เช้าวันจันทร์ที่แพรววนิตต้องตื่นไปทำงาน ปกติแล้วแพรววนิตชอบไปทำงานมากเพราะอยากเจอท่านประธานสุดหล่อของเธอ เพียงแค่ได้เห็นหน้ากันครั้งแรก เธอก็ตกหลุมรักเขาทันที แต่นี่เธอไม่อยากให้วันจันทร์มาถึงเร็วเลย ถ้าเป็นไปได้อยากจะมีแค่วันอาทิตย์วันเดียวเท่านั้น แต่สุดท้ายความปรารถนาที่จะให้มีแค่วันอาทิตย์มันก็เป็นไปไม่ได้ แพรววนิตทำได้แค่เพียงก้มหน้าก้มตาไปทำงานอย่างเลี่ยงไม่ได้
“คุณแพรวเข้าไปคุยกับผมในห้องหน่อย” พอมาถึงเขาก็ทำหน้าดุ ทำเสียงเครียดเรียกให้เธอเข้าไปคุยกับเขาในห้องทันที
“คะ...ค่ะท่านประธาน” คนมีชะงักติดหลังถึงกับตอบเจ้านายหนุ่มตะกุกตะกัก
เธอรู้สึกประหม่าเอามาก ๆ อยู่ ๆ เขาก็มาทำงานเช้ากว่าปกติ แถมยังเรียกให้เธอเข้าไปคุยในห้อง ด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดเอามาก ๆ
เธอได้แต่คิดว่าที่เขาเรียกเข้าไปคุยหรือว่าเขาจะรู้แล้วว่าคนที่เขามีอะไรด้วยจะเป็นเธอ หญิงสาวได้แต่กุมขมับ ทำหน้าเครียดเพราะกลัวว่าเจ้านายหนุ่มจะรู้ความจริงว่าคืนนั้นผู้หญิงที่หลับนอนกับเขาจะเป็นเธอ
ระหว่างที่เธอกำลังคิดหนักก็มีเสียงโทรศัพท์จากในห้องประธานโทรเข้ามาหาเธอ เธอรับด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว “ค่ะท่านประธาน”
“ทำอะไรอยู่ ผมเรียกให้คุณเข้ามาไง”
“ค่ะ ๆ ทราบแล้วค่ะ” เธอรีบกดวางและรีบสลัดความคิดบ้า ๆ ออกไปให้หมด เขาไม่มีทางรู้เป็นแน่ เรื่องในคืนนั้นมันมืดมาก ได้แต่บอกตัวเองว่าจะไม่กินเหล้าอีก ก่อนที่จะเข้าห้องไปหาท่านประธานหลังจากที่เตรียมใจมาพอสมควรแล้ว
“ท่านประธานมีเรื่องอะไรจะคุยกับแพรวหรือคะ” เธอถามด้วยสีหน้าเรียบปกติ
ชายหนุ่มพยายามมองหน้าแพรววนิตอย่างจับผิดว่าจะมีพิรุธอะไรเผยออกมาไหม ทว่าสีหน้าของเธอเมื่อคุยกับเขาก็ดูปกติดีทุกอย่าง ทั้งที่เรื่องในคืนนั้นเธอคือผู้หญิงปริศนาคนนั้น
“รู้ไหมผู้หญิงคืนวันเสาร์เป็นใคร” เขาถามออกไปพร้อมกับจ้องหน้าเธอเพื่อจับผิดด้วย
“ผู้หญิงอะไรกันคะ” เธอถามออกไปด้วยใบหน้าซื่อ ๆ พร้อมกับดันแว่นตาของตนเองขึ้น ทำหน้าตาไม่เข้าใจกับสิ่งที่ท่านประธานถามออกมา
“ก็ผู้หญิงที่มีอะไรกับผมในห้อง ในคืนงานเลี้ยงไง”
“อุ๊ย จริงหรือคะ” เธอทำท่าทางปิดปากราวกับว่าตกใจได้สมจริง
สรัลคิดในใจ ไม่คิดว่าเลขาใส่แว่นของเขาจะแสดงบทบาทว่าไม่รู้เรื่องได้แนบเนียนมากขนาดนี้
“คุณไม่รู้เรื่องเหรอ”
