“ฉันจะสั่งยานอนหลับทางอินเทอร์เน็ต”
“ฉันจะโทรหาเมีย” เขาเอ่ยบ้าง เทียนหยดเบะปากใส่น้อยๆ แต่สมัตถ์ไม่สนใจ ถ้าหล่อนอยากอิจฉาคนมีความรักก็ช่างหล่อนเถิด
หญิงสาวเดินกลับไปนั่งหลังโต๊ะทำงาน เสิร์ชหาของที่ต้องการทางอินเทอร์เน็ตแล้วสั่งให้เขาเอามาส่งที่นี่โดยยอมเสี่ยงจ่ายเงินก่อนเพื่อความสะดวก
“ทำไมไม่รับโทรศัพท์นะ”
เขาบ่นให้ศรีภรรยา ด้วยว่าต่อสายไปสองสามครั้ง รออยู่เป็นนาทีก็ไม่มีคนรับ
“มีกิ๊กหรือเปล่า” เสียงหวานของเทียนหยดเอ่ยประชดประชัน
สมัตถ์หน้าตึง “ปากเสียจริงๆ ไม่แปลกที่โดนสวมเขา”
เทียนหยดอ้าปากค้าง นี่เธอโดนด่าอยู่ใช่ไหม เสียความมั่นใจนะโว้ย!
“คุณสมัตถ์!”
“อะไร”
“แทงใจดำฉันจึ๊กๆ เลย! อีตาบ้า!” ด่าเขาแต่มีรอยยิ้มระบายที่มุมปาก
สมัตถ์เองก็เผลอยิ้มไปด้วย หล่อนเอามือทุบอกข้างซ้ายปึ้กๆ ช่างน่าขัน ดูท่าว่าเทียนหยดจะเริ่มทำใจได้แล้ว มันคงตัดใจได้ง่ายในเมื่อกล่อนกับแฟนยังไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางกาย นอกจากความรู้สึกและเงิน
โทรศัพท์ของจีรวัฒน์ยังมิได้ถูกดึงออกจากหูเลย เป็นเวลามากกว่าครึ่งชั่วโมงที่เขาโทรหาคู่ขาคนเก่ง หล่อนบอกคล้ายๆ ว่าจะมาหาเขาในวันนี้ ทว่านี่ก็ค่ำแล้ว แต่ยังไร้วี่แวว เขาทิ้งโทรศัพท์มือถือลงบนเตียงแรงๆ ตัดสินใจว่าจะนั่งทำงานต่ออีกสักนิดแล้วจะออกไปหาเด็กเลาจน์มานอนด้วย ช่วงนี้เขาเป็นอะไรก็ไม่รู้ รู้สึกได้ถึงแรงปรารถนาของตัวเอง มันพลุ่งพล่านบ่อยครั้ง ทั้งหมดทั้งมวลเกิดขึ้นเพราะเทียนหยด เพราะท่าทีที่เปลี่ยนไปของหล่อน ให้ตายเถอะ ถ้ารู้ว่าหล่อนจะร้อนแรงขนาดนั้น เขาคงล่อลวงให้หล่อนหลงอยู่ในบ่วงสวาทตั้งนานแล้ว ไม่ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษรอให้หล่อนยินยอมพร้อมใจหรอกชายหนุ่มกลับไปที่โต๊ะทำงาน ตั้งสมาธิให้นิ่งแล้วเริ่มทำงานวาดแบบของตัวเอง กระทั่งเวลาสองทุ่มเศษๆ ประตูห้องเขาก็ถูกเปิดเข้ามา เสียงรองเท้าส้นสูงดังกระทบพื้นเป็นจังหวะทำให้เขารู้ว่าคนที่เดินเข้ามาคือใคร“โอ...คุณพระคุณเจ้า”จีรวัฒน์อุทานแล้วรีบลุกมาต้อนรับแม่สาวสวยสุดเซ็กซี่ที่ยืนพิงกรอบประตูอยู่ ผมที่ดัดเป็นลอนบางๆ ทำให้เทียนหยดดูเปลี่ยนไป ชุดที่หล่อนสวมก็ด้วย มันสั้นเพียงแก้มก้น คอเสื้อนั้นก็คว้านลงลึกจนเห
