Share

บทที่ 20

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-08-21 14:18:55

จวนเฉินกั๋วกง แม้ไม่ยิ่งใหญ่ที่สุด งดงามที่สุด และกว้างขวางที่สุดในเมืองหลวง แต่ก็นับได้ว่าเป็นจวนที่มีอาณาบริเวณกว้างขวางไม่น้อยจวนหนึ่ง อีกทั้งก่อนหน้านี้ จวนแห่งนี้ยังเคยเป็นขององค์ชายองค์หนึ่งของราชวงศ์ก่อนอย่างราชวงศ์สกุลจี ไม่ว่าจะเป็นอุทยานหรือห้องหับในเรือนต่างๆ จึงนับได้ว่าจัดวางเอาไว้อย่างพิถีพิถัน ส่วนที่งดงามที่สุดภายในจวนก็เห็นจะเป็นอุทยานของเรือนประธานที่อยู่ไม่ไกลจากโถงรับแขกของเรือน

เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ ท่านแม่ของนางเล่าว่าอุทยานแห่งนี้ปูพื้นด้วยหินแบบเดียวกับที่ใช้ปูในอุทยานกลางของวังหลวง อีกทั้งสะพานโค้งอันใหญ่โตงดงามที่ตัดผ่านสระบัว ก็ลอกเลียนมาจากสะพานหินสลักลายในอุทยานกลางของวังหลวงอันเก่าแก่โบราณเช่นกัน...

แม้ท่านป้าสะใภ้จะชมชอบการนั่งจิบน้ำชาทอดสายตามองอุทยานที่ว่านี้เป็นอย่างมาก เซียงหรงก็ไม่กล้าปล่อยให้ผู้หลักผู้ใหญ่ต้องรอนาน ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งเค่อยาม นางและซู่ซินก็มาถึงโถงรับแขกเรือนประธาน พร้อมๆ กับที่ขนมรับรองแขกมาถึงพอดี

“ไม่ต้องลำบากยกเข้าไปหรอก ส่งมาให้ข้าเถอะ” เซียงหรงบอกสาวใช้ของเรือนประธานเสียงเบา

สาวใช้ของเรือนประธานเคยชินกับการปฏิบัติตนอย่างไม่แบ่งแยกนายบ่าวของคุณหนูสามนานแล้ว อีกทั้งคุณหนูสามก็ยังดีต่อบ่าวไพร่เป็นที่หนึ่ง ทันทีที่ได้ยินคุณหนูกล่าว สาวใช้ตัวน้อยจึงไม่รีรอที่จะส่งถาดที่เห็นว่าไม่ได้หนักอะไรให้คุณหนูสามอย่างนุ่มนวล แล้วค้อมศีรษะน้อมส่งให้ผู้เป็นนายเดินจากไปก่อนตามมารยาทธรรมเนียม

อา...คุณหนูสามคงอยากเอาใจว่าที่แม่สามีกระมัง?

แม้ในอดีตจะเคยเกิดข่าวคาวคลุ้งเล่าลือออกไปเช่นนั้น ทว่าตลอดระยะ เวลาที่ผ่านมา จวิ้นหวังเฟยก็รักเอ็นดูคุณหนูสามของพวกนาง ใส่ใจคุณหนูสามของพวกนางถึงขั้นจัดหาอาจารย์หญิงชายมาอบรมสั่งสอนคุณหนูสามถึงในเรือน ประคบประหงมดูแลคุณหนูสามราวกับคุณหนูสามของพวกนางเป็นบุตรสาวคนหนึ่งก็ไม่ปาน...

หากจวิ้นหวังเฟยผู้นี้ไม่หมายใจจะให้คุณหนูสามของพวกนางแต่งเข้าตำหนัก เหตุใดผู้เป็นชายาเอกของจวิ้นหวังที่สูงศักดิ์จึงต้องคอยเทียวไปเทียวมาระหว่างตำหนักอันโอ่อ่าสุขสบายของตนเองกับจวนเฉินกั๋วกง คอยเป็นธุระช่วยเหลือดูแลคุณหนูสามของพวกนางถึงเพียงนี้?

