เช้าวันนี้ในหมู่บ้านดูคึกคักเป็นพิเศษ ทุกคนต่างก็แต่งตัวหล่อสวยเพราะวันนี้เป็นวันบุญมหากฐิน แตงไทยกับเจ๊ไก่ก็เหมือนกันแต่งสวยแบบจัดเต็ม เตรียมพร้อมที่จะไปเป็นนางฟ้าหน้ารถแห่ในตอนบ่าย
ในช่วงสาย ๆ หลังจากที่ทำบุญและสรุปยอดกฐินแล้ว ก็จะมีโรงทานหลายโรง มีอาหารที่ผู้ใจบุญทำมาแจกหลากหลายเมนู ทั้งก๋วยเตี๋ยว น้ำหวาน น้ำแข็งใส ไก่ย่างส้มตำ ไอติม และขนม แตงไทยกับเจ๊ไก่เดินวนกินของแจกจนพุงกาง "อิ่มจัง ตังค์อยู่ครบ" แตงไทยพูดออกมาพลางลูบท้องตัวเองป้อย ๆ ตอนอยู่เมืองหลวงเธอไม่เคยได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้เลย เพราะมัวแต่ทำงาน "ปีหน้าเราทำโรงทานกันดีไหมเจ๊" "อือ ก็ดีนะ" เมื่ออิ่มแล้วแตงไทยก็เกิดไอเดียดี ๆ นึกอยากจะทำโรงทานแบบนี้บ้าง เผื่อบุญกุศลจะส่งผลให้สมหวังในเรื่องของความรัก อีกอย่างช่วงนี้ความสัมพันธ์ของเธอกับกำนันหินก็กำลังก้าวหน้า (เธอก้าวหน้าฝ่ายเดียวเพราะตั้งแต่เป็นเพื่อนกันในเฟสบุ๊ค ก็ตะบี้ตะบันกดหัวใจให้กับทุกสเตตัสที่เขาอัพเดต) "แตง โน่น" เจ๊ไก่บุ้ยหน้า แตงไทยจึงหันไปมองตามทิศทางนั้น แล้วเธอก็ใจเต้นแรงเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของกำนันหินเดินมา เห็นมะแค่คิดว่าจะทำบุญเทวดาก็เข้าข้างแล้ว วันนี้เขามาในชุดเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตสีเข้ม กางเกงยีนส์ขากระบอกเล็กสีดำยี่ห้อดัง และที่ขาดไม่ได้ก็คือผ้าขาวม้าไหมเคียนเอว "เจ๊ หัวใจฉันจะวาย" "มึงก็ เก็บอาการหน่อยเหอะ" กำนันหินทักทายผู้คนในวัดอย่างเป็นกันเอง แล้วก็เดินขึ้นไปบนศาลา สักพักผู้ใหญ่บ้านก็ประกาศผ่านไมโคโฟนว่าเขาต่อยอดกฐินหนึ่งหมื่นบาท เสียงผู้เฒ่าผู้แก่ต่างอนุโมทนาสาธุกันระงม แตงไทยยิ้มแก้มปริ รู้สึกภูมิใจในตัวกำนันหินมาก เจ๊ไก่ส่ายหน้าอยากจะเตือนมันเหลือเกินว่า เขาไม่ได้เป็นอะไรกับมัน แต่ก็ได้แต่เก็บไว้ในใจ แล้วในที่สุดเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง รถแห่คันใหญ่ที่มีเครื่องเสียงกระหึ่ม พร้อมกับนักดนตรีและนักร้องชายหญิงหลายคนก็ขับเข้ามาตรงบริเวณหน้าวัด เตรียมพร้อมที่จะสร้างความสุขและสนุกสนานให้ชาวบ้าน รถแห่คันนั้นลองเครื่องเสียงอยู่พักใหญ่ก็พร้อมแล้ว เสียงเพลงกระหึ่มขึ้น