“เทียน...” จีรวัฒน์ครางชื่อเทียนหยดเสียงอ่อยเทียนหยดหันข้างให้ ทำทีปาดน้ำตาแม้รู้ว่ามันยังไม่ได้ไหลออกมา ก่อนจะเดินตรงไปที่ประตู ไม่ได้รีบร้อนนัก เพราะทุกย่างก้าวมันคือการท้าทายกับตัวเอง เธอเริ่มนับเลขห้าในใจ ตามด้วยสี่...สาม...สอง...หนึ่ง!“ก็ได้! เทียน! ก็ได้!”เธอหันหลังขวับ เลิกคิ้วสูงราวกับสงสัยทั้งที่รู้ว่าที่จีรวัฒน์จะเอ่ยออกมามันคือเรื่องใด “อะไรอีก เทียนรีบ”เขาไม่ตอบ แต่เดินเข้าไปในห้องอย่างเร่งรีบ แล้วกลับออกมาพร้อมกับโฉนดที่ดินในมือ“เอาไปเลย พรุ่งนี้จีจะไปเซ็นให้มันเป็นชื่อเทียน เทียนจะได้เอาไปค้ำประกันเงินกู้ แต่ขอร้อง เทียนอย่าไปเลยนะ มันอันตราย จีห่วง” ท้ายเสียงอ่อนโยนจนตัวเองยังรู้สึก เขากับเทียนหยดคบกันมานาน ย่อมมีความผูกพันความแหนหวง แม้ไม่มากมาย แต่ก็ยังมี“จี...จริงๆ นะ จีให้เทียนยืมจริงๆ นะ” ถามอย่างตื่นตะลึง และพอเขาพยักหน้า เธอก็คว้าโฉนดมาไว้ในมือแล้วกระโดดกอดคอเขาจีรวัฒน์อุ้มเทียนหยดแนบแน่นเนิ่นนาน ดีใจที่สามารถรั้งหล่อนไว้ได้ กลัวแสนกลัวว่าหล่อนจะไป กลัวอันตรายที่สมัยนี้ไม่สามารถมั่นใจได้เลยว่าจะไม่เกิด เรื่องบางเรื่องมันเกิดขึ้นได้เสมอ เทียนหยดผู้ไร้เดียงส
[9]ก่อนใจจะสลาย___________มือสั่นๆ ของสมัตถ์ เคลื่อนลงไปหาร่างบาง ใกล้เข้าไปเรื่อยๆ ราวกับถูกดึงดูดด้วยแม่เหล็กขนาดเท่าตึกสามชั้น มันดูดมือเขาเข้าไปหากางเกงชั้นในสีม่วงที่ห่อหุ้มความอวบอูม เขากลืนน้ำลายหนืดๆ ลงคอ จ้องมองมือตัวเองที่เข้าใกล้ส่วนนั้นของเทียนหยด และก่อนที่เขาจะทำอะไรให้ตัวเองต้องมานั่งเสียใจ มืออีกข้างที่ว่างอยู่ก็เลื่อนลงไปด้านล่าง เพื่อดึงผ้านวมมาปิดร่างหล่อน...จนชิดคอ“เฮ้อ...รอดตายแล้ว! สมัตถ์”สมัตถ์เดินตบอกเบาๆ ขึ้นมาจนถึงห้องนอน สิ่งที่มองเห็นติดตาเขาจนร่างกายรุ่มร้อนไปหมด เขาแลหาร่างภรรยาท่ามกลางแสงสลัวของไฟในห้อง หล่อนมิได้อยู่บนเตียง แต่ลุกไปเข้าห้องน้ำ ประตูห้องน้ำปิดอยู่ มีแสงสว่างลอดออกมาจากช่องเล็กๆ ด้านล่าง เขาเดินไปรอหล่อนหน้าประตูนั้น และพอหล่อนเปิดมันออกมา เขาก็รวบร่างหล่อนไว้หมับ!“ว้าย! ตกใจหมดเลยสมัตถ์ นี่แน่ะ!”ภรรยาคนดีตีแขนสามีเปาะแปะไม่จริงจัง ยังอมยิ้มกับการกระทำของเขา“หอม
บทรักจากสองร่างยังดำเนินต่อไปอีกกว่าชั่วโมง ฝ่ายสามีจึงได้ปลดปล่อยสายธารแห่งชีวิตออกมาอย่างท่วมท้น พอๆ กับศรีภรรยาที่เสร็จสมอารมณ์ใคร่เป็นหนที่สอง สุขจนแทบหมดเรี่ยวแรง ได้แต่นอนหงายหอบหายใจที่กลางเตียงกว้างเคียงข้างสามีสมัตถ์นอนพักเหนื่อย เขาพร้อมจะปิดเปลือกตาลงด้วยความเพลีย แต่ฝ่ายศรีภรรยาคงไม่คิดเช่นนั้น ราตรียังไม่พอ หล่อนสะกิดเขาด้วยการลุกมาคร่อมร่างเขาไว้อีกครั้งหนึ่ง“ไม่ๆๆ หมดแรงแล้วไนท์จ๋า”เขาพึมพำ ดึงผ้านวมมาคลุมร่างด้วยว่ารู้สึกหนาว“โอย...