Share

บทที่ 3 ไดอารี่ของแม่

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-02 15:52:49

// นายท่านต้องการเปิดกล่องของขวัญต้อนรับชาวโลก ระดับเงิน 4 กล่อง เลยไหมเนี๊ยว //

‘เปิดเลย เจ้าแคนดี้’

ทันในนั้นกล่อง 3 มิติที่ลอยอยู่ด้านหน้าจอโฮโลแกรมก็หมุนวน

เป็นวงเล็กน้อย แสงสีเงินสะท้อนออกมาจากตัวกล่องทั้ง 4 จนชายหนุ่มต้องหยีตา

// กล่องที่ 1 ท่านได้รับทักษะเรียกใช้ : ดวงตาแห่งความจริง ความหายากระดับ S

กล่องที่ 2 ท่านได้รับทักษะติดตัว : อ่านแล้วจำ ความหายากระดับ D

กล่องที่ 3 ท่านได้ปลดล็อกสร้อยข้อมือมิติใส่ของ ความจุ 10 ช่อง

กล่องที่ 4 ท่านได้รับแต้มทักษะ 5 แต้ม //

แสงสีเงินที่ระยิบระยับนั่นค่อย ๆ เคลื่อนตัวเขาหาเด็กหนุ่มที่ผอมจนลมพัดมาแทบจะปลิวได้ ก่อนที่ทักษะทั้ง 2 จะพุ่งเข้ามาในร่างกายของเขาราวกับดาวตก

หากแสงอีกเส้นหนึ่งกลับเบนไปที่สร้อยข้อมือหินแล้วพุ่งลงไปที่หยกสีเขียวแอปเปิลจนเกิดประกายแสงสีเขียวสว่าง

คำอธิบาย

ทักษะดวงตาแห่งความจริง ความหายากระดับ S

Level 1 : สามารถตรวจสอบวัตถุ คน สัตว์ สิ่งของ ในระยะรัศมี 3 เมตร (สามารถอัปเกรดได้)

คำเตือน : ไม่สามารถตรวจสอบคนที่มี Rank อาชีพสูงกว่าท่านได้ หรือสิ่งของที่มีระดับสูงกว่าท่าน 2 ระดับได้

ทักษะอ่านแล้วจำ : ความหายากระดับ D

Level 1 : สามารถทำให้ท่านอ่านหนังสือและจดจำได้อย่างไม่มีผิดพลาด เพิ่มความเร็วจากการอ่านเดิม 10%

โอ้ นี่มันของดีทั้งนั้นเลยนี่น่า แถมทักษะดวงตาแห่งความจริงถึงระดับจะไม่สูงแต่ความหายากระดับ S โคตรจะเจ๋ง

ไม่แปลกใจที่ระบบให้ของดีขนาดนี้ อาจเป็นเพราะว่าเราเป็นคนแรกที่ทะลุมิติมาที่ดาวอความารีนแน่ ๆ

ชายหนุ่มเลื่อนดูของรางวัลหลายรายการพร้อมกระตุกรอยยิ้ม ไหนจะช่องเก็บของ ไหนจะแต้มทักษะ เห็นแบบนี้อยากจะเปิดอีกหลาย ๆ กล่อง วันที่สุ่มแล้วไม่เกลือแบบนี้ไม่ได้มีบ่อย ๆ นี่นะ

เซนหมุนสร้อยหินหยกที่ข้อมือ ก่อนจะลองเอานิ้วไปลองแตะที่เม็ดหยกดู พลันปรากฏหน้าจอโฮโลแกรมเหมือนหน้าจอช่องเก็บของในเกมขึ้นมา พร้อมกับช่องว่าง 10 ช่อง

ระบบปลดล็อกสร้อยข้อมือมิติใส่ของให้แบบนี้

งั้นก็แสดงว่า ที่แท้หยกของคุณย่าก็คือสร้อยเก็บของในตำนานสินะ!

เขาดีใจจนแทบคลั่ง หมุนเก้าอี้คอมพิวเตอร์เป็นวงกลมหลายรอบพาให้แม่บ้านสาวที่แอบมองอยู่พึมพำด้วยความงงงวยว่า

“ท่าจะบ้าไปแล้ว”

เสียงนั้นไม่ดังและไม่เบาแต่ก็ทำให้เซนรู้ตัว ตอนนี้เรื่องราวของเขาไม่เหมือนคนปกติเท่าไหร่นัก ขืนยังอยู่ในที่ที่ให้แม่บ้านร่างท้วมเกาะติดได้ หล่อนก็อาจจะเก็บไปฟ้องคุณน้าอีกก็ได้

คิดได้ดังนั้นก็ปิดคอมพิวเตอร์ ไม่ลืมลบข้อมูลการท่องอินเทอร์เน็ตรวมไปถึงร่องรอยทุกอย่างที่เซนเล่นในระยะเวลา 2 วันนี้อย่างเกลี้ยงเกลา พร้อมกับเดินลงไปที่ห้องของตัวเองอย่างไม่รอช้า

เจ้าแมวตัวน้อยกระโดดโลดเต้นตามอย่างกับลูกแมวตัวน้อยแสนซน ก่อนก็วิ่งหายไปพร้อมกับคาบกระดาษมาแผ่นหนึ่ง รายละเอียดหน้าจอโฮโลแกรมสีเขียวด้านหน้าพลันเปลี่ยนไปทันทีพร้อม ๆ กับที่เขาเข้ามานั่งในห้องเรียบร้อยแล้ว

// ภารกิจเริ่มต้น : เป็นที่สนใจของคนทั่วไป 2000 คน ด้วยเสียงเพลง/การเต้น (เวลาจำกัด 72 ชั่วโมง)

เริ่มนับเวลาถอยหลัง 2 วัน 23 ชั่วโมง 59 นาที //

‘ในที่สุดก็ต้องมาสินะ ภารกิจแรก แต่เดี๋ยวสิ เริ่มนับเวลาถอยหลังเลยเหรอแคนดี้!’

