Share

บทที่ 4

Penulis: lianlian
last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-25 08:09:38

การที่หยวนเพ่ยเอ่ยออกมาเช่นนั้นเพราะไม่อยากให้เรื่องราวของนางไปบิดเบือนประวัติศาสตร์โดยไม่จำเป็น เคยมีคนกล่าวว่า แม้ผีเสื้อขยับปีกย่อมเกิดผลกระทบใหญ่หลวง ถ้าเกิดว่าวิชาของนางทำให้ประวัติศาสตร์ผิดเพี้ยนไป ตัวนางเองหรือแม้แต่คนอื่นๆ บนภพภูมิที่จากมา อาจได้รับผลกระทบที่น่าหวาดหวั่นตามมา นางคิดเพียงว่าแค่ได้กลับมาเกิดใหม่ที่สุขสบายเช่นนี้ ก็นับว่าดีมากเหลือเกินแล้ว ไม่ควรหาเรื่องใส่ตัวอีก

ในเมื่อหวงตี้ยังคงรักษาสัญญา วิถีชีวิตของหยวนเพ่ยก็ราบเรียบดังปกติ นางเอาแป้งที่นวดไว้มาปั้นเป็นก้อนกลมแล้วใช้ไม้แผ่เป็นแผ่นบาง ใส่เนื้อหมูสับปรุงรสด้วยขึ้นฉ่าย ซีอิ๊ว น้ำมันงา น้ำตาล พริกไทย ตามด้วยตักน้ำที่ต้มหนังหมูทิ้งให้เย็นจนกลายเป็นก้อนวุ้นตามลงไป จับจีบให้สวยเหมือนซาลาเปาลูกเล็ก นำไปนึ่งบนลังถึงให้ร้อน กลายเป็นเสี่ยวหลงเปา จากนั้นนางจึงยกไปให้ลี่เฟยเพื่อว่าจะนำไปกินเป็นของว่างยามบ่ายด้วยกัน

เมื่อไปถึงก็เห็นว่าลี่เฟยวันนี้เองก็ดูอารมณ์ดีขึ้นมาก ได้ยินว่าหลังจากหวงตี้อยู่ประทับที่ตำหนักของนาง อีกทั้งยังพระราชทานแพรพรรณและเครื่องประดับมาอีกจำนวนหนึ่ง ราวกับประกาศให้รู้ว่าพระองค์ให้ความสำคัญกับผู้ใดมากกว่า

นางวางมือจากถุงเท้าคู่เล็กที่กำลังเย็บให้ลูกน้อยในครรภ์แล้วเดินมาถามไถ่เรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อวาน เมื่อได้รู้ว่าหยวนเพ่ยได้หยกพกเพียงชิ้นเดียว นางจึงรีบปลอบโยนน้องสาวเป็นการใหญ่ ทั้งยังใจกว้างให้นางเลือกเครื่องประดับจากในบรรดาของที่ได้รับพระราชทาน

ยิ่งหยวนเพ่ยปฏิเสธก็ยิ่งคะยั้นคะยอ นางจึงตัดสินใจเลือกปิ่นประดับหยกลายผีเสื้อที่ดูแล้วว่าเล็กที่สุดในบรรดาเครื่องประดับทั้งหมดเพื่อเป็นการตัดปัญหา เป็นอันว่ากว่าจะได้กินเสี่ยวหลงเปาก็ต้องนำไปอุ่นใหม่ หยวนเพ่ยนึกเสียดายของที่ทำร้อนๆ ใหม่ๆ ไปไม่น้อย เพราะกลัวว่าถ้านำไปนึ่งซ้ำจะเสียรสชาติ แต่เมื่อเห็นพี่สาวยิ้มได้อย่างเป็นสุขเช่นนี้ก็ให้สบายใจ

ทว่าฟู่หยวนเพ่ยสบายใจได้เพียงไม่กี่วัน หวงตี้ก็เสด็จมายังตำหนักฝั่งซ้ายของนาง โดยมีพระประสงค์จะอยู่ค้างด้วย

