Share

ตอนที่13หลี่เฉิน

last update Huling Na-update: 2025-07-05 22:06:36

หลี่เฉินยืนนิ่งอยู่หน้าห้องนอนของหลินจื่ออิง ดวงตาคมทอดมองประตูไม้บานเก่าที่กั้นระหว่างเขากับคนด้านในเอาไว้

ชายหนุ่มนิ่งฟังเสียงหวานละมุนของหลินจื่ออิงที่ยังคงดังแว่วออกมาให้ได้ยิน น้ำเสียงอ่อนโยนที่กำลังเล่านิทานที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนให้บุตรสาวฟัง

ริมฝีปากของชายหนุ่มกระตุกยิ้มบาง รอยยิ้มที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักปรากฏบนใบหน้าคมเข้ม ความอบอุ่นบางอย่างก่อตัวขึ้นในอกอย่างเงียบงัน

สายตาคมกริบหลุบลงมองกล่องเหล็กใบเล็กในมืออย่างลังเล ความจริงเขาตั้งใจมาพบอีกฝ่ายเพื่อนำกล่องใบนี้มาคืนให้ แต่กลับพบว่าเธอกำลังกล่อมลูกเข้านอนจึงยังไม่คิดรบกวน ได้แต่ยืนรออยู่ด้านหน้าห้อง

ไม่คิดว่าจะได้มาฟังน้ำเสียงอ่อนหวานเป็นจังหวะจะโคน กำลังเล่านิทานให้บุตรสาวฟัง

หลี่เฉินกระชับกล่องเหล็กในมือแน่นขึ้นเล็กน้อย ระบายลมหายใจออกมาแผ่วเบา ห้วงความคิดพาเขาย้อนกลับไปยังอดีต ภาพของหลินจื่ออิงในวันวานผุดขึ้นมาในความทรงจำ

หลินจื่ออิงที่เขารู้จักในอดีต คือเด็กสาวหัวอ่อน พูดน้อย และขี้อาย เธอมักจะก้มหน้าหลบสายตาผู้อื่นอยู่เสมอ เวลามีใครพูดด้วย เธอจะตอบกลับมาสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงเบาแผ่ว ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาคู่สนทนา

ทุกเช้าเขามักจะเห็นเธอขี่จักรยานไปโรงเรียน ร่างบอบบางอยู่ในชุดเครื่องแบบนักเรียนที่สะอาดสะอ้าน ผมดำขลับถูกถักเป็นเปียสองข้างอย่างเรียบร้อย ทิ้งตัวลงมาตามลาดไหล่ มีผมหน้าม้าปรกหน้าผากเล็ก ๆ ดูไร้เดียงสา

เด็กสาวดูเป็นเด็กขยันและมีระเบียบ ดวงตากลมใสของเธอสะท้อนถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการเรียน เธอไม่ใช่เด็กสาวที่โดดเด่นเป็นที่จับตามอง เป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาคนหนึ่งที่มีชีวิตเรียบง่ายและไม่หวือหวา เขาเคยไปช่วยงานครูที่สอนเธออยู่สองสามครั้ง เลยมีโอกาสได้พูดคุยและรู้จักเธออยู่บ้าง แม้ไม่ได้สนิทสนมกัน แต่ก็อดรู้สึกเอ็นดูเหมือนน้องสาวคนหนึ่งไม่ได้

จนกระทั่งเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นกับครอบครัวของเด็กสาว เรื่องพ่อแม่ของเธอเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงไปทั่วหมู่บ้าน 

ในเวลาเพียงไม่นาน จากเด็กผู้หญิงที่มีชีวิตเรียบง่าย กลับต้องเผชิญความลำบากอย่างถึงที่สุด เธอกลายเป็นคนไร้ที่พึ่ง สูญเสียทั้งพ่อและแม่ในคราวเดียวกัน ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือญาติพี่น้องกลับฉวยโอกาสกดขี่และเอาเปรียบ

เด็กสาวที่ดูบอบบางและอ่อนแอยิ่งดูน่าสงสาร เขาจำได้ดีว่าชีวิตของหลินจื่ออิงในตอนนั้นน่าสงสารมาก เขาทั้งสงสาร และเวทนาเธออยู่ลึก ๆ รู้สึกเห็นใจและพยายามช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ เพราะคิดว่าเธอกำลังอ่อนแอและต้องการที่พึ่ง 

