ส่วนทางด้านพลอยใส เธอเปิดประตูเข้ามาในห้องเล็กๆที่เช่าเอาไว้พักอาศัยตามลำพัง เธอเดินทางเข้ากรุงเทพอีกครั้ง เพราะเส้นทางคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต่างจังหวัด มันไม่ง่ายนัก
หลังคลอดลูกพลอยใสก็ไม่ได้ทำงานอะไรอยู่เป็นปี เพราะอยู่ในช่วงพักฟื้นและต้องให้นมเจ้าตัวเล็ก หลังจากนั้นก็เริ่มขยับขยายขายของในตลาด แต่มันก็ไม่พอกิน เลยตัดสินใจ เข้ามาทำงานในกรุงเทพอีกครั้งหนึ่ง แรกๆงานโชว์เงือกของเธอมีให้ทำแทบจะทุกวัน แต่ทว่าหลังๆพอเศษฐกิจไม่ดีเหลือแค่วันเสาร์กับอาทิตย์ พลอยใสจึงดิ้นรนหางานทำเพิ่ม งานที่เธอคิดได้คือไปเป็นสาวนั่งดริ้ง เพราะเห็นไนท์คลับที่อยู่ไม่ไกลจากห้องเช่าเท่าไหร่นัก เธอตัดสินใจไปสมัครงานแบบไม่ลังเล ชีวิตมันผ่านอะไรมามาก มันไม่มีอะไรที่จะต้องเสียหายแล้วหละ หญิงสาวบอกตัวเอง ก่อนที่จะเดินหน้าไปสมัครงาน แต่ทว่าดันไปเจอเจ้ากรรมนายเวร เฮ้อ!! หญิงสาวถอนหายใจแรงๆก่อนจะลุกไปอาบน้ำ จะได้หลับนอนเสียที ครืด~ครืด~ แต่ในขณะนั้นเองโทรศัพท์เครื่องเก่าก็มีสายโทรเข้ามา พลอยใสกดยิ้มมุมปากแล้วกดรับ "ว่าไงจ้ะ เคที่" เคที่หรือว่าเมธี เพื่อนสนิทที่ร่างกายเป็นชาย แต่หัวใจเป็นผู้หญิงโทรเข้ามา "พรุ่งนี้มีงานแสดงเงือก หรือเปล่าย๊ะหล่อน" เมธีจีบปากจีบคอคุยกัยพลอยใส ถ้าไม่สนิทกันจริงเขาจะไม่ใช้เสียงสองอย่างนี้ เขาจะเก๊กแมน เก๊กหล่อ จนสาวๆมองจนเหลียวหลัง แต่นี่นังชะนีน้อย ที่รู้จักตั้งแต่ปีหนึ่ง จึงไม่ต้องระวังอะไร เพราะยังไงก็รู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้ว "มี งานแสดงที่ห้าง××น่ะ เดือนนี้มีงานแค่สี่วัน" ปกติเธอมีงานแสดงแทบจะทุกวัน แต่เดือนนี้ครึ่งเดือนพึ่งแสดงไปสี่ครั้งเอง "อืม หลังโควิดเศรษฐกิจมันไม่ดีน่ะเธอ แล้วงานใหม่เป็นยังไงบ้าง" เมธียังเป็นห่วงเพื่อนรักเสมอ มีอะไรช่วยเหลือกันได้ ก็ช่วยเหลือกัน "แย่ว่ะแก ดันไปเจอเจ้ากรรมนายเวร" "ใคร"? "พี่คริส" "ห๊ะ อีตามาเฟียผัวเก่าแกนั่นเหรอ" พลอยใสเคยเล่าเรื่องคริสเตียนโน่ให้เมธีฟังบ่อยๆ จนอีกฝ่ายจำได้จนขึ้นใจ แต่ทว่าสองคนนี้ไม่เคยเจอกันหรอก เพราะตอนนั้นพลอยใสเป็นแค่เมียเก็บลับๆหรือว่านางบำเรอ นอกจากมาริสา ที่ทำงานด้วยกันในสนามแข่งแล้ว เพื่อนฝูงคนอื่นๆของพลอยใส ก็ไม่มีใครเคยเจอกับคริสเตียนโน่ตัวเป็นๆเลยสักคน "แล้วเขาว่าไงบ้าง เขาถามถึงเรื่องลูกบ้างหรือเปล่า" "ไม่นะ สงสัยจะไม่รู้ ก็ดีแล้วหละ เราก็ไม่อยากให้เขารู้เหมือนกัน" "ดีแล้วหละ ไม่ต้องให้รู้ ใจร้ายใจดำขนาดนั้น ไม่เหมาะที่จะเป็นพ่อคน" เมธีจำทุกอย่างที่เพื่อนเล่าให้ฟังได้ดี