงแม้ชาติก่อนเขาจะเป็นวิศวกรที่ดูดี ร้องเพลงในคาราโอเกะก็ไม่แย่ หน้าตาก็ไม่เลวจัดว่าเป็นระดับท็อป ๆ ของบริษัท แต่อย่างไรมันก็ห่างจากการเป็นไอดอลอยู่มากโข ถ้าไม่มีระบบมาช่วยโกงอีกทางหนึ่ง และเพราะมันเป็น Rank A ที่ดีกว่าให้ไปเป็นเกษตรกรแล้วล่ะก็ เขาก็คงไม่มีทางเลือกอาชีพนี้ในโลกต่างแดนแน่นอน

เซนเดินมาหยุดที่สวนแห่งหนึ่งระหว่างทางที่จะเดินไปยังย่านบันเทิง ที่นี่เป็นสวนที่สาธารณะที่มีผู้คนไม่มากนัก เพียงเดินวนแป๊บเดียวก็หาเก้าอี้ยาวนั่งพัก พร้อมกับเลื่อนหาคลิปวีดีโอที่กำลังเป็นเทรนด์ใน SEE เลือกที่ดูเต้นง่ายและมีคนหล่อ ๆ สวย ๆ เล่นจนแผ่นเสียงเป็นไวรัลเข้าไว้ อย่างไรแอปพลิเคชันนี้ก็เหมือนกับติ๊กต็อกอย่างมาก อัลกอริทึ่มก็น่าจะไม่ต่างกันเท่าไหร่

ไอ้เรามันก็ตัวท็อปด้านเทคโนโลยีซะด้วย เรื่องแค่นี้ กล้วยๆ!

อันดับแรกมีของดีก็ต้องขาย ด้วยหน้าตาวิชวลผิดมนุษย์มนานี่ ถ้าบังเอิญไปฟีดที่แอคใครอย่างน้อยก็ต้องหลงดูคลิปบ้างแหละน่า

อันดับสอง กล้องต้องไม่ถือไกลเกินไป รู้จักมุมที่ดูดี

อันดับ 3 เลือกท่าเต้นก็เต้นง่าย ๆ แต่ติดไวรัลก็พอ ยังไงเราก็เน้นขายหล่อไปวัน ๆ อยู่แล้ว

แต่พูดก็พูดเถอะ เอาเข้าจริงแล้วถึงปกติที่โลกก่อนเขาจะเคยเต้นติ๊กต็อกมาบ้างแต่ก็เรียกได้ว่าเลเวลกาก ๆ กากแบบ อืม เห็นแล้วชาวบ้านน่าจะเลื่อนผ่านแบบไม่มีอะไรน่าจดจำ

แล้วมาดูตอนนี้สิ! เพียงแค่ใช้หน้าตาและทักษะที่อาชีพไอดอลจากระบบให้ เพียงแค่ดูท่าครั้งเดียวเด็กหนุ่มก็จำท่าได้ทันที

จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าเทพขึ้นมาเลยแฮะ

คงเพราะมีแต่ท่ามือและงับคำร้องแค่ไม่กี่คำ เรียกได้ว่าเป็นแชลเลนจ์ที่ง่ายเป็นอย่างมาก

ยิ่งพอเริ่มอัดคลิป เซนกลับรู้สึกว่าทั้งการเล่นหูเล่นตา การเต้นด้วยท่ามือมันไหลลื่นราวกับเขาเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ จังหวะยิ้มก็ยิ้มได้อย่างมีเสน่ห์ จังหวะเต้นก็ลงจังหวะ จังหวะที่ต้องเลื่อนวีดีโอเข้ามาใกล้มุมข้าง ที่เป็นมุมที่เซนดูดีเป็นอย่างมากก็ทำได้อย่างไร้ที่ติ

เรียกได้ว่าเทค2เทคก็ผ่าน หล่อทะลุแอปแบบโนฟิลเตอร์

นี่สินะ ทักษะของไอดอล Rank A

เด็กหนุ่มพิมพ์แคปชั่นลงไปง่าย ๆ แค่อิโมจิตัวเดียวเลือกติดแท็กที่กำลังไวรัลของแอปสัก 2 แท็ก ก่อนจะโพสต์อย่างชิว ๆ

ในที่สุดแอคเค้าน์ NARINZ ใน SEE ก็ได้เปิดตัวคลิปแรกง่ายๆ แบบนี้

“ขอโทษนะครับ พี่เป็นตากล้องที่ลงคลิปใน SEE ไม่ทราบว่าพี่จะขออนุญาตถ่ายรูปน้องได้ไหม?”