หยวนเพ่ยให้การต้อนรับขับสู้เท่าที่จะทำได้ นางกำนัลนั้นยังนำชาและของว่างมาถวาย ในขณะที่หวงตี้ทรงกำลังอ่านฎีกาที่รับสั่งให้ขันทีนำมาด้วยสองสามฉบับอยู่บนเตียง ขณะความเงียบก่อตัวรอบด้านจนกระทั่งได้ยินเสียงไส้เทียนแตกดังเปรี๊ยะ หยวนเพ่ยที่ไม่อยากอยู่ว่างจึงหยิบหนังสือกวีของหลี่ไป๋มาอ่านข้างๆ พลางลอบมองสีหน้าของหวงตี้หนุ่มผู้นี้ไปด้วย

ถังหวงตี้ผู้นี้อายุยี่สิบปลายๆ แล้ว เห็นว่าขึ้นครองราชย์ตั้งแต่อายุสิบเจ็ด ผ่านศึกสมรภูมิและวิกฤตการณ์ใหญ่น้อย จนหยวนเพ่ยนึกไม่ออกว่าถ้าเด็กหนุ่มอายุเท่าเขาในโลกของเธอจะสามารถแบกรับมันไว้ได้ไหม...แต่เขาก็ผ่านมาได้ โดยแลกกับสุขภาพที่ไม่ค่อยดีนัก ถึงแม้จะเป็นช่วงที่สงบสุขไร้ศึกสงครามจากภายนอกก็ตาม แต่เรื่องศึกภายในที่เขาต้องสู้ต่อนั้นก็มิด้อยไปกว่ากัน ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้องชาวบ้าน แก้เรื่องหนึ่งเสร็จก็มีเรื่องใหม่เข้ามาเสียบแทนโดยแทบไม่มีเวลาหายใจ

ใครว่าเป็นหวงตี้สุขสบาย...คนที่กระสันอยากเป็นจนตัวสั่นนี่นับว่าโง่เขลาเบาปัญญาถึงที่สุด

อากาศข้างนอกเริ่มหนาว เขาสวมชุดนอนแพรสีเหลืองห่มคลุมด้วยขนเตียวเลอค่า ส่วนหยวนเพ่ยสวมชุดนอนสีชมพู คลุมทับด้วยขนจิ้งจอกบุแพรต่วนเนื้อลื่นให้ความอบอุ่น นางสังเกตเห็นว่าเสื้อคลุมของเขาเลื่อนหลุดเล็กน้อย จึงยื่นมือมาขยับให้ด้วยความเคยชิน

หวงตี้หนุ่มทอดพระเนตรมือนุ่มของนาง จึงตัดสินพระทัยวางฎีกาฉบับสุดท้ายของวันให้ขันทีเอาไปเก็บที่ห้องทรงพระอักษร...พระองค์ติดนิสัยเช่นนี้เสมอ แม้จะชอบปานใด แต่ก็ไม่อยากให้สตรีพบเห็นเรื่องราวราชกิจโดยไม่จำเป็น

“ทรงง่วงแล้วหรือเพคะ” หยวนเพ่ยทูลถามเรียบๆ

พระองค์ส่ายพักตร์เล็กน้อย “ยัง”

“ยามไฮ่[1] แล้ว ฝ่าบาทไม่ควรบรรทมดึกเพคะ”

“ทำอย่างกับเราเป็นเด็กๆ” พระองค์แย้มสรวลขำพลางถอดเสื้อคลุมออก แล้วจึงถอดเสื้อคลุมของหยวนเพ่ยส่งให้นางกำนัลออกไปเก็บ คืนความเป็นส่วนตัวให้แก่พระองค์และนาง

