ภูผาหยิบโทรศัพท์ของอคิราห์ขึ้นมาไถหน้าจอหาชื่อ “เอย” อย่างใจเย็น เมื่อเจอเบอร์ของหญิงสาว เขาก็รีบควักมือถือของตัวเองจากกระเป๋ากางเกงออกมาทันที แล้วบันทึกหมายเลขลงไว้ในรายชื่อโดยไม่ลังเล
ชื่อที่เขาเมมไว้คือ "หนูเอยของพี่" วินกับกรณ์ที่แอบมองพฤติกรรมของเพื่อนก็ได้แต่สบตากันแล้วส่ายหน้าเบา ๆ อย่างอ่อนใจ แค่เห็นหน้าน้องเขาผ่านวิดีโอคอลก็ทำให้หลงได้ขนาดนี้เลยเหรอวะ ไหนล่ะ ไอ้คนที่บอกว่าเกลียดผู้หญิง? ไหนว่ารำคาญผู้หญิง? สองหนุ่มคิดในใจพร้อมกันอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น ไม่กี่นาทีถัดมา อคิราห์ก็กลับมาจากห้องน้ำ เขาเปิดประตูเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ส่วนเพื่อนอีกสามคนก็ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ต่างคนต่างนั่งจิบเหล้าเหมือนปกติ “ไปไหนมานานวะ” กรณ์ถามขึ้นทันทีที่อคิราห์นั่งลง “หรือแอบติดสาวอยู่ห้องน้ำ?” วินแกล้งแซว “บ้าเหอะ มึงเห็นกูเป็นพวกเสือผู้หญิงรึไง?” อคิราห์รีบส่ายหน้าแรง ๆ “คนมันเยอะว่ะ กว่าจะเข้าได้ อีกอย่าง...น้องสาวกูไม่ให้ผู้หญิงเข้าใกล้มากนะ เดี๋ยวงอนอีก” พูดถึงน้องสาว เขาก็นึกบางอย่างขึ้นได้ จึงหันไปถามเพื่อนอย่างร้อนรน “เฮ้ย! ตอนนี้กี่โมงแล้ววะ?” “สามทุ่มครึ่ง” วินตอบขณะดูนาฬิกาข้อมือ ทันใดนั้น อคิราห์ถึงกับลุกพรวดขึ้น ทำเอาเพื่อนอีกสองคนสะดุ้งตาม “เชี่ย! น้องสาวกูต้องงอนกูแน่เลย!” อคิราห์บ่นออกมาเสียงดัง “น้องบอกให้กูกลับไม่เกินสามทุ่มเองเนี่ย กูกลับก่อนนะเว้ย!” พูดจบเขาก็รีบคว้ากระเป๋าเดินออกจากห้องไปทันที ทิ้งไว้เพียงสามหนุ่มที่นั่งมองตามหลังด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมานั่งดื่มกันต่อ ภูผาหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง เขาเปิดรายชื่อที่เพิ่งเมมไว้ จ้องมองชื่อ “หนูเอยของพี่” ด้วยรอยยิ้มบาง ๆ “มึงจะนั่งมองอีกนานมั้ยวะ โทรไปเลยดิวะ!” วินถามเสียงขำ เห็นเพื่อนเอาแต่จ้องจอไม่ยอมทำอะไรสักที “กูไม่กล้าโทรว่ะ...” ภูผาพูดเบา ๆ พร้อมถอนหายใจ “กูกลัวน้องเขาจะตกใจ ไม่ให้กูเข้าใกล้อีก แล้วกูกับน้องก็ไม่ได้เจอกันมาเป็นสิบปีแล้ว น้องเขาอาจจำกูไม่ได้ด้วยซ้ำ” วินกับกรณ์ได้ยินแบบนั้นก็เงียบไปชั่วครู่ ก่อนที่กรณ์จะตีไหล่เพื่อนเบา ๆ “งั้นก็ทำให้น้องเขาเจอมึงทุกวันไปเลยดิ จะได้เริ่มสนิทกันเร็ว ๆ ไง” ภูผานิ่งคิดกับคำพูดนั้นอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมา...เป็นรอยยิ้มแบบที่เพื่อนสองคนรู้ดีว่า หมอนี่กำลังจะมีแผนบางอย่างแน่นอน รุ่งเช้า แสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าส่องลอดผ่านม่านหน้าต่างเข้ามาในห้อง ทำให้หญิงสาวที่นอนหลับอย่างสบายเริ่มรู้สึกตัว เธอลืมตาขึ้นก่อนจะยืดแขนบิดขี้เกียจอย่างงัวเงีย “อือ... ว้าย! สายแล้ว!” เธอหันไปมองนาฬิกาตรงหัวเตียง ตอนนี้เป็นเวลา 06:30 น. หญิงสาวรีบลุกพรวดจากเตียงแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว เพราะวันนี้มีเรียนเช้า และดูเหมือนว่าเธอกำลังจะไปสายเข้าให้แล้ว เวลาผ่านไปไม่นาน หญิงสาวแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็รีบวิ่งลงบันไดอย่างเร่งรีบ แม่นมที่กำลังจัดอาหารอยู่ในห้องอาหารถึงกับร้องตกใจ “ว้าย! คุณหนูคะ เดี๋ยวก็ตกลงมาหรอก อย่าวิ่งแบบนั้นสิคะ!” แม่นมซึ่งเป็นแม่บ้านเก่าแก่ของบ้านรีบว่าด้วยความเป็นห่วง “เอยไม่ตกหรอกค่ะ แม่นม” หญิงสาวตอบพลางยิ้มขำ ก่อนจะเข้าไปกอดแม่นมแน่นด้วยความรัก เพราะเธอนับถือแม่นมเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง “แล้วทำไมวันนี้แม่นมไม่ขึ้นไปปลุกเอยล่ะคะ เกือบไปเรียนสายแน่ะ” “นมขอโทษค่ะ วันนี้ลืมบอกแม่บ้านคนอื่นให้ขึ้นไปปลุกคุณหนูเลยค่ะ” แม่นมพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด เอยพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะอาหารแล้วรีบทานข้าวอย่างรวดเร็ว “แม่นมคะ... พี่โอบตื่นรึยัง?” หญิงสาวถามถึงพี่ชายสุดที่รัก ที่เมื่อคืนกลับบ้านดึกเกินเวลาไปมาก “ยังเลยค่ะ เห็นว่าเมื่อคืนกลับมาดึกมากเลยนะคะ” แม่นมตอบ เอยพยักหน้าเบา ๆ แล้วหันมาทานข้าวต่อ เพราะถ้าชักช้าอีกนิดเดียว เธอคงไปเรียนไม่ทันแน่ “แม่นม บอกพี่ขุนให้เตรียมรถเลยนะคะ เอยอิ่มแล้วค่ะ” เมื่อได้ยินคำสั่ง แม่นมก็รีบไปบอกคนขับรถให้มารับหญิงสาวทันที ที่มหาวิทยาลัย รถยนต์ของทางบ้านจอดลงที่หน้าตึกเรียน หญิงสาวรีบเปิดประตูลงจากรถอย่างเร่งรีบ แต่ก็ไม่ลืมหันกลับมาขอบคุณคนขับรถ “ขอบคุณนะคะพี่ขุน... เอ่อ วันนี้เอยเลิกเที่ยงนะคะ อย่าลืมมารับด้วยน้า สวัสดีค่ะ บ๊ายบาย~” เธอยกมือไหว้พร้อมกับโบกมือลาน่ารัก ๆ “ครับ ผมจะมารอก่อนเวลาเลยครับ” ขุนเขายิ้มตอบก่อนจะขับรถออกไป เอยกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในตึกเรียนทันที เพราะเธอใกล้จะเข้าเรียนไม่ทันแล้ว “เฮ้อ... เกือบไม่ทันแน่ะ” เธอถอนหายใจเบา ๆ ด้วยความโล่งอก ทันใดนั้น ก็มีเสียงเรียกชื่อดังมาจากด้านข้าง “เอย~ ทางนี้!” เธอหันไปตามเสียงเรียก แล้วก็เจอกับ แพรไหม เพื่อนสนิทที่นั่งรออยู่ก่อนหน้าแล้ว “วันนี้มาช้าจังเลยนะ” แพรไหมพูดขึ้นเมื่อเอยนั่งลงฝั่งตรงข้าม “ก็ตื่นสายอ่ะดิ” เอยตอบพลางทำหน้าบูดใส่ตัวเอง “แล้วแกมานานยังอะ?” แพรไหมพยักหน้า “อืม...” “งั้นไปเข้าเรียนกันเถอะ ใกล้ถึงเวลาแล้ว” ทั้งสองสาวลุกขึ้นยืน เดินเคียงข้างกันไปยังห้องเรียน โดยที่ไม่รู้เลยว่า มีใครบางคนกำลังแอบถ่ายภาพของหญิงสาวอยู่จากมุมหนึ่ง ที่บริษัท ชายหนุ่มกำลังนั่งเซ็นเอกสารอยู่บนโต๊ะทำงาน เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง เขาวางปากกาลง แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูแชต เมื่อเห็นรูปภาพที่ถูกส่งมา ใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มทันที รูปที่เขาได้รับคือภาพของหญิงสาวในชุดนักศึกษา — น่ารัก สดใส จนเขาแทบละสายตาไม่ได้ ใช่... เขาสั่งให้นักสืบตามถ่ายรูปเธอไว้ทุกวัน เพื่อให้เขาได้เห็นเธอแม้จะอยู่ไกล ยิ่งอยู่ในชุดนักศึกษาแบบนี้ ยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่ น่ารักขนาดนี้ จะไม่ให้หลงได้ยังไง... เขาถอนหายใจเงียบ ๆ กับตัวเอง อยากกอด อยากหอมจนใจจะขาดอยู่แล้ว...“วันนี้มึงเข้าบริษัทรึเปล่า?” ชายหนุ่มกดโทรหาอคิราห์ เพื่อนสนิทของเขา เพราะมีแผนบางอย่างอยู่ในใจ“ตอนนี้กูอยู่บริษัท มีอะไร?” เสียงปลายสายตอบกลับมาด้วยความสงสัย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนถึงถามแบบนั้น“เดี๋ยวกูไปหา” ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถามกลับด้วยน้ำเสียงขำ ๆ“แล้วมึงไม่มีงานเหรอ?” เขารู้ดีว่าเพื่อนคนนี้งานเยอะขนาดไหน ขนาดกินข้าวยังแทบไม่มีเวลา แล้ววันนี้ถึงกับว่างมาหาเพื่อน?“วันนี้กูว่างทั้งวัน ไม่มีนัดอะไรเลย”“เหรอ... งั้นก็มาสิ” แม้จะตอบรับ แต่ในใจอคิราห์กลับรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรแปลก ๆ แน่ ๆ“อืม เจอกัน” ชายหนุ่มกดวางสายไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะหยิบกุญแจรถแล้วเดินออกจากห้องทำงานทันทีเวลา 12:00 น. – วิทยาลัยทันทีที่เลิกเรียน หญิงสาวเดินออกมาจากตึกเรียน ก็เห็นรถคุ้นเคยจอดรออยู่แล้ว เธอหันไปล่ำลาเพื่อนก่อนจะรีบเดินตรงไปยังรถ“ฉันกลับแล้วนะ บ๊ายบาย~” เมื่อถึงรถ เธอยกมือไหว้คนขับรถอย่างเคารพ“สวัสดีค่ะพี่ขุน มาถึงนานรึยังคะ?” เธอถามด้วยความเป็นห่วง กลัวเขาจะต้องมารอนาน“ผมเพิ่งมาถึงไม่นานครับ คุณหนูจะกลับบ้านเลยไหมครับ หรือว่าจะไปไหนต่อ?” หญิงสาวนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อ
ผับหรูใจกลางเมือง ค่ำคืนในเมืองหลวงยังคงคึกคัก ผับหรูใจกลางเมืองที่มีแสงไฟสีสันสดใสส่องประกายจากหน้าร้าน ดึงดูดผู้คนให้เข้ามาพักผ่อนหลังเลิกงาน บรรยากาศภายในเต็มไปด้วยเสียงเพลงที่กระหึ่ม เครื่องดื่มหลากหลายสีถูกเสิร์ฟไม่ขาดสาย กลุ่มคนมากมายต่างคลาคล่ำภายในร้าน ประตูทางเข้าถูกเปิดออกอย่างมั่นใจ ชายหนุ่มสองคนในชุดลำลองแบรนด์เนมหรูเดินเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผย แค่ก้าวเข้ามาก็กลายเป็นจุดสนใจของสาวๆ รอบตัวทันที หญิงสาวร่างบางในชุดรัดรูปสีแดงสด เดินตรงมาหาชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านหน้า เธอยิ้มหวานพร้อมส่งสายตายั่วยวนให้ ก่อนจะยื่นมือไปแตะที่หน้าอกเขาเบาๆ อย่างไม่อ้อมค้อม “สวัสดีค่ะ มินนะคะ...ชื่ออะไรเหรอคะ?” เธอถามเสียงหวาน พร้อมยืนเบียดเข้ามาใกล้กว่าเดิม แต่แทนที่ชายหนุ่มจะมีท่าทางตอบสนอง เขากลับสะบัดมือเธอออกอย่างไม่ใยดี ดวงตาคมจ้องเธอเขม็งด้วยแววตารำคาญ ราวกับไม่อยากให้แตะต้องแม้ปลายเล็บ “ออกไป” เสียงเขาทุ้มนิ่งแต่ทรงพลัง จนหญิงสาวหน้าชา รีบชักมือกลับด้วยความตกใจ และหมุนตัวเดินหนีไปแบบเงียบๆ “มึงนี่ก็ใจร้ายเกินไปนะ เพิ่งเข้าร้านมาก็ไล่สาวเขาเลย” อคิราห์แซวพร้อมหัวเราะเบาๆ พล
