หลังจากที่ทำธุระกันเสร็จหมดทุกอย่างเย่วเย่วจึงพาทุกคนออกจากในมิติมาข้างนอก เป็นเวลายามเหมาปลายแล้วนางจึงให้บิดามารดาอยู่บ้านนางกับพี่ใหญ่สะพายตระกร้าขึ้นเขาพร้อมอาวุธครบมือเพื่อจะไปล่าสัตว์มาว่าจ้างชาวบ้านให้มาช่วยล้อมรั้วบ้านให้ใหม่ รวมทั้งซ่อมแซมหลังคาบ้านตรงไหนชำรุดจะทำใหม่ทั้งหมด แต่จะยังไม่ใช้ตำลึงเดี๋ยวชาวบ้านจะสงสัยเอาได้ว่าพวกนางนำตำลึงมาจากไหน ที่จริงตำลึงของนางในห้องนอนท่านตาเทพทำให้เป็นตำลึงของยุคนี้ใช้ไปทั้งชาติก็ไม่หมด แต่ที่ต้องทำแบบนี้เพราะตอนที่แยกบ้านจากบ้านใหญ่ครอบครัวของนางไม่ได้ตำลึงมาสักก้อน จึงทำให้ค่อยเป็นค่อยไปใช้สิ่งของแลกเปลี่ยนจะสะบายใจกว่าและถ้าพวกบ้านใหญ่รู้ว่าบ้านของนางมีตำลึงต้องมาอ้างบุญคุณกตัญญูจากบิดาที่ซื่อจนโง่นางอีก
สองพี่น้องเดินขึ้นเขาก็เจอชาวบ้านบ้างที่ขึ้นมาเก็บผักป่าไปทำอาหารมื้อเช้ากันประปลาย บางคนที่เห็นสองพี่น้องก็ร้องถามอาการของบิดาว่าเป็นอย่างไรบ้างแต่คงได้เพียงถามไถ่เพราะพวกเขาที่เป็นชาวบ้านก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรพอจะไปช่วยเหลือใครได้เหมือนกัน "พี่ใหญ่ที่จริงของกินเยอะแยะเพียงแต่พวกชาวบ้านยังไม่รู้จักเพราะกลัวว่าจะมีพิษจึงพากินเฉพาะที่คนเก่าคนแก่บอกต่อๆกันมารุ่นสู่ลูกหลานอีกทีเจ้าค่ะ" "ก็เหมือนพี่นี้แหละน้องเล็กถ้าไม่เรียนรู้มาจากน้องพี่เองก็ไม่กล้าที่จะเก็บไปกินเหมือนชาวบ้าน พี่นี้โชคดีจริงๆที่มีน้องสาวที่ท่านเทพเซียนเมตาครอบครัวของเรา" เซียวอี้เหอคุยกันกับน้องสาวไปเรื่อยก่อนสองพี่น้องแยกไปอีกทางที่ชาวบ้านไม่เดินกัน ช่วงนี้อยู่ในช่วงเพาะปลูกกันเสร็จแล้วรอแค่การเก็บเกี่ยวผลิตในไร่นาของแต่ละครัวเรือน อีกสี่เดือนข้างหน้าคงจะเข้าหน้าหนาวตอนนี้ในป่ายังเขียวขจีเพราะมีฝนตกลงมาตลอดให้ชาวบ้านเพาะปลูกตามฤดูการ พอแยกทางเดินกันกับที่ชาวบ้านหากินกันรอบนอกสองพี่น้องก็เก็บผักป่ามากมายจนเต็มตระกร้ากันเลยทีเดียว เห็ดก็มีให้เก็บมากมายสองพี่น้องไม่เร่งรีบเพราะอาหารนั้นนางนำออกมาเอาไว้ให้บิดามารดาที่บ้านเรียบร้อยแล้ว สองพี่น้องจึงช่วยกันเก็บของป่าให้ได้เยอะที่สุดเพื่อจะตุนเอาไว้หน้าหนาวที่จะถึง "พี่ใหญ่เจ้าคะดูหน่อไม้มีหน่อใหญ่มากมายพวกเราช่วยกันตัดใส่มิติลงไปให้ท่านแม่ดองกับนึ่งเก็บเอาขายไว้กิน