แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: ปลายฝนต้นหนาว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-27 22:37:41

ในหมู่บ้านกลางหุบเขาครอบครัวที่ติดภูเขาท้ายหมู่บ้าน สาวน้อยเย่วเย่วที่ร่างกายอ่อนแอมาตั้งเกิดซ้ำมาโดนลูกสาวของลุงใหญ่ผลักตกน้ำเพราะไปช่วยมารดาซักผ้าที่ลำธารท้ายหมู่บ้าน หัวของเย่วเย่วกระแทกกับหินในลำธารและสลบไป มารดาอุ้มบุตรสาววิ่งกลับบ้านในคืนนั้นสาวน้อยไข้ขึ้นไม่มีสติเธอคิดว่าตัวเองคงจะไม่รอดชีวิตอยู่กับบิดามารดาต่อไปอีกแน่นอน สาวน้อยตั้งจิตอธิฐานต่อเทพเซียนให้ช่วยส่งคนมาช่วยครอบครัวของเธอให้รอดจากการกดขี่ข่มเห่งของย่ากับลุงใหญ่ป้าสะใภ้ใหญ่ที่เอาเปรียบครอบครัวของเธอมาโดยตลอด ตำลึงทุกบาทหามาได้ย่าก็จะยึดเข้ากองกลางทั้งหมด ข้าวได้กินเพียงน้ำต้มข้าวใสๆใส่ธัญพืชหยาบๆอย่าหวังว่าจะได้กินเนื้อกินไข่ ทั้งที่บิดาล่าสัตว์มาได้กับพี่ชายจะโดนย่ายึดไปขายทั้งหมด 

เรียกได้ว่าคนหาไม่ได้กินคนกินไม่ได้หากับคำที่ว่ากตัญญูคำเดียวที่ย่าเอามาข่มบิดาให้ไม่กล้าเถียงมารดาของตัวเอง จนทำให้ลูกกับภรรยาลำบากจนถึงทุกวันนี้ พี่ชายของเธอก็ไม่ได้เรียนต้องทำงานงกๆ ต่างกันกับลูกๆของลุงใหญ่ที่ได้กินดีอยู่ดีทุกอย่างเพียงเพราะเกลียดมารดาของนางที่ยากจน และบิดาที่ยอมย่าก็เพราะรับปากว่าจะทำงานทุกอย่างขอเพียงมารดาไม่ขัดที่ท่านแต่งงานกับมารดาที่กำพร้าอยู่กับตายายที่ท้ายหมู่บ้าน นี้คือสาเหตุของการใช้คำเอาเปรียบจากย่ามาโดยตลอดพอแต่งเข้าบ้านบิดามารดาก็เหมือนทาสของของครัวของย่ามาตลอดสิบห้าปีที่เซียวเย่วเย่วเติบโตมาจนถึงวันนี้

และที่บิดาตกเขาเพราะอยากไปหาไก่ป่าสักตัวมาบำรุงบุตรสาวจนทำให้ขาของบิดาหัก ดีที่พี่ชายของเธอไปด้วยจึงแบกบิดากลับมาบ้านเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดที่บุตรสาวโดนบุตรสาวของลุงใหญ่ผลักตกน้ำจนสลบมารดาถึงออกปากบอกว่าลูกสาวของป้าใหญ่เป็นคนทำ

ย่าถึงกับโกรธหนักมากคนเป็นย่าที่ลำเอียงรักลูกไม่เท่ากันจึงขับไล่ตัดขาดสี่คนพ่อแม่ลูกออกจากบ้านแม้เงินสักตำลึงก็ไม่ให้ติดตัวมามารดาจึงพาลูกกลับมาอาศัยบ้านหลังเก่าของตากับยายที่เสียชีวิตไปได้ห้าปี ก็พอที่จะคุ้มแดนคุ้มฝนกับครอบครัวของเธอ

พอเย่วเย่วที่อธิฐานในใจจบเธอก็สิ้นใจตายอย่างอนาถในห้องที่มารดาเฝ้าไข้บุตรสาวส่วนลูกชายนั้นเฝ้าบิดาอยู่อีกห้องหนึ่ง

 

 

 

ตัดมาที่ปี2023 อินทิราแพทย์ทหาร ออกจากโรงพยาบาลในตัวเมืองติดชายแดนเหนือเพื่อจะกลับบ้านของตัวเองเพราะนัดกับพี่ชายที่ไร่ของครอบครัวตีสองกว่าๆเธอขับรถมาตามทางปกติแต่มีคนยืนกลางถนนและโบกรถเธอคิดอย่างเดียวว่าคงไม่ใช่คนโบกดึกดื่นนอกจาก 

  !!!!!ผ....ผีแต่สำหรับคุณหมอสาวผ่านคนตายมาทุกรูปแบบเกิดมาไม่เคยเจอผีนอกจากศพที่เธอรักษามาไม่น้อยในโรงบาล อินทิราตัดสินใจไม่จอดแต่จู่ๆเด็กสาวก็กระโดดขึ้นบังกระจกหน้ารถ ร้องบอกตะโกนใส่เธอจนเต็มหน้ากระจกรถว่า

"พี่สาวใจดีช่วยครอบครัวของหนูด้วยนะเจ้าคะ"    จากนั้นรถเสียหลักลงข้างทางพลิกหลายตลบอินทิราเสียชีวิตทันที ก่อนที่วิญญาณจะโดนดูดอย่างแรงเธอได้ยินเสียงของสาวน้อยว่า

"พี่หมดอายุไขในภพนี้แล้วหนูฝากครอบครัวด้วย" จากนั้นร่างของสาวน้อยก็หายไปอินทิราถูกดูดมาถึงทุ่งหญ้าเขียวขจีภูเขาที่สวยงามมีลำธารไหลผ่านและกระท่อมหนึ่งหลังมีชายชราผมยาวขาวหมดทั้งหัวนั่งในกระท่อมหลังน้อย

"นังหนูนั่งลงก่อนสิที่ข้าจะบอกคือเจ้าได้สิ้นอายุไขในภพของเจ้าแล้ว และได้มีดวงวิญญาณที่น่าสงสารร้องขอต่อข้าให้เจ้าไปช่วยครอบครัวของนางที่โดนเอาเปรียบจนยากจนในมิติคู่ขนานอีกที่หนึ่ง ก็นังหนูที่มันกระโดดเกาะหน้ารถของเจ้านั้นละ เจ้ายินดีจะช่วยเหลือนางไหมละข้าจะพาเจ้าไปในครอบครัวของนางตอนนี้เลย"

"จะว่าไปข้าก็โกรธอยู่นะเจ้าคะน้องเขาเล่นกระโดดบังหน้ารถจนหนูเสียหลักตกถนนตายอนาถศพไม่สวยเลย" อินทิราตอบแบบไม่พอใจขอกันดีๆก็ได้นี้นาถึงว่าละนะถึงขอก็ใช่ว่าเธอจะยอม ฟงแฟนก็ยังไม่มีจะยี่สิบห้าปีละมันทำแต่ทำงานจนหนุ่มๆหนีไปแต่งงานกันหมดแล้ว

"ศพเจ้าไม่ได้แหลกเหลวเสียหน่อยข้ากับนังหนูนั้นรับร่างเจ้าเอาไว้ สภาพแค่เหมือนนอนหลับไปเฉยๆเองนะ ตอนนี้ภพโน้นของเจ้าพี่ชายกับพี่สะใภ้ของเจ้าก็ทำพิธีเผาร่างของเจ้าไปแล้วนะถ้าเจ้าไม่ช่วยนังหนูนี้ก็จะกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนไปจนกว่าจะได้ไปเกิดใหม่เจ้าเลือกเองแล้วกัน" ชายชราบอก

อินทิราคิดหนักเลยเคยได้ยินได้อ่านแค่ในนิยายนี้มันเรื่องจริงหรือวะตายแล้วทะลุมิติเหมือนแม่การะเกดเลยโว้ย แต่ต้องต่อรองเสียหน่อยขอของดีติดตัวไปด้วยดีกว่าเผื่อที่นั้นจะลำบากมากไม่รู้จะไปตกยุคไหนตอนนี้เธอคิดในใจ

