“ ทำไมต้องทำแบบนี้ “ ปากอิ่มพร่ำถาม “ อาหวงเจน หวง–” นิ้วเรียวยกขึ้นมาแตะปากเขาเอาไว้ “ อย่ามาพูดเลย ทีตัวเองยังมีสาวในสต็อกเป็นสิบ จะมาพูดว่าหวงคนอื่นใครเขาจะเชื่อ “ มือเล็กผละออกจากปากเขา “ อย่าห่วงเลย ยังไงเจนก็จะคลอดลูกให้คุณก่อน แล้วถึงจะไปกับคนอื่น “ เธอพูดกับเขาอย่างประชดประชัน ส่วนคนฟังนั้นก็ถึงกับหน้าซีดพูดไม่ออก “ ถ้าจะไปส่งก็รีบออกรถได้แล้ว “ คนขับที่กำลังเสียใจอยู่ถอนหายใจเหนื่อยๆ พลอยเจนคงจะไม่มีใจให้เขาเลยสินะ เจระวีคาเฟ่ “ สวัสดีค่ะพี่เจน “ “ อือ ทำไมวันนี้มุกมาเช้าจัง “เจนทักทายพนักงาน ที่กำลังจัดร้านอยู่ มุกดาเห็นคนพี่มาคุยด้วยจึงหยุดคุย “ พอดีเมื่อคืนมุกนอนไม่ค่อยหลับ ตื่นเช้าไม่มีอะไรให้ทำเลยมาเร็วนะคะ “ พลอยเจนก็จ้องหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเป็นห่วงหน่อยๆ “ ไม่สบายหรือเปล่าถึงได้นอนไม่หลับ อย่าหักโหมละ เดี๋ยวจะป่วยเอาได้ “ “ ค่ะพี่เจน “ “ อือ แต่มุกทำแบบนี้ก็ดีแล้ว วันไหนมาก่อนก็มาเปิดร้านรอพี่ เพราะช่วงนี้พี่คงต้องมาช้ากลับเร็วบ่อยขึ้น “ “ ค่ะ สำหรับมุกไม่มีปัญหาอะไรหรอก ในฐานะที่พี่เจนไว้ใจถึงกับให้กุญแจร้านกับมุก มุกก็จะขยันทำงานไม่ทำให้
ก๊อกๆ “ คุณเจตขา ขวัญตาเองค่ะ “ เขาถอนหายใจแรงทันทีเมื่อได้ยินเสียงนั้น “ พูดถึงก็มาเลย “ เมื่อเสียงเคาะประตูเงียบลงขวัญตาก็เดินเข้ามาหาคนข้างใน เธอหันตูดกำลังคิดจะนั่งลงที่ตักของเขา จิรกิตติ์ที่เห็นหน้าเมียเด็กของตัวเองลอยมา เขาจึงรีบถอยเก้าอี้หนี ทำเอาขวัญตาล้มหงายลงไปนั่งกองที่พื้น “ โอ้ย คุณเจตขาทำไมถึงได้หยอกขวัญตาแรงจังล่ะคะ ตูดคงแดงหมดแล้วแน่ๆ “ หญิงสาวยกตูดขึ้นมาถูที่ขาของเขา สองมือยันพื้นทำท่าทียั่วยุหวังให้คนด้านหลังเล่นด้วย จิรกิตติ์ก็ทำได้แค่มองพลันส่ายหน้า พิศวาสไม่ลงจริงๆ เขายกขาขึ้นมาดันตูดเธอเบาๆ จนหัวทิ่มพื้น(?เบา?) ให้ร่างของหญิงสาวขยับออกห่าง “ ลุกขึ้น!!แล้วกลับออกไปซะ! ไม่มีธุระอะไรจะเข้ามาทำไม “ ขวัญตาลุกนั่งแล้วหันมาจ้องคนพูด “ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะคะคุณ ไม่คิดถึงขวัญตาบ้างเหรอ เราไม่ได้ทำกันมาจะสามสี่เดือนแล้วนะคะ “ จิรกิตติ์ถอนหายใจแรง ก็ตั้งแต่เขาได้กับพลอยเจนวันนั้น ก็ไปหาใครไม่ได้เลยน่ะสิ “ ถ้าคุณยังอยากทำงานที่นี้อยู่ ก็ทำตามที่ผมสั่ง “ “ หมายความว่ายังไงคะ ขวัญตาไปทำอะไรผิดใจคุณหรือเปล่า คุณถึงทำกับขวัญตาแบบนี้ “ เธอบอกพร้อมขยับเข้ามานั่งใก
