Share

พรากรัก
พรากรัก
Penulis: Chocolate lily

1.บนบาน

Penulis: Chocolate lily
last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-30 12:02:43

บนบาน

ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ณ เมืองสุพรรณบุรี ตำบลที่ห่างไกลผู้คน ที่ตำบลแห่งนี้ยืดอาชีพทำนาเป็นหลัก เพิ่ม หนุ่มชายวัยสามสิบเอ็ดปี รูปร่างกำยำสูงใหญ่หน้าตาหล่อคมเข้มตามแบบหนุ่มไทยแท้ พ่อแม่ตายจากด้วยไข้ป่า ทิ้งที่ผืนนาแห้งแล้งไว้ให้สี่สิบไร่ เขาอาศัยอยู่ตัวคนเดียว ลูกเมียก็ยังไม่มี ที่ยังไม่มีนั้นเป็นตัวเขาเองที่ไม่คิดอยากจะมีเมีย เพราะว่าเขามีผู้หญิงในฝันอยู่แล้วนั้นเอง

เมื่อถึงเวลาหลับใหล เพิ่มจะฝันถึงหญิงสาว คนเดิมซ้ำ ๆ ภายในฝันนั้นทั้งสองอยู่ในสถานที่ ที่หนึ่งกำลังคลอเคลียจวนจะได้เสียกัน แต่ทุกครั้งชายหนุ่มจะตื่นก่อนเสมอ

เพิ่มจำหน้าหญิงสาวที่เขาฝันถึงได้ดี ซึ่งไม่มีหญิงคนใดในตำบลที่เขาอาศัยอยู่นี้เหมือนนางในฝันของเขาสักคน เขาจึงครองตัวเป็นโสดมานานหลายปี แม้จะมีหญิงสาวสุดสวยบ้านรวย

ระดับตำบล มาชอบเขา คอยเอากับข้าวขนมมาส่งให้ไม่ขาด แต่ชายหนุ่มก็หาจะสนใจไม่ เขายังคงมีหญิงสาวในฝันนั้นอยู่ในใจไม่เปลี่ยนแปลง

วันนี้หลังจากยุ่งอยู่กับการถอนหญ้า เปิดน้ำใส่นา ที่อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็จะเก็บเกี่ยวได้แล้ว เขาเองก็หวังว่าจะได้ผลผลิตที่ดีบ้าง เพราะจำความได้ว่าทำนามาตั้งแต่เกิดมักจะได้ผลผลิตที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก ทำให้ฐานะทางบ้านของชายหนุ่มยังยากจนเหมือนเดิม

พระอาทิตย์จวนจะตกดิน เพิ่มก็ขึ้นจากนา อาบน้ำล้างตัวที่บ่อน้ำใกล้ ๆ กินข้าวกับปลาย่างที่ห่อมาตั้งแต่เช้า ก่อนจะขึ้นไปนอนที่เถียงนาของเขาเอง ชายหนุ่มไม่อยากจะเดินกลับเรือน ที่อยู่ห่างออกไปห้ากิโลเมตร จึงได้เลือกจะนอนที่เถียงนานี้ เพราะพรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้าตรู่ แล้วลงนาจัดการงานที่ยังทำค้างได้ให้เสร็จ โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินกลับบ้านไปมา เมื่อจัดการทุกอย่างเงียบร้อย ชายหนุ่มก็กางมุ้งแล้วเข้านอน

เวลาผ่านไปจนกลางดึก ชายหนุ่มหลับใหลเข้าสู่ห้วงนิทรา ร่างกายใหญ่แข็งแรงกำยำ กล้ามที่หน้าท้องนูนถึงเป็นมัด ๆ เริ่มรู้สึกหนาวเย็นยะเยือก มือใหญ่คว้าหาผ้าห่มข้าง ๆ แต่กับสัมผัสไปโดนผิวนุ่มนิ่ม เพิ่มจึงได้ลืมตาขึ้นมาดู ก็พบกับหญิงสาวนางนั้น ที่เขาฝันถึงบ่อย ๆ

