ตอนเช้าแสนสดชื่น
"นายอีกแล้วเหรอ?" หญิงสาวพูดขึ้น เมื่อกลับมาถึงบ้านหลังจากออกกำลังกายเสร็จ เธอก็ได้เจอกับศรัณย์อีกแล้ว เจ้าตัวจอดรถรอเธออยู่หน้าประตูบ้าน เพราะรู้ว่าเธอยังไม่กลับเข้าบ้าน
"ครับ ผมอีกแล้ว"
"....." วานิลถอนหายใจออกมาอย่างแรง เธอรู้ว่ากำลังถูกเด็กตามจีบ และเธอก็ปฏิเสธการกระทำไปแบบตรงๆ แต่เธอจะทำยังไงได้ล่ะ มันเล่นตามมาถึงบ้านเลยแบบนี้ แถมมาทุกวันอีกด้วย
ดีนะที่เรื่องนี้ยังไม่รู้ถึงหูใคร นอกจากลูกน้องคนสนิทของเธอ ก็ไม่มีใครรู้แล้ว ว่าเธอกำลังถูกเด็กเสิร์ฟตามจีบอยู่
"ผมขอเข้าไปในบ้านได้ไหมครับ"
"เมื่อไหร่นายจะเลิกยุ่งสักทีเนี่ย"
"ไม่เลิกยุ่งครับ ต่อให้คุณวานิลไล่ผมก็ไม่ไป ผมไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ครับ อีกอย่างผมก็ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีด้วย"
"......" เธอมองนิ่งๆ ก่อนจะเปิดประตูรั้วและเดินเข้าไป แต่พอเดินเข้าไปได้ไม่เท่าไหร่ เธอก็ต้องหยุดเดิน "เข้ามา"
ให้ตายสิ! ทำไมเธอถึงใจอ่อนอยู่เรื่อยเลย พอเธอไม่ให้เข้าบ้าน ก็ชอบยืนทำหน้าเศร้าอยู่หน้าประตูรั้ว ทำเหมือนเด็กที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าบ้าน ถูกลงโทษ ทำตัวน่าสงสาร
พอได้รับอนุญาตเจ้าตัวก็รีบเดินตามเข้าไปทันที
"ครัวอยู่ทางโน้น"
"ครับ"
"จะทำอะไรก็ทำ ฉันจะขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว แต่อย่าคิดที่จะทำอะไรไม่ดี ต่อให้ตัวฉันไม่ได้อยู่ตรงนี้ แต่ก็อย่าคิดว่าฉันจะไม่รู้ว่านายทำอะไรลงไปบ้าง"
"ผมคงไม่แก้ผ้าแล้วเต้นระบำโชว์หรอกครับไม่ต้องห่วง"
"ไอ้บ้า!"
.................
เวลาต่อมา
ขณะที่กำลังเดินลงมากลิ่นอาหารหอมฉุย เตะจมูกเธอมาก เด็กคนนี้ดูท่าจะมีฝีมือในการทำอาหารเหมือนกันนี่นา
"เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ"
"อื้ม..."
"ไม่ถามหน่อยเหรอครับว่าผมทำอะไรให้กิน"
"ถามทำไม ก็เห็นอยู่ว่าเป็นข้าวต้มทรงเครื่อง"
"......"
"ฉันไม่ใช่ผู้ดีอะไรขนาดนั้นสักหน่อย ข้าวต้มแบบนี้ทำไมจะไม่รู้จัก"
"ผะ ผม ผมทำเป็นแค่นี้ครับ"
"ฉันไม่ได้ว่าอะไร ปกติฉันก็กินแบบนี้อยู่แล้ว สมัยก่อนตอนที่ยังเป็นเด็ก ฉันก็กินแบบนี้บ่อยเหมือนกัน"
"จริงๆ ผมก็อยากลองทำแบบอื่นเหมือนกันครับ แต่ทำไม่เป็นผมก็เลยกลัวว่ามันจะไม่ถูกปาก"
"อืม กินเถอะ ฉันต้องรีบไปทำงาน"
"เป็นเจ้าของ ยังต้องรีบอีกเหรอครับเนี่ย"
"เป็นเจ้าของ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่ต้องทำงานสักหน่อย เผลอๆ งานของฉันเยอะกว่าของคนอื่นด้วยซ้ำ"
"ตอนเย็นให้ผมแวะมาทำอะไรไว้ให้กินไหมครับ คุณวานิลกลับมาถึงจะได้กินข้าวแล้วพักผ่อนเลย"
"ไม่ล่ะ ฉันยังไม่รู้เลยว่าจะกลับตอนไหน ถ้ากลับดึกฉันก็คงกินจากข้างนอกมาเลย"
"ครับ"
"......"
