Share

บทที่ 6

last update Last Updated: 2025-05-13 21:42:09

หวังลี่หมิงเดินเท้าเพื่อที่จะไปที่บ้านของผู้นำหมู่บ้านเพื่อที่จะติดต่อขอซื้อที่ดิน ระหว่างทางเจอชาวบ้านที่มองด้วยสายตารังเกียจ ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นสตรี เกอ และบุรุษวัยหนุ่ม ที่รังเกียจเขา  ส่วนผู้เฒ่าชราและชายวัยกลางคนนั้นล้วนปฏิบัติต่อเขาเสกเช่นคนปกติ

"นั่นมันไอ้คนอัปลักษณ์นี่นา"

"หน้าตาก็อัปลักษณ์เหตุใดจึงมาเดินเผ่นผ่านในหมู่บ้านให้เป็นที่รังเกียจเช่นนี้"

"อย่าไปใกล้มันเข้าล่ะ ประเดี๋ยวจะนำพาความโชคร้ายมาให้"

เสียงด่าทอก่นว่าหรือนินทาไม่ได้ทำให้หวังลี่หมิงเสียใจดังเช่นวันวาน กลับกันตอนนี้เขารู้สึกเฉยเมยต่อคำพูดของคนพวกนี้เสียด้วยซ้ำคงจะจริงดังที่ภรรยาของเขาว่า ทุกคนย่อมมีข้อเสียอยู่ในตัวเห็นทีข้อเสียของคนพวกนี้คือปากกระมัง

"ท่านป้าจางขอรับ  ท่านลุงจางอยู่บ้านหรือไม่ขอรับ" หวังลี่หมิงเอ่ยถามภรรยาของผู้นำหมู่บ้านที่นั่งอยู่

"เจ้ามีธุระอะไร" นางจางหวินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกระชากนางเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่รังเกียจหวังลี่หมิง

"ข้ามีธุระจะคุยกับท่านลุงจางน่ะขอรับ" หวังลี่หมิงเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม

"สามีข้าไม่ว่างพบเจ้าหรอก ไสหัวกลับไปซะอย่ามาเป็นเสนียดให้บ้านข้า" นางจางหวินพูดพร้อมกับเชิดหน้า

"แต่ว่าข้า...... "

"เอ๊ะ เจ้าฟังไม่รู้เรื่องหรืออย่างไร! " นางจางหวินกระแทกเสียงด้วยความโมโห

"เสียงดังอะไรกัน อ้าวลี่หมิง"  จางเหว่ยได้ยินเสียงดังของภรรยาจึงออกมาดูที่หน้าบ้าน ก็พบว่าหวังลี่หมิงยืนอยู่ที่หน้าบ้าน เท่านั้นเขาก็รู้ว่าแล้วว่าภรรยาด่ากราดผู้ใดได้แต่ถอนหายใจอย่างระอา ตัวเขาเป็นผู้นำหมู่บ้านปฏิบัติกับลูกบ้านอย่างเท่าเทียมกันทุกคน แต่ผู้ภรรยากลับไม่เป็นเช่นนั้น

"คาระวะท่านผู้นำหมู่บ้านขอรับ" หวังลี่หมิงคำนับจางเหว่ยทันที

"อืม เจ้ามีธุระอันใดกับข้ารึหรือเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับเจ้า" จางเหว่ยเอ่ยถามทันที

"มิได้ขอรับ ข้าเพียงแต่มาติดต่อซื้อที่ดินเท่านั้นขอรับ" หวังลี่หมินเอ่ยตอบ

"ได้ เจ้าเข้ามานั่งรอในบ้านก่อนเดี๋ยวข้าเอาโฉนดมาให้ดู" จางเหว่ยพยักหน้ารับพร้อมกับเอ่ยเชิญลูกบ้านมานั่งรอ

"ท่านพี่! " นางจางหวินเรียกสามีเสียงดัง นางไม่ต้องการให้หวังลี่หมิงเข้ามาในบ้าน

"หุบปาก เจ้าเข้าครัวไปทำอาหารได้แล้ว" จาวเหว่ยรีบเอ่ยไล่ภรรยาทันทีก่อนที่จะเสียงมารยาทกับลูกบ้านมากกว่านี้ นางจางหวินไม่กล้าขัดสามีจึงได้แต่สบัดหน้าเดินเข้าครัวไป

