กระดาษสีขาวในมือเริ่มมัวขึ้น..มันขึ้น ก่อนที่อยู่ๆน้ำตาฉันจะหยดเผาะลงกระดาษ และไหลรวมกับตัวหนังสือที่แม่เขียน
จากนั้นรอยปากกาสีน้ำเงินก็เริ่มเลือนลางไปทีละนิด เลือนไปพร้อมกับความคิดที่ตบตีกันในหัว
ฉันต้องแต่งงานจริงๆเหรอ? แล้วที่ฉันรับปากกับคุณอิฐไว้ล่ะ มันจะเป็นยังไงต่อ? หรือลุงอัฐท่านตกลงกับลูกชายไว้แล้ว ไม่งั้นท่านไม่ด่วนมาถึงนี่?
หรือๆ
จริงๆแล้ว...
ลุงอัฐแค่จะมายกเลิก และมาโวยคุณหญิงแม่?!!O_O
พอนึกได้ฉันก็รีบพับกระดาษซ่อนไว้ใต้หมอนทันที ก่อนที่จะปาดน้ำตาอุ้มมู่ทู่เปิดประตูช้าๆ และย่องออกมานั่งแหมะที่บันได
และเมื่อก้มมองไปที่ห้องโถงใหญ่กลางบ้าน ที่มีโซฟารับแขกเวอร์วังอลังการ ฉันก็เห็นคุณหญิงแม่นั่งคุยกับลุงอัฐแค่สองคน
ท่านดูสงบเสงี่ยมเจียมตัว ถึงขนาดนั่งก้มหน้าก้มตา และบีบมือที่วางบนตักเป็นระยะๆ
"คุณหญิงผกา ผมต้องการให้หนูพิงค์ย้ายไปอยู่บ้านผมเร็วที่สุด"
"คะ?คุณอัฐไม่รอให้หนูพิงค์เรียนจบก่อนเหรอคะ?" คุณหญิงแม่เงยขึ้นถามตกใจ แต่ท่านก็ไม่ได้ยืนกรานปฏิเสธ
"ผมรอไม่ไหว"
".........."
"ตอนนี้หนูพิงค์อยู่ไหน ผมต้องการคุยด้วย" เท่านั้นแหละคุณหญิงแม่ก็ก้มหน้าหลบตาลุงอัฐทันที ก่อนที่จะบีบมือที่วางบนตักถี่ขึ้น
ตอนนี้คงลำบากใจ..ที่จะให้ฉันเจอใครสินะ เพราะมุมปากฉันมันยังมีแผลช้ำที่คุณหญิงแม่ฝากไว้อยู่เลย
"นะ..หนูพิงค์ไม่ค่อยสบายค่ะคุณอัฐ"
"เหรอ? ไปบอกสิ..ว่าผมมาเยี่ยม "
เมื่อลุงอัฐยืนยันจะเจอฉันให้ได้ คุณหญิงแม่ก็เงียบไป และเงียบนานจนลุงอัฐถอนหายใจออกมา
"เฮ้อ!! งั้นผมคงต้องให้ลูกน้องผมไปตามลงมา"
"อย่าค่ะคุณอัฐ ดิฉันจะให้คนไปตามให้ค่ะรอสักครู่นะคะ..." พอพูดเสียงสองนอบน้อมเสร็จก็หันขวับไปที่แม่ฉันทันที ก่อนที่จะกดตาต่ำมองท่านที่นั่งบนพื้น
และสั่งว่า
"พรไปตามพิงค์ลงมา"
ได้ยินแบบนั้นฉันก็กระชับกอดมู่ทู่แน่น ก่อนจะเอื้อมมือจับราวบันไดลุกขึ้น และวิ่งเร็วๆกลับเข้าห้องตัวเอง
ตอนนี้ฉันไม่รู้จะไว้ใครดี ระหว่างลุงอัฐกับคุณหญิงแม่ คนนึงเลี้ยงดูฉันมาแต่ทำร้ายจิตใจทำร้ายร่างกายฉันเป็นว่าเล่น ส่วนอีกคนก็ดูสุขุมเลือดเย็น แต่ตามที่แม่เขียนไว้กลับบอกว่าไว้ใจได้
และฉันจะปลอดภัยถ้าตัดสินใจแต่งงานกับเขา
ร่างกายปลอดภัย?
