แชร์

บทที่ 5

ผู้เขียน: หยางม่งเหยา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-13 21:41:39

หลังจากกลับมาจากในเมืองหลี่เฟินหนิงก็บอกเล่าถึงสิ่งที่เขาต้องการทำให้กับหวังลี่หมิงฟังทันที

"ข้าคิดจะขายข้าวเหนียวหมูปิ้ง ข้าวเหนียวไก่ปิ้งขอรับ" หลี่เฟินหนิงเอ่ยบอกสามี

"ข้าวเหนียวหมูปิ้งไก่ปิ้งอย่างนั้นหรือ มันเป็นเช่นไรพี่ไม่เคยเห็น" หวังลี่หมิงเอ่ยถามอย่างสงสัยกับชื่ออาหารแปลกประหลาด

"ไว้ข้าจะทำให้ท่านพี่ชิมดูขอรับ" หลี่เฟินหนิงเอ่ยบอกสามี

"ได้ แล้วเจ้าจะไปขายเมื่อใด" หวังลี่หมิงเอ่ยถาม

"อีกสามวันเตาปิ้งย่างถึงจะเสร็จ ข้าคิดว่าจะไปขายหลังจากนั้นขอรับ ระหว่างนี้ข้าอยากขอให้ท่านพี่ไปตัดต้นไผ่มาทำไม้เสียบหมูให้ข้าได้หรือไม่ขอรับ" หลี่เฟินหนิงคิดว่าเมื่อได้เตามาแล้ววันต่อมาเขาก็จะลองเปิดร้านขายเลย ระหว่างนี้ก็ต้องเตรียมวัสดุอุปกรณ์เสียก่อน

"ได้สิ พรุ่งนี้พี่จะไปตัดต้นไผ่มาทำให้เจ้า" เขาต้องตามใจภรรยาอยู่แล้ว ไม่ว่าหลี่เฟินหนิงจะให้เขาทำสิ่งใดเขาก็ยินดีที่จะทำให้

"ขอบคุณท่านพี่ขอรับ" หลี่เฟินหนิงคลี่ยิ้มให้สามี

"เป็นพี่มากกว่าที่ต้องขอบคุณที่เจ้ายอมรับและไม่รังเกียจคนอัปลักษณ์เช่นพี่"  นอกจากภรรยาคนนี้แล้วตอนนี้เขาไม่มีคนอื่นที่เป็นครอบครัวอีก และเขาสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะรักษาคนในครอบครัวคนเดียวนี้ไว้อย่างดีที่สุด

"ท่านพี่ คนเราทุกคนล้วนมีข้อบกพร่องในตนเอง สัญญากับข้าได้หรือไม่ แม้ว่าผู้ใดจะดูถูกท่าน ว่าท่านอัปลักษณ์หรือไร้ค่าเพียงใดท่านจะไม่ดูถูกตัวเอง" หลี่เฟินหนิงพูดพร้อมกับกุมมือคนโตกว่าไว้   หวังลี่หมิงมองดวงตาของภรรยาในดวงตานั้นมีแต่ความเป็นห่วงและหวังดี ฉับพลันเขารู้สึกใจเต้นระรัวจนกลัวว่ามันจะหลุดออกมา

"พี่สัญญา" หวังลี่หมิงตอบกลับพร้อมกับกุมมือภรรยาไว้แน่น  แค่มีภรรยาคนนี้เขาไม่ต้องสนใจคำพูดของผู้ใด คนอื่นจะคิดเยี่ยงไรก็ช่างสิ ขอแค่ภรรยาคนนี้ไม่รังเกียจเขาก็พอ

 

 

ณ บ้านตระกูลหลี่

"ท่านย่าเจ้าคะ" หลี่เจี่ยอิงเดินเข้ามานั่งใกล้นางซูฮวาผู้เป็นย่าที่ตอนนี้นั่งอยู่กับทุกคน

"มีอันใดหรือหลานย่า" นางซูฮวาเอ่ยถามหลานรักด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