"ข้าต้องขออภัยแทนภรรยาข้าด้วยนะลี่หมิง" จางเหว่ยพูดอย่างละอาย

"มิเป็นไรขอรับ" หวังลี่หมิงไม่ได้ถือสาการกระทำของหญิงวัยกลางคนอยู่แล้ว

"เช่นนั้นเจ้ารอข้าสักประเดี๋ยว ข้าจะไปหยิบโฉนดมาให้เจ้าดู" จางเหว่ยเอ่ยบอก

"ขอรับ" หวังลี่หมิงตอบรับ ก่อนที่จางเหว่ยจะเดินหายเข้าไปในตัวบ้านแล้วกลับออกมาพร้อมกับโฉนดปึกนึง

"เจ้าต้องการที่ดินตรงไหนบ้าง" จางเหว่ยเอ่ยถาม

"ข้าต้องการที่ดินรอบๆบ้านของข้าขอรับ" หวังลี่หมิงเอ่ยตอบ

"ถ้าที่ดินรอบบ้านเจ้าก็มีตามนี้" จางเหว่ยนำโฉนดที่ดินจำนวน 70 หมู่ให้หวังลี่หมิงดู

"ข้าต้องการที่ดินทั้ง 70 หมู่ขอรับ" หวังลี่หมิงเอ่ยบอก

" 70 หมู่เลยหรือ นั่นมันเงิน 10 ตำลึงทองเชียวนะ! " จางเหว่ยเอ่ยอย่างตกใจ เขาไม่คิดว่าหวังลี่หมิงจะมีเงินมากมายเพียงนี้ นั่นมันเงินสิบตำลึงทองเชียวนะชาวบ้านธรรมดาอย่างพวกเขาต้องใช้เวลากี่ปีถึงจะได้จับเงินก้อนนี้

"ขอรับ ข้าต้องการซื้อมันทั้งหมด" หวังลี่หมิงยังยืนยันคำเดิม

"ได้ๆ แต่ที่ดินเยอะขนาดนี้ต้องไปทำเรื่องซื้อขายที่ที่ว่าการ เจ้าสะดวกวันไหนเล่า

" เช่นนั้นเอาเป็นโฮ่วเทียน (วันมะรืน) ก็แล้วกันขอรับ ตัวข้าต้องเข้าเมืองพอดี " หวังลี่หมิงเลือกวันที่พวกเขาจะไปรับสินค้าจะได้ไท่ต้องเทียวไปเทียวมาหลายรอบ

"ได้ๆ เจ้าจะเดินทางไปเองหรือไปเกวียนกับลุงเล่า" บ้านของจางเหว่ยเองก็มีเกวียนเช่นกัน

"ข้าไปเองขอรับ" หวังลี่หมิงเอ่ยตอบ

"เช่นนั้นก็ได้" จางเหว่ยพยักหน้าเข้าใจ

"เช่นนั้นข้าขอตัวลาก่อนนะขอรับ" หวังลี่หมิงคำนับผู้นำหมู่บ้านอีกครั้งก่อนจะเดินกลับบ้านของตน

 

"ท่านพี่กลับมาแล้วหรือขอรับ" หลี่เฟินหนิงได้ยินเสียงเดินเข้ามาในบ้านจึงหันไปดูพบว่าเป็นสามีของตน

"พี่กลับมาแล้ว เจ้าทำอันใดอยู่หรือกลิ่นหอมจริง" หวังลี่หมิงได้กลิ่นอาหารที่หอมก็พลันหิวขึ้นมาทันที ตั้งแต่ภรรยาคนนี้ฟื้นขึ้นมาเขารู้สึกว่าตนเองเจริญอาหารเป็นอย่างมาก

"ข้ากำลังย่างหมูปิ้งขอรับ นี่คือเมนูที่ข้าจะทำขาย ท่านพี่ลองชิมดูนะขอรับ" หลี่เฟินหนิงยื่นหมูปิ้งที่สุกแล้วให้สามีชิม

"รสชาติดียิ่งนัก" หวังลี่หมิงได้ชิมก็ตาเบิกกว้าง รสชาติหวาน เค็ม และกลิ่นหอมอบอวนอยู่ในปาก

"ยิ่งกินกับข้าวเหนียวยิ่งอร่อยนะขอรับ" หลี่เฟินหนิงนไข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้วมาให้สามีกินกับหมูปิ้ง

"จริงด้วย! กินกับข้าวเหนียวเข้ากันยิ่งนัก" หมูปิ้งนี่ยิ่งกินกับข้าวเหนียวยิ่งอร่อย หวังลี่หมิงรู้สึกถูกใจยิ่งนักจนกินไปหลายไม้เลยทีเดียว กว่าจะรู้ตัวว่าอิ่มแล้วก็รู้สึกจุกจนลุกไม่ไหว

"ท่านพี่ว่าหากทำขายจะขายได้หรือไม่ขอรับ" หลี่เฟินหนิงเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจ

"ได้แน่นอน หรือต่อให้ขายไม่ได้พี่จะกินมันทั้งหมดเอง" หวังลี่หมิงตอบอย่างมั่นใจ ขายไม่หมดก็ช่างสิของอร่อยขนาดนี้เขากินมันเองก็ได้

"ท่านพี่ก็" หลี่เฟินหนิงได้แต่หัวเราะน้อยๆให้สามีที่นับวันยิ่งดูเหมือนว่าจะเห็นแก่กินมากยิ่งขึ้น

 

สองวันต่อมาหวังลี่หมิงและหลี่เฟินหนิงก็เดินทางมาที่ว่าการตามที่ได้นัดหมายผู้นำหมู่บ้านไว้ พอมาถึงก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาสอบถามหวังลี่หมิงจึงได้บอกจุดประสงค์ไปเจ้าหน้าที่ก็พาพวกเขาทั้งสามคนไปที่ห้องสำหรับจัดซื้อที่ดินโดยทันที สร้างความประทับใจให้แก่หลี่เฟินหนิงเป็นอย่างมาก

"พวกเจ้ามาทำอันใดกันหรือ" เจ้าหน้าที่ ที่อยู่ในห้องเอ่ยถาม

"ข้ามีนามว่า จางเหว่ย เป็นผู้นำหมู่บ้านของหมู่บ้านเซียนซาน ลูกบ้านของข้ามีความประสงค์ที่จะซื้อที่ดินแต่เป็นการซื้อจำนวนมากข้าจึงพาพวกเขามาติดต่อซื้อที่นี่ขอรับนายท่าน" จางเหว่ย บอกจุดประสงค์ให้แก่เจ้าหน้าที่ได้ฟัง

"เช่นนั้นเชิญพวกเจ้านั่งลงก่อน" เจ้าหน้าที่เชิญให้ทั้งสามคนนั่งลงก่อนที่จะซักถามต่อ

"เจ้าต้องการที่ดินตรงที่ใด"

"ข้าต้องการซื้อที่ดินจำนวน 70 หมู่ที่อยู่ติดกับบ้านของข้าขอรับ" หวังลี่หมิงเอ่ยตอบ

"เช่นนั้นเจ้าลงชื่อพร้อมทั้งประทับลายนิ้วมือบนนี้แล้วให้ผู้นำหมู่บ้านลงชื่อเป็นพยาน" เจ้าหน้าที่เอ่ยบอก

"เอ่อนายท่านขอรับ ถ้าหากว่าข้าต้องการให้ชื่อเจ้าของที่ดินเป็นชื่อของภรรยาข้าล่ะขอรับ" หวังลี่หมิงเอ่ยถาม

"ท่านพี่" หลี่เฟินหนิงเรียกสามีเสียงเบาเดิมทีเขาจะให้ชื่อเจ้าของที่ดินเป็นชื่อของหวังลี่หมิงอยู่แล้ว

"เช่นนั้นก็ให้ภรรยาของเจ้าลงนามและประทับลายนิ้วมือ" เจ้าหน้าที่เอ่ยบอกพลางคิดว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ดูท่าจะรักภรรยามาก  โดยทั่วไปแล้วไม่มีหรอกที่จะซื้อบ้านหรือที่ดินเป็นของภรรยา

ใช้เวลาหนึ่งชั่วยามการซื้อขายก็เสร็จเรียบร้อย หวังลี่หมิงกับหลี่เฟินหนิงจึงขอตัวแยกกับผู้นำหมู่บ้านโดยก่อนจะไปได้มอบเงินสินน้ำใจให้ผู้นำหมู่บ้านจำนวนหนึ่ง จากนั้นสองสามีภรรยาจึงเดินทางมาที่ร้านตีเหล็ก

"เถ้าแก่ขอรับ ข้ามารับของที่สั่งทำไว้ขอรับ" หลี่เฟินหนิงเอ่ยบอกเถ้าแก่เจ้าสองร้าน

"เจ้าสองคนเองหรอกรึ  ของที่เจ้าสั่งทำเสร็จแล้วดูเอาเถิดว่าตรงตามที่เจ้าต้องการหรือไม่" เถ้าแก้ร้านพยักพเยิดไปตรงเตาสำหรับย่างที่หลี่เฟินหนิงสั่งทำ

"ถูกต้องเลยขอรับ" หลี่เฟินหนิงหลังจากตรวจสอบสินค้าแล้วก็พยักหน้าพอใจ

"เจ้าจะเริ่มขายเมื่อไหร่เล่า" เถ้าแก่ร้านเอ่ยถามเมื่อรู้ว่าสองสามีภรรยามาสั่งสินค้าเพื่อไปเป็นอุปกรณ์ค้าขาย