หลังจากหมดหน้าหนาวข้าจะพาพี่ใหญ่ไปในเมืองหาซื้อเกวียนวัวมานำของป่าที่พวกเราแปรรูปไปขายในตัวเมืองกัน ถ้ามีร้านค้าประกาศขายร้านข้าก็จะซื้อเอาไว้นำของป่าเข้าไปวางขายเองหน้าร้านของพวกเรา ข้าจะไปซื้อบ้านในเมืองเอาไว้อีกด้วยเวลาเหนื่อยจะได้นอนพักกันที่นั้นด้วยเป็นบางวัน ส่วนบ้านของท่านตาเราก็ยังไม่ต้องทำใหม่เอาไว้สักปีข้าอาจจะทำบ้านใหม่สักสามห้องนอนสำหรับครอบครัวของเรา" นางคุยกับพี่ชายไปเก็บเห็ดกันไปจนถึงยามเว่ยนางจึงเอาผัดกระเพราหมูกรอบใส่ไข่ดาวกาแฟเย็นออกมากินกัน ส่วนนางเหมือนกันกับพี่ใหญ่ต้องขุนร่างนี้ให้มีเนื้อมีหนังหน่อย ส่วนร่างกายนั้นแข็งแรงมากแล้วเพราะได้น้ำพุวิเศษกันทั้งครอบครัวแต่ก็มีน้ำมีนวลขึ้นมามากแล้วละหลังจากที่บำรุงในมิติมาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากอิ่มมื้อกลางวันนั่งพักผ่อนกันพักใหญ่ทั้งสองก็พากันพาไปอีกทางเพื่อจะล่าสัตว์จะได้กลับลงเขากันก่อนจะค่ำ เดินตามลำธารที่นั่งพักกันมาได้สองเค่อก็เห็นรอยเท้ากับมูลของหมูป่า นางจึงยกมือขึ้นบอกพี่ชายและเดินตามรอยเท้าไปเรื่อยๆสักพักก็เจอเข้ากับฝูงหมูป่าหลายสิบตัว นางจึงชี้มือบอกให้พี่ชายขึ้นต้นไม้กันคนละต้นก่อนจะนำธนูออกมาเล็งไปที่ตัวที่คิดจะว่าเอา จากนั้นก็ยิงออกไปพร้อมกันธนูของนางใส่ได้สามดอกในคราเดียวโดนไปดอกเดียวตายคาที่ พี่ชายของนางเองก็เช่นเดียวกันหมูป่าตัวอื่นที่ตกใจวิ่งหนีกันไปหมดนางจึงลงจากต้นไม้รีบไปเก็บเข้ามิติเพราะกลัวว่ากลิ่นเลือดมันจะเรียกสัตว์ใหญ่แห่มาแย่งอาหารกัน "วันนี้เราโชคดีพี่ใหญ่เขาลูกนี้ชาวบ้านไม่กล้าขึ้นมาหาของป่านนอกจากคนที่เป็นนายพรานที่เก่งมากจึงจะขึ้นมากันทีหลายคนใช่ไหมเจ้าคะ" แต่ก็ไม่มีคนกล้ามาทางนี้เพราะมีคนเคยเจอเสือตัวใหญ่ที่ฝั่งนี้นั้นเอง "พี่ใหญ่เราเดินลงเขาไปเก็บผักป่าไปเรื่อยๆกันแวะดูกับดักไก่ป่า กระต่ายป่าที่ข้าเอาผลไม้ล่อไว้กันด้วยดีกว่าพอใกล้จะถึงทางแยกลงหมู่บ้านข้าจะเอาหมูออกมาใส่ไม้ที่พวกเราทำเอาไว้ลากหมูลงมาจากเขา" สองพี่น้องเตรียมการทุกอย่างกันมาเรียบร้อยจึงเดินเรื่อยๆมาจนถึงกับดักหกอันที่นางใส่เอาไว้และได้ไก่ป่ามาสี่ตัวกับกระต่ายสองตัวนางเก็บเข้ามิติไปเลย