เสียงหนึ่งดังขึ้นตรงหน้า พร้อมกับชายรูปร่างสูงโปร่งที่น่ากลัวจะสูงกว่าเซนช่วงใหญ่จะก้มลงมาพร้อมกับยื่นหน้าจอกล้องที่ปรากฏภาพที่แอบถ่ายเขากำลังเต้นจากมุมไกล ๆ ให้เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้สาธารณะดูไปด้วย

เซนเงยหน้ามองคนตรงหน้าที่จู่ ๆ ก็เข้ามาใกล้อย่างงง ๆ ใบหน้าของคนตรงหน้าหล่อเหลา ดวงตาเรียวคมสีดำขลับฃ่อนอยู่ในแว่นกรอบทรงสี่เหลี่ยม แม้จะไม่ได้แต่งหน้าแต่งตัวอะไรมากกว่าเสื้อยืดกางเกงยีนส์ แต่คนแบบนี้ดูน่าจะไปเป็นนายแบบมากกว่าจะมาเป็นตากล้องมากกว่านะ

“ผมเหรอครับ?”

ตากล้องหนุ่มยังยืนบังแสงอาทิตย์กึ่ง ๆ จะคล่อมร่างที่นั่งอยู่ที่ม้านั่ง คลี่ยิ้มที่มุมปากเล็ก ๆ ที่พาให้คนไม่อาจปฏิเสธเขาได้

“ใช่ครับ รูปที่พี่ถ่ายให้เราไม่เลวเลยใช่ไหมล่ะ ถ้าพี่จะขอถ่ายรูปเราเพิ่มแล้วลงใน SEE จะได้ไหม ขอเวลาแค่ 5นาทีเท่านั้นไม่รบกวนน้องแน่นอนครับ”

เซนครุ่นคิดในใจแป๊บนึง พร้อมกับยกมือกดดูรูปตัวเองในกล้องของอีกฝ่ายอย่างสนใจ

ไม่เลวแฮะ ยังไงเราก็ต้องการเป็นที่สนใจของคนทั่วไปอยู่แล้ว ให้เขาถ่ายรูปสักหน่อยก็คงไม่แย่

“ได้สิครับ แต่ผมไม่ใช่มืออาชีพไม่ถนัดถ่ายรูปหรอกนะ ยังไงพี่ก็ช่วยบอกหน่อยแล้วกันนะครับ” พูดพลางเงยหน้าขึ้นจากหลังกล้อง ดวงตากลมพลันโตขึ้นนิดหน่อยที่เห็นอีกฝ่ายก้มเข้ามาใกล้กับเขาห่างกันไปเพียงแค่คืบ - 2 คืบ ริมฝีปากก็เกือบจะชนกับใต้คางของเขาแล้วก็ขยับถอยออกอย่างรวดเร็ว

หมอนี่จะใกล้เพื่อ?

“ไว้ใจพี่ได้เลย” ช่างภาพหนุ่มยกตัวขึ้นพร้อมกับดึงกล้องโปรตัวใหญ่กลับคืนด้วยท่วงท่าสบายๆ พร้อมกับรอยยิ้มกว้าง เหมือนเมื่อครู่เป็นความบังเอิญที่คนแปลกหน้าเข้าใกล้กันเท่านั้น หลงเหลือเพียงแต่กลิ่นสนป่าที่ลอยวนในอากาศ