ทุกคนต่างก็ลุกขึ้นเต้นใส่สเต็ปกันอย่างเต็มที่ รถแห่จะวิ่งวนรอบหมู่บ้านหนึ่งรอบไม่ได้เล่นในวัด เนื่องจากว่าอะไรที่สนุกสนานแบบนี้ย่อมขาดแอลกอฮอล์ไม่ได้ ท่านเจ้าอาวาสเกรงถึงเรื่องความไม่เหมาะสม จึงไม่ให้เข้ามาในบริเวณวัด แตงไทยกับเจ๊ไก่ก็ไม่พลาดกับเรื่องสนุกสนานแบบนี้ แถมยังมีกระป๋องใบเล็กถือเอาไว้ในมือคนละกระป๋องด้วย และน้ำที่อยู่ในกระป๋องก็ย่อมไม่ใช่น้ำชา แต่ว่ามันคือเบียร์ ทั้งคู่ค่อนข้างคอแข็งอยู่ ทั้งดื่มทั้งเต้นสนุกสุดเหวี่ยงไปเลย กำนันหินเองก็ถูกสาว ๆ ในหมู่บ้านลากออกไปเต้นด้วย แตงไทยมองกำนันหินอย่างไม่วางตา แล้วเธอก็ตัดสินใจเดินตรงเข้าไปหาเขา ยื่นกระป๋องใบเล็กในมือส่งให้ไป กำนันหินรับมาแล้วก็ดูดน้ำในกระป๋องนั้นจู๊ดใหญ่ เธอเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อเขาไปทางสายตาอย่างไม่ปิดบัง "แตงชอบกำนันนะ ขอจีบได้ไหม ?" ร่างบางขยับเข้าไปใกล้ร่างสูงใหญ่อีกนิด เขย่งเท้าขึ้นและกระซิบที่ริมใบหูแกร่ง บอกชอบเขาแบบตรง ๆ ไม่รู้ว่าความรักมันจุกอกหรือเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่กินเข้าไปกันแน่ จึงทำให้เธอใจกล้าแบบนี้ กำนันหินได้ยินคำพูดของเธอชัดเจนทุกคำ กลิ่นหอมจากร่างกายสาวโชยเข้ามาปะทะจมูก แม้เสียงรอบข้างจะดังมาก แต่เขากลับรู้สึกว่าในตอนนี้เขาอยู่กับเธอแค่สองคน ใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด เมื่อบอกความในใจกับเขาไปแล้วแตงไทยก็เดินตรงไปหาเจ๊ไก่ แล้วก็เต้นต่ออย่างสนุกสนาน กำนันหินมองตามเธอไปแบบไม่รู้ตัว บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ารู้สึกยังไงกับเธอกันแน่ แม้ว่าจะมีผู้หญิงเข้าหาและให้ท่าเขาหลายคน แต่ก็ยังไม่เคยมีใครมาบอกว่าชอบเขาและขอจีบเขาตรง ๆ แบบนี้เลยแม้แต่คนเดียว ดีนะที่ตอนที่แตงไทยกระซิบบอกกำนันหิน ชาวบ้านทุกคนเริ่มเมาได้ที่และมัวแต่สนใจกับเสียงเพลง จึงไม่ได้มาสนใจอะไรกับสิ่งรอบข้าง ไม่อย่างนั้นการกระทำของเธอต้องเป็นหัวข้อทอล์กออฟเดอะทาวว์ไปเป็นเดือนแน่ หลังจากวันนั้นแตงไทยก็เดินหน้าจีบกำนันหินอย่างที่เธอบอก เธอทักไปหาเขาทุกเช้า ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ และลงท้ายด้วยคำว่ารักนะ ทุกครั้ง เขาก็อ่านอย่างเดียวไม่เคยตอบเลย แต่แค่เขาอ่านเธอก็ดีใจมากแล้ว "แตงเอ้ย พรุ่งนี้กำนันเขาจะเอารถเกี่ยวมาลงนาเราแล้วนะ ให้ลูกเตรียมกับข้าวกับปลาไว้ด้วย" ตาทองเอ่ยขึ้นมาในขณะที่กินข้าวเย็น แตงไทยหูผึ่งทันที ตั้งแต่วันที่เธอบอกรักเขาในวันบุญกฐิน เธอก็ไม่ได้เจอหน้ากำนันหินอีกเลย คืนนั้นเธอนอนไม่หลับ เพราะมัวแต่ตื่นเต้นที่จะได้เจอหน้าเขา แตงไทยตื่นตั้งแต่ตีสี่เพื่อมาทำกับข้าว ส่วนตาทองก็เตรียมยุ้งฉางและผ้าลานสำหรับตากข้าว สองคนพ่อลูกตกลงกันไว้ว่าจะเก็บข้าวเอาไว้แค่พอกินเท่านั้น ที่เหลือก็จะขายเลยแม้จะไม่ค่อยได้ราคาก็ตาม แต่ก็ยังดีกว่าเพราะถึงยังไงก็กินไม่หมดอยู่ดี ในช่วงสาย ๆ เจ๊ไก่ก็มาเพราะว่าแตงไทยโทรบอกตั้งแต่เมื่อคืน อีกสองสามวันข้าวของเจ๊ไก่ก็จะได้เกี่ยว ถึงเวลานั้นเธอก็จะไปช่วยเจ๊ด้วยเหมือนกัน "ลุงทอง สวัสดีจ้ะ" "เออ ๆ หวัดดี นังแตงอยู่ในบ้านแน่ะ" เจ๊ไก่ยกมือไหว้ตาทองแล้วก็เดินเลยเข้าไปในบ้าน เพื่อไปหาแตงไทยที่อยู่ในครัว "เจ๊ กินข้าวก่อน มีซอยจุ๊แล้วก็ลาบเนื้อ" "มีเหล้าขาวมั้ย ?" แตงไทยยิ้ม แล้วก็ยกขวดสี่สิบดีกรีโชว์ให้เจ๊ไก่ดู เจ๊ไก่รีบนั่งลงและรินน้ำสีขาวใส่ในแก้วใบเล็กจนเต็มและยกขึ้นเทรวดเดียวลงคอไป ร่างบางส่ายหน้าแม้จะเป็นสายดื่ม แต่กับเหล้าขาวเธอก็ไม่ไหวเหมือนกัน เกือบสิบเอ็ดโมงรถเกี่ยวก็มาถึง ตาทองไปรอที่ทุ่งนาก่อนแล้ว และก็ได้โทรมาบอกให้ลูกสาวเตรียมปูผ้าลานไว้ พอปูผ้าลานเสร็จสองสาวก็ตามออกไปที่ทุ่งนา โดยเจ๊ไก่ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของรุ่นน้องสาว พอพวกเธอไปถึงทุ่งนา รถเกี่ยวก็กำลังขับวนอยู่กลางทุ่งนาเพื่อเกี่ยวข้าวสิบสี่กุมพาพันธ์ เป็นวันกำหนดการงานแต่งของแตงไทยและกำนันหิน ซึ่งงานแต่งในคราวนี้ถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่ มีทั้งหมอลำและรถแห่ กำนันหินเชิญคนทั้งตำบลหนองปลาไหลให้ไปร่วมงานแต่งของเขา และสิ่งที่ทุกคนต้องพูดโจษขานกันไปอีกนาน นั่นก็คือสินสอดที่กำนันหินมอบให้กับตาทองผู้เป็นพ่อตา เพราะมันเยอะมาก เงินสดสิบล้านบาท ทองคำแท่งห้าสิบบาท และโฉนดที่ดินในตำบลหนองปลาไหลอีกนับร้อยไร่ แต่ตาทองไม่รับเขามอบกลับคืนให้ลูกสาวและลูกเขย"พ่อไม่ต้องการสินสอดอะไรทั้งนั้น ขอแค่หลานสาวหรือหลานชายอย่างละคนก็พอ"ตาทองบอกกับเจ้าบ่าวเจ้าสาว