ตอนที่ 3 ประชด
ฉันจัดการอาบน้ำแต่งตัวแต่งหน้าแบบจัดเต็ม มุ่งสู่สถานเริงรมย์ ฉันเรียกรถบริการแบบ vip มุ่งหน้าสู่ผับสุดหรูสถานเริงรมย์ชั้นนำใจกลางเมือง ผับที่เริ่ดที่สุด ที่มีแต่พวกไฮโซ ลูกคนตระกูลดังๆ มาเที่ยวกัน
ส่วนเหตุผลที่ฉันเลือกที่นี่นะหรอ ก็เพราะว่าอย่างน้อย มันก็คัดสรรคนที่จะเข้าไปได้ เกิดเมาจนไม่ได้สติอย่างน้อย คนสังคมไฮโซแบบพวกนั้นคงไม่เสี่ยงมายุ่งกับฉันให้เสียชื่อเสียงหรอก คนพวกนี้กลัวเรื่องข่าวฉาวจะตาย ถ้าฉันเมาคงไม่กล้าลากฉันไปทำมิดีมิร้ายแน่นอน
และถึงฉันจะไม่ได้เป็นไฮโซไฮซ้อ ลูกท่านหลานเธอ แต่ก็ยังดีที่ฉันยังมีเงินมากพอที่จะเข้ามาเที่ยวสถานที่นี่ได้อย่างสบายๆ คงต้องยกเครดิตตรงนี้ให้พ่อแม่ฉันที่ท่านยังทิ้งทรัพย์สินเงินทองเอาไว้ให้ก่อนที่ท่านจะหนีหายเหมือนตายจากไปเพราะเหตุผลบางอย่าง และแม้ฉันจะอยู่ตัวคนเดียว ฉันก็ระมัดระวังตัวเองเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ถึงตอนนี้ฉันจะเสียใจมากแค่ไหนแต่เรื่องความปลอดภัยของตัวเองต้องมาเป็นอันดับหนึ่งฉันถึงเลือกที่นี่เพื่อเซฟตัวเอง เพราะฉันยังเหลือของสำคัญที่ฉันยังคงเก็บรักษาไว้อยู่ ดีที่ฉันยังไม่หลวมตัวมอบของสำคัญให้ไอ้เคนมัน ไม่งั้นฉันคงเป็นบ้าตายแน่ ๆ
ขณะที่คิดอะไรเพลิน รถก็ได้มาถึงหน้าสถานเริงรมย์ที่ฉันหมายใจไว้ว่าจะสนุกให้สุดเหวี่ยงเลยในคืนนี้
ฉันเดินเข้ามาในชุดเดรสเกาะอกสีดำ แหวกหน้า เว้าหลัง ผ่าข้าง ชุดนี้มันขลับให้หุ่นของฉันดีขึ้นจริง ๆ เน้นนมที่ใหญ่โตเกินตัวให้เด่นชัด โชว์แผ่นหลังขาวเนียนสว่าง สีดำที่ช่วยส่งให้ผิวยิ่งผ่องออร่ากระจาย ไหนจะผ่าข้างที่ทำให้ฉันอวดเรียวขายาวสวยได้อีก มันยิ่งทำให้ฉันมั่นใจในความสวยที่มีเข้าไปอีก
ระหว่างทางที่เดินเข้ามาในร้านฉันรับรู้ได้กับสายตาที่จับจ้องมาที่ฉันก็อย่างว่านะคนมันสวยคนมันเริ่ดไม่ต้องรอให้ใครมาชมฉันก็รู้ตัวดี จะโง่ก็แค่ตอนที่รู้เรื่องของไอ้อีสารเลวสองตัวนั้นช้าไปก็เท่านั้น แต่ไม่เป็นไรนับจากวันนี้ฉันเอลิซจะไม่ยอมให้ใครหลอกอีกต่อไปแล้ว
ฉันเดินมาถึงเคาน์เตอร์บาร์พร้อมสั่งเครื่องดื่ม ฉันขอแบบแรงๆ หนักๆ พนักงานที่นี่ก็ดีไม่มีขัดศรัทธาจัดเครื่องดื่มสูตรพิเศษของทางร้านมาให้ฉันลอง ฉันชอบนะรสชาติถูกใจฉันเลย ฉันเลยขอให้จัดมาแบบต่อเนื่อง เพราะคืนนี้เพ่!! จะเมาาาาา
ดื่มไปได้สักพัก ก็มีหนุ่มหล่อบ้างไม่หล่อบ้าง แวะเวียนมาคุยมาจีบ ชวนชนแก้วบ้าง ชวนไปนั่งดื่มบ้าง ชวนไปนั่งที่โต๊ะบ้าง แต่ฉันไม่มีอารมณ์ จะเสวนากับใครทั้งนั้นเพราะใจฉันตอนนี้มันทั้งโกรธทั้งแค้นทั้งเสียใจ ไม่สะดวกจะสานสัมพันธ์กับใครทั้งนั้น สัมพันธ์เดียวที่ฉันจะสานคือแก้วที่อยู่ในมือฉัน ระหว่างที่คิดอะไรเพลินๆอยู่นั้น..