และโกรธแค้นแทนเพื่อนมาก ตอนนั้น ตอนที่คริสเตียนโน่ ไล่ให้พลอยใสไปเอาเด็กออก พอเธอกลับไปอยู่บ้านพ่อที่ต่างจังหวัดก็โดนญาติๆรังเกียจ เมธีจึงชักชวนให้พลอยใส ไปอยู่ที่โคราชด้วยกัน เพราะบ้านเกิดของเขาอยู่ที่โคราช โดยมีป้าลำไย คุณแม่ของเมธี ให้ความช่วยเหลือเรื่อยมา จนกระทั่ง เพชรกล้าอายุสี่ขวบ ประจวบกับตอนนั้นมันขายของไม่ค่อยดี พลอยใสจึงเข้ามาทำงานที่เมืองหลวง แต่ก็ห่วงลูกตลอดเวลา "เออ เราจะกลับบ้านน่ะ จะฝากเงินให้แม่หรือเปล่า" "เราโอนไปแล้ว โอนไปตั้งแต่สองสามวันก่อน " เธอบอกกับเมธีไปตามความจริง เพราะค่าใช้จ่าย ค่าขนมค่าโรงเรียนอนุบาล พลอยใสจะโอนตรงเวลาทุกเดือน "เออ ถ้าแม่แกเพลาๆเรื่องเหล้ากับเล่นหวย แกคงไม่ลำบากขนาดนี้หรอก" เมธีพูดไปตามความจริง "อือ แต่แม่ก็รับปากแล้วนะว่าจะเพลาๆลง" "ให้มันได้อย่างนั้นเถอะ วันก่อนแม่ยังบอกว่าเมาหนัก จนลืมไปรับเจ้าเพชรกล้า ดีนะที่แม่เราไปรับมาให้ แต่ก็ต้องหาข้าวหาน้ำให้เพชรกล้ากินก่อน เพราะยายพิมพ์เมามาก จนหลับน็อกไปเลย" พอได้ยินอย่างนี้ พลอยใสนึกเป็นห่วงลูกขึ้นมาทันที "ฉันจะทำยังไงดีวะแก เราจะพาแม่กับลูกมาอยู่กรุงเทพด้วยกันเลยไหม หรือว่าฉันจะกลับไปอยู่ที่บ้านดี" พลอยใสปรึกษาเพื่อนรักอย่างกลัดกลุ้ม มีอะไรเธอจะเล่าให้เขาฟังทุกอย่าง เพราะเมธีเป็นเพื่อนที่หวังดี "กลับไปแล้วจะเอาอะไรกิน ในตลาดก็แทบจะไม่มีคนเดิน ตั้งแต่มีห้างใหม่มาเปิด เขาก็ไปเดินห้างกันหมด เอาหละๆฉันกลับบ้าน เดี๋ยวจะไปดูให้เอง" "เออ ขอบใจว่ะแก แกนี่มันเป็นแม่พระของฉันจริงๆ เคที่" "อือ ก็เรามันเป็นเพื่อนยาก ถ้าไม่มีแกในตอนนั้น ฉันก็ไม่รอดเหมือนกัน" เมธีหวนคิดถึงความหลังครั้งเก่าที่พลอยใสเคยช่วยเหลือตัวเองไว้ ทั้งคู่คุยกันอยู่สักพัก หลังจากนั้นก็วางสายไป เช้าวันต่อมา พลอยใสรีบอาบน้ำแต่งตัว เพื่อไปแสดงเป็นนางเงือกในห้างที่อยู่ไม่ไกลนัก มันเป็นงานที่เสี่ยง เธอต้องใส่ชุดนางเงือก เพื่อดำลงไปในอุโมงค์ ที่ทำเป็นมหาสมุทรจำลอง เพื่อทักทายกับเด็กๆ หญิงสาวใส่บราเซียที่คล้ายๆกับเปลือกหอย ใส่กางเกงเลคกิ้งที่มันแนบไปกับขา และทีมงานก็ค่อยเอาหางนางเงือกมาให้เธอสวม ก่อนจะปล่อยพลอยใสลงไปในน้ำ "โบกมือทักทายกับเด็กๆ ถ้ารู้สึกว่าไม่ไหว รีบดำขึ้นมานะ" พี่อ๊อดบอกกับเธอ งานของพลอยใสจะไม่ได้ใส่อุปกรณ์ที่เป็นเครื่องช่วยหายใจ ไม่มีอุปกรณ์เซฟตี้อะไรทั้งนั้น ผู้แสดงต้องดำน้ำเก่ง และผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี "เย้ นางเงือกๆ" "เย้ๆ" เสียงเด็กร้องดีใจ ที่เห็นนางเงือกแสนสวย โบกมือทักทาย อยู่ในตู้กระจก เธอดำผุดดำว่าย ทักทายเด็กๆอยู่หลายรอบ จนกระทั่งถึงเวลาเลิกงาน "นี่ค่าจ้างสำหรับวันนี้" พี่อ๊อดส่งแบงค์พันสามสี่ใบให้พลอยใส ถึงมันจะเป็นงานที่เสี่ยง แต่ก็ได้ค่าจ้างคุ้มค่าเลยทีเดียว "แล้วพลอยจะมีงานอีกเมื่อไหร่คะพี่อ๊อด" เธอรีบถามออกไป อยากจะเก็บเงินให้ได้เยอะๆ และพาแม่กับลูกมาอยู่ด้วยกัน ยิ่งได้ยินเมธีพูดอย่างนั้น พลอยใสยิ่งเป็นห่วงลูกเข้าไปใหญ่ "เสาร์อาทิตย์หน้าน่ะ ตอนนี้เศรษฐกิจมันไม่ค่อยดี พี่จ้างได้แค่วันเสาร์กับอาทิตย์ คนจัดอีเวนท์บอกเธอ ทำให้พลอยใสหน้าเศร้าลงทันที "ถ้ามีที่ไหนต้องการคนแสดง หรือมีงานเพิ่ม พี่อ๊อดบอกพลอยด้วยนะคะ" "ได้ ถ้ามีพี่จะรีบบอกพลอย" อ๊อด หรือว่าอนุชิตรับปากกับเธอ ก่อนที่พลอยใสจะรีบเก็บของ เพราะต้องไปทำงานต่อที่ไนท์คลับ แต่ทว่ามันยังเหลือเวลาอีกสองชั่วโมง หญิงสาวจึงเดินเตร็ดเตร่อยู่ในห้าง เพราะขับรถกลับบ้านมันก็เปลืองน้ำมัน พลอยใสเดินดูเสื้อผ้าไปทั่ว แต่ไม่ซื้ออะไร เธอต้องประหยัด เพราะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เป็นผู้หญิงที่เลี้ยงลูกตามลำพัง อะไรประหยัดได้ก็ประหยัด เธอต้องคิดถึงเพชกล้าไว้ก่อน แต่ถ้าเป็นของของลูก พลอยใสไม่ลังเลที่จะตัดสินใจ ว่าแล้วก็เดินไปทางแผนกเสื้อผ้าเด็ก เผื่อมีอะไรน่าสนใจ เพชรกล้าชอบสไปรเด้อร์แมนเป็นชีวิตจิตใจ พลอยใสจึงไม่ลังเลที่จะซื้อให้ลูก หญิงสาวเดินไปดูชุดไอ้แมงมุม พร้อมหมวกหน้ากากสไปรเดอร์แมน และควักเงินพันกว่าบาทซื้อเอามาเก็บไว้ ปีใหม่เธอจะนำไปให้เป็นของขวัญลูกชายเพียงคนเดียว หลังจากนั้นหญิงสางก็ขับรถเข้ามาที่ไนท์คลับ จนกว่าจะถึงเวลาเลิกงาน แต่ทว่าพอเปิดประตูเข้าไปเท่านั้น เรยา ก็มายืนรออยู่ด้านหน้าประตู เด็กนั่งดริ้งคนสนิทของเจ้านายคนเก่า มองพลอยใสอย่างเกลียดชัง "สวัสดีค่ะ"หญิงสาวยกมือไหว้เรยาแบบงงๆ เธอพึ่งมาทำงาน และคิดว่าตัวเองยังไม่ได้สร้างศัตตรูที่ไหนนะ แต่ดูเหมือนว่าอีกคนอยากจะหาเรื่องมากกว่า " ต้องทำบุญด้วยอะไรนะ ฉันถึงจะได้ขึ้นชั้นสี่ไปทำงานกับเจ้านาย" เรยาไม่รับไหว้ ไม่ทักทาย แถมยังพูดจากระแนะกระแหนใส่เธออีกต่างหาก "พลอยแค่ขึ้นไปทำบัญชีค่ะ ไม่มีอะไรทั้งนั้น" พลอยใสพยายามอธิบาย แต่อีกฝ่ายไม่คิดอย่างนั้น เรยาต้องการเข้าหาคริสเตียนโน่ แต่ดูเหมือว่าเจ้านายคนใหม่ ไม่ค่อยสนใจ "เหรอ จากเด็กนั่งดริ้งขึ้นไปทำบัญชีนี่มันคนละสายงานกันเลยนะ ว่าแต่ทำไมเขาต้องให้เธอขึ้นไป ในเมื่อคนทำบัญชีก็มีมากมาย" อันนี้พลอยใสก็แปลกใจเหมือนกัน