LOGINนางบัวมันก็เอียงหัวรับสัมผัสจากมือของเธอที่กำลูบหัวมัน เพิ่มจึงปล่อยให้เธอได้ลูบหัวมันเอง หญิงสาวคล้ายแขนที่เกาะชายหนุ่มไว้ออก เธอยิ้มออกมาและรู้สึกทึ่งมากที่ควายไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด นางบัวเองก็เอียงหัวไปมาอย่างแสนรู้
“แม่พริ้ม ดูนี้นะ บัว… บัว…. ยิ้ม ยิ้มสิ” เพิ่มออกคำสั่ง แถมตัวเองยังยิ้มโชว์ฟันขาวไปทางนางบัว พริ้มพราวก็ได้แต่มอง ชายหนุ่มกับนางบัวด้วยความสงสัย เขาจะสั่งให้มันยิ้มเหรอ ควายนี้นะ นางบัวก็มองไปที่เจ้านายหนุ่ม ปากของมันก็เริ่มขยับ ๆ พริ้มพราวมองไปที่ปากนางบัวอย่างลุ่น ๆ ในที่สุดปากมันก็เปิดขึ้นมาจนโชว์ฟันขาว ซึ่งเหมือนกับกำลังยิ้มอยู่ “ยิ้มจริง ๆ ด้วย เก่งจังเลย” เธอเอ่ยชมความอย่างลืมตัว และลืมความกลัวก่อนหน้านี้จนหายเป็นปลิดทิ้ง เมื่อได้ยินเสียงของหญิงสาว นางบัวจึงหันมองทางเธอ และยังยิ้มโชว์ฟันอยู่ ยิ่งทำให้เธอหัวเราะชอบใจไม่น้อย เพิ่มเองก็มองเธอที่หัวเราะมีความสุข จนเขาแถบอย่างจะหยุดเวลาไว้เสียเท่านี้เลยจริง ๆ “บัวเหรอ ชื่อบัวสินะเก่งจริงเลย ไหนยิ้มอีกสิ” เธอยังคงลูบหัวมันเล่นไปมา “แม่พริ้มรอพี่กงนี้ก่อนหนา เดี๋ยวพี่จะไปหยิบของก่อน” เธอหันกลับไปมองหน้าชายหนุ่ม ครู่หนึ่งอย่างครุ่นคิด แล้วกลับมามองนางบัวอีกทีและส่งยิ้มให้มัน “ค่ะ พริ้มรอตรงนี้กับบัวก็ได้” เธอบอกกับเขาไปเพราะตอนนี้เธอไม่กลัวควายตัวนี้แล้ว ผ่านไปยังไม่ถึงห้านาที เพิ่มก็กลับมาพร้อมของบางอย่างที่เธอเองก็ไม่รู้จัก “ไปกันเถอะ อยากนั่งบนนั้นไหม” ชายพูดพร้อมกับชี้ไปที่หลังควาย เธอมองตามที่เขาชี้ “หลังบัวนี้เหรอคะ ไม่เป็นไรค่ะพริ้มเดินไปได้” เธอตอบกับเขาไป และทั้งสองคนกับอีกหนึ่งตัวก็เดินออกไปพร้อมกัน หญิงสาวเดินมาตามทางดินที่ไม่ใหญ่มากนัก เธอมองไปรอบสองข้างทางก็เห็นแต่บ้านเรือนที่เป็นเรือนทรงไทยคล้าย ๆ กันไปหมด บรรยากาศสดชื่นดูสงบสุข ต้นไม้เขียวขจี กับอีกด้านที่เป็นทุ่งนาสีเขียวมองไปจนสุดลูกรู้ลูกตา เธอสูดลมหายใจเข้าฟอดใหญ่จนเต็มปอด “อากาศดีจัง ต่างจากที่พริ้มอยู่มาก ๆ เลย” “ที่แม่พริ้มอยู่เป็นแบบไหน” ชายหนุ่มถามอย่างใคร่รู้ “ที่นั่นนะมีแต่ตึกสูง ๆ เต็มไปหมด สายไฟนี้ห้อยระโยงระยางยุ้งเหยิง อยากจะสูดอากาศให้เต็มปอดแบบนี้ก็ไม่ได้เพราะมีแต่มลพิษและฝุ่น PM 2.5” เธอเล่าตามความจริงที่พบเจอ และชำเลืองมองใบหน้าหล่อของเพิ่มที่แลดูงง ๆ เธอจึงยิ้มออกมา “เอาเป็นว่าที่นี้ดีกว่าค่ะ เพราะที่นั่น……” ฉันคงไม่มีใครให้กลับไปหาเลย ประโยคหลังนี้เธอพูดในใจ “ดีกว่า งั้นแม่พริ้มก็มิต้องกลับไปอยู่กับพี่ตลอดไปได้หรือไม่” เพิ่มเอ่ยแล้วยังมองลึกเข้าไปให้ดวงตาของเธอ “....