Share

บทที่ 6

last update Last Updated: 2025-05-13 21:42:09

หวังลี่หมิงเดินเท้าเพื่อที่จะไปที่บ้านของผู้นำหมู่บ้านเพื่อที่จะติดต่อขอซื้อที่ดิน ระหว่างทางเจอชาวบ้านที่มองด้วยสายตารังเกียจ ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นสตรี เกอ และบุรุษวัยหนุ่ม ที่รังเกียจเขา  ส่วนผู้เฒ่าชราและชายวัยกลางคนนั้นล้วนปฏิบัติต่อเขาเสกเช่นคนปกติ

"นั่นมันไอ้คนอัปลักษณ์นี่นา"

"หน้าตาก็อัปลักษณ์เหตุใดจึงมาเดินเผ่นผ่านในหมู่บ้านให้เป็นที่รังเกียจเช่นนี้"

"อย่าไปใกล้มันเข้าล่ะ ประเดี๋ยวจะนำพาความโชคร้ายมาให้"

เสียงด่าทอก่นว่าหรือนินทาไม่ได้ทำให้หวังลี่หมิงเสียใจดังเช่นวันวาน กลับกันตอนนี้เขารู้สึกเฉยเมยต่อคำพูดของคนพวกนี้เสียด้วยซ้ำคงจะจริงดังที่ภรรยาของเขาว่า ทุกคนย่อมมีข้อเสียอยู่ในตัวเห็นทีข้อเสียของคนพวกนี้คือปากกระมัง

"ท่านป้าจางขอรับ  ท่านลุงจางอยู่บ้านหรือไม่ขอรับ" หวังลี่หมิงเอ่ยถามภรรยาของผู้นำหมู่บ้านที่นั่งอยู่

"เจ้ามีธุระอะไร" นางจางหวินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกระชากนางเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่รังเกียจหวังลี่หมิง

"ข้ามีธุระจะคุยกับท่านลุงจางน่ะขอรับ" หวังลี่หมิงเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม

"สามีข้าไม่ว่างพบเจ้าหรอก ไสหัวกลับไปซะอย่ามาเป็นเสนียดให้บ้านข้า" นางจางหวินพูดพร้อมกับเชิดหน้า

"แต่ว่าข้า...... "

"เอ๊ะ เจ้าฟังไม่รู้เรื่องหรืออย่างไร! " นางจางหวินกระแทกเสียงด้วยความโมโห

"เสียงดังอะไรกัน อ้าวลี่หมิง"  จางเหว่ยได้ยินเสียงดังของภรรยาจึงออกมาดูที่หน้าบ้าน ก็พบว่าหวังลี่หมิงยืนอยู่ที่หน้าบ้าน เท่านั้นเขาก็รู้ว่าแล้วว่าภรรยาด่ากราดผู้ใดได้แต่ถอนหายใจอย่างระอา ตัวเขาเป็นผู้นำหมู่บ้านปฏิบัติกับลูกบ้านอย่างเท่าเทียมกันทุกคน แต่ผู้ภรรยากลับไม่เป็นเช่นนั้น

"คาระวะท่านผู้นำหมู่บ้านขอรับ" หวังลี่หมิงคำนับจางเหว่ยทันที

"อืม เจ้ามีธุระอันใดกับข้ารึหรือเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับเจ้า" จางเหว่ยเอ่ยถามทันที

"มิได้ขอรับ ข้าเพียงแต่มาติดต่อซื้อที่ดินเท่านั้นขอรับ" หวังลี่หมินเอ่ยตอบ

"ได้ เจ้าเข้ามานั่งรอในบ้านก่อนเดี๋ยวข้าเอาโฉนดมาให้ดู" จางเหว่ยพยักหน้ารับพร้อมกับเอ่ยเชิญลูกบ้านมานั่งรอ

"ท่านพี่! " นางจางหวินเรียกสามีเสียงดัง นางไม่ต้องการให้หวังลี่หมิงเข้ามาในบ้าน

"หุบปาก เจ้าเข้าครัวไปทำอาหารได้แล้ว" จาวเหว่ยรีบเอ่ยไล่ภรรยาทันทีก่อนที่จะเสียงมารยาทกับลูกบ้านมากกว่านี้ นางจางหวินไม่กล้าขัดสามีจึงได้แต่สบัดหน้าเดินเข้าครัวไป