"วันพรุ่งนี้ขอรับเถ้าแก่  ฝากเถ้าแก่อุดหนุนด้วยนะขอรับ" หลี่เฟินหนิงเอ่ยตอบ

"ได้ๆ ข้าจะไปอุดหนุนเจ้าแน่ๆ" เถ้าแก่ร้านรับปาก

"เช่นนั้นข้าสองคนขอตัวลาก่อนนะขอรับ" หลี่เฟินหนิงกับหวังลี่หมิงคำนับเถ้าแก่ก่อนจะพากันหันหลังเดินกลับเกวียนแล้วขับออกไปทิ้งให้เถ้าแก่เจ้าของร้านมองตามหลัง หนึ่งเกอรูปร่างหน้าตางดงามกับหนึ่งบุรุษที่มีปานสีดำขนาดใหญ่เกือบครึ่งหน้าในสายตาของหลายคนอาจจะมองว่าทั้งคู่ไม่เหมาะสมกัน หากแต่ในสายตาของเถ้าแก่ผู้ผ่านโลกมามากเขานั้นมองว่าหน้าตานั้นไหนเลยจะสำคัญเท่าความจริงใจ บนโลกนี้จะหาผู้คนที่หน้าตางดงามหรือหล่อเหลาทั่วหล้านี้ย่อมมีมากมายแต่ผู้ที่จริงใจร่วมทุกข์ร่วมสุขจะมีกันสักกี่คน

 

 

​​​​​​ยังไม่ได้แก้คำผิดน้า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ผู้ใดก็บอกว่าสามีของข้านั้นอัปลักษณ์   บทที่ 25

    เฝิงลี่หมิงกับเซียวเฟินหนิงถูกพามาที่ตำหนักเยว่ซินที่ฮ่องเต้ได้พระราชทานให้ ตัวตำหนักค่อนข้างกว้างขวางกว่าตำหนักของเหล่าสนมเสียอีก ภายในประดับด้วยของล้ำค่างดงามวิจิตร ภายนอกร่มรื่นด้วยไม้นานาพันธุ์และหลากสีสันด้วยดอกไม้หากยาก อีกทั้งมีลำธารน้ำจำลองพร้อมกับสะพานข้ามเล็กๆอยู่ นับว่าเป็นตำหนักที่งดงามมากเลยทีเดียว หน้าตำหนักมีนางกำนัลที่รอรับใช้อยู่"ถึงแล้วพะยะค่ะ" หลีกงกงเอ่ยบอก"ขอบใจหลีกงกง" เซียวเฟินหนิงเอ่ยบอก"เป็นหน้าที่ของกะหม่อม พวกเจ้าดูแลองค์ชายและท่านชายให้ดี" หลีกงกงหันไปสั่งนางกำนัลทั้งสองคน"เจ้าค่ะ""องค์ชายหก ท่านชายเฝิง กระหม่อมขอตัวลา" หลีกงกงคำนับก่อนจะเดินออกไปจากตำหนัก"ถวายพระพรองค์ชายหก ท่านชายเฝิงเพคะ" นางกำนัลทั้งสองคนย่อคุกเข่าหนึ่งข้างเป็นการเคารพเหล่าบรรดาเชื้อพระวงศ์"พวกเจ้าลุกขึ้นเถิด" เซียวเฟินหนิงเอ่ยบอก"ขอบพระทัยองค์ชายหก" นางกำนัลทั้งสองคนยืนขึ้นประสานมือไว้ด้านหน้าและก้มหน้าเล็กน้อย"พวกเจ้ามีชื่อว่าอันใดหรือ" เซียวเฟินหนิงเอ่ยถาม"ทูลองค์ชาย หม่อมฉันเจียวหลินเพคะ""หม่อมฉัน เจียวเจียวเพคะ""อ้อ" เซียวเฟินหนิงมองหน้าสามีเพราะไม่รู้ว่าต้องทำ