อย่าเพิ่ง ไนท์ยังไม่อิ่มเลย อีกรอบนะคะมัตถ์ขา...” ศรีภรรยาออดอ้อนสมัตถ์ส่ายหน้าช้าๆ ดวงตาปิดลงไปแล้วแต่ยังไม่สนิท“ขอแปะโป้งไว้คืนวันเสาร์นะครับที่รัก”“ไม่เอา วันเสาร์ไนท์เที่ยวนี่คะ คืนนี้แหละ นะๆๆ”“อือ...ไนท์ก็ไม่ต้องเที่ยวสักคืนสิครับ นะครับ วันนี้ผมเพลียจัง ฝันดีนะที่รัก” เขาดึงคนร่างเล็กลงมานอนข้างกันแล้วจุมพิตหน้าผากมนอย่างแสนรัก ก่อนจะเข้าสู่นิทราอันแสนสุข ไม่ได้สนใจเลยว่าราตรีจะรู้สึกอย่างไรศรีภรรยาพลิก
เวลา 14:30 นาฬิกา ณ สำนักงานที่ดินกรุงเทพฯ โฉนดที่ดินใบงามถูกส่งลงซองเอกสารแล้วเรียบร้อย ไม่ทันให้เจ้าของเก่าของมันได้พิจารณาด้วยซ้ำ หัวใจของจีรวัฒน์สั่นไหวแปลกๆ กลัวว่าจะไม่ได้โฉนดคืนก็กลัว กลัวว่าจะเสียเทียนหยดไปก็กลัว แต่เมื่อตัดสินใจไปแล้ว ก็คงทำอะไรไม่ได้ แต่มั่นใจอย่างหนึ่งว่าเทียนหยดไม่มีวันทอดทิ้งเขา หลายปีที่ผ่านมาหล่อนคอยช่วยเหลือเขามาตลอด เขาจะถือว่าครั้งนี้ ที่ยกที่ดินให้หล่อน เป็นการตอบแทนความดีของหล่อนก็แล้วกัน“ทีนี้จีก็ไม่มีอะไรเหลือแล้ว” เขาโอดครวญ“บ้านะสิ ยังเหลือตัวกับหัวใจ”เทียนหยดเย้า เดินควงแขนเขาไปยังลานจอดรถของสำนักงานที่ดิน“หัวใจก็ไม่เหลือ ให้เทียนไปเหมือนกัน”เทียนหยดแอบทำท่าแหวะใส่อากาศ แน่นอนว่าจีรวัฒน์ไม่มีทางได้เห็น“ขอให้จริงค่ะ ถ้าจีแอบมีคนอื่นนะ เทียนจะทำให้จีจดจำเทียนไปตลอดชีวิตเลย เทียนน่ะ...ทุ่มเทกับจี รักจีมากนะคะ จีน่าจะรู้ ที่ทำงานหนักทุกวันนี้ก็เพื่อเรา ถ้าจีแอบทรยศเทียนละก็ เทียนคง...ใจสลาย”เธอเอ่ยแล้วสังเกตสีหน้าจีรวัฒน์ เขาช่าง
ตีหนึ่งกว่าๆ เทียนหยดขับรถกลับมาถึงบ้าน มันดึกมากแล้ว แต่ใครบางคนยังไม่นอน เขามองมาทางนี้ตอนที่เธอเอารถเข้าไปจอดให้เรียบร้อย ไฟข้างสนามหญ้าส่องร่างเขาเจิดจ้า มองไกลๆ ราวกับว่าตัวเขาเปล่งแสงได้อย่างไรอย่างนั้นสองขาเรียวพาร่างก้าวลงจากรถตรงไปยังห้องของตัวเอง สมัตถ์จ้องเธอเขม็ง ให้ตายเถอะ เธอดื่มเหล้ามาพอสมควร และอยากนอนพักมากกว่าหาเรื่องคน“ไปไหนมา”“ฉันต้องตอบคุณด้วยเหรอ” โต้กลับเสียงห้วน ความเสียใจเรื่องจีรวัฒน์บวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ความบ้าบิ่นในกายลุกฮือขึ้นเรื่อยๆ ทำไมนะ ทำไมคนที่แสนดีอย่างเธอต้องมาพบเจอจีรวัฒน์ในขณะที่คนเลวๆ อย่างราตรีได้ผู้ชายแสนดีอย่างสมัตถ์ไปครอบครอง“ไม่ตอบก็ได้แต่รู้ไว้ว่าเธอทำให้ฉันมีปัญหา ฉันทะเลาะกับไนท์และไนท์ไม่ยอมให้ฉันเข้าห้อง” เขาบอกรัวเร็ว เดินตามหลังหล่อนจนเกือบจะไปถึงห้อง หล่อนหยุดยืนใต้ร่มเงาของต้นอโศกต้นใหญ่ที่อยู่หลังห้องครัว ด้วยร่มเงาของมันทำให้แสงส่องเข้ามาไม่มากมายนัก หล่อนใช้มือข้างหนึ่งค้ำลำต้นของมันไว้ราวกับไม่มีแรงยืน ก่อนจะหันกลับมาหาเขา ยกมือกอดอกแน่น หน
