공유

บทที่ 13

작가: กวักทรัพย์เข้ากรุสมบัติ
“ผู้อำนวยการ ทำไมคุณถึงถามแบบนั้นคะ?” ซ่งหยุนหยุนมีลางสังหรณ์ไม่ดี

“คุณน่าจะรู้ว่าการถูกแบนจากแวดวงวิชาชีพหมายความว่าอย่างไร…” ผู้อำนวยการลังเลที่จะพูด “ผมเกรงว่าอาชีพหมอของคุณจะพัง ไม่มีโรงพยาบาลไหนกล้าจ้างคุณอีก”

ซ่งหยุนหยุนตกใจกับเรื่องกะทันหันนี้มาก

เธอกำมือและคลายออกพลางพูดซ้ำหลายครั้ง “ผู้อำนวยการ ฉันรักงานนี้มาก ฉันเลิกทำงานนี้ไม่ได้ค่ะ”

“ถึงแม้ผมอยากช่วย แต่ผมก็ไม่มีอำนาจพอ” ผู้อำนวยการรู้สึกเสียใจ เขาตระหนักและชื่นชมทัศนคติ และทักษะทางวิชาชีพของซ่งหยุนหยุนมาก

แต่เขาไม่มีอำนาจปกป้องเธอ

“ถ้าคุณยังอยากทำงานนี้ คุณต้องไปพบเจียงเหยาจิง ถ้าคุณทำให้เขาขุ่นเคืองก็ขอโทษเขาเถอะ ดีกว่าโดนไล่ออก” ผู้อำนวยการเตือนด้วยความหวังดี

“ฉัน...”

เธอลังเลที่จะพูด

ความอคติของเจียงเหยาจิงที่มีต่อเธอสามารถลบล้างได้ด้วยคำขอโทษอย่างเดียวเหรอ?

เธอรู้ดีว่าเจียงเหยาจิงทำกับเธอแบบนี้ ไม่เพียงเพราะเธอเกือบจะทำลายของมีค่าของเขาเมื่อคืนนี้ แต่ยังเป็นเพราะเขาไม่พอใจกับความจริงที่ว่า เธอกลายเป็นภรรยาของเขา

นี่อาจเป็นการแก้แค้นเธอเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ และบังคับให้เธอคิดจะหย่า

เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ”

“คุณลองคิดวิธีแก้ปัญหาดูนะ” ผู้อำนวยการกล่าว

ซ่งหยุนหยุนกลับมาที่แผนกด้วยสภาพสิ้นหวัง

การขอร้องเจียงเหยาจิงอาจไม่ได้ผล เพราะจุดประสงค์ของเขาคือต้องการหย่า

เธอได้ลงนามในข้อตกลงกับผู้เฒ่าเจียงแล้ว

ตอนนี้ถ้าเธอตกลงกับเจียงเหยาจิง เธอก็จะกลายเป็นคนที่ผิดสัญญากับผู้เฒ่าเจียง

จู่ ๆ เธอก็รู้สึกคลื่นไส้และอยากจะอาเจียน แต่แค่รู้สึกชั่วครู่เท่านั้น

สักพักจึงเปิดคอมพิวเตอร์และพยายามส่งเรซูเม่ไปโรงพยาบาลอื่น ๆ แต่เมื่อโรงพยาบาลเห็นชื่อเธอ กลับถูกปฏิเสธทันที

ตอนนี้เธอสัมผัสได้ถึงความกดดันของสี่คำที่ว่า “แบนวิชาชีพ”!

แต่เธอตกงานไม่ได้ เธอมีเพื่อนไม่มากนัก และคนเดียวที่เธอนึกถึงคือ เสิ่นจือเฉียน หลังจากลังเลอยู่พักใหญ่ เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมากดหมายเลขโทรหาเสิ่นจือเฉียน

ไม่นานเขาก็รับสาย

“หยุนหยุน?” เสียงของเสิ่นจือเฉียนดังมาจากปลายสาย

“พี่พอจะมีเวลาไหม? ฉันอยากเจอพี่” เธอพยายามข่มเสียงแหบแห้ง เพื่อให้เสียงของเธอฟังดูเป็นปกติมากที่สุด

เสิ่นจือเฉียนรีบตอบทันที “ได้สิ”

พวกเขานัดเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง

ซ่งหยุนหยุนเก็บของและออกจากโรงพยาบาล

เธอมาถึงก่อน

เมื่อเสิ่นจือเฉียนมาถึง เขาคิดว่าเธอจะถามเรื่องหัวใจของแม่ ทันทีที่เขานั่งลงเขาก็พูดว่า “พี่ยังไม่เจอหัวใจเลย”

ซ่งหยุนหยุนใช้โอกาสนี้บอกเขาว่า “แม่ผ่าตัดเสร็จแล้ว”

“ห้ะ?” เสิ่นจือเฉียนประหลาดใจมาก

“ตอนไหน ทำไมพี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย?”

