LOGINอันนาที่แบกเรื่องหนักมามากมายหลังจากผ่านงานที่ไปกับมาร์คัส เธอหลับจนไม่ได้สติจวบจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น
ดวงตาที่หนักอึ้งของเธอค่อยๆ ขยับเปลือกตาขึ้นเล็กน้อยเสียงแอร์มอนิเตอร์ที่ทำงานเย็นเฉียบแต่ทำไมร่างกายของเธอกลับรู้สึกอบอุ่น อันนาลืมตาขึ้น พร้อมกับมองเห็นฝ้าเพดานที่ขาวสะอาดตา และมันไม่ใช่ห้องที่เธอเคยอยู่มันคือห้องที่เธอเสียตัวเป็นคืนแรก อันนาตกใจจนเบิกตากว้างพยายามรวบรวมสติแต่เธอกลับรู้สึกหนักอึ้งบริเวณเอวของเธอมีมือหนากอดรัดเอาไว้ อันนาพลิกไปมองใบหน้าที่คมเข้มดูดีและหล่อเหลา แม้ในเวลาที่หลับสนิทก็ยังดูหน้าหลงไหล อันนาจ้องหน้าของมาร์คัสเหมือนกับต้องมนต์สะกดอีกครั้ง อันนาพยายามจะขยับออกหนีอย่างเงียบๆเพื่อกลับไปที่ห้องของเธอแต่เธอยิ่งขยับมาร์คัสก็จะขยับและกอดเธอแน่นขึ้น และเธอลองขยับอีกครั้ง มาคัสก็ยิ่งกอดเอวของเธอแน่นเข้าไปอีก อันนาจ้องไปที่หน้าของคนที่กำลังนอนหลับสนิทเธอพลันคิดว่ามาคัสหลับจริงๆหรือเปล่าและดวงตาคมกริบของมาร์คัสก็ลืมขึ้นแล้วจ้องไปที่ดวงตาของอันนาเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน "ตื่นแล้วหรอ" มาร์คัสถามอันนาด้วยถ้อยคำที่ดูอ่อนโยนขึ้นกว่าสองวันแรก "อันนารู้สึกตกใจที่เห็นมาร์คัสอยู่ใกล้ขนาดนี้เธอกลัวจนเกร็งไปหมดแต่ก็พยักหน้าเบาๆเป็นการบอกให้มาร์คัสรู้ว่าเธอตื่นแล้ว "คุณมาร์คัสคะ อันนาขอไปเข้าห้องน้ำได้ไหม" อันนาที่นอนอยู่ภายใต้อ้อมกอดที่แสนอบอุ่นแต่มันไม่ใช่ของของเธอ "ไปสิ" มาร์คัสพูดจบ ก็คลายอ้อมกอดของเขาออกแล้วลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง จ้องมองร่างบางอรชรของอันนาไม่วางตา อันนาเดินมาในห้องน้ำที่หรูหราของมาร์คัสซึ่งปกติมาร์คัส ไม่เคยอนุญาตให้ใครย่างกรายเข้ามานอก จากคนที่ต้องมาทำความสะอาดเท่านั้น "ฉันจะทำยังไงดี" อันนาพูดกับตัวเองในกระจกเธอจ้องมองใบหน้าที่ซูบซีด และดวงตาที่หมนเต็มไปด้วยความเศร้า อันนาพยายามกำจัดทุกข์ความรู้สึกออกไปให้หมดเธอจะต้องใช้ชีวิตในกรงทองนี้ให้ได้ อันนาทำธุระส่วนตัวจนเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาจากห้องน้ำ พลันสายตาก็ไปเห็นท่อนบนที่เปลือยเปล่ามัดกล้ามแผงท้องของมาคัสอันนาถึงกับรอบกลืนน้ำลาย มาร์คัสรู้สึกได้ว่าโดนคนกำลังลักลอบมองร่างกายอันเย้ายวนของเขาอยู่ จึงรู้สึกอยากจะแกล้งอันนาขึ้นมาอีก. "ทำไมจะกินฉันหรือไง