ภูผาหยิบโทรศัพท์ของอคิราห์ขึ้นมาไถหน้าจอหาชื่อ “เอย” อย่างใจเย็น เมื่อเจอเบอร์ของหญิงสาว เขาก็รีบควักมือถือของตัวเองจากกระเป๋ากางเกงออกมาทันที แล้วบันทึกหมายเลขลงไว้ในรายชื่อโดยไม่ลังเลชื่อที่เขาเมมไว้คือ "หนูเอยของพี่"วินกับกรณ์ที่แอบมองพฤติกรรมของเพื่อนก็ได้แต่สบตากันแล้วส่ายหน้าเบา ๆ อย่างอ่อนใจแค่เห็นหน้าน้องเขาผ่านวิดีโอคอลก็ทำให้หลงได้ขนาดนี้เลยเหรอวะไหนล่ะ ไอ้คนที่บอกว่าเกลียดผู้หญิง? ไหนว่ารำคาญผู้หญิง?สองหนุ่มคิดในใจพร้อมกันอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็นไม่กี่นาทีถัดมา อคิราห์ก็กลับมาจากห้องน้ำ เขาเปิดประตูเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ส่วนเพื่อนอีกสามคนก็ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ต่างคนต่างนั่งจิบเหล้าเหมือนปกติ“ไปไหนมานานวะ” กรณ์ถามขึ้นทันทีที่อคิราห์นั่งลง“หรือแอบติดสาวอยู่ห้องน้ำ?” วินแกล้งแซว“บ้าเหอะ มึงเห็นกูเป็นพวกเสือผู้หญิงรึไง?” อคิราห์รีบส่ายหน้าแรง ๆ “คนมันเยอะว่ะ กว่าจะเข้าได้ อีกอย่าง...น้องสาวกูไม่ให้ผู้หญิงเข้าใกล้มากนะ เดี๋ยวงอนอีก”พูดถึงน้องสาว เขาก็นึกบางอย่างขึ้นได้ จึงหันไปถามเพื่อนอย่างร้อนรน“เฮ้ย! ตอนนี้กี่โมงแล้ววะ?”“สามทุ่มครึ่ง” วิน
เสียงหัวเราะสดใสดังมาจากห้องนั่งเล่น ต้นเสียงคือหญิงสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งที่กำลังนั่งดูการ์ตูนอย่างมีความสุข เธอชื่อ “เอย” ภันทิลา โชติพิสุทธิ์เมธา ลูกสาวคนเล็กของตระกูลใหญ่ เอยเป็นคนอ่อนหวาน ร่าเริง และเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ มากมาย แต่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ เพราะเธอมีพี่ชายที่ทั้งหวงและดุมาก พี่ชายของเธอชื่อ “โอบ” อคิราห์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานบริษัทใหญ่ของครอบครัว เอยจึงเลือกเรียนคณะบริหารธุรกิจเพื่อจะได้ช่วยงานพี่ชายในอนาคต "ขำอะไรเสียงดังไปถึงหน้าบ้านเลย" เสียงทุ้มอบอุ่นดังขึ้นจากประตู อคิราห์เพิ่งกลับมาถึงบ้าน เขาอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นน้องสาวหัวเราะร่าเริงอยู่หน้าทีวี "พี่โอบ กลับมาแล้วเหรอคะ เอยดูการ์ตูนอยู่ค่ะ สนุกมากเลย" หญิงสาวเงยหน้ามายิ้มกว้าง ตาหยีเป็นประกายสดใส อคิราห์อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปลูบหัวน้องสาวอย่างเอ็นดู "พี่กลับมาแล้วครับ แต่เดี๋ยวต้องออกไปอีก นัดเพื่อนไว้" พอได้ยินแบบนั้น เอยก็หน้าหงอยทันที เธอไม่ชอบอยู่บ้า