เดือนต่อมา งานแต่งถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีแค่ญาติผู้ใหญ่ที่รู้จักไม่กี่คน กับเหล่าเพื่อนฝูงของทั้งสองฝ่าย “ พี่โอมทำไมทำหน้าแบบนี้อีกแล้วล่ะคะ “ ครีมหอมที่สังเกตเห็นว่าคนนั่งข้างๆ ทำหน้าทำตาไม่ค่อยเอ็นจอย หญิงสาวจึงได้เอ่ยถาม “ เพื่อนพี่แต่งงานกันหมดแล้วน่ะครีม “ แต่เมื่อได้คำตอบเธอก็ถึงกับเบ้ปากมองบน “ ถ้าอยากจะแต่งเร็วๆ ก็ไปหาเอาคนใหม่สิคะ “ เธอจึงประชดเขากลับ เสี่ยเห็นเช่นนั้นจึงกอดแขนเมียไว้เอาหน้าแนบลงตรงหัวไหล่เธอ “ บ้าเหรอพี่จะรอเอาครีมแค่คนเดียวเท่านั้น “ สายตาของเขาเหลือบไปจ้องเจ้าสาว “ ว่าแต่ไอ้เจนมันเป็นไร ทำไมทำหน้าเศร้าๆ ตาก็แดงๆ มาตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว “ คนฟังจ้องตากับเขา “ เมื่อกี้คิตตี้มาหาพี่เจนนะคะ “ เมื่อได้ฟังแบบนั้นเสี่ยโอมก็ดีดตัวขึ้นนั่งหลังตรง “ อ๋อ ที่ผ่านมาสองคนนั้นเขาคบกันจริงๆ เหรอ แสดงว่าตอนที่มันบอกว่ามันมีแฟน ก็เป็นแฟนผู้หญิงมาตลอดเลยน่ะสิ น่าเป็นห่วงจริงๆ ไม่เคยพูดอะไรให้เพื่อนฟังบ้างเลย “ เขาบ่นไปมาพร้อมกับส่ายหน้า “ ยินดีด้วยนะ ไม่คิดว่าสองคนนี้จะมาลงเอยกันได้ “ “ เห็นคุณจิรกิตติ์ช่วยเลี้ยงพลอยเจนมาตั้งแต่เด็กไม่คิดเลยนะคะว่าจะไ
ปึก! เสียงเจตผลักนกน้อยชนเข้ากับรถแถวนั้น “ มาทำไม ผมจำได้ว่าผมไม่ได้ชวนคุณมานี่ “ คนฟังกอดอกฉีกยิ้ม “ นกก็เป็นเมียคุณคนหนึ่งนะคะ ทำไมนกจะมาดูหน้านางเมียหลวงไม่ได้ “ เจตถอนหายใจแรง เขาหันไปพูดกับเธอเสียงแข็ง “ ไม่มีเมียน้อยเมียหลวงอะไรทั้งนั้น มีแค่ผัวเดียวเมียเดียว พลอยเจนคือเมียของจิรกิตติ์แค่คนเดียว! “ เขาย้ำใส่คนตรงหน้าที่กำลังโมโหหนัก “ นี่คุณจริงจังกับมันขนาดนั้นเลยเหรอ! “ “ ใช่! ถ้ารู้แล้วก็ไสหัวไปซะ แล้วอย่ามายุ่งเกี่ยวกันอีก “ “ อ๋าย มันหมายความว่าไงตอนอยู่กับนกคุณก็บอกว่าเราคบกันไม่ได้ เพราะคุณไม่อยากแต่งงาน ไม่สามารถแต่งงานได้ แล้วอีนั่นมันไปทำท่าไหนล่ะ! “ เจตตาเหลือกจ้องคนตรงหน้าอย่างคาดโทษ “ เจนไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น คนที่จับเธอแต่งงานคือผมไม่ใช่เธอ ผมตั้งใจจับพลอยเจนมาทำเมีย แล้วที่สำคัญผมกับคุณเราตกลงกันเป็นแค่คู่นอนเวลาเหงา ไม่ใช่คนรัก คุณไม่มีสิทธิ์มาต่อลอง “ พูดจบจิรกิตติ์ก็หันหลังเดินเข้างานปล่อยให้หญิงสาวยืนคับแค้นใจอยู่คนเดียว “ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร “ เมื่อเจตเดินเข้ามาก็เห็นว่าแสงรวีกำลังยืนรอเขาอยู่ไม่ไกลจากจุดนั้น ที่เขาคุยกับนกน้อยเมื่อกี้ จิร