แล้วจิ๊มิฉันล่ะ จะปลอดภัยรึป่าว? ฉันไม่อยากให้เรื่องที่ฉันอุตส่าห์โกหกเป็นเรื่ิองเป็นราว มันกลายเป็นเรื่องน้ำเน่าและฉาวจนใครๆก็สมน้ำหน้า โกหกหนุ่มหล่อไฮโซมา แต่ดันได้คนแก่คราวพ่อมาเป็นผัวซะงั้น
ฮือ คิดแล้วเครียด
ก้อก ก้อก ก้อก~
"คุณหนูคะ..." เสียงเคาะประตูเบาๆกับเสียงแม่เรียก ทำฉันกับมู่ทู่มองหน้ากันทันที ก่อนที่เจ้าหมาในอ้อมกอดจะกระดิกหางสั้นๆของเขาดุกดิกๆ และครางหงิงๆตอบ
'หงิงงงง~ หงิงงงง'
"คุณหนู..." และเสียงแม่ที่เบาลงจนใจหาย ก็ทำฉันตัดสินใจรีบวางมู่ทู่ลงบนพื้นและเอื้อมมือเปิดประตูทันที ก่อนที่แม่จะรีบดันเข้ามา แล้วจับมือฉันไปกุมอย่างรีบร้อน
"คุณหนู..คุณอัฐมาเร่งแล้วค่ะ นมทนเห็นคุณหนูของนมโดนตบไม่ไหวแล้ว ดูสิยังช้ำอยู่เลย..คุณหนูไปตกลงแต่งงานกับคุณอัฐนะคะ ออกไปจากบ้านหลังนี้ให้ได้แล้วค่อยมารับนม"
แม่รีบพูดแกมกระซิบ แข่งกับเสียงรองเท้า..ที่เดินขึ้นบันไดมาหยุดหน้าห้องฟุบๆ
จนฉันรีบหันกลับมาถาม และกุมมือแม่อีกข้าง
"ลุงอัฐเป็นคนดีใช่ไหมคะ..ยืนยันกับหนูสิแม่ ว่าลุงเขาเป็นคนดี"
เสียงกระซิบถามทำแม่ชะงักไปครู่นึง ก่อนจะหันมองเงาที่หน้าประตูด้วยความลังเล แต่เมื่อเจ้าของเงาเคาะประตู ก้อก ก้อก ก้อก!~เร่ง..แม่ก็รีบดึงแขนฉันไปอีกมุม และกระซิบเร็วๆว่า
'คุณอัฐเป็นคนดี นมยืนยันได้ค่ะ และที่นมบอกจำได้ไหมคะ..ว่าคุณอัฐเคยโดนยิงมาก่อน ตอนนี้ท่านเสื่อมสมรรถภาพแล้วค่ะ เรื่องนั้นอย่ากลัวเลยนะคะ'
วินาทีนั้นมันเหมือนทุกอย่างเบาหวิวออกจากอก สิ่งที่หนักอึ้งในหัวและวิตกกังวลหายวับไปกับตา ฉันเริ่มเห็นลู่ทางหนี เห็นแสงสว่างของชีวิต และคิดออก...ว่าตัวเองจะทำอะไร และเริ่มจากตรงไหน
เรื่องลูกชายลุงอัฐ เขาอาจจะแค่ขู่..ถ้าฉันหาวิธีบอกเขาตรงๆว่าฉันมีความจำเป็น และขออาศัยอยู่บ้านเขาไม่นาน เขาน่าจะเข้าใจ
อีกอย่างคนแบบนั้น..เขาคงไม่ผิดใจกับพ่อเรื่องฉันคนเดียวหรอก ไหนจะธุรกิจ ไหนจะพวกพ้องพวกงาน ลูกชายคนเดียวต้องรับผิดชอบทุกอย่างอยู่แล้ว
เขาไม่น่าจะเป็นลูกแง่มาตามจิกฉัน
ก้อก ก้อก ก้อก~!
'เปิดประตูสิ แค่มาตามทำไมต้องล็อคประตู? มันชักจะนานเกินไปแล้วนะ'
แล้วแม่ก็บีบมือฉันแน่น แน่นจนฉันปวดและรีบหันไปมอง สายตาท่านตอนนี้ไม่ได้วอนขอหรือเรียกร้อง แต่มันเป็นสายตาที่เป็นห่วงฉันมาก
และอยากให้ฉันเชื่อใจท่าน
"เชื่อนมนะคะ"
"..........."
