LOGINไม่ใช่ปลาไม่ใช้งู แล้วตัวอะไร..
“แม่พริ้มระวัง….” “ว๊าย!!!” ยังพูดไม่ทันขาดคำ ร่างบางก็ลื่นไถล ลงมาจากริมชายคลอง พุ่งตรงมาทางชายหนุ่ม เพิ่มละมือจากสุ่มและตะข้องรีบอ่าแขนรับร่างบาง ที่ไหลลงมากระแทกเข้ากับหน้าอกเขาอย่างจัง จนร่างของเพิ่มหงายหลังลงน้ำ โดยที่พริ้มพราวทับตัวเขาอยู่ด้านบน เพิ่มโอบเธอไว้แน่นกลัวว่าหญิงสาวจะได้รับบาดเจ็บ ชายหนุ่มค่อย ๆ ชันตัวขึ้นนั่งอยู่ รีบประคองร่างเล็กของหญิงสาวให้นั่งอยู่บนตักเขาในน้ำ “แม่พริ้มเป็นเยี่ยงไร เจ็บกงไหนหรือไม่” น้ำเสียงเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง มือใหญ่ที่ลูบไปที่ใบหน้าและผมเปียกและเปื้อนขี้โคลน สไบที่ห่มอยู่ก็เปียกแนบทรวดทรง จนหลุดออกจากไหล่ เผยให้เห็นเนินอกขาว ๆ จนชายหนุ่มต้องกลืนน้ำลายลงคอก้อนใหญ่ “........” พริ้มพราวตั้งหลักได้เพราะว่าเพิ่มช่วยประคองตัวเธอไว้ เธอไม่ตอบอะไรแต่ยังคงหันกลับขึ้นไปมองทางที่เธอลื่นลงมา มองลงไปตามแขนของตนเองที่มีขี้โคลนติดอยู่ ชายหนุ่มคนเห็นว่าเธอเงียบไป และมองไปยังตามเนื้อตัวของตัวเองที่เปื้อนขี้โคลน จึงคิดว่าหญิงสาวอาจจะไม่ชอบใจ เพิ่มรีบวักน้ำมาล้างเนื้อตัวให้ จัดผ้าสไบของหญิงสาวให้เข้าที่ “ฮ่า ฮ่า ๆ” จู่ ๆ เธอก็หัวเราะร่าออกมา ทำให้เพิ่มยิ่งแปลกใจ “หัวเราะอะไรหรือ ไม่เจ็บกงไหนใช่ไหม” ชายหนุ่มถามพร้อมกับมองสำรวจ “ฮ่า ๆ น่าอายมาก เมื่อกี้พี่เห็นพริ้มลื่นลงมาไหม” หญิงสาวหัวเราะร่าอย่างสนุก เพิ่มก็พยักหน้ารับแต่ยังงง ๆ “ตลกดีเนอะ ดีนะที่พี่รับตัวพริ้มไว้ทัน ไม่งั้นนะ หน้าทิ่มโคลนแน่ ฮ่า ๆ” “แม่พริ้มหัวเราะชอบใจ ไม่ได้รังเกียจขี้โคลนพวกนี้หรือ” หญิงสาวมองเพิ่มที่กำลังวักน้ำมาล้างตัวให้ เขาคงคิดว่าเธอจะรังเกียจ ถึงเธอจะเป็นลูกคุณหนูชีวิตสุขสบายมาตลอด แต่พอมาเจออะไรแปลกใหม่ มันเลยทำให้เธอรู้สึกสนุกแล้วอยากรู้อยากลองเสียมากกว่า “ไม่ค่ะ” “ไม่กระไร พี่ถามไปตั้งหลายคำ” “ไม่เจ็บค่ะ และก็ไม่ได้รังเกียจ” “งั้นรีบลุกเถิด แช่น้ำนานเดี๋ยวจะเป็นไข้ไปอีก” เพิ่มจับเอวบางด้วยสองมือ ใช้แรงส่งให้ให้พริ้มพราวยืนขึ้น แต่เธอกับขืนตัวแล้วจับมือเขาออกจากเอว “ไม่ค่ะ ไม่เป็นไรหรอก เมื่อกี้พริ้มเห็นพี่ใช้มือลงไปจับปลาได้ ขอพริ้มทำบ้าง” พูดจบพริ้มพราวหันหลังให้ แล้วจุ่มมือลงไปในน้ำ ควนหาปลาหวังจะจับให้ได้บ้าง อย่างที่เห็นชายหนุ่มทำ “อยู่ไหนน้าาา” เธอพูดบ่น มือก็ยังคงงมหา มือเล็ก ๆ ของเธองม หาอย่างสะเปะสะปะ ไปตามโคลนตมใต้น้ำ ชายหนุ่มมองดูร่างบางอย่างรักใคร่ ท่าทางและการกระทำ ของเธอช่างดูน่ารักแลดูแปลกกว่าแม่หญิงทั้งตำบลที่เขาเคยพบเจอ “ประเดี๋ยวก่อนแม่พริ้ม น้ำขุ่นหมดแล้ว” เขาเอ่ยบอก พริ้มพราวจึงหันกลับมา “เอะ!!! นี้ไงได้แล้ว พริ้มจับได้แล้ว” เธอเงยหน้าบอกชายหนุ่มอย่างดีใจ ที่จับบางอย่างขนาดใหญ่ใต้น้ำได้ “อ๊ะ!! แม่พริ้ม…นั้นไม่ใช่” “ฮ่ะ ไม่ใช่เหรอคะ” พริ้มพราวมองหน้าชายหนุ่มด้วยความสงสัย มือเล็กกำเจ้าตัวใหญ่ที่อยู่ใต้น้ำนั้น พร้อมกับลูบคลำไปมา “อ่า ….. แม่พริ้ม” ฝ่ามือใหญ่จับไหล่บางได้ทั้งสองข้างไว้แน่น พลูลมหายใจออก “พี่เพิ่มเป็นอะไรคะ เจ้าตัวนี้ทำไมมันใหญ่จังนะ ดึงไม่ขึ้นด้วย ฮึบ!!! ไม่ได้แฮะ” “ซี๊ด…นั้นไม่ปลา อ่า…” ชายหนุ่มหายใจแรงเอ่ยบอกเธอน้ำเสียงกระเส่า “ไม่ใช่ปลา…และอะไรตัวใหญ่ขนาดนี้ อ๊าย…หรือว่างูเหรอ” เธอรีบปล่อยมือทันที “ไม่ใช่ ๆ ไม่ใช่งู” เพิ่มรีบบอกเธอก่อนที่จะตกใจไปมากกว่านี้ “แล้ว ๆ อะไรคะ พริ้มจับอะไร” เพิ่มจับมือเธอข้างหนึ่งมาวางไว้ที่อกของตน หญิงสาวมองตามมือเขา เธอพึงจะสังเกตร่างกายของชายหนุ่ม ที่ดูกำยำและแน่นไปด้วยมัดกล้ามนูน ๆ เพิ่มจับมือเธอไว้ที่อก ก่อนจะจับมือเธอให้ค่อย ๆ เลือนลงผ่านหน้าท้องที่แน่นไปด้วยมัดกล้าม เธอมองตามอย่างหลงใหล เขานำพามือของเธอจนต่ำลงเลยสะดือ แล้วหายลงไปในน้ำ เมื่อมือเล็กสัมผัสกับบางอย่างเธอก็สะดุ้ง “เจ้าตัวเมื่อกี้….” เพิ่มไม่พูดอะไรแต่ยังค่อยกุมมือเธอให้กอบกำมันไว้ และรูดขึ้นลง “งะ ..งู ๆ ใช่ไหม” หญิงสาวพยายามดึงมือออก แต่ชายหนุ่มกับจับมือเธอไว้แน่น “ชูว…ไม่ใช่งู ของพี่เอง อ่า….” เมื่อชายหนุ่มบอกว่าไม่ใช่งู แถมเขายังครางออกมาแบบนี้ พริ้มพราวก็พอจะเข้าใจว่ามันคืออะไร ดวงหน้าสวยก็แหงนหน้าขึ้น สบเข้ากับดวงตาสีดำนิลของชายหนุ่ม ที่กำลังมองเธอมองอยู่ก่อนแล้ว เพิ่มก้มลงประกบจูบที่ริมฝีปาก ของเธอทันที พร้อมกับแทรกลิ้นอุ่นชื้นเข้าไปเกี่ยวลิ้นเล็ก กวาดตอนหาความหวาน พริ้มพราวถูกเขาจู่โจม จูบอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่มันก็สร้างความรู้สึกวาบหวามปั่นป่วนไปทั่วกายสาว และมือนุ่มมีกำลังขยับขึ้นลง ตามการนำพาของเขาและเริ่มเร็วขึ้น จนผิวน้ำกระเพื่อมเป็นจังหวะภพรัก“พี่เพิ่ม..พี่เพิ่มจริง ๆ ด้วย” หญิงสาวเงยหน้าเอ่ยมองใบหน้าชายหนุ่ม แววตาเขาที่มองเธอก็คือเพิ่มไม่มีผิดเพี้ยน“ผมชื่อพอร์ชครับ”ชายหนุ่มเอ่ยบอกเธอ พริ้มพราวหัวใจไหววูบชาไปทั้งตัว เสมือนร่างร่วงลงสู่ก้นเหวลึก หัวใจเธอแทบหยุดเต้น แววตาที่แสดงว่าดีใจเมื่อครู่วูบหายไปจากใบหน้าทำไม..