"ท่านตาข้าขอต่อรองถ้าข้าไปเกิดใหม่ข้าขอความรู้ที่มีติดตัวไปด้วยและขอมิติพร้อมทั้งพรของความโชคดีของที่ในภพเก่าติดตัวข้าไปด้วยนะเจ้าคะได้ไหม" อินทิราต่อรองทันทีนาทีนี้ตัวช่วยคือสิ่งที่ต้องนำไปด้วย

"ได้สิข้าได้เตรียมให้เจ้าทั้งหมดแล้วของทุกอย่างที่เป็นของเจ้าจะตามไปในมิติเพียงแค่เจ้านึกจะเข้าออกได้ทุกเวลา และไม่มีใครแย่งชิงไปจากเจ้าไปได้เก็บสิ่งของได้ไม่มีจำกัดและใช้ได้ไม่มีวันหมด เป็นเช่นไรถูกใจเจ้าไหมนังหนูข้าเห็นแก่ความดีในภพเก่าของเจ้าหรอกนะจึงพิเศษให้ ภพใหม่นี้เจ้าจะมีพร้อมทุกอย่างรวมทั้งเนื้อคู่ของเจ้าอีกด้วยเอาละเตรียมตัวข้าจะพาเจ้าไปแล้วนะนังหนู"

อินทิราหลับตาลงลมหมุนก็หอบเธอจนมาสะดุ้งตื่นเพราะปวดหัวกับความทรงจำของสาวน้อยเซียวเย่วเย่วที่น่าสงสารเหลือเกิน ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้พบกับคำว่าความสุขเลย เอาละสาวน้อยต่อไปพี่สาวจะใช้ชีวิตที่เหลือของเธอให้ดีและจะทำให้ครอบครัวของเธอร่ำรวยจนบ้านใหญ่กระอักเลือดตายไปเลย ต้องเปลี่ยนความคิดของบิดาเสียใหม่กับการกตัญญูโง่ๆกับคนที่อ้างตัวว่าเป็นมารดาจนไม่เห็นถึงความลำบากของลูกเลยอย่างนี้เขาเรียกว่าเห็นแก่ตัว การกตัญญูไม่ใช่มันไม่ดีแต่ไม่ใช่หลับหูหลับตาทำทั้งที่ครอบครัวของตัวเองลำบากทั้งยังเอาเปรียบสารพัดอย่างต้องดูเป็นรายคนไปแต่สำหรับคนบ้านใหญ่อินทิราคิดว่าจะเอาคืนอย่างสาสมเลยทีเดียวละ

 

 

 

 

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
ອິດ ພັນນະວົງ
บทเดียวเขียนสองตอนช้ำอะไรว่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • พรของเซียวเย่วเย่ว   บทที่ 53

    หลังจากแต่งกันกับท่านอ๋องภายในตำหนักในทุกคืนจะมีเสียงครางหวานของคู่สามีข้าวใหม่ปลามันจนนางกำนัลหน้าแดงไปตามๆกัน ท่านอ๋องช่างรักพระชายาเหลือเกินตามใจนางทุกอย่างตลอดที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ช่วงก่อนจะถึงวันกลับไปเยี่ยมที่บ้านของพระชายาเขาตักตวงความสุขตั้งแต่ก่อนวันแต่งจนผ่านมาหลายคืนแล้วก็ยังคงหื่นเสมอต้นเสมอปลาย เย่วเย่วคิดในตอนนี้นางนั่งผิงอกแกร่งของพระสวามีกลับหมู่บ้านฉีซานเพื่อจะกลับไปเยี่ยมบ้านเดิมตามประเพณี กว่าจะได้ออกจากห้องแต่ละวันนางนี้ต้องมีนางกำนัลคอยประคองถ้าไม่มีน้ำพุวิเศษนี้นางไม่อย่างจะคิดเลยว่าจะนอนเป็นผักทั้งวันหรือเปล่า"เย่วเอ๋อร์น้องนอนเถอะนะคนดีพอถึงบ้านของพ่อตาแม่ยายพี่จะปลุกน้องเอง"ท่านอ๋องกระชับอ้อมกอดให้ภรรยานั่งพิงอกได้สะดวกตอนกลางวันต้องให้นางนอนพักเอาแรงไว้มากๆหน่อยช่วงกลางคืนคือเวลาของเขา ว่าจะหยุดสักเดือนก่อนจะเดินทางเข้าเมืองหลวงไปหาพี่ชายที่รอจัดงานให้อีกรอบที่ตำหนักอ๋องที่เมืองหลวง แต่จะให้เขาอดใจไหวไม่รังแกภรรยาได้เช่นไรในเมื่อนางน่ารักน่ากินไปทั้งตัว เขาก็ไม่ใช้ผู้หลุดพ้นเสียหน่อย นี้ก็อดทนรอมาตั้งปีเพื่อจะแต่งนางเข้าตำหนักได้แต่ก็ต้องออกศึกไปเป็นปีที่ไ