กลางดึกของคืนอันขุ่นมัวด้วยความไม่เข้าใจ เทียนหยดยืนอยู่ใต้ร่มอโศกในชุดนอนแบบสตรีที่ไร้เสื้อคลุม มวลไอแห่งหยดน้ำค้างลอยอ้อยอิ่งเต็มสนาม ราตรีกาลอันมืดสลัวมีเพียงแสงสว่างรางเลือน หญิงสาวกะพริบตาถี่ๆ มิได้รู้สึกถึงฤทธิ์แอลกอฮอล์ในร่างแล้ว เธอยืนนิ่งในจุดที่เพิ่งผละจากสมัตถ์ ไอเย็นจากบรรยากาศรอบกายทำให้ต้องยกมือกอดอก ถามตัวเองในใจว่าทำไมต้องมายืนอยู่ตรงนี้ ทำไมไม่กลับไปนอนเสีย นี่ก็ดึกมากแล้ว เขาคงไม่ลงมาแล้วกระมังทว่าในวินาทีที่ก้าวขาออกเดิน แขนข้างหนึ่งของเธอก็ถูกกระชากอย่างแรง“โอ๊ย!”“ชู่ว์...” สมัตถ์ห้ามเสียงหวีดร้องของแม่คนงาม เขาดึงร่างเทียนหยดเข้ามาหาแล้วดันจนแผ่นหลังหล่อนชิดต้นอโศก“เจ็บนะ” เธอบอก“เธอชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ ไงล่ะ ในที่สุดก็ทนไม่ไหวต้องออกมาอ่อยฉันถึงที่”เสียงสบประมาทแม่คนใจกล้าดังอยู่ข้างหูหญิงสาว เทียนหยดใจเดือดปุดๆ พยายามแกะมือเขาออกจากแขนตัวเอง แต่ทำไปก็เท่านั้นเพราะตอนนี้ร่างเธอกับเขาแนบชิดกันแทบทุกสัดส่วน ปลายจมูกเขาคลอเคลียที่ข้างแก้มเธอ ได้ยินเสียงลมหายใจเข
วันรุ่งขึ้นผกากรองยืนอยู่ข้างรถตัวเอง นางกำลังจะไปส่งบุตรชายที่โรงเรียน แต่อยากถามบางอย่างจากสมัตถ์ก่อน เขาเดินออกมาขึ้นรถตามปกติ ราตรีตามมาส่งเขาแต่กลับเข้าบ้านไปแล้ว“เดี๋ยวค่ะคุณสมัตถ์”สมัตถ์ชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูรถ รับรู้ถึงการมาของสตรีวัยเลยสาว“ครับ”“คุณเจอยัยเทียนบ้างไหม ฉันไม่ได้เจอลูกมาสองสามวันแล้ว อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆ” นางบ่นสมัตถ์ถอนหายใจเบาๆ ภาพเมื่อคืนจู่โจมเขาจนรู้สึกอึดอัด ต้องขยับเนกไทให้หลวมยิ่งกว่าเดิม “เอ่อ...เธอคงยุ่งอยู่กับแฟนมั้งครับ”“งั้นเหรอ เฮ้อ...ยัยเทียนนะยัยเทียน จะเลิกกับนายนั่นอยู่แล้ว ไม่รู้จะไปข้องแวะทำไมอีก”“นั่นสิครับ” เขาสำทับผกากรองตาเบิกโต “คุณรู้เรื่องด้วยหรือคะ”เขาพยักหน้า “เธอระบายน่ะ อกหัก แฟนมีคนอื่นและเธอกำลังหาทางเอาคืน” เขาอธิบายผกากรองหนักใจยิ่ง “ฉันไม่เห็นด้วยเลย ผู้ชายยังไงก็เป็นผู้ชาย มันอันตรายจะตายไป ถ้ายังไงถึงบริษัทแล้ว รบกวนคุณช่วยบอกเธอให