"วันนี้ข้าเข้าเมืองมาเจอไอ้เกอหลี่เฟินหนิงด้วยเจ้าค่ะ  มันกับสามีของมันแต่งตัวด้วยผ้าไหมอย่างดีอีกทั้งยังซื้อของตั้งมากมายด้วยนะเจ้าคะ" หลี่เจี่ยอิงรีบเอ่ยฟ้องทันที ยามที่เห็นไอ้เกอนอกคอกนั่นแต่งกายด้วยชุดเสื้อผ้าดูดีในใจนางรู้สึกไม่ยินยอมยิ่งนัก

"จริงรึ" นางซูฮวาเอ่ยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ ไอ้เกอนั่นน่ะเหรอจะมีเงินมีทองซื้อของมาใช้ มิใช่ว่ามันแต่งออกไปกับไอ้อัปลักษณ์ยากจนที่อาศัยอยู่ท้ายหมู่บ้านหรอกหรือ

"จริงๆ เจ้าค่ะท่านย่า ข้าเห็นมากับตาเลย มันมากับสามีอัปลักษณ์ของมันซื้อของเสียจนเต็มเกวียนเล่มใหญ่" หลี่เจี่ยอิงรีบเอ่ยยืนยัน

"หรือที่ชาวบ้านว่ามันซื้อเกวียนจะเป็นเรื่องจริง" นางไป๋ฮวาเอ่ยขึ้น

"ซื้อเกวียนเลยรึ" นางซูฮวาถามอย่างตกใจเสียยิ่งกว่าตอนได้ยินว่าหลี่เฟินหนิงแต่งกายด้วยชุดผ้าไหมชั้นดีเสียอีก

"ใช่เจ้าค่ะท่านแม่ ข้าได้ยินชาวบ้านว่ามันกับสามีซื้อเกวียนเล่มใหญ่ แถวตัวเกวียนยังดูดีเยี่ยงกับรถม้าของขุนน้ำขุนนาง เสียเพียงแต่ว่ามันเป็นเกวียนแค่นั้น" นางไป๋ฮวาเอ่ยบอกแม่สามี

"ข้าเองก็เคยให้เกวียนลักษณะดังที่ท่านแม่ว่าวิ่งออกจากหมู่บ้านเราเช่นกันขอรับท่านย่า" หลี่อู๋เจี๋ยเอ่ยสมทบ

"มันมีเงินมากขนาดนั้นเลยรึถึงสามารถซื้อเกวียนเล่มใหญ่และดูดีได้" นางซูฮวาเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย

"ท่านแม่ถ้ามันมีเงินมากขนาดนั้นเหตุใดมันถึงมินำมาปันให้พวกเราบ้าง" หลี่เหลียนเจี๋ยเอ่ยบอกอย่างไม่พอใจ

"จริงเจ้าค่ะท่านย่า  ดูพวกเราสิเจ้าคะได้ใส่เพียงผ้าฝ้ายเนื้อหยาบ อย่างดีสุดก็ผ้าฝ้ายเนื้อละเอียดถึงกระนั้นก็มีคนละไม่เกินสามชุด แต่ไอ้เกอนั่นกลับได้ใส่ผ้าไหมชั้นดี" หลี่เจี่ยอิงพูดอย่างไม่ยินยอม เหตุใดนางจะต้องด้อยกว่าไอ้เกอนอกคอกนั่น

"จริงอย่างที่อิงเออร์พูดนะเจ้าคะท่านแม่ อีกอย่างอู๋เจี๋ยก็กำลังเรียนอยู่ถ้าไอ้เกอนั่นให้เงินเราบ้างเราก็จะได้ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องค่าเล่าเรียนอีก" นางไป๋ฮวารีบส่งเสริมสามีและบุตรสาวทันที

