พอโดนพ่อเฒ่าเซียวตวาดนางลี่อี้จูถึงกับหน้าดำหน้าแดงเพราะว่ากลัวคำขู่ของสามีว่าจะให้ใบหย่าตอนที่นางพาลูกชายสะใภ้ใหญ่รวมถึงหลานสุดที่รักทั้งสองคนมาที่บ้านรองเซียว ได้แต่ยืนกัดฟันข่มความโกรธที่มีพอโดนสามีเอาจริงนางก็กลัวเพราะว่าสามียอมนางตั้งแต่ที่รับเอาบุตรชายของน้องสาวมาเลี้ยง เขาก็ไม่ยุ่งเรื่องที่นางเลี้ยงเซียวอี้ถังมาตามที่สัญญาเอาไว้จนถึงวันนี้ที่สามีถึงกับออกปากบอกจะหย่าให้นางถ้ายังไม่เลิกราจากบ้านรองอีก
พอหัวหน้าหมู่บ้านลงที่หนังสือตัดขาดเพิ่มเสร็จจึงยื่นให้พ่อเฒ่าเซียวเก็บไว้เป็นหลักฐานกับบ้านรองเซียวคนละใบ "เดี๋ยวข้าจะกลับไปที่บ้านแล้วเขียนลงเพิ่มให้แล้วจะเอามาให้ลงชื่อในวันพรุ่งนี้ด้วยเลยเอาละทุกคนนี้ก็มืดค่ำแล้วกลับบ้านไปพักผ่อนกันได้แล้วพรุ่งนี้ต้องมาช่วยนังหนูเย่วเย่วเพาะปลูกเมล็ดผักอีก" พอหัวหน้าหมู่บ้านพูดจบชาวบ้านต่างก็แยกย้ายกันเดินทางกลับบ้านใครบ้านมัน "ข้ากลับบ้านก่อนละนังหนูเย่วเย่วพรุ่งนี้ข้าจะพาคนมาช่วยปลูกผักช่วยอีก" ก่อนที่จะหันไปหาตาเฒ่าเซียวที่ยืนดูลูกชายคนรองที่ตอนนี้ลูกกับภรรยากำลังพาเข้าบ้าน "เจ้ารองพ่อขอโทษนะลูกที่ไม่ได้ช่วยอะไรลูกได้เลยตลอดเวลาหลายสิบปีมานี้" เซียวอี้ถังที่กำลังหันหลังจะกลับเข้าบ้านจึงกลับมามองหน้าของบิดาที่พาตัวเขามาที่บ้านใหญ่เป็นลูกอีกคนจึงตอบกลับไปว่า "ข้าจะไม่โกรธท่านพ่อหรอกขอรับที่ผ่านมาถ้าไม่ได้ท่านพ่อข้าคงจะตายไปแล้ว ข้าจะถือว่าข้าได้ตอบแทนบุญคุณพวกท่านจนเพียงพอแล้วต่อจากนี้ข้าจะขอทำเพื่อครอบครัวของข้าจริงๆสักที ข้าไม่โทษท่านพ่อแต่นับจากนี้อย่าให้ภรรยาของท่านมาหาเรื่องครอบครัวของข้าอีกและข้าจะยึดตามใบตัดขาดทันทีต้องจ่ายตำลึงทันที่ถ้าผิดสัญญา" เซียวอี้ถังตอบบิดาที่เลี้ยงตัวเองมา "ได้ขอเพียงลูกยกโทษให้พ่อก็พอแล้วเจ้ารองสิ่งพ่อพ่ออยากพูดพ่อก็ได้พูดไปหมดแล้วถึงยังไรพ่อก็ยังรักลูกเหมือนเดิม" พ่อเฒ่าเซียวพูดจบก็หันหลังจะเดินออกไปจะบ้าลูกชายคนรองไปด้วยใจเจ็บปวด แล้วพูดเสียงเย็นกับลูกชายคนโตรวมถึงหลานกับภรรยา "ยังไม่ไสหัวกันกลับบ้านอีกหรืออย่าให้ข้าหมดความอดทนข้าจะตัดขาดพวกแกทุกคนออกจากบ้านของข้าเลย" เซียวจิ้นหูที่ได้ยินเสียงบิดาพูดขึ้นก็จูงบุตรชายเดินนำหน้าบิดาหลิ้วก่อนเลย ส่วนนางเซียวอี้จูที่ได้สะใภ้พยุงกับหลานสาวไม่กล้าพูดอะไรอีกเพราะกลัวจะเสียตำลึงเพราะหัวหน้าหมู่บ้านเดินรั้งท้ายกับพวกผู้ชายอีกนับสิบคน