ในตระกร้าจึงมีเพียงผักป่ากับเห็ดป่าหน่อไม้พอให้มองเห็นเท่านั้นเพื่อตบตาชาวบ้าน นางนำไม้ที่ทำใส่หมูให้พี่ชายลากลงเขาให้เห็นรอยลากลงมาจนถึงที่จะนำหมูออกมา พอลงมาถึงก็เอาหมูสองตัวออกมาวางและมัดให้เรียบร้อยก่อนจะให้พี่ใหญ่ลงเขาไปตามคนมาช่วยลากลงเขาไป นางก็นั่งรอชิวๆรอเพียงชาวบ้านขึ้นมาช่วยลากลงหมูไปช่วยเพียงเท่านั้น รอประมาณสองเค่อเสียงพูดคุยกับเสียงคุยกันก็ดังมาหลายสิบเสียงใกล้เข้ามาตรงที่นางนั่งรอกับหมูป่า พอทุกคนมาเห็นนางนั่งเฝ้าหมูสองตัวทุกคนถึงกับตกใจที่สองพี่น้องถึงกับล่าหมูตัวใหญ่ได้ตั้งสองตัว จะไม่เชื่อก็ไม่ได้เพราะว่าหลักฐานมันนอนตายอยู่ตรงหน้าของพวกเขาแล้วตอนนี้ "นี้ถ้าข้าไม่เห็นกับตาข้าคงไม่เชื่อที่พวกชาวบ้านไปป่าวประกาศบอกให้พาคนมาลากหมูป่าลงเขา เจ้าเด็กสองพี่น้องบ้านรองเซียวไปล่ามาจากอีกฝั่งของป่าที่ไม่มีใครกล้าเข้าไป" จากคำบอกเล่าของพี่ชายที่ไปบอกหัวหน้าหมู่บ้านทุกคนที่ขึ้นมาบนเขาได้แต่อ้าปากค้างด้วยความเหลือเชื่อของสองพี่น้องบ้านรองเซียว ก่อนที่ทุกคนจะช่วยกันลากหมูลงเขาเข้าไปในหมู่บ้านพอไปถึงบ้านของท่านตาที่ครอบครัวรองเซียวอาศัยอยู่ ชาวบ้านที่ช่วยกันลากลงมาจึงช่วยกันชำแหละหมู ส่วนท่านแม่จะคุยกับลุงผู้ใหญ่บ้านเรื่องแบ่งเนื้อหมูป่าให้กับชาวบ้าน แลกกับการมาล้อมรั้วบ้านให้ครอบครัวเซียวกับเปลี่ยนไม้ที่หลังคาบ้านมุงให้ใหม่ด้วย เพราะกลัวหิมะถล่ม แล้วทำประตูหน้าบ้านกับในบ้านให้ใหม่ด้วยลุงผู้ใหญ่จึงเดินออกมาตรงที่ทุกคนชำแหละหมู พูดเรื่องที่นางเซียวอี้หลันต้องการให้ชาวบ้านช่วยเรื่องรั้วบ้านใหม่และตัวบ้านด้วยหลังจากแต่งกันกับท่านอ๋องภายในตำหนักในทุกคืนจะมีเสียงครางหวานของคู่สามีข้าวใหม่ปลามันจนนางกำนัลหน้าแดงไปตามๆกัน ท่านอ๋องช่างรักพระชายาเหลือเกินตามใจนางทุกอย่างตลอดที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ช่วงก่อนจะถึงวันกลับไปเยี่ยมที่บ้านของพระชายาเขาตักตวงความสุขตั้งแต่ก่อนวันแต่งจนผ่านมาหลายคืนแล้วก็ยังคงหื่นเสมอต้นเสมอปลาย เย่วเย่วคิดในตอนนี้นางนั่งผิงอกแกร่งของพระสวามีกลับหมู่บ้านฉีซานเพื่อจะกลับไปเยี่ยมบ้านเดิมตามประเพณี