“เมื่อวานค่ะ” ซ่งหยุนหยุนตอบ “ฉันยังไม่มีเวลาบอกพี่”

เสิ่นจือเฉียนกระพริบตาและพูดอย่างมีความสุข “ผ่าตัดแล้วก็ดี ทุกอย่างราบรื่นดีไหม?”

เธอพยักหน้า

เมื่อเห็นว่าเธอกังวล เสิ่นจือเฉียนจึงถามว่า “เธอมีเรื่องไม่สบายใจหรือเปล่า?”

เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดว่า “ฉันกำลังจะตกงานค่ะ”

เสิ่นจือเฉียนประหลาดใจก่อนจะแสดงสีหน้าโกรธเคือง “เกิดอะไรขึ้น ผู้อำนวยการหวางกล้าไล่เธอออกได้ยังไง?”

“ฉันทำให้ใครบางคนขุ่นเคืองค่ะ”

เสิ่นจือเฉียนถามว “ใคร? เธอไปทำให้ใครขุ่นเคือง? พี่จะไปจัดการให้!”

ซ่งหยุนหยุนคิดว่าเสิ่นจือเฉียนอาจจะรู้จักเจียงเหยาจิง เธอจึงพูดชื่อด้วยน้ำเสียงลังเล “เจียงเหยาจิง”

เสิ่นจือเฉียนแทบจะพ่นน้ำปากออกมา “เพราะเขาเหรอ เธอถึงโดนไล่ออก?”

ซ่งหยุนหยุนพยักหน้า

“ทำไมเธอถึงทำให้เขาโกรธได้ล่ะ? เพราะเฉินเหวินเหยียน?” เฉิ่นจือเฉียนนึกเหตุผลอย่างอื่นไม่ออก

ไม่มีงานแต่งงานกับเจียงเหยาจิง เพราะเจียงเหยาจิงไม่ยอมรับจึงไม่มีใครรู้ ยกเว้นตระกูลเจียงและตระกูลซ่งไม่กี่คน

แม้แต่เสิ่นจือเฉียนก็ไม่รู้

ซ่งหยุนหยุนรู้ว่าต้องหย่ากับเจียงเหยาจิงไม่ช้าก็เร็ว ดังนั้นเธอจึงไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเขาเลย

สิ่งเดียวที่เสิ่นจือเฉียนคิดได้ก็คือ ต้องเกี่ยวข้องกับเฉินเหวินเหยียน

เขาพูดกับตัวเองโดยไม่รอให้ซ่งหยุนหยุนตอบ “นี่ก็เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่พี่เห็นเจียงเหยาจิงสนใจผู้หญิงคนหนึ่งมาก พี่ว่าเขาตาบอดไปชอบเฉินเหวินเหยียนได้ยังไง?”

เจียงเหยาจิงจะชอบใครก็ไม่สำคัญกับซ่งหยุนหยุน

ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนมีความชอบไม่เหมือนกัน

บางทีเจียงเหยาจิงอาจชอบของเฉินเหวินเหยียนจริง ๆ ก็ได้

อย่างไรก็ตาม หลังจากฟังเขาพูดจบ เธอก็แน่ใจว่าเขารู้จักเจียงเหยาจิง ซ่งหยุนหยุนถามอย่างระมัดระวังว่า “คนที่พี่ขอให้ฉันรักษาอาการบาดเจ็บตอนนั้นใช่เจียงเหยาจิงหรือเปล่าค่ะ?”

ตอนที่เธอรู้ว่าฮั่วซุนเป็นผู้ช่วยของเจียงเหยาจิง เธอก็มีความสงสัยอยู่ในใจบ้าง

เธอถามเสิ่นจือเฉียนย้ำอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเธอคิดไม่ผิด

“อืม แต่เธออย่าบอกใครนะ” เสิ่นจือเฉียนเชื่อใจเธอ

ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ให้เธอไปดูแลเขา

เสิ่นจือเฉียนครุ่นคิด “พี่จะขอร้องเจียงเหยาจิงให้”

ซ่งหยุนหยุนลังเล เธออยากเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับเจียงเหยาจิงให้เขาฟัง แต่เธอหลับพูดไม่ออก พูดได้แค่คำว่า “ขอบคุณค่ะ”

“ดูสิ พี่อยู่กับใครเนี่ย?” เสิ่นจือเฉียนยิ้ม “ล่าสุดเธอบอกว่าจะเลี้ยงข้าวพี่”

ซ่งหยุนหยุนยิ้มและพูดว่า “ได้ค่ะ ฉันเลี้ยงเอง”

...