ส่วนพวกผู้หญิงเดินไปก่อนหน้าที่ลุงผู้ใหญ่บ้านบอกแล้วแต่ก็มองหน้าบ้านนางด้วยความเกลียดชังก่อนจะสะบัดหน้าเดินออกไป เย่วเย่วจึงทำหน้ากวนๆส่งไปให้ย่าจอมปลอมส่งสายตาเยาะเย้ยให้ทั้งสามคนมหาภัยไปที่ขู่ว่าจะเอาเรื่องเซียวอี้หลิงแต่จะเอาคืนทีหลังก็ยังไม่สาย ในเมื่อรู้แล้วว่าไม่ใด้เป็นหลานในใส้เย่วเย่วจะเอาคืนทีหลังแก้แค้นสิบปีก็ยังไม่สาย พอทุกคนกลับไปจนหมดนางจึงเดินไปปิดประตูลงดานอย่างเรียบร้อยก่อนที่จะเดินตามหลังพ่อแม่พี่ชายเข้าบ้านไป เย่วเย่วเดินไปเก็บของเข้ามิติหมดแล้วก็พาครอบครัวเข้าไปมิติด้วยเลยพอเข้ามาในมิติแล้วจึงได้มีโอกาสพูดกันท่านแม่ที่จับมือท่านพ่อที่นั่งเสียใจที่ได้รับรู้ความจริงเรื่องมารดา และมีพี่ใหญ่นั่งอีกข้างเย่วเย่วนั่งลงข้างมารดาและฟังที่ทุกคนจะคุยกัน "ท่านพี่อย่าเสียใจไปเลยนะเจ้าคะดีแล้วที่วันนี้ท่านพ่อยอมพูดความจริงไม่อย่างนั้นคนอย่างภรรยาของท่านพ่อคงจะมาหาเรื่องครอบครัวของเราต่อไปอีกเรื่อยๆ" "จริงด้วยเจ้าค่ะท่านพ่อต่อจากนี้พวกเราจะมีแต่สี่คนพ่อแม่ลูกเรามาสร้างครอบครัวของพวกเราให้พวกเขากระอักเลือดตายไปเลยเจ้าค่ะ ข้าจะยังไม่ทำอะไรตอนนี้หรอกเจ้าค่ะแต่จะให้บทเรียนให้กับทุกคนที่ทำร้ายบ้านของพวกเราให้รู้สึกอยากจะบ้าตายไปเลย นี้คงจะแทบเต้นที่เห็นคนมาช่วยทำงานที่บ้านของพวกเรามากมาย และชวดเนื้อหมูป่าไปตั้งใจจะมาบังคับเอาให้ได้แต่ก็ดีที่ท่านปู่ตัดสินใจบอกความจริงถึงแม้จะบอกช้าเท่าอายุของท่านพ่อก็เถอะ" ตามเย่วเย่วปลอบใจท่านพ่อของตัวเอง "ข้านั้นดีใจยิ่งนักขอรับที่ได้รู้ว่าท่านพ่อไม่ใช่ลูกท่านท่านปู่กับหญิงใจร้ายคนนั้นที่ทำร้ายครอบครัวของพวกเรามาหลายสิบปี" เซียวอี้เหอพูดด้วยความโล่งใจท่านพ่ออย่าเสียใจไปเลยนะขอรับลูกชายปลอบใจบิดา "พ่อไม่ได้เสียใจแล้วละลูกเพราะพ่อได้เสียใจมากในวันที่พ่อตกเขากับเย่วเย่วโดนผลักตกน้ำปางตาย แต่คนที่พ่อเรียกแม่ทั้งชีวิตจะเข้าข้างแต่บ้านใหญ่ขับไล่ตัดขาดพวกเราเหมือนไม่ใช่คน วันนี้พ่อเข้าใจแล้วที่แท้พ่อไม่ใช่ลูกชายของพวกเขานี้เองนับตั้งแต่วันนี้พวกเราสี่คนพ่อแม่ลูกคือครอบครัวของพ่อที่เหลือ พ่อจะโทษท่านปู่ก็ไม่ได้เพราะคำสัญญามันค้ำคอท่านจึงปิดตาข้างหนึ่งให้นางเลี้ยงพ่อมาจนเติบใหญ่ พ่อได้ตอบแทนบุญคุณนางไปหมดแล้วสำหรับท่านปู่ลูกอย่าทิ้งท่านเลยนะถ้าท่านมาขอความชวยเหลือให้ช่วยเพียงท่านปู่แค่คนเดียวคนพวกนั้นพ่อไม่นับญาติกับพวกเขาอีก" เซียวอี้ถังบอกกับลูกและภรรยาที่นั่งให้กำลังใจข้างกายในวันที่เจ็บปางตายมีเพียงลูกเมียคอยเคียงข้างตัวเขาเท่านั้น "เจ้าค่ะ/ขอรับท่านพ่อ" "พวกข้าจดจำเอาไว้แล้วท่านพ่อทำใจให้สบายเถิดขอรับ น้องเล็กเราเข้าครัวไปทำมื้อค่ำกกันเถอะให้ท่านพ่อได้พักผ่อนกับท่านแม่" เซียวอี้เหอชวนน้องสาวเข้าครัวปล่อยให้ท่านแม่ปลอบใจท่านพ่อต่อจากพวกตน "เจ้าค่ะพี่ใหญ่วันนี้ข้าจะย่างกุ้งจิ้มน้ำจิ้มรสเด็ดรับรองอร่อยชัวร์ " เย่วเย่วบอกก่อนจะเดินตามพี่ชายเข้าครัวไปสองสามีมองภรรยามองลูกทั้งสองคนเดินเข้าครัวไปแล้วจึงยิ้มให้กัน ก่อนที่เซียวอี้ถังจะดึงภรรยามากอดสองสามีลุกขึ้นจูงมือกันเข้าไปในห้องปลอบใจกันตามประสาสามีภรรยาที่รักกันเข้าใจมาจนถึงทุกวันนี้ ตอนนี้ร่างกายของเซียวอี้ถังนั้นหายดีมาได้สองอาทิตย์ตั้งแต่ที่ได้ดื่มน้ำของพุวิเศษของลูกสาวคนเล็ก ส่วนภรรยาก็ไม่อยากให้สามีคิดมากเรื่องมารดาที่เสียชีวิตไปเหลือเพียงหยกที่ท่านพ่อนำมาให้ในวันที่โดนตัดขาดจากบ้านใหญ่ ถ้ามีวาสนาคงจะต้องรู้ว่าบิดาคือใครอย่างแน่นอนสองสามีภรรยานอนกอดกันคุยเรื่องที่ผ่านมาและจะทำให้ชีวิตต่อไปในวันข้างหน้ามีแต่ความสุขเพราะมีลูกที่ดีคอยให้กำลังใจ สองพี่น้องที่ช่วยกันย่างกุ้งที่จับลงมาจากบนเขาพี่ชายก่อไฟให้น้องสาวแล้วก็ไปล้างเครื่องในหมู่ซ้ำอีกรอบต่อจากชาวบ้านที่ช่วยกันล้างแล้วก่อนจะยกมาให้น้องสาวตุ๋นต่อ หลังจากที่ทำทุกอย่างในครัวหมดแล้วสองพี่น้องจึงยกอาหารไปขึ้นโต๊ะไปตามพ่อแม่มากินมื้อค่ำและฉลองกันเล็กๆในครอบครัวของนางจนอิ่มแปล้จึงแยกย้ายกันไปนอนพักนางที่เอายาบำรุงให้บิดากินกับท่านแม่รับรองว่าคนทั้งคู่จะต้องตื่นมาด้วยความสดชื่นอย่างแน่นอนหึๆอินทิราในร่างของสาวน้อยเย่วเย่วนอนคิดทบทวนกับพรของตัวเองว่าเพียงแค่นึกถึงมิติก็จะสามารถเข้าออกมิติของตัวเองได้เลย เพราะแม่ของเจ้าของร่างเดิมนอนหลับตัวของเย่วเย่วเองก็ไม่ได้ทำตัวเสียงดังให้มารดาได้ยิน(ต่อไปจะเรียกชื่อเย่วเย่วเลยนะคะ)พรึบ!!!!!!