กว่าจะได้ออกจากห้องแต่ละวันนางนี้ต้องมีนางกำนัลคอยประคองถ้าไม่มีน้ำพุวิเศษนี้นางไม่อย่างจะคิดเลยว่าจะนอนเป็นผักทั้งวันหรือเปล่า"เย่วเอ๋อร์น้องนอนเถอะนะคนดีพอถึงบ้านของพ่อตาแม่ยายพี่จะปลุกน้องเอง"ท่านอ๋องกระชับอ้อมกอดให้ภรรยานั่งพิงอกได้สะดวกตอนกลางวันต้องให้นางนอนพักเอาแรงไว้มากๆหน่อยช่วงกลางคืนคือเวลาของเขา ว่าจะหยุดสักเดือนก่อนจะเดินทางเข้าเมืองหลวงไปหาพี่ชายที่รอจัดงานให้อีกรอบที่ตำหนักอ๋องที่เมืองหลวง แต่จะให้เขาอดใจไหวไม่รังแกภรรยาได้เช่นไรในเมื่อนางน่ารักน่ากินไปทั้งตัว เขาก็ไม่ใช้ผู้หลุดพ้นเสียหน่อย นี้ก็อดทนรอมาตั้งปีเพื่อจะแต่งนางเข้าตำหนักได้แต่ก็ต้องออกศึกไปเป็นปีที่ไ
ท่านอ๋องกว่าจะปลีกตัวจากเหล่าทหารทั้งหลายได้ก็ปาไปเกือบสี่ทุ่มในภพเก่าของนางเย่วเย่วกำลังนั่งหลับพักเอาแรงหลังจากที่มารดามาอวยพรร่ำลากันกลับหมู่บ้านกับบรรดาป้าๆทั้งหลายกลับไปกันจนหมด นางก็อยู่กับนางกำนัลสองคนที่มีอายุสามสิบได้กระมังเย่วเย่วแอบกินนมกับขนมเพราะมีผ้าคลุมหน้านางไม่กลัวนางกำนัลเห็นหรอกนะ คนมันหิวกว่าด้านนอกจะรับแขกและกลับหมดพอดีหิวท้องร้องกันพอดี หยิบของออกมากินจนอิ่มนางก็นั่งหลับไปเลยเอาแรงดีกว่าถ่างตารอไม่ไหวหรอก เพราะเมื่อคืนนี้ท่านอ๋องของรางวัลทั้งคืนถ้านางไม่หลับก่อนคงสว่างคาตาแน่ๆเลย คนอะไรอึดเป็นบ้าขอให้ปล่อยก็ไม่ยอมหยุดจนนางหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ แล้วยังโดนลากมาทำพิธีทั้งวันอีกจนค่ำสองที่พักนอนงีบเอาแรงสักนิดก็ยังดีตัดมาที่ท่านอ๋องที่ตอนนี้กำลังโดนเหล่าทหารคนสนิทมอมเหล้าเพื่อกลั้นแกล้งให้เจ้านายเข้อหอไม่ไหวชนแก้วจอกต่อจอก จนเขาต้องใช้อุบายขอเข้าห้องน้ำพอปลีกตัวออกมาได้ก็เดินตัวปลิวไปที่ห้องหอในตำหนักใหญ่เลยป่านนี้เย่วเย่วคงจะรอแย่แล้ว อ๋องหนุ่มคิดไปยิ้มไปกับความน่ารักของภรรยาหมาดๆที่นางให้รางวัลกับเขาเมื่อคืนนี้จนแทบตายคาอกนาง แต่ใครจะอดใจไหวเล่าภรรยาน่ารักเสียขนาดน
ตอนนี้หัวสมองของสาวน้อยเย่วเย่วขาวโพลนไปหมดกับริมฝีปากหนาของชายคนรักที่ละเลงน้องสาวจนนางครางกระเส่าอย่างไม่อาย ชายหนุ่มนั้นตอนนี้ดูดดึงกุหลาบงามของสาวคนรักอย่างไม่รังเกียจนางสวยไปหมดจนเขาอดใจไม่ไหวอยากกลืนกินทุกอย่างที่เป็นนาง"เย่วเอ๋อร์คนดีร้องดังๆไปเลยพี่ชอบเห็นน้องมีความสุขที่สุุขเสียวไหมที่รัก" ชายหนุ่มเงยหน้ามาพูดกับนางแต่ก็ยังมีนิ้วแทนที่ปากเขาเขี่ยวนตรงปุ่มเสียวของนาง