เทียนจู กรุ๊ป

หลังประชุมเสร็จ เจียงเหยาจิงก็เดินเข้าไปในสำนักงาน

ฮั่วซุนเข้ามาแล้วพูดว่า “คุณเจียง ผมเห็นคุณซ่งกับคุณเสินจือเฉียนไปทานข้าวด้วยกันครับ”

“ใครนะ?” เจียงเหยาจิงหันหน้ามา ม่านตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ซ่งหยุนหยุนรู้จักกับเสิ่นจื้อเฉียนเหรอ?”

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 270

    เจียงเย่าจิ่งรีบเดินออกไปโดยไม่ลังเลสักนิด! เบื้องหลังของเขาคือเสียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวของหยางเชี่ยนเชี่ยน ฮั่วซุนรู้สึกสับสน เจียงเย่าจิ่งไม่ใช่คนโหดเหี้ยมแบบนั้น โดยเฉพาะคนที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้ เขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก "คุณเจียงครับ?" เจียงเย่าจิ่งชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูรถแล้วพูดว่า "ไปบอกมู่ฉินว่าฉันจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของลูกชายเธออีก" เมื่อสักครู่นี้เขาไม่แยแส เพราะคิดว่านี่อาจจะเป็นการแสดงละครตบตาของมู่ฉินกับหยางเชี่ยนเชี่ยน นี่เป็นการแสดงละครตบตากันชัด ๆ เพียงแต่มู่ฉินให้สัญญากับหยางเชี่ยนเชี่ยนว่าเธอจะไม่ถูกข่มขืน นั่นเป็นแค่คำหวานของเธอเท่านั้น เธอรู้ว่าการจะทำให้เจียงเย่าจิ่งเชื่อนั้น ลำพังแค่การแสดงละครตบตาย่อมหลอกเขาไม่ได้ ดังนั้นตั้งแต่ตอนที่หยางเชี่ยนเชี่ยนตอบตกลงที่จะเล่นละครฉากนี้กับมู่ฉิน เธอก็ถูกลิขิตให้ต้องเสียความบริสุทธิ์แล้ว! ฮั่วซุนพยักหน้าอยู่เงียบ ๆ จากนั้นเขาก็รีบกลับไป ดูเหมือนว่าเขาจะมาช้าเกินไปเสียแล้ว น้ำเสียงของหยางเชี่ยนเชี่ยนฟังดูน่าสลดใจ แต่อย่างไรเสียเขาก็ต้องนำความมาบอกกล่าว มู่ฉินยิ้มราวกับคาดเอาไว้แล

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 269

    ฮั่วซุนไม่มีทางเลือกนอกจากบอกเจียงเย่าจิ่ง เจียงเย่าจิ่งชะงักแล้วหันมามองฮั่วซุน "นายว่ายังไงนะ?" ฮั่วซุนทวนคำอีกครั้งแล้วพูดว่า "เขาคิดจะจับตัวหยางเชี่ยนเชี่ยน ทำยังไงดีครับ?" เจียงเย่าจิ่งยื่น "เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?" มู่ฉินพูดตรงเข้าประเด็น "ฉันได้ยินมาว่าตอนที่เธอตกน้ำ หยางเชี่ยนเชี่ยนช่วยเธอไว้ใช่ไหมล่ะ? ถ้าตอนนั้นเธอจมน้ำไปซะ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นของลูกชายฉันแล้ว เป็นหล่อนที่ทำลายเรื่องดี ๆ ของฉัน เธอคิดว่าฉันจะปล่อยหล่อนไปงั้นเหรอ?" "ต้องการอะไรก็ว่ามา" เจียงเย่าจิ่งพูดตามตรง "เอาล่ะ ในเมื่อเธอตรงไปตรงมาขนาดนั้น ฉันก็จะไม่พูดจาอ้อมค้อมกับเธออีก หยางเชี่ยนเชี่ยนเป็นผู้มีพระคุณของเธอใช่ไหมล่ะ? ฉันขอแลกเธอกับลูกชายของฉันว่ายังไงล่ะ?" มู่ฉินเอ่ยขึ้น หลังจากได้พบหยางเชี่ยนเชี่ยน เธอก็รู้ว่าหยางเชี่ยนเชี่ยนชอบเจียงเย่าจิ่ง ดังนั้นตอนนี้ทั้งสองคนจึงบรรลุข้อตกลงร่วมกัน ตอนที่กำลังดำเนินแผนการครั้งนี้ มู่ฉินคิดว่าเธอสามารถใช้เหตุการณ์ครั้งนี้มาแลกเปลี่ยนเพื่อให้เจียงเย่าจิ่งยอมปล่อยลูกชายของเธอไป "ลูกชายของคุณไม่ไ