แต่ไม่คิดเลยว่าเด็กสาวที่ดูหัวอ่อน ไร้เดียงสา จะกล้าทำเรื่องที่คาดไม่ถึง

เธอถึงกับใช้เล่ห์เหลี่ยมและแผนสกปรกเพื่อให้ได้แต่งงานกับเขา

หลินจื่ออิงถึงกับกล้าวางยาปลุกกำหนัดเขา

เรื่องที่เกิดขึ้นเปลี่ยนความสงสารที่มีเป็นความขุ่นเคืองและชิงชัง ตั้งแต่วันนั้น สายตาที่เขามีต่อหลินจื่ออิงก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เด็กสาวที่เคยดูอ่อนแอ น่าสงสาร กลับกลายเป็นผู้หญิงที่เขาไม่อยากแม้แต่จะมองหน้า

หลินจื่ออิงในสายตาเขาไม่ใช่เด็กสาวที่ไร้เดียงสาอีกแล้ว เธอเป็นคนเจ้าเล่ห์ ไร้ยางอาย และเป็นคนที่เขาไม่อยากเข้าใกล้ที่สุด

หลี่เฉินไม่เคยชอบการถูกบังคับ และการที่ต้องแต่งงานกับเธอด้วยเหตุผลเช่นนั้น ยิ่งทำให้เขาปิดกั้นตัวเองจากเธอมากขึ้นทุกที

ยิ่งเธอพยายามเข้าหา เขาก็ยิ่งตีตัวออกห่าง

ยิ่งเธอเรียกร้อง นานวันเข้าเขายิ่งรู้สึกอึดอัด

แม้เธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อเป็นภรรยาที่ดี แต่ยิ่งเธอพยายามมากเท่าไร หัวใจของเขากลับยิ่งแข็งกระด้างขึ้นเท่านั้น

เขาไม่เคยเปิดโอกาสให้เธอ ไม่เคยคิดจะมองเธอในแง่อื่นไปได้นอกจากผู้หญิงไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกลวงเขา

จนเมื่อรู้ว่าเธอตั้งครรภ์ ยอมรับว่าเขาตกใจมากและไม่เคยคาดคิดมาก่อน แต่ก็ตัดสินใจว่าจะต้องดูแลเธอให้ดี แม้ไม่มีความรักต่อกัน ในเมื่อชีวิตของเด็กคนหนึ่งกำลังจะเกิดขึ้นมา เขาก็ควรจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ทั้งในฐานะสามีและฐานะพ่อ

เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้อีกฝ่ายมีชีวิตที่ดีไม่ลำบาก แม้จะยังไม่อาจเปิดใจให้เธอได้ก็ตาม

แต่แล้วทุกอย่างกลับพังทลายลงอีกครั้ง เมื่อเขากับเธอมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน และเธอพยายามฆ่าตัวตาย แม้จะรอดมาได้แต่ก็กลายเป็นคนเสียสติ 

เขายอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นความผิดของเขาเอง

แม้เขาจะไม่เคยรักเธอ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาต้องการให้เธอเดินมาถึงจุดนั้น

ความรู้สึกผิดกัดกินหัวใจเขามาตลอด

ทุกครั้งที่มองเห็นเธอไร้สติ เอาแต่เหม่อลอย หรือพูดจาเลอะเลือน เขาก็อดไม่ได้ที่จะย้อนคิดถึงอดีต

หากวันนั้นเขาเลือกที่จะปฏิบัติต่อเธอให้ดีกว่านี้ หากเขาไม่เย็นชากับเธอมากเกินไป หากเขาไม่ดึงดันและทำตามความต้องการของเธอ บางทีทุกอย่างอาจไม่จบลงแบบนี้

เขาจึงคอยบอกกับตัวเองเสมอ ว่าหากวันหนึ่งเธอกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เขาจะชดใช้ทุกอย่างให้เธอ ทำดีกับเธอให้มาก และจะไม่ทำให้เธอเสียใจอีก เขาจะดูแลเธอกับลูกไปตลอดชีวิต