ฉันไม่ตอบ ยังนิ่ง จนแม่ค่อยๆปล่อยมือลงแล้วเดินไปเปิดประตูให้คุณหญิงแม่ และทันทีที่ท่านเข้ามาเห็นฉัน ท่านก็มองฉันกับแม่แปลกๆ
จนฉันต้องแก้ไขสถานการณ์...รีบเดินไปหยุดตรงหน้า ดึงความสงสัยทั้งหมดมาที่ตัวเอง
"มีอะไรคะคุณหญิงแม่"
"ล้างหน้าล้างตาแต่งตัวดีๆ คุณอัฐมาหา เอ้อ!ที่ปากน่ะ! บอกว่าหกล้มหน้ามืดนะ"
ฉันพยักหน้าเบาๆรับรู้ จนคุณหญิงแม่เอามือกอดอกและเปรยตามองแม่ฉัน
"พรออกไป เธอจะเฝ้าลูกเธอถึงไหน"
"คุณหญิง พรขอนะคะ อย่าตบคุณหนูอีก ถ้าคุณอัฐรู้คุณหญิงคง..." แม่ฉันพูดไม่ทันจบ คุณหญิงแม่ก็จิ๊ปากและจิกตาใส่ทันที ก่อนที่ท่านจะเดินมาจับต้นแขนฉัน และดึงเข้าไปหา
"นี่! ถ้าพูดง่ายๆฉันจะลงไม้ลงมือทำไม? พิงค์ลงไปก็ตอบตกลงแต่งงานซะ! ไม่งั้นฉันจะไม่ตบแค่เธอนะ ...รอบหน้าจะตบแม่เธอด้วย!"
ฉันหลับตาลงกำมือแน่น ก่อนจะสบัดแขนตัวเองออกจากมือคุณหญิงแม่สุดแรง และถอยออกห่าง
"นี่พิงค์!! อย่ามาลองดีกับฉันนะ"
"ไม่ได้ลองดี และก็เลิกข่มขู่พิงค์กับแม่สักที พิงค์จะแต่งให้ โอเคมั้ยคะ พิงค์จะไปอาบน้ำแต่งตัวสวยๆไปตอบตกลงตามใจคุณหญิงแม่ทุกอย่าง!"
และท่านก็เผยยิ้มที่มุมปาก แต่เป็นรอยยิ้มที่เหยียดหยันฉันมาก คงจะคิดสินะ..ว่ายังไงฉันก็จนมุมไปไหนไม่รอด
เออ คิดถูก! ฉันจนมุมจริงๆนั่นแหละ!!
และต่อไปนี้...ฉันกับแม่จะไม่อยู่เป็นเบี้ยล่างใครอีกแล้ว !!
"งั้นก็รีบแต่งตัวรีบลงมา อย่าให้ผู้ใหญ่รอนาน"
ฉันไม่ตอบก้มลงอุ้มหมาสุดที่รักเดินเข้าห้องแต่งตัวตัวเอง ไม่ได้เวอร์นะ..แต่ตั้งแต่คุณอิฐมาระรานกับหมาฉัน ฉันก็เป็นห่วงมู่ทู่มาก ไม่อยากให้มันพ้นสายตาไปสักนาที ยิ่งคุณหญิงแม่ตอนนี้ยิ่งไว้ใจไม่ได้ หน้าเนื้อใจเสือเพราะหนี้ค้ำคอหอยอยู่ เกิดพามู่ทู่ไปขายที่สนามหลวงฉันจะทำยังไง
หลังจากแต่งตัวใส่ชุดเดรสง่ายๆฉันก็ลงไปนั่งที่ห้องโถงใหญ่และยกมือไหว้ลุงอัฐ ซึ่งลุงอัฐท่านสุขุมมาก ท่านไม่ได้มองฉันสายตาแพรวพราว เหมือนพ่อบุญธรรมมองฉันเลย
"ปากไปโดนอะไร?" คำถามแรกที่ลุงอัฐถาม ทำคุณหญิงแม่ถึงกับยืดตัวตรงหลังไม่ติดเก้าอี้
"เอ่อ ช่วงนี้พิงค์ไม่ค่อยสบายค่ะคุณอัฐ เลยหน้ามืดล้มน่ะค่ะ^^"
ลุงอัฐไม่สนใจคุณหญิงแม่ เอาแต่นั่งจ้องรอยช้ำที่ริมฝีปากฉัน และถามฉันว่า..