เจ้าแมวน้อยเอียงคอมองชายหนุ่มราวกับจะถามว่า

‘ไม่เริ่มตอนนี้ให้เริ่มตอนไหน’

เซนรู้สึกร้องไห้ไม่ออกหัวเราะไม่ได้ เขาเบือนหน้าไปมองนาฬิกาที่บอกเวลาเที่ยงตรง ในตอนนี้เขาไม่มีเงินเลยสักเหรียญ จะไปทำภารกิจเริ่มต้นยังไงกันเล่า

ชายหนุ่มเดินงุ่นง่านอยู่ในห้องที่แค่ก้าว 3-4 ก้าวก็เดินได้ทั่วทั้งห้องแล้ว ในช่วงเวลา 2 วันที่ได้ทะลุมิติมาเขาก็สำรวจห้องของเจ้าของร่างครบทุกซอกทุกมุมแล้ว รู้ซึ้งถึงความยากจนของเขาได้แจ่มแจ้ง

อืม จะว่าไป เราพึ่งได้ทักษะดวงตาแห่งความจริงแห่งความจริงมานี่น่า ถึงจะใช้ได้แค่รัศมี 3เมตร แต่กับห้องเท่าขนาดเท่าแม่บ้านอยู่แบบนี้ก็มากเกินพอ

เซนกระซิบพูดกับแมวน้อยในหัวทันที ‘แคนดี้ ใช้ดวงตาแห่งความจริงสแกนห้องนี้หน่อย มีอะไรที่แอบซ่อนไว้อยู่ไหม’

แมวน้อยกระโดดไปตะครุบปุ่มเรียกใช้ ก่อนที่ภาพเลเซอร์สแกน 3 มิติจะปรากฏขึ้นรอบห้องแบบ 360 องศาทันที

เขาสังเกตทีละจุดอย่างจริงจัง พลันสังเกตเห็นกล่องหนึ่งใต้เตียงที่ชายหนุ่มจำได้ดี นั่นเป็นกล่องไม้เรียบ ๆ กล่องหนึ่งของแม่เซนในดาวดวงนี้ วันก่อนเขาเองก็เคยเลื่อนออกมาดูแล้วแต่นอกจากรูปภาพและไดอารี่ของผู้เป็นแม่ก็ไม่มีอะไรมากกว่านั้น

แต่คราวนี้ด้วยอิทธิพลของทักษะดวงตาแห่งความจริง ชายหนุ่มกลับเห็นว่าที่แท้กล่องไม้นั้นมีชั้นลับซุกซ่อนอยู่ เขารีบเปิดเอาข้าวของออกมากองไว้บนเตียง อดไม่ได้จะหยุดดูรูปพ่อแม่ลูกที่กำลังแย้มยิ้มด้วยความสุขนั่นไม่ได้

เด็กผู้ชายตัวเล็กคนนั้นน่าจะอายุเพียง 5 ขวบนิดๆ น่าเสียดายขากลับจากการไปเที่ยวครั้งนั้นรถก็ประสบอุบัติเหตุ และแม่ของเจ้าของร่างก็จากไปไม่กลับมาตั้งแต่วันนั้น รูปเซตนี้จึงไม่เคยปรากฏวางให้ใครเห็น จนเจ้าของร่างโตขึ้นพอรู้ความจึงพรินต์แล้วเอามาเก็บไว้ในกล่องไดอารี่ที่แม่ของเขาทิ้งเอาไว้

หลังจากเอาของทั้งหมดออกแล้ว กล่องไม้ก็ยังมีน้ำหนักมากกว่าปกติจริง ๆ ทักษะดวงตาแห่งความจริงไม่ได้หลอกลวง สมกับทักษะหายากระดับ S

ชายหนุ่มยกกล่องขึ้นมาเพ่งพิศ มองซ้ายมองขวาก่อนจะย้ำทักษะดวงตาอีกความจริงอีกหน พลันเห็นกลไกเล็ก ๆ ที่อยู่ข้างกล่องเรียบเนียนไปกับลายของไม้

เขาเอามือกดลงไปอย่างไม่ลังเลใจ พลันปลายกลไกก็คล้ายกับเข็มเล่มเล็กทิ่มที่ตรงปลายนิ้วของเซนจนเจ้าตัวต้องชักนิ้วกลับ เลือดสีแดงสดอาบย้อมเข็มเล่มเล็กดูดกลืนเลือดสีเข้มเข้าไปจนหมดจด ก่อนที่ด้านในกล่องไม้จะส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดเบา ๆ เปิดเผยกล่องไม้เล็ก ๆ ด้านใน สมุดที่คล้ายไดอารี่ของแม่เจ้าของร่างด้านนอกและที่สำคัญซองเอกสารที่ผนึกเอาไว้อย่างดี

// กล่องสลักเลือดกักเมฆา ระดับ S

คำอธิบาย : ค่ายกลสำหรับเก็บซ่อนวัตถุอันชื่อดังของตระกูลกู้ หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลกู้หรือผู้เป็นเจ้าของย่อมยากจะเห็นทางเปิดกลไกได้ โดยส่วนมากจะใช้เลือดของเจ้าของเล็กน้อย หรือเลือดของทายาทผู้สืบตระกูลของเจ้าของเท่านั้นจึงจะเปิดกล่องสลักเลือดได้

