แชร์

บทที่ 27

ผู้เขียน: Karawek House
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-23 20:51:24

รถม้าจวนเฉินกั๋วกงเคลื่อนไปตามท้องถนนอันราบเรียบสะอาดตาของเมืองหลวงอย่างสะดวกและรวดเร็ว เซียงหรงไม่ได้นั่งรถม้าออกมานอกจวนเช่นนี้นานแล้ว จึงอดลอบแย้มม่านมองออกไปด้านนอกไม่ได้

อาจเพราะยามนี้ยังเป็นเวลาเช้าตรู่ อีกทั้งร้านรวงต่างๆ ในย่านร้านค้าก็ยังไม่ทันได้เปิดทำการค้าเลยด้วยซ้ำ ท้องถนนในเมืองหลวงซึ่งนางจำได้ว่ามักมีผู้คนออกมาเดินขวักไขว่แทบทั้งวัน จึงยังไม่มีผู้คนออกมาเดินซื้อนี่ชมนั่นอย่างที่ควรจะเป็น

เห็นท้องถนนของเมืองหลวงเงียบสงัดเช่นนี้แล้ว เซียงหรงก็อดเสียดายไม่ได้...

นี่นับเป็นครั้งแรกในรอบเจ็ดแปดปีที่ได้ออกมานอกจวนแท้ๆ

เซียงหรงลอบถอนใจแผ่วเบา

แม้เซียงหรงจะตื่นตาตื่นใจต่อโลกภายนอกจวนเช่นไร ก็ไม่ได้มัวสนใจ

สิ่งละอันด้านนอกรถม้าจนลืมใส่ใจอนุหาน พี่หญิงใหญ่ และพี่หญิงรอง ที่ร่วมทางมาด้วยกัน

ภายในรถม้าซึ่งตกแต่งไว้อย่างเรียบง่ายทว่ากลับแฝงไว้ด้วยความโอ่อ่า สมกับที่เป็นรถม้าจากจวนกั๋วกง เซียงหรงพยายามส่งยิ้มให้พี่หญิงทั้งสองและอนุหานที่ตามมาดูแลพวกนางทั้งสาม ทว่าอนุหานกลับไม่ยิ้มตอบดังเช่นทุกครั้ง อีกทั้งพี่หญิงทั้งสองยังเบือนหน้าหนีกันไปคนละทาง โดยเฉพาะพี่หญิงใหญ่ เฉินชิวเยว่ ถึงกับแค่นหัวเราะใส่อย่างที่ไม่เคยกระทำมาก่อน เดาว่าคงยังไม่หายโกรธเคืองเรื่องที่จู่ๆ ก็เกิดมีชื่อน้องสาวคนที่สามของตนอยู่ในรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกให้เข้าประชันขันแข่ง ชิงตำแหน่งโฉมงามยอดเมธี

เพราะเกรงว่าจะทำให้พี่หญิงทั้งสอง และอนุหานหานที่จู่ๆ ก็ต้องรับภาระดูแลผู้ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะผ่านการคัดเลือกกับคนอื่นเขาด้วยอย่างนางเพิ่มอีกคนยิ่งไม่พอใจ เซียงหรงจึงหลุบตาลง นั่งนิ่งๆ ไม่พูดอะไร ในใจได้แต่หวังว่าอนุหานจะไม่หงุดหงิดรำคาญส่วนเกินอย่างนาง จนพานให้ขุ่นเคืองจนเสียสุขภาพ และหวังว่าพี่หญิงทั้งสอง โดยเฉพาะพี่หญิงใหญ่ จะยอมเปิดใจรับฟังข้อเท็จจริงจากนางบ้าง...

นางหาได้คิดประชันขันแข่งกับพี่หญิงน้องหญิงของตนดังเช่นที่อนุจางกล่าวอย่างเดือดดาลนับตั้งแต่วันแรกที่รู้ข่าวจริงๆ นะ

อันที่จริง ตัวนางเองสามารถผ่านเข้ารอบมาได้อย่างไร นางก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ...