"นั่นสินะ ข้ารึอุตส่าห์เลี้ยงลูกของไอ้นายโลมแพศยานั่นมาจนโต  ถ้าแม่มันไม่มายุ่งกับลูกชายข้าอาตงก็คงยังไม่ตาย" นางซูฮวาพูดอย่างเจ็บแค้น   นางซูฮวาเกลียดมารดาของหลี่เฟินหนิงมากด้วยนางคิดว่ามารดาของหลี่เฟินหนิงเป็นนายโลมที่มาจับลูกชายตนจึงพาลให้เกลียดหลี่เฟินหนิงด้วย ยิ่งลูกชายคนรองกับภรรยาเสียชีวิตพร้อมกันยิ่งเพิ่มพูนความเกลียดชัง นางคิดว่ามารดาของหลี่เฟินหนิงเป็นสาเหตุทำให้บุตรชายคนรองรองของางตายไป โดยนางไม่รู้เลยว่าสาเหตุนั้นมันมาความอิจฉาริษยาของคนในครอบครัวกันเอง

"จริงเจ้าค่ะท่านแม่ ตั้งแต่น้องสามีกับแม่มันตายเราก็เลี้ยงดูให้ข้าวให้น้ำมันกว่าจะโต ไม่รู้ว่าหมดเงินหมดข้าวสารไปเท่าไหร่" นางไป๋ฮวาได้จังหวะก็รีบเอ่ยยุแยงทันที นางไม่มีวันให้ลูกของสองคนนั่นได้ดีกว่าลูกตนอย่างแน่นอน

"แต่เรามีหนังสือสัญญาตัดขาดอยู่นะขอรับ" หลี่อู๋เจี๋ยเอ่ยอย่างกังวล

"มีแล้วอย่างไร ยังไงมันก็ควรแสดงความกตัญญูต่อคนที่ให้ข้าวให้น้ำมันกิน" นางไป๋ฮวารีบพูดสวนขึ้นทันที

 

 

บ้านหลี่กำลังคิดจะทำการสิ่งใดนั้นมิมีผู้ใดรู้  ยิ่งสองสามีภรรยาที่ตอนนี้กำลังช่วยกันทำงาน ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตน  หวังลี่หมิงเหลาไม้ไผ่ตามที่ภรรยาบอก  ส่วนหลี่เฟินหนิงนั่งเขียนสูตรหมูปิ้ง ไก่ปิ้งที่จะขาย เสร็จแล้วก็ลงมือหมักหมูที่จะทำหมูปิ้งทดลองให้สามีชิม   หลี่เฟินหนิงนำเนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นเล็กๆใส่ไว้ในชาม ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำหวานเล็กน้อย เกลือ กะทิ แป้งมัน สามเกลอ คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วหมักทิ้งไว้สักหนึ่งชั่วยามก่อนจะออกไปดูสามีว่าเหลาไม้ถึงไหนแล้ว

"ท่านพี่" หลี่เฟินหนิงเอ่ยเรียกสามี

"หืม มีอันใดหรือหนิงเออร์" หวังลี่หมิงเอ่ยถาม

"มิมีอันใดขอรับ ข้าเพียงจะมาดูว่าท่านเหลาไม้ไปถึงไหนแล้ว" หลี่เฟินหนิงเอ่ยตอบ

"เท่านี้พอหรือไม่" หวังลี่หมิงชี้ไปที่กองไม้ที่เขาเหลาไว้ ดูคร่าวๆน่าจะได้สักร้อยอันได้

"พอแล้วขอรับ ท่านพี่พักดื่มน้ำก่อนนะขอรับ" หลี่เฟินหนิงเอ่ยบอกสามีพร้อมกับเดินไปหยิบน้ำมาให้

"ขอบใจ" หวังลี่หมิงยกน้ำขึ้นดื่มทันที ก่อนจะเอ่ยถามภรรยาต่อ

"เจ้ามีสิ่งใดให้พี่ทำอีกหรือไม่"

"ข้าอยากได้ที่ดินบริเวณบ้านของเราขอรับ" หลี่เฟินหนิงเอ่ยตอบ

"ได้ เจ้าต้องการเท่าใด" หวังลี่หมิงไม่คิดจะขัดภรรยาเช่นเคย

"ทัังหมดยาวไปจนถึงเขาลูกนู้นขอรับ" หลี่เฟินหนิงชี้ให้สามีดู

"เจ้าจะเอาที่ดินไปทำอันใดตั้งมากมาย" หวังลี่หมิงเอ่ยถามอย่างสงสัย

"ข้าจะเอามาปลูกผักกับข้าวขอรับ ท่านพี่ถ้าข้านำแต่ของในมิติออกมาใช้เกรงว่าผู้คนจะสงสัยเอาได้ จะไปซื้อก็ราคาแพงยิ่งนัก" เขาไม่ได้คิดจะเอาของในมิติออกมาใช้ตลอดหรอกนะ