[13]เชือด!________สมัตถ์ตื่นมาด้วยจิตใจที่หม่นหมองเหมือนละลองควันพิษบนท้องถนนเมืองไทย พยายามทำตัวให้เป็นปกติ แต่พอเห็นหน้าศรีภรรยาก็อดหดหู่ใจไม่ได้ ให้หล่อนเอามีดมาแทงเขา ยังเจ็บน้อยกว่าที่หล่อนไปนอนกับชู้รัก ในใจเขามันสับสนวุ่นวาย อยากบีบคอขาวๆ ของหล่อนแล้วถามดังๆ ว่ากล้านอกใจเขาได้อย่างไร กล้านอกใจคนที่รักหล่อนที่สุดได้อย่างไร!“เป็นอะไรคะ หน้าตาไม่ค่อยสดใสเลย หรือว่ากลัวไนท์งอนเรื่องเมื่อคืน ไม่ต้องห่วงนะคะ ไนท์หายงอนแล้ว ไม่งั้นไม่มายืนผูกเนกไทให้คุณอย่างนี้หรอก” ราตรีว่าสมัตถ์ฝืนยิ้มส่งให้ ก่อนจะเอ่ยเรื่องที่ตระเตรียมไว้กับศรีสุรางค์ตั้งแต่เมื่อคืน“วันนี้คุณย่าอยากไปทำงานกับผม คุณอยากไปด้วยไหม” เขาโยนหินถามทาง“อ่า...ไม่ดีกว่าค่ะ ไนท์ว่าจะไปซื้อของใช้สักหน่อย” ตอบเหมือนเอาความดีเข้าตัว สมัตถ์ยังฝืนยิ้มให้อีก ขยับออกห่างราตรีเมื่อหล่อนผูกเนกไทให้จนเสร็จ“โอเค...ก็ได้ วันนี้ผมไม่หิว ผมไปทำงานเลยดีกว่า”“อะไรกัน ไ
“แทนที่จะเกลียดฉัน เกลียดเมียตัวเองก่อนไหมคุณสมัตถ์ ฉันไม่ได้ทำอะไรให้คุณเลย มาโกรธฉันทำไม” เธอบอกด้วยความน้อยใจ ไม่กล้ามองหน้าเขาตรงๆ กลัวเขาอายที่กำลังมีน้ำตาเต็มวงหน้าเช่นนี้“เธอ...ทำยังไง”“อะไร” เธอถาม บีบยาใส่แผลสดให้เขาแล้วเอาผ้ากอซมาพันให้บางๆ ไม่ได้เก่งเรื่องทำแผลนัก สภาพมันเลยไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่ แต่รับรองว่าสะอาดไร้เชื้อโรค“ทนไง ทนตีหน้าตายใส่ไอ้หมอนั่นจนมันยอมเซ็นยกโฉนดที่ดินให้” ถามแล้วใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตา กลั้นมันมิให้ไหล หล่อนเห็นน้ำตาเขาอีกแล้วเธอยักไหล่ “ไม่รู้สิ เปลี่ยนความโกรธความแค้นเป็นความอดทนมั้ง ฉันทำได้ทุกอย่างแหละไม่ยอมขาดทุนหรอก ฉันให้เขาไปเยอะ ถ้าไม่ได้จากเขาก็ขอให้ได้ทุนคืน ฉันเป็นนักธุรกิจ ไม่ยอมขาดทุนเด็ดขาด” เธออธิบาย นั่งขัดสมาธิตรงหน้าเขา เขาเหมือนจะมีน้ำตาตลอดเวลา ความจริงถ้าเขาอยากร้องไห้ ก็ร้องได้นะ เธอไม่ว่าหรอก“ฉ