  • ผู้ใดก็บอกว่าสามีของข้านั้นอัปลักษณ์   บทที่ 24

    "ท่านเจ้าเมืองมาพอดี สามีภรรยาสองคนนี้มาขัดขวางไม่ให้ข้านำบุตรสาวไปให้ท่านขอรับ" ชายวัยกลางคนเอ่ยอย่างนอบน้อม ท่านเจ้าเมืองหันไปมองทางด้านสองสามีภรรยาก็ต้องตกตะลึง ใบหน้างดงามนี่คืออันใดกัน เทพเซียนมาลงมาจากสวรรค์หรือ"เจ้าสนใจมาเป็นฮูหยินรองของข้าหรือไม่" เจ้าเมืองซานหลีใช้สายตาแทะโลมอย่างไม่ปิดปัง เฝิงลี่หมิงถึงกับกัดฟันกรอด"อย่ามายุ่งกับภรรยาข้า!" เฝิงลี่หมิงดึงภรรยามาหลบด้านหลังก่อนจะตวาดลั่นดวงตาจ้องเขม็งไปที่ชายตรงหน้าราวกับจะฆ่าทิ้งเสีย"เจ้ากล้าขึ้นเสียงใส่ข้างั้นรึ! พวกเจ้าสั่งสอนมันเสียแล้วนำเกอผู้นั้นมาให้ข้า" เจ้าเมืองซานหลีหันไปสั่งมือปราบ เซียวเฟินหนิงถึงกับขมวดคิ้ว ไอ้แก่บ้ากามนี่มันถึงกับกล้าคิดจะฉุดภรรยาผู้อื่นต่อหน้าคนมากมายเชียวหรือ"หยุด! ท่านเจ้าเมือง นั่นภรรยาผู้อื่นนะขอรับ ท่านจะฉุดพรากภรรยาผู้อื่นเช่นนี้ไม่ได้!" นายอำเภอที่เหมือนจะหมดความอดทนกับเหตุการณ์เหล่านี้เอ่ยขึ้น"เจ้าไม่มีสิทธิ์มาสั่งข้า! จัดการมัน" เจ้าเมืองซานหลีเอ่ยเหล่ามือปราบก็ตรงมาหาสองสามีภรรยาทันที"ท่านพี่ ดูเหมือนว่าเมืองซานหลีต้องการเจ้าเมืองใหม่เสียแล้ว" เซียวเฟินหนิงเอ่ยบอกสามี"พี่ก็ค

  • ผู้ใดก็บอกว่าสามีของข้านั้นอัปลักษณ์   บทที่ 23

    เพราะต้องอัญเชิญป้ายวิญญาณของมารดาและบิดาของเซียวเฟินหนิงไปที่เมืองหลวงสองสามีภรรยาจึงต้องจัดแบ่งงานให้กับคนงานอย่างชัดเจน ตอนนี้พวกเขารับคนในหมู่บ้านให้มาทำงานเพิ่มแล้วรวมถึงบิดาบุญธรรมอย่างท่านเจ้าเมืองก็สั่งให้คนมาคอยดูแลระหว่างที่พวกเขาไม่อยู่"ระหว่างที่พวกข้าไม่อยู่ก็ให้พวกท่านก็ทำตามที่ข้าแบ่งหน้าที่ไว้ให้นะขอรับ" เฝิงลี่หมิงแม้จะได้รับบรรดาศักดิ์เป็นองค์ชายแต่เขาก็ยังคงพูดจานอบน้อมเช่นเดิม"การไปเมืองหลวงครั้งนี้อาจใช้เวลาร่วมเดือนหากพวกท่านมีปัญหาอันใดให้แจ้งกับท่านลุงเมิ่งได้เลยนะขอรับ เขาจะเป็นผู้ดูแลพวกท่านระหว่างที่ข้ากับท่านพี่ไม่อยู่" เซียวเฟินหนิงเอ่ยบอกแก่คนงาน "พะยะค่ะ" เหล่าคนงานเอ่ยรับมองดูเจ้านายทั้งสองด้วยสายตาที่ชื่นชม ดูสิจากเด็กน้อยที่ถูกครอบครัวขับไล่ออกจากตระกูลมาวันนี้ได้เป็นท่านชายองค์ชายเสียแล้ว ณ จวนเจ้าเมืองซานหลางเฝิงลี่หมิงกับเซียวเฟินหนิงอยู่ในชุดสีขาวจากผ้าไหมชั้นดีดูงดงามและสูงศักดิ์ปักลวดลายด้วยดิ้นเงิน เฝิงลี่หมิงสวมใส่หน้ากากครึ่งใบหน้าสีเงินที่ชินอ๋องประทานให้ยิ่งทำให้ดูสง่างามลึกลับน่าค้นหา ทั้งสองแม้อยากจะคุกเข่าคำนับลาบิดามารดาบุญธรรมเม