เพราะที่นี่จะมีฝ่ายการเงินและฝ่ายบัญชีประจำอยู่แล้ว ไม่เห็นมีความจำเป็นอะไร ที่พลอยใสจะต้องขึ้นไปทำบัญชีบนนั้นเลย หญิงสาวกำลังคิดหาคำตอบ แต่คนที่ให้คำตอบเรื่องนี้ได้ดี เดินเข้ามาพูดแทน "ถ้าคุณเรยาสงสัยอะไร ถามผมดีกว่านะครับ เพราะผมเป็นคนสั่งให้เธอทำ" คริสเตียนโน่ เข้ามาคุมไนท์คลับ เห็นเรยายืนพูดกับพลอยใสอยู่ตรงนั้น จึงเดินเข้ามาไขข้อข้องใจให้เธอ "เรย์ทราบค่ะว่ามันเป็นคำสั่งของคุณคริส ถ้าอย่างนั้นเรย์ไม่ยุ่งแล้วนะคะ" พอเห็นสายตาดุดันของเจ้านายคนใหม่ เรยารีบยกมือไหว้เขาทันที " ขึ้นไปทำงานสิ รออะไร" ชายหนุ่มหันมาบอกพลอยใส ก่อนจะจูงมือหญิงสาว เดินขึ้นลิฟต์ไปด้วยกัน ท่ามกลางสายตาของเด็กเสิร์ฟและสาวๆนั่งดริ้งที่พากันมองมาอย่างงุนงง พลอยใสพึ่งจะมาทำงาน แต่ดูเหมือนว่า จะรู้จักกับเจ้านายคนใหม่มาเนิ่นนาน "ปล่อยค่ะ" พลอยใสสะบัดแขนเล็กออกจากอุ้งมือที่ลากเธอเข้าลิฟต์อย่างรังเกียจ ถ้าเป็นไปได้ พลอยใสไม่อยากจะเข้าใกล้ผู้ชายคนนี้เลย "ทำไม จับนิดจับหน่อย ทำเป็นเล่นตัว เมื่อก่อนพี่จับมากกว่านี้อีก" ว่าแล้วก็ลอบมองหน้าอกไซส์38' มันมันซุกซ่อนอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวของเธอ หุ่นพลอยใสยังเหมือนเดิม เขาไม่อยากจะคิดเลยว่า ตอนนั้นเธอไม่ได้เอาลูกออกไปจริงๆ "พี่ถามอะไรหน่อยได้ไหม" ว่าแล้วก็ตัดสินใจถามออกไปตรงๆ "ถามอะไรคะ " คนฟังขยับถอยหนีอย่างหวาดระแวง อย่าบอกนะ ว่าเขาจะถามเรื่องลูกของเธอ ตึ้ง! เสียงลิฟต์เปิดที่ชั้นสี่ พลอยใสรีบเดินออกจากลิฟต์ไปทันที "เดี๋ยวก่อน! พี่จะถามว่า ลูกของเรายังอยู่หรือเปล่า" คราวนี้หัวใจของพลอยใสแทบหล่นลงไปที่ตาตุ่ม เธอคิดว่าเขาจะไม่ถามเรื่องนี้เสียแล้ว ความรู้สึกหลากหลายประเดประดังเข้ามาในหัวใจของหญิงสาว รวมทั้งเรื่องราวเจ็บช้ำในอดีต ที่เขาเคยบอกให้ไปเอาเด็กออกตอนนั้น พลอยใสจดจำไม่เคยลืม "ฉันไปเอาออก ตั้งแต่ที่คุณบอกแล้วค่ะ" เธอพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น ความเจ็บช้ำมันผ่านไปแล้ว ตอนนี้เธอจะเป็นพลอยใสคนใหม่ ที่ไม่มีวันเสียน้ำตา "แต่มาริสาบอกว่าพลอยยังเก็บลูกของเราไว้ แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน" เขาเอามาริสาขึ้นมาอ้าง ก็คริสเตียนโน่เป็นเพื่อนสนิทของไต้ฝุ่นนี่นะ มันไม่แปลกที่มาริสาจะบอกไป แต่พลอยใส จะไม่มีวันให้ผู้ชายคนนี้ ได้เจอกับเพชรกล้าเป็นอันขาด "ฉันบอกมาริสาไปอย่างนั้น แต่หลังจากกลับบ้าน ฉันก็ไปเอาออก" เธอบอกกับเขาอย่างเฉยชา ก่อนจะเดินนำหน้า เข้าห้องไปทำงาน : : : สมน้ำหน้าพี่คริสเตียนโน่ วันนั้นบอกให้เขาไปเอาเด็กออก วันนี้กลับถามหา มันใช่เหรอคะหลายอาทิตย์ผ่านไป ชีวิตของพลอยใสดูเหมือนว่าปกติสุขมาก เพราะเขาคนนั้นหายไป ได้ข่าวว่าเขาไปดูแลคาสิโนแห่งใหม่ในปอยเปต ซึ่งเธอได้ยินข่าวมาว่าหุ้นกันกับเพื่อนเปิดคาสิโนแห่งใหม่ใหญ่โตเลยทีเดียว คนรวยก็อย่างนี้แหละ เขาไม่มีเวลาใส่ใจเธอนักหรอก แต่มันก็ดีเหมือนกัน รู้สึกหายใจลื่นขึ้นมาบ้าง ไม่งั้นต้องนั่งเกร็งตลอดเวลา กลัวเขาจะรู้ความลับ ขนาดโทรศัพท์เธอยังไม่กล้าคุยในห้องนี้เลย และแล้วเธอก็รู้สึกถึงแรงสั่นจากโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าของตัวเอง 'แม่โทรมาอีกทำไม' หญิงสาวมองโทรศัพท์แล้วนึกแปลกใจ เพราะก่อนออกจากห้อง เธอก็โทรไปหาแม่กับลูกแล้ว หญิงสาวเหลียวหน้าแลหลัง เมื่อเห็นว่าไม่มีกล้องวงจรปิดอยู่ในห้องนั้น จึงกดรับทันที"ฮัลโล ว่าไงจ้ะแม่""ก็ไอ้เพชรน่ะ มันงอแงไม่ยอมนอน มันบอกว่าอยากจะคุยกับเอ็ง""ฮัลโหลเพชร ว่าไงครับลูก ทำไมยังไม่นอน" เธอกรอกเสียงหวานผ่านโทรศัพ์พูดคุยกับลูกชาย ทั้งๆที่พึ่งวางสายไปไม่ถึงชั่วโมง แต่เพชรกล้าก็รบเร้าคนเป็นยาย ให้โทรหาพลอยใสอีกครั้ง เพื่อที่เขาจะบอกแม่ว่า "เพชรคิดถึงแม่นะครับ เมื่อไหร่แม่จะกลับมา""ปีใหม่ไงครับ แม่บอกเพชรแล้วไง อีกไม่กี่อาทิตย์เอง นอนซะเถอะนะลูก
"เดี๋ยวก่อนสิพลอยใส" คริสเตียนโน่ยังเดินตามเธอเข้ามา "พี่ไม่เชื่อว่ามันจะเป็นอย่างนั้น พี่ไม่เชื่อว่าพลอยจะทำได้ลงคอ" "ทำไมไม่เชื่อล่ะคะ ก็คุณบอกให้ฉันไปเอาออกเอง เด็กที่คุณไม่ต้องการ คุณจะถามหาเขาอีกทำไม" ความแค้นมันฝังอยู่ในใจจนจุกอก แต่พลอยใส พยายามไม่แสดงมันออกมา การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงลูกเพียงคนเดียวมันลำบากแค่ไหนใครจะรู้ อยู่ดีดีเขาจะมาถามหาลูกของเธอ มันจะง่ายไปนะ "พี่.." เขาไม่รู้จะบอกยังไง มันดูเห็นแก่ตัวมาก ถ้าบอกว่าอยากจะเจอเด็กนั่น เพราะว่าแม่ของตัวเองกำลังตรอมใจ " ตอนนี้พี่แค่อยากจะรับผิดชอบ""รับผิดชอบเหรอคะ นี่ฉันหูเพี้ยนไปหรือเปล่า ผ่านมาตั้งหกปี จะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้" เธอส่งยิ้มหยันให้คนตรงหน้า รับผิดชอบอย่างนั้นเหรอ ผ่านมาตั้งหกปี ต่อมสำนึกชั่วดีพึ่งจะเริ่มทำงาน"แสดงว่าเด็กคนนั้นยังอยู่จริงๆ""ไม่ค่ะ ไม่อยู่ ไม่มีเด็กคนไหนทั้งนั้น ถอยไปค่ะ ฉันจะทำงาน" พลอยใสยืนยันเสียงหนักแน่น แต่อีกคนก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี"พี่มีข้อเสนอให้พลอยนะ ถ้าหากตรวจ ดีเอ็นเอ ว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของพี่จริง พี่พร้อมจะเลี้ยงดูเขา พี่พร้อมจะมอบเงินให้พลอย พลอยอยากได้เท่าไหร่ พลอยว่ามาเลย
