ฉันไม่รอคำตอบ สะบัดรองเท้าถอดทิ้งทีละข้าง ๆ แล้วเดินเข้าห้องเขา
ก่อนจะเดินสำรวจตั้งแต่ทางเข้า ดูรูปที่แขวนทีละรูป ๆ ตามผนัง หึ ไม่มีรูปแต่งงาน มีแค่รูปเขาเก็กหล่อใส่สูท ว่าแต่เขาทำงานอะไรเนี่ย เออ... ดูรวยมาก แต่ทำไมคบเพื่อนต่ำทรามแบบนั้น
เดินได้สักพักอยู่ ๆ ฉันก็หยุดชะงัก ยืนที่ห้องนั่งเล่น ฉันยืนมึนงงมองรอบ ๆ ไม่รู้จะเดินต่อไปทางไหนดี จนตอนนี้ได้ยินเสียงคนวิ่ง ‘ตึก ๆ ตึก ๆ’ มาหยุดหอบหายใจ และยื่นมือมาสะกิดไหล่จากด้านหลัง
“คุณ คุณทำแบบนี้ไม่ได้ ผมจะไปส่ง” ฉันหันขวับไปตามเสียง แต่เมื่อเผลอสบตาเขาแค่เสี้ยววินาที ฤทธิ์ยาที่กล่อมประสาทฉันตอนนี้ มันก็ทวีคูณฉีกร่างฉันเป็นเสี่ยง ๆ ฉันคอแห้งร้อนวาบไปตามลำคอ กำชายกระโปรงจ้องเขาที่ค่อย ๆ เม้มปากหยักสวยขมวดคิ้ว
เซ็กซี่ ปากสีชมพูดูสะอาดสะอ้าน หนวดเคราไม่มี ทำไมมันน่า...
“เดี๋ยวคุณ มีสติ! ฟังผม คุณ!” รู้ตัวอีกที อยู่ ๆ ฉันก็เดินไปกอดคอเขา ก่อนจะเอียงซ้ายขวาไล่สายตามองใบหน้าหล่อเหลา จนได้ยินเสียงเขา กลืนน้ำลายดังอึก
“คุณ... ปล่อยผมเถอะ มัน...”
“ทำไมคุณถึงหวงตัว ไม่ดีเหรอ? ที่ฉันมาให้กินถึงที่ ไม่สิ! ฉันพูดอะไร? ฉัน... ขอน้ำเปล่าขอน้ำ ๆ เร็ว ๆ” วูบเดียวที่ฉันฉุกคิดได้ว่าต้องจัดการตัวเองยังไง เขาก็รีบกดไหล่ฉัน นั่งลงที่่โซฟาทันที
“โอเค ๆ รอที่นี่ คุณไม่มีสติ ผมจะไปตามแม่บ้านมาช่วยคุณ คุณจะได้กลับบ้านสักที” พูดจบเขาก็เดินออกไป ปล่อยให้ฉันนั่งที่โซฟาตัวใหญ่คนเดียว
ฉันนั่งมองตามแผ่นหลังกว้าง ที่กำลังเดินเร็ว ๆ ชะเง้อมองทุกห้องทุกแห่ง ก่อนเขาจะมองฉันอย่างหวาดระแวง และตะโกนเสียงดังว่า...