กำนันหินหันไปมองหน้าแตงไทยอย่างมีความหมาย เธอก็ยิ้มตอบเขากลับมาอย่างเขินอายแต่ก็ยั่วยวนเขาอยู่ในทีหลังจากเสร็จงานพิธี เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ปล่อยให้แขกเหรื่อสนุกสนานกัน ส่วนพวกเขาทั้งสองคนได้เข้าห้องหอไปงานนี้คนที่มีความสุขมากที่สุดนอกจากแตงไทย กำนันหินและตาทองแล้ว ก็คงจะหนีไม่พ้นเจ๊ไก่ เพราะว่านอกจากได้เงินในซองจากการเป็นเพื่อนเจ้าสาวเยอะมากหลายหมื่นเลยทีเดียวแล้ว เจ๊ยังได้ส่องหนุ่ม ๆ อีกหลายคน ทั้งนักร้องรถแห่ พระเอกหมอลำรวมทั้งนักดนตรีด้วย เจ๊คนสวยเอาเงินในซองที่ได้มา ไปเปย์หนุ่ม ๆ เหล่
วันนี้เป็นวันสิ้นปีมองไปทางไหนก็เห็นแต่ความสุขและบรรยากาศของการเฉลิมฉลอง แตงไทยกับกำนันหินเองก็กำลังเดินซื้อของอยู่ในร้านขายส่งในตัวอำเภอ เพื่อเอาไปฉลองปีใหม่เช่นเดียวกัน ปีนี้เขากะว่าจะฉลองสองคนกับแตงไทยเท่านั้น แต่ทว่าไอ้เพื่อนตัวดีทั้งสองคนดันอยากมาร่วมฉลองด้วย ตอนแรกเขาคิดจะปฏิเสธแต่พวกมันก็เซ้าซี้ไม่เลิก แถมยังขุดคำมาด่าเขาอีกสารพัด ทั้งหาว่ามีแฟนแล้วทิ้งเพื่อนบ้าง ตีตัวออกห่างบ้าง ใช่ซี้มีแฟนแล้วเพื่อนก็เป็นหมาหัวเน่าบ้าง และอีกหลายคำด่า จนกำนันหินเกรงว่าจะอดกระโดดเตะพวกมันไม่ได้ สุดท้ายจึงต้องยอมให้พวกมันมามีส่วนร่วมด้วยแตงไทยเองก็ชวนเจ๊ไก่มาด้วยเหมือนกัน ตอนนี้เจ๊กำลังช่วยจัดเตรียมสถานที่อยู่ที่บ้านของกำนันหิน ร่วมกับปลัดสิงห์และเสี่ยกรณ์ ปล่อยให้การซื้อของเป็นหน้าที่ของกำนันหินและแตงไทยไประหว่างที่ทั้งสองคนกำลังเดินเลือกซื้อของอยู่นั้น สายตาคู่หนึ่งก็มองมาที่แตงไทยอย่างมาดร้าย เสี่ยสันต์นั่นเองเขาคิดในใจว่าถ้าหากไม่มีผู้หญิงคนนี้กำนันหินก็ต้องหันกลับไปสนใจกุหลาบแน่นอน แล้วแผนการณ์อันชั่วร้ายก็ผุดขึ้นในใจของชายวัยกลางคนเมื่อแตงไทยกับกำนันหินได้ของครบแล้วก็พากันเดินไปที่รถ
'เพี๊ยะ !'กุหลาบหน้าหันไปตามแรงตบของผู้เป็นพ่อ เธอน้ำตารื้นและร้องไห้ออกมาทันที ยกมือขึ้นมากุมใบหน้าซีกที่ถูกตบเอาไว้ มันทั้งชาและร้อนผ่าวสลับกันไปมา แต่ความเจ็บตรงใบหน้ายังเจ็บไม่เท่าตรงหัวใจของเธอ"ไม่ได้เรื่อง ! ทำไมมึงโง่อย่างนี้ ห๊ะ ! กูบอกให้มึงทำยังไงก็ได้ให้มึงได้ไอ้หินเป็นผัว แต่มึงก็ไม่ทำ เป็นไงทีนี้มีหมาคาบไปแดกแล้ว"เสี่ยสันต์บริภาษลูกสาวออกมาเสียงดัง