“เออ...ล่ะ ๆ แล้วทำไมแพรวจะต้องรู้เรื่องด้วยล่ะค่ะ” กว่าเธอจะพูดออกมาได้ เสียงช่างสั่นเสียจริง แต่หญิงสาวก็คิดว่าทำได้อย่างแนบเนียน
“ก็ผู้หญิงในคืนนั้นคือคุณไงครับคุณแพรววนิต!” เขาทำน้ำเสียงออกประชด
“ไม่ใช่ค่ะ ผู้หญิงในคืนนั้นไม่ได้ใส่แว่นเหมือนแพรวนี่ค่ะ ไม่ใช่แน่นอนค่ะ” เธอว่าพร้อมกับดันแว่นตาของตนเองขึ้นเพื่อลดความประหม่า
“คุณรู้ได้ยังไงว่าผู้หญิงในคืนนั้นไม่ได้ใส่แว่นตา” เขาถามพร้อมกับเดินเข้ามาจับผิดเธอใกล้ ๆ ระยะประชิดตัว
“เออ...” หญิงสาวทำท่าทางครุ่นคิดพร้อมกับค่อย ๆ ก้าวขาถอยหลัง
เขาเดินตามเข้ามาใกล้ แม้ว่าเธอจะพยายามถอยหลังหนีเขา ชายหนุ่มเลิกคิ้วถามแพรววนิตแทนการเอ่ยปากถาม
“เออ...ก็แพรวก็เดาไปเรื่อยเปื่อยนะคะ” สุดท้ายเธอก็หาคำตอบออกมาจนได้ เธอรู้สึกโล่งอกเป็นอย่างมากพยายามส่งยิ้มไปให้เขาแม้ว่าเขาจะดูออกว่ามันไม่เนียน สำหรับเขาแล้วคำตอบของเธอมันเรียกว่าแถก็ตาม
แม้ว่าความจริงแล้วผู้หญิงในคืนนั้นจะเป็นเธอแต่ว่าหญิงสาวไม่ได้อยากจะเรียกร้องสิ่งใด และก็ไม่ได้อยากให้เขามารับผิดชอบถึงแม้ว่าเธอจะแอบรักเขาก็ตาม เธอขอเพียงแอบรักแอบชอบอยู่ห่าง ๆ แม้ไม่ได้ครอบครองเขาแต่เพียงได้เห็นหน้าเขาทุกวัน เท่านี้หญิงสาวก็เป็นสุขใจ
“คุณเดาเก่งมากเลยครับคุณแพรว” เขาบอกอย่างประชด
“ใช่ไหมล่ะค่ะ เขาบอกว่าหมอดูคู่กับหมอเดาใช่ไหมล่ะ แพรวก็ทำนองนั้นแหละค่ะ” เธอยิ้มด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ พยายามไหลลื่นไปเรื่อย ๆ
“ครับ ผู้หญิงในคืนนั้นไม่ใช่คุณก็ดี ขืนเป็นคุณผมก็คงเข้าหน้ากับคุณไม่ติด เราสองคนคงทำงานด้วยกันไม่ได้” เธอรู้สึกได้ว่าเขากำลังขู่ ยิ่งเป็นแบบนี้เธอยิ่งไม่บอกความจริงเป็นแน่
“ไม่ใช่แพรวแน่อนค่ะ แพรวยังไม่ได้เข้าห้องที่เปิดไว้ให้คุณเลยสักนิด”
“เหรอครับ แล้วนี้มันคืออะไร” เขาหยิบอะไรบางอย่างออกมาในกระเป๋าเสื้อสูทของเขา ออกมาแบมือให้เธอดู
แพรววนิตพอเห็นสิ่งของที่อยู่ในมือของเขาถึงกับหน้าถอดสี
“ไม่เคยเข้าไปในห้อง แต่นี่มันสร้อยข้อมือของคุณแพรวนี่ครับ ผมจำได้ว่าผมเป็นคนให้ของขวัญวันเกิดคุณ แล้วผมก็สลักชื่อของคุณไว้ด้วย แบบนี้จะไม่ให้ผมคิดว่าคืนนั้นไม่ใช่คุณอีกเหรอหลักฐานมันชัดมากขนาดนี้”
“เออ...ไม่ใช่แพรวจริง ๆ นะคะท่านประธาน เรื่องนี้แพรวอธิบายได้”
“งั้นก็อธิบายมา!” เขาทำเสียงดุใส่ จ้องตาเธอไม่กระพริบ ชนิดที่เธอไม่สามารถทำสายตาล่อกแล่กไปได้
“คืนนั้น...”