  • ผู้ใดก็บอกว่าสามีของข้านั้นอัปลักษณ์   บทที่ 22

    "บังอาจ เจ้ากล้าดีอย่างไรมาชี้หน้าชินอ๋อง!! " เสียงขององครักษ์ประจำตัวชินอ๋องประกาศกร้าวสร้างความตกใจให้กับทุกคนที่พากันมาชมเหตุการณ์เมื่อรู้ว่าบุรุษที่มากับท่านเจ้าเมืองนั้นเป็นผู้ใด"กะ โกหก ชินอ๋องจะมาทำอะไรที่นี่และคงไม่แต่งงานธรรมดาเช่นนี้ เจ้าอย่ามาแอบบอ้าง" หลี่อู๋เจี๋ยพูดขึ้นอย่างไม่เชื่อแม่ว่าชาสั่นจนแทบจะยืนไม่อยู่แล้วก็ตาม ชินอ๋องยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะก้าวออกมาด้านหน้าพร้อมกับม้วนกระดาษที่มีตรามังกรปิดผนึกอยู่"ฝ่าบาทมีราชโองการ พวกเจ้าคุกเข่าลง! " ทุกคนที่ได้ยินดังนั้นก็พากันคุกเข่าลงทั้งสองข้าง"หลี่เฟินหนิงรับราชโองการ ทางราชสำนักสืบทราบมาว่า ฮูหยินน้อยเฝิง หลี่เฟินหนิง เป็นบุตรขององค์ชายรอง เซียวเฟยเยี่ยน ที่หายสาบสูญไปจึงนับว่ามีสายเลือดราชวงศ์ ฮ่องเต้จึงมีรับสั่งแต่งตั้งหลี่เฟินหนิงเป็น องค์ชายหกหลี่เฟินหนิง สามารถใช้แซ่เซียวได้ตามมารดาโดยไม่ต้องได้รับอนุญาตจากสกุลเดิม พระราชทานผ้าไหมชั้นดี 20 หีบ ผ้าไหมปักดิ้นทอง 10 หีบ ไข่มุก สวรรค์ 10 หีบ ไข่มุกนิลกาฬ 20 หีบ เครื่องเพชร 5 หีบ ปิ่นทองคำแท้ 5 หีบ ปิ่นทองคำแท้ลวดลายหงส์ 1 หีบ เงินจำนวน 100,000 ตำลึงทอง คุณชายเฝ

  • ผู้ใดก็บอกว่าสามีของข้านั้นอัปลักษณ์   บทที่ 21

    ตำหนักชินอ๋องย้อนกลับไปก่อนฤดูหนาวจะมาเยือนจดหมายถึง ชินอ๋องเซียวเฟยเทียนถวายพระพรชินอ๋อง กระหม่อมได้รับคำสั่งจากท่านเจ้าเมืองซานหลางให้เขียนจดหมายฉบับนี้ถึงพระองค์ เมื่อไม่นานมานี้ท่านเจ้าเมืองได้ถูกผู้ไม่ประสงค์ดีลอบทำร้ายแต่ได้มีบุรุษผู้หนึ่งให้ความช่วยเหลือ บุรุษผู้นั้นมีจุดเด่นคือปานสีดำขนาดใหญ่อยู่บนใบหน้าด้านขวาคราแรกท่านเจ้าเมืองเพียงรู้สึกซาบซึ้งใจจึงเชิญให้ชายผู้นั้นมาพบที่จวนเพื่อตอบแทนแต่ภายหลังฮูหยินเฝิงรู้สึกถูกชะตาทั้งยังเห็นใจที่สองสามีภรรยาถูกครอบครัวรังแกจึงรับชายผู้นั้นเป็นบุตรบุญธรรม ชายผู้นั้นมีภรรยาเป็นเกอคราเเรกที่ท่านเจ้าเมืองและฮูหยินได้พบใบหน้าของภรรยาชายผู้นั้นทั้งสองรู้สึกคุ้นเคยใบหน้านั้นจึงรีบให้กระหม่อมเขียนจดหมายฉบับนี้ส่งถึงพระองค์ เกอผู้นั้นมีนามว่า หลี่เฟินหนิง บิดามีนามว่า หลี่อู๋ซิน ส่วนมารดามีนามว่า เซียวเฟยเยี่ยน เกอผู้นั้นบอกว่าบิดามารดาของตนได้เสียชีวิตลงตั้งแต่ตนเพิ่งมีอายุเพียงเก้าหนาว ที่สำคัญคือเกอผู้นั้นมีหน้าตาละม้ายคล้ายกับองค์ชายรองถึงแปดส่วน ท่านเจ้าเมืองให้กระหม่อมบอกแก่ท่านอ๋องว่าหากต้องการมาพบเกอผู้นี้ก็ให้รอฤดูหนาวผ่านพ้