ไม่ได้สนใจน้ำตาที่กำลังอาบแก้มของกุหลาบเลยแม้แต่น้อย ที่สนใจตอนนี้ก็คือเขาจะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้การพนัน หนี้ตั้งหลายล้าน ที่ทางก็ขายและเอาไปจำนองเกือบหมดแล้ว มีทางเดียวก็คือให้นังกุหลาบมันแต่งงานกับไอ้หิน เพื่อที่จะได้เอาเงินจากมันมาใช้หนี้ เพราะเสี่ยสันต์รู้ดีว่ากำนันหินรวยมาก ขายอ้อยขายยางแต่ละปีได้หลายสิบล้านบาท แต่ว่านังลูกสาวตัวดีมันก็ไม่ได้เรื่อง ปล่อยให้นังแตงไทยมาฉกเอากำนันหินไปจนได้"ฮือ ๆๆ พ่อจ๋าหนูไม่ได้ชอบพี่หิน พี่หินก็ไม่ได้ชอบหนูอีกอย่างเขาก็มีแฟนแล้ว กำลังจะแต่งงานกันแล้วด้วย""มึงหยุดพูด ! มันกำลังจะแต่งงานกันแต่ยังไม่แต่งสักหน่อย มึงทำยังไงก็ได้ให้มันหันมาสนใจมึง ไม่อย่างนั้นมึงก็ออกจากบ้านกูไปเลย"พูดจบเ
พอทั้งคู่เข้ามาในรถได้แล้วมือใหญ่ก็คว้าท้ายทอยของแตงไทยเอาไว้และบดจูบกับเธออย่างเร่าร้อน หญิงสาวก็ตอบสนองเขาเป็นอย่างดี จูบตอบเขากลับไปอย่างไม่ยอมแพ้ สองลิ้นเล็กใหญ่เกี่ยวกระหวัดดูดดึงกันไปมา เนิ่นนานกว่าที่กำนันหินจะผละริมฝีปากออก และพารถเคลื่อนตัวออกไปจากบริเวณบ้านของเจ๊ไก่เจ๊คนสวยมองท้ายรถกระบะที่เพิ่งเคลื่อนตัวออกไปแล้วก็ส่ายหน้า รู้ได้ทันทีว่าแตงไทยกับกำนันหินทำอะไรกัน ข้าวใหม่ปลามันก็อย่างนี้แหละสมัยก่อนเจ๊ก็เคย เจ๊รีบล้างถ้วยชามให้เสร็จ พลางนึกในใจรู้สึกดีใจกับนังแตงมันด้วย ที่กำนันหินคลั่งรักมันขนาดนี้ เพราะปกติแล้วผู้ชายหากไม่รักจริง พอได้แล้วก็มักจะเบื่อแต่ดูทรงแล้วกำนันแห่งตำบลหนองปลาไหล มีแต่จะหลงใหลเพื่อนรุ่นน้องของเจ๊แบบหัวปักหัวปำพอรถเคลื่อนตัวออกมากำนันหินก็จับมือเล็กไปวางลงบนเป้ากางเกงที่กำลังตุงของตัวเอง แตงไทยหันไปสบตากับเขาอย่างเขินอายและยั่วยวนอยู่ในที แล้วเธอก็บีบคลึงมังกรร้ายที่กำลังตื่นตัวเบา ๆ"อื้อ..แตงจ๋าไปที่บ้านพี่นะ""ค่ะ"แล้วกำนันหินก็เหยียบคันเร่งอย่างแรง เพื่อที่จะได้กลับถึงบ้านเร็ว ๆ เขาอยากกอดรัดฟัดเหวี่ยงร่างบอบบางหอมกรุ่นนี่เต็มที ยิ่งตอนนี้ท่อน