ฉัน.....” ฉันก็ไม่รู้ค่ะ ฉันมาที่นี้ได้อย่างไรฉันก็ยังไม่รู้เลย แล้วฉันจะต้องกลับไปไหม เธอมองกลับไปที่ดวงตาเขาที่เขามองเธออย่างลึกซึ้ง และไม่ได้ตอบอะไรออกมา ชายหนุ่มรู้สึกโหวงเหวงในหัวใจ ที่เห็นเธอเงียบไป และไม่อยากที่จะคาดคั้นเอาคำตอบ จึงได้ละดวงตาจากใบหน้าสวยด้วยความเศร้าสร้อย แต่ทั้งสองยังคงเดินเคียงข้างกันไป โดยที่ไม่พูดอะไรจนถึงทุ่งนา ใช้เวลาไม่นานก็ถึง ชายหนุ่มปล่อยให้ นางบัวควายตัวอ้วนของเขา ให้มันลงไปแช่โคลนที่หนองน้ำใกล้ ๆ แล้วตัวเขาเองก็เดินลงไปชายคลองอีกที่หนึ่ง โดยบอกให้เธอนั่งรออยู่ใต้ร่มไม้ หญิงสาวได้แต่มอง พลางคิดในใจถึงวิถีชีวิตของเขาแล้วเริ่มจะสนใจใคร่รู้ เธอเห็นชายหนุ่มยืนอยู่ในน้ำความลึกประมาณครึ่งขาได้ เขาถืออุปกรณ์บางอย่างที่เอามาจากเรือนด้วย ยืนจ้องไปในน้ำนั้นสักครู่หนึ่ง แล้วจึงนำเจ้าสิ่งนั้นครอบลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้พริ้มพราวแปลกใจจนต้องลุกขึ้น เดินมาหยุดอยู่ริมชายคลอง “พี่เพิ่ม ทำอะไรเหรอคะ” เธอเอ่ยถาม ขณะที่เพิ่มเอามือล้วงลงไปในสุ่มจับปลา แล้วดึงแขนกับขึ้นมาอีกที ก็มีปลาช้อนตัวใหญ่ติดมือมาด้วย “จับปลาไง” เขาเอ่ยตอบหญิงสาวขณะที่มือก็จับปลามาขังได้ในตะข้องสาน ที่สะพายอยู่ที่ไหล่ โดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองว่าขณะนี้พริ้มพราวยืนอยู่ที่ริมชายคลองแล้ว หญิงสาวรู้สึกทึ่งมาก อาจเป็นเพราะเธอไม่เคยเห็นวิถีชีวิตแบบนี้มาก่อน ที่ชายหนุ่มแค่ยืนในน้ำก็จับปลาตัวใหญ่ได้ด้วยมือเปล่า “โอ้โห เก่งจังเลย พี่จับปลาได้ตัวใหญ่มาก” เธอกล่าวอย่างตื่นเต้น เท้าที่เหยียบอยู่ตามกอหญ้า เริ่มเข้าชิดริมชายคลองอย่างไม่ได้ตั้งใจ ชายหนุ่มได้ยินน้ำเสียงเจื้อยแจ้วของหญิงสาว รอยยิ้มก็ผุดขึ้นจึงได้เงยหน้าขึ้นมามอง เห็นพริ้มพราวยืนอยู่หมิ่นเหม่จวนจะหล่นลงมา “แม่พริ้มระวัง….” “ว๊าย!!!” ยังพูดไม่ทันขาดคำ ร่างบางก็ลื่นไถล ลงมาทางชายหนุ่ม เพิ่มละมือจากสุ่มและตะข้องรีบรับร่างบาง ที่ไหลลงมากระแทกเข้ากับอกเขาอย่างจังภพรัก“พี่เพิ่ม..พี่เพิ่มจริง ๆ ด้วย” หญิงสาวเงยหน้าเอ่ยมองใบหน้าชายหนุ่ม แววตาเขาที่มองเธอก็คือเพิ่มไม่มีผิดเพี้ยน“ผมชื่อพอร์ชครับ”ชายหนุ่มเอ่ยบอกเธอ พริ้มพราวหัวใจไหววูบชาไปทั้งตัว เสมือนร่างร่วงลงสู่ก้นเหวลึก หัวใจเธอแทบหยุดเต้น แววตาที่แสดงว่าดีใจเมื่อครู่วูบหายไปจากใบหน้าทำไม..