เซนยิ้มตอบ พร้อมกับเก็บมือถือเครื่องใหม่เอี่ยมลงในกระเป๋ากางเกง

“เดี๋ยวเราเดินมาตรงนี้หน่อยนะครับ ตรงมุมนี้สวนค่อนข้างสวยเลย น่าจะเหมาะกับการถ่ายรูป” เขาจัดแจงพร้อมกับเดินนำไปอย่างคล่องแคล่ว

พอยืนเทียบกันแบบนี้ก็พลันทำให้เซนรู้สึกว่าส่วนสูง 175 นี่มันเตี้ยไปจริงๆ แค่กับผู้ชายคนนี้เด็กหนุ่มก็สูงเพียงแค่ไหล่ของเค้าเท่านั้น

เห็นทีจะต้องดูแลเรื่องสารอาหารของตัวเองให้มากขึ้นแล้วล่ะ

“โอเค โพสต์ได้เลยครับ สบายๆ”

ใบหน้าคมมองภาพของเซนผ่านเลนส์ แสงยามเย็นที่เหลืองทองตกกระทบใบหน้าเล็กที่มีกลิ่นอายผสมผสานระหว่างใบหน้าแบบเอเชียและตะวันตกได้อย่างสมบูรณ์แบบ ริมฝีปากสีแดงเรื่อแย้มยิ้มส่งตอบกลับมา พาให้รู้สึกว่าโลกใบนี้หม่นแสงลง มีเพียงร่างของเด็กหนุ่มตรงหน้าที่สว่างไสวราวกับพระอาทิตย์

“แบบนี้เหรอครับ”

เสียงนุ่มที่เค้ากับใบหน้างามละเอียดนั้นตอบกลับมา เขาเพียงแค่เอามือยกขึ้นปิดปาดตัวเองเอาไว้ เหลือเพียงดวงตากลมที่จับจ้องมาคล้ายกับจะพุ่งทะลุเลนส์

“ครับ ดีมาก เปลี่ยนท่าไปเรื่อย ๆ”

ตากล้องหนุ่มกดปุ่มถ่ายรัวราวกลับไม่อยากสูญเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียวไปอย่างสูญเปล่า รูปภาพของเด็กชายตรงหน้าเปล่งประกายเคลื่อนไหวผ่านมุมมองกล้องตัวใหญ่อย่างมีชีวิตชีวา

“ผมไม่รู้จะทำท่าไหนแล้ว”

น้ำเสียงคล้ายตัดพ้อนั้นพาให้ใจของชายหลังกล้องอ่อนยวบ อดไม่ได้จะลดกล้องลงแล้วมองคนตรงหน้าด้วยตาเนื้อ

“งั้นยิ้มกว้าง ๆ ให้พี่แล้วกันครับ เวลาเรายิ้มเราน่ารักมาก”

พูดจบก็หลบสายตากลับไปมองเลนส์กล้องราวกับไม่กล้ามองอีกฝ่ายตรง ๆ

“งั้นผมจะทำเป็นเมาอากาศละกัน” พูดจบเด็กหนุ่มตรงหน้าก็หัวเราะคิกราวกับตลกกับสิ่งที่ตัวเองจะทำ

โตป่านนี้แล้ว ยังต้องมาทำตัวน่ารักอะไรแบบนี้ สภาพนะ

หมดกันชีวิต

แต่ทางช่างกล้องหนุ่มย่อมไม่ล่วงรู้เสียงภายในใจของเด็กหนุ่มที่เขากำลังถ่ายรูป

สิ่งที่เขาเห็นผ่านเลนส์มีเพียงใบหน้าน่ารักยิ้มกว้างมาทางตากล้องหนุ่ม ดวงตากลมสีเทาอ่อนไม่ได้คมกริบเหมือนตอนแรก แต่กลับหวานละไมเหมือนกำลังยืนอยู่ตรงหน้ากับคนรัก มุมปากกระจับยิ้มเล็ก ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ยิ้มกว้างราวกับกำลังทั้งดีใจทั้งขวยเขินไปพร้อมกัน