เย่วเย่วยกสะโพกลอยตามนิ้วร้ายของชายหนุ่มที่ละเลงแล้วแหย่เข้าไปที่ละนิ้ว พอถามนางจบเขาไม่คิดจะฟังคำตอบเพราะดูจากการตอบรับของสาวคนรักก็พอใจมากแล้ว ท่านออ๋องหนุ่มก้มหน้าลงฉกชิมกุหลาบงามตรงหน้าต่อจนร่างบอบบางเกร็งกระตุกสุขสมไปก่อนเพื่อเปิดทางให้มังกรตัวเขี่ยงเข้าไปในกุหลาบงาม ชายหนุ่มแยกขาของคู่หมั้นสาวออกจนกว้างก่อนจะชักรูดมังกรตัวเองถูกไถ่ก่อนจะค่อยๆกดเข้าไปทีละน้อย เยว่เยว่หัวขาวโพลนเพราะพึ่งเสร็จสมไปเพราะลิ้นร้ายของท่านอ๋องต้องสะดุ้งเพราะมีสิ่งใหญ่โตกำลังมุดเข้ากุหลาบของนางมาได้แค่ส่วนหัวนางแทบขาดใจทำไมมันใหญ่ขนาดนี้จะเข้าไปในน้องสาวของนางได้จริงๆหรือ"ท่านอ๋องเพคะ" นางเอามือยันหน้าอกแกร่งเอาไว้ก่อน"ท่านพี่เรียก
ตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์มีรถม้ามารับเซียวเย่วเย่วทุกวันในตอนเช้าเพื่อฝึกสาวน้อยที่จะแต่งเข้าตำหนักของท่านอ๋องซงตงหยางในอีกไม่นาน รอเพียงท่านอ๋องเดินทางกลับมาถึงที่อำเภอแห่งนี้ ท่านอ๋องปกครองครอบคลุมไปถึงชายแดนฉีเป่ยที่พึ่งรบจบศึกในตอนนี้นั้นเอง ตลอดเวลาเย่วเย่วก็ตั้งใจเรียนการเดินการนั่งการกินการพูดคุยพิธีการต่างๆที่ชนชั้นสูงต้องมีจนครบสิบวัน นางแทบจะรากเลือดกับสิ่งที่ฝืนกับสิ่งที่ตนเองไม่ถนัดแต่ก็ทำเพื่อหน้าตาของสามีในภายภาคหน้าจะได้ไม่อายใครว่าแต่งชายาบ้านนอกเข้ามาและไม่รู้เรื่องอะไรเลยในตอนค่ำของอีกวันหลังจากที่สามพ่อแม่ลูกกินมื้อค่ำอิ่มแล้วก็เตรียมตัวจะเข้านอนหลังจากที่นั่งย่อยอาหารที่หน้าบ้านเหมือนเช่นทุกวัน จนจะได้เวลาเข้านอนก็ได้ยินเสียงม้าวิ่งมาที่หน้าบ้านพร้อมกับเสียงเคาะประตูหน้าบ้านเสียงดัง"ท่านพ่อท่านแม่ข้ากลับมาแล้วขอรับ" เสียงเรียกที่หน้าบ้านมันเสียงของพี่ชายของนางชัดๆเลย"ท่านพ่อเสียงพี่ใหญ่เจ้าค่ะ" พูดจบนางก็วิ่งลงบ้านไปที่ประตูใหญ่เลยทันที บิดาวิ่งตามลูกสาวไปติดๆหลังจากที่บอกให้ภรรยานั่งรอที่นี้ห้ามวิ่งตามมาสั่งแล้วเขาก็วิ่งตามลูกสาวสาวไปที่หน้าบ้านเหมือนกันเซียวเย่วเย