“ป้าแดงครับ ป้าแดง! อยู่ไหม?” เงียบ... ไม่มีเสียงตอบรับ ก่อนฉันจะเห็นเขายืนท้าวสะเอวมองฉันหัวเสียสลับกับประตูห้องห้องนึง แล้วดึงกระดาษที่แปะออกมา ‘ฟรึบ’ และขยำทิ้ง
หลังจากนั้นเขาก็เดินดุ่ม ๆ ไปเปิดตู้เย็น แล้วหยิบน้ำหยิบแก้วเดินกลับมาหาฉัน
คนแปลกหน้าเปิดขวดน้ำแกร๊ก! แล้วเทน้ำเปล่าใส่แก้วหยาบ ๆ ยื่นให้ฉันเร็วมาก เร็วจนน้ำในแก้วที่มันเต็มปริ่มเกือบล้นนั้น มันกระเด็นแฉลบออกมาโดนเสื้อ เปียกเพื่อตั้งแต่กลางอกยันกระดุมเม็ดสุดท้าย
และหารู้ไม่ ว่านั่น... ทำอารมณ์ที่กำลังนิ่งของฉัน พุ่งทะยานและอยากขึ้นมาอีก
กำลังร้อนพอดี ร้อนมากด้วย
ฉันไม่รับแก้วน้ำ ไม่มองหน้าเขา ละมิดละเมี้ยนเอียงตัวปลดกระดุมเสื้อที่เปียก ทีละเม็ดทีละเม็ด จนค่อย ๆ เห็น อกขาวสองลูก
‘ปึก’ ฉันหยุดชะงัก เมื่ออยู่ ๆ แก้วน้ำถูกเขาวางลงโต๊ะเสียงดัง และมือใหญ่ที่เย็นเฉียบนั้น ก็จับข้อมือฉันดึงขึ้นทันที
“หยุดทำแบบนั้น! คุณตอบผม คุณเป็นหมอ ยาบ้า ๆ นี่จะหมดฤทธิ์อีกกี่นาที!” ฉันกัดริมฝีปากบางหลับตาลง รู้สึกเหมือนจุดกระสันใต้ร่มผ้ากำลังมีชีพจรเต้นตึบ ๆ ตลอดเวลา ทำไมอารมณ์มันดีดขึ้นแบบนี้นะ? และยานี่มันกี่นาที? มันชื่อยาอะไร? คิด คิด คิดยังไงก็คิดไม่ออก มันมีแต่เรื่องแบบนั้นในหัว
“มะ ไม่รู้ชนิดยา หนึ่ง สอง สาม ชั่วโมงหรืออาจจะทั้งคืน” ตอบเขาจบฉันก็ค่อย ๆ เปิดตาขึ้น จนเห็นสายตามึนตึง มองตรงมาที่อกฉันตาไม่กะพริบ
“มองอะไร?”
“เอ่อ เอ่อเอางี้ ผมจะไปหยิบเสื้อมาให้คุณเปลี่ยน” เมื่อถูกจับได้ เขาก็หันขวับเดินก้มหน้าไปที่ห้องนอนใหญ่มุมสุด ฉันจึงเดินตามไปหยุดที่หน้าประตู เดินช้า ๆ เข้าห้องไปหาเขา
และเมื่อเห็นแผ่นหลังกว้าง กำลังก้ม ๆ เงย ๆ เปิดตู้เปิดลิ้นชัก และเห็นเขาดึงเสื้อเชิ้ตสีขาวออกจากราวเตรียมให้ ฉันก็รีบถอดเสื้อตัวเก่าโยนทิ้งไปไกล ๆ
‘ฟรึบ’
เสียงเสื้อเปียก ๆ ถูกโยนลงพื้น ดังพร้อม ๆ กับเขาที่หันขวับมามองฉัน ก่อนตาคู่สวยจะค่อย ๆ เบิกกว้าง และขาวยาว ๆ ก้าวถอยหลัง จนหลังเขาชน ‘ปัก’ เข้ากับตู้
“ทะ ทำอะไรของคุณ!”
“ถอดเสื้อรอเปลี่ยน เออ... คุยมาตั้งนานคุณชื่ออะไรนะ” เหงื่อเขาไหลเต็มขมับ ไหลทั้ง ๆ ที่ตายังเบิกกว้างมองฉันตกตะลึง
“ตะเต้ ผมชื่อเต้ คุณล่ะ? ให้ตาย! คุณไม่อายผมรึไง?”
ฉันเอามือกอดอกเมินเฉย จนนมสองเต้าดันขึ้นเป็นลูก ๆ ส่วนคุณเต้เขาเสมองไปทางอื่น แล้วเอามือกุมขมับนวดทันที
“ฉันชื่อน้ำแข็ง ส่งเสื้อให้ฉันสิ” พูดจบฉันก็ดึงเสื้อเชิ้ตจากมือคุณเต้ ‘พรึบ’ จนเขาหันมาตกใจสะดุ้ง แล้วรีบหันหน้าไปทางอื่นอีกครั้ง
“คะ คุณใส่เสื้อ อย่าให้ผมต้องลงมือ!” ลงมือ? พอได้ยินคำนี้ ฉันที่กำลังสอดแขนใส่เสื้อรีบหยุดชะงักทันที ก่อนที่จะเดินอ้อมไปมองคนขู่ และถามอีกครั้งให้แน่ใจ
“ลงมืออะไร แบบไหน? ฉันอยากให้คุณทำ ทำสิ” ตาคู่สวยเบิกกว้าง เขาลอบถอนหายใจเสียงดัง แล้วคว้า ‘หมับ’ จับข้อมือฉันแน่น ก่อนจะไม่พูดพร่ำทำเพลงรีบก้มสอดแขนแกร่ง อุ้มฉันเดินตรงเข้าห้องน้ำทันที ก่อนที่จะกึ่งวางกึ่งทิ้งฉันลงในอ่าง อย่างไม่ทะนุถนอม!