“ คุณก็ออกไปสิ จะให้เจนนอนยังไง “จิรกิตติ์ขำออกมาเบาๆ “ ฮาฮ่า ทำไมเหรอเจน เราสองคนเคยใกล้ชิดกันจนมีเจ้าตัวน้อยด้วยกันแล้วนะ ไม่เห็นมีอะไรที่เจนจะต้องกลัวอาขนาดนั้นเลย “ หญิงสาวถอนหายใจแรง เธอนี่นะกลัวเขา “ เจนไม่ได้กลัว เจนก็แค่ไม่อยากจะอยู่ใกล้คุณ ไม่อยากอยู่ใกล้ผู้ชายของคนอื่น “ คนฟังคิ้วขมวด “ ของคนอื่นที่ไหน ตอนนี้เราแต่งงานเป็นผัวเมียกันแล้วนะ คนที่จะพูดว่าเป็นเจ้าของอาได้ก็มีแค่เจน “ คนฟังหันหน้าหนีเหลือบเพียงลูกกะตามาดูเขา “ แต่เราแต่งงานกันก็เพื่อลูก ไม่ใช่แต่งเพราะความรัก “ คำพูดของเธอทำเอาเขาถึงกับซึม ร่างสูงลุกยืน “ อือ เจนนอนลงได้แล้ว “ “ คุณก็ออกไปสิ “ “ ไม่ออก อาจะอยู่ส่งลูกของอาเข้านอนก่อน “ คนที่นั่งอยู่รีบมองค้อนเขา “ เร็วหน่อยสิ อาอยากกลับไปนอนเหมือนกันนะ “ หญิงสาวเห็นแบบนั้นจึงจำใจเอนตัวลงนอนเนื่องจากอยากให้เขารีบๆ ไปให้พ้นตา เขาเองก็นั่งลงบนพื้นข้างเตียง มือหนาเอื้อมมาเปิดเสื้อของเธอขึ้น “ คุณจะทำอะไร! “ หญิงสาวรีบยื่นมือจับมือเขาไว้ทันที “ อาจะคุยกับลูกไม่ได้เหรอเจน “ พลอยเจนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งแต่ก็ยอมปล่อยมือให้เขาทำในสิ่งที่เขาต้องการ เข
ตกดึกของคืนเดียวกัน “ ฮื้อๆ “ จิรกิตติ์ตื่นนอนหลังจากได้ยินเสียงเหมือนคนร้องไห้อยู่ไม่ไกลมาได้สักพักแล้ว “ เจน? “ เขารีบลุกออกจากห้อง แล้วเดินไปที่ห้องของหญิงสาวแต่ไม่ปรากฏเห็นเธออยู่ในนั้น เขาจึงเดินตามเสียงร้องไห้นั้นไป ดวงไฟในห้องครัวสว่างขึ้น เจระวีที่กำลังนั่งร้องไห้จึงหันมาสบตากับเขา เห็นแบบนั้นเขาจึงรีบเดินเข้าไปดูเธอ “ เจนเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม “ หญิงสาวเห็นเขามายืนใกล้จึงซุกหน้าใส่อกของชายตรงหน้าพร้อมกับร้องไห้อย่างไม่มีเหตุผล “ เป็นอะไร ใครทำอะไรให้ “ “ ฮื้อๆ “ “ เจน! “ เจระวีหรือพลอยเจนเอาแต่ร้องไห้อย่างเดียวจนจิรกิตติ์ไม่รู้จะทำเช่นไร นอกจากยืนลูบหลังปลอบใจให้เบาๆ จนเธอเงียบไปเอง “ คราวนี้บอกอาได้หรือยังว่าร้องไห้ทำไม “ แต่เมื่อเขาถามเธออีก หญิงสาวก็เบ้ปากจะร้องไห้ต่อ “ ฮื้อ “ “ อ้าว เจน? “ “ ฮื้อ ในตู้เย็นไม่มีขนมเลย ไม่มีอะไรให้กิน “ นิ้วเรียวชี้ไปที่ตู้เย็น เมื่อเขามองตามแล้วเธอจึงหมอบหน้าลงบนโต๊ะร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างกับเด็กน้อย “ เจนหิวข้าว “ ปากเล็กพึมพำทั้งน้ำตา จนคนมองยู่ก็ไม่รู้จะทำเช่นไร “ แต่นี้มันเพิ่งจะตี 1 เองนะเจน เมื่อตอนเย็นก