แสงจากตะเกียงสาดส่องเป็นเงาสลัว แต่ทำให้เห็นพอมองเห็นใบหน้าสวยของนางได้

หญิงในฝันใช้นิ้วมือ ลูบไล้ไปตามมัดกล้ามหน้าท้องของเขา ก่อนจะล้วงเข้าไปในขอบกางเกงของชายหนุ่ม มือนุ่มนิ่มของเธอจับเข้ากับ ของลับของเขาที่กำลังอ่อนตัวอยู่

เธอกอบกำของชายหนุ่มบีบนวดรูดขึ้นลงอย่างสนุกมือ ไม่นานมันก็แข็งตัวผงาดพองหัวบานอยู่ในกางเกง ชายหนุ่มรู้สึกเสียวไปหมด

มือใหญ่ของเขาเลือนไปกระตุกปมผ้าแถบของหญิงสาว จนมันหลุดออก สองเต้าอวบใหญ่ก็เด้งออกมาโชว์ทันที

เพิ่มใช้มือนวดคลึงอยู่ที่เต้ากลมนั้น นิ้วเขี่ยเม็ดทับทิมสีหวานสลับไปมาทั้งสองข้าง

“อ๊า….” เสียงครางดังออกมาจากปากของเพิ่มไม่ขาดสาย

ขณะที่มือเล็ก กำลังรูดมือขึ้นลงด้วยความเร็วจนชายหนุ่มทนไม่ไว้ เขาก็จับมือเธอหยุดไว้

“อ่า … พอก่อน ขึ้นมา ขึ้นมาบนตัวพี่สิ” น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยบอก

หญิงสาวก็ยกตัวขึ้นก้าวขาข้ามมานั่งคร่อมตัวชายหนุ่มไว้ ชายหนุ่มชันตัวขึ้นมานั่ง จับเต้ากลมนั้นเข้าปาก ดูดดึงขบเม้นสลับไปมาทั้งสองข้างเยี่ยงคนกระหาย เมื่อพอใจแล้วเขาจึงนอนลง ยกสะโพกสวยของนางขึ้น จับท่อนเนื้อจ่อไปที่ร่องรัก แล้วจึงปล่อยให้สะโพกกลมนั้นกดน้ำหนักลงมา

พรึ่บ!!

ลมพัดแสงตะเกียงดับลง ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นขึ้นมาลืมตามองไปรอบ ๆ เถียงนานี้กับว่างเปล่า เขาถอนลมให้ใจออกมาอย่างเสียดาย ภายในเถียงนามีเพียงแสงจันทร์ที่สาดแสงเข้ามา ความรู้สึกเมื่อครู่ที่ยังคงค้างคา เพิ่มมองลงมาที่อาวุธลับของเขาที่มันยังคงตั้งตระหง่านอยู่ พร้อมกับกางเกงที่ถูกล้นไปอยู่ที่ข้อเท้า

“เอ็งเป็นใครกันแน่ ผีสางหรือนางไม้อันใด ทำไมต้องทำกับข้าเยี่ยงนี้…” เพิ่มตัดพ้ออย่างเหลืออด มือใหญ่เลือนลงไปกำท่อนเนื้อของตนเองไว้แน่น

“ทำไมเอ็งต้องหายไปตลอด อยู่ทำจนเสร็จก่อนมิได้หรือ”

“อ๊า..” เมื่ออารมณ์ที่ยังคงค้างคาอยู่ ชายหนุ่มจึงจำต้องจัดการมันด้วยตัวเองจนสุขสม เขานั่งหายใจหอบเมื่อเสร็จกิจ คิดถึงนางในฝันเมื่อครู่ ทำไมนางจึงต้องหายไปตลอด ไว้คราวหน้าจะจับนางไว้ก่อนดีไหม ชายหนุ่มนอนคิดไปมาจนเผลอหลับไปอีกครั้ง