แต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ต้องการแล้ว ผู้หญิงที่เคยทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ครอบครองเขา กลับไม่แม้แต่จะหันมองเขาด้วยซ้ำ เธอไม่มีท่าทีว่าจะยื้อเขาไว้อีก

เธอไม่ได้มองเขาด้วยแววตาเว้าวอนอีกแล้ว ไม่มีคำพูดรบเร้า ไม่มีการออดอ้อน ไม่มีความพยายามจะเข้ามาใกล้ และยึดติดกับเขาอย่างที่เคยเป็น

หลินจื่ออิงเปลี่ยนไปมาก ราวกับเป็นคนละคน และมันทำให้เขารู้สึกไม่คุ้นเคย ได้แต่คิดว่าเป็นเพราะอาการป่วยที่เกิดขึ้น จึงทำให้เธอดูเปลี่ยนไป

หญิงสาวที่เขาเคยมองว่าอ่อนแอ เปราะบาง เอาแต่ร้องไห้เมื่อไม่ได้ในสิ่งที่ตนต้องการ ร้องไห้กับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เพียงแค่การจุดเตาไฟไม่ได้ ผู้หญิงที่เอาแต่ทำหน้าเศร้า ตามติดเขา ร่ำร้องว่าเธออยู่ไม่ได้ถ้าหากไร้เขาคอยปกป้อง และต้องการที่พึ่งอยู่เสมอ บัดนี้กลับเข้มแข็งขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เธอไม่ใช่เด็กสาวที่เอาแต่พึ่งพาเขาอีกต่อไป

หลินจื่ออิงในตอนนี้ดูเข้มแข็งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

แววตาของเธอแน่วแน่ขึ้น ท่วงท่าก็มั่นคงขึ้น ไม่ได้ดูอ่อนแอหรือทำตัวน่าสงสารเหมือนในอดีตอีกแล้ว

ความเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เขารู้สึกแปลกใจ และอดไม่ได้ที่จะเฝ้ามองเธอ

ดวงตาคู่คมฉายแววสับสน เขาควรจะดีใจที่เห็นเธอเข้มแข็ง แต่ความรู้สึกภายในใจของเขาตอนนี้ ไม่อาจอธิบายได้เลยจริง ๆ ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นในใจเงียบ ๆ โดยที่เขาเองก็ไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร และเขาก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า เป็นแบบนี้ดีแล้วจริงหรือ

หลี่เฉินเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง จ้องมองประตูไม้ตรงหน้าที่ขวางกั้นระหว่างเขากับเธอด้วยความไม่เข้าใจ พลางถอนหายใจแผ่วเบา ในใจยังคงสับสนกับความรู้สึกที่เปลี่ยนไปโดยไม่ทันรู้ตัว เสียงหวานที่เคยสร้างความรำคาญให้เขา ในวันนี้กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด

จนกระทั่งตอนนี้ ภายในห้องดูเหมือนเสียงจะเงียบไปแล้ว บุตรสาวของเขาคงจะหลับแล้ว แต่เขากลับไม่ได้เคาะประตู หรือเอ่ยเรียกคนในห้อง ทำเพียงยืนเงียบๆ นิ่งๆ อยู่อย่างนั้น ราวกับกำลังชั่งใจว่าควรจะยกมือขึ้นเคาะประตู หรือว่าหันหลังกลับไปก่อนดี 

แต่ในขณะที่เขากำลังลังเล บานประตูตรงหน้าก็ถูกเปิดออก 

เสียงเอี๊ยดแผ่วเบาดังขึ้น ตามมาด้วยร่างบอบบางที่ก้าวออกมายืนอยู่ตรงหน้า

"เอ่อ...คุณ มีอะไรหรือเปล่าคะ"

เสียงหวานของหลินจื่ออิงเอ่ยถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ ดวงตากลมโตสะท้อนแสงไฟสลัวจากตะเกียงน้ำมันในมือ จ้องมองเขาราวกับไม่คาดคิดว่าจะพบกันในยามนี้