รถม้าเคลื่อนตัวไปอีกพักใหญ่ก็ชะลอความเร็วลง เซียงหรงอดแปลกใจไม่ได้ จึงเผลอแย้มม่านมองออกไปด้านนอกอีกครั้ง ไม่นึกว่าครั้งนี้กิริยานั้นจะทำให้เกิดเสียงฮือฮาดังขึ้นจากด้านนอกรถม้า

นี่มัน...นี่มันอะไรกัน? เหตุใดการประชันขันแข่งที่ถูกจัดขึ้นในสำนักศึกษากลาง จึงมีผู้คนแห่แหนกันมามากมายถึงเพียงนี้!

ประเดี๋ยวนะ หรือจะเป็นเพราะเหตุนี้ ตลอดเส้นทางที่รถม้าของพวกนางเคลื่อนผ่านจึงไร้เงาผู้คน?

อืม...แม้สวนชิงหลิงข้างในใจกลางสถานศึกษาที่เป็นสถานที่ประชันขันแข่งจะใหญ่โต แต่คงไม่อาจจุคนที่อยากเข้าชมได้ทั้งหมด อีกทั้งหากใจร้อนสักหน่อย ต้องการยลโฉมสาวงามผู้ผ่านการคัดเลือกให้เข้าแข่งขัน ชิงชัย ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้น จุดที่เหมาะจะปักหลักยืนรอชมโฉมสาวงามมากที่สุด ก็คือบริเวณนี้ บริเวณที่เป็นทางแยกสุดท้าย ก่อนเข้าสู่ถนนซึ่งทอดยาวไปสู่สำนักศึกษาอันยิ่งใหญ่งามตระการ...

เซียงหรงพลันเข้าใจขึ้นมาทันที

ถูกแล้ว...เหตุที่ท้องถนนไม่มีใครเลยสักคน หาใช่เพราะยามนี้ยังเป็นเวลาเช้าตรู่อย่างที่นางหลงเข้าใจ แต่เป็นเพราะคนทั้งหมดล้วนแห่แหนมารอยลโฉมเหล่าสาวงามที่เดินทางเข้าร่วมการขันแข่งชิงตำแหน่งโฉมงามยอดเมธีกันที่สำนักศึกษากลางต่างหาก!

...เช่นนั้นแล้ว หมู่ตึกใหญ่โตที่อยู่ภายใต้ขอบรั้วสูงตระหง่านยาวไกลสุดลูกหูลูตาข้างหน้านี่ ก็คือสำนักศึกษาที่สำนักราชบัณฑิตก่อตั้งขึ้นโดยมีราชวงศ์สกุลหลี่ให้การสนับสนุนกระมัง

จากที่ศึกษาจากตำรา นับตั้งแต่ราชวงศ์สกุลหลี่ขึ้นปกครองเทียนจิน แผ่นดินนี้ก็ยิ่งกว่าเจริญรุ่งเรืองจนไม่มีแผ่นดินใดในใต้หล้าทาบติด เมื่อได้มาเห็นสถานศึกษาอันเป็นความภาคภูมิใจของเทียนจินเช่นนี้แล้ว ก็อดคิดไม่ได้ว่า ‘จริง’

“นั่นรถม้าจากตระกูลใด?” ผู้คนด้านนอกเริ่มพูดคุยกัน

เห็นผู้คนชี้มือชี้ไม้มาที่ตน ทั้งยังเริ่มสอบถามกันและกันเสียงดังระงม

เซียงหรงตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง ทว่ายังสามารถรักษากิริยาของคุณหนูตระกูลสูงเอาไว้ได้ นางหลุบตาลง ยิ้มน้อยๆ อย่างเจียมตน ตามที่อาจารย์หญิงเคยสอนสั่ง ก่อนค่อยๆ ปิดผ้าม่านลง

 ท่าทีนั้นทำเอาเฉินชิวเยว่ที่ไม่พอใจมากอยู่แล้วอดรนทนไม่ไหว สุดท้ายก็ถึงกับค่อนแคะขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยกระทำ

“น้องสามช่างดีจริงๆ เพิ่งจะมาถึงหน้าสถานศึกษาของพวกเราพี่หญิงน้องหญิงก็รู้ความเป็นอย่างยิ่ง เพียงเพื่อให้ได้รับชัยชนะ ถึงกับทิ้งจรรยาสตรี เที่ยวแย้มม่าน ชม้ายชายตา เรียกคะแนนนิยมจากผู้คน!”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 111

    ตลอดการเดินทางไปยังหมู่บ้านว่อหลงที่มีซู่ซินรออยู่ หลี่จือหลินซื้อรถม้าคันหนึ่งให้นางนั่งอยู่ด้านใน ส่วนตัวเขาขับรถม้าด้านนอก เขาให้เหตุผลว่าจะทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นนั่นก็จริงอยู่นับตั้งแต่มีรถม้า นางก็ไม่เคยต้องนอนบนพื้นหินพื้นหญ้าให้เจ็บหลังปวดเอว หรือคันเนื้อคันตัวเหมือนก่อนหน้านี้หลังจากที่เปิดเผยตัวตนแล้ว หลี่จือหลินปฏิบัติต่อนางอย่างดียิ่ง ไม่ว่านางอยากกินอยากดื่มอะไร เมื่อผ่านเข้าไปในหมู่บ้านหรือเมืองเล็กๆ ก็จะหาซื้อให้นางทุกอย่าง หากเป็นกลางป่ากลางเขา ไม่ว่าจะจับสัตว์ใดได้เขาก็จะแบ่งเนื้อส่วนที่ดีที่สุดให้นาง ปรุงรสด้วยเกลือหรือเครื่องเทศต่างๆ เท่าที่จะหาได้เพื่อให้นางเจริญอาหารยิ่งขึ้น ทั้งยังบ่นพึมพำทุกคืนว่านางผอมลงไม่น้อย ไม่เต็มไม้เต็มมือ...น่าเกลียดที่สุด ปากบอกว่านางผอมเกินไป แต่ใครกันที่คอยจับนางกินทุกคืน!คนเจ้าเล่ห์พรรค์นั้นตั้งใจทำให้นางได้พักผ่อนเต็มที่ในเวลากลางวันเพื่อรับใช้เขาในเวลากลางคืนชัดๆ!แม้จะรู้เช่นนั้น แต่เซียงหรงก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงอ้อมกอดนั้นได้เลยเวลากลางคืนช่างหนาวเหน็บนัก แม้ว่าจะเหนื่อย

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 110

    “ตอนที่เจ้ายังเป็นทารก ข้าจำได้ ในตอนนั้นข้าบอกเจ้าว่า ข้าจะคอยปกป้องเจ้าไปชั่วชีวิต...คำพูดประโยคนั้นเป็นทั้งคำสัญญาและคำสาบานแรกในชีวิตข้า” หลี่จือหลินพูดพร้อมกับยิ้มจางๆ “ในเทศกาลหยวนเซียวคืนนั้น ตอนที่ข้าซื้อถังหูลู่ให้เจ้า เจ้าคงไม่รู้หรอกว่ารอยยิ้มที่เจ้ามอบให้ข้ายามนั้นทั้งงดงามอ่อนโยนและหวานล้ำเพียงใด เพราะจดจำภาพนั้นได้ ข้าจึงไม่เคยยอมแพ้ในสงคราม ทุกครั้งที่เพลี้ยงพล้ำ ข้ามักคิดเสมอว่าจะต้องได้กลับมาเจอเจ้าเพื่อทำตามคำสัญญาสาบานและจะต้องปกป้องรอยยิ้มที่บริสุทธิ์งดงามเช่นนั้นเอาไว้ให้ได้ หรงเอ๋อร์ ข้าออกศึกมากมาย แม้กึ่งหนึ่งเพื่อบ้านเมือง แต่อีกกึ่งหนึ่งล้วนเป็นเพราะแผ่นดินเทียนจินคือบ้านของเจ้า เพราะที่แห่งนี้มีคนที่ข้าต้องการปกป้องเอาไว้อย่างเจ้าอยู่ข้างหลัง”เซียงหรงได้แต่จ้องเขาด้วยความงุนงง นางไม่เคยจำเรื่องราวเหล่านี้ได้เลย แต่เขากลับเล่าได้ละเอียดอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้ง…เรื่องสาเหตุที่เขาออกรบและไม่เคยยอมแพ้จนมีชีวิตรอดกลับมาก็ช่าง…เขายังกล่าวต่อไป “หลายปีผ่านไป ข้าคิดว่าเจ้าอาจลืมข้าไปแล้ว แต่ข้ากลับไม่เคยล