“ อ้าวเจน มาแล้วเหรอ แม่ว่าจะไปตามพอดี “ จ๊ะจ๋าเดินมาจูงแขนลูกสาวแล้วพามานั่งที่โต๊ะ “ อาเจตบอกเจนแล้ว นี่มีอะไรกินบ้าง หลานแม่หิวจะแย่แล้วเนี้ย “ เธอนั่งลงแล้วชะเง้อหน้ามองอาหารบนโต๊ะ “ มีแต่ของที่ลูกชอบทั้งนั้นแหละ ลูกกินเยอะๆ นะ จะได้แข็งแรง “ พลอยเจนแหงนหน้ามองแม่ที่ยืนลูบหัวเธออยู่ “ แล้วพ่อล่ะคะ “ เมื่อมารดาเดินมานั่งข้าง เธอจึงถามถึงอีกคน “ พ่อเขากลับไปเคลียร์เรื่องสัญญาซื้อขายโรงงานที่เวียดนามของเขานู้น เพิ่งออกไปก่อนหน้าที่เจนจะเข้ามาแป๊บเดียวเอง “ “ คุณพ่อเขาจะขายโรงงานจริงๆ เหรอ ไหนเคยบอกว่านั่นคือทั้งชีวิตของพ่อไง “ พลอยเจนจ้องหน้าแม่ที่กำลังนั่งยิ้มอ่อนให้เธอ “ เรื่องนั้นมันก็ใช่ โรงงานนั้นทำให้พ่อกับแม่มีวันนี้ โรงงานนั้นคือส่วนที่ทำให้เจนของแม่ได้สุขสบายได้เรียนสูงๆ ทำให้เรามีโรงแรม แล้วก็บ้านหลังนี้ด้วย “ จ๊ะจ๋ากล่าวพร้อมคิดคำนึงถึงอดีต กว่าเธอกับสามีจะมีวันนี้ได้มันทุกยากลำบากมาก “ แล้วทำไมถึงคิดจะขาย ทำใจได้เหรอคะ “ “ ถ้าโรงงานนั่นไม่ได้อยู่ต่างประเทศ แม่ก็คงจะห้ามไม่ให้พ่อเขาขาย แต่เพราะว่าพ่อเขาไม่อยากไปอยู่ไกลหูไกลตาแม่กับลูกแล้ว พ่อเขาอยากกลั
ไม่นานรถก็ขับมาจอดที่หน้าร้าน เจ้าของร้านจึงรีบก้าวขาลงจากรถ คุณสามีก็เปิดแว่นรถลงมาคุยกับเธอ “ เจน ถ้าจะออกไปไหนโทรมาหาอานะ เดี๋ยวจะมารับ “ แต่พลอยเจนกลับไม่คุยกับเขา รู้สึกว่าการจะทำให้ผู้หญิงคนนี้รักมันยากเหลือเกิน เมื่อเห็นหญิงสาวเดินเข้าร้านไปโดยไม่สนใจไยดีเขาเช่นนั้น จิรกิตติ์จึงขับรถออกไป “ สวัสดีค่ะพี่เจน วันนี้มีคนมาสมัครงานด้วยค่ะ “ พลอยเจนก้าวขาเขามาในร้าน มุกดาก็ทักทายเธอเหมือนกับที่เคยทำประจำ แต่วันนี้เธอเหมือนจะดีใจเป็นพิษเนื่องจากติดป้ายรับสมัครคนงานมาเป็นเดือนแล้ว เพิ่งจะมีคนโผล่มา “ จริงเหรอมุก เขาอยู่ไหนล่ะ “ “ เขานั่งอยู่ตรงนั้นนะคะพี่ คุณคะ เจ้าของร้านมาแล้วค่ะ “ พลอยเจนเดินเข้าไปหาคนที่กำลังยกมือขึ้นไหว้เธอ “ สวัสดีครับผมชื่อชัยโย จะมาสมัครงานครับ “ พลอยเจนยิ้มตอบเขา แล้วก็นั่งคุยกัน “ อายุเท่าไหร่แล้วคะ เคยทำงานมาก่อนหรือเปล่า “ “ อายุ 28 ครับ งานยังไม่เคยทำ “ คนถามจ้องคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ ดูจากท่าทางของเขา ไม่น่าจะเป็นคนโลเลแบบนั้นนี่ “ พอดีผมบวชเรียนตั้งแต่เด็ก เพิ่งจะสึกออกมา เพราะเริ่มอยากจะใช้ชีวิตวัยรุ่นปกติกับเขานะครับ “ คำที่ชัยโยกล่าว
โรงพยาบาล “ อ้าวเจน “ พลอยเจนเดินเข้ามาในห้องพักของจิรกิตติ์ก็เจอเข้ากับไนยะ ที่กำลังยืนถือมีดโกนจ้องมองคนบนเตียง “ มีอะไรหรือเปล่า “ เธอจึงเดินเข้าไปใกล้ “ พอดีอาเจตหนวดเริ่มขึ้นอีกแล้วนะ กูก็เลยว่าจะช่วยโกนให้เขา “ คนถามพยักหน้าให้กับคำตอบเธอไม่ได้มาหาจิรกิตติ์ก็นานแล้ว คงไม่ค่อยมีใครหมั่นมาโกนหนวดให้เขา มือน้อยของหญิงสาวเอื้อมไปแย่งมีดโกนในมือเพื่อน “ เดี๋ยวจัดการเอง มึงมีอะไรก็ได้ทำเถอะ “ “ อืม ถ้ามึงมาแล้วงั้นกูไปหาเมียที่ร้านก่อนแล้วกัน “ คนพูดอมยิ้มเมื่อคิดอะไรออกจึงพูดขึ้นมาอีก “ ถ้าวันไหนมึงว่าง มึงก็มาหาเขาบ่อยๆ หน่อย ช่วงเกือบเดือนมานี้ที่มึงไม่มา กูว่าอาการอาเจตดูทรุดลงกว่าเดิมเยอะเลยนะ เพราะถึงแม้ว่าเขาจะนอนไม่ได้สติอยู่แบบนี้ แต่เขาก็คงจะรับรู้ได้ว่ามีใครหมั่นมาหาบ้าง “ คนฟังพยักหน้าเข้าใจ “ อือ ขอบใจนะ กูก็ตั้งใจว่านับตั้งแต่วันนี้จะแวะมาหาเขาทุกวัน “ คุณหมอยิ้มตอบจากนั้นจึงเดินออกไป ปล่อยให้ทั้งคู่อยู่กันตามลำพัง “ เฮ้อ ทำไมถึงทำตัวแบบนี้คะ ปกติคุณต้องเป็นคนดูแลเอาใจใส่เจนไม่ใช่เหรอ “ หญิงสาวบ่นให้เขาเบาๆ จากนั้นจึงค่อยๆ โกนหนวดเคราให้เขา “ หนวด
“ พราว พราวอย่าเป็นอะไรไปนะพราว พราวต้องตื่นกลับมาหาเจตนะ “ เจระวีมองหน้าของจิรกิตติ์ที่ร้องไห้วิ่งตามร่างของเธอ นั่นก็คือร่างของพราวที่กำลังเป็นอยู่ “ เจต พราวรักเจนนะ “ สิ้นเสียงแผ่วเบาที่เจ้าของร่างพึมพำบอกคนตรงหน้า พยาบาลก็ได้เข็นเอาร่างกายนี้เข้ามาในห้องฉุกเฉิน เจระวีรู้สึกเจ็บและปวดร้าวทรมานไปทั้งตัว เหมือนกับว่าคนที่ถูกรถชนเป็นเธอจริงๆ แต่เมื่อรู้ตัวอีกรอบก็เหมือนกับว่าดวงจิตของเธอได้หลุดออกมาจากร่างของพราวฟ้าแล้ว เจระวีมึนงงก้มมองตัวเองที่เป็นเหมือนอากาศ แล้วเงยหน้าจ้องไปที่คนบนเตียงซึ่งกำลังโดนทีมแพทย์ช่วยป้ำหัวใจให้อยู่ ตี๊ด…ตี๊ด…. “ หมอชีพจรของคนไข้ดับแล้วค่ะ “ เจระวีถึงกลับน้ำตาตก ยกมือขึ้นทาบอก นี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน ระหว่างนั้นร่างของเธอที่เป็นเหมือนดั่งลมก็ลอยไปตามอากาศ ไปหยุดยังห้องพักของคนๆ หนึ่ง ‘ แม่ ‘ หญิงสาวมองคนที่อยู่ในห้องนั้นก็คือจ๊ะจ๋าแม่ของเธอ กำลังดิ้นทุรนทุรายมีแววตาเจ็บ “ โอ้ย ปวดท้อง จะคลอดแล้ว พี่แสง!! “ ในระหว่างที่เจระวีกำลังตกใจ เธอก็โดนลมดูดเข้าไปในท้องของคนเป็นแม่! “ อ๊าก!!! “ ร่างของพลอยเจนสะดุ้งตื่นขึ้นมาในห้องนอนของบ้านจิรกิตติ์
“ เป็นยังไงบ้าง เจต พราว “ แสงรวี รุ่นพี่ของเจตและพราวซึ่งมีอายุห่างกัน 5 ปี ทั้งสามสนิทสนมกันมากเนื่องจากบ้านอยู่ไม่ไกลกันนัก แถมแสงรวีก็คอยมาช่วยสอนหนังสือให้น้องทั้งสอง ทำให้ทั้งสามสนิทกันมากเป็นพิเศษ “ อ้าวพี่แสงมาได้ยังไงครับ “ เจตเดินเข้ามาทักพร้อมรับของฝากจากมือพี่ชาย “ พอดีพี่พาพี่จ๊ะจ๋าไปหาหมอมานะ เลยมาแวะดูเราสองคน “ “ พี่จ๊ะจ๋าเป็นอะไรคะ หรือว่าจะคลอดแล้วเหรอ “ พราวฟ้ารีบวิ่งออกมาช่วยประคองคนท้องมานั่งในบ้าน แววตาของพราวนั้นสดใสดีใจที่จะได้เห็นหน้าหลาน ในขณะที่เจระวีเองก็มองพ่อแม่วัยหนุ่มสาวด้วยความชอบใจ “ ยังหรอก เพิ่งจะแปดเดือนกว่าๆ เอง “ จ๊ะจ๋ายิ้มตอบน้องสาว พราวฟ้าก็มีท่าทีร่าเริงแล้วถามกับพี่สาวพี่ชายออกมา “ แล้วพวกพี่สองคนได้ตั้งชื่อหลานไว้หรือยังคะ “ จ๊ะจ๋าเงยหน้ามองแสงรวีแล้วหันมาส่ายหน้าให้คนถาม “ ยังเลยจ้ะ พอดีพวกพี่ยังไม่รู้เพศลูกกัน เลยยังไม่รู้ว่าควรจะตั้งชื่อว่าอะไรดี “ จ๊ะจ๋าบอกมือก็ลูบท้องของตัวเอง จนเจระวีที่มองอยู่ก็รู้สึกดีซาบซึ้งแปลกๆ และเหมือนว่ามันจะเป็นความรู้สึกที่พราวเป็นในตอนนั้นด้วย “ หลานคงจะโชคดีมากที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพวกพี่
“ อือ “ เจระวีรู้สึกตัวขึ้นบนเตียง ไม่ทันที่เธอจะได้นึกคิดหรือสังเกตอะไรร่างของเธอก็ลุกจากเตียงไปอย่างกระฉับกระเฉง เหมือนกับว่าเธอควบคุมตัวเองไม่ได้ เจระวียืนมองภาพของตัวเองตอนนี้ในกระจก ก็เห็นว่าเธอใส่ชุดนักเรียนอยู่ พร้อมกับความรู้สึกที่ว่านี้คือตัวเธอแต่ก็ไม่ใช่เธอ ‘ นี่มันอะไร เรามาอยู่ในชุดนี้ได้ยังไง แล้วที่นี้มันที่ไหน ไม่ใช่บ้านเรานี่ ‘ เจระวีสงสัย แต่ร่างกายก็ไม่ได้ขยับตามท่าทีที่เธอต้องการ เหมือนกับว่าเธอควบคุมไม่มันได้ แค่ปล่อยให้มันเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น “ อีพราว! มึงลงมานี้เดี๋ยวนี้ “ เสียงตะโกนร้องขึ้นมาจากด้านล่างทำให้เจระวีตกใจ พราวเหรอ? หมายความว่าไง เจระวีได้แต่นึกคิดในระหว่างนั้นร่างกายนี้ของเธอก็รีบวิ่งลงไปข้างล่าง “ พ่อ มีอะไรจ๊ะ “ ร่างกายพูดคุยกับคนตรงหน้าโดยที่เจระวีไม่ได้ควบคุมอะไร เธอได้แต่จ้องมองชายแก่ที่ดูเหมือนว่าจะเมามาย มองมาทางนี้ด้วยความโกรธ เพียะ! ฝ่ามือใหญ่ตบมาที่หน้าของหญิงสาว เจระวีปวดแสบปวดร้อนรู้สึกเจ็บไปกับร่างนี้ด้วย แต่เธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงควบคุมร่างกายนี้ไม่ได้ ไม่งั้นตาแก่ตรงหน้าคงได้เจอกันสักตั้ง เจระวีได้แต่โมโหแล้วมองเห
บ้านรุณรวี “ อ้าว นี่แม่ยังไม่นอนเหรอคะ “ พลอยเจนเดินเข้ามาในบ้านเห็นแม่นั่งชะเง้อคอรออยู่ จึงได้เดินเข้าไปนั่งด้วย “ แล้วน้องแจมหลับแล้วเหรอแม่ “ จ๊ะจ๋าพยักหน้าให้คำถามของลูก “ ใช่ หลับไปตั้งแต่หัวเย็นคุณตาเขานอนเฝ้าอยู่บนห้องนู้น แม่มีเรื่องจะคุยกับเจน ช่วงนี้เจนได้ไปหาเจตที่โรงพยาบาลบ้างมั้ย “ พลอยเจนได้ฟังแบบนั้นเธอก็ถอนหายใจแรง “ ที่ผ่านมาเจนก็แวะไปหาเขาทุกวัน ยังไม่เห็นว่าเขาจะตื่นขึ้นมาเลย “ คนพูดมีท่าทีเคืองๆ นิดหน่อย เพราะเรื่องก่อนหน้านี้ ที่ว่าจิรกิตติ์เห็นเธอเป็นตัวแทนของพราวฟ้าก็ยังไม่เคลียร์เลย แถมยังจะมามีเรื่องนี้อีก เขาไม่ยอมตื่นขึ้นมาจะได้ปีหนึ่งอยู่แล้ว ใจคอจะปล่อยเธอทำงานหนักแล้วก็เลี้ยงลูกคนเดียวไปจนถึงเมื่อไหร่ “ เจน ลูกคิดอะไรอยู่ หืม? “ หญิงสาวรีบหันไปจ้องหน้าแม่ “ เจนไม่อยากจะรอแล้วค่ะแม่ ไม่รู้ว่ามันจะต้องนานอีกแค่ไหน “ “ ..งั้นแม่จะเล่าอะไรให้ฟังนะ “ จ๊ะจ๋าได้สังเกตลูกสาวมาหลายเดือนแล้วเธอเป็นห่วง สุขภาพจิตใจของลูกวันนี้จึงอยากจะมาเล่าอะไรบ้างอย่างให้ลูกสาวฟัง เผื่อว่ามันจะทำให้พลอยเจนมีกำลังสู้ต่อไป ซึ่งพลอยเจนได้ยินแบบนั้นเธอก็นั่งเงียบจ