"ข้าต้องขออภัยแทนภรรยาข้าด้วยนะลี่หมิง" จางเหว่ยพูดอย่างละอาย

"มิเป็นไรขอรับ" หวังลี่หมิงไม่ได้ถือสาการกระทำของหญิงวัยกลางคนอยู่แล้ว

"เช่นนั้นเจ้ารอข้าสักประเดี๋ยว ข้าจะไปหยิบโฉนดมาให้เจ้าดู" จางเหว่ยเอ่ยบอก

"ขอรับ" หวังลี่หมิงตอบรับ ก่อนที่จางเหว่ยจะเดินหายเข้าไปในตัวบ้านแล้วกลับออกมาพร้อมกับโฉนดปึกนึง

"เจ้าต้องการที่ดินตรงไหนบ้าง" จางเหว่ยเอ่ยถาม

"ข้าต้องการที่ดินรอบๆบ้านของข้าขอรับ" หวังลี่หมิงเอ่ยตอบ

"ถ้าที่ดินรอบบ้านเจ้าก็มีตามนี้" จางเหว่ยนำโฉนดที่ดินจำนวน 70 หมู่ให้หวังลี่หมิงดู

"ข้าต้องการที่ดินทั้ง 70 หมู่ขอรับ" หวังลี่หมิงเอ่ยบอก

" 70 หมู่เลยหรือ นั่นมันเงิน 10 ตำลึงทองเชียวนะ! " จางเหว่ยเอ่ยอย่างตกใจ เขาไม่คิดว่าหวังลี่หมิงจะมีเงินมากมายเพียงนี้ นั่นมันเงินสิบตำลึงทองเชียวนะชาวบ้านธรรมดาอย่างพวกเขาต้องใช้เวลากี่ปีถึงจะได้จับเงินก้อนนี้

"ขอรับ ข้าต้องการซื้อมันทั้งหมด" หวังลี่หมิงยังยืนยันคำเดิม

"ได้ๆ แต่ที่ดินเยอะขนาดนี้ต้องไปทำเรื่องซื้อขายที่ที่ว่าการ เจ้าสะดวกวันไหนเล่า

" เช่นนั้นเอาเป็นโฮ่วเทียน (วันมะรืน) ก็แล้วกันขอรับ ตัวข้าต้องเข้าเมืองพอดี " หวังลี่หมิงเลือกวันที่พวกเขาจะไปรับสินค้าจะได้ไท่ต้องเทียวไปเทียวมาหลายรอบ

"ได้ๆ เจ้าจะเดินทางไปเองหรือไปเกวียนกับลุงเล่า" บ้านของจางเหว่ยเองก็มีเกวียนเช่นกัน

"ข้าไปเองขอรับ" หวังลี่หมิงเอ่ยตอบ

"เช่นนั้นก็ได้" จางเหว่ยพยักหน้าเข้าใจ

"เช่นนั้นข้าขอตัวลาก่อนนะขอรับ" หวังลี่หมิงคำนับผู้นำหมู่บ้านอีกครั้งก่อนจะเดินกลับบ้านของตน

 

"ท่านพี่กลับมาแล้วหรือขอรับ" หลี่เฟินหนิงได้ยินเสียงเดินเข้ามาในบ้านจึงหันไปดูพบว่าเป็นสามีของตน

"พี่กลับมาแล้ว เจ้าทำอันใดอยู่หรือกลิ่นหอมจริง" หวังลี่หมิงได้กลิ่นอาหารที่หอมก็พลันหิวขึ้นมาทันที ตั้งแต่ภรรยาคนนี้ฟื้นขึ้นมาเขารู้สึกว่าตนเองเจริญอาหารเป็นอย่างมาก

"ข้ากำลังย่างหมูปิ้งขอรับ นี่คือเมนูที่ข้าจะทำขาย ท่านพี่ลองชิมดูนะขอรับ" หลี่เฟินหนิงยื่นหมูปิ้งที่สุกแล้วให้สามีชิม

"รสชาติดียิ่งนัก" หวังลี่หมิงได้ชิมก็ตาเบิกกว้าง รสชาติหวาน เค็ม และกลิ่นหอมอบอวนอยู่ในปาก