คำเตือน : ไม่สามารถฝืนเปิดด้วยกำลัง ระวังอาวุธที่ซ่อนอยู่บรรจุด้วยพิษร้ายแรง //

พลันทักษะที่เขาเรียกใช้ก็เด้งข้อความเตือนขึ้น พอเห็นคำเตือนชายหนุ่มก็รู้สึกเหงื่อเม็ดโป้งไหลลงมาที่ไรผมนุ่มทันที

นี่ถ้าเขาไม่ได้ใช้ร่างของลูกของเธออยู่ละก็ ตอนนี้ไม่ใช่ว่าเซนได้ตายอีกรอบที่ 2 แล้วเหรอ

อันตรายเกินไปแล้ว

เซนเปิดกล่องไม้ออกอย่างระมัดระวังก็พบกับธนบัตร 1,000 เหรียญทองกว่า 30 ใบ นับเป็นเงินกว่า 30,000 เหรียญทอง และทองคำแท่งเล็กที่น่าจะราว ๆ แท่งละ 5 บาท ได้ อีก 20 กว่าแท่งที่เหมือนวาง ๆ ไว้ปิดสิ่งที่อยู่ด้านล่างเสียมากกว่า

พอหยิบเอาเงินทองจำนวนนั้นออกไปจะพบกล่องเครื่องประดับบุกำมะหยี่สีเขียวมรกตรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่เก็บไว้ลึกสุด ด้านในมีตราหยกสีเขียวสดสลักด้วยลวดลายจีนวิจิตรที่ด้านหน้าว่า ‘มู่หรง’ วางอยู่ด้านใน พร้อมกับ SSD ขนาด 1 Tb แอบอยู่มุมหนึ่งในกล่องนั้น

เขาวางป้ายหยกลงเก็บใส่กล่องอย่างระมัดระวัง

ก่อนจะหยิบไดอารี่ด้านล่างกล่องขึ้นมาอ่าน

ค้นความทรงจำอย่างไรแล้วก็ไม่พบว่าเจ้าของร่างเดิมรู้ว่ากล่องนี้มีชั้นลับอยู่ด้วยซ้ำ เขาเพียงเก็บมันไว้ตามคำสั่งและเปิดมาดูรูปของแม่ยามที่คิดถึงนั้น ไม่อย่างนั้นเงินจำนวนนี้ก็อาจจะถูกพวกแม่เลี้ยงรีดไถไปหมดแล้ว ไม่มีทางเหลือรอดมาให้นายช่างหนุ่มแน่ ๆ

ฉันมู่หรงเยว่ชิง หรือ มิเชล หวัง

แค่เปิดมาหน้าแรกก็แทบจะพลิกคว่ำความทรงจำที่ได้มาจากเจ้าของร่าง แตกต่างจากไดอารี่เขียนความเป็นไปตอนตั้งครรภ์เขาที่ไดอารี่อีกเล่นอย่างฟ้ากะเหว จริงอยู่ที่หน้าตาของเขามีส่วนผสมของคนเอเชีย ทุกคนต่างก็เรียกแม่ของเด็กหนุ่มว่ามิเชล แต่ไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าเธอมีชื่อภาษาจีนว่า มู่หรงเยว่ชิง

หวังว่าถ้าวันหนึ่งที่แม่อาจไม่อยู่ที่ดาวอความารีนแล้ว

ลูกของแม่จะเป็นคนเปิดกล่องสลักเลือดกักเมฆากล่องนี้คนเดียวเท่านั้น จำไว้นะเซนเรื่องนี้แม้แต่พ่อของลูกก็ยังไม่รู้ ลูกเป็น 1 ในตระกูลมู่หรง ‘มู่หรงฮ่าวหราน’

แต่หากเมื่อไหร่ที่มีคนตระกูลมู่หรงมาหาจงปฏิเสธ อย่าไปกับพวกเขาเด็ดขาด

อย่าเชื่อใจและอย่าตามหาแม่ด้วยเช่นกัน

ที่นั่นอันตรายกว่าที่ลูกคิด

ในไดอารี่ไม่ได้มีข้อความมากนักควรจะเรียกว่าเป็นจดหมายที่เขียนลงไปในสมุดมากกว่า แต่เนื้อหากลับเต็มไปด้วยปริศนา

เซนเอามือลูบคางตัวเองครุ่นคิด

หรือที่เราคิดว่าโลกนี้ไม่ได้มีพลังพิเศษก็เหมือน ๆ กับโลกมนุษย์ แต่การปรากฏขึ้นของกล่องสลักเลือดกักเมฆากล่องนี้ คิดยังไงก็เหมือนกับของในนิยายจีนชัด ๆ

เขาปิดหนังสือลงเก็บของทุกอย่างเข้ากล่องเหมือนเดิม ยกเว้นเงินสดที่แยกออกมาต่างหาก ตั้ง 30,000 เหรียญทองเชียวนะ คิดเป็นเหรียญเงินก็ 3,000,000 เหรียญเงินแล้ว ไหนจะทองอีก

จู่ ๆ ก็รู้สึกเป็นคนร่ำรวยขึ้นมาทันที

ชายหนุ่มฮัมเพลงอย่างสบายใจ เขาลองแตะที่เม็ดหยกเพื่อลองเก็บของในสร้อยข้อมือดู ทันใดนั้นหน้าจอโฮโลแกรมก็ปรากฏช่องว่างช่องเล็ก ๆ10 ช่อง เขาลองยกกล่องสลักเลือดกักเมฆาเข้าไปใกล้จอ พลันมันก็ถูกดูดหายไปพร้อมไปด้านในกินพื้นที่ช่อง 1 ไปอย่างน่าอัศจรรย์ ช่องข้าง ๆ ชายหนุ่มเลยวางเงินสด 30,000 เหรียญทองไว้อย่างสบายใจ