ริมฝีปากคมอ้าค้างน้อยๆ เลือดลมสูบฉีดเร็วแรง ดวงตาที่เบิกโตมีหยดน้ำตาซึมเอ่อ ถามตัวเองซ้ำๆ ว่ามันเป็นไปได้อย่างไร ให้ตายเถอะ! ใครก็ได้เรียกรถพยาบาลให้ที ความเจ็บจุกมันหล่นทับหัวใจเขาจนแม้แต่กระดิกกายก็ทำไม่ได้ ราตรีนอกใจเขา!‘หล่อนนอกใจเขา!’ก๊อกๆๆประตูห้องถูกเคาะอีกครั้งก่อนที่ราตรีจะผลักเข้ามา ริมฝีปากงามคลี่ยิ้มสดใสให้สามีดั่งที่เคยทำมา“มัตถ์คะ กินข้าวเถอะค่ะ คุณย่าหิวแล้ว ท่านบอกให้ตั้งโต๊ะเร็วหน่อย”เสียงเจื้อยแจ้วของศรีภรรยาทำให้สามีต้องเงยหน้าขึ้นมอง เขาพูดไม่ออก ได้แต่จ้องหน้าหล่อน อยากถามหล่อนว่าทำได้อย่างไร กล้ามีชู้ได้ยังไง!“มัตถ์?”“เอ่อ...คือ...จ้ะๆ ไปเดี๋ยวนี้”นั่นคือสิ่งที่ริมฝีปากเอ่ยออกมาได้ ต้องกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ กว่าจะเค้นคำพูดออกมาแต่ละคำมันช่างทรมานเหลือเกิน ตอนนี้สิ่งที่เขาอยากทำที่สุดคือจับราตรีมาเขย่าให้หัวหลุดจะได้สาแก่ใจ“เร็วสิคะ ไนท์รอที่โต๊ะนะ”เขายิ้มให้กับคำกล่าวนั้น จนราตรีหายไปจากหน้าประตู ต้องกะพริบตาถี่ๆ แล้ว
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยบอกแต่เทียนหยดยิ้มกริ่ม เริ่มสนุกที่ได้แกล้งเขา“ม่าย...อีกนิดค่ะคุณผู้ชายขา...อีกนิด...” ว่าแล้วตบแป้งหนักๆ ถี่ๆ สมัตถ์ทนไม่ไหวก็คว้ากล่องแป้งเคาะกบาลช่างแต่งหน้าจำเป็นไปหนึ่งทีปึ้ก!“โอ๊ยคุณ! เคาะหัวฉันทำไมเนี่ย” คนสวยทำหน้ายู่ หันมองกล้องแล้วเอามือลูบกบาลป้อยๆ“ก็เธอทำฉันก่อน หน้าคนนะไม่ใช่หนังควาย ถูมาได้” บ่นเบาๆ เสียงต่ำจนคนฟังรู้ว่าเขากำลังจะทนไม่ไหว“เออๆ ขอโทษก็ได้ มานี่มา มาให้คุณผู้ชมเห็นหน้าชัดๆ หน่อย”แล้วเทียนหยดก็ยกกล้องลงจากขาตั้งมาจ่อใกล้ใบหน้าเขา รูขุมขนที่ค่อนข้างกว้างในตอนแรก บัดนี้ดูจางลงเพราะมีเนื้อแป้งปกปิดไว้ เธอจ่อกล้องไว้ใกล้หน้าเขาราวครึ่งนาที ก่อนจะจับมันไปวางไว้ที่เดิม แล้วนั่งลงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่“ยิ้มอะไรของเธอ” เขาสงสัย“ก็...โบกแป้งแล้วคุณก็หน้าเนียนดีเนอะ หน้าอย่างนี้ขึ้นกล้องดีจัง น่าจะไปเป็นดารานะ มองไปมองมานี่ก็คล้ายพระเอกหนังเนาะ”เมื่อถูกชมซึ่งๆ หน้าสมัตถ์ก็ทำตัวไม่ถูก จะยิ้มก็ไม่ยิ้มจะหน้าบึ้งก็ไ
สมัตถ์อมยิ้ม หล่อนคงยังรู้สึกผิดกระมัง“เปลี่ยนคำขอโทษเป็นคำสัญญาดีกว่า สัญญาสิว่าเธอจะไม่ทำอีก”คนสวยพยักหน้าน้อยๆ “แล้ว...ถ้าฉันไม่ได้เป็นคนเริ่มล่ะ”“หมายความว่าไง ฉันไม่มีทางทำแบบนั้นหรอกน่า”“โธ่เอ๊ย ก็ถามเผื่อไว้นี่นา คุณก็รู้ว่ามีบางอย่างระหว่างเรา บางอย่างที่คุณกับฉันรู้กันแค่สองคน”“ไม่มีทาง มันไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ” สมัตถ์บอกอย่างต้องการให้มันจบเทียนหยดทำหน้าบูด “ก็ได้ คุณกำลังหลอกตัวเอง เชื่อฉันเถอะ” เธอบอกแล้วถอนหายใจเฮือกๆ กลุ้มเรื่องที่ทำกับสมัตถ์แล้วยังกลุ้มเรื่องงานของตัวเองอีก“เธอมีเรื่องอะไรให้ฉันช่วยไหม”เขาเอ่ย อาสาช่วยละนะหากว่าเรื่องนั้นไม่เหนือบ่ากว่าแรง“คุณช่วยไม่ได้หรอก ฉันเครียดเรื่องออฟฟิศน่ะ กลัวเสร็จไม่ทัน กลัวไม่มีที่เก็บของ” บอกแล้วพ่นลมออกจากปากอีกครา ก่อนจะหันมาสนของที่อยู่ตรงหน้า เปิดมันออกแล้วพิจารณาแป้งสามตลับที่เรียงกันอยู่“ฉันคงช่วยไม่ได้จริงๆ กลับดีกว่า”เขาว
[12]ร้าวราน____________เหตุการณ์ในบ้านโสภณวิชญ์ เริ่มกับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่เทียนหยดยังงอนสมัตถ์ราวกับเขาเป็นสามีตัวเอง การที่เขายอมให้อภัยภรรยาง่ายๆ ทำให้เธอเข้าใจแล้วว่าความรักนั้นทำให้คนตาบอดได้จริง แน่ล่ะ เธอเคยเจอมาแล้ว และก้าวผ่านมันมาได้อย่างชอกช้ำระกำทรวงที่สุดจีรวัฒน์ไม่ติดต่อมาเลยนับตั้งแต่วันนั้น ความจริงเธอก็ห่วงเขานะ กลัวว่าเขาจะเป็นอะไร กลัวว่าสิ่งที่ตัวเองทำจะทำให้เขามีอันตรายถึงชีวิต ฉะนั้นวันศุกร์ตอนบ่ายแก่ๆ เธอจึงยอมเสียฟอร์ม ซื้อเครื่องดื่มเย็นๆ แวะไปหาเขา และอยากขอโทษเรื่องวันนั้น แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดคิดว่าเธอจะมาคืนดี คนอย่างเทียนหยดเจ็บแล้วเจ็บเลย เจ็บจำ แต่ที่มาหาเขาวันนี้เพราะมนุษยธรรมล้วนๆ และอีกอย่าง เธออยากคุยเรื่องที่ดินที่เขาเซ็นยกให้ เพราะมาคิดดูดีๆ แล้ว ที่ดินผืนนั้นมันน่าจะมีมูลค่ามากกว่าเงินที่จีรวัฒน์หยิบยืมไป และเธอไม่สบายใจหากเอามันมาครอบครองเพียงคนเดียวเทียนหยดค่อยๆ ชะลอรถเมื่อใกล้ถึงทางเข้าคอนโดฯ ทว่าสตรีนางหนึ่งที่เพิ่งลงจากรถแท็กซี่คันหน้านั้น
แล้วจู่ๆ สมัตถ์ก็น้ำตาไหล เทียนหยดแลเห็นแวบๆ ทางหางตา และต้องหันมามองเต็มหน้า หัวใจเธอเต้นแรง นอกจากโอบนิธิแล้ว เธอยังไม่เคยเห็นผู้ชายร้องไห้เลยสักคนบุตรสาวของผกากรองดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋ากางเกงที่สวมอยู่ เอามันไปวางไว้บนหน้าขาของชายหนุ่ม เขาหันมา วงหน้าอมทุกข์ ดวงตาแดงก่ำและไร้รอยยิ้ม“คุณอาจต้องใช้ น้ำตาคุณ...” เธอบอกสั้นๆ ไม่อยากเอ่ยอะไรให้มากความ ด้วยรู้ว่าผู้ชายคงอับอายหากรู้ว่ามีคนอื่นเห็นหยดน้ำตา“เธอพูดบ้าอะไร” ถามเหมือนไม่อยากจะเชื่อ หยิบผ้านิ่มๆ ผืนนั้นโยนใส่ตักเจ้าของ ก่อนจะเอามือลูบหน้าแรงๆ และยิ่งตื่นตะลึงเมื่อรู้ตัวว่ากำลังมีน้ำตาอย่างที่เทียนหยดว่าจริงๆ“ฉันไม่ได้อยู่ตรงนี้ คุณเอ่อ...