"ยิ่งกินกับข้าวเหนียวยิ่งอร่อยนะขอรับ" หลี่เฟินหนิงนไข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้วมาให้สามีกินกับหมูปิ้ง

"จริงด้วย! กินกับข้าวเหนียวเข้ากันยิ่งนัก" หมูปิ้งนี่ยิ่งกินกับข้าวเหนียวยิ่งอร่อย หวังลี่หมิงรู้สึกถูกใจยิ่งนักจนกินไปหลายไม้เลยทีเดียว กว่าจะรู้ตัวว่าอิ่มแล้วก็รู้สึกจุกจนลุกไม่ไหว

"ท่านพี่ว่าหากทำขายจะขายได้หรือไม่ขอรับ" หลี่เฟินหนิงเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจ

"ได้แน่นอน หรือต่อให้ขายไม่ได้พี่จะกินมันทั้งหมดเอง" หวังลี่หมิงตอบอย่างมั่นใจ ขายไม่หมดก็ช่างสิของอร่อยขนาดนี้เขากินมันเองก็ได้

"ท่านพี่ก็" หลี่เฟินหนิงได้แต่หัวเราะน้อยๆให้สามีที่นับวันยิ่งดูเหมือนว่าจะเห็นแก่กินมากยิ่งขึ้น

 

สองวันต่อมาหวังลี่หมิงและหลี่เฟินหนิงก็เดินทางมาที่ว่าการตามที่ได้นัดหมายผู้นำหมู่บ้านไว้ พอมาถึงก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาสอบถามหวังลี่หมิงจึงได้บอกจุดประสงค์ไปเจ้าหน้าที่ก็พาพวกเขาทั้งสามคนไปที่ห้องสำหรับจัดซื้อที่ดินโดยทันที สร้างความประทับใจให้แก่หลี่เฟินหนิงเป็นอย่างมาก

"พวกเจ้ามาทำอันใดกันหรือ" เจ้าหน้าที่ ที่อยู่ในห้องเอ่ยถาม

"ข้ามีนามว่า จางเหว่ย เป็นผู้นำหมู่บ้านของหมู่บ้านเซียนซาน ลูกบ้านของข้ามีความประสงค์ที่จะซื้อที่ดินแต่เป็นการซื้อจำนวนมากข้าจึงพาพวกเขามาติดต่อซื้อที่นี่ขอรับนายท่าน" จางเหว่ย บอกจุดประสงค์ให้แก่เจ้าหน้าที่ได้ฟัง

"เช่นนั้นเชิญพวกเจ้านั่งลงก่อน" เจ้าหน้าที่เชิญให้ทั้งสามคนนั่งลงก่อนที่จะซักถามต่อ

"เจ้าต้องการที่ดินตรงที่ใด"

"ข้าต้องการซื้อที่ดินจำนวน 70 หมู่ที่อยู่ติดกับบ้านของข้าขอรับ" หวังลี่หมิงเอ่ยตอบ

"เช่นนั้นเจ้าลงชื่อพร้อมทั้งประทับลายนิ้วมือบนนี้แล้วให้ผู้นำหมู่บ้านลงชื่อเป็นพยาน" เจ้าหน้าที่เอ่ยบอก

"เอ่อนายท่านขอรับ ถ้าหากว่าข้าต้องการให้ชื่อเจ้าของที่ดินเป็นชื่อของภรรยาข้าล่ะขอรับ" หวังลี่หมิงเอ่ยถาม

"ท่านพี่" หลี่เฟินหนิงเรียกสามีเสียงเบาเดิมทีเขาจะให้ชื่อเจ้าของที่ดินเป็นชื่อของหวังลี่หมิงอยู่แล้ว

"เช่นนั้นก็ให้ภรรยาของเจ้าลงนามและประทับลายนิ้วมือ" เจ้าหน้าที่เอ่ยบอกพลางคิดว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ดูท่าจะรักภรรยามาก  โดยทั่วไปแล้วไม่มีหรอกที่จะซื้อบ้านหรือที่ดินเป็นของภรรยา