สะดวกสบายเหมือนมีกระเป๋าใส่ของในเกมจริงๆ ไม่ต้องกลัวใครมารื้อมาค้นด้วย

เงินจำนวนนี้ไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ เลย ในชีวิต 16-17 ปีผ่านมาแล้วของเจ้าของร่างเดิม ยังไม่เคยแม้จะได้จับเงินหลักพันเหรียญด้วยซ้ำ

โดยปกติแล้วสกุลเงินของที่นี่จะใช้เป็นทองแดงกับเงิน ซึ่ง100 ทองแดง = 1 เงิน ข้าวที่โรงอาหารมื้อหนึ่งยังใช้เงินไปเพียง 50-60 ทองแดงเท่านั้น และแต่ละวันเซนได้เงินจากแม่เลี้ยงของเขาไปโรงเรียนแค่วันละเหรียญเงิน แม้กระทั่งแอชตันกับเอรินยังได้เงินไปโรงเรียนวันละ 5 เหรียญเงินเอง การได้เงินขวัญถุงรวดเดียว 30,000 เหรียญทอง ก็พอจะทำให้เขาไม่ต้องกังวลเรื่องเงินไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง

เซนยิ้มอย่างกระหยิ่มใจ ยังไงก็คงต้องหาซื้อมือถือใหม่และแล็ปท็อปเป็นของตัวเองซะก่อน จะเป็นไอดอลแต่เข้าไม่ถึงโซเชียลจะได้ยังไงกันล่ะ

เขาคว้ากระเป๋าสะพายใบโตออกนอกบ้านโดยไม่สนว่าป้าแคทเทอรีนจะตะโกนโหวกเหวกไล่หลังตามมาไม่หยุด

“นี่แกจะไปไหนน่ะ”

“แกไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านโดยพลการนะ”

“นี่ หยุดนะ! ไม่ได้ยินที่ฉันพูดกับแกรึไง”

เขาระบายลมหายใจพร้อมกับกระชับกระเป๋าสีดำแน่นเดินตรงออกนอกประตูอย่างไม่สนใจเสียงอะไรทั้งนั้น ตั้งแต่ทะลุมิติมา นี่เป็นครั้งแรกที่เซนได้ออกมาข้างนอกจริง ๆ

ดาวอความารีนบรรยากาศแทบไม่ได้ต่างจากโลกเลย ยิ่งในย่านที่บ้านตระกูลดักกลาสอยู่ถือว่าเป็นย่านคนรวยของเมืองก็ไม่ผิดนัก แต่ละบ้านมีลักษณะสะอาดสะอ้าน สวนเขียวขจี บ้างเป็นบ้านอิฐบ้าง บ้านซีเมนต์บ้าง มีทั้งหลังใหญ่และเล็กแถมแต่ละหลังยังมีการจัดสวนดอกไม้น่ารัก ๆ ดู ๆ ไปก็มีส่วนคล้ายกับบ้านเมืองแถบประเทศญี่ปุ่นอยู่ไม่น้อย ทั้งอากาศที่นี่ก็ค่อนข้างสดชื่นกว่าเมืองไทยที่กำลังมีปัญหาฝุ่น PM 2.5 และโรคโควิด ทั้งอากาศยังเย็นสบาย อุณหภูมิอยู่ที่ราว ๆ 24-25 องศาเท่านั้น

จู่ ๆ ก็คิดขึ้นมาว่าดาวอความารีนนี่ก็ไม่แย่เลย ออกจะสบายกว่าที่ไทยซะด้วยซ้ำ

ค่ารถไฟใต้ดินเข้าไปย่านตัวเมืองก็เพียงแค่ 15 ทองแดงตลอดทั้งสาย ถูกกว่าค่า MRT แถวบ้านเป็นไหน ๆ

เซนมองดูหน้าจอโฮโลแกรมที่กำลังโชว์เวลาภารกิจที่เหลือ 2 วัน 22 ชั่วโมง 16 นาทีอยู่ โดยที่ไม่มีใครเห็นนอกจากตัวเองแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะปิดหน้าจอลงแล้วเดินไปย่านกลางเมืองของเมืองโบรอนอย่างตื่นตาตื่นใจ

ตามการแบ่งเขตการปกครองของดาวอความารีนแห่งนี่จะแบ่งออกเป็น 6 ทวีป ทวีปเหนือ ใต้ ออก ตะวันตก ตะวันออก และภาคกลาง แต่ละทวีปจะมีประเทศขนาดใหญ่น้อยต่างกันไป แต่ประเทศที่กุมอำนาจการเมืองการปกครองของทวีปนั้น ๆ เราจะเรียกว่าจักรวรรดิ

เซนเองก็ทะลุมิติมาอยู่ในจักรวรรดิกริมของทวีปกลาง แถมยังไม่ได้อยู่ในเขตเมืองทุรกันดารแต่อย่างใด แม้ไม่ได้อยู่ที่เมืองหลวง แต่ก็นับว่าเป็นเมืองหน้าด่าน

และเมืองแห่งนี้เรียกว่าเมืองโบรอน

เมืองโบรอนเป็นเมืองที่มีความโดดเด่นในเรื่องอุตสาหกรรม ด้วยชัยภูมิที่ใกล้กับเมืองหลวงเพียงแค่ 2 ชั่วโมงครึ่งถึง และโซนด้านใต้ติดทะเลทำให้มีท่าเรือขนาดใหญ่ นอกจากเขตตัวเมืองชั้นในที่อุดมไปด้วยตึกสูงมากมายเหมือนโลกอนาคตแล้ว ยังมีการจัดสรรวางผังเมืองที่เป็นเอกลักษณ์กว่าเมืองอื่น เนื่องจากเมืองนี้มีเขตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่กว่าทุกเมือง เมืองโบรอนแห่งนี้จึงมีผู้คนที่เป็นแรงงานคุณภาพอาศัยอยู่มากมายในโซนใต้ที่ติดกับเขตอุตสาหกรรม