“ ว่าอย่างไร คุณประธานบริษัทคนสวย “ เมื่อเห็นคนที่กำลังรอก้าวขาเข้ามาในห้อง เพื่อนๆ ที่รออยู่ก็แซวใหญ่ “ จะให้ว่ายังไงล่ะ ก็เหนื่อยน่ะสิ “ พลอยเจนปลดกระเป๋าสะพายลงแล้วนั่งลงข้างๆ ครีมหอมพร้อมกับถอนหายใจโล่งอกที่วันนี้มันผ่านไปได้สักที มือของเธอก็พลันหยิบกล่องของขวัญออกมาจากกระเป๋า “ ของขวัญเรียนจบสำหรับน้องสาวคนสวยของพี่ค่ะ “ ครีมหอมตาโตแสดงท่าทีดีใจออกมา แล้วรีบรับเอาโดยไม่ลืมเข้าสวมกอดและหอมพลอยเจนเพื่อเป็นการขอบคุณ จนเสี่ยโอมเริ่มไม่พอใจรีบดึงเมียออก “ พอแล้วครีม มันบาดตาบาดใจพี่นะ โอ้ย “ เสี่ยเลยโดนแฟนสาวหันมาหยิกแขนให้ด้วยความหมั่นไส้ แล้วครีมหอมก็หันกลับไปยิ้มให้พลอยเจน มือเล็กยกขึ้นพนมไหว้แนบอกพี่สาว “ ขอบคุณมากๆ นะคะพี่เจน ขนาดงานยุ่งยังมีเวลาหาของขวัญมาให้น้องด้วย “ “ ครีม “ เสี่ยโอมรีบกอดเอวเมียให้ขยับออกมาหาเขา แม้ว่าพลอยเจนจะแต่งงานมีผัวเขาก็ไม่ไว้ใจ ดูสายตามันสิ หยุดแพรวพราวได้สักที่ไหน “ ไว้ครีมจะมาช่วยงานนะคะพี่เจน พรุ่งนี้เลยก็ได้ “ คนฟังขมวดคิ้ว “ แล้วเสี่ยโอมของน้องจะยอมเหรอ “ คนถูกโยงถอนหายใจแรง “ ถ้าครีมต้องการฉันจะขัดอะไรได้ล่ะ ที่สำคัญมึงก็ยังล
9 เดือนต่อมา ที่คาเฟ่เจระวี “ ยินดีด้วยนะครีม เรียนจบสักทีแบบนี้ก็แต่งงานได้แล้วสิ “ จีนเน่เดินเข้ามาทักครีมหอมซึ่งนั่งรออยู่กับเสี่ยโอมในห้องนั่งเล่นประจำของพวกเขาก่อนที่คนอื่นๆ จะเดินตามเข้ามา “ ครีมไม่รีบหรอกค่ะพี่จีน ความจริงยังไม่คิดอยากจะแต่งด้วยซ้ำ “ เสี่ยโอมถึงกับจ้องหน้าเมียด้วยใบหน้าบูดบึ้ง เขาอุตส่าห์รอเธอมาตั้ง 3 ปีเลยนะ ทำไมถึงพูดแบบนี้ “ แล้วนี้ยัยเจ้าของร้านไปไหนแล้วล่ะ “ ไนยะเข้ามานั่งตรงข้ามเสี่ยโอม แล้วถามหาอีกคนที่ควรจะอยู่แต่ไม่อยู่ คนที่นั่งหน้ายุ่งงอนแฟนสาวอยู่จึงได้ตอบ “ วันนี้มันเข้าไปดูงานที่บริษัท บอกว่าตอนนี้กำลังจะออกมา “ ไนยะพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่เสี่ยโอมพูด “ สงสารพี่เจนนะคะ ต้องเลี้ยงทั้งลูกต้องไปบริษัทให้อาเจตแถมยังต้องมาดูแลคาเฟ่อีก พี่เจนเป็นผู้หญิงที่โคตรแกร่งเลย “ ณิหลาเป็นคนพูดขึ้น ทุกคนที่ได้ฟังก็คิดแบบเดียวกับที่ณิหลาคิด “ อืม ครีมว่าถ้าวันไหนว่างครีมมาช่วยงานที่ร้านนี้ให้พี่เจนดีไหม ยังไงทุกวันนี้ครีมก็ยังไม่ได้ทำงานยู่แล้ว “ นางแบบคนสวยของเสี่ยโอมหันหน้าไปถามเขา เสี่ยเองก็มองเมียด้วยแววตานิ่งๆ เมื่อไหร่เธอจะรู้ตัวว่าเขางอนในส