ทำไมถึงไม่ใช่พี่เพิ่ม หน้าเหมือนราวกับเป็นคนคนเดียว หญิงสาวคิดในใจ เธอปล่อยจากการโอบกอดชายหนุ่ม ก้าวเท้าถอยหลังมองเขาด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย“ขอ..ขอโทษด้วยค่ะ ฉัน…” ยังพูดไม่ทันจบก้อนสะอื้นก็ตีขึ้นมาจนพูดอะไรไม่ออก“อึก ๆ … คุณหน้าเหมือนคนที่ฉันตามหา..ขอโทษด้วยนะคะ” พริ้มพราวก้มหน้าขอโทษชายหนุ่ม ก่อนจะรีบก้าวเดินเลี่ยงสวนเขาออกมา หยดน้ำตาก็ไหลร่วงปลิวตามแรงลม“แม่พริ้ม….”ฝ่าเท้าหยุดชะงัก เมื่อได้ยินคำเรียกที่คุ้นเคย ร่างสวยรีบหันกลับไปอีกครั้ง ก็ยังเป็นชายคนนั้นที่เขาบอกว่าตนชื่อพอร์ช ยืนมองเธออยู่ ทั้งสองสบตากัน“แม่พริ้ม…” คำ ๆ นี้ออกมาจากปากพอร์ชอีกครั้งหญิงสาวยืนนิ่งเสมือนรอบตัวทุกสิ่งทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหว เธอจ้องมองไปที่พอร์ชด้วยความรู้สึกสับสนพริ้มพราวมึนงงจนคิดว่าตนเองคิดถึงเพิ่มมากจนหูแว่วไป ทั้
“ถ้าไม่มีพี่อยู่ พริ้มก็ต้องกลับมาโดดเดี่ยวตัวคนเดียวเหมือนเดิม พริ้ม...ขอไม่อยู่ซะยังดีกว่า เราไปเจอกันชาติหน้านะ.......”มิ่งหันกลับมามองทั้งสองอีกครั้ง เขาเห็นพริ้มพราวกำมีดสั้นง้างมือจนสุด…“อย่า!!!” มิ่งตะโกนสุดเสียง แต่ก็ไม่ทันอยู่ดีพริ้มพราวแทงมีดสั้นเข้าที่อกข้างซ้ายด้วยมือของเธอเองอย่างแรง จนปักค้างอกอยู่แบบนั้น ใบหน้าสวยเริ่มนิ่งสงบ รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นแม้มันจะแฝงไปด้วยความเศร้าโศก เลือดสีแดงสดไหลชุ่มกาย ร่างเล็กค่อย ๆ หมดแรงลง เธอเอนกายไปซบที่อกของชายที่รักพร้อมกับลมหายใจที่หมดไป….“เฮือก!!!”หญิงสาวรู้สึกตัวสะดุ้งตื่นเพราะความตกใจจากบางอย่าง ร่างกายรู้สึกปวดหนึบไปทั้งตัว สภาพรอบตัวมันมืดไปหมด“นี้คือโลกหลังความตายใช่ไหม” เธอพึมพำกับตนเอง“แล้วพี่เพิ่มล่ะ พี่อยู่ไหน” พริ้มพราวพยายามมองหา แต่มันมืดจนเธอมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น“ฮึก ฮึก ฮือ ๆ ฮือ ๆ” ภาพความทรงก่อนหน้ายังฉายเวียนซ้ำอยู่ในหัว สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือร้องไห้ เธอรู้สึกเคว้งคว้างแตกสลาย นี้ขนาดตายแล้วยังไม่ได้อยู่กับคนที่รักเลยหรือเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ หญิงสาวร้องไห้อยู่นานจนหลับไป กระทั่งรู้สึกตัวตื่นข