แต่ฉันไม่ร้องโอดโอยให้เขาได้ยินหรอก นั่งมองเขานิ่ง ๆ เฉย ๆ ทั้งที่ข้างในเต็มไปด้วยอารมณ์ ฉันอาจจะดูเหมือนคนมีสติครบ แต่ฉันควบคุมอารมณ์ที่แฝงอยู่และฝืนฤทธิ์ยาไม่ได้ ใจมันอยาก มันต้องการ ต่อให้เขาทารุณฉัน ฉันก็ยังรู้สึกแบบนั้นอยู่ดี
“คุณรู้ไหม ว่าคุณสวยจนผมอยากจีบ แต่เห็นแบบนี้ ผมจีบไม่ลง”
คำพูดเขาทำฉันเม้มปากแน่น ก่อนฉันจะก้มมองอกอวบที่โผล่พ้นเป็นเนินของตัวเอง แล้วตัดสินใจเอื้อมไปปลดตระขอบรา ส่วนมือที่ว่างงานก็ไม่รอช้า รีบเปิดฟักบัวเปิดน้ำและถอดเสื้อผ้าทันที
ตอนนี้ฉันเกลียดตัวเอง ฉันอยากอาบน้ำ อาบให้ตัวเองหายร้อนตามตัว ตามช่วงล่างนั่น
เมื่อโดนน้ำเย็น ๆ จากฝักบัว ไม่นาน อารมณ์ร้อนในตัวฉันก็แผ่ซ่าน..ทำยอดอกสีชมพูหวานตึงแข็งขึ้นเป็นไต มันชันตระหง่านตัดผิวขาวใส ทำคนที่หายใจฟึดฟัดถึงกลับนิ่งงัน จ้องมันตาไม่กะพริบ
“ไม่รู้ว่าฉันซวย หรือโชคดีของคุณ คุณได้เห็นมันคนแรก คิดว่ามันเป็นไง” เขาละสายตาจากอกอวบมองหน้าฉัน ก่อนจะรีบกะพริบตาถี่ ๆ และหันไปหยิบผ้าเช็ดตัวโยน ‘พรึบ’ มาให้ฉันทันที
“ปิดตรงนั้นของคุณซะ บอกผมมา มันเป็นแผนของคุณใช่ไหม? คุณรู้ว่าผมเป็นใครคุณก็เลย เอ่อ... ทำตัวแบบนี้ เพราะดูจากสีหน้าแววตาคุณ ยาที่เพื่อนผมป้ายมันคงหมดฤทธิ์ไปแล้ว”
ฉันยิ้มที่มุมปากเบา ๆ ใช่อาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรงจากการถูกป้ายยามันหายไปแล้ว แต่อาการกระสันร่านรักที่ไม่รู้มันมาจากยาชนิดไหนและเมื่อไหร่ มันกำลังทรมานฉันทั้งเป็น
ฉันมีสติ ฉันรู้ตัว แต่ฉันห้ามอารมณ์ทางเพศที่เกิดกับตัวเองไม่ได้ ฉันคงโดนยาหลายชนิดผสมในเครื่องดื่ม และตอนนี้ฉันก็เห็นเขา น่ากินซะเหลือเกิน
เขาเหมือนลูกแมวพันธุ์ดี ที่ราคาแพงหูฉี่แต่หลุดมาถึงมือฉัน ฉันอยากเลี้ยง อยากเป็นเจ้าของอยากได้มาก คอนโดหลักร้อยล้านรถสามสิบล้าน บ้านจะขนาดไหน? ฉันไม่รู้หรอกว่าเขาทำงานอะไร แต่ถ้าเสียให้คนนี้ ได้เขาตอนนี้ คงดีไม่น้อย
บ้าจริง! ฉันคิดอะไรออกไปเนี่ย? ฉันก้มหน้าลงหลับตาปี๋ ความคิดชั่ววูบที่ขัดขึ้นเมื่อกี้ คิดว่าตัวเองจะควบคุมได้ แต่ไม่เลย ยิ่งก้มหน้านิ่งเปิดตาขึ้นเห็นต้นขาขาว อยู่ ๆ มือฉันที่จับขอบอ่าง ก็ค่อย ๆ ขยับลงมา
ก่อนมันจะเคลื่อนป้วนเปี้ยนตามต้นขา และบีบช้า ๆ ขึ้นไปตามหว่างขาตัวเอง
“คุณทำอะไร?” ฉันเชิดหน้าปรือตามองร่างใหญ่ ที่ยืนเบิกตากว้างมองฉันหน้าแดงก่ำ
แล้วไงล่ะ ถ้าเขาไม่ช่วย ฉันคงต้อง...