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 109

    หลี่จือหลินไม่อยากให้นางตั้งกำแพงในใจอีก ไม่ว่าอย่างไรเขากับนางก็ลงเอยกันไปแล้ว ไม่ว่านางจะยินดีแต่งให้เขาหรือไม่ นางก็หนีไปไหนไม่ได้อีกแล้วอยู่ดี…ทว่าเขาเองก็ยังอยากให้นางแต่งให้เขาด้วยความยินดี ไม่ใช่ด้วยความไม่เต็มใจเช่นนั้นเขาค่อยๆ ปัดปอยผมที่ล้อมกรอบหน้านางออก บีบนวดเนื้อตัวที่ปวดเมื่อยจากการร่วมรักเมื่อคืนพลางพูดเบาๆ เมื่อรำลึกถึงความทรงจำเมื่อเนิ่นนานมาแล้ว“เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงยืนยันที่จะแต่งงานกับเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะอยากหนีข้าไปให้ไกลแค่ไหนก็ตาม” หลี่จือหลินเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น ดวงตาคู่คมมองลึกเข้าไปในดวงตาของเซียงหรงที่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลง“จะยังมีอะไรได้ นอกจากความดื้อด้านอยากเอาชนะคะคานของท่าน” นางตอบเสียงแข็ง ลุกขึ้นนั่งหันหน้าหนีราวกับไม่อยากรับฟังคำใดจากเขาอีกแต่หลี่จือหลินไม่ได้โกรธ เขายิ้มบางๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งเคียงข้างนาง แววตาอ่อนโยนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“ไม่รู้เจ้ายังจำถังหูลู่ในเทศกาลหยวนเซียวได้หรือไม่”เซียงหรงขมวดคิ้วทั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 108

    “หรงเอ๋อร์…ชายหญิงร่วมเตียง จะเป็นอันใดกันได้ นอกจากสามีภรรยา” เขาพูดเสียงนุ่ม “อีกอย่าง เจ้าคิดว่าหากเฉินกั๋วกงได้ทราบ เขาจะไม่บังคับให้เจ้าแต่งงานจริงหรือ ต่อให้เป็นคุณชายใหญ่จวนเจ้าที่เจ้าคิดว่าจะเข้าข้างเจ้าแน่ๆ หากเป็นเรื่องนี้...เชื่อเถิดว่าเขาเองก็จะต้องเกลี้ยกล่อมให้เจ้ายอมแต่งให้ข้าเช่นกัน”คนฟังหน้าซีดเผือดลงทุกขณะ ยิ่งเมื่อเอ่ยถึงว่าเขาจะบอกบิดาและพี่ชายนางเกี่ยวกับเรื่องนี้ เซียงหรงก็ยิ่งรู้สึกราวกับถูกหลอกขึ้นมาทันทีไม่หรอก...ไม่ได้รู้สึก...นางถูกหลอกจริงๆ นั่นล่ะ!ใบหน้าหวานล้ำเผือดซีด ความเจ็บปวดตรงกึ่งกลางกายราวกับจะส่งเสียงหัวเราะเย้ยหยันความโง่เขลาของนางนางวิ่งวนอ้อมไปทั่ว แต่สุดท้ายแล้วก็กลับตกอยู่ในเงื้อมมือของเขาเช่นเดิมราวกับตัวตลก ราวกับสัตว์ที่ติดในกรง ต่อให้นางจะวิ่งไปข้างหน้าเช่นไร ก็มีเพียงกับดักที่รออยู่เท่านั้น“หากเจอท่านกั๋วกงแล้ว ข้าจะรีบปรึกษาว่าเราจะเร่งแต่งงานกันให้เร็วที่สุด ยังต้องหาฤกษ์ยาม ต้องดูก่อนว่าท่านพ่อตาต้องการสิ่งใดเป็นพิเศษ อ้อ