ด้วยความที่ตระกูลดักกลาสพักอยู่ที่โซนตะวันออกซึ่งเป็นย่านของครอบครัวปานกลางไปจนถึงครอบครัวที่ร่ำรวย นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เซนเข้ามาในโซนเมืองชั้นในซึ่งปรากฏตึกสูงมากมายที่มีความสูงทะลุ 50 ชั้น กินวงกว้างไปตลอดทั้งโซนยังกับเมืองนิวยอร์กขนาดย่อม ๆ ไม่อยากจะคิดจริง ๆ ว่าเมืองหลวงของจักรวรรดิกริมที่เจริญมากกว่านี้จะเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่ขนาดไหน

เขาเงยหน้ามองหน้าจอLCDที่มีมากมายตามตึกสูงและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่กำลังเคลื่อนไหวโฆษณาไปตั้งแต่น้ำยาล้างจานไปจนถึงรถหรูหรา ผู้คนมากมายเดินขวักไขว่รีบเร่ง การแต่งตัวก็หลากหลายทั้งบางคนที่แต่งตัวหลากสีนำแฟชั่น หรือมนุษย์เงินเดินที่แต่งตัวคลุมโทนสุภาพ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขตเมืองชั้นในเป็นย่านที่คึกคักมากที่สุดอย่างแน่นอน

เซนพอรู้มาว่าตัวบริษัท A เคมีภัณฑ์ของแม่ก็มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเขตตัวเมืองชั้นในเหมือนกัน แต่ตัวโรงงานอยู่ในย่านอุตสาหกรรมที่ไม่ไกลจากท่าเรือน้ำลึกนัก ดูท่าบริษัทที่แม่ของเซนสร้างเอาไว้น่าจะทำเงินได้ไม่น้อยจริง ๆ อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้พ่อของเค้าอย่าง คาร์ค ดักกลาส ได้รับจัดอันดับเศรษฐีเล็ก ๆ ในเมืองโบรอนได้ ด้วยสินทรัพย์หลักหลายสิบล้านเหรียญ

เซนที่มัดผมกลางหัวเงยหน้ามองทุกสิ่งอย่างพร้อมกับเดินไปที่ห้างสรรพสินค้า Grand center ที่ได้ชื่อเรื่องขายอุปกรณ์ITอย่างไม่ช้าไม่เร็ว

นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมแม่เลี้ยงเค้าอยากได้หุ้น 26% ที่เป็นชื่อของเซนจนตัวสั่น

ยิ่งช่วงหลัง ๆ ที่เขาใกล้จะถึงวัยบรรลุนิติภาวะ ทั้งพ่อและแม่เลี้ยงพยายามหว่านล้อมจะให้เซนเซ็นสัญญาโอนหุ้นบริษัทให้ลูกของหล่อนด้วยการกดดันต่างๆ นานา ไม้อ่อนไม้แข็งล้วนมาหมด

ทั้งไม่ให้ค่าขนมไปโรงเรียนบ้านนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าของร่างไม่มีเงินติดตัวเลยแม้แต่เหรียญเดียว ไหนจะรังแกในบ้านบ้าง ข่มขู่ไม่ให้เรียนต่อบ้าง

ล่าสุดนี่ไม่รู้ไปเอาบทตายายที่ต่างเมืองของเซนป่วยมาจากไหน บอกว่าถ้าเซนบรรลุนิติภาวะตอน 18 แล้วไม่โอนหุ้นบริษัทA เคมีภัณฑ์ ให้ลูกสาวหล่อน เธอจะไม่ส่งเงินไปรักษาตายายที่ป่วยหนักและด่าเขาเป็นหมาป่าตาขาที่ไม่กตัญญูรู้คุณ

โธ่ป้า หลอกผีอย่างเจ้าของร่างได้คนเดียวเถอะ แต่หลอกเซนไม่ได้แน่นอน

อย่างแรก ตามความทรงจำที่ผ่านมาและไดอารี่ของเซนแล้ว แม่ของเขาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อตอนเด็กหนุ่มอายุ 5 ขวบ แต่เอรินที่เป็นลูกของพ่อกับยัยแม่เลี้ยงอายุ 13 ขวบแล้ว นั่นก็แปลว่าแม่เขาเสียตอนที่เอรินเกิดมาแล้วหรือกำลังจะเกิด มีเปอร์เซ็นต์สูงมากที่พ่อของเขาจะเล่นชู้ในขณะที่ยังไม่หย่ากับแม่เขาด้วยซ้ำ

อย่างที่สอง ในตอนที่แม่ของเขามีชีวิตอยู่ แม่ไม่เคยพาเขาและพ่อไปเจอตากับยายเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่เคยติดต่อไปมาหาสู่ ขนาดวันงานแต่งยังไม่มีใครจากฝั่งบ้านแม่มาด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าไม่เคยกล่าวถึง แถมไดอารี่สั่งเสียวันนี้ก็เห็นชัดเจนแล้ว

แม่ไม่ได้ต้องการให้เจ้าของร่างตามหาตระกูลมู่หรง

แถมยังห้ามไปเจอห้ามตามไปอีก แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่พอแม่เสียไปแล้วจะมีตากับยายคู่หนึ่งโผล่มากัน

และหลังจากที่แม่เขาเสีย พ่อเลยเป็นคนดูแลหุ้นให้เขาจนกว่าเซนจะบรรลุนิติภาวะ เด็กหนุ่มรู้เรื่องนี้ดีและเตรียมตัวที่จะรับช่วงต่อกิจการที่แม่สร้างมาตั้งแต่เด็ก วิชาที่เค้ากระตือรือร้นที่สุดไม่ต้องถามเลยว่าคือเคมี แต่เซนกลับไม่เคยได้เข้าบริษัทหรือโรงงานเลยสักครั้ง และไม่เคยได้รับเงินใด ๆ เลยจากบ้านหลังนี้นอกจากเงินไปโรงเรียนวันละ 1 เหรียญเงิน