มองอยู่นั่นแหละ"มาร์คัสที่นอนพิงหัวเตียงอยู่ครึ่งนึงวางโทรศัพท์ลงแล้วหันมาพูดกับอันนา "เปล่าสักหน่อยค่ะ" อันนาก็ปฏิเสธเสียงแข็งดังเช่นเคย คุณมาร์คัสคะ อันนาขออนุญาตคุยเรื่องการเรียนของอันนาได้ไหมคะ" อันนาที่รวบรวมความกล้าวันนี้เป็นเช้าวันจันทร์ที่เธอมีเรียนแต่เธอกลับขาดเรียนโดยใช่เหตุอีกแค่เทอมเดียวเธอก็จะเรียนจบแล้ว มาร์คัสเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย เขาละเลยอะไรในตัวอันนาไปบ้างนะ เขาจึงพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตให้อันนาได้พูดต่อ "วันนี้อันนามีเรียนค่ะ อันนาเรียนทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เสาร์กับอาทิตย์อันนาทำงานให้คุณได้นะคะ แต่จันทร์ถึงศุกร์ช่วงเย็นอันนาต้องไปขายข้าวแกงที่บ้านค่ะ นี่อันนาปิดมา สองวันแล้ว คิดว่าลูกค้าคงจะหายหมด" พูดจบอันนาก็ทำหน้าเศร้าลงไป ทุกอย่างที่ฟังมาไม่มีอะไรขัดหูเขาเลยแม้แต่นิดเดียว ยกเว้นเรื่องการไปขายข้าวแกงที่บ้านของตัวเอง เพราะตอนนี้อันนาไม่ใช่อันนาเดิมอีกแล้ว แต่เป็นผู้หญิงของมาร์คัสเจ้าพ่อมาเฟียธุรกิจสีเทาและสีดำขนาดใหญ่เขาคงไม่ปล่อยผู้หญิงของตัวเองไปตกระกำลำบาก "อย่างอื่นฉันโอเค แต่การที่เธอจะกลับไปขายข้าวแกง ฉันไม่เห็นด้วย ต่อไปนี้ฉันจะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่างของเธอ ไม่พอส่วนไหนให้มาขอแล้วก็มาเบิกจากฉัน" มาร์คัสพูดเสียงเรียบนิ่งแล้วหันมามองอันนาที่ตั้งใจยืนฟังเขาอยู่อย่างขะมักเขม้น "แต่ว่า..ถ้าอันนาไม่ทำงานอันนาจะใช้หนี้ยังไงหมดคะ" อันนาหันมาถามมาร์คัสอย่างจริงจัง "ดูแลฉัน แค่ดูแลฉัน สัญญาของเราหนึ่งปีเธอต้องเป็นคนที่ดูแลฉัน ภายหนึ่งปีแสดงเป็นเมียปลอม ๆ ที่ฉันอยากให้เธอเป็น" มาร์คัสหันมายื่นข้อเสนอให้กับอันนา "เมียปลอม ๆ หรอคะ?" อันนาทำน่าสงสัยทำไมอยู่ดี ๆ มาร์คัส ถึงยื่นข้อเสนอตลก ๆ นี้ให้กับเธอ ทั้งที่เขาก็มีผู้หญิงมากมายที่พร้อมจะอ้าขา ปีนขึ้นเตียงให้กลับมาร์คัสฟรี ๆ "เธอไม่จำเป็นต้องรู้ แต่เธอต้องเป็นคนของฉัน 1 ปี ฉันให้เธอเดือนละสองแสนทุกเดือนหนึ่งแสนบาทแรกตัดมาใช้หนี้ให้กับฉัน" "หนึ่งแสนบาทที่เหลือ ให้เธอเอาไว้ใช้กินจ่ายในชีวิตประจำวัน เธอคิดเห็นว่ายังไง" มาร์คัดยื่นข้อเสนอที่แสนจะเย้ายวนใจกับอันนา "ให้อันนาทำอย่างอื่นแทนการดูแลคุณมาร์คัสไม่ได้หรอคะ"อันนาเธอไม่อยากเป็นตัวตลกในสายตาของใครเธอเฝ้ามองคำตอบจากปากหนาของมาร์คัสว่าจะเห็นใจหรืออนุญาตเธอหรือไม่ "ไม่ได้..! เพราะฉันบอกเธอแล้วว่าเมียปลอม