ครั้งแรกที่เธอมีคนอื่นมานั่งร่วมโต๊ะอาหารในบ้านด้วย ปกติเธอจะนั่งกินคนเดียวเงียบๆ มากกว่า
"เดี๋ยวผมล้างจานให้นะครับ"
"ไม่ต้องหรอก เอาไปแช่ไว้ เดี๋ยวฉันกลับมาจัดการเอง"
"จะดีเหรอครับ มีเยอะเลยนะครับ พอดีผมหยิบออกมาใช้เยอะเลย"
"ฉันให้นายเข้ามาในบ้านได้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าฉันจะไว้ใจให้นายอยู่บ้านของฉันนะ"
"ผมเข้าใจครับ"
"......"
พอเธอออกไปทำงาน ศรัณย์เองก็ต้องออกจากบ้านของเธอเหมือนกัน เพราะเธอยังไม่ไว้ใจให้เขาอยู่ที่บ้าน และก็ไม่รู้จะไว้ใจผู้ชายคนนี้ได้หรือเปล่า มันยังไม่ใช่ความรัก มันยังไม่ถึงขั้นที่เธอจะสามารถไว้ใจเขาให้ใจเขาได้
บนรถ
"เด็กคนนั้น แวะมาหาอีกแล้วเหรอครับ"
"อืม.."
"เขาล้ำเส้นอะไรหรือเปล่าครับ ให้ผมจัดการให้ไหม"
"ไม่ต้องหรอก เอาไว้ถ้าฉันรู้สึกว่าเขาล้ำเส้นไม่น่าไว้ใจเมื่อไหร่ ฉันจะบอกอีกที"
"ครับ"
ชีวิตของเธอก็วนลูปอยู่แค่นี้ เพราะไม่มีครอบครัว เธอเลยไม่ต้องแบ่งเวลาไปให้ความสำคัญกับใคร ให้ความสำคัญแค่กับตัวเองคนเดียวเท่านั้น ดูเหมือนมันจะเงียบเหงา ดูเหมือนจะไม่มีสีสันชีวิต แต่สำหรับเธอแล้วแบบนี้มันก็ดีกว่าที่จะต้องมีใครแล้วต้องเจ็บปวด
..................
เวลาผ่านไปอยู่นาน ความไว้ใจมันก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากความไว้วางใจ มันก็ค่อยๆ กลายเป็นความรู้สึกดี หัวใจของเธอเริ่มเปิดอ้าออก ตอบรับสิ่งที่เขากำลังทำให้อย่างสม่ำเสมอ
ผู้หญิงแพ้ผู้ชายแบบนี้จริงๆ นะ ไม่ต้องรวยล้นฟ้า ไม่ต้องดีเด่อะไร ขอแค่มีความสม่ำเสมอ รู้จักเอาใจผู้หญิง รู้จักจุดอ่อนผู้หญิง ไม่ทำให้ผู้หญิงต้องเสียความรู้สึกหรือเสียใจ ความสม่ำเสมอแบบนี้ก็ทำให้ผู้หญิงใจอ่อนได้แล้ว
กลางดึกวันหนึ่ง
"คุณวานิล กินอะไรมาหรือยังครับ ผมเลิกงานแล้วก็เลยแวะไปซื้อของกินมา"
"ไม่เหนื่อยหรือไง ที่ต้องมาดักรอฉันดึกๆ ดื่นๆ เนี่ย แทนที่จะกลับไปพักผ่อน"
"ไม่เหนื่อยครับ ผมทำเพราะอยากทำ และก็เต็มใจทำด้วย"
"เข้ามาสิ"
"ครับ"
"คราวหน้าก็หัดกลับไปพักผ่อนบ้างนะ ถ้านายเป็นอะไรขึ้นมาฉันไม่ต้องกลายเป็นต้นเหตุเหรอ ฉันไม่ได้อยากให้ใครมาเป็นอะไรเพราะฉันหรอกนะ"
"ผมชอบคุณวานิลจริงๆ นะครับ"
"นายรู้ตัวบ้างไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่ เคยคิดบ้างหรือเปล่าว่าถ้ามีคนรู้เรื่องนี้ เขาจะมองกันยังไง"
"ครับ? มองยังไง ทำไมครับ มันผิดตรงไหน?"