ส่วนทางด้านพลอยใส เธอเปิดประตูเข้ามาในห้องเล็กๆที่เช่าเอาไว้พักอาศัยตามลำพัง เธอเดินทางเข้ากรุงเทพอีกครั้ง เพราะเส้นทางคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต่างจังหวัด มันไม่ง่ายนัก หลังคลอดลูกพลอยใสก็ไม่ได้ทำงานอะไรอยู่เป็นปี เพราะอยู่ในช่วงพักฟื้นและต้องให้นมเจ้าตัวเล็ก หลังจากนั้นก็เริ่มขยับขยายขายของในตลาด แต่มันก็ไม่พอกิน เลยตัดสินใจ เข้ามาทำงานในกรุงเทพอีกครั้งหนึ่ง แรกๆงานโชว์เงือกของเธอมีให้ทำแทบจะทุกวัน แต่ทว่าหลังๆพอเศษฐกิจไม่ดีเหลือแค่วันเสาร์กับอาทิตย์ พลอยใสจึงดิ้นรนหางานทำเพิ่ม งานที่เธอคิดได้คือไปเป็นสาวนั่งดริ้ง เพราะเห็นไนท์คลับที่อยู่ไม่ไกลจากห้องเช่าเท่าไหร่นัก เธอตัดสินใจไปสมัครงานแบบไม่ลังเล ชีวิตมันผ่านอะไรมามาก มันไม่มีอะไรที่จะต้องเสียหายแล้วหละ หญิงสาวบอกตัวเอง ก่อนที่จะเดินหน้าไปสมัครงาน แต่ทว่าดันไปเจอเจ้ากรรมนายเวรเฮ้อ!! หญิงสาวถอนหายใจแรงๆก่อนจะลุกไปอาบน้ำ จะได้หลับนอนเสียทีครืด~ครืด~ แต่ในขณะนั้นเองโทรศัพท์เครื่องเก่าก็มีสายโทรเข้ามา พลอยใสกดยิ้มมุมปากแล้วกดรับ"ว่าไงจ้ะ เคที่" เคที่หรือว่าเมธี เพื่อนสนิทที่ร่างกายเป็นชาย แต่หัวใจเป็นผู้หญิงโทรเข้ามา"พรุ่งนี้มีงาน
สามชั่วโมงต่อมา หลังจากที่พลอยใสนั่งตรวจบัญชีแบบงงๆ เพราะห่างหายจากการนับตัวเลขไปนานแล้ว ตั้งแต่หอบท้องกลับไปอยู่บ้านในคราวนั้น เธอก็ไม่เคยทำงานในออฟฟิศเลยสักครั้ง สายงานที่เธอทำ นอกจากงานแสดงโชว์ ก็เป็นแม่ค้าขายน้ำปั่นในตลาดเท่านั้นแหละ แต่มันขายไม่ดี เลยต้องหนีเข้ามาหางานอื่นทำ"น้องพลอยไม่เข้าใจตรงไหน ถามพี่ได้นะครับ" มาโนชเดินเข้ามาสอนงานพลอยใส ถึงในห้องของเจ้านายบอกให้เป็นลูกน้องเขา แต่ให้เข้ามาทำงานในห้องนี้ มาโนชก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน"ขอบคุณค่ะพี่โนช" พลอยใสระบายรอยยิ้มอ่อนๆก่อนจะถามมาโนชเป็นข้อๆตามที่ตัวเองไม่เข้าใจ และบอดี้การ์ดคนนั้น ก็สอนงานเธออย่างดี อันที่จริงมาโนชไม่ได้เป็นแค่บอดี้การ์ด แต่เป็นมือขวาที่คอยดูแลงานให้คริสเตียนโน่มากกว่า เพราะเป็นคนซื่อสัตย์ดูแลเจ้านายแบบมอบกายถวายชีวิต คริสเตียนโน่เลยให้ดูแลทางด้านการเงินแทนของตัวเอง "แล้วน้องพลอยมีอะไร ไม่เข้าใจอีกไหมครับ" "ตรงนี้ค่ะพี่โนช ช่วยอธิบายอีกทีได้ไหมคะ" พลอยใสบอกคนตรงหน้าพร้อมระบายยิ้มอ่อนๆออกมาอีกครั้ง ซึ่งมันขัดลูกกะตาของคนเป็นเจ้านาย ที่นั่งดูอยู่ตรงนั้นนัก คำก็พี่โนช สองคำก็พี่โนช ทีกับเขาพูดคุณพูดฉัน ทำ