  • พรของเซียวเย่วเย่ว   บทที่ 52

    ท่านอ๋องกว่าจะปลีกตัวจากเหล่าทหารทั้งหลายได้ก็ปาไปเกือบสี่ทุ่มในภพเก่าของนางเย่วเย่วกำลังนั่งหลับพักเอาแรงหลังจากที่มารดามาอวยพรร่ำลากันกลับหมู่บ้านกับบรรดาป้าๆทั้งหลายกลับไปกันจนหมด นางก็อยู่กับนางกำนัลสองคนที่มีอายุสามสิบได้กระมังเย่วเย่วแอบกินนมกับขนมเพราะมีผ้าคลุมหน้านางไม่กลัวนางกำนัลเห็นหรอกนะ คนมันหิวกว่าด้านนอกจะรับแขกและกลับหมดพอดีหิวท้องร้องกันพอดี หยิบของออกมากินจนอิ่มนางก็นั่งหลับไปเลยเอาแรงดีกว่าถ่างตารอไม่ไหวหรอก เพราะเมื่อคืนนี้ท่านอ๋องของรางวัลทั้งคืนถ้านางไม่หลับก่อนคงสว่างคาตาแน่ๆเลย คนอะไรอึดเป็นบ้าขอให้ปล่อยก็ไม่ยอมหยุดจนนางหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ แล้วยังโดนลากมาทำพิธีทั้งวันอีกจนค่ำสองที่พักนอนงีบเอาแรงสักนิดก็ยังดีตัดมาที่ท่านอ๋องที่ตอนนี้กำลังโดนเหล่าทหารคนสนิทมอมเหล้าเพื่อกลั้นแกล้งให้เจ้านายเข้อหอไม่ไหวชนแก้วจอกต่อจอก จนเขาต้องใช้อุบายขอเข้าห้องน้ำพอปลีกตัวออกมาได้ก็เดินตัวปลิวไปที่ห้องหอในตำหนักใหญ่เลยป่านนี้เย่วเย่วคงจะรอแย่แล้ว อ๋องหนุ่มคิดไปยิ้มไปกับความน่ารักของภรรยาหมาดๆที่นางให้รางวัลกับเขาเมื่อคืนนี้จนแทบตายคาอกนาง แต่ใครจะอดใจไหวเล่าภรรยาน่ารักเสียขนาดน