ๆ ฉันจะไม่ทำให้เธอเสียชื่อ เพราะเธอจะต้องเซ็นจดทะเบียนกับฉัน อย่างถูกต้องตามกฎหมาย" มาร์คัสยื่นข้อเสนอเชิงบังคับให้กับอันนา "เธอไปแต่งตัวเถอะ แล้วลงไปกินข้าวกับฉันที่ด้านล่าง" มาคัสบอกเสียงเรียบเพื่อตัดบทการพูดคุยในเวลานั้น เขาให้อันนาเดินออกจากห้องของเขาไป อันนาก็พยักหน้าแล้วทำตามอย่างว่าง่าย สองขาเล็กเดินก้าวออกมาจากห้องหรูของมาร์คัส และเดินตรงกลับไปที่ห้องของตัวเองซึ่งอยู่ติดกับมาร์คัสเลย ขณะที่ทั้งสองคนกำลังทำความสะอาดร่างกายและธุระส่วนตัวจนเสร็จสิ้น อันนาเดินออกมาเพื่อมาตามนัดที่มาร์คัสสั่งเอาไว้ ส่วนมาร์คัสก็เดินออกมาแล้วบังเอิญประจวบเหมาะเจอกับอันนา ตรงบันไดลงเพื่อไปทานอาหาร "ตรงเวลาดีนี่" มาร์คัดหันมาพูดสั้น ๆ แล้วก็เดินลงมาก่อนหน้าอันนา อันนามองตามหลังของมาร์คัสอย่างไม่รู้สึกรู้สาหัวใจ ของเธอมันตายด้านลงทีละนิดทีละนิดและในทุก ๆ วันตลอดสามวันมานี้ มาร์คัสมักจะใช้คำพูดทิ่มแทงใจดำของเธอเสมอรวมถึงอารมณ์ของมาร์คัสขึ้นๆ ลง ๆ สามนาทีสี่อารมณ์จนแอนนาทำตัวไม่ถูก "วันนี้ป้าเตรียมอาหารธรรมดาไว้ให้นะคะอันนาชอบกินแกงเขียวหวานไก่ใช่ไหม" ป้าสมศรีที่แอบพูดคุยกับอันนามาสักพักก็พอจะรู้คร่าว ๆ ว่าอันนาชอบกิน "ชอบมากเลยค่ะป้าสมศรี" อันนายิ้มกว้างเมื่อเห็นของกินที่เธอชอบวางเต็มโต๊ะไปหมด มาร์คัสที่เห็นว่าอันนายิ้มออกได้ ตาสุกใสเป็นประกาย เข้ากับรู้สึกอยากจะรักษารอยยิ้มนี้เอาไว้ให้นานที่สุด มาร์คัสจึงเลือกทำในสิ่งที่อันนาชอบ และกำลังเรียนรู้ว่าอันนานั้นชอบอะไรและไม่ชอบอะไร..หัวใจที่แข็งประดุจน้ำแข็งขั้วโลกของมาร์คัสกำลังจะถูกความน่ารักของอันนาพังทลายลงแล้วมาร์คัสจะใช้ชีวิตแบบนี้ยังไงต่อ.....เรื่องในคืนนั้นที่ผ่านมาผ่านมาแล้วเกือบสองเดือนกว่า อันนาที่สอบเทอมสุดท้ายจนเสร็จเรียบร้อยก็รอฟังผลว่าเธอจะสอบสำเร็จหรือติดตัวไหนบ้าง ความสัมพันธ์ของอันนากับมาร์คัสมันกลับมาเย็นชาดูเหมือนไร้หัวใจในทุกคืนอันนาแยกห้องนอนกับมาร์คัสนับจากวันที่ลาริสากลับมาและแสดงตัวว่าเป็นรักแรกของมาเทส ลลิสาพยายามปรากฏตัวทุกที่ที่มาคัดไปแม้อันนาจะไม่ได้ตามไปด้วยเธอก็พอรู้ว่าตอนนี้มาร์คัสกำลังพยายามเว้นช่องว่างระหว่างเธอและเขา"คืนนี้เธอนอนก่อนเลยนะไม่ต้องรอฉันแล้วก็กลับไปนอนที่ห้องของเธอได้ฉันอยากนอนคนเดียว" น้ำเสียงทุ้มต่ำเย็นชาถูกพ่นออกมาจากปากหนา มาร์คัสที่พยายามตีตัวออกห่างอันนาเขาอยากใช้เวลาอยู่กับตัวเองให้มากขึ้นเพื่อเคลียร์หัวใจของตัวเอง "ค่ะ" อันนาตอบกลับเสียงเรียบ หลังจากเสร็จภารกิจบนเตียงมาร์คัสก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาใส่เธอ และไล่ให้เธอกลับมานอนที่ห้องและมันเป็นอย่างนี้เสมอมาตลอดสองเดือนกว่า ๆ หัวใจของอันนาเจ็บปวดเกินทนเธอหลับไปพร้อมกับคราบน้ำตาในทุกคืนและเธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ของของเธอเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะหึงหวงหรือรั้งเขาเอาไว้"อดทนสิอันนา อีกแค่ห้าเดือนสุดท้ายแค่ ห้าเดือนสุดท้ายเท่าน
มาร์คัสที่เห็นอันนาในสภาพที่โอนเอนไปมาอย่างน่าเวทนา หัวใจของเขาก็บีบรัดด้วยความเจ็บปวดและความโกรธที่ผสมปนเปกัน เขากำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนเขากัดฟันแน่นเพื่อระงับอารมณ์โกรธกับคนตรงหน้าที่ไร้สติ ก่อนจะเดินตรงไปหาเธออย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจสายตาของใครก็ตาม"เฮ้ย! นี่คุณเป็นใคร" คริสที่กำลังพูดคุยกับอันนาอยู่เห็นมาร์คัสเดินเข้ามาด้วยสีหน้าคุกคามก็รีบเข้ามาขวางหน้าไว้ "คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามาทำแบบนี้ในบาร์ผม"มาร์คัสหยุดยืนอยู่ตรงหน้าคริส แล้วมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา "หลีกไปซะ ก่อนที่กูจะไม่มีความอดทน" น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำและเต็มไปด้วยอำนาจ จนคริสรู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมา"นี่มันไม่ใช่เรื่องของคุณ" คริสยืนกรานเสียงแข็งที่จะไม่ให้มาร์คัสเข้าใกล้อันนา"นี่คือเมียกู ของกู!" มาร์คัสตะโกนเสียงดังลั่น แล้วผลักคริสออกไปอย่างแรง จนเขาล้มลงไปกองกับพื้น อันนาที่ได้ยินคำว่า "เมีย" ก็ถึงกับน้ำตาไหลอาบแก้ม เธอส่ายหน้าไปมาอย่างเมามายด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์และบวกกับความเสียใจสติของอันนาเธอไม่อยู่กับร่องกับรอย"ฮึก...เมีย...ฮึก...คุณไม่เคยเห็นอันนาเป็น..เมีย..." อันนาพูดพึมพำด้วยความเจ็บปวดคำพูดของอั
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่มาร์คัส จะรู้ว่าอันนาหายออกไปจากคฤหาสน์ ..