หลังจากนั้นกำนันหินกับแตงไทยก็ไปไหนมาไหนด้วยกันอย่างเปิดเผย ในฐานะคนรักและกำลังจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้ จนสร้างความประหลาดใจให้กับชาวบ้านชาวช่องในตำบลหนองปลาไหลเป็นอย่างมาก แต่ว่าทุกคนต่างก็ยินดีกับกำนันคนเก่งเพราะว่าเขาจะได้หลุดพ้นออกจากอาการโศกเศร้าที่เสียภรรยาเสียทีในตอนแรกเขากะว่าจะส่งผู้ใหญ่ไปสู่ขอแตงไทยหลังปีใหม่ แต่เพราะความคลั่งรักและใจร้อนบวกกับอาการติดแฟน กำนันหินจึงได้ส่งผู้ใหญ่ไปสู่ขอและหมั้นหมายกับแตงไทยเอาไว้ หลังจากที่ได้บอกกับตาทองว่าเขาคบกับแตงไทยได้เพียงสามวัน ที่จริงแล้วกำนันหินจะหมั้นแล้วก็แต่งเลยภายในวันนั้น แต่แตงไทยได้ขอว่าขอเป็นหลังสงกรานต์ดีกว่า เพราะเธอเตรียมตัวไม่ทัน จะทำยังไงได้คนคลั่งรักอย่างเขาก็ต้องตามใจแฟนอยู่แล้ว ด้วยความที่คลั่งรักมาก วันนี้กำนันหินก็พาแตงไทยไปที่ไร่อ้อยของเขาด้วย เพื่อให้เธอไปช่วยดูแลเรื่องอาหารการกินของคนงาน และช่วยจ่ายเงินค่าแรงให้คนงานด้วย จนทุกคนแซวว่าเธอคือคุณนายไร่อ้อยแต่เหตุผลที่กำนันหินให้เธอมากับเขาด้วยนั้น ก็เป็นเพราะว่าเขาคิดถึงและไม่อยากห่างเธอแม้สักวินาที ถึงจะทำงานหนักแค่ไหนขอแค่มีเธออยู่ใกล้ ๆ เขาก็มีแรงฮึดขึ้นมาทันท
หลังจากทานข้าวกันเสร็จแล้ว กำนันหินกับแตงไทยก็ไปนั่งคุยกันที่เปลไม้ไผ่จนดึกดื่น ชายหนุ่มไม่อยากกลับเลยอยากหอบเสื้อผ้ามาอยู่กับเธอให้มันรู้แล้วรู้รอด หรือไม่ก็พาเธอกลับไปอยู่ที่บ้านด้วยกันแต่ก็ทำไม่ได้"ฮ้าวว..ง่วงจัง"แตงไทยปิดปากหาวออกมา กำนันหินมองเวลาที่มือถือก็พบว่าห้าทุ่มกว่าแล้ว เขาจึงขอตัวกลับ "ดึกแล้ว พี่กลับก่อนนะ แตงจะได้พักผ่อน""ค่ะ เดี๋ยวแตงเดินไปส่งที่รถ"แล้วทั้งสองคนก็เดินเคียงข้างกันไปที่รถกระบะ พอมาถึงตรงข้างรถซึ่งเป็นบริเวณที่มืดเพราะตรงนี้ไม่มีแสงไฟส่องมาถึง กำนันหินก็คว้าร่างบางเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดแกร่ง แตงไทยก็กอดตอบเขาเช่นกัน แล้วชายหนุ่มก็โน้มใบหน้าลงไปหาริมฝีปากอวบอิ่มที่เผยอรออยู่แล้ว พอริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกันจุมพิตดูดดื่มก็เกิดขึ้น เนิ่นนานจนแตงไทยเริ่มร่างกายอ่อนระทวย สองแขนเรียวโอบรอบลำคอแกร่ง บดเบียดหน้าอกอวบเข้าหาแผ่นอกกว้างแนบแน่นอารมณ์ของทั้งคู่กระเจิดกระเจิงจนฉุดไม่อยู่ กำนันหินจึงกดรีโมทกุญแจรถแล้วก็เปิดประตูทางด้านเบาะหลัง ประคองร่างบอบบางของแตงไทยให้ไปนอนราบตรงเบาะยาว แล้วร่างสูงใหญ่ก็ตามขึ้นไปคร่อมทับร่างบอบบางเอาไว้ชายหนุ่มก้มใบหน้าลงซุกไซ