ทำไมถึงไม่ใช่พี่เพิ่ม หน้าเหมือนราวกับเป็นคนคนเดียว หญิงสาวคิดในใจ เธอปล่อยจากการโอบกอดชายหนุ่ม ก้าวเท้าถอยหลังมองเขาด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย“ขอ..ขอโทษด้วยค่ะ ฉัน…” ยังพูดไม่ทันจบก้อนสะอื้นก็ตีขึ้นมาจนพูดอะไรไม่ออก“อึก ๆ … คุณหน้าเหมือนคนที่ฉันตามหา..ขอโทษด้วยนะคะ” พริ้มพราวก้มหน้าขอโทษชายหนุ่ม ก่อนจะรีบก้าวเดินเลี่ยงสวนเขาออกมา หยดน้ำตาก็ไหลร่วงปลิวตามแรงลม“แม่พริ้ม….”ฝ่าเท้าหยุดชะงัก เมื่อได้ยินคำเรียกที่คุ้นเคย ร่างสวยรีบหันกลับไปอีกครั้ง ก็ยังเป็นชายคนนั้นที่เขาบอกว่าตนชื่อพอร์ช ยืนมองเธออยู่ ทั้งสองสบตากัน“แม่พริ้ม…” คำ ๆ นี้ออกมาจากปากพอร์ชอีกครั้งหญิงสาวยืนนิ่งเสมือนรอบตัวทุกสิ่งทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหว เธอจ้องมองไปที่พอร์ชด้วยความรู้สึกสับสนพริ้มพราวมึนงงจนคิดว่าตนเองคิดถึงเพิ่มมากจนหูแว่วไป ทั้
“ถ้าไม่มีพี่อยู่ พริ้มก็ต้องกลับมาโดดเดี่ยวตัวคนเดียวเหมือนเดิม พริ้ม...ขอไม่อยู่ซะยังดีกว่า เราไปเจอกันชาติหน้านะ.......”มิ่งหันกลับมามองทั้งสองอีกครั้ง เขาเห็นพริ้มพราวกำมีดสั้นง้างมือจนสุด…“อย่า!!!” มิ่งตะโกนสุดเสียง แต่ก็ไม่ทันอยู่ดีพริ้มพราวแทงมีดสั้นเข้าที่อกข้างซ้ายด้วยมือของเธอเองอย่างแรง จนปักค้างอกอยู่แบบนั้น ใบหน้าสวยเริ่มนิ่งสงบ รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นแม้มันจะแฝงไปด้วยความเศร้าโศก เลือดสีแดงสดไหลชุ่มกาย ร่างเล็กค่อย ๆ หมดแรงลง เธอเอนกายไปซบที่อกของชายที่รักพร้อมกับลมหายใจที่หมดไป….“เฮือก!!!”หญิงสาวรู้สึกตัวสะดุ้งตื่นเพราะความตกใจจากบางอย่าง ร่างกายรู้สึกปวดหนึบไปทั้งตัว สภาพรอบตัวมันมืดไปหมด“นี้คือโลกหลังความตายใช่ไหม” เธอพึมพำกับตนเอง“แล้วพี่เพิ่มล่ะ พี่อยู่ไหน” พริ้มพราวพยายามมองหา แต่มันมืดจนเธอมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น“ฮึก ฮึก ฮือ ๆ ฮือ ๆ” ภาพความทรงก่อนหน้ายังฉายเวียนซ้ำอยู่ในหัว สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือร้องไห้ เธอรู้สึกเคว้งคว้างแตกสลาย นี้ขนาดตายแล้วยังไม่ได้อยู่กับคนที่รักเลยหรือเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ หญิงสาวร้องไห้อยู่นานจนหลับไป กระทั่งรู้สึกตัวตื่นข