ไอ้แม่เจ้าสุดยอดดไอเท็มของท่านตาเทพที่ให้นางมา สวนผลไม้รวมถึงบ้านของนางในภพเก่าที่พี่ชายดูแลให้นางทุกอย่าง สองพี่น้องได้แบ่งสมบัติกันเรียบร้อยตามพินัยกรรมที่พ่อกับแม่ทำให้กับลูกทั้งสองคนเท่าๆกันทุกอย่างแม้แต่เงินในบัญชีของทั้งสองคน แต่ส่วนมากจะเป็นพี่ชายที่ดูแลไร่กับบ้านให้นางรวมถึงคนงานเก่าแก่ที่อยู่กันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่ามากันแล้ว เพราะส่วนมากนางจะนอนที่คอนโดในเมืองมากกว่าถ้าวันหยุดจึงจะขับรถออกมานอนที่บ้านไร่ฟาร์มของนางรายได้ของนางให้พี่ชายเป็นคนจัดการแทนทุกอย่างเงินทุกบาทนางจะให้พี่ชายเป็นคนจัดการ รวมถึงเวลาเก็บเกี่ยวจนขายเสร็จนางเพียงแค่รับเงินที่พี่ชายสุดที่รักโอนเข้าบัญชีของนางเพียงเท่านั้น เพราะอาชีพของนางต้องเข้าเวรเช้าบ้างดึกบ้าง ออกสนามช่วยเหลือชาวบ้านตามดอยสูงไปทุกที่จะไปเรื่อยๆให้ครบทุกหมู่บ้านในจังหวัดที่นางประจำการอยู่ เรื่องความอด
หลังจากแต่งกันกับท่านอ๋องภายในตำหนักในทุกคืนจะมีเสียงครางหวานของคู่สามีข้าวใหม่ปลามันจนนางกำนัลหน้าแดงไปตามๆกัน ท่านอ๋องช่างรักพระชายาเหลือเกินตามใจนางทุกอย่างตลอดที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ช่วงก่อนจะถึงวันกลับไปเยี่ยมที่บ้านของพระชายาเขาตักตวงความสุขตั้งแต่ก่อนวันแต่งจนผ่านมาหลายคืนแล้วก็ยังคงหื่นเสมอต้นเสมอปลาย เย่วเย่วคิดในตอนนี้นางนั่งผิงอกแกร่งของพระสวามีกลับหมู่บ้านฉีซานเพื่อจะกลับไปเยี่ยมบ้านเดิมตามประเพณี กว่าจะได้ออกจากห้องแต่ละวันนางนี้ต้องมีนางกำนัลคอยประคองถ้าไม่มีน้ำพุวิเศษนี้นางไม่อย่างจะคิดเลยว่าจะนอนเป็นผักทั้งวันหรือเปล่า"เย่วเอ๋อร์น้องนอนเถอะนะคนดีพอถึงบ้านของพ่อตาแม่ยายพี่จะปลุกน้องเอง"ท่านอ๋องกระชับอ้อมกอดให้ภรรยานั่งพิงอกได้สะดวกตอนกลางวันต้องให้นางนอนพักเอาแรงไว้มากๆหน่อยช่วงกลางคืนคือเวลาของเขา ว่าจะหยุดสักเดือนก่อนจะเดินทางเข้าเมืองหลวงไปหาพี่ชายที่รอจัดงานให้อีกรอบที่ตำหนักอ๋องที่เมืองหลวง แต่จะให้เขาอดใจไหวไม่รังแกภรรยาได้เช่นไรในเมื่อนางน่ารักน่ากินไปทั้งตัว เขาก็ไม่ใช้ผู้หลุดพ้นเสียหน่อย นี้ก็อดทนรอมาตั้งปีเพื่อจะแต่งนางเข้าตำหนักได้แต่ก็ต้องออกศึกไปเป็นปีที่ไ