"คุณครับคุณ คุณครับ คุณครับ" เสียงเรียกกระซิบที่ข้างหูพร้อมกับมือที่สะกิดแขนฉันเบาๆ ทำให้ฉันตื่นจากภวังค์
"ค่ะ ว่าไงคะ" ฉันหันหน้าไปมอง ตะลึง.. ตะลึงไปเลยสิค่ะ คนนี้ทำให้ฉันถึงกับมองตาค้าง แม่เจ้าโว้ยคนอะไรหล่อลากกระชากมดลูกจริง ๆ ผมดำที่เซตอย่างเนี๊ยบรับกับดวงตาคมสีเทาเข้มที่แฝงความเจ้าเล่ห์แต่ดูมีเสน่ห์เหลือล้น คิ้วหนาเข้ม จมูกโด่งสันคม ปากหยักหนาทรงกระจับ ไอ้เลวเคนที่ว่าหล่อแล้วยังสู้ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าฉันคนนี้ไม่ได้เลย มองปราดเดียวก็รู้ว่าโคตรหล่อ และน่าจะโคตรรวยด้วยสังเกตจากเสื้อผ้าเครื่องประดับ บอดี้การ์ดที่ยืนขนาบอยู่ด้านหลัง แต่..เอ๊ะ! ฉันรู้สึกคุ้นหน้าผู้ชายคนนี้จังแต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกสงสัยเครื่องดื่มสูตรพิเศษ จะทำพิษฉันซะแล้ว
"คุณ..ว่าไงครับ ผมรอคำตอบอยู่" เขาถามย้ำ โดยที่ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาถามอะไร
"อ่ะ อะไรนะคะ" ฉันหลุดจากภวังค์ความหล่อตอบกลับไป
"ผมถามว่าผมขอนั่งตรงนี้ได้ไหมครับ ผมมาคนเดียวเลยไม่อยากไปนั่งโต๊ะใหญ่ครับ" เขาเอ่ยถามพร้อมส่งรอยยิ้มกระชากใจ นี่ถ้าฉันอยู่ในสภาวะปกติคงหลอมละลายไปแล้ว
"ดะ..ได้ค่ะ" ฉันส่งยิ้มให้เขาแล้วตอบไป พร้อมกับหันมาสนใจเครื่องดื่มในมือต่อ เพราะถึงจะหล่อขนาดไหนแต่ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์จริง ๆ
" คุณชื่ออะไรครับ"
"คุณครับ ชื่ออะไรครับ"
เขาสะกิดฉันอีกครั้งจนฉันหันไป
"ห๊ะว่ายังไงนะคะ"
" ผมถามว่าคุณชื่ออะไรครับ"
"อ๋อ..เอลิซ..ค่ะ" ฉันตอบพร้อมหันหน้ากลับมากระดกเครื่องดื่มสูตรพิเศษเข้าปากอย่างต่อเนื่อง เขาคงคิดว่าฉันเป็นยัยขี้เมาแน่ ๆ แต่ก็ดีจะได้ไป ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน เพราะตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์จะให้ใครมาจีบจริง ๆ
" แล้วคุณไม่อยากรู้จักชื่อผมหรอครับ" ดูเหมือนเขาพยายามอยากจะให้ฉันรู้จักชื่อซะเหลือเกิน เอาว่ะคุยก็คุย รีบคุยจะได้รีบไป
" ถ้าอยากให้รู้ก็บอกมาเถอะค่ะ" ฉันฉีกยิ้มกว้างให้เขา ไหน ๆ เขาก็อยากให้ฉันรู้จักงั้นก็คุยหน่อยก็ได้ เพราะตอนนี้เครื่องดื่มสูตรพิเศษ กำลังเล่นงานฉันหนักจนฉันเริ่มจะคุมสติไม่อยู่แล้ว