ใช้เวลาหนึ่งชั่วยามการซื้อขายก็เสร็จเรียบร้อย หวังลี่หมิงกับหลี่เฟินหนิงจึงขอตัวแยกกับผู้นำหมู่บ้านโดยก่อนจะไปได้มอบเงินสินน้ำใจให้ผู้นำหมู่บ้านจำนวนหนึ่ง จากนั้นสองสามีภรรยาจึงเดินทางมาที่ร้านตีเหล็ก

"เถ้าแก่ขอรับ ข้ามารับของที่สั่งทำไว้ขอรับ" หลี่เฟินหนิงเอ่ยบอกเถ้าแก่เจ้าสองร้าน

"เจ้าสองคนเองหรอกรึ  ของที่เจ้าสั่งทำเสร็จแล้วดูเอาเถิดว่าตรงตามที่เจ้าต้องการหรือไม่" เถ้าแก้ร้านพยักพเยิดไปตรงเตาสำหรับย่างที่หลี่เฟินหนิงสั่งทำ

"ถูกต้องเลยขอรับ" หลี่เฟินหนิงหลังจากตรวจสอบสินค้าแล้วก็พยักหน้าพอใจ

"เจ้าจะเริ่มขายเมื่อไหร่เล่า" เถ้าแก่ร้านเอ่ยถามเมื่อรู้ว่าสองสามีภรรยามาสั่งสินค้าเพื่อไปเป็นอุปกรณ์ค้าขาย

"วันพรุ่งนี้ขอรับเถ้าแก่  ฝากเถ้าแก่อุดหนุนด้วยนะขอรับ" หลี่เฟินหนิงเอ่ยตอบ

"ได้ๆ ข้าจะไปอุดหนุนเจ้าแน่ๆ" เถ้าแก่ร้านรับปาก

"เช่นนั้นข้าสองคนขอตัวลาก่อนนะขอรับ" หลี่เฟินหนิงกับหวังลี่หมิงคำนับเถ้าแก่ก่อนจะพากันหันหลังเดินกลับเกวียนแล้วขับออกไปทิ้งให้เถ้าแก่เจ้าของร้านมองตามหลัง หนึ่งเกอรูปร่างหน้าตางดงามกับหนึ่งบุรุษที่มีปานสีดำขนาดใหญ่เกือบครึ่งหน้าในสายตาของหลายคนอาจจะมองว่าทั้งคู่ไม่เหมาะสมกัน หากแต่ในสายตาของเถ้าแก่ผู้ผ่านโลกมามากเขานั้นมองว่าหน้าตานั้นไหนเลยจะสำคัญเท่าความจริงใจ บนโลกนี้จะหาผู้คนที่หน้าตางดงามหรือหล่อเหลาทั่วหล้านี้ย่อมมีมากมายแต่ผู้ที่จริงใจร่วมทุกข์ร่วมสุขจะมีกันสักกี่คน

 

 

​​​​​​ยังไม่ได้แก้คำผิดน้า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ผู้ใดก็บอกว่าสามีของข้านั้นอัปลักษณ์   บทที่ 35 (จบ)

    วันต่อมาเฝิงลี่หมิงก็ยังมีอาการเช่นเดิม แต่เซียวเฟินหนิงเองก็รู้สึกว่าร่างกายตัวเองไม่ปกติเขารู้สึกว่าตัวเองอ่อนเพลียและง่วงงุนอยู่ตลอดเวลา จะว่าพักผ่อนน้อยก็ไม่น่าใช่เพราะเมื่อวานตนกับสามีก็พักผ่อนกันอย่างเต็มที่ "ท่านพี่ไหวหรือไม่ขอรับ" เซียวเฟินหนิงเอ่ยถามสามีที่มีใบหน้าซีดเซียวจากการลุกขึ้นมาอาเจียนตั้งแต่เช้า"หนิงเออร์~" เฝิงลี่หมิงรีบเข้าไปสวมกอดภรรยาอย่างออดอ้อนทันที"เป็นเยี่ยงไรบ้างขอรับ" "พี่รู้สึกพะอืดพะอมและเวียนหัว" เฝิงลี่หมิงเอ่ยตอบภรรยาพลางซุกไปที่ลำคอขาวเพื่อสูดดมกลิ่นกายของคนรัก"เช่นนั้นข้าจะพาท่านพี่ไปหาหมอดีหรือไม่ขอรับ" เซียวเฟินหนิงเอ่ยถามสามีแต่อีกฝ่ายเอาแต่ส่ายหน้า"ไม่เอา แค่กอดเจ้าอยู่แบบนี้พี่ก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว" เฝิงลี่หมิงเอ่ยตอบ"ท่านพี่รอสักประเดี๋ยวนะขอรับ" เซียวเฟินหนิงคิดบางอย่างได้เกี่ยวกับอาการของผู้เป็นสามีประกอบกับอาการอ่อนเพลียและง่วงงุนของตนก็รู้สึกตื่นเต้นทันที"เจ้าจะไปที่ใด" เฝิงลี่หมิงเอ่ยถามพลางช้อนตามองภรรยา"ข้าจะเข้าไปในมิติท่านเทพขอรับ ข้าคิดว่าพอจะรู้สาเหตุการป่วยของท่านพี่แล้วเพียงแต่ต้องพิสูจน์ให้แน่ใจก่อนว่าสิ่งที่ข้าคิดนั้นถ