สาวใช้มีความคิดของสาวใช้ เซียงหรงเองก็มีความคิดของนางเช่นกัน

สำหรับเซียงหรงแล้ว นางค่อนข้างแน่ใจว่าท่านป้าสะใภ้ผู้นี้ดีต่อนางก็เพราะสามีอย่างท่านลุงของนาง ที่เป็นจวิ้นหวัง ซ้ำยังเป็นแม่ทัพชำนาญศึกผู้หนึ่งของเทียนจิน ฝากฝังไว้ นอกจากนี้หลานสาวต่างสายเลือดอย่างนางยังเป็นบุตรสาวที่สหายผู้รู้ใจของท่านป้าสะใภ้คลอดออกมา เพราะเหตุนี้ป้าสะใภ้จึงอดจะรักเอ็นดูนางและใส่ใจดูแลนางให้ดีหน่อยไม่ได้...พอมาลองนึกๆ ดูแล้ว ตลอดหลายปีมานี้ นางได้รับความรักความเมตตาจากท่านป้าสะใภ้ผู้นี้มากจริงๆ

เซียงหรงแม้มองโลกในแง่ดี ทว่านับตั้งแต่ท่านย่าตายจาก พี่จิ้งอี้ซึ่งจู่ๆ ก็หลงใหลศาสตร์แห่งพิษขึ้นมา ก็คอยถ่ายทอดความรู้ทุกอย่างที่ตนเองได้ศึกษาค้นคว้ามาให้นางต่ออีกทอดหนึ่ง สอนให้นางตรวจสอบอาหาร ขนม และน้ำชาก่อนดื่มกินอยู่เสมอว่ามีสิ่งผิดปกติใดหรือไม่ นางจึงติดนิสัยชอบลอบตรวจสอบอาหาร ขนม น้ำชา ควบรวมไปถึงของใช้ทุกอย่างตามวิธีที่พี่ชายใหญ่ถ่ายทอดให้ ในกรณีนี้ที่ของซึ่งต้องการตรวจสอบเป็นขนมและน้ำชา วิธีการตรวจสอบพิษของพี่ใหญ่ หนึ่งคือตรวจสอบด้วยสายตา สองคือตรวจสอบกลิ่น สามคือใช้เข็มเงินตรวจสอบพิษ สี่คือสังเกตปฏิกิริยาของพวกสัตว์ หลังจากตรวจสอบสามอย่างแรกแล้ว หรงเซียงจึงสุ่มโยนขนมชิ้นหนึ่งให้นกจิกกิน เมื่อเห็นว่าทุกอย่างปกติดี ก็ยกถาดขนมในมือเข้าไปหาท่านป้าสะใภ้ของตนด้วยรอยยิ้ม

นางไม่คิดหรอกว่าจะมีผู้ใดอยากลอบวางยาผู้ที่ไม่คิดแก่งแย่งอำนาจในจวนกับผู้ใด ซ้ำยังเป็นบุตรีที่ไม่อาจออกหน้าออกตาได้อีกแล้วอย่างนาง ทว่าท่านป้าสะใภ้ของนางเป็นถึงชายาเอกของจวิ้นหวังผู้เป็นถึงแม่ทัพคนสำคัญของเทียนจินเรา หากท่านป้าสะใภ้มาประสบเคราะห์กรรมในจวนเฉินกั๋วกงแห่งนี้ เกรงว่าจวนเฉินกั๋วกงของนางจะแบกรับความผิดที่สะเพร่า ไม่เอาใจใส่ตรวจสอบอาหาร ขนม และน้ำชาที่ใช้รับรองแขกให้ดีไม่ไหว

“เซียงหรง...เด็กดี” ผู้เป็นป้าสะใภ้เอ่ยทักทันทีที่เห็นนางยกถาดขนมเข้ามา

ได้ยินผู้อื่นชมว่าเป็นเด็กดีเช่นนี้แล้ว เซียงหรงก็ดีใจ แย้มรอยยิ้มสดใสเจิดจ้าเหมือนเด็กตัวเล็กๆ ที่ไร้เดียงสาไม่มีผิด