“มึงปล่อยเมียกูเดี๋ยวนี้นะ” เพิ่มใบหน้าแดงก่ำด้วยความโมโห ใช่แรงที่มีพยายามดิ้นให้หลุดจากลูกน้องของศักดิ์แต่ก็ไม่เป็นผลพริ้มพราวร้องไห้ด้วยความกลัวและเป็นห่วงเพิ่ม พยายามจะเข้าไปหาเพิ่มแต่ถูกศักดิ์ยึดไว้ตลอด“มานี่ไปอยู่กลับพี่ พี่จะเลี้ยงดูเอ็งอย่างดี”ศักดิ์โอบเอวพริ้มพราวไว้จากด้านหลัง พูดที่ข้างหูเธอและจงใจให้เพิ่มได้ยินด้วยพริ้มพราวสะบัดหน้าไม่ยอม เธอร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร เพิ่มเองก็ไม่ต่างกันเห็นเมียรัก กำลังจะถูกศักดิ์เอาตัวไป เขาก็เจ็บปวดราวกับเหมือนมีดมากรีดที่หัวใจ“ไม่ ๆ ปล่อยฉันนะ ปล่อย!!!” พริ้วพราวไม่ยอมท่าเดียว เธอดิ้นหนีเลยถูกศักดิ์ยื้อยุดฉุดกระชาก จนข้อมือและแขนแดงไปหมด“ฤทธิ์เยอะนักว่ะ จัดกันมันสิ” ศักดิ์ตะโกนบอกลูกน้อง แล้วพยักหน้าไปทางเพิ่ม ลูกน้องก็เข้าใจในทันที มันหยิบท่อนไม้ขนาดพอดีมือ ฟาดเข้าไปที่หัวเพิ่มอย่างแรง เลือดสีแดงฉากไหลอาบหน้า จนมองแทบไม่เห็น“กรี๊ด!! พี่เพิ่ม อย่าทำนะ พอแล้ว” พริ้มพราวตกใจจนสติแทบหลุด มองดูชายคนรักถูกตีหัวเลือดไหลอาบหน้า“ถ้าไม่อยากให้มันเจ็บตัวก็ไปกับพี่ดี ๆ สิจ๊ะคนสวย” ศักดิ์บีบไปที่ปลายคางเล็ก ๆ พริ้มพรายให้หันมาสบตาเขา เธอยั
วันต่อมากาหลงกับศักดิ์ และลูกน้องมาที่บ้านเพิ่ม โดยที่กาหลงกับสาวใช้มาก่อนส่วนศักดิ์กับลูกน้องเขาเดินเล่นอยู่ในละแวกนั้น เพื่อที่จะตามหาพริ้มพราวหญิงสาวที่ตนเองนั้นถวิลหา “พี่เพิ่มคงรู้แล้วล่ะว่ามันถูกรุมโทรมมา พี่เพิ่มคงต้องเขี่ยมันทิ้งแน่ ๆ” กาหลงเดินมาอย่างมาดมั่น กะว่าจะมาสมน้ำหน้าพริ้มพราวเต็มที่ “พี่เพิ่มจ๊ะ” กาหลงมายืนอยู่หน้าเรือนเรียกเพิ่มเสียงหวาน เพิ่มได้ยินจึงเดินมายืนที่ชานเรือนมองกาหลง ด้วยสายตาขึงขังแต่กาหลงยังส่งยิ้มหวานให้อย่างยั่วยวน แต่แล้วจู่ ๆ พริ้มพราวก็เดินออกมายืนเคียงข้างเพิ่ม แล้วเขาก็โอบไหล่ของเธอไว้ กาหลงจึงหุบยิ้มทันที สีหน้าและแววตาของกาหลงบ่งบอกได้ว่าเธอรู้สึกแปลกใจ “ทำไมเหรอ แปลกใจมากไหมที่ยังเห็นฉันยืนอยู่ตรงนี้” พริ้มพราวพูดน้ำเสียงแข็ง “มึง…ทำไมมึงยังอยู่” กาหลงกัดฟันเค้นเสียงอย่างแค้นเคือง สายตามมองจิกเริ่มเก็บอารมณ์ไม่อยู่มือแน่น “กลับไปเถอะกาหลง พี่ไม่อยากจะเอาเรื่องเอ็ง” เพิ่มพูดแล้วเบือนหน้าไปทางอื่นเขาไม่อยากที่จะมองหน้าหญิงคนนี้ด้วยซ้ำ “พี่เพิ่ม..กาหลงทำเพื่อพี่นะ” น้ำเสียงพยายามออดอ้อน ขอความเห็นใจ เพิ่มคงล่วงรู้ถึงสิ่งที่เธอทำแล้ว