ปกตินางจะก้มหน้าไม่ค่อยสบตาพระองค์สักเท่าไร นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มองฟู่หยวนเพ่ยเต็มๆ ตา เด็กสาวใบหน้าผ่องใส ตากลมโต ขนตายาวงอน ริมฝีปากสีอิงเถา ไม่ว่าอย่างไรนางก็เป็นสาวงามคนหนึ่ง...แต่เมื่อมองตาของนางนั้น ภายใต้ความเคารพนบนอบนั้นแฝงแววดื้อดึงเอาไว้

พระองค์ลุกขึ้น ทรงยกมือแตะปลายคางของนาง ใช้ปลายนิ้วหัวแม่มือลูบไล้ริมฝีปากของหยวนเพ่ย

“อย่างไรก็ยังไม่ยอมหรือ”

นางยิ้มอ่อนบาง แตะมือของพระองค์แล้วประคองไว้ด้วยสองมือของนาง

“หม่อมฉันถวายการปรนนิบัติพระองค์เพียงเท่านี้ก็พอแล้วเพคะ”

“กลัวว่าจะผิดใจกับลี่เฟยหรือ”

นางส่ายหน้า “พี่สาวใจกว้างยิ่ง ไม่มีทางคิดเล็กคิดน้อยเช่นนั้นเพคะ”

พระองค์แย้มสรวล ทรงรู้ดีอยู่แก่พระทัยว่าจุดประสงค์ที่ลี่เฟยพาสตรีนางนี้เข้าวังคืออะไร นางคงเผชิญเรื่องกดดันมาไม่น้อยทีเดียว

“แต่ถ้าไม้กลายเป็นเรือ ถึงตอนนั้นลี่เฟยก็โกรธเจ้าไม่ได้”

นิ้วเรียวแตะสาบเสื้อของเด็กสาว เรื่อยระมาจนถึงปมผ้าที่ผูกเอาไว้หลวมๆ กระตุกเพียงเล็กน้อย ผิวเนื้ออวบอิ่มขาวผ่องก็เผยให้เห็นรำไร...ขนาดนางจับมือเอาไว้ เขายังทำได้ นางควรออกปากตำหนิหรือชมเชยดี

“เพ่ยเอ๋อร์” เขาเรียกชื่อเล่นนาง ใบหน้าใกล้ชิดจนรู้สึกลมหายใจอุ่น หยวนเพ่ยแม้จะทำหน้านิ่ง แต่ใบหน้าก็อดร้อนผ่าวไม่ได้

“ฝ่าบาทประสงค์ให้หม่อมฉันถวายตัวหรือเพคะ” นางถามเสียงแผ่ว เขากลับพยักหน้าแล้วจูบที่แก้มนาง

“ได้หรือไม่?”

“หากโอรสสวรรค์ต้องการ ไยหม่อมฉันจะกล้าขัด” นางเอ่ย “แต่หม่อมฉันขอเวลาไม่ถึงอึดใจ นวดถวายพระองค์สักเล็กน้อย เพื่อให้เรื่องคืนนี้ราบรื่น ได้หรือไม่เพคะ”

“ต้องถอดเสื้อหรือไม่” พระองค์ตรัสถามหยอกเย้า

“ไม่ต้องเพคะ เพียงแค่พระหัตถ์ของพระองค์ก็พอ” หยวนเพ่ยมองมือใหญ่ที่นางต้องใช้สองมือของตนเองรองรับถึงจะพอดีนั้น แล้วหงายมือเขาชี้ตรงที่รอยพับฝ่ามือบริเวณนิ้วก้อย “นี่เรียกว่าจุดเสินเหมินเพคะ เป็นจุดที่สำคัญในเส้นลมปราณหัวใจ ถ้ามีอาการเจ็บหัวใจ แน่นหน้าอก ถ้ากดจุดนี้บ่อยจะช่วยให้ลดอาการ”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 98