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เพิ่มตื่นนอนแต่เช้าจัดการหุงหาอาหารง่ายกิน เมื่อเสร็จแล้วจึงเดินลงนาไปเพื่อทำงานที่ค้างต่อให้แล้วเสร็จจะได้กลับเรือนเสียที

พระอาทิตย์จวนจะตกดินอีกครั้ง เพิ่มเตรียมตัวที่จะกลับบ้าน เขาเดินออกจากนาจูงนางบัว ควายเพียงตัวเดียวของเขาที่ช่วยเขาทำนาไม่เคยบ่น

เพิ่มจูงนางบัวเดินเส้นทางเดิมทุกครั้ง พอเดินมาได้ครึ่งทาง ซึ่งเป็นป่าช้าที่เขาเองก็เดินผ่านมาตั้งแต่เด็กไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้ว

ก่อนที่จะสุดเขตป่าช้าจะมีศาลเก่า ๆ  อยู่ ๆ เขามักจะยกมือไหว้ทุกครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกันเพิ่มยกมือขึ้นไหว้ก่อนจะเดินเลยไป ทว่าฉุกคิดมาได้เรื่องหนึ่ง เพิ่มหันกลับมาที่ศาลเพียงตานั้น เขาคุกเข่าลงด้านหน้าศาล

“ลูกผ่านของนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ กราบไหว้ทุกครั้งเมื่อเดินผ่านไม่เคยขออะไรเลยสักครั้ง แต่…ครั้งนี้ลูกขอ..”

ชายหนุ่มเงียบไปเพื่อคิดคำพูด

“เอ่อ….ขอให้ได้นางคนที่ลูกฝันถึงมาเป็นเมียจริง ๆ สักทีเถอะขอรับ”

สิ้นคำขอชายหนุ่ม ฉับพลันก็มีลมแรงคล้ายพายุพัดเข้ามาจนเศษฝุ่นและเศษใบไม้บริเวณนั้นปลิวว่อน จนเขาต้องยกมือขึ้นมาบังลมไว้

“ท่านคงรับคำขอของลูกแล้ว” เพิ่มรีบก้มลงกราบแล้วรีบลุกขึ้นหันหลังเตรียมจะเดินกับ แต่ก็ต้องสะดุดตาเข้ากับหีบเล็ก ๆ ใบหนึ่งที่วางขวางทางอยู่

เพิ่มมองอย่างแปลกใจ เพราะเมื่อครู่ที่เดินมามันยังไม่มีเจ้าหีบนี้เลย เขาคุกเข่าลงข้างหนึ่ง เอื้อมมือไปหยิบหีบใบเล็กนั้นขึ้นมาพินิจดู

หีบไม้ใบนี้มันดูแปลกตาเขามาก แบบไม่เคยพบเห็นที่ใดมาก่อนแถมยังถูกล็อกไว้อยู่ เพิ่มจับมันพลิกไปมาเพื่อสำรวจดู

“ไม่มีรูกุญแจรึ แล้วจะเปิดได้เยี่ยงไร  มีกระไรอยู่ในนี้กัน” เขาบ่นพึมพำอยู่คนเดียว

ฟู่!! ลมพัดผ่านร่างใหญ่มาจากทางด้านหลังเขา เพิ่มหันกลับไปมองที่ศาลเพียงตายนั่นอีกครั้ง ฉับพลันรู้สึกขนลุกชันขึ้นมาแปลก ๆ

“สิ่งศักดิ์สิทธิ์คงอยากให้สิ่งนี้แก่ข้า งั้นข้าจะเก็บหีบใบนี้ไว้แล้วค่อยหาวิธีเปิดมันดู”