‘ไอ้เหี้ยนี่...!! ตายยากตายเย็นจริงนะมึง’ ผมสบถในใจแต่ทว่า...หลังจากผมให้เธอเปิดลำโพงเพื่อฟังว่ามันจะพูดอะไร แต่เสียงที่สวนเข้ามากลับกลายเป็นเสียงผู้หญิง และคำพูดของมันก็ทำให้ผมทั้งสะใจและสะอิดสะเอียนไปพร้อม ๆ กัน‘สะใจจริง ๆ โว้ยยย ไอ้กิตนี่จัดการได้ดีจริง ๆ’ ผมเอ่ยชมลูกน้องในใจและเมื่อได้ฟังประโยคต่อ ๆ ไป ผมก็ได้แต่นึกรังเกียจในตัวคนพวกนี้จริง ๆ‘ชิ...หน้าด้านจริง ๆ เลยอีนี่’ ผมก่นด่านังผู้หญิงหน้าด้านที่หักหลังเพื่อนรักของตัวเอง แล้วยังมีหน้ามาขอความช่วยเหลืออีกและถึงแม้จะสะใจที่ไอ้กิตให้ลูกน้องกระทืบไอ้ตัวผู้จนปางตาย แถมยังตบนังผู้หญิงชั่วคนนี้จนสลบมากแค่ไหน แต่ที่ผมยังเสียดายคือผมไม่ได้ไปจัดการด้วยตัวเอง และนั้นก็ถือว่าพวกมันยังมีบุญอยู่มาก เพราะไม่งั้นพวกมันคงเป็นผีเฝ้าที่แถวนั้นแน่นอนผมที่ลุ้นว่าเธอจะใจอ่อนสงสารพวกมันไหม แต่การตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวของเธอ ทำให้ผมรู้สึกปลื้มใจและคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่เลือกเธอมาเป็นแม่ของลูกผม... ผมที่นอนเล่าถึงเรื่องราวในอดีตให้เธอฟัง พร้อมกับยิ้มย่องในใจ“เฮียนี่เจ้าเล่ห์จังเลยนะคะ วางแผนตั้งแต่ต้น ใช้ความเมาของเอลิซมาขี้ตู่ให้แต่งงานด้วย...ชิ
ตอนพิเศษ : บทสรุปคนทรยศณ Penthouse เซบาสเธีย“จัดการสั่งสอนพวกมันเรียบร้อยแล้วใช่ไหม...เออดี...พวกมันจะต้องจำไปจนตาย...”เสียงแข็งกร้าวกรอกเสียงไปตามสาย ก่อนที่ปากหยักสวยจะเหยียดยิ้มร้ายด้วยความสะใจผมที่ตื่นนอนขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น จากลูกน้องที่โทรมารายงานถึงเรื่องราวที่ผมได้ให้มันไปสืบ ผมที่สั่งลูกน้องคนสนิทไปดำเนินการตั้งแต่เมื่อคืนตอนที่อยู่ในร้าน เนื่องด้วยว่าผมอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ จนถึงกับทำให้เธอคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนที่นอนของผม ต้องเสียใจจนถึงขนาดเอาร่างกายเข้าแลกเพื่อประชดชีวิตเขาที่แม้จะเดาได้ตั้งแต่แรก แต่พอได้ยินเองกับหู ก็ถึงกับเลือดขึ้นหน้าทันที ทั้งที่เธอแสนดีกับพวกมันขนาดนั้น แต่กลับถูกพวกมันทรยศหักหลัง จนหัวใจแหลกเหลวไม่เหลือชิ้นดี และเธอที่ตัดสินใจประชดชีวิตไปแบบนั้น ถ้าเมื่อคืนไม่ใช่ผมที่ดูแลเธอ ชีวิตเธอตอนนี้จะเป็นยังไงหลังจากที่ผมได้ฟังในสิ่งที่ลูกน้องรายงาน รวมทั้งเรื่องที่ผมสั่งให้ไปกระทืบพวกมัน พอลูกน้องคนสนิทของรายงานจบผมก็ตัดสายทันทีและพลางนึกสะใจ นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องมอบความต้องการให้แก่เธอ ผมคงไปกระทืบมันด้วยตัวของผมเองแล