เป็นครั้งแรกที่ออกมาถ่ายภาพสตรีทแล้วเขารู้สึกว่าหัวใจพลันเต้นเร็วขึ้น

“เอ่อ คือว่าพี่ขอ SEE ของเราไว้ได้ไหม” หลังจากที่ถ่ายรูปกันมาพักใหญ่ ชายหนุ่มก็จำเป็นต้องลดกล้องลงอย่างไม่เต็มใจ แต่การจะถ่ายรูปสตรีทนั้นโดยส่วนมากก็จะไม่รบกวนแบบมากเกินกว่า 5 นาทีอยู่แล้ว แต่วันนี้เค้ากลับถ่ายไปเยอะกว่าทุกครั้งแทบจะเรียกได้ว่าถ่ายนานที่สุดกว่าทุกคนแล้วด้วยซ้ำ

ดวงตากลมนั้นมองมางง ๆ มองไปคล้ายลูกกวางกำลังหลงทางพาให้เขาอยากหยิบกล้องมาถ่ายเก็บเอาไว้จริงๆ

“พี่จะได้แท็กเราไปตอนลงคลิปน่ะ”

“อ้อ” เด็กหนุ่มตรงหน้าแบมือขอมือถือของตากล้องหนุ่มมาแอดเพื่อน ซึ่งเขาเองก็ยื่นไปให้ด้วยความเต็มใจ

“ว่าแต่เราชื่ออะไรนะครับ พี่จะได้เรียกถูก”

คนตรงหน้าพลันชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยื่นมือถือคืนเค้า

"เรียกว่า ริน ก็ได้ครับ"

โปรดติดตามตอนต่อไป 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ผมทะลุ​มิติ​ไปเป็น​ไอดอล​ (ก็ได้วะ)​   บทที่ 7 ชีวิตในโรงเรียน

    “คุณแม่คะ” เด็กหญิงผมบลอนด์ยาวเป็นลอนวิ่งเข้ามาที่ห้องนอนของพ่อแม่ที่ชั้น 3 พร้อมกับมุ่ยหน้าด้วยความน้อยอกน้อยใจ “เราจะปล่อยมันไปแบบนี้จริง ๆ เหรอคะ”“พี่ของลูกน่ะเหรอ” ผู้เป็นแม่ลูบผมปลอบประโลมลูกสาวคนเล็กในวัย12 ปีของหล่อนอย่างแผ่วเบา“พี่อะไร เขาไม่ใช่พี่ชายของเอรินสักหน่อย” เธอสะบัดหน้าพลางกอดอกอย่างไม่ยินยอม“ถึงไม่ใช่พี่แท้ ๆ แต่เขาก็มีศักดิ์เป็นพี่ของลูกนะ เอริน”“พี่ชายของเอรินมีแค่พี่แอชตันคนเดียว เอรินไม่มีพี่เป็นคนขี้แพ้น่ารังเกียจแบบนั้น” เด็กสาวในวัยแรกแย้มยืนกลางนาตาลีจุ๊ปากให้ลูกสาวเงียบเสียง “ไม่เอาสิลูก อย่าเสียงดังไป ไม่เห็นเหรอว่าพ่อกำลังให้ท้ายพี่ของลูกอยู่ ขืนพ่อเข้ามาได้ยินเข้า ค่าขนมเดือนนี้จะถูกยึดเอาได้นะ”เมื่อคิดถึงเรื่องเงินไปโรงเรียนก็ยิ่งเจ็บใจ วัน ๆ หนึ่งเธอกับพี่ชายแบ่งกันคนละ 14-15 เหรียญ วันนี้ถูกลดกลับไปเป็น 10 เหรียญอย่างเคย มันจะไปพออะไรเล่าคนแบบนั้นได้เงินไปวันละเหรียญก็ดีเท่าไหร่แล้ว นี่ยังจะมาแฉพวกเธออีกนาตาลีกระซิบลงข้างใบหูที่อ่อนนุ่มของเด็กสาว‘อดทนไว้นิดนะลูก จนกว่ามันจะโอนหุ้นบริษัทของมันมาเป็นของลูกค่อยจัดการ ตอนนี้ทำดีกับมันไว้ก่อนจะได

  • ผมทะลุ​มิติ​ไปเป็น​ไอดอล​ (ก็ได้วะ)​   บทที่ 6 สุ่มอาชีพมาเป็นไอดอลงั้นเหรอ ไอดอลก็ไอดอลสิวะ!