ผิดตัวหลายวันนี้เพิ่มต้องไปนา เพื่อเตรียมที่จะเกี่ยวข้าวในอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า พริ้มพราวไม่ได้ตามไปด้วย เธอคอยชายหนุ่มอยู่ที่บ้าน โดยมีมะลิมาอยู่เป็นเพื่อนบ้างเป็นครั้งคราว มะลิสอนเธอทำกับข้าวได้หลายอย่างเธอจึงได้เตรียมกับข้าวให้เพิ่มไว้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้ตอนที่อยู่ตัวคนเดียว ชายหนุ่มก็จะไม่กลับเรือนเขาจะนอนที่เถียงนาเลยแต่บัดนี้มีเมียรักรออยู่ แถมยังเตรียมกับข้าวกับปลาไว้ให้ เขาจึงต้องรีบกลับเรือนทุกวันจนมิ่งเอ่ยแซว วันนี้ก็เช่นกัน เพิ่มกับมิ่งไปนาตั้งแต่เช้า มะลิก็มาอยู่เป็นเพื่อนพริ้มพราวเหมือนเช่นเคย สองสาวต้องหานู่นหานี้มาทำ กันอย่างเพลิดเพลิน พอบ่ายคล้อยมะลิจึงได้กลับเรือนตนเองไป เพื่อเตรียมกับข้าวกับปลาไว้รอมิ่งกลับมา พริ้มพราวเองก็เช่นกันเธอก็เข้าครัวไปจัดเตรียมหุงหาอาหารรอเพิ่มบ้างอีกมุมหนึ่งไม่ไกลจากเรือน แก้วรอโอกาสนี้มาหลายวันแล้ว แก้วคอยมาสังเกตพอรู้ว่าช่วงนี้เพิ่มต้องไปนา พริ้มพราวอยู่คนเดียวแต่พี่สาวเธอก็มักจะมาอยู่เป็นเพื่อนอีก จึงได้รอโอกาส และนัดแนะกับกาหลงไว้ แล้ววันนี้โอกาสก็มาถึง เมื่อมะลิกลับเรือนไป แก้วก็มาหาหญิงสาว พริ้มพราวที่กำลังง่วนอยู่ในครัว ได้ยิ
สิ่งที่กลัวที่สุดหลายวันผ่านไป พริ้มพราวมานั่งเล่นที่ริมน้ำ หญิงสาวนึกย้อนไปถึงเรื่องราวต่าง ๆ นึกถึงสาเหตุว่าสิ่งใดหรือใครกันที่ทำให้เธอมาอยู่ที่นี้ได้ จะเรียกว่าย้อนเวลาได้ไหม หรือเป็นแค่ฝันฉากหนึ่งแต่ถ้าเป็นความฝันจริง เธอก็ไม่อยากจะตื่นอีกแล้ว ถ้าต้องตื่นไปเผชิญโลกแห่งความเป็นจริงอย่างโดดเดี่ยว เธอขออยู่ในฝันนี้ตลอดไปกับชายคนที่รักเธอแบบนี้ดีกว่าพรึ่บ!! “ว้ายพี่เพิ่ม…ตกใจหมด”เพิ่มเดินมาหาพริ้มพราว หลังจากที่เธอบอกเขาว่าจะมานั่งเล่นที่ท่าน้ำตั้งแต่เมื่อเย็น นี้ก็โพล้เพล้และตะวันใกล้จะตกดิน ยังไม่เห็นเมียรักกลับมา จึงได้เดินมาดูเห็นเธอนั่งเหม่อคิดอะไรอยู่เพิ่มมองแผ่นหลังบางนั้น ใจก็กระตุกวูบกลัวว่าหญิงสาวจะหายไป ถ้าเกิดวันใดวันหนึ่งอยู่ ๆ เธอหายวับไปเหมือนเมื่อครั้งแรกที่อยู่ ๆ พริ้มพราวก็ปรากฏกายขึ้นมา ตัวเขาคงจะทำใจมีชีวิตต่อ ในที่ที่ไม่มีเธอได้ยังไงเพิ่มค่อย ๆ ย่องลงน้ำเงียบ ๆ เขาดำน้ำไปแล้วโผล่ขึ้นใกล้ ๆ ตรงที่พริ้มพราวนั่งอยู่จนเธอสะดุ้งตกใจ“พี่เพิ่ม..เล่นอะไรพริ้มตกใจหมดเลย” เธออยากจะฟาดชายหนุ่มสักที เล่นโผล่มาแบบนี้ตกใจแทบตาย“แม่พริ้มนั่งคิดกระไรอยู่” เพิ่มลอยตัวในน้ำ






![[Bad Loves] บำเรอแค้นศัตรูพี่ชาย (3P)](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)