ในขณะเดียวกัน ที่คฤหาสน์หรูของมาร์คัส มาร์คัสที่เพิ่งจะกลับจากขับรถเล่นก็รู้สึกถึงความเงียบสงัดที่ผิดปกติป้าสมศรีที่มักจะคอยมารอรับมาร์คัสเป็นปกติทุกวันแต่วันนี้กลับดูมีบางอย่างพิรุธเปลี่ยนไปคือความเงียบสงบที่เงียบจนผิดปกติ"มีอะไรหรือเปล่าป้า อันนาล่ะนอนหรือยัง" มาร์คัสที่มาถึงก็ถามถึงอันนาเป็นคนแรกเพราะเขามีเรื่องให้คิดมากมายจนลืมโทรหาอันนาแต่พอกลับมาได้สติเขาก็รีบกลับมาที่คฤหาสน์เพราะเป็นห่วงร่างบาง"เออคือว่า.." ป้าสมศรีไม่กล้าแม้แต่จะเอื้อนเอ่ยว่าอันนาไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์ตั้งแต่ออกไปเรียนจนถึงเที่ยงคืนตอนนี้ก็ยังไม่ถึงที่คฤหาสน์"ป้ามีอะไรก็รีบพูดมาเถอะอ้ำอึ้งอยู่นั่นแหละฉันอยากไปพักผ่อน" มาร์คัสที่เห็นท่าทีของป้าสมศรีก็รู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย"ฉันถามว่าอันนาอยู่ที่ไหน.!" มาร์คัสเริ่มพูดเสียงเข้มขณะที่นางปูก็อยู่ด้านหลังยืนตัวสั่นพอได้ยินเสียงที่ดุเข้มของมาร์คัส"คุณหนูอันนา ตั้งแต่ออกไปเรียนจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมาเลยค่ะนายท่าน" ป้าสมศรีก็บอกความจริงออกไปตามตรง"ป้าว่าอะไรนะ.!" มาร์คัสที่ได้ยินว่าอันนาไม่ได้อยู่ท
อันนาในชุดราตรีสีดำที่เผยให้เห็นเรือนร่างเย้ายวนดูโดดเด่นสะดุดตา เธอไม่ได้ตั้งใจจะแต่งตัวให้เซ็กซี่ขนาดนี้ แต่พลอยกับสมหญิงเป็นคนจัดการให้ทั้งหมดตั้งแต่หัวจรดเท้า เมื่อเดินเข้ามาในผับ ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่เธอ อันนารู้สึกอึดอัด แต่ก็พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกนั้นไว้ภายใต้ท่าทีที่เย็นชาและไร้อารมณ์"เห็นไหมล่ะยัยอันนา บอกแล้วว่าแกสวย" สมหญิงที่เป็นสาวสอง แต่งตัวจัดเต็มไม่แพ้กันในชุดรัดรูปสีเงินเมทัลลิกวาววับ พูดขึ้นพร้อมกับส่งสายตาให้บรรดาหนุ่มๆ ที่จ้องมองมาอย่างสนุกสนานส่วนพลอยในชุดเดรสสีแดงเพลิงที่ทั้งสวยและร้อนแรง ก็ยิ้มกริ่มอย่างพอใจ "คืนนี้พวกเราต้องเป็นดาวเด่นของงาน!"แต่สำหรับอันนาแล้ว เธอไม่รู้สึกสนุกด้วยเลยสักนิด เธอเดินไปที่บาร์แล้วสั่งเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์แรงที่สุด บาร์เทนเดอร์ส่งแก้วให้พร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม แต่เธอไม่สนใจ เธอดื่มมันหมดแก้วอย่างรวดเร็วราวกับจะดับไฟในใจที่กำลังลุกโชน"อันนา... พอแล้ว" สมหญิงพยายามจะห้าม แต่ไม่ทัน เธอสั่งแก้วที่สองทันที"อยากให้ฉันลืมความเจ็บปวด ก็ต้องดื่มให้เมาไม่ใช่เหรอ" อันนาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาพลอยกับสมหญิงมองหน้ากันด้วยค