รอยยิ้มนั้นทำเอาชายาเอกจวิ้นหวังจากสกุลสวีถึงกับตาพร่าเลยทีเดียว “ไม่พบกันไม่กี่วัน เหตุใดป้าสะใภ้จึงรู้สึกว่าหลานรักของป้าสะใภ้ยิ่งงดงามขึ้นอีกแล้ว”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 61

    เฉินเซียงหรงยืนอยู่กลางลานแข่งขันด้วยชุดผ้าไหมสีฟ้าปักลายดอกเหมยละเอียดอ่อน ดวงหน้าของนางสงบนิ่ง ทว่าดวงตาคู่งามเปล่งประกายแห่งสมาธิและความมั่นใจเบื้องหน้านางยามนี้มีม้วนกระดาษเซวียนจื่อที่ถูกจับขึงตั้งฉากกับพื้น แขวนไว้ด้วยเส้นเชือกเกลียวทองอันบางเบา ซ้ายมือมีโต๊ะที่ตั้งฉินเอาไว้สายลมพัดดอกเหมยพร่างพรู เซียงหรงยกพู่กันขึ้นด้วยมือขวา พลันปลายนิ้วของมือซ้ายก็เริ่มดีดสายพิณ เพลงที่บรรเลงเป็นทำนองที่รื่นหู ทว่ามีความลึกล้ำคล้ายสะท้อนธรรมชาติ ดั่งสายลมที่พัดผ่านเหล่าดอกเหมยบนภูเขาหิมะปลายพู่กันตวัดไปตามเสียงพิณราวกับเป็นส่วนหนึ่งของท่วงทำนอง นางก้าวขยับไปมาอย่างพลิ้วไหว อาภรณ์ปลิวตามลมเบา ๆ มือหนึ่งดีดฉินคลอคล้ายบอกเล่าเรื่องราวของสายลมและสายฝน อีกมือลากปลายพู่กันสร้างเส้นสายของภาพบนกระดาษ ขณะดีดพิณ นางหมุนตัว ตวัดพู่กันเป็นเส้นโค้งที่งดงามราวกวางน้อยกำลังโลดแล่นในหุบเขาภาพบนกระดาษเซวียนจื่อเริ่มชัดเจนขึ้น เป็นภาพของดอกเหมยยืนต้นท่ามกลางหิมะโปรยปรายภาพนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามของธรรมชาติ แต่ยังเปี่ยมด้วยความหมายลึกซึ้ง เหมือนบอกเล่าถึงจิตใจของ

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 60

    เสียงกระซิบเหล่านั้นลอยไปถึงหูนางกำนัลของหวงโฮ่วที่อยู่ไม่ไกลจากฝูงชนนางกำนัลเห็นสายตาที่หวงโฮ่วมองไปยังคุณหนูสาม เฉินเซียงหรง ซึ่งยามนี้ยืนรับคำชื่นชมจากทุกทิศทาง ก็รีบปราดเข้าไปกระซิบกระซาบรายงานทันทีฉับพลัน ตาหงส์ที่สงบไว้สง่าของสวีหวงโฮ่วฉายแววชื่นชมประสมยินดีสตรีเก่งกาจและมีนิสัยสงบเสงี่ยม จิตใจมั่นคง ไม่อวดอ้างตน ไม่หวั่นไหวต่อลมปากผู้คน และที่สำคัญ...แม้จะสูญเสียมารดาตั้งแต่ยังเยาว์ บิดาไม่ได้ทะนุถนอมปกป้อง แต่ยังคงมีความอดทน สามารถเติบโตขึ้นมาได้ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากในจวนเฉินกั๋วกง ซ้ำยังมีความสามารถเลิศล้ำเช่นนี้ ย่อมเป็นยอดหญิงที่หาได้ยาก โบราณว่า ‘ใกล้ชาดเปื้อนแดง ใกล้หมึกเปื้อนดำ’ หากองค์ชายได้อภิเษกกับสตรีเช่นนี้ นอกจากจะทำให้มีเรือนหลังที่มั่นคงแล้ว ยังจะช่วยส่งเสริมจิตใจให้มีความมุ่งมั่นและมั่นคงมากขึ้น ช่วยให้องค์ชายสามารถรับภาระในอนาคตและความท้าทายในราชวงศ์ได้อย่างมั่นใจความคิดเหล่านี้เริ่มซึมซาบเข้าสู่จิตใจของพระนางถูกแล้ว...บุตรสาวของเฉินกั๋วกงที่เกิด

