Home / แฟนตาซี / พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน / ตอนที่ 29 ความสงบในรุ่งสาง

Share

ตอนที่ 29 ความสงบในรุ่งสาง

Author: Abyssgloom
last update Last Updated: 2024-10-30 03:00:18

ก่อนหน้านี้ ในจุดลึกที่สุดของป่า เขาได้ซ่อนสิ่งของเอาไว้ใต้รากไม้เก่าแก่ บริเวณนั้นมีการวางอาคมพิเศษที่เรียนรู้จากชายคนหนึ่งที่เคยช่วยไว้เมื่อหลายปีก่อน

ชายที่เขาช่วยเหลือไว้สวมชุดแปลกๆราวกับมาจากอีกทวีป ปรากฏตัวในชุดยาวสีฟ้าอมเทา ตกแต่งด้วยลวดลายเมฆและคลื่นน้ำปักด้วยด้ายเงิน เสื้อตัวนั้นพาดสาบทับกันอย่างประณีต แขนเสื้อกว้างและชายผ้าปล่อยยาว ภาษาที่ใช้ ก็ดูเหมือนจะถูกๆผิดๆแต่กลับเต็มไปด้วยสำบัดสำนวนมากมายราวกับจงใจ

ชายคนนั้นอ้างว่ากำลังเดินทางรอบโลกแต่กลับถูกปล้นระหว่างทาง สูญเสียเงินทองและข้าวของมีค่าทั้งหมด แม้เขาจะช่วยจับตัวคนร้ายไว้ได้ แต่เนื่องจากสิ่งของที่ถูกขโมยมามีของคนอื่นมาด้วยเยอะ ทำให้ขั้นตอนการตรวจสอบและคืนทรัพย์สินยังคงใช้เวลาหลายวัน

แทนการตอบแทนด้วยทรัพย์สินที่เขาไม่มี ชายคนนั้นกลับยื่นหนังสือเก่าแก่เล่มหนึ่งที่ไม่ได้ถูกขโมยไปให้ หนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยตัวอักษรและภาพสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นศาสตร์โบราณ ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าเป็นศาสตร์ลับในดินแดนของตน หนังสือเล่มนี้บันทึกเกี่ยวกับวิธีการปกปิด และ ซ่อนเร้น โดยใช้พลังที่ผสานระหว่างธรรมชาติและเจตจำนง

ในตอนแรก เขารับหนังสือเล่มนั้นโดยไม่ได้คาดหวังอะไร ทว่ามันกับมีประโยชน์กว่าที่เขาคิด ศาสตร์ลึกลับในหนังสือแตกต่างจากเวทมนตร์ที่เขาเคยรู้จักโดยสิ้นเชิง มันไม่ใช่เขตแดนที่สร้างขึ้นด้วยอักษรรูนซึ่งเป็นที่คุ้นเคยในทวีป แต่ใช้อักขระที่แปลกใหม่ ละเอียดอ่อน และแทบจะมองไม่ออกว่าเป็นเวทมนตร์

พลังของศาสตร์นี้ไม่ได้ดึงแก่นเวทมนตร์จากมอนสเตอร์หรือพลังเวทในตัวผู้ร่ายอย่างที่เขาคุ้นเคย แต่กลับใช้มานาที่อยู่ในธรรมชาติรอบตัว ดึงออกมาบิดเบือนและหล่อหลอมให้กลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อมจนแทบจะเป็นส่วนหนึ่งของมันเอง ความยากในการตรวจจับทำให้ศาสตร์นี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการซ่อนสิ่งสำคัญโดยไม่ทิ้งร่องรอยที่ใครจะตามเจอ

เมื่อเขาก้าวพ้นขอบป่า กลิ่นอายของความชื้นในอากาศแผ่วผ่านราวกับย้ำเตือนถึงความลับที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง ผมสีทองลูปไหล้ไปตามสายลมเย็นยามค่ำ พัดผ่านตัวเขาอย่างแผ่วเบา แสงจันทร์ยังสลัวทำให้เห็นเงาของคฤหาสน์อยู่ไม่ไกลลางๆ