ท่านอ๋องกว่าจะปลีกตัวจากเหล่าทหารทั้งหลายได้ก็ปาไปเกือบสี่ทุ่มในภพเก่าของนางเย่วเย่วกำลังนั่งหลับพักเอาแรงหลังจากที่มารดามาอวยพรร่ำลากันกลับหมู่บ้านกับบรรดาป้าๆทั้งหลายกลับไปกันจนหมด นางก็อยู่กับนางกำนัลสองคนที่มีอายุสามสิบได้กระมังเย่วเย่วแอบกินนมกับขนมเพราะมีผ้าคลุมหน้านางไม่กลัวนางกำนัลเห็นหรอกนะ คนมันหิวกว่าด้านนอกจะรับแขกและกลับหมดพอดีหิวท้องร้องกันพอดี หยิบของออกมากินจนอิ่มนางก็นั่งหลับไปเลยเอาแรงดีกว่าถ่างตารอไม่ไหวหรอก เพราะเมื่อคืนนี้ท่านอ๋องของรางวัลทั้งคืนถ้านางไม่หลับก่อนคงสว่างคาตาแน่ๆเลย คนอะไรอึดเป็นบ้าขอให้ปล่อยก็ไม่ยอมหยุดจนนางหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ แล้วยังโดนลากมาทำพิธีทั้งวันอีกจนค่ำสองที่พักนอนงีบเอาแรงสักนิดก็ยังดีตัดมาที่ท่านอ๋องที่ตอนนี้กำลังโดนเหล่าทหารคนสนิทมอมเหล้าเพื่อกลั้นแกล้งให้เจ้านายเข้อหอไม่ไหวชนแก้วจอกต่อจอก จนเขาต้องใช้อุบายขอเข้าห้องน้ำพอปลีกตัวออกมาได้ก็เดินตัวปลิวไปที่ห้องหอในตำหนักใหญ่เลยป่านนี้เย่วเย่วคงจะรอแย่แล้ว อ๋องหนุ่มคิดไปยิ้มไปกับความน่ารักของภรรยาหมาดๆที่นางให้รางวัลกับเขาเมื่อคืนนี้จนแทบตายคาอกนาง แต่ใครจะอดใจไหวเล่าภรรยาน่ารักเสียขนาดน
ตอนนี้หัวสมองของสาวน้อยเย่วเย่วขาวโพลนไปหมดกับริมฝีปากหนาของชายคนรักที่ละเลงน้องสาวจนนางครางกระเส่าอย่างไม่อาย ชายหนุ่มนั้นตอนนี้ดูดดึงกุหลาบงามของสาวคนรักอย่างไม่รังเกียจนางสวยไปหมดจนเขาอดใจไม่ไหวอยากกลืนกินทุกอย่างที่เป็นนาง"เย่วเอ๋อร์คนดีร้องดังๆไปเลยพี่ชอบเห็นน้องมีความสุขที่สุุขเสียวไหมที่รัก" ชายหนุ่มเงยหน้ามาพูดกับนางแต่ก็ยังมีนิ้วแทนที่ปากเขาเขี่ยวนตรงปุ่มเสียวของนาง เย่วเย่วยกสะโพกลอยตามนิ้วร้ายของชายหนุ่มที่ละเลงแล้วแหย่เข้าไปที่ละนิ้ว พอถามนางจบเขาไม่คิดจะฟังคำตอบเพราะดูจากการตอบรับของสาวคนรักก็พอใจมากแล้ว ท่านออ๋องหนุ่มก้มหน้าลงฉกชิมกุหลาบงามตรงหน้าต่อจนร่างบอบบางเกร็งกระตุกสุขสมไปก่อนเพื่อเปิดทางให้มังกรตัวเขี่ยงเข้าไปในกุหลาบงาม ชายหนุ่มแยกขาของคู่หมั้นสาวออกจนกว้างก่อนจะชักรูดมังกรตัวเองถูกไถ่ก่อนจะค่อยๆกดเข้าไปทีละน้อย เยว่เยว่หัวขาวโพลนเพราะพึ่งเสร็จสมไปเพราะลิ้นร้ายของท่านอ๋องต้องสะดุ้งเพราะมีสิ่งใหญ่โตกำลังมุดเข้ากุหลาบของนางมาได้แค่ส่วนหัวนางแทบขาดใจทำไมมันใหญ่ขนาดนี้จะเข้าไปในน้องสาวของนางได้จริงๆหรือ"ท่านอ๋องเพคะ" นางเอามือยันหน้าอกแกร่งเอาไว้ก่อน"ท่านพี่เรียก
ตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์มีรถม้ามารับเซียวเย่วเย่วทุกวันในตอนเช้าเพื่อฝึกสาวน้อยที่จะแต่งเข้าตำหนักของท่านอ๋องซงตงหยางในอีกไม่นาน รอเพียงท่านอ๋องเดินทางกลับมาถึงที่อำเภอแห่งนี้ ท่านอ๋องปกครองครอบคลุมไปถึงชายแดนฉีเป่ยที่พึ่งรบจบศึกในตอนนี้นั้นเอง ตลอดเวลาเย่วเย่วก็ตั้งใจเรียนการเดินการนั่งการกินการพูดคุยพิธีการต่างๆที่ชนชั้นสูงต้องมีจนครบสิบวัน นางแทบจะรากเลือดกับสิ่งที่ฝืนกับสิ่งที่ตนเองไม่ถนัดแต่ก็ทำเพื่อหน้าตาของสามีในภายภาคหน้าจะได้ไม่อายใครว่าแต่งชายาบ้านนอกเข้ามาและไม่รู้เรื่องอะไรเลยในตอนค่ำของอีกวันหลังจากที่สามพ่อแม่ลูกกินมื้อค่ำอิ่มแล้วก็เตรียมตัวจะเข้านอนหลังจากที่นั่งย่อยอาหารที่หน้าบ้านเหมือนเช่นทุกวัน จนจะได้เวลาเข้านอนก็ได้ยินเสียงม้าวิ่งมาที่หน้าบ้านพร้อมกับเสียงเคาะประตูหน้าบ้านเสียงดัง"ท่านพ่อท่านแม่ข้ากลับมาแล้วขอรับ" เสียงเรียกที่หน้าบ้านมันเสียงของพี่ชายของนางชัดๆเลย"ท่านพ่อเสียงพี่ใหญ่เจ้าค่ะ" พูดจบนางก็วิ่งลงบ้านไปที่ประตูใหญ่เลยทันที บิดาวิ่งตามลูกสาวไปติดๆหลังจากที่บอกให้ภรรยานั่งรอที่นี้ห้ามวิ่งตามมาสั่งแล้วเขาก็วิ่งตามลูกสาวสาวไปที่หน้าบ้านเหมือนกันเซียวเย่วเย
"เซียวอี้ถังเปิดประตูบ้านเร็วๆเข้า" เสียงลุงผู้ใหญ่บ้านเคาะไม้เรียกเสียงดังลั่นที่ด้านหน้า"ขอรับๆข้ากำลังเปิดอยู่" ส่วนท่านแม่ยืนรอที่หน้าระเบียงบ้านพอเปิดประตูออกก็เห็นคนมากมายเต็มหน้าบ้านของนางไปหมด แม้แต่ท่านนายอำเภอยังมาเลยท่านพ่อกับเย่วเย่วก็ตกใจเหมือนกัน"มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือท่านลุงทำไมคนมาบ้านของข้าเยอะขนาดนี้ละ" เซียวอี้ถังถามด้วยความสงสัยเหมือนกันส่วนเย่วเย่วนั้นนางตั้งสติแล้วรอฟังว่าทุกคนมีอะไรจึงมาหน้าบ้านของนางมากมายขนาดนี้มองคร่าวๆที่ด้านหลังนั้นอีกที่ชาวบ้านเดินตามกันมาจนจะหมดดทั้งหมู่บ้านเลยกระมัง นางคิดและมองดูคนที่แต่งตัวเป็นเหมือนขันทีในวังเหมือนในละครทีวีที่นางดูเป็นประจำทหารอีกเป็นร้อยรวมทั้งรถม้าหลายสิบคันที่จอดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย"มีพระราชโองการจากองค์เหนือหัวถึงคุณหนูเซียวเย่วเย่ว" ทันทีเมื่อคำพูดถึงราชโองการจากผู้เป็นใหญ่เหนือแคว้นเยว่เยว่กับครอบครัวก็รีบคุกเข่ารอรับพระราชโองการทันที ชาวบ้านคนอื่นๆก็รีบยืนสำรวมรอฟัง "เซียวเย่วเย่วรับราชโองการคุณหนูเซียวเย่วเย่วทำความดีส่งเสบียงช่วยเหล่าทหารกล้าที่ไปรบที่ชายแดนกับท่านอ๋องซงตงหยางพระอนุชาของพร