"พี่เข้าใจแล้ว เดี๋ยวพี่ไปแจ้งผู้นำหมู่บ้านให้" หวังลี่หมิงเห็นด้วยกับภรรยา หากมีคนรู้เรื่องมิติย่อมเป็นอันตรายต่อภรรยาของเขาเป็นแน่

"ขอบคุณท่านพี่ขอรับ" 

"เรื่องแค่นี้เจ้ามิจำเป็นต้องขอบคุณ   งั้นพี่เก็บพวกเศษไม้นี่สักครู่แล้วเดี๋ยวจะไปแจ้งท่านผู้นำให้" หวังลี่หมิงเอ่ยบอกพร้อมกับลูบหัวภรรยา

"ขอรับ" หลี่เฟินหนิงที่ถูกสามีลูบหัวก็ก้มหน้าด้วยความเขินอาย สร้างความเอ็นดูให้แก่หวังลี่หมิงยิ่งนัก

ภาพของคนสองคนกำลังแสดงความรักต่อกันสร้างความไม่พอใจให้แก่หวังม่งสือยิ่งนัก มือแกร่งได้แต่กำหมัดอย่างเจ็บใจ ดวงตาจ้องเขม็งไปยังผู้ที่เคยได้ชื่อว่าเป็นน้องชายอย่างเกลียดชัง

"ทำไมต้องเป็นไอ้อัปลักษณ์อย่างแกที่ได้คนงามอย่างหนิงเออร์ไปครอง " 

 

 เจอคำผิดส่วนไหนโปรดคอมเม้นท์บอกด้วยนะคะ

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
อดีตคือบทเรียน อย่ากลับไปเรียนบทเดิม
ทำไมภรรยาถึงใช้คำว่าขอรับกับสามี ทำไมไม่ใช้คำว่าเจ้าคะ ยิ่งอ่านก็ยิ่งงง
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • ผู้ใดก็บอกว่าสามีของข้านั้นอัปลักษณ์   บทที่ 35 (จบ)

    วันต่อมาเฝิงลี่หมิงก็ยังมีอาการเช่นเดิม แต่เซียวเฟินหนิงเองก็รู้สึกว่าร่างกายตัวเองไม่ปกติเขารู้สึกว่าตัวเองอ่อนเพลียและง่วงงุนอยู่ตลอดเวลา จะว่าพักผ่อนน้อยก็ไม่น่าใช่เพราะเมื่อวานตนกับสามีก็พักผ่อนกันอย่างเต็มที่ "ท่านพี่ไหวหรือไม่ขอรับ" เซียวเฟินหนิงเอ่ยถามสามีที่มีใบหน้าซีดเซียวจากการลุกขึ้นมาอาเจียนตั้งแต่เช้า"หนิงเออร์~" เฝิงลี่หมิงรีบเข้าไปสวมกอดภรรยาอย่างออดอ้อนทันที"เป็นเยี่ยงไรบ้างขอรับ" "พี่รู้สึกพะอืดพะอมและเวียนหัว" เฝิงลี่หมิงเอ่ยตอบภรรยาพลางซุกไปที่ลำคอขาวเพื่อสูดดมกลิ่นกายของคนรัก"เช่นนั้นข้าจะพาท่านพี่ไปหาหมอดีหรือไม่ขอรับ" เซียวเฟินหนิงเอ่ยถามสามีแต่อีกฝ่ายเอาแต่ส่ายหน้า"ไม่เอา แค่กอดเจ้าอยู่แบบนี้พี่ก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว" เฝิงลี่หมิงเอ่ยตอบ"ท่านพี่รอสักประเดี๋ยวนะขอรับ" เซียวเฟินหนิงคิดบางอย่างได้เกี่ยวกับอาการของผู้เป็นสามีประกอบกับอาการอ่อนเพลียและง่วงงุนของตนก็รู้สึกตื่นเต้นทันที"เจ้าจะไปที่ใด" เฝิงลี่หมิงเอ่ยถามพลางช้อนตามองภรรยา"ข้าจะเข้าไปในมิติท่านเทพขอรับ ข้าคิดว่าพอจะรู้สาเหตุการป่วยของท่านพี่แล้วเพียงแต่ต้องพิสูจน์ให้แน่ใจก่อนว่าสิ่งที่ข้าคิดนั้นถ