พูดจบเขาก็ยกมือขึ้นไหว้ศาลเพียงตาแห่งนั้นก่อนจะเดินทางกลับบ้านไป

ไม่นานเพิ่มก็กลับมาถึงเรือนไม้ยกพื้นที่ไม่สูงเท่าไร หลังก็ไม่ได้ใหญ่โตแค่พอประมาณสมกับฐานะ ที่หนุ่มโสดแบบเขาจะอาศัยอยู่เพียงคนเดียว

ชายหนุ่มพานางบัวกลับเข้าคอก แล้วเดินไปจุดตะเกียงรอบ ๆ เรือนจนสว่างจ้าไปทั่ว ทำให้คนที่อยู่ไม่ไกลมองเห็นว่าตัวชายหนุ่มเองอยู่ที่เรือนแล้ว

เพิ่มจัดแจงหุงหาอาหารด้วยความเคยชินของตน ไม่นานก็มีเสียงเรียกที่คุ้นเคยดังมาจากหน้าเรือน

“ไอ้เพิ่ม ไอ้เพิ่มโว้ย”

“เออ มึงก็เดินขึ้นมาสิวะไอ้มิ่ง” ชายหนุ่มตะโกนกลับไป

“มึงทำกับข้าวเองอีกแล้วรึ” มิ่งเอ่ยถามทันทีที่ขึ้นมา

“ก็เออสิวะ มึงก็เห็นอยู่” เพิ่มตอบกลับขณะที่มือยังขะมักเขม้น,เขม้นขะมักพัดเตาให้ติด

“กูบอกว่าให้มีเมียได้แล้ว มึงก็ไม่เอา ดูสิคุณหนูกาหลง ลูกสาวเถ้าแก่โรงสี ทั้งสวยทั้งรวยเทียวส่งข้าวส่งน้ำมึงยังไม่สนใจ ถ้ามึงเอาเป็นเมียปานนี้สบายไปแล้ว นาก็ไม่ต้องลำบากทำเยี่ยงนี้” มิ่งบ่นเพื่อนอย่างเหลืออด

“มึงมาหากูเพื่อจะบ่นว่ากูเยี่ยงนี้หรือวะไอ้มิ่ง” เพิ่มตอบกับเพื่อนอย่างขำ ๆ

“ก็เอ่อสิวะไอ้เพิ่ม”

“แต่มึงถือเหล้ามาทำไมไอ้มิ่ง เดี๋ยวเมียมึงได้มาตามด่า”

“มากินกับมึงไงเล่าไอ้เพื่อนรัก”

“กินกับผีมึงสิ คร่าก่อนมึงกินจนเมาเมียมึงเอาสากมาตีกบาลลากมึงกลับไปลืมไปแล้วรึ”

“เออ ก็จะว่าไปไม่มีเมียมันก็ดีอีกแบบ” มิ่งกล่าวน้ำเสียงเบาลง

“แล้วนี่เมียมึงรู้ไหม ว่ามึงเอาเหล้ามาเรือนกู” เพิ่มถามกลับ

“รู้ เดี๋ยวอีนางแก้วมันก็ตามมา มันเห็นว่ามึงกลับมาแล้วเตรียมกับข้าวกับปลามาให้มึงอยู่”

แก้วคือน้องสาวของเมียมิ่งเอง ที่แอบชอบเพิ่มมานานแล้ว แต่เพิ่มก็ยังคงไม่ได้สนใจเหมือนเช่นเคย

“จะทำมาทำไม กูก็กำลังทำอยู่นี้” เพิ่มรีบบอกปฏิเสธ

“เออ มึงไม่ต้องทำแล้วไอ้เพิ่ม อีแก้วมันเดินมานู้นแล้ว” มิ่งมองเห็นแก้วเดินมาจวนจะถึงหน้าบันไดเรือน

“พี่เพิ่ม พี่เพิ่มฉันขึ้นไปแล้วนะจ๊ะ” เสียงหวานเอ่ยเรียกดังแว้วขึ้นมาถึงบนเรือน

“ไม่ ไม่ต้อง ไปนั่งรอที่แคร่ไม้ข้างเรือนนู้นก่อนแก้ว” เพิ่มตะโกนบอก ทำให้หญิงสาวที่กำลังก้าวขึ้นมาชะงักเท้าทันที แล้วยังถอนลมหายใจอย่างเสียดาย