“ช่วยตัวเอง”
เสียงกรี๊ดดีใจของฉันวันนั้น มันคือความจริงมาจนถึงทุกวันนี้ และที่ฉันคิดว่าพี่ชายฝาแฝดจะหวงน้องสาวเป็นเรื่องดี ตอนนี้ไม่ใช่เลย! สิบห้าปีผ่านไปในขณะที่พี่ชายแฝดทั้งสองอยู่มอหก น้องสาวคนเล็กอยู่มอสาม ต้นข้าวก็เป็นสาวเต็มตัว ชนิดที่ว่าหนุ่ม ๆ หมายตากันทั้งโรงเรียน และนั่นก็ทำให้พี่ชายเธอหวงมาก หวงชนิดที่ว่าเดินไปสอดส่องน้องสาวที่ห้องเรียนทุกชั่วโมง จนคุณครูประจำชั้นของต้นข้าวต้องโทรมารายงานกับฉัน! (คุณแม่คะ พี่ชายฝาแฝดของต้นข้าว มณชญาภร มาหาเธอที่ห้องทุกคาบเรียน อยากรบกวนคุณแม่ปราม ๆ สองหนุ่มหน่อยค่ะ มาทีไรสาว ๆ ในห้องไม่เป็นอันเรียนหนังสือกันเลย) “คะ? ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะคะ?” (มาทีไรเด็กสาว ๆ ก็หันมองกันให้ควั่กเลยค่ะ) ฉันจะบ้า ช่วงนี้ฉันปวดหัวกับลูกอันดับหนึ่งเลย ต้นหนาวที่ดูนิ่งคิดว่าจะห้ามปราบแฝดน้องได้ แต่รายนั้นหนักกว่าใคร คุณครูบอกว่าเขาน่ะ ไปที่ห้องต้นข้าวบ่อยที่สุด! “พี่ถามว่าใครมาจีบ” นั่นไงพูดถึงก็มากันพอดี ตอนนี้เดินตามต้นข้าวต้อย ๆ เข้ามาในบ้านแล้ว “วัน ๆ หนูไม่ได้ทำอะไรเลยนะ พี่หนาวพี่เหนือเอาแต่ถามและจ้องจับผิด มันอึดอัดอ่ะ! พี่ติณห์ไม่เห็นจะวุ่นวายกับพี่อันต
“เป็นไงคุณแม่ลูกสอง อายุลูกห่างกันประมาณนี้ไม่เหนื่อยเลยใช่มั้ย” กาแฟเดินเข้ามาหาฉัน เมื่อพวกหนุ่ม ๆ ของเธอเดินไปนั่งสมทบกับคุณเต้ “ห่างกี่ปีก็เหนื่อยทั้งนั้นล่ะวัยกำลังซน ว่าแต่เธอ ไม่ติดเลยเหรอ” กาแฟถอนหายใจและส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะคีบเส้นสปาเก็ตตี้ราดซอสมะเขือเตรียมให้ลูกชายทีละจาน “ไม่ จะบำรุงก็ไม่มีเวลา ต้นกล้าทำงานหนักฉันก็ทำงานหนัก หาเวลาปั๊มยังยากเลย” “ไม่ทำเลยล่ะ ปรึกษาลุงนายปรึกษาหมอสูติเจ้าของไข้เธอก็ได้ แต่จะมีลูกสาวคนเล็กแบบนี้ไม่กลัวพี่ชายแฝดกับพ่อหวงรึไง” กาแฟอมยิ้มและก้มมองจานสปาเก็ตตี้ของลูก ๆ เธอ “อยากมีไว้ให้หวงไง สองหนุ่มกับพ่อจะได้ไม่เถลไถล” พิลึก คงวุ่นวายน่าดู หลังจากนั้นฉันกับกาแฟก็ไปนั่งรวมกับหนุ่ม ๆ ซึ่งติณห์เป็นพี่ที่ดีมาก พอฉันยกจานยกถาดขนมมาวาง เขาก็ดันจานให้ต้นหนาวต้นเหนือทันที “กินสิหนาวเหนือ อร่อย” ต้นหนาวมองจานสปาเก็ตตี้ที่พี่ดันมาและพยักหน้า ส่วนต้นเหนือเทขนมกรุบกรอบในซองใส่ลงไป ก่อนเขาจะชี้โชว์พ่อที่นั่งขมวดคิ้วใส่ และชิงอ