  • ผู้ใดก็บอกว่าสามีของข้านั้นอัปลักษณ์   บทที่ 34

    เหลาอาหารซูเหอเปิดได้ไม่นานก็เต็มไปด้วยบรรดาลูกค้าเต็มร้านด้วยว่าราคาอาหารเป็นที่จับต้องได้ทุกชนชั้นและที่เหลาอาหารมีกฎสำคัญที่ว่าลูกค้าทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นขุนนาง เศรษฐีหรือว่าคนธรรมดาก็คือลูกค้าเหมือนกันและจะต้องถูกปฏิบัติเหมือนกัน นั่นจึงทำให้เหลาอาหารแห่งนี้เป็นที่ชื่นชอบของคนทุกชนชั้นและสร้างความอิจฉาให้แก่คนที่ทำกิจการเดียวกัน"เสี่ยวเออร์ ข้าขอต้มยำกุ้ง กุ้งผัดพริกเกลือ ปลาผัดฉ่า" "ได้ขอรับ""เสี่ยวเออร์ ของข้าขอปลานึ่งมะนาว ปลา สามรส หมึกผัดไข่เค็ม""ได้ขอรับ""ข้าเอาต้มยำหัวปลา ต้มยำกุ้ง หมูมะนาว แล้วก็น้ำชา"เสียงสั่งอาหารเซ็งแซ่พร้อมกับบรรดาเสี่ยวเออร์ที่วิ่งสุ่นสร้างความคึกคักให้แก่เหลาอาหารซูเหอไม่น้อย ลูกค้าหลายคนต่างตื่นตาตื่นใจกับอาหารของร้านที่ไม่เคยเห็นอีกทั้งรสชาติยังอร่อยจัดจ้านทำให้แต่ละวันเหลาอาหารซูเหอทำกำไรได้หลายร้อนตำลึงเลยทีเดียว"ลูกค้ามีการตำหนิอันใดมาบ้างหรือไม่" เฝิงลี่หมิงเอ่ยถามหลงจู๊ร้าน"ไม่มีขอรับ ลูกค้าต่างชื่นชมว่าเหลาอาหารของเรารสชาติดียิ่งนักขอรับ" หลงจู๊ร้านเอ่ยตอบ"ดี หากลูกค้ามีสิ่งใดต้องการให้ปรับปรุงต้องรีบแจ้งข้าหรือฮูหยิน