    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ด้วยอายุครรภ์เพียงแปดเดือน ชายาของฉู่อ๋องคนปัจจุบัน ก็คลอดบุตรคนสุดท้องออกมาในอีกสองวันต่อจากนั้น หนึ่งเดือนให้หลังประมุขสี่สกุลต่างมาร่วมแสดงความยินดี แม้แต่ประมุขเผ่าซีเซี่ยอย่างเค่อตัว และ พระชายาจินซาก็มาด้วย เค่อตัวท่าทีผึ่งผาย ในอ้อมแขนมีหมิงจูตัวน้อยวัยสองเดือนนอนหลับฝันห

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 97

    หลายเดือนผ่านไป เผ่าซีเซี่ยก็มีข่าวดี ชายาของข่านซีเซี่ยได้ให้กำเนิดบุตรสาวคนสุดท้อง เนื่องจากเกิดในช่วงอรุณรุ่ง ดวงอาทิตย์งดงามดั่งไข่มุกเหนือท่าสัตตบงกช เค่อตัวจึงตั้งชื่อเด็กหญิงตัวน้อยว่า หลัวหมิงจู หยวนเพ่ยได้ยินครั้งแรกก็อดชื่นชมไม่ได้ว่าเค่อตัวนั้นพอแก่ตัวลงพรสวรรค์ในการตั้งชื่อนั้นกลับแหลมคม

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 96

    หลังจากพักผ่อนอิริยาบถอยู่ที่ศาลาริมน้ำอยู่จนถึงบ่ายคล้อย สมาชิกทั้งหมดของฉู่หวางและข่านซีเซี่ยต่างยกโขยงไปที่เหลาที่ได้สัญญากับเจ้าของร้านไว้เพื่อรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน บรรยากาศโดยรวมเป็นไปอย่างครึกครื้นสุขสันต์ แม้มีบางคราที่เด็กๆต้องรั้งไม่ให้เค่อตัวเอาแส้ไล่ฟาดหยวนเพ่ยเพราะโดนแดกดัน กับรั้งตั

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 95

    เมื่อมาถึงหน้าประตูสกุลเจียง ครอบครัวของฉู่หวังที่ประกอบด้วยสมาชิกสี่คนก็ต้องพบกับประมุขแห่งเผ่าซีเซี่ยยืนรอเขาอยู่แล้ว ท่าทีกระหยิ่มยิ้มย่องใส่ฉู่หวางมาแต่ไกลจนนึกจะทำอย่างไรก็ได้ให้คนๆนี้ไปให้พ้นๆหน้า"ในที่สุดพวกเจ้าก็มาถึง ระหว่างทางมานี้พวกเจ้าได้กินข้าวต้มกับน้ำแกงรากบัวที่ข้าตั้งโรงทานเอาไว้ห

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 94

    เมื่อสองผู้สูงศักดิ์ได้ผลแน่ชัดแล้วว่า ฟู่หยวนเพ่ย ชายาของฉู่หวางที่เป็นพระอนุชาคู่พระทัยของฮ่องเต้ จินซา ชายาของข่านซีเซี่ยผู้ทรงอิทธิพลในเส้นทางสายไหมคนปัจจุบัน ทั้งสองต่างตั้งครรภ์ในระยะเวลาที่ไล่เลี่ยกัน บรรยากาศทั้งสองสำนักนับได้ว่าชื่นมื่นอย่างยิ่งหยวนเพ่ยตั้งครรภ์เข้าเดือนสี่ นับว่าครรภ์แข็ง

  • ฟู่หยวนเพ่ย   บทที่ 93

    ท่ามกลางความวุ่นวายจอแจในห้องเล็กๆนั้น เด็กสาวคนหนึ่งเพียงนั่งเท้าคางมอง ท่าทีสบายๆกึ่งเกียจคร้านอย่างยิ่ง แต่ก็มิทำให้ความงามของนางลดน้อยถอยลง ซินฉีที่เพิ่งว่างจากการจดบันทึกเดิมพัน(?) โดยทิ้งให้จื่อซินกับซูเฟยเดินทางไปยังที่พำนักของข่ายซีเซี่ยในเมืองหลวง จึงค่อยๆเบียดกระแซะเข้าไปหา "อาเหยา อาเหยาค

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status