สายตาของเขาสอดส่องขึ้นไปยังหน้าต่างห้องของตัวเอง แววตาเรียบนิ่งเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อพบว่าหน้าต่างถูกเปิดอ้าออกมากกว่าที่เขาทิ้งไว้ก่อนออกมา

ในตอนนั้นเขาจงใจแง้มหน้าต่างไว้เพียงเล็กน้อย เพื่อระบายกลิ่นเครื่องหอมที่ใช้ทำให้อัศวินและสาวใช้หลับสนิทตลอดคืน แต่นี่...มันไม่ใช่สภาพที่ควรจะเป็น

ความตื่นตัวทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้น ขณะที่เขารีบเร่งใช้พลังเวทย์เพื่อช่วยย่นระยะทาง แม้ร่างกายที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่จะแผ่ความเจ็บปวดเป็นระลอก แต่เขากลับไม่สนใจมัน

พลังเวทย์ถูกส่งผ่านเข้าสู่กล้ามเนื้อขาและข้อเท้า เสริมแรงให้เขาทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ ร่างกายของเขาพลิ้วไหวราวกับลมขณะที่เท้าสัมผัสขอบหน้าต่าง และก้าวเข้าสู่ห้องที่ยังคงมืดสลัว ปลายเท้าแตะพื้นไม้เบาๆ โดยไม่ทำให้เกิดเสียง

ชายหนุ่มหยุดยืนนิ่ง ประเมินสถานการณ์โดยรอบ ห้องของเขายังดูปกติ อัศวินยังคงยืนหลับในตำแหน่งเดิม สาวใช้คนหนึ่งนอนหลับพิงกำแพงใกล้กัน ดูเหมือนเครื่องหอมที่เขาใช้จะยังมีผลอยู่

แต่สิ่งที่ทำให้เขาขมวดคิ้ว คือร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่นอนอยู่ตรงปลายเตียงของเขา ผมสีทองสว่างราวแสงแรกของวันกระจายอยู่บนพื้นห้อง และเมื่อมองใกล้ๆ เขาจำได้ทันที เธอคือคู่หมั้นของชายในรูปลักษณ์นี้ เอเลน่า ที่ซึ่งตอนนี้ควรจะนอนอยู่ที่ห้องของตัวเอง

เขาขยับเข้าไปใกล้ๆ คุกเข่าลงข้างหนึ่งเพื่อสังเกตสภาพเธออย่างละเอียด ลมหายใจของเธอสม่ำเสมอแต่แฝงไปด้วยความเหนื่อยล้าจนเห็นได้ชัด ใบหน้าของเธอยังคงตึงเครียด แม้จะอยู่ในสภาพหลับสนิท

เขาสังเกตได้ว่าสัญชาติญาณของเธอ กำลังพยายามฝืนตัวเองให้ตื่น แต่คงไม่อาจต้านทานฤทธิ์ของเครื่องหอมที่เขาเพิ่มความเข้มข้นไว้กว่าปกติ

"เซ้นของผู้หญิงน่ากลัวจริงๆ" เขาบ่นออกมาเบาๆ ดวงตาจ้องมองเธอด้วยความสงสัยที่แผงไปกับความระวัง

ชุดของเธอยังคงเป็นชุดเดิมกับตอนที่เธอเฝ้าเขาไว้ มันเป็นชุดกระโปรงยาวเรียบง่ายสีอ่อน ตกแต่งด้วยลายปักเล็กๆ ที่ขอบเสื้อและแขนเสื้อ บ่งบอกถึงความประณีตของผู้สร้าง ชวนให้น่ามองเล็กน้อย

"ดูเหมือนเธอจะไม่ได้กลับไปที่ห้องของตัวเอง... อาจแวะไปหาใครบางคนก่อน แล้วกลับมาที่นี่ในสภาพเหนื่อยล้าเกินกว่าจะทนเครื่องหอมที่ทำเอาไว้ จนสุดท้ายก็ล้มลงตรงนี้.….. ส่วนหน้าต่างที่เปิดออก อาจเป็นเพราะเธอพยายามใช้เวทมนตร์ก่อนจะหมดสติไปก็ได้"