“มึงปล่อยเมียกูเดี๋ยวนี้นะ” เพิ่มใบหน้าแดงก่ำด้วยความโมโห ใช่แรงที่มีพยายามดิ้นให้หลุดจากลูกน้องของศักดิ์แต่ก็ไม่เป็นผลพริ้มพราวร้องไห้ด้วยความกลัวและเป็นห่วงเพิ่ม พยายามจะเข้าไปหาเพิ่มแต่ถูกศักดิ์ยึดไว้ตลอด“มานี่ไปอยู่กลับพี่ พี่จะเลี้ยงดูเอ็งอย่างดี”ศักดิ์โอบเอวพริ้มพราวไว้จากด้านหลัง พูดที่ข้างหูเธอและจงใจให้เพิ่มได้ยินด้วยพริ้มพราวสะบัดหน้าไม่ยอม เธอร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร เพิ่มเองก็ไม่ต่างกันเห็นเมียรัก กำลังจะถูกศักดิ์เอาตัวไป เขาก็เจ็บปวดราวกับเหมือนมีดมากรีดที่หัวใจ“ไม่ ๆ ปล่อยฉันนะ ปล่อย!!!” พริ้วพราวไม่ยอมท่าเดียว เธอดิ้นหนีเลยถูกศักดิ์ยื้อยุดฉุดกระชาก จนข้อมือและแขนแดงไปหมด“ฤทธิ์เยอะนักว่ะ จัดกันมันสิ” ศักดิ์ตะโกนบอกลูกน้อง แล้วพยักหน้าไปทางเพิ่ม ลูกน้องก็เข้าใจในทันที มันหยิบท่อนไม้ขนาดพอดีมือ ฟาดเข้าไปที่หัวเพิ่มอย่างแรง เลือดสีแดงฉากไหลอาบหน้า จนมองแทบไม่เห็น“กรี๊ด!! พี่เพิ่ม อย่าทำนะ พอแล้ว” พริ้มพราวตกใจจนสติแทบหลุด มองดูชายคนรักถูกตีหัวเลือดไหลอาบหน้า“ถ้าไม่อยากให้มันเจ็บตัวก็ไปกับพี่ดี ๆ สิจ๊ะคนสวย” ศักดิ์บีบไปที่ปลายคางเล็ก ๆ พริ้มพรายให้หันมาสบตาเขา เธอยั
วันต่อมากาหลงกับศักดิ์ และลูกน้องมาที่บ้านเพิ่ม โดยที่กาหลงกับสาวใช้มาก่อนส่วนศักดิ์กับลูกน้องเขาเดินเล่นอยู่ในละแวกนั้น เพื่อที่จะตามหาพริ้มพราวหญิงสาวที่ตนเองนั้นถวิลหา “พี่เพิ่มคงรู้แล้วล่ะว่ามันถูกรุมโทรมมา พี่เพิ่มคงต้องเขี่ยมันทิ้งแน่ ๆ” กาหลงเดินมาอย่างมาดมั่น กะว่าจะมาสมน้ำหน้าพริ้มพราวเต็มที่ “พี่เพิ่มจ๊ะ” กาหลงมายืนอยู่หน้าเรือนเรียกเพิ่มเสียงหวาน เพิ่มได้ยินจึงเดินมายืนที่ชานเรือนมองกาหลง ด้วยสายตาขึงขังแต่กาหลงยังส่งยิ้มหวานให้อย่างยั่วยวน แต่แล้วจู่ ๆ พริ้มพราวก็เดินออกมายืนเคียงข้างเพิ่ม แล้วเขาก็โอบไหล่ของเธอไว้ กาหลงจึงหุบยิ้มทันที สีหน้าและแววตาของกาหลงบ่งบอกได้ว่าเธอรู้สึกแปลกใจ “ทำไมเหรอ แปลกใจมากไหมที่ยังเห็นฉันยืนอยู่ตรงนี้” พริ้มพราวพูดน้ำเสียงแข็ง “มึง…ทำไมมึงยังอยู่” กาหลงกัดฟันเค้นเสียงอย่างแค้นเคือง สายตามมองจิกเริ่มเก็บอารมณ์ไม่อยู่มือแน่น “กลับไปเถอะกาหลง พี่ไม่อยากจะเอาเรื่องเอ็ง” เพิ่มพูดแล้วเบือนหน้าไปทางอื่นเขาไม่อยากที่จะมองหน้าหญิงคนนี้ด้วยซ้ำ “พี่เพิ่ม..กาหลงทำเพื่อพี่นะ” น้ำเสียงพยายามออดอ้อน ขอความเห็นใจ เพิ่มคงล่วงรู้ถึงสิ่งที่เธอทำแล้ว
