Share

บทที่ 969

Author: โม่เสียวชี่
“พระพุทธรูปหยกสององค์นั้น ข้าเคยมีโอกาสได้เห็นครั้งหนึ่ง มีค่ามหาศาล” ฉู่จืออี้ว่าพลางมองไปทางเฉียวเนี่ยน “เจ้ายินยอมจะให้พวกเขาหรือ?”

“พระพุทธรูปหยกสององค์นั้น ข้าไม่ใส่ใจนักหรอก ท่านย่าเป็นคนตระกูลมู่ ย่อมไม่อยากเห็นตระกูลมู่ตกต่ำ เพียงแต่...” เฉียวเนี่ยนถอนหายใจหนึ่งเฮือก “แต่ตระกูลมู่ต้องการไม่เพียงพระพุทธรูปหยกสององค์ พวกเขายังต้องการตัวข้าด้วย”

ได้ฟังดังนั้น ฉู่จืออี้ก็ขมวดคิ้วทันที น้ำเสียงก็พลันขรึมขึ้น “นั่นมันหมายความว่าอย่างไร?”

เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย “หัวหน้าตระกูลมู่บอกว่า ในห้องหนังสือท่านปู่ของมู่ซ่างเสวี่ยในสมัยยังมีชีวิต ได้แขวนภาพวาดอยู่หนึ่งภาพ เขาบอกว่าข้ากับสตรีในภาพนั้นเหมือนกันอย่างยิ่ง บอกว่าข้าคือกุญแจเปิดขุมทรัพย์”

สีหน้าของฉู่จืออี้ยิ่งอึมครึม “พวกเขาให้เจ้าติดตามไปแคว้นถังรึ?”

“อืม” เฉียวเนี่ยนพยักหน้าเล็กน้อย

ฉู่จืออี้ถามต่อ “แล้วเจ้าตอบว่าอย่างไร?”

“ข้าบอกว่า ต้องรอจนศึกสงบ รอให้ข้ากลับไปยังเมืองหลวงก่อนค่อยว่ากัน”

แท้จริงแล้วนี่เป็นเพียงคำพูดถ่วงเวลา แต่ในความคิดของนาง ตระกูลมู่ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเป็นแน่ ไม่แน่ว่าอาจจะติดตามนางกลั
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1448

    “เจ้าว่ากระไรนะ!?” ดวงตาของเฉียวเนี่ยนเบิกโพลงด้วยความตื่นตระหนก นางผุดลุกขึ้นนั่งจากหัวเตียงโดยไม่รู้ตัว!ทว่าการขยับกายอย่างรุนแรงฉุดกระชากบาดแผลฉกรรจ์ที่หน้าท้องเข้าอย่างจัง ความเจ็บปวดรวดร้าวแล่นพล่านไปถึงขั้วหัวใจประหนึ่งร่างทั้งร่างจะฉีกขาดออกจากกันอีกครา!นางเจ็บปวดจนหน้ามืดตาลาย สูดลมหายใจเฮือกใหญ่ ร่างกายร่วงหล่นกลับลงไปบนเตียงอย่างมิอาจควบคุม มือเรียวกดบาดแผลไว้แน่นราวกับจะช่วยบรรเทาความทรมานให้ทุเลาลงได้บ้างหัวใจของฉู่จืออี้บีบแน่นขึ้นมาทันที คิ้วเข้มขมวดมุ่น “เป็นอะไรหรือไม่?”เฉียวเนี่ยนส่ายหน้าช้า ๆ พลางหอบหายใจอย่างหนักหน่วง ผ่านไปครู่ใหญ่กว่านางจะรวบรวมสติที่เกือบจะหลุดลอยเพราะความเจ็บปวดเจียนตายกลับคืนมาได้ นางเบนสายตาไปทางอิ๋งชี น้ำเสียงสั่นเครือด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “...เจ้าว่าผู้ใดนะ? เซียวเหิง หรือว่าเซียวเหอ?!”อิ๋งชีมีสีหน้าเคร่งขรึม ตอบกลับเสียงขรึม “คือรุ่ยอ๋อง เซียวเหอขอรับ”เฉียวเนี่ยนหันขวับไปมองเกอซูอวิ๋นโดยสัญชาตญาณเห็นเพียงใบหน้าของอีกฝ่ายซีดเผือดไร้สีเลือด ริมฝีปากขาวซีด มือที่ประคองถ้วยโจ๊กสั่นเทาเล็กน้อยหนิงซวงเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เหตุใด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1447