เขาถอนหายใจเบาๆ ก่อนที่จะล้วงมือลงไปในกระเป๋ากระเป๋ากางเกง หยิบแก่นมอนสเตอร์ขนาดเท่านิ้วก้อยออกมา วัตถุทรงกลมเปล่งแสงอ่อนจางในมือของเขา เขาหลับตาลงเพียงครู่ ดึงพลังเวทย์ที่เก็บสะสมไว้ออกมาเติมเต็มให้กับตัวเอง แสงในแก่นนั้นลดลงเล็กน้อยก่อนที่จะเก็บมันกลับเข้าไปในกระเป๋า

เมื่อพลังเวทย์ได้รับการเติมเต็ม เขาค่อยๆเสริมพลังเวทย์ให้ทั่วร่างกายอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ก้มลงช้อนร่างของเธอขึ้นมาอุ้มไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะก้าวอย่างเบาเสียงไปยังเตียงที่เขาเคยนอน ใช้หลังมือเลื่อนม่านเบาๆเพื่อปิดหน้าต่าง แสงจันทร์สาดผ่านเข้ามาเป็นเส้นริ้วจางๆ ก่อนวางเธอลงบนเตียงอย่างเบามือ ร่างของเธอขยับเล็กน้อย แต่สติของเธอยังไม่ฟื้น

เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็เตรียมจะเดินไปนั่งบนโซฟาที่อยู่ไม่ห่างจากเตียง แต่แล้วมือของเธอกลับคว้าแขนเขาเอาไว้อย่างแน่นหน้าจนไม่อาจดึงออกไปได้ เมื่อเขาพยายามจะแกะมือออก กลับได้ยินเสียงละเมอแผ่วเบาจากเธอ

"อย่าหายไปนะ...ขอร้องล่ะ..."

คำพูดนั้นทำให้เขาชะงัก ความรู้สึกบางอย่างที่ถูกกดทับไว้ตลอดพุ่งเข้ามาในใจ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆอย่างจำยอม ก่อนที่จะดึงเก้าอี้ที่อยู่ข้างเตียงมานั่งใกล้ๆ

การที่คู่หมั้นของเธอหายตัวไปตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา มันคงเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายสำหรับเธอเลย ใจของเธอคงว้าวุ่น  และ กังวลอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เขาเห็นได้จากสีหน้าเหนื่อยล้าของเธอ และ ร่างกายที่ซูบผอมลงไปเล็กน้อยต่างจากที่เขาจำได้ก่อนออกไปจากเมืองนี้

แม้จะไม่อยากยอมรับ แต่ตัวเขาเข้าใจความรู้สึกนั้นดี ตลอดสี่ปีที่ผ่านมา เขาใช้เวลาไปกับการตามหาหญิงสาวคนนึง ทั้งๆที่ไม่รู้เลยว่าเธอจะยังมีชีวิตอยู่ และ ต้องการเขาอยู่อีกหรือไม่ ความว่างเปล่าและความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากการรอคอยอย่างไร้จุดหมาย ยังคงกัดกินหัวใจของเขาอยู่ทุกวัน

เพราะเหตุนี้เอง จึงไม่อยากให้หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าต้องรู้สึกแบบเดียวกับที่เขาเคยรู้สึก ไม่อยากให้เธอต้องจมอยู่กับความกังวลแบบนี้อีกต่อไป

ชายหนุ่มมองมือเล็กๆที่ยังกุมแขนเขาไว้แน่น ความรู้สึกบางอย่างแล่นผ่านเข้ามาในใจ มันไม่ใช่แค่ความเห็นใจหรือความรู้สึกผิดปกติทั่วไป แต่เป็นอารมณ์ที่ไม่คุ้นเคย และมันกำลังแทรกเข้ามาในจิตใจอย่างช้าๆ

เขาขยับตัวเล็กน้อย ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าของเธอที่ยังคงหลับสนิท ลมหายใจของเธอสม่ำเสมอ แต่แฝงไว้ด้วยความเหนื่อยล้าจนเขาสัมผัสได้

ในช่วงเวลานั้น เขาปล่อยให้อารมณ์ของคู่หมั้นของเธอที่ซ่อนอยู่ในตัว ค่อยๆออกมาครอบงำ มืออีกข้างยื่นไปกุมมือเธอที่จับเอาไว้เบาๆ แม้เธอจะยังคงหลับสนิท แต่เขาก็สังเกตเห็นเปลือกตาของเธอสั่นไหวเล็กน้อย ราวกับว่ากำลังต่อสู้กับฝันร้ายบางอย่าง

"ฉันอยู่ตรงนี้... ไม่เป็นไร..." เสียงของเขาเบาแต่มั่นคง ราวกับพยายามยืนยันกับเธอ แม้ว่าเธอจะไม่ได้ยินคำเหล่านั้น

"ฉันไม่หายไปไหนหรอก..."