"มันไม่ได้ผิด แต่นายคิดในมุมของคนอื่นบ้างสิ ฉันเองก็แก่กว่านายตั้งหลายปี ส่วนนายเองก็เป็นเด็กเสิร์ฟ ฉันไม่ได้ดูถูกนายนะ แต่ในสายตาของคนอื่น เขากำลังมองว่าฉันเลี้ยงเด็ก และก็กำลังมองนาย ว่าอยากสบายทางลัดด้วย"
"ผะ ผมไม่ได้คิดแบบนั้นนะครับ"
"อือๆ ช่างเถอะๆ ฉันคงคิดมากไปเอง" เธอพูดปัดๆ ไป
"คุณวานิล... ผมอาจจะไม่รวย อาจจะไม่เก่ง อาจจะไม่ได้มีเพรียบพร้อม แต่ผมให้คำมั่นสัญญา ว่าเด็กคนนี้จะทำให้คุณวานิลมีความสุขให้ได้ครับ"
"......"
"ผมสัญญา.."
วานิลรีบผละตัวออกมา เธอถอยหนีเพราะอ่านสถานการณ์ในตอนนี้ออก ต่อจากนี้เธอคงถูกประทับจูบลงมาแน่ๆ
"ฉันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น"
"คือผม..."
"ขอบคุณสำหรับอาหาร แต่นายเอากลับไปเถอะ ฉันไม่กินแล้ว"
"ผมขอโทษนะครับ ขอโทษจริงๆ"
"นายกำลังล้ำเส้นฉัน ต่อจากนี้อยู่ให้ห่างกัน อย่ามาหาฉันอีก"
"คุณวานิล..."
"นายก็รู้ว่าฉันไม่ชอบให้ใครมาล้ำเส้น แต่นายก็ยังจะทำ!"
เวลาต่อมาสนามบินประเทศไทย"ระวังนะครับตะวัน" ฉันร้องห้ามลูกชาย เมื่อลงมาจากเครื่องเจ้าตัวก็วิ่งไปรอบๆ เหมือนกำลังตื่นเต้น ก็ปกติแหละสำหรับเด็กที่เพิ่งจะได้ออกมาจากโลกของตัวเอง ตะวันไม่เคยไปเที่ยวไหนไกลขนาดนี้มาก่อนเลย"มันแปลกตามากเลยครับแม่""ตะวันครับตะวัน""ปล่อยเถอะครับ แกยังไม่เคยเห็น คนของผมก็อยู่กันเยอะแยะ เขาไม่ปล่อยให้นายน้อยของเขาคลาดสายตาหรอก""....." ฉันไม่ได้ตอบอะไร ถึงเขาจะพูดอย่างนั้นก็เถอะนะ แต่คนเป็นแม่อ่ะ ยังไงก็ห่วงลูกอยู่แล้ว"รถจอดอยู่ทางนี้ครับ" ลูกน้องของเขาเดินมาบอก"มากันเถอะครับนิล ตะวันครับมาขึ้นรถเร็ว""ครับคุณพ่อ"สมกับเป็นเขาจริงๆ นะ แค่เจ้านายกลับมาจากต่างประเทศ ลูกน้องนี่ขนกันมารุมล้อมต้อนรับราวกับว่าจะมีคนมาดักทำร้ายงั้นแหละ ฉันอุตส่าห์จะกลับมาอย่างเงียบๆ แต่นี่คงไม่เงียบแล้วล่ะจะว่าไปหลายปีที่ฉันไม่เคยได้กลับมา อะไรต่อมิอะไรมันเปลี่ยนแปลงไปเยอะเหมือนกันเลยนะเนี่ย มันดูแปลกตาไปเยอะเลย แม้บางอย่างจะอยู่ที่เดิม แต่ก็ปรับเปลี่ยนไปไม่ใช่น้อย"เราจะไปที่ไหนกันครับคุณพ่อ""บ้านของพ่อไงครับ""แล้วแม่นิลมีบ้านที่นี่ไหมครับ""มีครับ""เราจะไปเที่ยวไหนกันบ้างค