“คืนนั้นอะไร!” เขาทำเสียงดุถามเพราะเธอเอาแต่ลากเสียงยาวว่าคืนนั้นแต่ไม่ยอมพูดอะไรเสียที
“คืนนั้น....แพรวซิบด้านหลังของแพรวแตกค่ะ แพรวเลยขอที่เย็บผ้าจากโรงแรมให้มาส่งที่ห้องของท่านประธาน แล้วแพรวก็เย็บชุดในห้องท่านประธานค่ะ เลยทำให้สร้อยข้อมือหลุดไปตอนไหนไม่รู้ค่ะ” เธอรีบหยิบสร้อยข้อมือในมือของท่านประธานมาถือเอาไว้ ในตอนที่เขากำลังเผลอที่กำลังตั้งใจฟังเรื่องโกหกของเธอ
หนึ่งเดือนที่กลับมาอยู่กับเขาที่บ้าน เขาก็ดีทุกอย่าง ส่วนแม่สามีดีกับเธอมาก ดีจนเธอแทบจะตกใจ และตอนนี้เธอกับเขาก็ได้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อแม่สามีจัดหาฤกษ์หายามให้เธอกับเขาไปจดทะเบียนสมรสกัน แล้วจะไปสู่ขอเธอจากแม่ของเธอด้วย แต่แพรววนิตห้ามเอาไว้ก่อนเพราะเธอไม่อยากจะไปตอนนี้ รอให้คลอดลูกออกมาสักพักแล้วค่อยไปขอเธอกับแม่เธอเลยเล่าปัญหาที่มีกับแม่มาตลอดให้คุณสามีและแม่สามีฟังอย่างระเอียด ทุกคนก็เห็นด้วยที่จะไปกันตอนที่เธอคลอดลูกมาสักพักก่อนเพราะถึงขนาดว่าเธอท้องมาหลายเดือนแล้ว คนเป็นแม่แท้ ๆ ยังไม่ห่วงใยกัน สามีและแม่สามีต่างเป็นห่วงเป็นใยความรู้สึก ต่างเข้ามาปลอบโยนและช่วยเติมเต็มในสิ่งที่เธอขาดหายไป“นี่คุณสรัลจะทำอะไรคะ” หลังจากเธอลงนอนบนเตียง เขาก็เอาหน้าโน้มมาที่ซอกคอของเธอ“นี่เรากลับมาอยู่กันเป็นเดือนแล้วนะ พี่ก็คิดถึงเมีย อยากจะเข้าไปทักทายลูก” เขาเอาหน้ามาฟัดซอกคอ พร้อมกับมาคลอเคลียแถวแก้มนวล“อะไรนะคะคุณสรัล จะเข้าไปทักทายลูกเหรอคะ คิดได้ไงเนี่ย” เธอดันเขาออก ชวนเขามาคุย“ครับ พี่จะเข้าไปทักทายตัวเล็กเสียหน่อย”
เธอปัดมือเขาออกจากแก้ม แถมปฏิเสธคำพูดเขา “ไม่จริงหรอกค่ะ คุณหยาดฟ้าก็เป็นสะใภ้ที่แม่ก็ชอบ แถมยังดีที่สุดด้วยนะคะ”“เมื่อก่อนนะใช่ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้ว ตอนนี้มีแพรวเป็นลูกสะใภ้ที่ดีคนเดียวแล้วครับ” เขาว่าแล้วกอดเธอไว้หลวม ๆ พร้อมกับหอมแก้มเธอฟอดใหญ่“อื้อ...คุณสรัล” เขาเห็นเธอทำหน้าตาเขิน เลยหอมแก้มให้อีกฟอดหนึ่ง“ยิ่งพอแม่ของพี่รู้ว่าหยาดฟ้าตั้งใจยกเลิกงานแต่งตั้งแต่แรก แต่เอาเรื่องของพี่ที่ทำแพรวท้องมาเป็นข้ออ้าง แม่ของพี่ก็โกรธมาก โทรไปต่อว่าพ่อแม่หยาดฟ้ายกใหญ่”“เหรอคะ”“พี่ก็รู้ว่าพี่เองก็ผิด ที่เห็นแก่ตัวเกินไป ตั้งใจจะปิดบังหยาดฟ้า แต่นั้นก็เป็นเพราะหยาดฟ้ามีคนอื่นก่อน ตั้งใจปิดบังพี่ตั้งแต่แรก ผลมาก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ ทำให้พี่คิดจะปิดบังเรื่องที่แพรวท้อง”“ค่ะ”“แต่เรื่องมันเป็นแบบนี้ก็ดี ทำให้พี่รู้ว่าที่จริงแล้ว พี่รักแพรวแค่คนเดียว ไม่รู้ว่ารักแพรวมาตั้งแต่ตอนไหน แต่พอมารู้อีกทีพี่ก็โคตรรักแพรวเลย” ชายหนุ่มจูบที่หน้าผากมนของเธอ หลังจากที่เขาพูดจบ เธอเองก็หลับตารับจูบอ่อนโยนของเขาตอนนี้หัวใจของเธอรู