วันนี้อันนาจึงอยากจะดื่มให้ลืมความทุกข์ที่เธอได้รับชีวิตของเธอมันบัดซบมากพออยู่แล้วเงินที่ มาคัสให้ตลอดสี่เดือนเดือนละแสนมันมากพอสำหรับที่เธอจะตั้งตัวใหม่ได้เลยวันนี้เธอจึงตัดสินใจหยิบบางส่วนออกมาใช้ก็คงไม่ผิด"งั้นวันนี้ฉันเลี้ยงเองนะ" อันนาเผยรอยยิ้มแต่มันก็ยังคงดูเศร้าในสายตาของเพื่อนอยู่ดีสามสาวพากันนั่งรถแท็กซี่กลับไปที่บ้านของพลอยโดยที่อันนาไม่เดินทางกลับคฤหาสน์และมาร์คัสที่มัวแต่ยุ่งกับเรื่องของลลิสา ผู้หญิงที่เป็นคนส่งข้อความปริศนามาให้เขาจนลืมสั่งให้ราเชนทร์ตามติดมาดูอันนาส่วนราเชนก็ยุ่งกับงานใต้ดินของเจ้านายทุกคนต่างพากันลืมอันนาไปหมดมาร์คัสขับรถไปยังสถานที่นัดหมายที่ลลิสาเป็นคนบอกมา มันเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ที่เงียบสงบในซอยลึก ที่นี่เป็นสถานที่ที่พวกเขาชอบมานั่งกันบ่อยๆ สมัยยังเรียนมหาวิทยาลัย ภาพความทรงจำเก่าๆ ผุดขึ้นมาในหัวของมาร์คัสอย่างไม่ขาดสายเมื่อเดินเข้าไปในร้าน เขาก็เห็นลลิสานั่งรออยู่ที่โต๊ะมุมสุด เธอสวยเหมือนเดิม...หรืออาจจะสวยกว่าเดิมด้วยซ้ำ ลลิสายิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน"สวัสดีมาร์คัส"ลลิสาในชุดสีแดงเพลิงเหมือนแม่หม้ายกระดังงาลนไฟมาร์คัสเดินไปนั่งลงตรงข้ามเธอ "
เช้าวันนี้ที่คฤหาสน์หรูของมาร์คัส บรรยากาศดูอึมครึมไปหมด อันนาก้มหน้าก้มตาทานอาหารเช้าเหมือนคนอมทุกข์ ตลอดทั้งคืนเธอรู้สึกนอนไม่หลับ เพราะตอนนี้ในชีวิตของเธอเอาหัวใจไปผูกไว้ที่ข้อเท้าของผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าหนี้และสามีตีตราของเธอ“อันนามีอะไรหรือเปล่า” มาร์คัสพยายามพูดให้บรรยากาศทุกอย่างมันดีขึ้น ซึ่งเขาก็รู้ว่า เขาไม่จำเป็นต้องแคร์อันนาก็ได้ แต่ความรู้สึกของเขากลับไม่เป็นอย่างนั้น“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ” อันนาเงยหน้าขึ้นแล้วฝืนยิ้ม ใบหน้าที่ซีดเผือดเพราะนอนไม่หลับเกือบทั้งคืนจนร้องไห้ตาแดงบวม แม้จะถูกปกปิดด้วยเครื่องสำอาง แต่ก็ยังมองออก“ทำไมตาบวมขนาดนั้นล่ะอันนา” มาร์คัสสังเกตไปที่ดวงตาสวยที่บวมเปล่งแทบจะปิด“สงสัยเมื่อคืนอันนานอนดึกมั้งคะ นอนไม่หลับน่ะ” อันนาพูดออกไปด้วยท่าทีไม่ได้คิดอะไร เพราะในใจตอนนั้นกำลังจมดิ่งกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น“ทำไมนอนไม่หลับล่ะ คิดถึงฉันหรือไง” มาร์คัสพยายามพูดหยอกเย้าให้อันนาอารมณ์ดี“ค่ะ อันนาคิดถึงคุณมาร์คัส” อันนารับสารภาพออกมาตรง ๆ เพราะเธอก็คิดว่าไม่มีอะไรจะเสียหาย ในเมื่อเธอรู้สึกว่าเธอรักมาร์คัสเข้าให้แล้วมาร์คัสที่ได้ยินคำตอบก็ถึงกับไป