"ผมถามพิงค์ ไงหนูพิงค์...ใครทำอะไรพิงค์รึป่าว?" ฉันส่ายหน้าเบาๆ และกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ รังสีความเป็นเจ้าพ่อ แค่พูดแค่ถามไม่กี่คำ..มันก็สามารถทำให้ฉันตัวหดหางจุกตูดได้
"ไม่ค่ะ ไม่มี หนูล้ม"
แล้วลุงอัฐก็พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะหันไปคุยกับคุณหญิงแม่ปกติ ท่านพูดเรื่องแต่งงานและขอฉันไปอยู่บ้านท่านเลยตอนนี้ ก่อนที่จะตกลงเรื่องหนี้ที่คุณหญิงแม่ค้างไว้
ท่านจะยกให้ก่อนครึ่งนึง และหลังจากแต่งงานมีทายาทท่านจะยกที่เหลือให้
แต่เรื่องทายาทมันทำให้ฉันงง และนั่งขมวดคิ้วฉุกคิดในใจ แม่เพิ่งบอกว่าลุงอัฐเสื่อมสมรรภาพไปแล้ว
ท่านจะมีทายาทอีกได้ยังไง?
เสื่อมสมรรถภาพคือมีเซ็กส์ไม่ได้
หรือทายาทที่ท่านพูดถึง...คือการทำกิฟท์ ใช้หลักทางการแพทย์??!
"คุณอัฐ..ฉันฝากดูแลหนูพิงค์ด้วยนะคะ^^" ฉันสลัดเรืื่องในหัวสนใจคนตรงหน้าทันทีเมื่อได้ยินชื่อตัวเอง
ตายจริงคุณหญิงแม่ตกลงกับลุงอัฐถึงไหนแล้ว ทำไมฉันใจลอยแบบนี้
"ได้ ไม่มีปัญหา..ผมจะดูแลอย่างดี^^"
"........"
"ไงหนูพิงค์เต็มใจแต่งงานใช่มั้ย^^" คำถามนี้ ทำทุกคนในห้องจับจ้องมาที่ฉันรอคำตอบ รวมถึงแม่แท้ๆที่พยักหน้ารัวๆให้ฉันเชื่อใจ และเชื่อมั่นในสิ่งที่ท่านบอกก่อนหน้า
หนักกว่าคือคุณหญิงแม่ที่เริ่มจิกตา และจิ๊ปากนิ่วหน้ากดดัน
จนฉันกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เงียบไปสักพัก
เงียบจนลุงอัฐเอียงคอถาม..
"ไงหนูพิงค์..."
"........"
"หนูพิงค์...."