    หลังจากที่วางระเบิดลูกใหญ่ให้แม่เลี้ยง สายตาตอนหล่อนมองมาก็ยิ่งเย็นชาขึ้นกว่าเดิม แม้จะดูเหมือนว่าเธอสงบเสงี่ยมมากขึ้นแต่รอยยิ้มนั่นกลับส่งไปไม่ถึงดวงตาถึงอย่างนั้นเซนก็ไม่แคร์หรอก ถ้าเค้ามัวแต่คิดเล็กคิดน้อยอยู่ก็คงไม่ลงมือฉีกหน้าน้านาตาลีเมื่อวานหรอกจริงไหมใครจะไปคิดว่าแค่ย้ำว่าบ้าน ‘ยากจน’ ต้อง ‘ประหยัด’ หลาย ๆ ที ผลตอบรับของพ่อเจ้าของร่างเดิมจะดีขนาดนี้ช่างเป็นผู้ชายที่หน้าบางอย่างคาดไม่ถึงแต่แบบนี้ก็ดีแล้ว อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่าคนที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จยังไม่ได้ถูกเปลี่ยนมือไปทางแม่เลี้ยง และถ้าพ่อของเค้ายังคงมีนิสัยเป็นคนไม่ยอมเสียหน้าและโลภมากแบบนี้ การใช้ชีวิตในตระกูลดักกลาสก็อาจจะไม่แย่เท่าที่ผ่านมาดูสิ นอกจากพ่อจะเรียกน้านาตาลีไปคุยอย่างไม่เคยทำมาก่อนแล้ว แพลนที่จะไปเยี่ยมตายายกำมะลอของเซนกลับพับไปดื้อ ๆแถมยังสวมบทบาทเป็นพ่อที่ใจดี ทำเรื่องลาหยุดเรียนให้เซน 1 วัน พร้อมพาเขาไปเปิดบัญชีโดยให้เงิน 30,000 เหรียญเงินเป็นเงินขวัญถุงชดเชยจำนวนเงินที่หายไปตลอด 5-6 ปีที่ผ่านมา พร้อมตบท้ายด้วยการพาไปซื้อแล็ปท็อป 1 เครื่อง ก่อนจะขอตัวไปประชุมตอนบ่ายเวลาที่เหลืออีกครึ่งวันเซนจึงจัดแ

  • ผมทะลุ​มิติ​ไปเป็น​ไอดอล​ (ก็ได้วะ)​   บทที่ 5 ภารกิจกับบทลงโทษที่แสนจะโหดร้าย

    // สถานีต่อไป แยกสะพานเหลือง //เสียงรถไฟฟ้าใต้ดินแจ้งเตือนขึ้นท่ามกลางผู้คนในโบกี้ที่คุยกันจอแจเบียดเสียด เด็กหนุ่มยืนกอดอกพิงผนังเย็นเฉียบด้วยท่วงท่าสบาย ๆ ตอนนี้เขากลับมามีผมยาวหน้าม้าปิดหน้าอีกครั้ง แว่นตาเห่ย ๆ ที่แม่ลูกพวกนั้นให้ใส่ก็ใส่เอาไว้เช่นเดิม พร้อมกับเสื้อผ้าที่ซักจนสีซีดจางเขาลงทุนซื้อวิกผมราคาสูงที่ถ้าไม่มามองใกล้ ๆ ก็ยากที่จะมองออกว่าเป็นวิก ไหนจะลงมือเซตให้ดูเหมือนคนไม่ตั้งใจดูแลตัวเองอีก โชคดีที่เจ้าของร่างนี้เป็นลูกรักพระเจ้า ขนาดไม่ดูแลตัวเองผมก็ยังนุ่มลื่นอยู่เลย เพราะงั้นพวกนั้นถึงพยายามให้เซนไว้ผมให้ปิดหน้าตาเข้าไว้ ดูเอาเถอะ หัวยุ่งได้แป๊บเดียวสักพักผมก็คลายมาตรงสวยอยู่ดี// ภารกิจเริ่มต้น เป็นที่สนใจของคนทั่วไป 2000 คน สำเร็จเรียบร้อยแล้ว ได้รับแต้มทักษะ 1 แต้ม กับสารานุกรมดนตรี 2 โลก ต้องการรับหรือไม่เนี๊ยว //เสียงของเจ้าเหมียวสีขาวดังขึ้น โดยที่เจ้าตัวจ้อยนอนกลิ้งไปมาในจอโฮโลแกรมอย่างเกียจคร้าน‘หือ เคลียร์แล้วเหรอ ไวกว่าที่คิดแฮะ’ เด็กหนุ่มตอบด้วยวิธีคิดในใจเช่นเคย ‘งั้นรับเลยแคนดี้’เซนล้วงมือถือขึ้นมาเปิดแอป SEE ดู คลิปแรกและคลิปเดียวตอนนี้มันมีคนวิวไ