  • ผู้ใดก็บอกว่าสามีของข้านั้นอัปลักษณ์   บทที่ 34

    เหลาอาหารซูเหอเปิดได้ไม่นานก็เต็มไปด้วยบรรดาลูกค้าเต็มร้านด้วยว่าราคาอาหารเป็นที่จับต้องได้ทุกชนชั้นและที่เหลาอาหารมีกฎสำคัญที่ว่าลูกค้าทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นขุนนาง เศรษฐีหรือว่าคนธรรมดาก็คือลูกค้าเหมือนกันและจะต้องถูกปฏิบัติเหมือนกัน นั่นจึงทำให้เหลาอาหารแห่งนี้เป็นที่ชื่นชอบของคนทุกชนชั้นและสร้างความอิจฉาให้แก่คนที่ทำกิจการเดียวกัน"เสี่ยวเออร์ ข้าขอต้มยำกุ้ง กุ้งผัดพริกเกลือ ปลาผัดฉ่า" "ได้ขอรับ""เสี่ยวเออร์ ของข้าขอปลานึ่งมะนาว ปลา สามรส หมึกผัดไข่เค็ม""ได้ขอรับ""ข้าเอาต้มยำหัวปลา ต้มยำกุ้ง หมูมะนาว แล้วก็น้ำชา"เสียงสั่งอาหารเซ็งแซ่พร้อมกับบรรดาเสี่ยวเออร์ที่วิ่งสุ่นสร้างความคึกคักให้แก่เหลาอาหารซูเหอไม่น้อย ลูกค้าหลายคนต่างตื่นตาตื่นใจกับอาหารของร้านที่ไม่เคยเห็นอีกทั้งรสชาติยังอร่อยจัดจ้านทำให้แต่ละวันเหลาอาหารซูเหอทำกำไรได้หลายร้อนตำลึงเลยทีเดียว"ลูกค้ามีการตำหนิอันใดมาบ้างหรือไม่" เฝิงลี่หมิงเอ่ยถามหลงจู๊ร้าน"ไม่มีขอรับ ลูกค้าต่างชื่นชมว่าเหลาอาหารของเรารสชาติดียิ่งนักขอรับ" หลงจู๊ร้านเอ่ยตอบ"ดี หากลูกค้ามีสิ่งใดต้องการให้ปรับปรุงต้องรีบแจ้งข้าหรือฮูหยิน