    เฉียวเนี่ยนจับจ้องใบหน้าด้านข้างที่ซีดขาว บอบบาง ทว่ากลับแฝงไว้ด้วยความดื้อรั้นนั้น ก็พลันเข้าใจในใจว่านางต้องมีความลับที่มิอาจบอกกล่าวเป็นแน่นางมิได้ซักไซ้ไล่เลียงต่อ เพียงกุมมือที่เย็นเฉียบของเกอซูอวิ๋นไว้อย่างแผ่วเบา เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมทว่าเจือความอ่อนโยน “องค์หญิง ท่านยังจำวาจาที่เคยกล่าวกับข้าในค่ายทหารได้หรือไม่? ท่านกล่าวว่าข้าคือสหายที่ดีที่สุดของท่าน ในเมื่อเป็นสหายรักกัน ก็ไม่ควรปิดบังเรื่องอาการเจ็บป่วยเช่นนี้กับข้า!”เมื่อได้ยินโทสะจาง ๆ ที่เจืออยู่ในน้ำเสียงของเฉียวเนี่ยน เกอซูอวิ๋นก็ก้มหน้าลงประหนึ่งเด็กน้อยที่ทำความผิด “ขะ ข้าเพียงแต่ยังหาโอกาสบอกเจ้ามิได้...”นับตั้งแต่มาเยือนเมืองถังจิง ก็มีเรื่องราวมากมายประดังเข้ามาเฉียวเนี่ยนต้องกลัดกลุ้มกังวลใจด้วยเรื่องของเซียวเหิงมากพออยู่แล้ว นางจึงมิอยากหาเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจไปเพิ่มภาระให้อีกยามเห็นเกอซูอวิ๋นยอมรับผิดอย่างว่าง่ายเช่นนี้ เฉียวเนี่ยนไหนเลยจะหักใจตำหนินางได้ลงคอ จึงผ่อนน้ำเสียงลงทันใด พลางเอ่ยว่า “เช่นนั้นครานี้ข้าจะมิถือสา แต่หากมีคราวหน้าอีก ข้าจะโกรธท่านจริง ๆ และจะไม่สนใจท่านอีกเลย!”เฉียวเ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1446

    เฉียวเนี่ยนและฉู่จืออี้ต่างสังเกตเห็นความผิดปกติระหว่างคิ้วและท่าทีอึกอักคล้ายมีวาจาแต่ไม่กล้าเอ่ยของนาง ทั้งสองสบตากันเพียงครู่เดียวก็เข้าใจความหมายในใจกระจ่างแจ้งเฉียวเนี่ยนละสายตากลับมา เอ่ยกับหนิงซวงว่า “หนิงซวง ข้าเริ่มหิวแล้ว อยากกินโจ๊กข้าวจิงหมี่ฝีมือเจ้า”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หนิงซวงก็ดีใจจนเนื้อเต้น!รู้สึกว่าคุณหนูของตนนั้นขาดตนไม่ได้จริง ๆ จึงรีบรับคำ “เจ้าค่ะ บ่าวจะรีบไปเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ นางก็หันไปมองเกอซูอวิ๋น “วันนี้องค์หญิงเองก็ไม่ค่อยได้กินเท่าใด บ่าวจะทำมาเผื่อเยอะหน่อย ท่านกับคุณหนูของบ่าวจะได้ทานกันให้มากเจ้าค่ะ!”นางพูดพลางเดินออกไปนอกประตูฉู่จืออี้เป็นคนรู้ความยิ่งนัก เห็นดังนั้นจึงวางถ้วยยาลง เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “พวกเจ้าพี่น้องคุยกันเถิด ข้าจะไปจัดการธุระพอดี” เขาส่งสายตาปลอบประโลมให้เฉียวเนี่ยนคราหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปประตูห้องปิดลงแผ่วเบา ภายในห้องเหลือเพียงเฉียวเนี่ยนและเกอซูอวิ๋นตามลำพังเฉียวเนี่ยนเอนกายพิงหมอนนุ่มที่หัวเตียง สายตาทอดมองใบหน้าของเกอซูอวิ๋นอย่างนิ่งสงบ ก่อนจะเอ่ยขึ้นช้า ๆ “เข้ามานี่ ยื่นมือของท่านมาให้ข้า”เกอ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1445

    น้ำเสียงของนางเจือไว้ด้วยความอิดโรยบางเบาที่ยากจะสังเกตเห็นหนิงซวงแค่นเสียง กล่าวด้วยน้ำเสียงเจ็บแค้น “ให้มันจริงอย่างที่ว่าเถอะ! บ่าวล่ะอยากจะเห็นนัก หากวันใดที่เขานึกขึ้นได้ แล้วรู้ว่าตนเองลงมือแทงคุณหนูของบ่าวด้วยมือคู่นั้น จนทำให้คุณหนูต้องไปเดินวนหน้าประตูนรกมารอบหนึ่ง ข้าอยากจะรู้นักว่าเขาจะสำนึกเสียใจสักเพียงใด!” สิ้นเสียงนั้น กลับไร้ซึ่งเสียงตอบรับจากเกอซูอวิ๋นเป็นเวลานานหนิงซวงจึงอดไม่ได้ที่จะหันไปมองเกอซูอวิ๋น ถึงได้ตระหนกว่าสีหน้าของอีกฝ่ายดูย่ำแย่ผิดปกติ จึงรีบเอ่ยถามด้วยความร้อนรน “องค์หญิง ท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะ? เหตุใดสีหน้าถึงได้ดูแย่เพียงนี้!”เกอซูอวิ๋นฝืนยิ้มบาง ๆ ออกมา น้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นไร... คงเพราะเป็นห่วงเนี่ยนเนี่ยน อีกทั้งยังไม่ได้นอนทั้งคืน ตอนนี้เลยรู้สึกเพลียอยู่บ้าง…”“ตายจริง เช่นนั้นจะได้อย่างไรเจ้าคะ!” หนิงซวงรีบลุกขึ้นประคองเกอซูอวิ๋นพาเดินไปที่เตียงอย่างระมัดระวัง “เช่นนั้นท่านรีบนอนพักผ่อนเถิดเจ้าค่ะ! รักษาสุขภาพสำคัญที่สุด!”จวบจนได้เอนกายลงบนเตียง เกอซูอวิ๋นจึงค่อยรู้สึกสบายตัวขึ้นที่บริเวณท้องน้อยหนิงซวงจัดผ้าห่มให้กระชับร