  • พรของเซียวเย่วเย่ว   บทที่ 51

    ตอนนี้หัวสมองของสาวน้อยเย่วเย่วขาวโพลนไปหมดกับริมฝีปากหนาของชายคนรักที่ละเลงน้องสาวจนนางครางกระเส่าอย่างไม่อาย ชายหนุ่มนั้นตอนนี้ดูดดึงกุหลาบงามของสาวคนรักอย่างไม่รังเกียจนางสวยไปหมดจนเขาอดใจไม่ไหวอยากกลืนกินทุกอย่างที่เป็นนาง"เย่วเอ๋อร์คนดีร้องดังๆไปเลยพี่ชอบเห็นน้องมีความสุขที่สุุขเสียวไหมที่รัก" ชายหนุ่มเงยหน้ามาพูดกับนางแต่ก็ยังมีนิ้วแทนที่ปากเขาเขี่ยวนตรงปุ่มเสียวของนาง เย่วเย่วยกสะโพกลอยตามนิ้วร้ายของชายหนุ่มที่ละเลงแล้วแหย่เข้าไปที่ละนิ้ว พอถามนางจบเขาไม่คิดจะฟังคำตอบเพราะดูจากการตอบรับของสาวคนรักก็พอใจมากแล้ว ท่านออ๋องหนุ่มก้มหน้าลงฉกชิมกุหลาบงามตรงหน้าต่อจนร่างบอบบางเกร็งกระตุกสุขสมไปก่อนเพื่อเปิดทางให้มังกรตัวเขี่ยงเข้าไปในกุหลาบงาม ชายหนุ่มแยกขาของคู่หมั้นสาวออกจนกว้างก่อนจะชักรูดมังกรตัวเองถูกไถ่ก่อนจะค่อยๆกดเข้าไปทีละน้อย เยว่เยว่หัวขาวโพลนเพราะพึ่งเสร็จสมไปเพราะลิ้นร้ายของท่านอ๋องต้องสะดุ้งเพราะมีสิ่งใหญ่โตกำลังมุดเข้ากุหลาบของนางมาได้แค่ส่วนหัวนางแทบขาดใจทำไมมันใหญ่ขนาดนี้จะเข้าไปในน้องสาวของนางได้จริงๆหรือ"ท่านอ๋องเพคะ" นางเอามือยันหน้าอกแกร่งเอาไว้ก่อน"ท่านพี่เรียก

  • พรของเซียวเย่วเย่ว   บทที่ 50

    ตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์มีรถม้ามารับเซียวเย่วเย่วทุกวันในตอนเช้าเพื่อฝึกสาวน้อยที่จะแต่งเข้าตำหนักของท่านอ๋องซงตงหยางในอีกไม่นาน รอเพียงท่านอ๋องเดินทางกลับมาถึงที่อำเภอแห่งนี้ ท่านอ๋องปกครองครอบคลุมไปถึงชายแดนฉีเป่ยที่พึ่งรบจบศึกในตอนนี้นั้นเอง ตลอดเวลาเย่วเย่วก็ตั้งใจเรียนการเดินการนั่งการกินการพูดคุยพิธีการต่างๆที่ชนชั้นสูงต้องมีจนครบสิบวัน นางแทบจะรากเลือดกับสิ่งที่ฝืนกับสิ่งที่ตนเองไม่ถนัดแต่ก็ทำเพื่อหน้าตาของสามีในภายภาคหน้าจะได้ไม่อายใครว่าแต่งชายาบ้านนอกเข้ามาและไม่รู้เรื่องอะไรเลยในตอนค่ำของอีกวันหลังจากที่สามพ่อแม่ลูกกินมื้อค่ำอิ่มแล้วก็เตรียมตัวจะเข้านอนหลังจากที่นั่งย่อยอาหารที่หน้าบ้านเหมือนเช่นทุกวัน จนจะได้เวลาเข้านอนก็ได้ยินเสียงม้าวิ่งมาที่หน้าบ้านพร้อมกับเสียงเคาะประตูหน้าบ้านเสียงดัง"ท่านพ่อท่านแม่ข้ากลับมาแล้วขอรับ" เสียงเรียกที่หน้าบ้านมันเสียงของพี่ชายของนางชัดๆเลย"ท่านพ่อเสียงพี่ใหญ่เจ้าค่ะ" พูดจบนางก็วิ่งลงบ้านไปที่ประตูใหญ่เลยทันที บิดาวิ่งตามลูกสาวไปติดๆหลังจากที่บอกให้ภรรยานั่งรอที่นี้ห้ามวิ่งตามมาสั่งแล้วเขาก็วิ่งตามลูกสาวสาวไปที่หน้าบ้านเหมือนกันเซียวเย่วเย