  • ผมทะลุ​มิติ​ไปเป็น​ไอดอล​ (ก็ได้วะ)​   บทที่ 4 ได้เวลาชอปปิง

    “สวัสดีค่ะ เชิญชมด้านในก่อนได้นะคะ”พนักงานหญิงที่อยู่หน้าร้านขายมือถืออย่างเป็นทางการของแบรนด์ที่มีหน้าตาคล้ายแอปเปิลกัดเอ่ยขึ้น พร้อมกับผายมือไปด้านในอย่างกระตือรือร้นในดาวอความารีนนี้ Orange เป็นหนึ่งในยี่ห้อมือถือที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในจักรวรรดิกริม และมียอดจำหน่ายอยู่ในระดับ Top3 ในทุกทวีปเด็กหนุ่มค่อย ๆ ดูมือถือที่ที่เขาหมายตา ก่อนจะจับเครื่องพลิกหน้าหลังลองน้ำหนักมือ เขาตัดสินใจมาตั้งแต่อยู่บ้านแล้วว่าจะไม่ซื้อมือถือที่มีราคาแพงที่สุด ขอเพียงเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดในราคากลาง ๆ ก็พอ เพราะแค่นี้ Orange ก็เป็นมือถือที่มีราคาแพงกว่าคู่แข่งไม่น้อย“รุ่นนี้ตอนนี้กำลังมีโปรโมชั่นนะคะลูกค้า ผ่อน 0% 10 เดือน หรือถ้าจ่ายสดจะลดลงจาก 3259 เหรียญ เหลือ 3000 เหรียญเงินถ้วน แถมฟรีหูฟัง orange ด้วยค่ะ”“งั้นผมเอารุ่นนี้สีดำ 1 เครื่อง จ่ายสดครับ”เธอได้ยินดังนั้นก็ยิ้มกว้างอย่างยินดีเมื่อเจอลูกค้าตัดสินใจเร็วไม่เรื่องมาก“ได้ค่ะลูกค้า ตามมาชำระเงินและลองเครื่องตรงที่พักรับรองด้านนี้เลยค่ะ” กล่าวพร้อมกับเดินนำไปที่โซนรับรองพิเศษที่ยังว่างอยู่เซนยื่นเงินสด 3000 เหรียญเงินให้เธอ หลังจากที่เดินมานั่ง