คำพูดนั้นหลุดออกมาจากปากโดยที่เขาไม่ได้ตั้งใจ ราวกับเป็นสัญญาที่หลุดออกมาจากส่วนลึกของจติวิญญาณ

ทันทีที่เสียงของเขาจางหาย ท่าทีของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างช้าๆ ลมหายใจที่เคยหนักหน่วงเริ่มผ่อนเบาลง ดวงหน้าที่เคยขมวดแน่นดูผ่อนคลายมากขึ้น มือที่เคยจับแขนเขาแน่นคลายแรงลงเล็กน้อย ชายหนุ่มมองดูเธอด้วยความรู้สึกโล่งใจ ก่อนจะค่อยๆ ประคองมือของเธออย่างแผ่วเบา วางลงข้างลำตัวอย่างทะนุถนอม

ความนิ่งสงบค่อยๆ เข้าครอบงำห้องนั้นอีกครั้ง มีเพียงแสงจันทร์จางๆ ที่ลอดผ่านม่าน สร้างบรรยากาศอันนุ่มนวล เวลาค่อยๆไหลผ่านไปเรื่อยๆ จนกระทั่งล่วงเลยจนเข้าใกล้รุ่งสาง

แสงแรกของวันเริ่มเผยประกายจากขอบฟ้า เสียงนกร้องแผ่วเบาบนกิ่งไม้ใกล้หน้าต่าง สายลมยามเช้าพัดเข้ามาแตะผิวเบาๆ เขายังคงนั่งอยู่ที่เดิม ดวงตาไม่ละจากใบหน้าของเธอ ราวกับกำลังเฝ้ารอช่วงเวลาที่เธอจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง

ความรู้สึกเหนื่อยล้าเริ่มเล่นงานเขา แต่ความตั้งใจที่จะเฝ้าดูเธอกลับยังคงมั่นคง ดวงตาของเขามองผ่านม่านบางเบาที่พลิ้วไหวเบาๆ ไปยังความเงียบสงบของยามรุ่ง ก่อนจะเลื่อนกลับมามองใบหน้าเธออีกครั้ง เขากระซิบอย่างแผ่วเบา จนเกือบไม่ได้ยิน ราวกับกลัวว่าจะทำลายความสงบในช่วงเวลานี้ไป

"ฉันจะอยู่ตรงนี้...จนกว่าเธอจะตื่น"

อย่างไรก็ตาม เขาย้ำเตือนกับตัวเองในความเงียบสงบนี้ นี่ไม่ใช่ความรู้สึกของเขา—มันเป็นเพียงเศษเสี้ยวของอารมณ์ที่หลงเหลือจากเจ้าของรูปลักษณ์ ยังไงซ่ะตัวตนของเขาจะต้องเลือนหายไปสักวันหนึ่ง และ รูปลักษณ์นี้ก็ไม่อาจเติบโตไปตามกาลเวลาได้ ไม่สามารถอยู่ข้างเธอได้ตลอดไป สักวันหนึ่งเขาก็ต้องจากเธอไปอยู่ดี

แต่ในตอนนี้…เขาเลือกที่จะอยู่ตรงนี้ อยู่เคียงข้างเธอในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ จนกว่าวันนั้นจะมาถึง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 45 รากไม้ที่ชอนไช