“มึงด้วยไอ้มิ่ง ไปนั่งรอที่แคร่กับแก้วมันก่อนเดี๋ยวกูลงไป”

“เออ”

แก้วจัดเตรียมกับข้าววางไว้ให้ชายหนุ่มได้กินจนอิ่ม เพิ่มเองก็บอกแก้วไปหลายต่อหลายครั้ง แล้วว่าไม่ต้องทำกับข้าวมาให้เขาอีก แต่หญิงสาวก็ไม่ฟังยังคงทำมาให้เสมอ

เมื่อกินข้าวกันจนอิ่มแล้วแก้วเก็บของกับบ้านไปก่อน เหลือมิ่งกับเพิ่มยังคงกินเหล้ากันต่อจนถึงเวลาดึกมิ่งเมาได้ที่แล้ว บวกกับกลัวเมียจะมาตามอีกจึงได้เดินกลับบ้านไป เพิ่มจึงได้กลับขึ้นเรือนเข้าห้องมานอน ก่อนที่จะนอนเขาไม่ลืมที่จะหยิบหีบใบนั้นขึ้นมาดูอีกครั้ง

“ในหีบนี้มีสิ่งใดกัน” เขาเพ่งมองหีบ หมุนมันไปมาอยู่นานสองนั้นด้วยความสงสัย หีบนี้เปิดอย่างไรก็เปิดไม่ออกแม้จะออกแรงเพียงใด มันก็ยังคงไม่ขยับขเยื้อนสักนิดเพราะเขาได้ลองมาหลายวิธีแล้ว หีบใบนี้เหมือนจะถูกผนึกไว้จากด้านในเสียมากกว่าเขาคิดเอาเองเช่นนั้น

“เมื่อถึงเวลาคงเปิดออกมาเองหรือไร” เขาวางหีบใบนั้นไว้ที่ข้างหัวเตียงเช่นเดิมก่อนจะล้มตัวลงนอน

เมื่อหัวถึงหมอนก็คิดถึงใบหน้างาม ๆ เรือนร่างบอบบางอรชรของนางในฝันคนนั้นอีกแล้ว คืนนี้เขาจะเจอนางอีกไหม เพิ่มได้คิดในใจแล้วรีบข่มตานอนให้ตนเองหลับไป

ห้วงเวลาปัจจุบัน

พริ้มพราว หญิงสาวสวยอายุยี่สิบสี่ปีพึ่งเรียนจบปริญญาตรีด้านการออกแบบมามาด ๆ เธอเป็นลูกสาวคนสวยของประธานบริษัทโฆษณาขนาดใหญ่ที่กำลังจะโดนศาลตัดสินให้ล้มละลาย

ซึ่งพริ้มพราวไม่เคยรับรู้ถึงเรื่องราวในบริษัทของพ่อตนเองมาตลอด เธอรับรู้แค่ว่าเธอเสียแม่ไปตั้งแต่เธอยังเด็ก และพ่อก็เป็นคนเลี้ยงดูเธอมาอย่างดีและสุขสบายเยี่ยงลูกคุณหนู มีเงินใช่ไม่เคยขาดข้าวของแบร์นเนมทุกชิ้นตั้งแต่หัวจรดเท้า

วันหนึ่งพริ้มพราวกลับเข้าบ้านมาก็ต้องแปลกใจ เพราะเจอเข้ากลับกลุ่มคนที่แต่งตัวคล้ายกับพวกเจ้าหน้าที่ธนาคาร ยืนคุยกลับคุณอาประวิทย์ ซึ่งเป็นเลขาคนสนิทของคุณพ่อเธอ พริ้มพราวจึงจะเดินขึ้นไปหาพ่อที่ห้องทำงาน เพราะเธอเห็นรถพ่อจอดอยู่คิดว่าพ่อหน้าจะอยู่ในห้องทำงานนี้