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นคริสเตียนโน่ตัดสินใจทิ้งเมียบำเรออย่างไร้เยื่อใย เพื่อแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ที่พ่อแม่เลือกให้ ผู้หญิงที่คู่ควรอย่าง'ชลดา ' แต่ทว่าก่อนแต่งงานไม่ถึงอาทิตย์ เขากลับประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ตอนนั้นชายหนุ่มไปแข่งรถที่มาเลเซีย รถของเขาเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำตอนแข่งขัน ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาท่ามกลางข่าวร้าย ขาเดินไม่ได้ ต้องกลายเป็นคนพิการนั่งรถเข็นตลอดชีวิตคู่หมั้นสาวที่เขาหมายปองทิ้งไปอย่างไร้เยื่อใย ชลดาให้เหตุผลว่า เธอยังสาว ยังสวย เธอรับไม่ได้ที่จะต้องแต่งงานกับชายพิการอย่างคริสเตียนโน่ ถึงแม้ว่าจะหมั้นหมาย ใกล้ถึงงานพิธีแล้วก็ตาม หญิงสาวยืนยันที่จะถอนหมั้น ท่านเจ้าสัวทรงพลคุณพ่อของเธอ จึงประกาศถอนหมั้นให้ลูกสาวทันทีชีวิตของคริสเตียนโน่ในตอนนั้น เหมือนดำดิ่งลงสู่ก้นเหวแห่งความล้มเหลว เขาพยายามทุ่มเงินหลายล้าน ตามหาหมอศัลยกรรมเส้นประสาท และกระดูกอยู่หลายปี จนในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จ เมื่อหมอศัลยกรรมมือดีจากอังกฤษ ทำให้ขาของชายหนนุ่ม กลับมาเดินได้เหมือนเดิมอีกครั้งแต่ทว่าในความโชคดีมันกลับมีควมโชคร้าย เพราะผลจากการผ่าตัดหลายต่อหลายครั้ง มันทำให้เขากลา
หลังจากหนีงานไปเมื่อคืน วันต่อมาพลอยใสตัดสินใจ เดินไปหากีกี้ที่ห้องผู้จัดการ" พลอยมาขอลาออกค่ะ" เธอยื่นใบลาออกกับผู้จัดการและหวังว่าจะนำไปให้เจ้านาย แต่ผิดคาด เมื่อกีกี้ตอบกลับมาว่า"พี่คงให้พลอยลาออกไม่ได้หรอกค่ะ ตอนนี้ทางร้านเปลี่ยนเจ้านายใหม่แล้ว กฎทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมดเหมือนกัน ถ้าพลอยอยากจะลาออก ไปคุยกับเจ้านายใหม่ก็แล้วกันนะคะ" พลอยใสออกจะตกใจเล็กน้อย เธอไม่รู้เรื่องการขายกิจการของไนท์คลับแแห่งนี้ มิน่าหละ เธอหนีงานถึงได้ไม่มีใครโทรตาม" แล้วห้องเจ้านายอยู่ทางไหนคะ""ชั้นสี่ เป็นส่วนของผู้บริหาร อยู่ทางด้านขวามือค่ะ" กีกี้บอกเธอ หญิงสาวจึงเดินไปขึ้นลิฟต์และกดชั้นตามที่กีกี้บอก แต่พอประตูลิฟต์เปิดอกมาหญิงสาวก็ต้องตกใจ เพราะคนของคริสเตียนโน่ อยู่ตรงนั้นจนเต็มหน้าห้องไปหมด "เชิญครับ นายรออยู่ด้านใน" มาโนชและบอดี้การ์ดของเขา เดินมากดดันเธอ พลอยใสจึงเปิดประตูเข้าไปในห้องผู้บริหารอย่างเสียไม่ได้ ไนท์คลับแห่งนี้เป็นทั้งสถานที่นั่งดริ้งและบ่อนคาสิโน จึงมีบอดี้การ์ดทำงานอยู่มากมาย และเมื่อเปิดประตูเข้าไปพลอยใสต้องตกใจเป็นครั้งที่สอง เพราะคนที่นั่งหมุนปากกาสบายใจอยู่ตรงนั้น คือเข