"คะ.. ค่ะหนูเต็มใจ"
"เฮ้ย! พวกมึงโทรหาช่างกระจกสิวะ!"เฮ้อออออ!..เป็นแบบนี้ไม่รู้กี่ร้อยครั้งที่บ้านเรากระจกพัง คุณอิฐเขาก็แก้ปัญหาด้วยวิธีเดิมๆของเขา คือใช้ลูกน้องเรียกช่าง! เขาไม่เคยห้ามลีอองเรื่องเล่นปืนเลยสักครั้ง จนนานเข้าๆลูกชายตัวแสบสอยแจกันบ้างล่ะ สอยถ้วยน้ำชาพ่ออัฐแตกบ้างล่ะแต่ก็เป็นเช่นเดิม..คือคุณอิฐไม่ดุลีอองเลย ต่อให้ของที่พังมันจะมูลค่ามหาศาลและแตกไปต่อหน้าต่อตาเขาก็ตาม เขาก็จะเพิกเฉย! ซึ่งแตกต่างจากลิลินมากเลย..รายนั้นถูกดุแทบทุกเรื่องปกติพ่อต้องสปอยลูกสาวไม่ก็ตามใจมากๆใช่มั้ย แต่บ้านนี้ไม่!!...คุณอิฐเขาไม่เคยใจดีกับลิลินเลย มันต่างจากลีอองลิบลับโดยเฉพาะเรื่องติณห์ที่ฉันหว่านล้อมทุกวัน ลูกสาวเราแปดขวบและติณห์ก็โตมาหล่อนิสัยดีมาก! คุณอิฐเขาก็ยังไม่ยอมให้ลูกไปสนิทกับติณห์ แถมยังดุทุกครั้งที่ลิลินพูดถึงนี่ขนาดเป็นลูกชายเพื่อนสนิทซีอีโอสายการบินเวลฟายนะ ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นตาสีตาสาล่ะ?...หึ! ฉันว่าชาติหน้าตอนบ่ายๆก็ไม่ได้ย่างกรายเข้ามาในชีวิตลูกสาวเขาหรอกจนหลังจากที่ถูกห้าม ลิลินก็ตึงตังกลับขึ้นไปบนบ้าน และเดินลงมาพร้อมกระเป๋าเป้หนึงใบ...ไปหยุดที่พี่ชะเอม"ป้าเอมคะ ไปส่งลินที่บ้านพี่ติณห
ทั้งโรงพยาบาลเวลานี้ตีสองย่างตีสาม คงจะมีแค่ฉันคนเดียวสินะทีี่แหกปากโวยวาย และใช่ลูกน้องคุณอิฐก็เดินนำแหวกทางให้ เพื่อจะได้เคลียร์ทางส่งฉันให้ถึงห้องคลอดเร็วที่สุดจะว่าเวอร์วังก็ว่าไปเถอะฉันไม่เถียง เพราะเสียงรองเท้าตึกๆที่วิ่งตามเป็นขบวนตอนนี้มันมีความหมายกับฉันเหลือเกิน ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะคลอดทายาทของตระกูลมาเฟียหรือหัวหน้าใหญ่ของพวกเขายังไงอย่างงั้น!เพราะทุกคนเดินไปมองทางไปเคร่งเครียดมาก และหนำซ้ำไม่พอ..ยังกางแขนกั้นคนอื่นไม่ให้มองมาที่ฉันอีกมันเป็นธรรมเนียมต้อนรับผู้สืบทอดตำแหน่งเหรอ?! ทำไมแห่กันมาทั้งบ้านและเวอร์กันขนาดนี้! ฉันรู้สึกว่าตัวเองสำคัญก็จริง แต่ใจฉันก็กลัวว่าตัวเองจะรบกวนคนไข้คนอื่นด้วย"คุณพิงค์ถึงห้องคลอดแล้วครับนาย!"เมื่อถึงประตูห้องคลอด..ลูกน้องฝั่งซ้ายก็โทรรายงานคุณอิฐทันที ที่ตอนนี้เขาไปเคลียร์งานที่บ่อนตั้งแต่เย็นและยังไม่กลับซึ่งฉันที่ปวดท้องยิ่งได้ยินและยิ่งโมโหมาก เขารู้ทั้งรู้ว่าฉันใกล้คลอดนะ! แต่ทำไมไม่มาดูแลฉันด้วยตัวเอง จะส่งลูกน้องมาเป็นขบวนแบบนี้ทำไม! เขาเป็นพ่อลูกสองแล้วยังคิดไม่ได้อีกเหรอ?!แต่ดีนะที่พี่หลินพี่ชะเอมช่วยดูลิลินให้ ไม่อย่า