  • ผู้ใดก็บอกว่าสามีของข้านั้นอัปลักษณ์   บทที่ 20

    การแจกจ่ายอาหารจากสองสามีภรรยายังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆจนกว่าหิมะจะตกลงมาอีกครั้ง ซึ่งวันนี้เองก็เช่นกัน เพียงแต่วันนี้เขาเห็นว่าดูเหมือนจะมีชาวบ้านจากหมู่บ้านอื่นมาด้วยหลี่เฟินหนิงจึงเดินเข้าไปสอบถามกลุ่มชาวบ้านที่เพิ่งลงมาจากเกวียน"พวกท่านมาทำอันใดกันหรือขอรับ" หลี่เฟินหนิงพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ สายตากวาดดูชาวบ้านราวๆ 30 กว่าคนกับเกวียนสี่เล่มมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่"พวกเราได้ยินมาว่าหมู่บ้านนี้แจกจ่ายอาหาร พวกเราจึงรวมเงินกันจ้างเกวียนเพื่อมาดูเจ้าค่ะว่าพอจะมีอาหารปันให้พวกเราบ้างไหม" สตรีวัยกลางคนถามอย่างกล้าๆกลัวๆ พวกเธอเป็นคนต่างหมู่บ้านไม่รู้ว่าจะได้รับอาหารที่แจกหรือไม่แต่นี่เป็นทางรอดระหว่างรอความช่วยเหลือจากทางการผู้ใหญ่นั้นยังพออดทนได้แต่เด็กและคนแก่นี่สิ"พวกท่านมาจากต่างหมู่บ้านกันหรือขอรับ แล้วเดินทางมาไกลหรือไม่" หลี่เฟินหนิงเอ่ยถาม"ใช่เจ้าค่ะ หมู่บ้านของพวกเราอยู่ห่างไป 10 ลี้ลึกเข้าไปในหุบเขาทำให้การช่วยเหลือจากทางการมาช้ากว่าหมู่บ้านอื่น" สตรีวัยกลางคนอีกคนตอบ"ไกลอยู่นะขอรับ แล้วพวกท่านทราบได้อย่างไรขอรับว่าที่นี่มีอาหารแจกชาวบ้าน" "มีคนจากหมู่บ้านนี้นำอาหารไปให้ญาติที

  • ผู้ใดก็บอกว่าสามีของข้านั้นอัปลักษณ์   บทที่ 19

    เฝิงลี่หมิงกับหลี่เฟินหนิงพากันเดินเท้ามาที่บ้านของผู้นำหมู่บ้าน ระหว่างทางก็ได้เห็นชาวบ้านที่เริ่มออกมากวาดหิมะและพูดคุยกัน ชาวบ้านหลายคนต่างมองว่าสองสามีภรรยานั้นจะเดินไปที่ใด เมื่อเห็นว่าทั้งสองไปหยุดที่หน้าบ้านของผู้นำหมู่บ้านก็หันมาพูดคุยเรื่องอื่นต่อ ผู้ใดจะกล้าไปยุ่งเรื่องของบุตรบุญธรรมของท่านเจ้าเมืองกันเล่า"คาระวะท่านป้าจาง ท่านลุงจางอยู่หรือไม่ขอรับ" เฝิงลี่หมิงเอ่ยถามนางจางเหม่ยที่กำลังกวาดหิมะอยู่ลานหน้าบ้าน"อยู่ๆ เจ้าสองคนมีธุระอันใดเล่า" นางจางเหว่ยที่ตอนนี้เปลี่ยนท่าทีต่างจากเมื่อก่อนจนสองสามีภรรยาได้แต่แปลก"ข้ากับภรรยาจะมาพูดคุยเรื่องทำอาหารแจกชาวบ้านน่ะขอรับ" เฝิงลี่หมิงเอ่ยตอบ"เช่นนั้นพวกเจ้าก็เข้ามาพูดคุยกันในบ้านเถิด อากาศข้างนอกหนาวเย็นประเดี๋ยวจะไม่สบายเอา" นางจางเหว่ยรีบเชิญทั้งสองคนเข้ามาบ้านทันที"อ้าวลี่หมิง เฟินหนิง เจ้าสองคนมีอันใดหรือ" เมื่อเข้ามาในบ้านก็พบกับจางเหว่ย"คาระวะท่านลุงจางขอรับ" สองสามีทำการคำนับผู้อาวุโสกว่าทันที"ที่ข้าสองคนมาวันนี้เพราะมีเรื่องให้ท่านลุงจางช่วยขอรับ" เฝิงลี่หมิงเอ่ยบอก"เรื่องอันใดรึ" จางเหว่ยถามอย่างสงสัย ยังมีเรื่อง