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 59

    ในการแข่งขันรอบที่ห้า อุปกรณ์เขียนอักษรของผู้เข้าแข่งขันล้วนถูกยกออกไปทั้งหมด คงเหลือเพียงโต๊ะและม้านั่งสูงเพื่อให้โฉมสะคราญทั้งหลายได้บรรเลงเจิงเท่านั้นในรอบนี้นักพนันหลายคนต่างลงพนันเอาไว้ว่าคุณหนูใหญ่จวนเฉินกั๋วกง เฉินชิวเยว่ ที่เป็นโฉมงามผู้เป็นยอดฝีมือในการบรรเลงเจิงจะต้องคว้าอันดับหนึ่งในการแข่งขันมาได้อย่างแน่นอน แม้แต่ตัวเฉินชิวเยว่เองก็เชื่อเช่นนั้นโดยสนิทใจกระทั่งถึงคราวที่เฉินเซียงหรงต้องแสดงฝีมือ เพียงเสียงดนตรีจากเจิงของนางดังขึ้นท่อนเดียวเท่านั้น บรรยากาศในสวนชิงหลิงอันกว้างใหญ่ราวกับหยุดนิ่งไปชั่วขณะ กระทั่งผู้ที่ไม่ได้รู้ถึงสำเนียงดนตรีลึกซึ้งสักเท่าใด ยังถูกท่วงทำนองอันมีเอกลักษณ์ดึงดูดให้ต้องนิ่งฟัง“นี่มัน...” อาจารย์สอนเจิงผมขาวโพลน ใบหน้ามีริ้วรอยแห่งกาลเวลาผู้หนึ่งเบิกตาโพลง ริมฝีปากอ้าค้างด้วยความตื่นตะลึง “ลำนำเฉียนฉิน!”“ท่านอย่าได้พร่ำเพ้อถึงเพียงนี้เลย” คนอื่นๆ ที่ได้ยินหัวเราะเบาๆ “ลำนำเฉียนฉินหรือ ผู้ใดจะกล้าบรรเลงเพลงนี้ ทั้งความยากของการดีด ทั้งการตีความที่ต้องลุ่มลึก ทั้งยังต้องถ่

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 58

    “ท่านเป็นใครกัน” ฟูเหรินที่เริ่มเรื่องถามอย่างหวั่นๆนั่นสิ! ท่านเป็นใคร! เซียงหรงเองก็อยากรู้เช่นกันราวกับตอบคำถามของนาง ผู้อ้างตัวเป็นคู่หมั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด รอยยิ้มบนริมฝีปากเหี้ยมเกรียมขับให้ใบหน้าคมเข้มดูโหดเหี้ยมยิ่งกว่าใบหน้าโจรภูเขาที่ถูกปราบเมื่อเดือนก่อนด้วยซ้ำ“จวิ้นหวังจ๋างจื่อเพียงหนึ่งเดียวของเทียนจิน หลี่จือหลิน!”พี่ชายจวิ้นหวังจ๋างจื่อ! เซียงหรงเกือบจะตกใจจนทำพู่กันหลุดมือไปแล้ว ใช่เขาจริงๆ หรือ! ไม่...ไม่ถูก ต่อให้ไม่ใช่เขา แต่เล่นประกาศเสียขนาดนี้ หากท่านลุงกับท่านป้าสะใภ้คิดเป็นจริงเป็นจังขึ้นมา แล้วนางจะเอาเหตุผลใดไปบ่ายเบี่ยงกันเล่า! เซียงหรงอยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา ได้แต่เขียนอักษรต่อไปด้วยใจหดหู่บรรดาผู้คนที่พูดนินทาต่างอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออกหลี่จือหลินไม่ได้รอให้ใครกล่าวอะไรอีก เขาโบกมือสั่งให้องครักษ์ที่แต่งกายเรียบง่ายดุจเดียวกันอยู่จัดการเรื่องการพนันขันต่อแทนตน แล้วเดินไปยังที่นั่งข้างมารดา ท่าทางสนิทส