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่52 บทส่งท้าย

    ฤดูใบไม้ผลิวนเวียนกลับมาอีกครั้ง ต้นไผ่ข้างบ้านผลิหน่อใหม่สูงเรียงราย ลู่ลมเบาๆ เหมือนกำลังเต้นรำตามเสียงหัวเราะของเด็กน้อยที่วิ่งเล่นอยู่หน้าบ้านเหยียนเหยียนโตขึ้นมากแล้ว วันนี้เธอสวมชุดนักเรียนชั้นประถมหนึ่ง ใบหน้าที่เคยกลมป้อมตอนเล็กๆ เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสาวน้อยท่าทางฉลาด ช่างคิด ช่างฝันและข้างกายเธอ คือเจ้าตัวเล็กที่เพิ่งหัดเดิน เด็กชายตัวกลมอารมณ์ดีที่กำลังยิ้มแฉ่ง ส่งเสียงอ้อแอ้อยู่ในอ้อมแขนของมารดาหลี่ซื่อหาน เด็กชายวัยขวบกว่า ผู้เป็นที่รักของทุกคน เจ้าซาลาเปาน้อยของบ้าน หรือเสี่ยวหานหาน ของพี่สาวเหยียนเหยียนภาพของทั้งสองพี่น้องที่อยู่เคียงกันท่ามกลางแสงแดดอ่อนของยามบ่าย ราวกับภาพวาดแสนอบอุ่นที่ไม่มีคำบรรยายใดจะเทียบได้จื่ออิงเข้าสู่บทบาทภรรยาและคุณแม่อย่างเต็มตัว เธอกลายเป็นหัวใจหลักของบ้าน เป็นคนที่ดูแลทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ภายในบ้าน ตอนเช้า เธอจะลุกขึ้นก่อนใคร เตรียมอาหารเช้าให้สามีและลูกๆ พร้อมเสียงปลุกอ่อนโยนที่ทำให้บ้านทั้งหลังเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดใสช่วงกลางวัน เธอมักใช้เวลาอยู่กับเจ้าตัวเล็ก เสี่ยวหานหาน ที่กำลังอยู่ในวัยซน ชอบยิ้ม ชอบหัวเราะ และชอบเกาะเธอไม่ห่

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่51จบบริบูรณ์

    วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีตามปฏิทินจันทรคติ หอร้อยรส ปิดให้บริการเป็นเวลาสามวัน เพื่อให้ทุกคนได้เฉลิมฉลองและใช้เวลาร่วมกับครอบครัว จื่ออิงยืนอยู่หน้าบ้าน มือประคองถ้วยน้ำเต้าหู้อุ่นๆ เอาไว้ ใบหน้าของเธอรับแสงแดดยามเย็นที่นุ่มนวล ลมหนาวต้นปีพัดแผ่วเบาผ่านปลายผม พาเอากลิ่นหอมของขนมปีใหม่ลอยโชยมาแตะจมูก ปีนี้ นับว่าเป็นปีใหม่ปีแรกที่เธอได้ฉลองกับครอบครัวของตัวเองในชีวิตนี้บ้านเรือนทั่วหมู่บ้านต่างตกแต่งด้วยสีแดงสดใส โคมแดงถูกแขวนเรียงรายไหวแกว่งตามแรงลม ผ้าสีแดงผืนยาวห้อยประดับอยู่เหนือประตู ข้างฝาผนังมีคำอวยพรปีใหม่เขียนด้วยพู่กันจีนสีดำอย่างประณีตบนกระดาษแดงสดคำว่า "ซินเหนียนไคว่เล่อ" และ "เจ้าไฉจิ้นเป้า" แขวนไว้เป็นสิริมงคล สื่อถึงความหวังและความมั่งมีในปีที่กำลังเริ่มต้นกลิ่นธูปหอมจากโต๊ะบูชาประจำบ้านและกลิ่นขนมหวานแบบดั้งเดิมลอยคลุ้งในอากาศ เสียงประทัดดังเปรี้ยงปร้างเป็นระยะ สร้างความคึกคักไปทั่วทั้งหมู่บ้าน แทรกด้วยเสียงหัวเราะสดใสของเด็กๆ ที่วิ่งเล่นอยู่ตามท้องถนน พวกเขาวิ่งไล่กันอย่างสนุกสนาน มือเล็กๆ ถือซองแดงคนละใบ ดวงตาเป็นประกายด้วยความสุขและตื่นเต้นบรรยากาศในวันนี้อบอวลไปด