  • พรของเซียวเย่วเย่ว   บทที่ 49

    "เซียวอี้ถังเปิดประตูบ้านเร็วๆเข้า" เสียงลุงผู้ใหญ่บ้านเคาะไม้เรียกเสียงดังลั่นที่ด้านหน้า"ขอรับๆข้ากำลังเปิดอยู่" ส่วนท่านแม่ยืนรอที่หน้าระเบียงบ้านพอเปิดประตูออกก็เห็นคนมากมายเต็มหน้าบ้านของนางไปหมด แม้แต่ท่านนายอำเภอยังมาเลยท่านพ่อกับเย่วเย่วก็ตกใจเหมือนกัน"มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือท่านลุงทำไมคนมาบ้านของข้าเยอะขนาดนี้ละ" เซียวอี้ถังถามด้วยความสงสัยเหมือนกันส่วนเย่วเย่วนั้นนางตั้งสติแล้วรอฟังว่าทุกคนมีอะไรจึงมาหน้าบ้านของนางมากมายขนาดนี้มองคร่าวๆที่ด้านหลังนั้นอีกที่ชาวบ้านเดินตามกันมาจนจะหมดดทั้งหมู่บ้านเลยกระมัง นางคิดและมองดูคนที่แต่งตัวเป็นเหมือนขันทีในวังเหมือนในละครทีวีที่นางดูเป็นประจำทหารอีกเป็นร้อยรวมทั้งรถม้าหลายสิบคันที่จอดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย"มีพระราชโองการจากองค์เหนือหัวถึงคุณหนูเซียวเย่วเย่ว" ทันทีเมื่อคำพูดถึงราชโองการจากผู้เป็นใหญ่เหนือแคว้นเยว่เยว่กับครอบครัวก็รีบคุกเข่ารอรับพระราชโองการทันที ชาวบ้านคนอื่นๆก็รีบยืนสำรวมรอฟัง "เซียวเย่วเย่วรับราชโองการคุณหนูเซียวเย่วเย่วทำความดีส่งเสบียงช่วยเหล่าทหารกล้าที่ไปรบที่ชายแดนกับท่านอ๋องซงตงหยางพระอนุชาของพร

  • พรของเซียวเย่วเย่ว   บทที่ 48

    สามพ่อแม่ลูกนั่งคุยกันได้สักพักเสียงร้องของเหยี่ยวที่ท่านอ๋องคอยส่งข่าวก็ร้องขึ้นบริเวณท้องฟ้าเหนือบ้านของนางเสียงดังก่อนที่เจ้าตัวจะบินร่อนลงมาที่หน้าระเบียงบ้านเย่วเย่วร้องตะโกนเสียงดังตั้งแต่ที่ได้ยินเสียงมันร้องตอนยังไม่เห็นตัวลงมาหน้าบ้านด้วยความดีใจ"โอ๊ะเจ้าเหยี่ยวมาแล้วเจ้าค่ะท่านพ่อท่านแม่" ทุกคนยิ้มด้วยความดีใจกับเสียงนกยักษ์ของท่านอ๋องที่มาส่งข่าวหลังจากหายไปนานมันลงมาถึงก็ยกขาให้เย่วเย่วดึงเอาจดหมายที่ผูกมาด้วยเป็นอย่างดีแล้วรับอาหารของตนกินเงียบๆที่ที่ประจำเย่วเย่วเอาจดหมายพี่ชายให้บิดามารดาของนางต่างหากท่านพ่อรีบรับไปอ่านให้ท่านแม่ฟังทันที่'ถึงท่านพ่อท่านแม่น้องเล็กขอโทษที่หายไปนานคงจะทำให้พวกท่านเป็นห่วงตอนนั้นกำลังสู้รบไม่ค่อยมีเวลาตอนนี้ชนะข้าศึกแล้วอีกไม่นานจะได้เดินทางกลับมาบ้านรักและถึงทุกคนขอรับ เซียวอี้เหอ'ท่านแม่ยิ้มแก้มปริพอได้ยินว่าลูกชายกำลังจะกลับมาในอีกไม่ช้า"ท่านพี่ข้าจะไปหาของกินอร่อยๆเอาไว้รอลูกของเราเจ้าค่ะพาข้าไปในห้องเสบียงหน่อยนะเจ้าคะ" นางรีบหันไปหาสามีเพื่อทำอาหารรอบุตรชายที่จากไปนับปี"น้องหญิงอาหารของเร

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status