คิดแบบนั้นก็ได้” เอ่ยแล้วอยากเฉือนปากตัวเองทิ้งเสีย เรื่องที่เขาทะเลาะกับภรรยาคงหนักหนา และเธอคงไม่มีวันล่วงรู้หากเขาไม่บอก หวังว่าคงไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกนะ ไม่รู้สิ ยังไม่อยากให้เขารู้หรอก น่าสงสารหัวใจของสามีผู้จงรักภักดี มันคงบางยิ่งกว่ากระดาษเสียอีกสมัตถ์เงียบไปครู่ใหญ่ สมองกำลังประมวลผล มันสับสนวุ่นวายไปหมด“ถ้าเกิดฉันต้องหย่ากับไนท์”ประโยคสั้นๆ นั้นทำเอาดวงตาของเทียนหยดเบิกโต
ราตรีใจหายวาบ รีบหาทางแก้ต่างเป็นการด่วน“อะไรนะ! บ้าไปแล้วสมัตถ์ ไม่มีอะไรทำหรือไงถึงได้มาหาเรื่องกัน ไนท์จะมีกลิ่นแบบนั้นได้ยังไงฮะ อย่ามาพูดแบบนี้นะ ไนท์โกรธ!” ราตรีทำเป็นตีโพยตีพาย แต่สมัตถ์ก็ไม่ยอมแพ้“แต่ผมมั่นใจ!”“ไปตายซะ! ไนท์อยู่ของไนท์ดีๆ มาว่าไนท์ทำไมฮะ! หรืออยากมีคนใหม่ ถ้าอยากมีก็ไปเลยสมัตถ์ ไม่ต้องมากล่าวหากันอย่างนี้!” ราตรีออกอาการเหวี่ยงวีน บีบน้ำตาจนมันไหลมาคลอเต็มสองเบ้าสมัตถ์ใจไหวยวบ น้ำตาผู้หญิงไม่เคยถูกจริตเขาเลย“ไม่ต้องมาบีบน้ำตา ตอบมาไนท์ ไอ้นั่นมันเป็นใคร!”“บ้าบอคอแตก ฆ่าไนท์เถอะถ้าจะให้ไนท์โกหก!”คำย้อนคืนของราตรีทำเอาสมัตถ์เริ่มไม่มั่นใจ“ก็มันจริง!” เขาเถียง ใบหน้าหล่อเหลาไร้แววรื่นรมย์ มันเครียดขมึง แดงก่ำและดวงตาเต็มไปด้วยโทสะราตรีร้องไห้กระซิกๆ ยืนมองสามี ริมฝีปากสั่นไหว“หลักฐานก็ไม่มี”“มี! แต่คุณอาบน้ำแล้วนี่” เขาเอ่ยออกมาเหมือนเยาะราตรีส่ายหน้าอย่างเหลืออด มือข้างหน
เสียงหัวเราะของราตรีช่างเจ้าเล่ห์เหลือร้าย สมัตถ์มุ่นคิ้วหนักๆ ความระแวงแคลงใจแล่นกลับสู่หัวใจอีกระลอก เขาตัดสินใจเคาะประตูก๊อกๆๆราตรีหันขวับมาหา ดวงตาเบิกโตเล็กน้อย หน้าเจื่อน รีบเอาโทรศัพท์ซ่อนไว้ด้านหลัง“เอ้า...มาแล้วหรือคะ วันนี้กลับไวจัง” ทำเป็นทักทายอย่างปกติ มิให้พิรุธสมัตถ์หรี่ตาลงอย่างสงสัย แต่วงหน้าก็ยิ้มแย้มเช่นเดิม เขาดึงเนกไทลงน้อยๆ แล้วเดินเข้าไปสวมกอดหล่อน“อะไรคะนี่”“ก็คิดถึง อยากกอด” เขาว่า สองแขนโอบร่างหล่อน แต่สองตามองลงไปเบื้องล่าง โทรศัพท์มือถือของหล่อนยังไม่วางสาย มันยังขึ้นแถบสีเขียวสว่างจ้า ไม่ปรากฏชื่อคนที่โทรเข้ามา มีแต่เบอร์ที่เป็นตัวเลขเท่านั้น เขาจนใจจะจำมันได้ครบเพราะเห็นไม่ชัดเจน และไม่กี่วินาทีต่อมาหล่อนก็ผลักเขาออก“พอแล้วค่ะ กลับมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำก่อนสิคะ เหม็นเหงื่อ”“เหม็นตรงไหน ออกจะหอม” เขาเถียง ราตรีกลอกตาไปมา“เอ่อ...ไนท์ ไนท์ว่าจะลงไปดูคุณย่าค่ะ แกเอนหลังตั้งแต่บ่าย ไม่รู้ตื่นหรือยัง” เอ่ยยิ้มๆ เอามือถือ