เช้าแสนสดใสของวันรุ่งขึ้น"เฮือก!!" วานิลสะดุ้งตื่น เธอรีบลุกขึ้นและมองรอบๆ ตัวเอง พอเห็นว่าพระอาทิตย์ขึ้นจนสว่างจ้าแล้วเธอก็รู้ได้ทันทีว่า มันสายมากแล้ว "รัณ!"ร่างบางรีบลุกขึ้นก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดดู ให้ตายสินี่มันจะสิบโมงแล้ว เธอนอนตื่นสายขนาดนี้ได้ยังไงกัน"ให้ตายสิโอ้ย! ตื่นสายได้ยังไงวะเนี่ย!" เธอบ่นพึมพำกับตัวเองขณะที่กำลังเร่งรีบแต่งตัว เพราะเธอจะลงไปสภาพแบบนี้ไม่ได้หรอกพอแต่งตัวเสร็จเธอก็รีบเดินออกไปที่ประตู แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้เปิดออกไปประตูก็ถูกผลักเปิดเข้ามาซะก่อนแกร๊ก~"คุณ!""ตื่นแล้วเหรอครับ ผมว่าจะขึ้นมาดูอยู่พอดี" ศรัณย์พูด"ตะวันล่ะคุณ?""ไปเรียนแล้วครับ""ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกฉันล่ะ นี่ฉันสายเลยนะ ไหนจะต้องเปิดร้านอีก""ไม่เห็นต้องเร่งรีบเลยครับ พนักงานของคุณเขาจัดการกันเรียบร้อยหมดแล้วนะครับ""....""ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้วครับ ลงมากินข้าวสิ ผมเตรียมให้แล้ว""เฮ้อ...ตกใจหมด!""ตกใจทำไมครับ มีผมอยู่ทั้งคนนะครับ""ปกติฉันเป็นคนไม่ตื่นสายนะ เล่นมาตื่นสายแบบนี้ ใครบ้างจะไม่ตกใจ""มากินข้าวเถอะครับ""อืม..."วานิลรีบเดินตามศรัณย์ลงไปด้านล่าง เขาทำอาหารไว้ให
"อุ๊บ! อื้อ!!~"วานิลทำตัวไม่ถูก จู่ๆ ศรัณย์ก็โน้มหน้าลงมาจูบปากกับเธอ เรียวลิ้นสอดเข้าไปในปากเล็ก ตวัดไปมาเหมือนควานหาอะไรในปากของเธอ"อื้ม...!!""อืม...อยู่นิ่งๆ สิครับ" น้ำเสียงของอีกฝ่ายแหบพร่า แม้เธอจะขัดขืนแต่เขาก็ไม่ได้หยุดการกระทำของตัวเองนี่มันเป็นครั้งแรกเลยมั้งที่เธอได้จูบกับใคร และมันก็น่าตกใจไม่น้อย เพราะตอนนี้กำลังยืนอยู่ตรงหน้าระเบียง"อืม...""