  • ผู้ใดก็บอกว่าสามีของข้านั้นอัปลักษณ์   บทที่ 33

    เมืองหลวงแคว้นเป่ยหลี่"หนิงเออร์ส่งจดหมายมาว่าเยี่ยงไรบ้าง" โอรสสวรรค์ตรัสถามพระอนุชาร่วมอุทร"ทูลฝ่าบาท หนิงเออร์บอกว่าเมื่อไม่นานมานี้มีการปล้นเสบียงเกิดขึ้นที่เมืองซานหลาง ตอนนี้ทางฝั่งหนิงเออร์จับโจรเหล่านั้นได้แล้วเจ้าเมืองเฝิงคงหรันได้ทำการไต่สวนพวกโจรต่างสารภาพว่าถูกจ้างและข่มขู่มาจากบุคคลนิรนามให้ออกปล้นชาวเมืองเพื่อสร้างความปั่นป่วนและลอบสังหารองค์ชายหกและท่านชายเฝิงเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจว่าทั้งสองสิ้นพระชนม์จากการถูกปล้นพะยะค่ะ" ชินอ๋องทูลรายงานด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"ทางนั้นคงเริ่มแล้ว" โอรสสวรรค์ตรัสพลางถอนหายใจ"กระหม่อมคาดว่าพวกเขาจะลงมือในงานเทศกาลล่าสัตว์ที่จะถึงนี้พะยะค่ะ" ชินอ๋องทูลสิ่งที่ตนเองคิด"เจิ้นก็คิดว่าเป็นเช่นนั้น" โอรสสวรรค์ตรัสอย่างเห็นด้วย งานเทศกาลล่าสัตว์เป็นช่วงที่มือสังหารแฝงตัวมาได้ง่ายเพราะต่างก็มีหลายคนเข้าร่วม"กระหม่อมจะเพิ่มจำนวนองครักษ์เงาให้เฝ้าระวังพะยะค่ะ" "อืม อย่าลืมส่งไปอารักขาไทเฮาและฮองเฮา" "พะยะค่ะ เอ่อ หนิงเออร์ส่งของมาให้ฝั่งเราด้วยพะยะค่ะ" ชินอ๋องเอ่ยทูลเมื่อนึกขึ้นได้ว่านอกจากจดหมายแล้วยังมีหีบขนาดใหญ่หลายหีบ"คือสิ่งใดหรือ" ฮ

  • ผู้ใดก็บอกว่าสามีของข้านั้นอัปลักษณ์   บทที่ 32

    กลางดึกสงัดท่ามกลางความเงียบในหมู่บ้านแห่งหนึ่งมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนซึ่งแต่งกายมิดชิดปกปิดใบหน้าย่องมาที่บ้านหลังหนึ่งท้ายหมู่บ้านอย่างเงียบเชียบเพียงแต่ไม่ได้ทำอะไรก็ล่าถอยไปรุ่งเช้าวันใหม่สองสามีภรรยาตื่นขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อทำกิจวัตรประจำวัน เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้วสองสามีภรรยาก็พากันเดินขึ้นรถม้าเพื่อเดินทางไปยังตัวเมือง รถม้าคันงามมาจอดที่หน้าจวนของท่านเจ้าเมืองบ่าวเฝ้าประตูก็รีบเปิดให้เข้าไปทันที"คาระวะท่านพ่อท่านแม่ขอรับ" เฝิงลี่หมิงกับเซียวเฟินหนิงคำนับ"ได้ยินว่าพวกเจ้าสองคนสามารถหาแหล่งน้ำได้" เฝิงคงหรันเอ่ยถาม"ขอรับ ข้าสองคนได้ซื้อเครื่องมือจากชาวตาสีฟ้ามันสามารถหาแหล่งน้ำใต้ดินได้ขอรับ" เซียวเฟินหนิงเลือกที่จะโกหกออกไปเช่นนั้น เพราะคนในยุคนี้มักจะตื่นตาตื่นใจกับสินค้าของชาวต่างชาติอยู่แล้ว"ข้าเคยได้ยินว่าพวกชาวตาสีฟ้ามักจะมีของแปลกประหลาดมาขายและใช้งานได้ดี เห็นทีคงจะเป็นเรื่องจริง" เฝิงคงหรันพูดอย่างตื่นเต้น"อย่าเพิ่งให้ใครรู้เรื่องเครื่องมือนี้นะขอรับ ให้คนของเราที่ไว้ใจได้เป็นผู้ที่ใช้สิ่งนี้หาแหล่งน้ำโดยไม่ให้ผู้อื่นรู้ หลังจากที่หาแหล่งน้ำให้ชาวเมือ