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1444

    แม้ร่างกายจะอ่อนแอ แต่สติสัมปชัญญะของเฉียวเนี่ยนยังคงแจ่มชัด นางส่ายหน้าเบ าๆ พลางกล่าวว่า “ต่อให้เซียวเหิงจะสูญเสียความทรงจำ แต่นิสัยที่รอบคอบรัดกุมและมักไตร่ตรองก่อนลงมือกระทำการใด ๆ ย่อมไม่แปรเปลี่ยนไปโดยง่าย หากเป็นเพียงคำยุยงใส่ความปากเปล่าจากผู้อื่นว่าข้าคือศัตรู ต่อให้เขาคลางแคลงใจ ก็ไม่มีทางลงมือสังหารข้าทันที โดยไร้ซึ่งหลักฐานหรือยังมิได้กระจ่างแจ้งในเรื่องราวเป็นแน่!”เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่จืออี้ก็พยักหน้าเห็นพ้องด้วยทว่าในแววตาของเฉียวเนี่ยนกลับเต็มไปด้วยความสงสัย “ยามที่เขาลงมือกับข้า ท่วงท่าเด็ดขาดเหี้ยมเกรียม เห็นได้ชัดว่าปักใจเชื่อไปแล้วว่าข้าคือศัตรูคู่อาฆาต ทว่า เหตุใดเขาจึงมั่นใจถึงเพียงนั้นเล่า?”หนิงซวงสะอึกสะอื้น พึมพำอย่างไม่เข้าใจ “การสูญเสียความทรงจำก็คือจำอะไรมิได้เลยมิใช่หรือเจ้าคะ หรือว่าจะมีผู้ใดฉวยโอกาสยามที่แม่ทัพเซียวหมดสติ ทำการ... ปรับเปลี่ยนความทรงจำของเขา? ทำให้เขาเข้าใจไปว่าคุณหนูคือศัตรู?”“ปรับเปลี่ยนความทรงจำ?” เมื่อได้ยินคำนี้ หัวใจของเฉียวเนี่ยนก็กระตุกวูบอย่างรุนแรง!ชั่วพริบตานั้น นางหวนนึกถึงบันทึกในตำราแพทย์โบราณที่หุบเขาโอสถเก็บรักษาไ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1443

    ขอบตาของเขาแดงก่ำในทันที ม่านน้ำตาเอ่อล้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว น้ำเสียงสั่นเครือจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์ “เนี่ยน... เนี่ยนเนี่ยน... เจ้าฟื้นแล้ว…”เขากุมมือของเฉียวเนี่ยนที่วางทาบอยู่บนคิ้วของเขาไว้แน่น ราวกับเกรงกลัวว่าภาพตรงหน้าจะเป็นเพียงความฝันที่พร้อมจะแตกสลายได้เฉียวเนี่ยนยกยิ้มมุมปาก ทว่าด้วยร่างกายที่อ่อนแออย่างหนัก เพียงแค่รอยยิ้มบางเบาเช่นนี้ ก็ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าเต็มทีฉู่จืออี้ประคองมือของนางไว้ ก้มหน้าลง ปล่อยให้หยาดน้ำตายังคงรินไหล“ดีเหลือเกิน... ขอบใจเจ้า ขอบใจเจ้าจริง ๆ...”ขอบใจเจ้า ที่อดทนจนผ่านมาได้…ที่ด้านนอก หนิงซวงได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวจึงผลักประตูเข้ามา เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนฟื้นแล้ว น้ำตาก็ไหลพรากลงมาทันที “คุณหนู! ฟื้นแล้วหรือเจ้าคะ?! ท่านทำเอาบ่าวตกใจแทบตาย!”เกอซูอวิ๋นที่พักผ่อนอยู่ห้องข้าง ๆ ก็รีบตามมาเช่นกัน เมื่อเห็นว่าเฉียวเนี่ยนฟื้นแล้วจริง ๆ ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกแม้นางมิได้เอ่ยสิ่งใด ทว่าขอบตาก็พลอยร้อนผ่าวขึ้นมาด้วยผู้อาวุโสซุนเองก็ได้รับข่าว จึงรีบรุดมา “เจ้าสำนัก!”เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนฟื้น ผู้อาวุโสซุนก็ผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด นำทุกคนโ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status