“อุแว้ อุแว้~” “อุแว้~” ฉันจะบ้าตาย ไม่ได้หลับได้นอนทั้งคืน ดิ้นสายตื๊ดในท้องยังไง กลางคืนตกดึกก็อย่างงั้น ลูกตื่นทุกชั่วโมง กินนมทุกสองชั่วโมง และนอนยากมาก! ฉันสภาพเหมือนศพ ระหว่างพักฟื้นน้ำหนักลดฮวบฮาบ เพราะทั้งปั๊มนมทั้งให้เข้าเต้า ส่วนสามีเขาก็เหนื่อย เผลอ ๆ เหนื่อยกว่าฉันด้วยซ้ำ เขาเอาต้นหนาวที่ไม่ติดเต้าฉันไปทำงานด้วย ส่วนฉันเลี้ยงต้นเหนือคนเดียวอยู่ที่บ้าน จะว่าไปก็ไม่คนเดียว เพื่อน ๆ เขาก็อยู่หมู่บ้านนี้ เจฟ เค ขับรถผ่านพวกนั้นก็ซื้อขนมซื้อของกินให้ และญาติ ๆ คุณชายก็มาช่วยฉันเลี้ยงบางเวลา พี่ใบไม้ เจแปน ต้นไม้ และน้องโซลมาหาน้องก็ซนเหลือเกิน พูดภาษาอังกฤษคล่องกว่าภาษาไทย บางวันพูดจีนด้วยนะ เจแปนบอกว่าเธอเป็นคนสอนเอง อยากให้รู้ไว้หลาย ๆ ภาษา และเธอก็ปล่อยลูกเล่นไม่ค่อยดุด้วย โซลอาจจะเหมือนเด็กซนแต่เขารู้มาก ฉลาด แม่ปล่อยไว้ไหนก็เล่นได้หมด คลุกฝุ่นคลุกโคลนพร้อมชุบแป้งทอดเลยก็ว่าได้ ฉันฟัง ๆ พี่สาวกับพี่สะใภ้สามี ก็จำ ๆ วิธีเลี้ยงลูกมาใช้บ้าง และว่างก็พาลูกไปหาพ่อกับแม่ คือฉันกับต้นเหนือตัวติด
“คุณพ่อใจเย็น ๆ นะคะ” ฉันเงยขึ้นมองหน้าคุณชายทันที เมื่อเห็นพยาบาลกุลีกุจอวิ่งมาจับตัวเขา ตอนนี้หน้าเขาซีดและเขาก็ไม่ได้ปลื้มอกปลื้มใจที่เห็นลูกชายสภาพนี้เท่าไหร่ จนลูกร้องไห้เสียงดังขึ้น! “อุแว้ อุแว้~” เท่านั้นแหละ คุณพ่อผู้กลัวเลือดก็เผลอหันขมับมอง หวั่นว่าลูกจะเป็นอะไร แต่เมื่อเห็นเลือดสีแดง ๆ ที่เขาเกลียดนักหนาเป็นครั้งที่สอง เขาก็รีบปิดตาและกวักมือเรียกพยาบาลทันที “พยาบาล ๆ เอาลูกผมไปอาบน้ำเถอะ ขอร้องล่ะ” “คุณพ่อไม่ตัดสายสะดือก่อนเหรอคะ? รอหน่อยนะคะ จะออกมาอีกคนแล้วค่ะ!” “อุแว้ อุแว้~” พอได้ยินเสียงร้องอีกเสียงร้องดังขึ้น ฉันก็ไม่สนใจสามีรีบก้มมองตาม ก่อนที่จะเห็นหมอสูติอุ้มลูกชายคนเล็กออกมาวางบนอกฉัน และดูดน้ำคร่ำคราบเมือกต่าง ๆ ให้ “คุณพ่อตัดสายสะดือไหมครับ?” หมอสูติถามเมื่อคุณชายเขาเงียบไป แถมตอนนี้เขายังปิดตาไว้อีกด้วย “มะ ไม่เป็นไรครับ หมอตัดเลย” “ทำไมไม่ตัดล่ะคุณชาย” “เค้าจะเป็นลมแล้วแว่น ถ้าเค้าตัด เค้าเป็นลมไม่ได้ถ่ายรูปแน่ ๆ” ฉันยิ้มให้เขาแ
“จะเป็นอะไร ให้เขาเลือกเองเถอะคุณชาย ขอแค่มันเป็นอาชีพสุดจริตก็พอ แต่เอ๊ะ ลูกไม่ทันคลอดเลยเราจะคิดมากเรื่องนั้นทำไม อีกตั้งนานโข” คุณชายหัวเราะเบา ๆ แล้วหอมแก้มฉัน ถ้าเป็นโรงพยาบาลอื่น เห็นเราเล่นนอนกันกลมดิกแบบนี้ โดนด่าแล้วล่ะ แต่เหลือเชื่อนะพอคุณชายขึ้นมานอนกอดและลูบท้องฉัน เจ้าสองแฝดก็เงียบกริบไม่ถีบท้องฉันอีกเลย จนนั่นแหละฉันเคลิ้มผล็อยหลับไปจนเช้า และงัวเงียตื่นเพราะสองเท้าลูกถีบตุบตับ ๆ “อื้อ ลูก หิวแล้วเหรอ?” “หิวก็ตื่นขึ้นมากิน ยายทำกับข้าวมาให้แล้ว” เสียงพ่อ? ตายแล้ว ๆ พ่อเห็นพ่อว่าแน่ ๆ ที่ฉันให้คุณชายขึ้นมานอนด้วยแบบนี้ ฉันจึงรีบเปิดตาพรึบ และดึงผ้าห่มคลุมอกทันที ก่อนจะเห็นพ่อกับแม่ยืนยิ้มข้าง ๆ เตียง แล้วมองมาที่ฉัน พ่อหล่ออีกแล้ว ยิ่งยิ้มยิ่งหล่อ ลูกสักคนในท้องหน้าเหมือนตานะลูก ส่วนอีกคนหน้าเหมือนพ่อไปเลย เอ๊ะพูดถึงพ่อ คุณชายเขาหายไปไหน? “แฮ่ มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?” “สักพักแล้วล่ะ” แม่ตอบและมองตามฉัน ที่กดเตียงขึ้นนั่งและเอียงซ้ายทีขวาทีหาคุณชายข้างหลัง
ได้ยินแค่นี้คนเป็นแม่ก็มีความสุขสุด ๆ แล้ว สำหรับฉัน บอกรอบที่ล้านก็ไม่มีอะไรสำคัญเท่าสองแฝด ที่ฉันรู้มาตั้งนานแล้วว่าเขาเป็นผู้ชาย ก็แค่อุบอิบสามีไว้อยากเซอร์ไพร์สเขา ที่ฉันรู้เพราะฉันเป็นหมอ พ่อฉันเป็นหมอ โรงพยาบาลนี้ก็ของครอบครัวฉัน ถ้าผลตรวจเลือดออกมาปุ๊บ แน่นอนว่าพ่อแม่ฉันไม่ยอมรอจนท้องป่องอัลตร้าซาวด์หรอก ท่านรีบโทรมาบอกฉันทันทีที่รู้ บอกว่าเจ้าติณห์จะมีน้องชายแล้วนะ และแม่ก็พูดต่อว่า หลานผู้ชายหมดเลย พ่อกับแม่วิ่งจับกันสนุกล่ะคราวนี้! ใช่!ยินดีด้วยค่ะ กับคุณชายต้นกล้าและปู่ย่าตายายทั้งสองบ้าน หลังจากอัลตร้าซาวด์กลับจากโรงพยาบาล คุณพ่อต้นกล้าก็ขับรถดิ่งกลับบ้าน ไปเปล่าประกาศกลางโต๊ะอาหารทันที ว่า! “เชื้อผมแรงป่ะ ลูกชายสองคน! โคตรเท่อ่ะ แน่นอนไอ้ไม้มันทำไม่ได้ แค่แฝดยังยากเลย ฮ่า ๆ” ฉันกับเจแปนมองหน้ากันแล้วถอนหายใจเบา ๆ แน่ ๆ ต้องมีการโต้วาทีเกิดขึ้นแน่ ๆ และโซลลูกต้นไม้ก็ไม่เข้าข้างพ่อด้วยนะ พอเห็นว่าอาเกทับ ก็หัวเราะคิกคักใส่พ่อตัวเองทันที “คิก คิก” “เจแปนจัด