แม้จะโดนกลั่นแกล้งทั้งที่บ้านและที่โรงเรียนแต่เด็กหนุ่มผู้โง่เขลาผู้นั้นหัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอมทำสัญญาโอนหุ้นท่าเดียว ถึงอย่างนั้นสภาพจิตใจของเขาค่อยๆ ก็ดิ่งลงเหว

เขาป่วย ไม่มีเพื่อน ไม่มีใครคอยเคียงข้าง ขนาดคนบ้านเดียวกันยังแอบยินดีที่เห็นเด็กหนุ่มมีท่าทีจะฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ

เซนอดสงสัยไม่ได้ว่าด้วยจิตใจที่อยากจะสืบทอดบริษัทของแม่ต่อของเจ้าของร่าง ถ้าไม่บังเอิญเป็นโรคซึมเศร้าเสียก่อน เขาไม่มีทางตายไปอย่างง่าย ๆ แบบนี้ แต่นี่ก็ไม่อาจโทษเด็กหนุ่มได้ ต้องโตมาในครอบครัวที่ Toxic ขนาดนี้ เอาตัวรอดมาถึงอายุ 17 ก็ไม่นับว่าง่ายแล้วจริงๆ

น่าเสียดาย แม้จะสู้อย่างสุดกำลังแล้ว สุดท้ายเจ้าของร่างก็ยอมแพ้และเลือกจะจากโลกนี้ไป เป็นโอกาสให้เซนที่อยู่อีกโลกหนึ่งเข้ามาอาศัยร่างนี้ใช้ชีวิตอยู่แทน

อย่างไรนายช่างหนุ่มเองก็ไม่ได้คิดจะญาติดีกับพวกคนนิสัยแย่ ๆ ของคนตระกูลดักกลาส ทั้งเขาเองไม่ใช่เจ้าของร่างด้วย ความผูกพันอะไรไม่มีอยู่แล้ว พอมาเจอสภาพแบบนี้บอกเลยว่าต้องวางแผนที่จะออกจากบ้านตระกูลดักกลาสให้ดีและให้เร็ว

ทั้งยังต้องออกมาโดยไม่เสียหุ้นไปแม้แต่ตัวเดียว

 

โปรดติดตามตอนต่อไป

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ผมทะลุ​มิติ​ไปเป็น​ไอดอล​ (ก็ได้วะ)​   บทที่ 7 ชีวิตในโรงเรียน

    “คุณแม่คะ” เด็กหญิงผมบลอนด์ยาวเป็นลอนวิ่งเข้ามาที่ห้องนอนของพ่อแม่ที่ชั้น 3 พร้อมกับมุ่ยหน้าด้วยความน้อยอกน้อยใจ “เราจะปล่อยมันไปแบบนี้จริง ๆ เหรอคะ”“พี่ของลูกน่ะเหรอ” ผู้เป็นแม่ลูบผมปลอบประโลมลูกสาวคนเล็กในวัย12 ปีของหล่อนอย่างแผ่วเบา“พี่อะไร เขาไม่ใช่พี่ชายของเอรินสักหน่อย” เธอสะบัดหน้าพลางกอดอกอย่างไม่ยินยอม“ถึงไม่ใช่พี่แท้ ๆ แต่เขาก็มีศักดิ์เป็นพี่ของลูกนะ เอริน”“พี่ชายของเอรินมีแค่พี่แอชตันคนเดียว เอรินไม่มีพี่เป็นคนขี้แพ้น่ารังเกียจแบบนั้น” เด็กสาวในวัยแรกแย้มยืนกลางนาตาลีจุ๊ปากให้ลูกสาวเงียบเสียง “ไม่เอาสิลูก อย่าเสียงดังไป ไม่เห็นเหรอว่าพ่อกำลังให้ท้ายพี่ของลูกอยู่ ขืนพ่อเข้ามาได้ยินเข้า ค่าขนมเดือนนี้จะถูกยึดเอาได้นะ”เมื่อคิดถึงเรื่องเงินไปโรงเรียนก็ยิ่งเจ็บใจ วัน ๆ หนึ่งเธอกับพี่ชายแบ่งกันคนละ 14-15 เหรียญ วันนี้ถูกลดกลับไปเป็น 10 เหรียญอย่างเคย มันจะไปพออะไรเล่าคนแบบนั้นได้เงินไปวันละเหรียญก็ดีเท่าไหร่แล้ว นี่ยังจะมาแฉพวกเธออีกนาตาลีกระซิบลงข้างใบหูที่อ่อนนุ่มของเด็กสาว‘อดทนไว้นิดนะลูก จนกว่ามันจะโอนหุ้นบริษัทของมันมาเป็นของลูกค่อยจัดการ ตอนนี้ทำดีกับมันไว้ก่อนจะได

  • ผมทะลุ​มิติ​ไปเป็น​ไอดอล​ (ก็ได้วะ)​   บทที่ 6 สุ่มอาชีพมาเป็นไอดอลงั้นเหรอ ไอดอลก็ไอดอลสิวะ!