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 57

    โฉมสะคราญต่างทำหน้าที่ของตนในการประชันฝีมือ แต่ผู้มาเฝ้าชมด้านข้างกลับเริ่มประชันคำพูดกันขึ้นมาแล้ว เสียงซุบซิบนินทาจากกลุ่มคนในมุมหนึ่งของสวนชิงหลิงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ“...ช่างน่าอดสูนัก...” ฟูเหรินผู้หนึ่งเอ่ยคล้ายพึมพำกับตนเอง “ไม่ใช่ว่าหลายปีก่อนในงานเทศกาลหยวนเซียว คุณหนูสามถูกคนแปลกหน้าลักพาตัวไป…ย่ำยี…” ราวกับลืมตัว ยิ่งพูดเสียงของฟูเหรินวัยกลางคนก็ยิ่งชัดถ้อยชัดคำขึ้นเรื่อยๆ จนฟังชัดถนัดหู ทำเอาคนอื่นๆ เริ่มหันมามองบุรุษอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลหัวเราะเบาๆ แล้วเสริมขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ข้าเองก็อยู่ในเหตุการณ์นั้น ข้าจำได้แม่น คุณหนูสามที่ยังเยาว์ถูกบุรุษอุ้มร่างไร้สติไปทิ้งไว้หน้าจวนเฉินกั๋วกง พวกเขาบอกว่านางถูกย่ำยีจนไร้ค่าตั้งแต่นั้นมา”“นางมาทำไมกัน? ข่าวลือของนาง... เป็นข้าคงอับอายจนไม่อาจเงยหน้าอวดใครได้อีก”“ดูเถิด ต่อให้นางจะงดงามหรือมีฝีมือเพียงใด ชื่อเสียงเช่นนั้นย่อมไม่มีตระกูลใดต้องการหรอก”คำพูดเหล่านั้นพร้อมเสียงหัวเราะเยาะแผ่วจางแว่วมาให้ได้ยิน เ

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 56

    เสียงฆ้องเบาๆ ดังขึ้นเป็นสัญญาณเริ่มการแข่งขัน หัวข้อในการประชันความสามารถรอบที่สี่ถูกประกาศโดยเหล่าผู้ทรงคุณวุฒิที่นั่งอยู่ในศาลากลางลาน"สายลมฤดูใบไม้ผลิพลิ้วพัด บุปผานับพันผลิบาน"กลายเป็นว่าในรอบที่สี่ สาวงามทั้งหมดจะต้องแต่งบทกวีจากหัวข้อที่กำหนดให้นี้ให้ได้ก่อน จากนั้นจึงสามารถเริ่ม ‘คัดอักษร’ ตามคำสั่งที่จะได้รับในภายหลัง ทั้งหมดนี้กำหนดให้ใช้เวลาไม่เกินสองก้านธูปเท่านั้น ผู้เข้าแข่งขันจึงพยายามเพ่งสมาธิ ขยับพู่กันจรดลงบนกระดาษ เซียงหรงเองก็เป็นผู้หนึ่ง ที่เริ่มลงมือบรรจงเขียนด้วยท่วงท่าสง่างาม"บุปผาร่วงโรยใต้เงาจันทร์ น้ำค้างหล่นราวน้ำตาผู้คนเฉกเช่นสกุณารำพัน ถึงเมฆางดงามไร้ผู้ยลหยกงามอาจหักด้วยกำลัง สัตย์จริงถูกบิดเบือนด้วยเล่ห์กล"เห็นคุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกงแต่งบทกวีได้เร็วนัก เหล่าผู้ใคร่รู้ต่างอดใจไม่ไหว ลุกขึ้นยืน ชะเง้อมองมีบางคนเริ่มกระซิบกระซาบ“ถ้อยคำของนาง...ช่างลึกซึ้งและงดงาม”&

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status