พริ้มพราวเดินขึ้นบันไดมาจนถึงชั้นสองของบ้าน เดินเลี้ยวมาตามทางจวนจะถึงหน้าประตูห้องทำงานพ่อ

ปัง! เสียงปืนดังออกมาจากห้องทำงานของพ่อเธอ พริ้มพราวหยุดชะงักเพราะตกใจเสียงปืนที่ดังขึ้น พร้อมกับความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัวสมอง ร่างบอบบางค่อย ๆ ก้าวเดินไปช้า ๆ จนถึงหน้าห้องทำงาน มือเรียวค่อยเอื้อมไปจับลูกบิดแล้วหมุนมันด้วยมืออันสั่นเทาเปิดเข้าไป หญิงสาวก้าวเข้าไปในห้องช้า ๆ

“คุณพ่อ คุณพ่อคะ” เธอเห็นแต่พนักเก้าอี้ที่หันหลังอยู่ พริ้มพราวเดินเข้าไปให้ใกล้มากขึ้นปากก็ยังไม่หยุดเรียกพ่อ เมื่อมาถึงหน้าโต๊ะทำงาน เธอจึงเอื้อมมือไปจับพนักพิงของเก้าอี้เพื่อจะหันกลับมา

“คุณพ่อค่ะ เมื่อกี้พริ้มได้ยินเสียงปืนดัง…”

“คุณหนูพริ้มครับ” เป็นจังหวะเดียวกันกับเก้าอี้หันกลับมาและประวิทย์เรียกเธอพอดี พริ้มพราวจึงได้หันหน้ากับไปทางต้นเสียงที่เรียกเธอ

“คุณอาเมื่อกี้พริ้มได้ยินเสียงปืน คุณอาก็ได้ยินใช่ไหมคะ” เธอหันไปคุยกับประวิทย์ ที่ตอนนี้สีหน้าของเขาตกตะลึงงันจนตาเลือกลาน

“คุณอาเป็นอะไรคะ” พริ้มพราวถามกลับไปด้วยความสงสัย แต่ประวิทย์กับมองบางอย่างอยู่ด้านหลังเธอจนตาค้าง

“คุณหนู คุณหนูออกมานี้ก่อนครับ” น้ำเสียงสั่นและลนลานของเขาทำเอาเธอยิ่งสงสัยหนักเข้าไปกันใหญ่

“มีอะไรคะ” เธอจึงหันกลับไปดู

“คะ คุณพ่อ คุณพ่อ กรี๊ด!!!!”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พรากรัก   4.ทำความรู้จัก

    บทที่ 4ทำความรู้จัก (ช้าไปไหม)ก่อนที่แสงอรุณจะสาดส่อง เสียงไก่ขันดังขึ้นเป็นระยะ ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย แต่กลับรู้สึกใจหายวาบ เมื่อร่างนุ่มนิ่มที่เคยอยู่ข้างกายกับหายไปเขารีบลุกออกจากที่นอน เดินออกจากห้องด้วยใจที่ร้อนรนกลัวว่านางในฝันเขาจะหายไป เมื่อออกมาถึงนอกชานเรือนแสงจากตะเกียงสาดส่องทำให้เห็นร่างเล็กยืนอยู่ตรงนั้น เพิ่มรีบเดินเข้าไปหาแล้วสวมกอดเธอไว้อย่างหวงแหน จนพริ้มพราวสะดุ้งเล็กน้อย“พี่คิดว่าพริ้มจะหายไป” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยบอกเธอพริ้มพราวขืนตัวเอา แล้วหันหน้ากลับมามองชายหนุ่มอย่างเพ่งพินิจ“คุณรู้จักชื่อ…ฉัน” หญิงสาวชี้เข้าหาตนเอง“พี่ได้ยินตอนที่แม่พริ้ม พูดชื่อตนเองตอนนั้นเมื่อคืนนี้….” เขาหมายถึงตอนที่เธอครางเพราะเสียวจนเผลอพูดชื่อตนเองออกมา ซึ่งพริ้มพราวก็เข้าใจที่เขาหมายถึง จึงรู้สึกอายจนแก้มร้อนผ่าว“ฉัน….ชื่อพริ้มพราว คุณ…” เธอบอกชื่อตัวเองกลับเขา และพยายามจะถามชื่อเขากลับ“เพิ่ม พี่ชื่อเพิ่ม” เขาเอ่ยบอกกับเธอ“เอ่อ… คุณเพิ่ม ที่นี่คือที่ไหน”“นี้เรือนพี่”“ไม่ ฉันหมายถึง เอ่อ จังหวัด ตำบล หรืออำเภออะไรแบบนี้ค่ะ“อ๋อ สุพรรณบุรี”“สุพรรณ นี้ฉันเมาขนาดไหนกันแน