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 107

    ยามรุ่งอรุณแรกของวันใหม่ แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องลอดเข้ามาผ่านปากถ้ำ เสียงนกร้องแว่วดังจากบนยอดไม้ ช่วยเสริมให้บรรยากาศดูเงียบสงบ แต่ภายในถ้ำเล็กๆ นั้นกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ปะทุอยู่ในใจคนทั้งสองเฉินเซียงหรงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาพร้อมความเจ็บปวดที่แล่นแปลบไปทั้งร่างเพียงนางขยับตัวเล็กน้อย ความเจ็บและเมื่อยล้าเนื้อตัว รวมถึงความปวดร้าวจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทำให้นางข่มความเจ็บใจเอาไว้แทบไม่ไหว น้ำตาพลันเอ่อคลอเบ้าอีกครั้งหลี่จือหลินที่นอนตะแคงร่างหันหน้าเข้าหานางกลับอยู่อย่างเงียบๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่มักประดับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กลับดูซีดเซียวและเต็มไปด้วยความสำนึกผิด แววตาของเขาดูหม่นแสงราวกับแบกรับทุกความผิดบาปบนโลกนี้ไว้ "เจ้าเจ็บมากหรือไม่?" เสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเซียงหรงเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองหน้าเขาอีกแม้แต่น้อยนางกัดริมฝีปากแน่น พยายามลุกขึ้นด้วยตนเอง แต่เพียงแค่ขยับตัวเพียงนิด กลางกายที่ยังคงทั้งบวมทั้งแดงก็ส่งความเจ็บปวดจนต้องทรุดฮวบลงไปอีกครั้งหลี่จือหลินรีบประคองนางไว้ เขากุมมือนางเบาๆ แต่เซียงหรงกลับสะบั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 106

    หลี่จือหลินนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาฉายแววความเจ็บปวดและสับสน ก่อนที่เขาจะถอนหายใจยาว ปล่อยนางให้เป็นอิสระ รู้สึกได้ถึงความชื้นแฉะที่อก…พอเดาได้ว่ารอยกระบี่ฟันซึ่งได้จากการร่วมต่อสู้กับกลุ่มนักฆ่าที่หานชิงเยว่ส่งมาสังหาร ‘ตงหลิน’ องครักษ์ที่เขาวางตัวให้คอยติดตามคุ้มกัน เฉินเซียงหรงในที่แจ้ง ปริแยกเพราะแรงผลักของนางเมื่อครู่“เจ้าไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เฉินเซียงหรง” เสียงของเขาอ่อนลงเล็กน้อย “สำหรับข้า สัมพันธ์ระหว่างเราจะไม่ใช่และไม่มีทางเป็นสิ่งที่ทำเพื่อตัดความสัมพันธ์ แต่เป็นสิ่งที่ข้าหวังจะทำเพื่อให้เราสองคนผูกพันกันตลอดไป”เซียงหรงบอกอย่างปลดปลง “ท่านต่างหากที่ไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เรื่องนั้นก็ช่างเถอะ สำหรับข้า ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน หากท่านเพียงอยากได้ร่างกาย ท่านก็เอามันไปเถิด”ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน...อย่างนั้นหรือ?เพียงเพื่อหลีกเลี่ยงเขา ต่อให้ต้องพลีกายให้ชายอื่น นางก็ไม่สนใจแม้จะต้องขึ้นเตียงกับเขา นางก็ยังดื้อด้านไม่ยอมแต่ง!หลี่จือหลินมองสตรีตรงหน้าด้วยแววตาเจ็บ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status