รู้ไหมว่าการหลอกสามีมันยากกว่าลอกข้อสอบไฟนอลอีก ฉันกลัวคุณอิฐเขาเตะตัดขาเรื่องติณห์มาก ยิ่งได้ยินเขาห้ามลิลินเรื่องบอกรักแบบนั้นฉันยิ่งกลัวอะไรก็ไม่รู้ก็แค่เด็กบอกรักกัน ทำไมเขาต้องห้ามลูกจริงจังเบอร์นั้นด้วย!!!"ลิลิน หลังจากนี้หนูไม่ต้องคุยเรื่องพี่ติณห์กับปาป๊านะลูก เพราะปาป๊าอาจจะห้ามหนูไม่ให้เจอพี่ติณห์อีก ""ค่ะ ได้เยยๆ" ลิลินรับคำทันทีซึ่งมันดีมาก และแบบนี้ล่ะเข้าแผนการ เชื่อแม่แล้วจะได้ดีทุกคน!หลังจากวันนั้นที่ฉันกำชับลูก ฉันก็คอยหลบหลีกคุณอิฐพาลิลินไปเที่ยวเล่นบ้านพี่เต้บ่อยๆ แถมอ้างกับหมอน้ำแข็งว่าลิลินแค่อยากมาหาอันติงเท่านั้น ไม่ก็เราขับรถผ่านๆเลยแวะมาทักทายซึ่งหมอน้ำแข็งก็ไม่ว่าอะไร จนระหว่างที่ทิ้งลูกให้เล่นกับตุ๊กตาในกรงใหญ่ๆ เราสองคนก็มีเวลาคุยกันมากขึ้น "ลิลินไหวพริบดีนะคะ คิดไว้รึยังว่าจะให้เธอเรียนอะไร?"เอ่อ...ลูกเพิ่งสองขวบกว่าๆฉันต้องคิดเรื่องเรียนให้ลูกแล้วจริงดิไม่ทันตั้งตัวเลยนะเนี่ย เพราะก่อนหน้านี้ไม่กี่ปี ฉันเพิ่งเรียนจบเอง-_-"ยังเลยค่ะ คงต้องรอดูไปก่อน^^""อืม งั้นตอนนี้ก็สังเกตลิลินเลยนะคะ สังเกตว่าชอบอะไร หรือสนใจอะไรเป็นพิเศษ จากนั้นค่อยหาอุปกรณ์ข
"รูดกันเป็นว่าเล่นเลยเว้ย-_-""อะไรวะ? " ผมขมวดคิ้วถามไอ้เต้ เมื่อมันหยิบโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนจากเสื้อสูทตัวเองออกมา ก่อนที่มันจะส่ายหน้า แล้วเปิดข้อความเลื่อนผ่านๆให้ผมกับไอ้พีมดู"เมียกูถึงห้างไม่ถึงสิบนาทีรูดไปแล้วหกแสน" "อย่างมึง ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกกูรู้^^" จริงของไอ้พีม อย่างไอ้เต้หกสิบล้านยังจ่ายได้สบายๆแค่หกแสนมันจะบ่นอะไรนักหนาวะ"มึงให้เมียไปแล้ว อย่าบ่นสิวะ" ผมบอก..ก่อนจะจิบไวน์ขวดละล้านของมันพอหอมปากหอมคอ"ถ้าเมียรูดซื้อของตัวเองกูไม่บ่นเลย แต่นี่ของติณห์ทั้งนั้น! มันเกินเด็กไปว่ะ ""เดี๋ยวโตขึ้นก็บริหารสายการบินต่อ มึงก็ไปพักผ่อนไงวะ แล้วนี่อันติงไปไหนล่ะ?ทำไมไม่ไปช็อปกับแม่^^"ไอ้พีมถาม เพราะปกติไอ้เต้จะเป็นคนเลี้ยงลูกสาวคนเล็กในห้องทำงานนี้"แม่กูพาไปสวนสัตว์ ตอนแรกก็วางแผนจะพาไปทั้งพี่ทั้งน้อง แต่ลูกชายกูไม่ยอม..บอกว่าเหม็นและสกปรก กูเลี้ยงลูกผิดรึป่าววะเนี่ย!-_- "ผมกับไอ้พีมมองหน้ากันทันที เมื่อไอ้เต้มันบ่นและถอนหายใจอย่างหัวเสีย เพราะนานทีผมจะเห็นมันโหมดนี้ จนไอ้พีมมันพูดขึ้นมาว่า"ลูกมึงเกิดมาเป็นคุณชาย และเป็นหลานชายคนแรกของสองตระกูลที่ร่ำรวยติดอันดับ มึงจะก