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่50คำตอบเดียว

    เช้าวันถัดมา ท้องฟ้าสดใสไร้เมฆหมอก ลมยามเช้าเย็นสบายพัดเอื่อยเข้ามาในลานหน้าร้าน กลิ่นหอมจางๆ ของดอกไม้จากกระถางริมทางลอยปะปนมากับสายลม เสียงใบไม้เสียดสีกันแผ่วเบา ช่วยกลบความเงียบที่ก่อตัวขึ้นเมื่อมีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่เจียงซินหยาแต่งกายงดงามอย่างที่เคยเป็นยืนอยู่ใต้เงาไม้ ใบหน้าแต่งแต้มอย่างประณีต ท่าทางน่ารักสดใสสมกับภาพลักษณ์ของเธอเสมอมา ใบหน้าดูบริสุทธิ์ผ่องใส แต่แววตากลับซ่อนความหวังเอาไว้อย่างชัดเจน เธอยืนรออยู่เพียงไม่กี่อึดใจ หลี่เฉินก็เดินออกมาจากด้านในร้านชายหนุ่มหยุดยืนตรงหน้าเธอ สีหน้าสงบ ดวงตาแน่วแน่"ซินหยา"หลี่เฉินเอ่ยเรียกขึ้นก่อน น้ำเสียงราบเรียบแต่ชัดเจน"ฉันมาเอาคำตอบจากพี่ค่ะ"เจียงซินหยาเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม ดวงตาจับจ้องอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาไม่วางตา"พี่จะเข้าสอบเกาเข่าใช่ไหมคะ ตอนนี้ยังทัน ถ้าพี่รีบตัดสินใจ"เสียงของเธอนุ่มนวล ทุกถ้อยคำเต็มไปด้วยความคาดหวังที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนหลี่เฉินเงียบไปเพียงครู่หนึ่ง สายตาเขานิ่งสงบก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ"ฉันตัดสินใจแล้ว"เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่มั่นคง"ฉันจะไม่เข้าสอบ"เจียงซินหยาเลิกคิ้วเล็กน้อย ความประหลาดใจแฝงอย

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่49เขาได้เลือกแล้ว

    นับจากวันนั้น จื่ออิงก็ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องสอบเกาเข่าอีกเลย เธอเลือกที่จะเงียบ ไม่ใช่เพราะไม่สนใจ แต่เพราะอยากให้หลี่เฉินได้คิดและตัดสินใจด้วยตัวเอง โดยไม่มีแรงกดดันจากเธอแม้ในใจจะมีความห่วงใยอยู่ลึกๆ แต่เธอก็ซ่อนมันไว้ เธอเชื่อว่า การให้เขาได้ใช้หัวใจตัวเองเลือกทางเดิน คือสิ่งที่ดีที่สุดจื่ออิงยังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิม ตื่นแต่เช้า เตรียมอาหารให้ลูกและสามี ดูแลร้าน ดูแลบ้าน ทำหน้าที่ของภรรยา แม่ และเจ้าของกิจการเล็กๆ อย่างดีที่สุดแต่หากมองให้ลึกลงไปในแววตาของเธอ จะเห็นความอ่อนโยนแบบใหม่ ความอ่อนโยนที่มาจากการยอมรับ และพร้อมจะเคียงข้างสามี ไม่ว่าเขาจะเลือกทางไหนก็ตามยามเย็นวันหนึ่ง หลังจากวันอันแสนวุ่นวายและเหนื่อยล้าจบลง แสงสุดท้ายของวันทอดยาวผ่านช่องหน้าต่าง เงาของต้นไผ่ข้างหลังบ้านไหวไกวตามลมหลี่เฉินยืนอยู่หลังบ้านเพียงลำพัง มองภาพท้องฟ้าที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีทองอมส้ม ดวงตาของเขานิ่งสงบ แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยเสียงของความคิดมากมายที่กำลังประดังประเดเข้ามาการสอบเกาเข่ากำลังใกล้เข้ามาทุกทีเรื่องนี้วนเวียนอยู่ในใจเขาตลอดหลายวันมานี้ เขาเคยฝันอยากจะเป็นอาจารย์ อยากเรียนต่อ อยากรู้ว่า