  • ผู้ใดก็บอกว่าสามีของข้านั้นอัปลักษณ์   บทที่ 31

    หลังจากพูดคุยกับชาวบ้านเสร็จสองสามีภรรยาก็พากันเดินกลับมาที่บ้านของตน ดูเหมือนว่าปัญหาครั้งนี้ใหญ่เกินไปยากที่จะแก้ไข เขาไม่สามารถทำฝนเทียมได้เหมือนยุคที่เขากลับมา เฮ้อ~"อย่ากังวล" เฝิงลี่หมิงลูบหัวภรรยาที่นั่งถอนหายใจ"ข้าไม่รู้ว่าช่วยพวกเขาอย่างไรดี" เซียวเฟินหนิงเอ่ย ไม่รู้ว่าในมิติจะมีของที่ช่วยแก้ปัญหาได้หรือเปล่า"ช่วยเท่าที่ช่วยได้ก็พอแล้ว มันมิใช่หน้าที่ของเจ้าด้วยซ้ำที่ต้องแก้ปัญหา" เฝิงลี่หมิงเอ่ยบอกภรรยา เขาไม่ชอบที่ภรรยาของเขามีเรื่องกังวลใจ"ปัญหาครั้งนี้หนักหนานัก ท่านพ่อคงกังวลใจไม่น้อย ทางวังหลวงเองก็มีเรื่องวุ่นวายข้าเกรงว่าหากปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขโดยเร็วอาจจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น" หากขาดแคลนน้ำและอาหารผู้คนคงล้มตายเป็นจำนวนมากแน่"เราไม่สามารถช่วยได้ทุกคนหรอกนะหนิงเออร์ หากว่ามีการสูญเสียเกอดขึ้นมันก็ไม่ใช่ความผิดของเจ้า" เฝิงลี่หมิงกุมมือคนรัก"ข้ารู้ขอรับ เพียงแต่ข้านั้นมีมิติวิเศษติดตัวข้าคิดว่าในมิติอาจจะมีของวิเศษที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้" เซียวเฟินหนิงเอ่ยกับสามี"ปล่อยให้ทางการแก้ปัญหาก่อนเถิด หากพวกเขาทำไม่ได้จริงๆเราค่อยหาวิธีช่วยเหลือ บอกตามตรงว่า

  • ผู้ใดก็บอกว่าสามีของข้านั้นอัปลักษณ์   บทที่ 30

    "องค์ชายหก ท่านชาย ได้โปรดลงโทษกระหม่อมด้วยพะยะค่ะ""ท่านพ่อ อย่าทำเยี่ยงนี้ขอรับ" เฝิงลี่หมิงกับเซียวเฟินหนิงรีบเข้าไปพยุงเฝิงคงหรันให้ลุกขึ้น"พ่อละเลยหน้าที่ปล่อยให้นายอำเภอยักยอกเสบียง หากเจ้าสองคนไม่ไปเจอเหล่าผู้อพยพคงพากันอดตายเป็นแน่" เฝิงคงหรันพูดอย่างรู้สึกผิด"เรื่องนี้มิใช่ความผิดของท่านพ่อนะขอรับ เราทุกคนต่างรู้ว่าท่านพ่อทำงานหนักทุกวันออกหาซื้อเสบียงมาช่วยเหลือทุกคน หากจะมีคนผิดก็คือนายอำเภอที่โลภมากผู้นั้น" เซียวเฟินหนิงเอ่ย"หนิงเออร์พูดถูกขอรับ คนชั่วช้าผู้นั้นต่างหากที่ผิด" เฝิงลี่หมิงเอ่ยบ้าง"ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แต่หากว่าพ่อตรวจสอบให้ดีกว่านี้..." "มิมีผู้ใดไม่เคยผิดพลาดขอรับ ตอนนี้ท่านพ่อได้สั่งลงโทษคนผิดแล้วตอนนี้เราควรเอาเวลาไปคิดว่าจะช่วยเหลือผู้อพยพอย่างไรต่อดีกว่าขอรับ" เซียวเฟินหนิงเอ่ยตัดบท ตอนนี้ชีวิตของผู้คนย่อมมาก่อน"เช่นนั้นเราก็ไปคุยกันที่จวนเถิด" เฝิงคงหรันเอ่ยบอก ทั้งสามคนจึงเดินทางไปที่จวนเพื่อพูดคุยหารือกันจวนท่านเจ้าเมือง"ตอนนี้เสบียงของพวกเจ้ามีมากน้อยเพียงใด" เฝิงคงหรันเอ่ยถามบุตรชายและลูกสะใภ้"มีมากพอจะให้ผู้อพยพได้กิน 3-4 เดือนขอรับ แต่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status