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 268

    เมื่อซ่งรุ่ยเจี๋ยได้ยินเสียง เขาก็รีบซ่อนโทรศัพท์มือถือเอาไว้ใต้ผ้าห่ม เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วเสียจนทั้งซ่งอวิ้นอวิ้นหรือหานซินก็ไม่ทันสังเกตเห็นความผิดปกติของเขา! หานซินวางอาหารเอาไว้บนโต๊ะข้างเตียง "เธอหิวหรือยัง? รีบมากินอาหารเช้าเถอะ" เมื่อหานซินพูดจบ เธอก็ค่อย ๆ หยิบอาหารที่เตรียมไว้ออกมา "ผมไม่อยากกิน ผมอยากอยู่คนเดียว" ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของซ่งรุ่ยเจี๋ยฉายแววเย็นชา ไม่ได้แสดงความเสียใจออกมานัก หานซินคิดจะเกลี้ยกล่อม แต่ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยขัดจังหวะหานซินได้ทันเวลา "แม่คะ ให้เขาอยู่คนเดียวสักพักเถอะ" หานซินกล้ำกลืนคำพูดเกลี้ยกล่อมกลับลงไปแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "อาหารอยู่ตรงนี้นะ เธอหิวเมื่อไหร่ก็มากินล่ะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยไม่พูดอะไร หานซินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ "เฮ้อ" "พอเถอะค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นดึงตตัวหานซินออกไป "รุ่ยเจี๋ย นายก็พักผ่อนด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นปิดประตูห้องพักผู้ป่วยแล้วบอกหานซินวว่า "รุ่ยเจี๋ยต้องการเวลาทำใจ เขากินอะไรไม่ลงหรอกค่ะ อย่าไปเกลี้ยกล่อมเขาเลย ไป๋ซิ่วฮุ่ยเป็นแม่ของเขา เขาคงรับไม่ได้ไปสักพัก นี่เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้" หานซินเข้าใจแล้ว "แม่รู้ แม่เป็น

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 267

    ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า "พี่มาแต่เช้าขนาดนั้น คงรู้เรื่องนั้นแล้วใช่ไหม?" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้ปิดบัง "ใช่" แววตาที่ไร้ชีวิตชีวาของซ่งรุ่ยเจี๋ย มองไปทางอื่นโดยไร้จุดมุ่งหมาย "ตำรวจมาถามเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วถามว่าผมได้เจอแม่หรือเปล่า" ซ่งอวิ้นอวิ้นฟังอยู่เงียบ ๆ ที่จริงเขารู้แก่ใจว่าเมื่อไป๋ซิ่วฮุ่ยถูกใครสักคนพาตัวออกไปก็หมดทางรอดแล้ว "นายต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ นะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่รู้ว่าจะปลอบใจเขาอย่างไรดี ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้น "แม่ผมตายเมื่อคืนนี้ พี่รู้เรื่องเร็วขนาดนั้นได้ยังไงกัน?" "ฉัน..." พอนึกถึงสิ่งที่เจียงเย่าจิ่งพูด เธอก็เปลี่ยนเปลี่ยนคำพูดเป็น "ฉันเพิ่งจะได้ยินตำรวจพูดถึงรู้น่ะสิ" "อ้อ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยรู้ว่าเธอกำลังโกหกอยู่ชัด ๆ เธอกำลังปิดบังอะไรสักอย่างใช่ไหม? ทำไมต้องปิดบังด้วยเล่า? เพราะเธอรู้ว่าคนที่ฆ่าแม่ของเขาคือเจียงเย่าจิ่งอย่างนั้นเหรอ? ทำไมเธอไม่พูดอะไรเลยล่ะ? ตั้งใจที่จะปิดบังไม่ให้เขารู้ใช่ไหม? เขากำหมัดที่อยู่ใต้ผ้าห่มแน่น พลางรู้สึกหนาวเหน็บอยู่ในใจ "ผมเสียใจด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยเสียงเบา ซ่งรุ่ยเจี๋ยยิ้มเหยีย