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่48เคารพทุกการตัดสินใจ

    แสงแดดยามเช้าค่อยๆ สาดเข้ามาทางหน้าต่าง ลูบไล้ผ่านผ้าม่านบางเบา บนเตียง ผ้าปูเตียงยับย่นจากรอยสัมผัสแห่งความวาบหวามเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา หลี่เฉินลืมตาขึ้นช้าๆ แขนยังโอบภรรยาคนงามเอาไว้แนบอก ร่างเล็กของจื่ออิงซุกตัวอย่างสงบอยู่ในอ้อมกอดของเขา ชายหนุ่มมองดูใบหน้าของภรรยาที่ยังซุกอยู่ตรงอกด้วยแววตาอ่อนโยน พลางยิ้มจางๆ ออกมาอย่างมีความสุขนิ้วมือของเขาเกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าผากของภรรยา ก่อนจะก้มลงหอมขมับเธออย่างแผ่วเบา ราวกับไม่อยากให้เธอตื่นจากความสงบสุขนี้จื่ออิงขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า ดวงตายังคงฉ่ำปรือจากความง่วง ทว่าก็เปล่งประกายอ่อนหวานเมื่อมองเห็นใบหน้าของเขา"ตื่นแล้วเหรอครับ" หลี่เฉินกระซิบถาม น้ำเสียงทุ้มนุ่มเปี่ยมด้วยความอบอุ่นจื่ออิงยิ้มน้อยๆ พลางพยักหน้าเบาๆ เธอช้อนสายตาขึ้นมองเขา ในแววตาของหลี่เฉินเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ลึกซึ้งจนหัวใจเธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกโอบกอดอย่างอ่อนโยนที่สุด"สามีคะ"เธอเรียกเขาเสียงเบาเสียงของเธอเบาและนุ่ม ราวกับกลัวว่าคำพูดจะทำลายความสงบที่รายล้อมอยู่"หืม?" หลี่เฉินขานรับพลางโอบกอดเธอแน่นขึ้นเล็กน้อย"ขอบคุณนะคะ"เธอพูดแค่น

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่47สัมผัสแห่งรัก

    ค่ำคืนนั้นบรรยากาศในบ้านหลังเล็กเงียบกว่าทุกวัน ไม่มีเสียงพูดคุย ไม่มีบทสนทนาเหมือนเคย ต่างคนต่างจมอยู่ในห้วงของความคิดของตัวเอง เต็มไปด้วยความคิดมากมายที่พูดออกมาไม่ได้มีเพียงเสียงหัวเราะของเหยียนเหยียน เมื่อได้ฟังนิทานก่อนนอนดังแว่วมาเป็นระยะจากในห้องนอน เสียงใสๆ นั้นช่วยแต่งแต้มบรรยากาศให้ดูอบอุ่นขึ้นนิดหน่อย ก่อนที่ทุกอย่างจะค่อยๆ เงียบลงเมื่อเด็กน้อยเข้าสู่นิทราเมื่อส่งบุตรสาวเข้านอนเรียบร้อยแล้ว จื่ออิงก็ระบายลมหายใจออกมาแผ่วเบา แต่ในใจของเธอกลับเต็มไปด้วยความหนักอึ้งที่ไม่อาจระบายออก ได้แต่เดินมานั่งตรงโต๊ะทำงานเล็กๆ หยิบบัญชีของร้านที่ทำค้างเอาไว้ขึ้นมาดูอีกครั้ง ตัวเลขในตารางเดิมๆ ยังอยู่ตรงหน้า แต่ก็ยังคงเป็นเช่นเดิม ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน เธอก็ไม่อาจจดจ่ออยู่กับมันได้ใจของเธอล่องลอยไปไกล ไปอยู่กับความกังวลที่กำลังถาโถม กับเรื่องที่ไม่มีใครช่วยตอบได้ นอกจากตัวเธอเองหลี่เฉินที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ เดินออกจากห้องน้ำในชุดอยู่บ้านแบบสบายๆ กลิ่นสบู่อ่อนๆ ยังติดอยู่บนผิว เขาใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กค่อยๆ ซับเส้นผมที่ยังเปียกน้ำ แต่พอเห็นภรรยานั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงาน เขาก็หยุดเท้าเอาไว้ยืนมอ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status