ตอนพิเศษ : ครอบครัวที่แท้จริง...(3)--- เอลิซ Talk ---ฉันที่ถึงกับร้องไห้โฮหลังจากที่ได้ฟังสิ่งที่คุณเซฟได้ไปสืบเรื่องการหายตัวไปของพ่อกับแม่ของฉัน เขาที่ตามเบาะแสทุกอย่าง เพราะอยากจะให้พวกท่านได้มาร่วมงานในวันแต่งงานของเราทั้งสองคน แต่ใครจะไปคิดว่ากลับไม่มีพวกท่านอยู่บนโลกนี้อีกแล้วคุณเซฟยังเล่าให้ฟังต่อว่า พวกท่านทั้งสองได้ถูกทำพิธีทางศาสนาไปทั้งนานแล้วโดยองค์กรนั้น และจัดการกับเถ้ากระดูกไปจนหมดสิ้นเนื่องจากไม่คิดว่าทั้งสองท่านยังมีญาติหลงเหลืออยู่ และนั่นก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกหดหู่ใจที่แม้แต่เถ้ากระดูกของพ่อกับแม่ตัวเอง ฉันยังไม่อาจจะสัมผัสได้ฉันร่ำไห้สะอื้นจนตัวโยนแม้จะตั้งท้องจนใกล้คลอด ฉันก็ยังอยากจะมีแม่ไว้คอยให้คำปรึกษาในเวลาที่ต้องเลี้ยงลูก ก่อนที่จะเฝ้าโทษตัวเองอยู่นาน ถ้าช่วงนั้นฉันเอะใจสักนิด และไม่ปล่อยให้ความเคยชินยามไม่มีพวกท่านมาทำให้ฉันไม่สนใจอะไร วันนี้เราพ่อแม่ลูกคงไม่ต้องมาพรากจากกันอย่างถาวรและนอกจากเรื่องราวของพ่อแม่ของฉันที่ฉันเพิ่งได้รับรู้ ก็ยังมีเรื่องราวที่น่าเซอร์ไพรส์มากกว่านั้น นั่นก็คือ...เพื่อนสนิทของคุณพ่อของฉันที่คอยช่วยเหลือท่านมาโดยตลอด เขาคนนั้นก
ผ่านไปอีกหลายปี ~~บัดนี้ลูกสาวตัวน้อยของพวกเขาได้เติบโตและคุ้นชินกับการใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวแล้ว เนื่องจากเวลาพวกเขาสองสามีภรรยาไปทำงานทีก็จะหายไปเป็นเดือน ๆ และข่าวการเสียชีวิตเมื่อปลายปีที่แล้วของผู้เป็นบิดาของเขา ก็ทำให้เขาได้แต่นึกเสียใจที่สุดท้ายแล้วไอ้ทิฐิที่เขาสร้างเอาไว้จนไม่เข้าไปดูใจท่านก่อนตายก็ได้ทำให้เขาย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว แม้กระทั่งงานศพของพ่อเขา เขาเองก็เลือกที่จะไม่ไปเพราะทำใจให้อภัยตัวเองไม่ได้ จนในท้ายที่สุดเขาก็ได้เลือกที่จะตัดขาดกับวงศ์ตระกูลเขา...ลบการเป็น...ฤธาทรัพย์ดำรงไปจนหมดสิ้นเตชินท์และไอรินตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อเก็บเงินไว้ให้กับลูกสาวเพียงคนเดียวของพวกเขา แต่ใครจะรู้ว่าในค่ำคืนนั้นจะเป็นคืนสุดท้ายที่พวกเขาได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา...สองสามีภรรยาที่ขับเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวเพื่อไปทำงานยังภาคพื้นแห่งหนึ่งกลางหุบเขาหิมะ ด้วยสภาวะมรสุมที่เกิดขึ้นทำให้ สุดท้ายแล้วเฮลิคอปเตอร์ทั้งลำก็ร่วงลงสู่พื้นพร้อมกับหิมะที่ฝังกลบร่างทั้งสองให้หลับอย่างไม่มีวันตื่น...งานของพวกเขาสองคนที่รับทำ เป็นงานที่เสี่ยงต่อชีวิตเป็นอย่างมาก และแม้ว่าพวกเขาจะรู้ดีถึงควา