    แสงแดดยามบ่ายแผดเผาลงบนพื้นกรวด ผ่านหลังคากระเบื้องเก่าจนเกิดเงาแสงวูบวาบ รถม้าที่ประดับตราสัญลักษณ์ของตระกูลแล่นช้าๆ ไปตามถนน ผู้คนริมทางยังคงเดินกันขวักไขว่เช่นทุกวัน เพียงแต่คราวนี้ สายหลายคู่ก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองรถม้าคันนั้นด้วยความสงสัยและกระซิบกระซาบกันเบาๆม่านผ้าถูกแง้มออกเล็กน้อยจากด้านใน เผยให้เห็นใบหน้าของหญิงสาวที่หลบซ่อนอยู่ เอเลน่านั่งนิ่งอยู่ตรงเบาะเบื้องหลัง มือวางบนตักขณะกุมกล่องในมืออย่างเรียบร้อย ดวงตาเหม่อมองภาพผู้คนที่เคลื่อนไหวอยู่ภายนอกโดยไม่เอ่ยถ้อยคำใดตั้งแต่ลงจากสถานี เธอก็สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในสายตาของผู้คนรอบตัว สายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย และ ความไม่ไว้ใจ เพียงแต่ไม่มีใครกล้าเดินมาถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังเหตุเพลิงไหม้ที่โรงพยาบาล ข่าวลือแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งตัวเธอเองในตอนนี้ก็ยังไม่อาจออกมาชี้แจงอะไรได้ เพราะหลักฐานยังอยู่ในระหว่างการสืบสวน สิ่งที่ทำได้มีเพียงแค่การรอให้การสืบสวนเสร็จเรียบร้อยแต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอปฏิเสธไม่ได้ เธอเป็นคนพาชายคนนั้นไปที่โรงพยาบาลเอง โดยที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเขาอันตรายหรือไม่ จนกระทั่ง

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 44 ผู้เฝ้ามองจากเบื้องล่างบัลลังก์

    “ถ้าอย่างนั้น ก็ตามที่ตกลงกันไว้” เอลดริกกล่าวเสียงหนักแน่น ท่ามกลางแสงแดดอ่อนที่ลอดผ่านหน้าต่างกระจกสี ดวงตาที่ซึ่งเคยแฝงด้วยความสงสัยก่อนหน้านี้สงบลงเล็กน้อย ราวกับความเคลือบแคลงก่อนหน้านี้ได้ถูกคลี่คลายสลายไปจนหมด“ข้าจะกลับไปจัดการเรื่องให้มันเรียบร้อบ พวกเราจะได้รับรองว่าท่านเป็นผู้ที่ผ่านการทดสอบอย่างถูกต้องจริงๆ”เอรอสในรูปลักษณ์อาร์วิน เมื่อได้ฟังก็เอนหลังลงเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้เนื้อดี เสียงลมหายใจที่หลุดออกมาราวกับปลดภาระในใจบางอย่าง แต่แม้เขาจะพยักหน้ารับอย่างไม่ใส่ใจนัก ทว่าในแววตากลับยังไม่ลดความระวังลง“ในเมื่อเรื่องสำคัญตกลงกันได้แล้ว…ก็มาเข้าสู่เรื่องต่อไป”ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นทางการขึ้นเล็กน้อย“ข้าได้ส่งคนไปนำเครื่องตรวจสอบพลังเวทย์มาแล้ว อีกไม่นานก็คงมาถึง… หากผลออกมาเป็นไปตามที่ว่าจริงๆ ก็จะสามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันได้”เอรอสเลิกคิ้วเล็กน้อย มุมปากยกขึ้นนิดหนึ่งคล้ายจะเย้ยขัน “จำเป็นขนาดนั้นเลยหรือ?”“จำเป็น?” เอลดริกกล่าวเสียงเรียบ ดวงตาที่เคยมองด้วยความเกรงใจเปลี่ยนเป็นแน่วแน่“เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี และ เพื่อความชัดเจนว่าท่านคือผู้เสียหายจริงๆ เร

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 43 เมื่อเงาในอดีตทับซ้อนกับปัจจุบัน

    โจชัวเดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้านิ่งเงียบ เสียงฝีเท้ากระทบพื้นไม้ดังแผ่วเบาในห้องรับรองอันเงียบสงัด แสงแดดยามเช้าผ่านม่านผ้าเนื้อบางที่ปลิวไหว เฉดสีทองอบอุ่นสะท้อนผ่านแว่นตาทรงเรียบที่เขาสวมอยู่ ท่ามกลางแสงนั้น ใบหน้าของเขายิ่งดูเย็นชาและยากจะคาดเดาพื้นไม้โอ๊คขัดมันสะท้อนเงาของหญิงสาวผู้หนึ่งซึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้วในมุมห้อง โซฟาหนังสีน้ำตาลเข้มรับร่างของเธอไว้ราวกับรู้ตำแหน่งอย่างเหมาะสมที่สุดคาร์ลินนั่งไขว่ห้างอย่างสง่างามบนเก้าอี้ไม้บุหนัง ผมยาวเป็นลอนคลื่นสีม่วงเข้มถูกรวบไว้อย่างหลวมๆ ด้านหลัง ดวงตาสีชมพูจางทอประกายราวอัญมณีต้องแสง ภายใต้แสงสลัวในห้อง มันดูราวกับกำลังเรืองแสงอยู่เบาๆเธอสวมชุดคลุมจอมเวทย์สีดำแต่งขอบม่วงเข้ม ลายอักขระเวทแผ่เรืองแสงบางๆ ตัดกับเสื้อเชิ้ตสีขาวและผ้าคลุมไหล่ยาวที่ปักตราสัญลักษณ์ขององค์กรอย่างประณีต ท่าทางของเธอสงบเฉย...แต่ไม่อาจมีใครละสายตาได้แม้จะไม่เอ่ยสักคำ แต่พลังของเธอก็แผ่ซ่านอย่างชัดเจน หนาวเย็น ลึกลับ และน่าเกรงขามในเวลาเดียวกันมือเรียวของเธอถือถ้วยชาพอร์ซเลนเนื้อดี ลวดลายสีม่วงอมเทาทอแสงเบาบางจากเวทเสริมพลังที่สลักอยู่ที่ก้นถ้วย...ชาร้อนนั้นแทบ

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 42 เงามืดนำทาง

    แสงอรุณยามเช้าส่องผ่านม่านเมฆจางๆ ทอแสงลงมาบนถนนหินเปียกชื้นจากน้ำค้าง รถม้าค่อยๆโยกไปตามเส้นทางที่เงียบสงบ ทำให้บรรยากาศภายในยิ่งหนักอึ้งขึ้นไปอีกโจชัวนั่งนิ่งอยู่ที่มุมหนึ่งของรถม้า ดวงตาสีฟ้าทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่สายตากลับไม่ได้จับจ้องสิ่งใดโดยเฉพาะ เขาเพียงมองออกไปเพื่อไล่ความไม่สบายใจที่เก็บไว้เท่านั้นเมื่อคืนมันแย่พอสมควรสำหรับเขา แม้ตอนนี้จะเก็บอารมณ์ไว้ แต่ใครที่รู้จักเขาดีพอ ย่อมรู้ว่าเขากำลังอารมณ์เสียอย่างเห็นได้ชัดเมื่อคืนเขาถูกบังคับให้ทำสิ่งที่ไม่อยากทำ ไม่ใช่เพราะมันยากหรือเสี่ยงอันตราย แต่เพราะมันทำให้เขานึกถึงอดีต—อดีตที่เขาต้องทนมองดูภรรยาถูกกระทำการทดลองต่อหน้าต่อตา โดยที่เขาทำอะไรไม่ได้ นอกจากจดจำภาพนั้นฝังลึกเข้าไปในใจ เพื่อเฝ้ารอวันที่จะได้แก้แค้นมาถึงและคนที่ขอให้ทำการผ่าตัดในครั้งนี้ ก็รู้ดีว่าเขาผ่านเหตุการณ์อะไรมา ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายก็ยังบังคับให้เขาทำ โดยอ้างเรื่องบุญคุณ แม้ว่าจะทำให้เขาไม่พอใจ และ นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เพื่อตอบแทนหนี้บุญคุณแล้ว ก็มีแต่ต้องทำแต่สิ่งที่ได้รับหลังจากนั้น…ไม่คาดคิดเลยว่าคำพูดแรกที่ได้รับหลังจากทำการผ่าตัดเสร็จ