พะ พอ อืม..." วานิลพยายามเบี่ยงหน้าหลบ แต่แล้วก็ถูกเขาประคองให้กลับมาอยู่ในท่าเดิม เริ่มที่จะขัดขืนยากขึ้น เพราะมือทั้งสองข้างถูกล็อคเอาไว้ บวกกับร่างกายที่เหมือนจู่ๆ ก็ร้อนวูบวาบขึ้นมาบอกไม่ถูก"ระ รัณ...!" คราวนี้เธอผลักเขาออกไปได้สำเร็จ แต่ถึงจะจูบกับเธอต่อไม่ได้ ก็ใช่ว่าเขาจะหยุดการกระทำของตัวเองเสียหน่อยจมูกโด่งเริ่มซุกไซ้ตามลำคอขาวต่อจากนั้น คลอเคลียอยู่กับใบหูของเธอจนมาถึงหน้าอก ทำอยู่อย่างนั้นไม่ยอมหยุด เหมือนกับแมวน้อยที่กำลังคลอเคลียเจ้านาย"อะ อืม...พอแล้ว""ตัวคุณหอมจัง""ระ รัณ...""ผมไม่เคยรังเกียจคุณ ผมรักคุณ ผมรักคุณ...""อะ อือ...หยะ หยุดก่อน" เพราะเขาไม่ได้พูดอย่างเดียวเนี่ยสิ มือสองข้างก็เล้าโลม จับตรงนั้นตรง
ตกกลางคืน หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาแสนหวานกับศรัณย์มา วานิลกำลังนั่งคิดอะไรอยู่คนเดียวเงียบๆ จนกระทั่งศรัณย์เดินเข้ามา"คิดอะไรอยู่ครับ""มีเรื่องให้ต้องคิดน่ะค่ะ" วานิลตอบ"พอจะบอกผมได้ไหม ว่าคุณกำลังคิดเรื่องอะไร?""....." วานิลเงียบ ก่อนจะถอนหายใจออกมา การกระทำแบบนี้เหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของเธอไปแล้ว "ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ""ครับ?""ฉันคิดว่าเรื่องนี้คุณเองก็ยังไม่รู้ และถ้าฉันเล่าออกไป คุณอาจจะรังเกียจคนอย่างฉันไปเลยก็ได้""ไม่ ผมจะไม่...""ฟังฉันก่อนสิ" วานิลรีบพูดดักขึ้น เขายังไม่รู้เลยว่าเธอจะพูดเรื่องอะไรให้ฟัง บางทีถ้าเขาได้ยินแล้วเขาอาจจะรับไม่ได้และเลิกรักเธอไปเลยด้วยและที่เธอเลือกที่จะพูดเอาตอนนี้ เพราะหลายครั้งที่ผ่านมาเธอไม่มีความกล้าซะเลย ยิ่งเธอนึกถึงเรื่องเหล่านั้น มันก็ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกของเธออยู่ตลอด"พูดมาสิครับ...""ฉันเคยติดคุก แต่คุณคงรู้แล้ว ฉันถูกอดีตแฟนใส่ร้ายเรื่องยาเสพติด ฉันเลยต้องติดคุก เพราะไม่มีพยาน ไม่มีหลักฐาน ไม่มีคนมาช่วยเรื่องคดี""ใช่ ผมรู้เรื่องนี้แล้ว""เรื่องข้างใน...""ครับ?""ขอโทษนะ ที่เพิ่งบอกเอาตอนนี้ แต่ทุกครั้งที่นึกถึงมัน ฉันก็ยังเจ็บใจอยู