  • ผมทะลุ​มิติ​ไปเป็น​ไอดอล​ (ก็ได้วะ)​   บทที่ 3 ไดอารี่ของแม่

    // นายท่านต้องการเปิดกล่องของขวัญต้อนรับชาวโลก ระดับเงิน 4 กล่อง เลยไหมเนี๊ยว //‘เปิดเลย เจ้าแคนดี้’ทันในนั้นกล่อง 3 มิติที่ลอยอยู่ด้านหน้าจอโฮโลแกรมก็หมุนวนเป็นวงเล็กน้อย แสงสีเงินสะท้อนออกมาจากตัวกล่องทั้ง 4 จนชายหนุ่มต้องหยีตา// กล่องที่ 1 ท่านได้รับทักษะเรียกใช้ : ดวงตาแห่งความจริง ความหายากระดับ Sกล่องที่ 2 ท่านได้รับทักษะติดตัว : อ่านแล้วจำ ความหายากระดับ Dกล่องที่ 3 ท่านได้ปลดล็อกสร้อยข้อมือมิติใส่ของ ความจุ 10 ช่องกล่องที่ 4 ท่านได้รับแต้มทักษะ 5 แต้ม //แสงสีเงินที่ระยิบระยับนั่นค่อย ๆ เคลื่อนตัวเขาหาเด็กหนุ่มที่ผอมจนลมพัดมาแทบจะปลิวได้ ก่อนที่ทักษะทั้ง 2 จะพุ่งเข้ามาในร่างกายของเขาราวกับดาวตกหากแสงอีกเส้นหนึ่งกลับเบนไปที่สร้อยข้อมือหินแล้วพุ่งลงไปที่หยกสีเขียวแอปเปิลจนเกิดประกายแสงสีเขียวสว่างคำอธิบายทักษะดวงตาแห่งความจริง ความหายากระดับ SLevel 1 : สามารถตรวจสอบวัตถุ คน สัตว์ สิ่งของ ในระยะรัศมี 3 เมตร (สามารถอัปเกรดได้)คำเตือน : ไม่สามารถตรวจสอบคนที่มี Rank อาชีพสูงกว่าท่านได้ หรือสิ่งของที่มีระดับสูงกว่าท่าน 2 ระดับได้ทักษะอ่านแล้วจำ : ความหายากระดับ DLevel 1

  • ผมทะลุ​มิติ​ไปเป็น​ไอดอล​ (ก็ได้วะ)​   บทที่ 2 อาชีพไอดอล Rank A

    หลังจากที่ตบตีกับป้าแม่บ้านของตัวเองก็ผ่านมา 2 วันอย่างที่เรียกได้ว่าพลิกฟ้าคว่ำดินที่แท้จริง พอทำใจได้แล้วว่าตอนนี้เขาทะลุมิติมาอีกโลกใบหนึ่ง นายช่างหนุ่มก็อ่านทุกอย่างที่มีในห้องเพื่อทำความเข้าใจกับเซนคนนี้ให้มากขึ้นโชคดีจริง ๆ ที่เด็กหนุ่มนี่จดไดอารี่เอาไว้ด้วย พอผนวกกับความทรงจำต่าง ๆ ที่ได้รับ ตอนนี้เขาก็เข้าใจเจ้าเด็กที่กำลังจะอายุ 18 อีกไม่นานได้อย่างถ่องแท้วันนี้เป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่บ้านตระกูลดักกลาส 4 คน คาร์ค พ่อของเจ้าของร่างนี้ คุณน้านาตาลี แม่เลี้ยงและลูก ๆ อีก 2 คนก็เดินทางไปพักตากอากาศที่ทะเลเมืองครินตันที่ไม่ไกลจากเมืองโบรอนเท่าไหร่นัก และแน่นอนว่าพวกเขาไม่มีทางให้เซนไปด้วย เหลือแต่ป้าแคทเทอรีนที่ตอนนี้ดูสับสนแต่ก็ยังโทรไปหาแม่เลี้ยงนั่น พร้อมกับกระซิบความเปลี่ยนไปของเขาที่กล้าเข้าไปรื้อของในตู้เย็นมาทำกินอย่างอุกอาจก็แค่ของกินไหม? ทำไมจะกินไม่ได้ล่ะคนพวกนี้จะพิลึกเกินไปแล้วเอาเถอะเซนเองก็รู้ดีว่าถ้าเป็นเจ้าของร่างคนเก่าจะไม่ทำแบบนี้แน่นอน เขาจะรอให้ป้าแคทเทอรีนทำอาหารที่คุณภาพแย่ ๆ มาให้ แล้วก็กินไปอย่างไม่มีปากเสียง เอาผมปิดหน้าปิดตาเพราะพี่น้องคู่นั้นสั่งว่

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status