ผิดตัวหลายวันนี้เพิ่มต้องไปนา เพื่อเตรียมที่จะเกี่ยวข้าวในอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า พริ้มพราวไม่ได้ตามไปด้วย เธอคอยชายหนุ่มอยู่ที่บ้าน โดยมีมะลิมาอยู่เป็นเพื่อนบ้างเป็นครั้งคราว มะลิสอนเธอทำกับข้าวได้หลายอย่างเธอจึงได้เตรียมกับข้าวให้เพิ่มไว้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้ตอนที่อยู่ตัวคนเดียว ชายหนุ่มก็จะไม่กลับเรือนเขาจะนอนที่เถียงนาเลยแต่บัดนี้มีเมียรักรออยู่ แถมยังเตรียมกับข้าวกับปลาไว้ให้ เขาจึงต้องรีบกลับเรือนทุกวันจนมิ่งเอ่ยแซว วันนี้ก็เช่นกัน เพิ่มกับมิ่งไปนาตั้งแต่เช้า มะลิก็มาอยู่เป็นเพื่อนพริ้มพราวเหมือนเช่นเคย สองสาวต้องหานู่นหานี้มาทำ กันอย่างเพลิดเพลิน พอบ่ายคล้อยมะลิจึงได้กลับเรือนตนเองไป เพื่อเตรียมกับข้าวกับปลาไว้รอมิ่งกลับมา พริ้มพราวเองก็เช่นกันเธอก็เข้าครัวไปจัดเตรียมหุงหาอาหารรอเพิ่มบ้างอีกมุมหนึ่งไม่ไกลจากเรือน แก้วรอโอกาสนี้มาหลายวันแล้ว แก้วคอยมาสังเกตพอรู้ว่าช่วงนี้เพิ่มต้องไปนา พริ้มพราวอยู่คนเดียวแต่พี่สาวเธอก็มักจะมาอยู่เป็นเพื่อนอีก จึงได้รอโอกาส และนัดแนะกับกาหลงไว้ แล้ววันนี้โอกาสก็มาถึง เมื่อมะลิกลับเรือนไป แก้วก็มาหาหญิงสาว พริ้มพราวที่กำลังง่วนอยู่ในครัว ได้ยิ
สิ่งที่กลัวที่สุดหลายวันผ่านไป พริ้มพราวมานั่งเล่นที่ริมน้ำ หญิงสาวนึกย้อนไปถึงเรื่องราวต่าง ๆ นึกถึงสาเหตุว่าสิ่งใดหรือใครกันที่ทำให้เธอมาอยู่ที่นี้ได้ จะเรียกว่าย้อนเวลาได้ไหม หรือเป็นแค่ฝันฉากหนึ่งแต่ถ้าเป็นความฝันจริง เธอก็ไม่อยากจะตื่นอีกแล้ว ถ้าต้องตื่นไปเผชิญโลกแห่งความเป็นจริงอย่างโดดเดี่ยว เธอขออยู่ในฝันนี้ตลอดไปกับชายคนที่รักเธอแบบนี้ดีกว่าพรึ่บ!! “ว้ายพี่เพิ่ม…ตกใจหมด”เพิ่มเดินมาหาพริ้มพราว หลังจากที่เธอบอกเขาว่าจะมานั่งเล่นที่ท่าน้ำตั้งแต่เมื่อเย็น นี้ก็โพล้เพล้และตะวันใกล้จะตกดิน ยังไม่เห็นเมียรักกลับมา จึงได้เดินมาดูเห็นเธอนั่งเหม่อคิดอะไรอยู่เพิ่มมองแผ่นหลังบางนั้น ใจก็กระตุกวูบกลัวว่าหญิงสาวจะหายไป ถ้าเกิดวันใดวันหนึ่งอยู่ ๆ เธอหายวับไปเหมือนเมื่อครั้งแรกที่อยู่ ๆ พริ้มพราวก็ปรากฏกายขึ้นมา ตัวเขาคงจะทำใจมีชีวิตต่อ ในที่ที่ไม่มีเธอได้ยังไงเพิ่มค่อย ๆ ย่องลงน้ำเงียบ ๆ เขาดำน้ำไปแล้วโผล่ขึ้นใกล้ ๆ ตรงที่พริ้มพราวนั่งอยู่จนเธอสะดุ้งตกใจ“พี่เพิ่ม..เล่นอะไรพริ้มตกใจหมดเลย” เธออยากจะฟาดชายหนุ่มสักที เล่นโผล่มาแบบนี้ตกใจแทบตาย“แม่พริ้มนั่งคิดกระไรอยู่” เพิ่มลอยตัวในน้ำ