หลายเดือนต่อมาร้านดอกไม้ Tawan Flower Shop"อะไรเนี่ย?" วานิลพึมพำกับตัวเอง เพราะจู่ๆ ตรงหน้าของเธอก็มีช่อดอกไม้ใหญ่อยู่ตรงหน้า และดูเหมือนว่าจะมีคนยืนถือมันอยู่ด้วย"จ๊ะเอ๋!~""คุณ! เล่นอะไรเนี่ย ตกใจหมด!""เซอร์ไพรส์ครับ""ร้านดอกไม้อยู่ตรงนี้แท้ๆ คุณไปอุดหนุนร้านอื่นเหรอ?" ถามเสียงแข็งเหมือนหาเรื่อง"ปะ ป่าวนะครับ ผมสั่งมาจากร้านตรงที่บริษัทที่ผมไปทำงาน ซื้อจากร้านคุณ คุณก็รู้น่ะสิ แบบนั้นก็ไม่เซอร์ไพรส์หรอก""......" ก็ไม่อะไรหรอก แค่แกล้งเขาเล่นก็เท่านั้นแหละ"ดอกไม้สวยๆ สำหรับคนสวยๆ ของผมครับ""อื้ม...ขอบใจนะ""หิวกาแฟจังเลยครับ""เข้าไปข้างในสิ""ไปนั่งด้วยกันนะครับ""อ๊ะ! ดะ เดี๋ยว! ฉันยังทำงานอยู่นะ!"เหมือนศรัณย์จะไม่ฟังอะไรเลย เขาจับแขนของวานิลแล้วดึงเธอเข้าไปในร้าน และตอนนี้ร้านขยับขยายไปอีกเพราะซื้อคูหาใกล้ๆ กันรวมเป็นร้านเดียวไปแล้ว เป็นร้านดอกไม้ที่มีคาเฟ่อยู่ด้วย พอจัดด้วยดอกไม้สวยๆ แล้ว เรียกลูกค้าได้ไม่น้อยเลย โดยเฉพาะคนที่ชอบมาถ่ายรูป"อะไรของคุณเนี่ย!?""พนักงานก็เต็มร้าน ไม่เห็นต้องทำเองเลยครับ""ก็คนมันว่าง จะให้ฉันทำอะไร ทำไม่ให้ฉันทำแบบนี้""ตอนนี้ไม่ว่างแล้วน
เวลาผ่านไปร่วมเดือน"ตะวัน!!" วานิลตะโกนเรียกลูกชาย พร้อมกับเท้าเอวยืนรออยู่ตรงบันได เพราะนี่มัน 7:45 แล้วแต่ลูกชายยังมัวแต่โอ้เอ้อยู่ได้ ศรัณย์นี่แหละตัวดีเลย คอยอยู่เบื้องหลังคอยให้ท้ายกันอยู่แบบนี้ไงตะวันถึงได้เป็นแบบนี้"มาแล้วคร้าบแม่นิล..." เสียงหวานของหนุ่มน้อยดังมาแต่ไกล"สายแล้วนะ มัวทำอะไรกันอยู่!" เธอถามเสียงเข้ม"เสร็จแล้วครับ เสร็จแล้ว""คุณ...!" กำลังจะบ่นแต่ก็ถูกเขาพูดแทรกซะก่อน ราวกับว่ารู้ว่าเธอจะบ่นยังไงเลยชิงพูดก่อน"ขอโทษครับ ผมลืมดูเวลา จะรีบไปส่งเดี๋ยวนี้เลย""....." วานิลยืนมองนิ่ง ส่ายหน้าเล็กน้อยให้กับสองพ่อลูกคู่นี้ที่กำลังพากันวิ่งไปที่รถ มันน่าจริงๆ เลยนะสองพ่อลูกคู่นี้"มีอะไรกันเหรอพี่นิล?" เจียอีเดินเข้ามาถาม"จะอะไรซะอีกล่ะนอกจากสองพ่อลูกคู่นี้""หึหึ ดูเขาเข้ากันได้ดีเลยนะ" เจียอีหัวเราะใส่ ตอนแรกที่รู้ความจริงว่าพ่อของตะวันเป็นใครก็ตกใจอยู่นะ แต่ตอนนี้ก็ชินแล้วล่ะ"เข้ากันได้ดีเกินน่ะสิ หัวจะปวด โอ้ยยย!""เอาน่าพี่ อย่าไปเคร่งนักเลย""พี่ไม่ได้เคร่งนะ แต่เขากำลังจะทำให้ตะวันเสียคน ตะวันเคยตรงเวลา มีระเบียบเรียบร้อย แต่พอมีเขาที่ทำให้ทุกอย่าง ตะวันเปลี