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 41 ความจริงที่ถูกบิดเบือน

    "ท่านอาร์วิน จอมเวทย์จากหอคอยเวทมนตร์ต้องการเข้าพบขอรับ"เอรอสในรูปลักษณ์ของอาร์วินลืมตาขึ้นจากความคิด เขาเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง แสงแดดบอกให้รู้ว่าอีกสักพักใหญ่เอเลน่าถึงจะเดินทางกลับมาที่เมือง ซึ่งมันก็ดีแล้ว เพราะเขาไม่อยากให้เธอเข้ามาวุ่นวายเกี่ยวกับการเจรจาในครั้งนี้แน่นอนว่าหัวข้อเจรจาคงเป็น เรื่องที่อาร์วินถูกจับทรมาณอยู่ในคุกลับใต้ดินตลอดเวลาที่ผ่านมาโดยที่พวกมันไม่รู้ตัว และ มันก็ยากจะปกปิดเพราะเอเลน่าดันอุ้มเขาออกมากลางถนน...ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนเยอะมาก ทำให้ผู้คนต่างเห็นว่าพวกเราออกมาจากพื้นที่ของหอคอย และ มันกลายเป็นหัวข้อสนทนาที่แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว ทำไมชายที่หายตัวไปถึงออกมาจากที่นั้น? หรือว่าหอคอยจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลักพาตัวคู่หมั้นของตระกูลวัลธอเรนจริงๆ?และที่สำคัญยิ่งกว่า...คนที่จับตัวมาจริงๆมันหายไปไหน เขารู้อะไรรึเปล่า? แล้วในการทอดสอบ เขาได้รับอะไรกลับมา นั้นคือสิ่งที่พวกมันอยากรู้จริงๆเขาหลับตาลงครู่หนึ่ง ก่อนจะคิดต่อว่า… แต่ก็พอดี เขาเองก็ยังไม่รู้เหตุผลว่าทำไมพวกมันถึงต้องเผาโรงพยาบาล ในหนังสือพิมพ์ก็ดูเหมือนจะยังไม่ได้ชี้แจงอะไร ถ้าอยากรู้ก็คงต

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 40 ในที่สุด ฉันก็เจอคุณ

    ภายในห้องพักที่เงียบสงัด แสงแดดอ่อนๆ ส่องผ่านหน้าต่าง ความทรงจำพร่าเลือนราวกับเป็นเพียงเงาของอดีตค่อยๆไหลซึมหายไป เหลือทิ้งไว้เพียงความรู้สึกแปลกประหลาด ราวกับเป็นลางบอกเหตุถึงเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้น หญิงสาวค่อยๆลืมตาขึ้นเธอจำได้ว่าเมื่อคืนตัวเองได้ไปสถานที่แห่งหนึ่งกับชายคนนึง จำได้ว่าได้รับขนมรสขมและชาสมุนไพรจากหมอคนนั้น และ หลังจากนั้น……ว่างเปล่าคิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ความรู้สึกแปลกประหลาดก่อตัวขึ้นในอก‘…ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่?’ก่อนที่เธอจะได้คิดอะไรต่อ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอย่างแผ่วเบา สาวใช้ในชุดเครื่องแบบสีเรียบก้าวเข้ามาด้วยท่วงท่าที่สงบนิ่ง ราวกับไม่รู้ว่าคนในห้องได้สติอยู่ เธอถือพานน้ำชาที่ควันลอยขึ้นเป็นสายบางๆ วางลงบนโต๊ะข้างเตียงอย่างนุ่มนวลเมื่อสาวใช้หันกลับมา สายตาของเธอก็สะดุดเข้ากับหญิงสาวที่กำลังลืมตาขึ้นอย่างอ่อนแรง สีหน้าที่เรียบนิ่งของสาวใช้ก็เปลี่ยนไปในทันที ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจเล็กน้อย ก่อนจะรีบก้มหน้านอบน้อม“คุณ...คุณฟื้นแล้วหรือคะ?” เสียงของเธอแผ่วเบาแต่แฝงด้วยความโล่งใจ“ข้า...ข้าขอโทษที่เข้ามารบกวน ข้าจะรีบไปแจ้งท่านอาร์วินให้ทราบในทันที”ชื่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status