ตอนพิเศษ : ครอบครัวที่แท้จริง...(2)หลายปีต่อมา ~~จนกระทั่งเมื่อข่าวการป่วยหนักของผู้เป็นบิดาดังเป็นข่าวใหญ่ เขาที่แม้จะเสียใจกับสิ่งที่พ่อทำกับตนมากแค่ไหน แต่ด้วยความเป็นลูกและความรัก ความผูกพันที่ยังมีอยู่ จึงทำให้วันนี้เขาได้ตัดสินใจที่จะกลับมายังบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองเป็นครั้งแรกหลังจากที่ตัวเขาเองได้จากไปนานนับปีหลังจากที่เขากลับมายังประเทศบ้านเกิดและจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว วันนี้เขาก็ได้รวบรวมความกล้ากลับมายังคฤหาสน์หลังงามที่คุ้นตา แต่ทว่า...วันนี้เขาไม่ได้มาแค่กับไอรินภรรยาที่เขารัก แต่ว่า...เขายังพาโซ่ทองคล้องใจมาด้วย...เอลิซ...ลูกสาวตัวน้อยหน้าตาน่ารักที่เขาหวังพามากราบชายผู้เป็นปู่ของเธอแต่ทว่า...ทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นสำหรับคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีเช่นเขา ทั้งที่เขาจะสลัดทิฐิทิ้งไปแล้วพาตัวเองมายืนอยู่หน้าคฤหาสน์ที่คุ้นเคยได้แล้ว แต่ทว่า...ขาของเขามันกลับไม่ยอมก้าวเข้าไปเสียทีเขาที่ยืนลังเลอยู่หน้าบ้านสักพักใหญ่ ๆ ทั้งที่ใจอยากจะเข้าไปดูใจผู้เป็นพ่อ แต่ด้วยทิฐิที่กลับเข้ามาอยู่ในใจ บวกกับความลำบากตากตำที่ต้องพบเจอมาอยู่หลายปี สุดท้ายแล้ว...ทิฐิก็เป็นฝ่ายชนะ..
ตอนพิเศษ : ครอบครัวที่แท้จริง...(1)ณ คฤหาสน์ตระกูลฤธาทรัพย์ดำรง“ถ้าแกกล้าก้าวเท้าออกไปจากบ้านแค่ก้าวเดียว แกไม่ต้องกลับมาเหยียบที่นี่อีกเลย”เสียงดังประกาศกร้าวจากเจ้าปากของร่างชายสูงวัย พูดกับลูกชายคนเล็กด้วยตัวที่สั่นเทาด้วยความโกรธ“ป๊า...!!” ชายหนุ่มที่ประคองร่างอันสั่นเทาของผู้หญิงที่ตัวเองรักอยู่ในอ้อมแขน หันมาด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย“เฮียใจเย็น ๆ ก่อนค่ะ” ส่วนผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดเขา กลับเอื้อมมือขึ้นไปแตะที่มือเขาเบา ๆ พร้อมกับเอ่ยพูดเมื่อเห็นเขาอารมณ์เริ่มปะทุ ด้วยไม่อยากให้ตนเองเป็นชนวนให้พ่อกับลูกต้องผิดใจกัน“ฉันเลือกผู้หญิงดี ๆ เพียบพร้อมเอาไว้แก แกดันไม่เอา แต่ดันไปเลือกผู้หญิงไม่มีหน้าตาในสังคม ผู้หญิงแบบนี้มันจะไปช่วยให้แกเจริญรุ่งเรืองขึ้นได้ยังไง...ห๊ะ...!!” ชายสูงวัยระเบิดอารมณ์ต่อ พร้อมกับค่อนแคะผู้หญิงของลูกชายเขา โดยที่เธอทำได้เพียงแค่ก้มหน้ายอมรับ“ป๊าครับ กรุณาให้เกียรติเมียของผมด้วย” ลูกชายพูดกดเสียงด้วยความไม่พอใจ เนื่องจากพ่อของต้นดูดถูกผู้หญิงที่ตนรัก“ป๊าก็ใจเย็น ๆ ก่อนเถอะครับ แกก็ด้วยไอ้ชิน...” เสียงของผู้ที่เป็นทั้งลูกชายคนโตและยังเป็นพี่ชายเพียงคนเด