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 266

    พ่อบ้านเฉียนรวบรวมคำพูดแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "ตอนนี้นายน้อยไม่มีอะไรต้องกังวล ดังนั้นเขาจึงประชันหน้ากับพวกเราได้เต็มที่ แต่ถ้าหลังบ้านเกิดไฟลุกไหม้ เขาก็จะเสียสมาธิแล้วพวกเราก็จะมีโอกาสขึ้นมา" "โอ้ พ่อบ้านเฉียนพูดถูก" มู่ฉินเห็นด้วยยิ่งนัก เธอถองข้อศอกใส่สามีตัวเอง "พูดอะไรบ้างสิ" เจียงอวี้จึงเอ่ยขึ้นมาว่า "เป็นความคิดที่ดีอยู่หรอก แต่… พวกเราจะจุดไฟหลังบ้านเจียงเย่าจิ่งได้ยังไงล่ะ นั่นต่างหากที่เป็นประเด็นสำคัญไม่ใช่รึไง?" นายท่านเจียงยังคงเงียบ เพราะเหตุผลเดียวกันนี้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเจียงเย่าจิ่งกับซ่งอวิ้นอวิ้นจะมีความสัมพันธ์ที่ดี ประกอบกับมีลูกเพิ่มเข้ามา ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนแนบแน่นขึ้นไปอีก "ไม่เห็นจะยากเลย พวกเราก็แค่หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความขัดแย้งลงไปท่ามกลางความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนเสียก็ใช้ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?" ถึงแม้ว่ามู่ฉินจะย่างเข้าวัยกลางคนแล้ว แต่เสน่ห์ของเธอก็ยังคงอยู่ ประกอบกับการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ทำให้ยากจะมองอายุที่แท้จริงของเธอออก เธอกลอกตาดำขลับ "ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง มือที่สามถือว่าเป็นเรื่องต้องห้ามที่สุดเลยเชียวล่ะ ถ้ามีมือที

  • พันธะสัญญา วิวาห์ร้ายรัก   บทที่ 265

    ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้รีบเข้านอนทันที แต่กลับไปหาซวงซวง ป้าหวู่พาซวงซวงเข้านอนแล้ว แต่เธอก็ยังอยากตรวจสอบดูให้แน่ใจ ตอนนี้ซวงซวงหลับลึกไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงย่องเบาออกมา เมื่อกลับมาที่ห้องนอน เธอก็นั่งตรงขอบเตียง แต่กลับไม่รู้สึกง่วงอีกต่อไป เธอกุมศีรษะแล้วครุ่นคิดถึงเรื่องนั้น นอกจากหลินหรุ่ยกับตระกูลเจียงแล้ว เธอก็นึกไม่ออกว่าเป็นใคร หลังจากเจียงเย่าจิ่งเดินออกมาหลังจากอาบน้ำเสร็จ เขาก็เห็นซ่งอวิ้นอวิ้นนั่งอยู่ตรงขอบเตียง ดังนั้นเขาจึงเดินเข้ามากอดเธอแล้วนอนลงบนเตียง จากนั้นก็พลิกตัวอยู่เหนือร่างของเธอ จูบที่พร่างพรมลงมาทั้งดูดดื่มและเร่าร้อน ขณะที่บรรยากาศกำลังเป็นไปได้สวย ซวงซวงก็ร้องไห้ขึ้นมา พวกเขาทั้งสองคนต่างตะลึงงัน ซ่งอวิ้นอวิ้นเป็นฝ่ายที่มีท่าทีตอบสนองก่อนแล้วผลักเขาออกไป "ซวงซวงอาจจะหิวก็ได้" "ป้าหวู่จะป้อนเขาเอง" "แต่…" ก่อนที่เธอจะทันได้พูดให้จบประโยค เธอก็โดนจูบ สกัดกั้นคำพูดของเธอจนหมดสิ้น! ทุกสิ่งทุกอย่างพรั่งพรูออกมา! ราตีช่างแสนยาวนาน ทว่ากลับเต็มไปด้วยความรักใคร่เร่าร้อน! …… คฤหาสน์ต้นตระกูลเจียงเปิดไฟสว่างจ้า คราวนี้แผนใส่ร้ายเจียงเย่าจิ่

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status