  • พรากรัก   3.สมปราถนา NC

    สมปรารถนาเช้าวันใหม่ แสงแดดอ่อน ๆ สาดส่องเข้ามาตามร่องหน้าต่าง เสียงไก่ขันดังแข่งสลับกับเสียงนกร้อง เพิ่มสะดุ้งสุดตัวตื่นลืมตาโพลง มองตรงขึ้นไปยังเพดานเรือน ช่วงวินาทีหนึ่งเขาใจหายวาบที่ตนเองเผลอหลับไป แต่ก็ต้องประหลาดใจอีกครั้ง เมื่อสัมผัสได้ถึงร่างเล็กนุ่มนิ่มข้าง ๆ กายยังอยู่ ข้าไม่ได้ฝันไปใช่ไหมเ ขารีบตะแคงข้าง เข้าหาคนตัวเล็ก มองนางอย่างเพ่งพินิจ แล้วหยิกเข้าที่แขนตัวเอง“โอ๊ย.. ไม่ได้ฝัน” ชายหนุ่มรู้สึกดีใจและประหลาดใจในเวลาเดียวกันเ ขาค่อย ๆ จับตัวพริ้มพราวที่นอนคดตัว ใต้ผ้าห่มผืนบางให้หันกลับมา“ใบหน้านี้ เป็นนางที่ข้าฝันถึงอยู่ทุกค่ำคืน แต่ตัวนางร้อนยิ่งนัก” ชายหนุ่มใช้ฝ่ามืออังไปที่คอ และหน้าผากนาง“หรือจะเป็นไข้” คิดได้ดังนั้น เพิ่มจึงรีบลุกขึ้นออกจากห้อง จัดแจงติดไฟต้มน้ำต้มยาให้หญิงสาว ไม่นานเขาก็กลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวเพื่อลดไข้ให้ และใส่เสื้อผ้าของเขาให้นางก่อนเมื่อเสร็จเรียบร้อยชายหนุ่มจึงได้สังเกตเห็นหีบเล็กใบนั้นที่เขาเก็บกลับมา เมื่อหลายวันก่อนและยังเปิดไม่ออก มันหล่นอยู่แถมยังมีเครื่องประดับอัญมณีมากมายหล่นอยู่ข้าง ๆ หีบด้วยช ายหนุ่มจึงก้มล