6 ปีต่อมา @ elle club"สวัสดีครับลูก วันนี้น้องเพชรเป็นเด็กดีหรือเปล่า " ร่างบางของพลอยใสกำลังคุยโทรศัพท์กับลูกชายวัยห้าขวบก่อนที่จะเข้างาน อันที่จริงตอนนี้เวลาสองทุ่ม เด็กน้อยควรจะนอนได้แล้ว แต่ทว่าเด็กชายเพชรกล้า รอให้แม่โทรหาทุกคืนก่อนที่จะเข้านอน และไม่ลืมที่จะบอกว่า" เพชรคิดถึงแม่นะครับ เมื่อไหร่แม่จะกลับบ้าน" เพชรกล้า ถามแม่ทุกครั้ง ถ้าหากคุยโทรศัพท์กัน"เพชรก็รู้นี่ครับ ว่าแม่ต้องทำงาน แม่จะหาเงินเยอะๆซื้อชุดสไปรเดอร์แมนให้เพชรไงครับ" พลอยใสพยายามเอาของเล่นมาหลอกล่อลูกชายของเธอ หญิงสาวฝากเพชรกล้าให้แม่เลี้ยงที่โคราช ส่วนตัวเธอเองนั้น เข้ามาทำงานในกรุงเทพ สองสามเดือนถึงจะกลับบ้านที ค่าน้ำมันมันแพง เธอต้องประหยัด จึงเช่าอะพาร์ตเม้นท์ห้องเล็กๆไว้อยู่อาศัยเพียงลำพัง และหาเงินส่งสียแม่กับลูกชายเพียงคนเดียว"เพชรไม่อยากได้ ชุดสไปรเดอร์แมนแล้วครับ เพชรอยากอยู่กับแม่มากกว่า" เด็กชายวัยห้าขวบแต่รู้ความ พูดจารู้เรื่องเหมือนผู้ใหญ่ บอกกับพลอยใส ว่าอยากจะอยู่กับแม่ของเขามากกว่า มากกว่าของเล่นหรือว่าชุดสไปรเดอร์แมนอะไรนั่น พลอยใสน้ำตารื้นขึ้นมาทันที แต่เธอกลับไปอยู่ที่บ้านตอนนี้ไม่ได้ พล
เรื่องในอดีตเมื่อหลายปีก่อน"พี่คริส" พลอยใสร้องเรียกคริสเตียนโน่เสียงดังอย่างดีใจ นานแล้วที่เขาไม่มาหาเธอ หญิงสาวรีบวางกระเป๋าและหนังสือเพราะพึ่งกลับจากมหาวิทยาลัย เดินตรงเข้าไปหาชายหนุ่มที่นั่งรออยู่บนโซฟาทันที "พลอยคิดถึงพี่จังเลยค่ะ" เธอพรมจูบไปทั่วใบหน้าหล่ออย่างแสนรัก และเขาก็ยอมให้หญิงสาวกอดจูบอย่างง่ายดาย แกว๊ก! มือหนากระชากเสื้อนักศึกษาของเธอออกจนขาดวิ่น"เบาๆสิคะ เสื้อพลอยขาดหมดแล้ว" กี่ครั้งแล้วที่คริสเตียนโน่ กระชากเสื้อนักศึกษาของเธอจนขาดวิ่นขนาดนี้ แต่เขาไม่สนใจ ชายหนุ่มสนใจหน้าอกไซส์ 38' ที่มันห่อหุ้มด้วยบราเซียสีแดงของเธอนี่ต่างหาก " อือ~~ อาห์ ~ยะ อย่าพึ่งสิคะ พลอยยังไม่ได้อาบน้ำเลย" เธอเอ่ยบอกชายหนุ่มให้หยุดก่อน พร้อมกันนั้นนิ้วเรียวสวยของหญิงสาว ก็จิกเข้าที่บ่าไหล่ของชายหนุ่ม เพราะเขาเริ่มรุกโดยการดูดจุกสีหวานอย่างเมามันส์ ก็หุ่นของพลอยใสมันน่ารักน่าฟัด จนมาเฟียหนุ่มเลี้ยงดูมาหลายปี และตอนนี้มือหนากำลังดึงแพนตี้ออกจากเรียวขาสวย เตรียมจะรุกเธอเต็มที่ ชายหนุ่มผลักร่างบางให้นอนราบลงไป ก่อนจะขึ้นคร่อมร่างเล็กเอาไว้ ใต้อาณัติของตัวเองทันที "ดะ เดี๋ยว เดี๋ย