  • ผู้ใดก็บอกว่าสามีของข้านั้นอัปลักษณ์   บทที่ 18

    "ไอ้ลูกอกตัญญู หากเจ้าไม่ยอมให้เงินและสะเบียงกับพวกข้าเช่นนั้นเจ้าก็มิต้องใช้แซ่หวังอีก" หวังหยวนคุนพูดอย่างโมโห"บุตรชายของข้าคงไม่กล้าใช้แซ่หวังอันสูงส่งของเจ้าหรอก" เสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้ทุกคนหันไปมองพบเป็นบุรุษวัยกลางคนแต่งกายด้วยผ้าไหมชั้นดีดูภูมิฐาน เมื่อผู้นำหมู่บ้านเห็นว่าเป็นผู้ใดก็รีบทำการคำนับทันที"ข้าน้อย จางเหว่ย ผู้นำหมู่บ้านเซียนซาน คาระวะท่านเจ้าเมืองขอรับ" "ตามสบายเถิดท่านผู้นำจาง" เฝิงคงหรันพูดอย่างเป็นกันเอง เหล่าชาวบ้านเมื่อทราบว่าผู้ที่มาเป็นใครก็ต่างพากันตกใจและสงสัยว่าเหตุใดท่านเจ้าเมืองถึงมาอยู่ที่นี่"คาระวะท่านพ่อขอรับ" เฝิงลี่หมิงกับหลี่เฟินหนิงทำการคำนับบุรุษผู้น่าเกรงขาม คำที่ใช้เรียกยิ่งสร้างความตกใจตะลึงให้แก่ชาวบ้านและครอบครัสตระกูลหวัง"ท่านพ่องั้นหรือ""เหตุใดทั้งสองถึงเรียกท่านเจ้าเมืองว่าท่านพ่อเล่า""ท่านพ่อมีธุระอันใดหรือขอรับถึงได้มาถึงที่นี่" เฝิงลี่หมิงไม่ได้สนใจเสียงซุบซิบของชาวบ้านแต่อย่างใด เขาเอ่ยถามธุระของพ่อบุญธรรมทันที"มารดาของเจ้าให้พ่อมาดูว่าบ้านของเจ้าเป็นเช่นไร ฤดูหนาวนี้จะอยู่ได้หรือไม่นางเป็นห่วงเกรงว่าเจ้ากับสะใภ้จะลำบาก" เ

  • ผู้ใดก็บอกว่าสามีของข้านั้นอัปลักษณ์   บทที่ 17

    เมื่อฤดูหนาวมาถึงการเก็บเกี่ยวก็เสร็จสิ้นพอดีตอนนี้สองสามีภรรยากำลังจ่ายค่าแรงวันสุดท้ายให้กับเหล่าคนงานก่อนที่หิมะเเรกจะมาเยือน เหล่าคนงานต่างพากันเหงาหงอยเพราะคิดว่าพวกเขาจะไม่ถูกจ้างอีกเลยแต่ก็เข้าใจเพราะที่ผ่านมารายได้จากการทำงานที่นี่ทำให้ครอบครัวของพวกเขาไม่ได้ลำบาก"ท่านใดรับเงินไปแล้วรอสักครู่นะขอรับ ข้ามีเรื่องจะพูดคุยกับพวกท่าน" เฝิงลี่หมิงเอ่ยบอกคนงานก่อนที่พวกเขาจะเดินกลับไป คนงานจึงอยู่รอฟังและได้แต่หวังว่าสองสามีภรรยาจะบอกว่าจะจ้างพวกเขาหลังจากฤดูหนาวผ่านพ้นไป เพื่อจ่ายค่าแรงให้คนงานครบทุกคนเฝิงลี่หมิงจึงพูดขึ้น"ทุกท่านครับ ข้ารู้ว่าทุกท่านกำลังกังวลว่าข้ากับภรรยาจะเลิกจ้างพวกท่านข้าจึงอยากอธิบายว่าข้าจะหยุดจ้างงานแค่ช่วงฤดูหนาวเท่านั้นขอรับ เมื่อฤดูหนาวผ่านพ้นไปข้าจะให้ทุกท่านกลับมาทำงานอีกครั้ง" สิ้นประโยคเหล่าคนงานก็ต่างส่งเสียงเฮด้วยความดีใจที่พวกเขายังจะได้ทำงานกับนายจ้างดีๆเช่นนี้"เรื่องต่อไปคือข้าอยากจะขอบคุณทุกท่านที่ตั้งใจทำงานให้ข้า""เจ้าไม่ต้องขอบใจพวกข้าหรอกหวังลี่หมิง ข้าต่างหากที่ต้องขอบคุณพวกเจ้าสองคนที่ให้งานพวกข้าอีกทั้งยังเลี้ยงอาหารดีๆให้พวกข้าไ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status