  • ผู้ใดก็บอกว่าสามีของข้านั้นอัปลักษณ์   บทที่ 33

    เมืองหลวงแคว้นเป่ยหลี่"หนิงเออร์ส่งจดหมายมาว่าเยี่ยงไรบ้าง" โอรสสวรรค์ตรัสถามพระอนุชาร่วมอุทร"ทูลฝ่าบาท หนิงเออร์บอกว่าเมื่อไม่นานมานี้มีการปล้นเสบียงเกิดขึ้นที่เมืองซานหลาง ตอนนี้ทางฝั่งหนิงเออร์จับโจรเหล่านั้นได้แล้วเจ้าเมืองเฝิงคงหรันได้ทำการไต่สวนพวกโจรต่างสารภาพว่าถูกจ้างและข่มขู่มาจากบุคคลนิรนามให้ออกปล้นชาวเมืองเพื่อสร้างความปั่นป่วนและลอบสังหารองค์ชายหกและท่านชายเฝิงเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจว่าทั้งสองสิ้นพระชนม์จากการถูกปล้นพะยะค่ะ" ชินอ๋องทูลรายงานด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"ทางนั้นคงเริ่มแล้ว" โอรสสวรรค์ตรัสพลางถอนหายใจ"กระหม่อมคาดว่าพวกเขาจะลงมือในงานเทศกาลล่าสัตว์ที่จะถึงนี้พะยะค่ะ" ชินอ๋องทูลสิ่งที่ตนเองคิด"เจิ้นก็คิดว่าเป็นเช่นนั้น" โอรสสวรรค์ตรัสอย่างเห็นด้วย งานเทศกาลล่าสัตว์เป็นช่วงที่มือสังหารแฝงตัวมาได้ง่ายเพราะต่างก็มีหลายคนเข้าร่วม"กระหม่อมจะเพิ่มจำนวนองครักษ์เงาให้เฝ้าระวังพะยะค่ะ" "อืม อย่าลืมส่งไปอารักขาไทเฮาและฮองเฮา" "พะยะค่ะ เอ่อ หนิงเออร์ส่งของมาให้ฝั่งเราด้วยพะยะค่ะ" ชินอ๋องเอ่ยทูลเมื่อนึกขึ้นได้ว่านอกจากจดหมายแล้วยังมีหีบขนาดใหญ่หลายหีบ"คือสิ่งใดหรือ" ฮ

  • ผู้ใดก็บอกว่าสามีของข้านั้นอัปลักษณ์   บทที่ 32

    กลางดึกสงัดท่ามกลางความเงียบในหมู่บ้านแห่งหนึ่งมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนซึ่งแต่งกายมิดชิดปกปิดใบหน้าย่องมาที่บ้านหลังหนึ่งท้ายหมู่บ้านอย่างเงียบเชียบเพียงแต่ไม่ได้ทำอะไรก็ล่าถอยไปรุ่งเช้าวันใหม่สองสามีภรรยาตื่นขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อทำกิจวัตรประจำวัน เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้วสองสามีภรรยาก็พากันเดินขึ้นรถม้าเพื่อเดินทางไปยังตัวเมือง รถม้าคันงามมาจอดที่หน้าจวนของท่านเจ้าเมืองบ่าวเฝ้าประตูก็รีบเปิดให้เข้าไปทันที"คาระวะท่านพ่อท่านแม่ขอรับ" เฝิงลี่หมิงกับเซียวเฟินหนิงคำนับ"ได้ยินว่าพวกเจ้าสองคนสามารถหาแหล่งน้ำได้" เฝิงคงหรันเอ่ยถาม"ขอรับ ข้าสองคนได้ซื้อเครื่องมือจากชาวตาสีฟ้ามันสามารถหาแหล่งน้ำใต้ดินได้ขอรับ" เซียวเฟินหนิงเลือกที่จะโกหกออกไปเช่นนั้น เพราะคนในยุคนี้มักจะตื่นตาตื่นใจกับสินค้าของชาวต่างชาติอยู่แล้ว"ข้าเคยได้ยินว่าพวกชาวตาสีฟ้ามักจะมีของแปลกประหลาดมาขายและใช้งานได้ดี เห็นทีคงจะเป็นเรื่องจริง" เฝิงคงหรันพูดอย่างตื่นเต้น"อย่าเพิ่งให้ใครรู้เรื่องเครื่องมือนี้นะขอรับ ให้คนของเราที่ไว้ใจได้เป็นผู้ที่ใช้สิ่งนี้หาแหล่งน้ำโดยไม่ให้ผู้อื่นรู้ หลังจากที่หาแหล่งน้ำให้ชาวเมือ