โรงพยาบาล ร่างของพลอยเจนนั่งร้องไห้อยู่กับจีนเน่ ไม่นานพ่อกับแม่ของเธอก็รีบวิ่งเข้ามาหา “ เจน เจนลูก “ จ๊ะจ๋ารีบมานั่งข้างลูกสาวแล้วสวมกอดลูกของเธอเอาไว้ “ แม่ ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ เจนยังไม่ทันได้คืนดีกับเขาเลยนะ ทำไมเขาถึงได้ทำแบบนี้ “ “ ไม่เอาสิเจน ไม่ร้องไห้นะลูก เจตต้องปลอดภัยสิเชื่อแม่ “ จ๊ะจ๋าพยายามจะปลอบใจลูกที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนไม่มีแม้เสียง จีนเน่เองก็รีบยื่นมือมากุมมือเพื่อนไว้ “ ใช่เจน มึงตั้งสติก่อนนะ ไนมันเก่งมันต้องช่วยให้อาเจตคืนกลับมาหามึงกับลูกได้แน่ “ สักพักเสี่ยโอมกับหนึ่งเดียวก็วิ่งเข้ามาสมทบหลังจากไปจัดการจับนกน้อยส่งตำรวจ ในอ้อมแขนของเสี่ยโอมก็อุ้มหลานสาวตัวน้อยที่พลอยเจนฝากกับมุกดาไว้ที่ร้านมาด้วย ทารกน้อยก็กำลังร้องไห้เหมือนรับรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น “ เอาน้องแจมมาให้พ่อนะลูก “ แสงรวีเดินเข้าไปอุ้มเอาหลานจากเสี่ยโอม เสี่ยจึงได้เดินมาหาเพื่อนรักของเขา “ ไม่เป็นอะไรนะเจน มึงอย่าเพิ่งคิดอะไรไปไกลเลย อาเจตต้องรอดกลับมา “ “ ใช่ มึงดูจากพวกกูสิทั้งโดนซ้อมโดนแทงโดนปืนเข้าโรงพยาบาลปางตายกันก็ยังกลับมาได้เลย กูเชื่อว่าอาเจตเองก็ต้องเข้มแข็งกลับมาอย
“ แง แอ “ พลอยเจนหาวนอนพยายามโอ๋ลูกนานแล้วแต่ทารกน้อยก็ไม่ยอมเงียบสักที เอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว จนแม่แบบเธอที่เห็นก็สงสาร หญิงสาวหันไปมองจิรกิตติ์ซึ่งยื่นมือมาจับที่แขนของลูก ตัวเล็กกลับนิ่งแล้วค่อยๆ หยุดร้องไห้ “ ส่งลูกให้อาเถอะ แล้วเจนก็ไปนอนได้แล้ว “ พลอยเจนที่เห็นว่าลูกคงอยากจะให้พ่ออุ้มมากกว่าเธอ จึงยอมส่งลูกให้เขาเพราะคงไม่มีแม่คนไหมทนเห็นลูกร้องไห้ไม่หยุดแบบนี้ได้หรอก “ ลูกพ่อ ร้องไห้ทำไมครับ ทำแบบนี้ไม่ดีเลย คุณแม่เขาตกใจนะ “ เมื่อลงไปอยู่ในอ้อมแขนของพ่อ ลูกสาวก็เงียบไปนอกจากจะไม่ร้องไห้ยังยิ้มมีความสุขอีก ทำเอาพลอยเจนที่นั่งมองอยู่หมั่นไส้ เขาทำแบบนี้กะจะไม่ให้เธอพาลูกไปจากเขาได้ใช่มั้ย แล้วถ้าวันหนึ่งไม่มีเขาเธอจะต้องทำอย่างไรล่ะ เช้าของวันต่อมา เวลา 05:13น. พลอยเจนตื่นงัวเงียลุกขึ้น เธอมองซ้ายมองขวาก็เห็นว่าลูกสาวกำลังนอนอยู่ในเปลแต่พ่อของลูกเธอไม่รู้ว่าหายไปไหน “ ทำไม เจตต้องกลับไปหานกนะ! “ “ เสียงใคร “ พลอยเจนรู้สึกว่ามีเสียงโวยวายดังอยู่หน้าร้าน เธอจึงลุกแล้วเดินออกไปดู “ คุณกลับไปซะ เราจบกันไปตั้งนานแล้วนี่คุณยังจะกลับมาวุ่นวายอะไรอีก “ “ ไม่!นกไม่กลับ