    หลังจากที่วางระเบิดลูกใหญ่ให้แม่เลี้ยง สายตาตอนหล่อนมองมาก็ยิ่งเย็นชาขึ้นกว่าเดิม แม้จะดูเหมือนว่าเธอสงบเสงี่ยมมากขึ้นแต่รอยยิ้มนั่นกลับส่งไปไม่ถึงดวงตาถึงอย่างนั้นเซนก็ไม่แคร์หรอก ถ้าเค้ามัวแต่คิดเล็กคิดน้อยอยู่ก็คงไม่ลงมือฉีกหน้าน้านาตาลีเมื่อวานหรอกจริงไหมใครจะไปคิดว่าแค่ย้ำว่าบ้าน ‘ยากจน’ ต้อง ‘ประหยัด’ หลาย ๆ ที ผลตอบรับของพ่อเจ้าของร่างเดิมจะดีขนาดนี้ช่างเป็นผู้ชายที่หน้าบางอย่างคาดไม่ถึงแต่แบบนี้ก็ดีแล้ว อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่าคนที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จยังไม่ได้ถูกเปลี่ยนมือไปทางแม่เลี้ยง และถ้าพ่อของเค้ายังคงมีนิสัยเป็นคนไม่ยอมเสียหน้าและโลภมากแบบนี้ การใช้ชีวิตในตระกูลดักกลาสก็อาจจะไม่แย่เท่าที่ผ่านมาดูสิ นอกจากพ่อจะเรียกน้านาตาลีไปคุยอย่างไม่เคยทำมาก่อนแล้ว แพลนที่จะไปเยี่ยมตายายกำมะลอของเซนกลับพับไปดื้อ ๆแถมยังสวมบทบาทเป็นพ่อที่ใจดี ทำเรื่องลาหยุดเรียนให้เซน 1 วัน พร้อมพาเขาไปเปิดบัญชีโดยให้เงิน 30,000 เหรียญเงินเป็นเงินขวัญถุงชดเชยจำนวนเงินที่หายไปตลอด 5-6 ปีที่ผ่านมา พร้อมตบท้ายด้วยการพาไปซื้อแล็ปท็อป 1 เครื่อง ก่อนจะขอตัวไปประชุมตอนบ่ายเวลาที่เหลืออีกครึ่งวันเซนจึงจัดแ

  • ผมทะลุ​มิติ​ไปเป็น​ไอดอล​ (ก็ได้วะ)​   บทที่ 5 ภารกิจกับบทลงโทษที่แสนจะโหดร้าย

    // สถานีต่อไป แยกสะพานเหลือง //เสียงรถไฟฟ้าใต้ดินแจ้งเตือนขึ้นท่ามกลางผู้คนในโบกี้ที่คุยกันจอแจเบียดเสียด เด็กหนุ่มยืนกอดอกพิงผนังเย็นเฉียบด้วยท่วงท่าสบาย ๆ ตอนนี้เขากลับมามีผมยาวหน้าม้าปิดหน้าอีกครั้ง แว่นตาเห่ย ๆ ที่แม่ลูกพวกนั้นให้ใส่ก็ใส่เอาไว้เช่นเดิม พร้อมกับเสื้อผ้าที่ซักจนสีซีดจางเขาลงทุนซื้อวิกผมราคาสูงที่ถ้าไม่มามองใกล้ ๆ ก็ยากที่จะมองออกว่าเป็นวิก ไหนจะลงมือเซตให้ดูเหมือนคนไม่ตั้งใจดูแลตัวเองอีก โชคดีที่เจ้าของร่างนี้เป็นลูกรักพระเจ้า ขนาดไม่ดูแลตัวเองผมก็ยังนุ่มลื่นอยู่เลย เพราะงั้นพวกนั้นถึงพยายามให้เซนไว้ผมให้ปิดหน้าตาเข้าไว้ ดูเอาเถอะ หัวยุ่งได้แป๊บเดียวสักพักผมก็คลายมาตรงสวยอยู่ดี// ภารกิจเริ่มต้น เป็นที่สนใจของคนทั่วไป 2000 คน สำเร็จเรียบร้อยแล้ว ได้รับแต้มทักษะ 1 แต้ม กับสารานุกรมดนตรี 2 โลก ต้องการรับหรือไม่เนี๊ยว //เสียงของเจ้าเหมียวสีขาวดังขึ้น โดยที่เจ้าตัวจ้อยนอนกลิ้งไปมาในจอโฮโลแกรมอย่างเกียจคร้าน‘หือ เคลียร์แล้วเหรอ ไวกว่าที่คิดแฮะ’ เด็กหนุ่มตอบด้วยวิธีคิดในใจเช่นเคย ‘งั้นรับเลยแคนดี้’เซนล้วงมือถือขึ้นมาเปิดแอป SEE ดู คลิปแรกและคลิปเดียวตอนนี้มันมีคนวิวไ

  • ผมทะลุ​มิติ​ไปเป็น​ไอดอล​ (ก็ได้วะ)​   บทที่ 4 ได้เวลาชอปปิง

    “สวัสดีค่ะ เชิญชมด้านในก่อนได้นะคะ”พนักงานหญิงที่อยู่หน้าร้านขายมือถืออย่างเป็นทางการของแบรนด์ที่มีหน้าตาคล้ายแอปเปิลกัดเอ่ยขึ้น พร้อมกับผายมือไปด้านในอย่างกระตือรือร้นในดาวอความารีนนี้ Orange เป็นหนึ่งในยี่ห้อมือถือที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในจักรวรรดิกริม และมียอดจำหน่ายอยู่ในระดับ Top3 ในทุกทวีปเด็กหนุ่มค่อย ๆ ดูมือถือที่ที่เขาหมายตา ก่อนจะจับเครื่องพลิกหน้าหลังลองน้ำหนักมือ เขาตัดสินใจมาตั้งแต่อยู่บ้านแล้วว่าจะไม่ซื้อมือถือที่มีราคาแพงที่สุด ขอเพียงเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดในราคากลาง ๆ ก็พอ เพราะแค่นี้ Orange ก็เป็นมือถือที่มีราคาแพงกว่าคู่แข่งไม่น้อย“รุ่นนี้ตอนนี้กำลังมีโปรโมชั่นนะคะลูกค้า ผ่อน 0% 10 เดือน หรือถ้าจ่ายสดจะลดลงจาก 3259 เหรียญ เหลือ 3000 เหรียญเงินถ้วน แถมฟรีหูฟัง orange ด้วยค่ะ”“งั้นผมเอารุ่นนี้สีดำ 1 เครื่อง จ่ายสดครับ”เธอได้ยินดังนั้นก็ยิ้มกว้างอย่างยินดีเมื่อเจอลูกค้าตัดสินใจเร็วไม่เรื่องมาก“ได้ค่ะลูกค้า ตามมาชำระเงินและลองเครื่องตรงที่พักรับรองด้านนี้เลยค่ะ” กล่าวพร้อมกับเดินนำไปที่โซนรับรองพิเศษที่ยังว่างอยู่เซนยื่นเงินสด 3000 เหรียญเงินให้เธอ หลังจากที่เดินมานั่ง