เอายังไงดี เพราะเสียงคุณสามีระดับไม่คงที่เลย เขาคงเต้นอยู่แน่ๆ หรือไม่ก็...อุ้มลิลินเต้นด้วย!!เพราะเมื่อกี้ฉันได้ยินกับหูตัวเอง รู้สึกว่าเขาจะถามลูกเรื่องเต้นมั้ยอะไรสักอย่าง?! มันต้องใช่แน่ๆเลย'อาบน้ำๆ อาบน้ำๆ กันเถอะ~อาบน้ำแล้วสบายตัว~ 'แหม..อินโทรก็มา ถ้าแรปด้วยนี่ฮาเลยนะ แต่น่ารักดี.. ฉันชอบคุณอิฐโหมดนี้จังและฉันไม่อยากเข้าไปขัดจังหวะเลยด้วยซ้ำ อยากให้เขาเล่นกับลูกบ่อยๆร้องเพลงให้ฟังเรื่อยๆแบบนี้ ถึงเขาต้องแอบทำในที่ลับตาคนก็เถอะและลิลินต้องเข้าใจนะลูก ปาป๊าของลูกเป็นมาเฟีย! เขาต้องคีพลุค! ส่วนหนูก็ยอมๆหรือไม่ก็ทนปาป๊าเขาร้องเพลงไปก่อน โตแล้วค่อยไปฟังพี่ติณห์ร้องแทนคำก็ติณห์สองคำก็ติณห์ ไอ้แผนจับติณห์ใส่กระด้งมันไม่เคยหลุดออกจากหัวฉันเลย ที่ผ่านมาฉันเลี้ยงลูกทะนุถนอมสุดๆ ทั้งทาครีมถนอมผิวทั้งทำสปาเด็ก เพราะมีเรื่องนึงอยู่ในหัวตลอดเวลาใช่ค่ะ..ลิลินต้องสวย ต้องเก่ง ต้องเป็นที่หมายตาของติณห์ และโตไปเธอต้องเป็นผู้หญิงเพอร์เฟคจนติณห์ต้องตามจีบ หรือไม่พี่เต้กับหมอน้ำแข็งต้องเห็นดีเห็นงามจับหมั้นหมายกันไว้แต่เนิ่นๆโอ้ยถ้าเป็นแบบนั้นชีวิตลูกสาวฉันคงจะดีมาก แต่ทั้งหมดที่ฉันคิดแล
หลังจากถ่ายรูปเสร็จ ฉันคุยกับวิสัญญีแพทย์ไม่กี่คำก็เผลอหลับไปก่อนที่จะตื่นขึ้นมาในเช้าตรู่ที่แสนสดใส และเห็นเพื่อนสนิทพ่อๆพี่ๆบอดิการ์ดของฉันยืนเต็มห้องไปหมด"น่ารักที่สุดเลยลิลินของอา""ไหนขอปู่อุ้มหน่อย""ดีๆนะพ่อ พ่อมือหนัก" เมื่อตื่นและปรับสายตาเข้ากับแสงจ้าๆในห้อง ฉันก็เห็นพ่อสามีกำลังอุ้มหลานอยู่จนฉันต้องหันไปมองหน้าสามีทันทีเพราะตอนนี้เขานั่งข้างๆเตียงและกำลังทำหน้าแปลกๆ เหมือนคน..กำลังจะร้องไห้"มึงมองๆหลาน แล้วหน้าเหมือนใครไอัรัฐ" พ่ออัฐถามยิ้มๆ ก่อนที่จะหันมามองที่คุณอิฐแวบนึง จนฉันต้องรีบทำตาปรือ เพื่อแอบดูปฏิกิริยาของเขาฉันอยากให้คุณอิฐเขาเลิกอคติกับพ่อเขาได้แล้ว พ่อลูกกัน..ยังไงๆก็ตัดกันไม่ขาด ถึงจะไม่ได้เลี้ยงดูมาก็ตามแต่สายสัมพันธ์ทางสายเลือดก็ยังอยู่"เหมือนกู""เหมือนกูต่างหาก" พ่ออัฐเถียงและเดินเข้าไปมองหน้าลิลินข้างๆลุงรัฐจนพู่กันพูดขึ้นมาว่า.."เหมือนพู่กันค่ะ น่ารักจิ้มลิ้มเหมือนพู่กันที่สุด^^""ถ้าน่ารักจิ้มลิ้มคงเหมือนพิงค์ ไม่เหมือนเธอหรอก""เอ๊ะ พี่อิฐ!>[]เถียงกันจนได้ ขนาดลิลินหลับอยู่ก็ไม่สนใจ แต่เมื่อพ่ออัฐท่านหันมาเห็นฉันลืมตาขึ้นเท่านั้นแหละ ท่านก