“หนูแพรวกลับมาแล้วหรือลูก เป็นอะไรมากไหม” สุจิราเข้าไปกอดแพรววนิตแถมยังเปลี่ยนสรรพนามในการเรียกเธอด้วย เธอเลยยังไม่คอยชินมากนักทำได้แต่หันไปมองหน้าของเขา ที่ส่งยิ้มกลับมาให้น้อย ๆ เพราะเขาเองก็ยังไม่คอยจะชินกับท่าทางแบบนี้ของแม่ แต่ทว่าท่าทางแบบนี้เขาก็เคยเห็นมาบ่อย เวลาที่แม่ของเขารักชอบลูกสะใภ้คนไหนเข้าไปแล้ว จะทุ่มให้หมดหัวใจเลย“ปลอดภัยดีครับแม่ แพรวกับลูกไม่ได้เป็นอะไรแล้ว แค่พักผ่อนน้อย”“ไม่ได้นะต่อไปนี้ต้องพักผ่อนเยอะ ๆ” สุจิรานำมือทั้งสองข้างของลูกสะใภ้ไปจับ บอกด้วยความเป็นห่วง “นี่แม่ก็ให้งามตาตุนยาจีนบำรุงครรภ์เอาไว้ให้ด้วยนะ ปานนี้ก็น่าจะตักรอ หนูแพรวแล้วแหละ ไป ๆ ไปกินยาบำรุงกัน” ท่านดึงมือของเธอให้เดินตามไปพร้อมกันเดินไปท่านก็คอยประคองเธอไปด้วย ชวนคุยนู้นนี้นั้นตามประสาคนคุยเก่ง หญิงสาวได้แต่มองหันหลังไปทางสรัล เขาก็ยิ้มหวานส่งมาให้ พร้อมกับพยักหน้าให้กำลังใจเธอไปด้วย“งามตายาจีนได้หรือยัง”“ได้แล้วค่ะคุณสุ” งามตานำมาวางไว้ให้ตรงโต๊ะรับประทานอาหาร“รีบกินเลยกำลังอุ่น ๆ” สุจิราบอกพร้อมกับนั่งเก้าอี้ตรงห
ตอนนี้หญิงสาวท้องได้ห้าเดือนแล้ว ระยะเวลาสองถึงสามเดือนที่เธอเธอเขียนนิยายขาย หญิงสาวก็ได้ยอดเกินเป้าทุกเดือน จากหลักพันก็ขึ้นมาเป็นหลักหมื่น จนเกือบจะครึ่งแสน เธอตั้งหน้าตั้งตาพิมพ์งานต่อไปเพราะอยากจะให้ยอดต่อเดือนไปถึงหนึ่งแสนให้ได้เพราะในช่วงเวลาที่เธอคลอดลูกแล้ว เวลาทั้งหมดของเธอก็จะมีให้ลูกแค่คนเดียว เวลาว่างของเธอก็จะมีน้อยลงเพราะฉะนั้นช่วงนี้เธอถึงต้องเร่งปั่นงานให้เยอะ ๆช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมานี้ สรัลได้เบาะแสจากทางโรงพยาบาลแห่งหนึ่งแล้ว เธอฝากครรภ์ที่นั้น และสืบรู้อีกว่าวันนัดของเธอครั้งหน้าตรงกับวันไหน เขาจึงเตรียมมาดักรอเธอที่แผนกสูติ-นรีเวชและวันนัดก็มาถึงแพรววนิตออกไปตามนัดของคุณหมอ แต่ระหว่างทางที่กำลังเดินเข้าโรงพยาบาลนั้น อากาศมันร้อนมาก จนทำให้เธอเป็นลม โชคดีที่คนแถวนั้นเห็นและมารับเธอไว้ได้ทันท่วงที เธอถูกส่งตัวเข้าไปโรงพยาบาลและพยาบาลได้เอาโทรศัพท์ของเธอที่สั่นอยู่ตลอดมารับและบอกญาติของเธอให้มาดูแลปลายสายที่โทรเข้ามาไม่ใช่ใคร ถ้าไม่ใช่สรัล เมื่อสรัลรู้เรื่องก็ตกใจมาก เขารีบมาหาเธอที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลทันที ชายหนุ่มเป็