  • ผู้ใดก็บอกว่าสามีของข้านั้นอัปลักษณ์   บทที่ 31

    หลังจากพูดคุยกับชาวบ้านเสร็จสองสามีภรรยาก็พากันเดินกลับมาที่บ้านของตน ดูเหมือนว่าปัญหาครั้งนี้ใหญ่เกินไปยากที่จะแก้ไข เขาไม่สามารถทำฝนเทียมได้เหมือนยุคที่เขากลับมา เฮ้อ~"อย่ากังวล" เฝิงลี่หมิงลูบหัวภรรยาที่นั่งถอนหายใจ"ข้าไม่รู้ว่าช่วยพวกเขาอย่างไรดี" เซียวเฟินหนิงเอ่ย ไม่รู้ว่าในมิติจะมีของที่ช่วยแก้ปัญหาได้หรือเปล่า"ช่วยเท่าที่ช่วยได้ก็พอแล้ว มันมิใช่หน้าที่ของเจ้าด้วยซ้ำที่ต้องแก้ปัญหา" เฝิงลี่หมิงเอ่ยบอกภรรยา เขาไม่ชอบที่ภรรยาของเขามีเรื่องกังวลใจ"ปัญหาครั้งนี้หนักหนานัก ท่านพ่อคงกังวลใจไม่น้อย ทางวังหลวงเองก็มีเรื่องวุ่นวายข้าเกรงว่าหากปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขโดยเร็วอาจจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น" หากขาดแคลนน้ำและอาหารผู้คนคงล้มตายเป็นจำนวนมากแน่"เราไม่สามารถช่วยได้ทุกคนหรอกนะหนิงเออร์ หากว่ามีการสูญเสียเกอดขึ้นมันก็ไม่ใช่ความผิดของเจ้า" เฝิงลี่หมิงกุมมือคนรัก"ข้ารู้ขอรับ เพียงแต่ข้านั้นมีมิติวิเศษติดตัวข้าคิดว่าในมิติอาจจะมีของวิเศษที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้" เซียวเฟินหนิงเอ่ยกับสามี"ปล่อยให้ทางการแก้ปัญหาก่อนเถิด หากพวกเขาทำไม่ได้จริงๆเราค่อยหาวิธีช่วยเหลือ บอกตามตรงว่า

  • ผู้ใดก็บอกว่าสามีของข้านั้นอัปลักษณ์   บทที่ 30

    "องค์ชายหก ท่านชาย ได้โปรดลงโทษกระหม่อมด้วยพะยะค่ะ""ท่านพ่อ อย่าทำเยี่ยงนี้ขอรับ" เฝิงลี่หมิงกับเซียวเฟินหนิงรีบเข้าไปพยุงเฝิงคงหรันให้ลุกขึ้น"พ่อละเลยหน้าที่ปล่อยให้นายอำเภอยักยอกเสบียง หากเจ้าสองคนไม่ไปเจอเหล่าผู้อพยพคงพากันอดตายเป็นแน่" เฝิงคงหรันพูดอย่างรู้สึกผิด"เรื่องนี้มิใช่ความผิดของท่านพ่อนะขอรับ เราทุกคนต่างรู้ว่าท่านพ่อทำงานหนักทุกวันออกหาซื้อเสบียงมาช่วยเหลือทุกคน หากจะมีคนผิดก็คือนายอำเภอที่โลภมากผู้นั้น" เซียวเฟินหนิงเอ่ย"หนิงเออร์พูดถูกขอรับ คนชั่วช้าผู้นั้นต่างหากที่ผิด" เฝิงลี่หมิงเอ่ยบ้าง"ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แต่หากว่าพ่อตรวจสอบให้ดีกว่านี้..." "มิมีผู้ใดไม่เคยผิดพลาดขอรับ ตอนนี้ท่านพ่อได้สั่งลงโทษคนผิดแล้วตอนนี้เราควรเอาเวลาไปคิดว่าจะช่วยเหลือผู้อพยพอย่างไรต่อดีกว่าขอรับ" เซียวเฟินหนิงเอ่ยตัดบท ตอนนี้ชีวิตของผู้คนย่อมมาก่อน"เช่นนั้นเราก็ไปคุยกันที่จวนเถิด" เฝิงคงหรันเอ่ยบอก ทั้งสามคนจึงเดินทางไปที่จวนเพื่อพูดคุยหารือกันจวนท่านเจ้าเมือง"ตอนนี้เสบียงของพวกเจ้ามีมากน้อยเพียงใด" เฝิงคงหรันเอ่ยถามบุตรชายและลูกสะใภ้"มีมากพอจะให้ผู้อพยพได้กิน 3-4 เดือนขอรับ แต่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status