  • พรากรัก   2.สูญเสีย

    สูญเสีย“คะ คุณพ่อ คุณพ่อ กรี๊ด!!!!” ร่างบอบบางของพริ้มพราวทรุดลงกองกับพื้นอย่างหมดแรง เมื่อภาพปรากฏต่อหน้า คือพ่อของเธอที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดสีแดงฉาก มีรอยกระสุนเจาะเข้าที่ขมับด้านขวา เลือดเป็นลิ่ม ๆ ที่กำลังไหลทะลักออกมาไม่ขาดสายประวิทย์เลขาคนสนิท ที่ยังพอตั้งสติได้ รีบเข้ามาประคองพริ้มพราวไว้ มืออีกครั้งจึงรีบกดโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลทันที“คุณหนูพริ้ม ใจเย็น ๆ ก่อนนะครับ ตั้งสติก่อน” ประวิทย์พยายามเรียกเตือนสติพริ้มพราวอยู่หลายหน เพราะเธอเอาแต่ร้องไห้ฟูมฟายปานจะขาดใจรถพยาบาลมาถึงภายในไม่กี่นาที แต่ตอนนี้มันไม่มีประโยชน์ พ่อของพริ้มพราวเสียชีวิตคาที่ ตั้งแต่ตอนที่ได้ยินเสียงปืนดังแล้ว“คุณอา เพราะอะไรคะ เพราะอะไรทำไมพ่อถึงคิดสั้นแบบนี้คะ” หญิงสาวพูดไปสะอื้นไห้ไปจนตัวโยน“คุณหนูเดี๋ยวผมจะค่อย ๆ อธิบายทุกอย่างให้คุณหนูฟังนะครับ”“ค่ะ”งานศพพ่อของพริ้มพราวถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย เมื่อเสร็จสิ้นพิธีทั้งหมด มีเพียงพริ้มพราวและประวิทย์เท่านั้นที่นำเถ้ากระดูกไปลอยอังคาร เพราะไม่มีญาติที่ไหนอีกเลย“คุณอาจะเล่าให้พริ้มฟังได้หรือยังคะ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณพ่อ” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่ยั

  • พรากรัก   1.บนบาน

    บนบานต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ณ เมืองสุพรรณบุรี ตำบลที่ห่างไกลผู้คน ที่ตำบลแห่งนี้ยืดอาชีพทำนาเป็นหลัก เพิ่ม หนุ่มชายวัยสามสิบเอ็ดปี รูปร่างกำยำสูงใหญ่หน้าตาหล่อคมเข้มตามแบบหนุ่มไทยแท้ พ่อแม่ตายจากด้วยไข้ป่า ทิ้งที่ผืนนาแห้งแล้งไว้ให้สี่สิบไร่ เขาอาศัยอยู่ตัวคนเดียว ลูกเมียก็ยังไม่มี ที่ยังไม่มีนั้นเป็นตัวเขาเองที่ไม่คิดอยากจะมีเมีย เพราะว่าเขามีผู้หญิงในฝันอยู่แล้วนั้นเองเมื่อถึงเวลาหลับใหล เพิ่มจะฝันถึงหญิงสาว คนเดิมซ้ำ ๆ ภายในฝันนั้นทั้งสองอยู่ในสถานที่ ที่หนึ่งกำลังคลอเคลียจวนจะได้เสียกัน แต่ทุกครั้งชายหนุ่มจะตื่นก่อนเสมอเพิ่มจำหน้าหญิงสาวที่เขาฝันถึงได้ดี ซึ่งไม่มีหญิงคนใดในตำบลที่เขาอาศัยอยู่นี้เหมือนนางในฝันของเขาสักคน เขาจึงครองตัวเป็นโสดมานานหลายปี แม้จะมีหญิงสาวสุดสวยบ้านรวยระดับตำบล มาชอบเขา คอยเอากับข้าวขนมมาส่งให้ไม่ขาด แต่ชายหนุ่มก็หาจะสนใจไม่ เขายังคงมีหญิงสาวในฝันนั้นอยู่ในใจไม่เปลี่ยนแปลงวันนี้หลังจากยุ่งอยู่กับการถอนหญ้า เปิดน้ำใส่นา ที่อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็จะเก็บเกี่ยวได้แล้ว เขาเองก็หวังว่าจะได้ผลผลิตที่ดีบ้าง เพราะจำความได้ว่าทำนามาตั้งแต่เกิดมักจะได้ผลผลิตที่ไ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status