  • ผมทะลุ​มิติ​ไปเป็น​ไอดอล​ (ก็ได้วะ)​   บทที่ 3 ไดอารี่ของแม่

    // นายท่านต้องการเปิดกล่องของขวัญต้อนรับชาวโลก ระดับเงิน 4 กล่อง เลยไหมเนี๊ยว //‘เปิดเลย เจ้าแคนดี้’ทันในนั้นกล่อง 3 มิติที่ลอยอยู่ด้านหน้าจอโฮโลแกรมก็หมุนวนเป็นวงเล็กน้อย แสงสีเงินสะท้อนออกมาจากตัวกล่องทั้ง 4 จนชายหนุ่มต้องหยีตา// กล่องที่ 1 ท่านได้รับทักษะเรียกใช้ : ดวงตาแห่งความจริง ความหายากระดับ Sกล่องที่ 2 ท่านได้รับทักษะติดตัว : อ่านแล้วจำ ความหายากระดับ Dกล่องที่ 3 ท่านได้ปลดล็อกสร้อยข้อมือมิติใส่ของ ความจุ 10 ช่องกล่องที่ 4 ท่านได้รับแต้มทักษะ 5 แต้ม //แสงสีเงินที่ระยิบระยับนั่นค่อย ๆ เคลื่อนตัวเขาหาเด็กหนุ่มที่ผอมจนลมพัดมาแทบจะปลิวได้ ก่อนที่ทักษะทั้ง 2 จะพุ่งเข้ามาในร่างกายของเขาราวกับดาวตกหากแสงอีกเส้นหนึ่งกลับเบนไปที่สร้อยข้อมือหินแล้วพุ่งลงไปที่หยกสีเขียวแอปเปิลจนเกิดประกายแสงสีเขียวสว่างคำอธิบายทักษะดวงตาแห่งความจริง ความหายากระดับ SLevel 1 : สามารถตรวจสอบวัตถุ คน สัตว์ สิ่งของ ในระยะรัศมี 3 เมตร (สามารถอัปเกรดได้)คำเตือน : ไม่สามารถตรวจสอบคนที่มี Rank อาชีพสูงกว่าท่านได้ หรือสิ่งของที่มีระดับสูงกว่าท่าน 2 ระดับได้ทักษะอ่านแล้วจำ : ความหายากระดับ DLevel 1

  • ผมทะลุ​มิติ​ไปเป็น​ไอดอล​ (ก็ได้วะ)​   บทที่ 2 อาชีพไอดอล Rank A

    หลังจากที่ตบตีกับป้าแม่บ้านของตัวเองก็ผ่านมา 2 วันอย่างที่เรียกได้ว่าพลิกฟ้าคว่ำดินที่แท้จริง พอทำใจได้แล้วว่าตอนนี้เขาทะลุมิติมาอีกโลกใบหนึ่ง นายช่างหนุ่มก็อ่านทุกอย่างที่มีในห้องเพื่อทำความเข้าใจกับเซนคนนี้ให้มากขึ้นโชคดีจริง ๆ ที่เด็กหนุ่มนี่จดไดอารี่เอาไว้ด้วย พอผนวกกับความทรงจำต่าง ๆ ที่ได้รับ ตอนนี้เขาก็เข้าใจเจ้าเด็กที่กำลังจะอายุ 18 อีกไม่นานได้อย่างถ่องแท้วันนี้เป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่บ้านตระกูลดักกลาส 4 คน คาร์ค พ่อของเจ้าของร่างนี้ คุณน้านาตาลี แม่เลี้ยงและลูก ๆ อีก 2 คนก็เดินทางไปพักตากอากาศที่ทะเลเมืองครินตันที่ไม่ไกลจากเมืองโบรอนเท่าไหร่นัก และแน่นอนว่าพวกเขาไม่มีทางให้เซนไปด้วย เหลือแต่ป้าแคทเทอรีนที่ตอนนี้ดูสับสนแต่ก็ยังโทรไปหาแม่เลี้ยงนั่น พร้อมกับกระซิบความเปลี่ยนไปของเขาที่กล้าเข้าไปรื้อของในตู้เย็นมาทำกินอย่างอุกอาจก็แค่ของกินไหม? ทำไมจะกินไม่ได้ล่ะคนพวกนี้จะพิลึกเกินไปแล้วเอาเถอะเซนเองก็รู้ดีว่าถ้าเป็นเจ้าของร่างคนเก่าจะไม่ทำแบบนี้แน่นอน เขาจะรอให้ป้าแคทเทอรีนทำอาหารที่คุณภาพแย่ ๆ มาให้ แล้วก็กินไปอย่างไม่มีปากเสียง เอาผมปิดหน้าปิดตาเพราะพี่น้องคู่นั้นสั่งว่

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status