"เซียวอี้ถังเปิดประตูบ้านเร็วๆเข้า" เสียงลุงผู้ใหญ่บ้านเคาะไม้เรียกเสียงดังลั่นที่ด้านหน้า"ขอรับๆข้ากำลังเปิดอยู่" ส่วนท่านแม่ยืนรอที่หน้าระเบียงบ้านพอเปิดประตูออกก็เห็นคนมากมายเต็มหน้าบ้านของนางไปหมด แม้แต่ท่านนายอำเภอยังมาเลยท่านพ่อกับเย่วเย่วก็ตกใจเหมือนกัน"มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือท่านลุงทำไมคนมาบ้านของข้าเยอะขนาดนี้ละ" เซียวอี้ถังถามด้วยความสงสัยเหมือนกันส่วนเย่วเย่วนั้นนางตั้งสติแล้วรอฟังว่าทุกคนมีอะไรจึงมาหน้าบ้านของนางมากมายขนาดนี้มองคร่าวๆที่ด้านหลังนั้นอีกที่ชาวบ้านเดินตามกันมาจนจะหมดดทั้งหมู่บ้านเลยกระมัง นางคิดและมองดูคนที่แต่งตัวเป็นเหมือนขันทีในวังเหมือนในละครทีวีที่นางดูเป็นประจำทหารอีกเป็นร้อยรวมทั้งรถม้าหลายสิบคันที่จอดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย"มีพระราชโองการจากองค์เหนือหัวถึงคุณหนูเซียวเย่วเย่ว" ทันทีเมื่อคำพูดถึงราชโองการจากผู้เป็นใหญ่เหนือแคว้นเยว่เยว่กับครอบครัวก็รีบคุกเข่ารอรับพระราชโองการทันที ชาวบ้านคนอื่นๆก็รีบยืนสำรวมรอฟัง "เซียวเย่วเย่วรับราชโองการคุณหนูเซียวเย่วเย่วทำความดีส่งเสบียงช่วยเหล่าทหารกล้าที่ไปรบที่ชายแดนกับท่านอ๋องซงตงหยางพระอนุชาของพร
สามพ่อแม่ลูกนั่งคุยกันได้สักพักเสียงร้องของเหยี่ยวที่ท่านอ๋องคอยส่งข่าวก็ร้องขึ้นบริเวณท้องฟ้าเหนือบ้านของนางเสียงดังก่อนที่เจ้าตัวจะบินร่อนลงมาที่หน้าระเบียงบ้านเย่วเย่วร้องตะโกนเสียงดังตั้งแต่ที่ได้ยินเสียงมันร้องตอนยังไม่เห็นตัวลงมาหน้าบ้านด้วยความดีใจ"โอ๊ะเจ้าเหยี่ยวมาแล้วเจ้าค่ะท่านพ่อท่านแม่" ทุกคนยิ้มด้วยความดีใจกับเสียงนกยักษ์ของท่านอ๋องที่มาส่งข่าวหลังจากหายไปนานมันลงมาถึงก็ยกขาให้เย่วเย่วดึงเอาจดหมายที่ผูกมาด้วยเป็นอย่างดีแล้วรับอาหารของตนกินเงียบๆที่ที่ประจำเย่วเย่วเอาจดหมายพี่ชายให้บิดามารดาของนางต่างหากท่านพ่อรีบรับไปอ่านให้ท่านแม่ฟังทันที่'ถึงท่านพ่อท่านแม่น้องเล็กขอโทษที่หายไปนานคงจะทำให้พวกท่านเป็นห่วงตอนนั้นกำลังสู้รบไม่ค่อยมีเวลาตอนนี้ชนะข้าศึกแล้วอีกไม่นานจะได้เดินทางกลับมาบ้านรักและถึงทุกคนขอรับ เซียวอี้เหอ'ท่านแม่ยิ้มแก้มปริพอได้ยินว่าลูกชายกำลังจะกลับมาในอีกไม่ช้า"ท่านพี่ข้าจะไปหาของกินอร่อยๆเอาไว้รอลูกของเราเจ้าค่ะพาข้าไปในห้องเสบียงหน่อยนะเจ้าคะ" นางรีบหันไปหาสามีเพื่อทำอาหารรอบุตรชายที่จากไปนับปี"น้องหญิงอาหารของเร