ตั้งแต่สองวันก่อนที่แพรววนิตออกมาจากบ้านของสรัล เธอก็หาคอนโดอยู่ใหม่ โดยเธอหาคอนโดที่ปลอดภัยหน่อย แม้ว่าจะต้องเสียเงินเช่าหลายบาทก็ตาม แต่เพื่อความปลอดภัยของเธอกับลูกในท้องแพรววนิตก็ยอมที่จะจ่าย เงินหนึ่งล้านที่เขาให้มามันมีประโยชน์มาก เธอใช้เงินนี้ในการเลี้ยงดูตัวเองในตอนที่ยังไม่มีรายได้เข้ามา ตอนนี้เธอกำลังเขียนนิยายเรื่องสั้น ก็ใกล้จะจบแล้ว ระหว่างที่อยู่กับเขาสองสัปดาห์ เธอก็เขียนในมือถือบ้าง ในโน๊ตบุ๊คของเธอบ้าง แต่ตอนนี้เธอมีเวลาเต็มที่เพราะไม่ต้องโดนใครใช้งานแบบเมื่อก่อนความหวังของเธอตอนนี้ขอให้การเขียนนิยายสำเร็จ พอที่จะเลี้ยงดูตัวเองกับลูกได้ หวังว่าการที่เธอชอบอ่านนิยาย จนพลันตัวมาเป็นนักเขียนได้ไม่นานจะทำให้ชีวิตเธอกับลูกดีขึ้น โดยที่ไม่ต้องไปพึ่งพาใคร ไม่ต้องไปยืมจมูกของใครหายใจ แม้ว่าจะต้องอยู่กันสองคนแม่ลูก หญิงสาวก็ยอมหนึ่งเดือนที่ผ่านมา หลังจากเธอย้ายออกมาจากบ้านของเขา การเขียนนิยายได้สร้างรายได้ให้เธออยู่บ้าง เธอลงเรื่องสั้นไปเดือนที่แล้วสองเรื่องก็เป็นที่น่าพอใจ แม้ว่าจะเป็นยอดหลักพันยังไม่ถึงหลักหมื่น ก็ทำให้เธอมีแรงที่จะสู้ต่อ เข
สุจิราและอินทุอรแอบมองแพรววนิตอยู่อีกห้องหนึ่ง ต่างทำหน้าตาสะใจอย่างมากที่กำจัดตัวปัญหาออกไปจากบ้านได้ สุจิราคิดว่ารู้แบบนี้ให้อินทุอรเข้ามาอยู่ในบ้านตั้งนานแล้ว ถ้าจะกำจัดแพรววนิตออกไปได้อย่างง่ายดาย“มันออกบ้านคุณแม่ไปแล้ว แบบนี้อินต้องกลับบ้านไหมคะ”“กลับได้ไง ต้องอยู่ต่อสิ อยู่เจอพี่เขาก่อน แล้วตอนนั้นแม่จะหลีกทางให้ เพื่อว่าแม่จะมีหลานชายน่ารัก ๆ ให้อุ้ม”“คุณแม่พูดอะไรก็ไม่รู้” อินทุอรทำเขิน ทั้งที่ในใจระริกระรี้มาก ที่จะได้เป็นเมียของพี่สรัล“เอาแบบนี้ ๆ หนูอินขนเสื้อผ้าไปไว้บนห้องพี่เขาก่อน”“ให้อินขนไปเองหรือคะ คนรับใช้ไม่มีเลยหรือคะ”“ก็พอดีช่วงนี้แม่ใช้งานนังแพรวมันอย่างเดียวไง คนรับใช้ในบ้านก็ให้กลับบ้านไปหมดแล้ว นี่งามตาก็มาลากะทันหันอีก หนูอินก็ขนเองไปก่อนนะลูก” ท่านบอกอย่างเอ็นดู“ไม่เอาค่ะคุณแม่ อินไม่เคยทำอะไรเลยนะคะ จะให้อินมายกของหนัก ๆ ได้ไง นี่กระเป๋าอินก็มีตั้งหลายใบ”“แล้วจะทำยังไงล่ะ คนใช้บ้านแม่ไม่มีแล้ว”“ก็คุณแม่ไงค่ะ คุณแม่ก็ขนขึ้นไปให้อินหน่อย” อินทุอรออกปากสั่ง“ฮะ...