แชร์

บทที่ 26

ผู้เขียน: Karawek House
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-22 23:55:51

เห็นคุณหนูของตนจ้องมองด้วยสายตางุนงงสงสัย ซู่ซินรีบเก็บสีหน้า นางกระแอมเสียงเบา ก่อนกล่าวเสียงนุ่ม ใบหน้าเปื้อนยิ้ม

“คุณหนูสาม...เวลาไม่เช้าแล้ว แดดแรงจริงดังที่คุณหนูรองกล่าวมาไม่มีผิด พวกเราก็รีบกลับเรือนอี้หรงดีหรือไม่”

เฉินเซียงหรงกะพริบตาสองปริบ พยายามไม่ใส่ใจท่าทีประหลาดนั้น

ถึงถามพี่ซู่ซินของนางไปก็ไม่ได้คำตอบ นางคร้านจะถามแล้ว

“ไปสิ...พวกเรากลับเรือนกัน ข้าเพิ่งนึกได้ว่าสมควรปักถุงหอมลายมงคลให้ท่านป้าสะใภ้สักถุง...ยังมีของท่านพ่อ พี่ชายใหญ่ พี่ชายรอง น้องเล็ก ท่านแม่รอง ท่านแม่สาม ท่านแม่สี่ พี่หญิงน้องหญิงทุกคน...แน่นอนว่ายังต้องมีของพี่ซู่ซินกับป้าเหลียงอีกคนละถุงอีกด้วย”

“มีของบ่าวกับป้าเหลียงด้วยหรือเจ้าคะ”

“พี่ซู่ซินและป้าเหลียงก็เหมือนครอบครัวของข้า จะไม่มีได้อย่างไร”

ซู่ซินอมยิ้ม กล่าวอย่างขวยอายระคนดีใจ “กล่าวเช่นนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ หากผู้อื่นมาได้ยิน...”

“ได้ยินแล้วอย่างไร” เซียงหรงแย้มยิ้มงดงามเฉิดฉัน “ทั้งพี่ซู่ซินและป้าเหลียงต่างคอยดูแลข้า ปกป้องคุ้มครองข้ามาตั้งแต่ยังเยาว์ พวกท่านไม่เพียงดีต่อข้า ยังดีต่อผู้อื่นในจวน เป็นผู้รู้ระวังหนักเบา ความประพฤติดีงาม ไร้ตำหนิบกพร่อง ถุงหอมเพียงถุงเดียว เมื่อเทียบกับความดีของพวกท่านแล้วจะนับว่าเป็นอะไรได้...หากไม่ใช่เพราะสินเดิมของท่านแม่ไม่อาจนำออกมาใช้ และหากไม่ใช่เพราะเรือนอี้หรงของพวกเราในยามนี้ต้องประหยัด ข้ายังอยากตอบแทนพวกท่านทั้งสองคนให้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ”

“คุณหนูของบ่าวช่างเติบโตขึ้นมาเป็นสตรีที่ดีนัก...เช่นนี้อย่างไรเล่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์และฟูเหรินที่เฝ้ามองอยู่จึงไม่อาจไม่รักใคร่ให้ความคุ้มครองคุณหนูที่แสนดีของบ่าว ช่วยให้คุณหนูของบ่าวสามารถเติบใหญ่ขึ้นมาเป็นสตรีที่สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ฉลาดปราดเปรื่อง และงดงามถึงเพียงนี้” กล่าวแล้ว ซู่ซินก็ไล่สายตามองผมเพ้าผิวพรรณของคุณหนูอย่างนางด้วยแววตาชื่นชมประสมภูมิใจ

เส้นผมยาวเหยียดเงางามและผิวพรรณที่เกลี้ยงเกลาไร้รอยขีดข่วนย่อมบ่งบอกถึงการได้รับการเอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดีนับตั้งแต่ยังเยาว์...

พี่ซู่ซินของนางมองผิวพรรณนางแล้วนึกขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์และมารดาที่ล่วงลับของคุณหนูอย่างนาง แต่เซียงหรงกลับนึกขอบคุณท่านป้าสะใภ้ พี่ซู่ซิน ป้าเหลียง รวมถึงบ่าวชายสาวใช้ทุกคนในเรือน ที่ช่วยกันทะนุถนอมปกป้องดูแลนางมาจนกระทั่งทุกวันนี้

ใช้ชีวิตมาจนถึงป่านนี้ คุณหนูอย่างนางเพิ่งจะเคยหกล้มได้แผลเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ครั้งนั้นในเรือนวุ่นวายกันมากทีเดียว จำได้ว่าท่านป้าสะใภ้ถึงกับเร่งรุดมาส่งยาสมานแผลลบเลือนริ้วรอยราวกับพระโพธิสัตว์มาดลใจ บ่าวชายสาวใช้ก็คุ้มกันเรือนแน่นหนา พี่ซู่ซิน ป้าเหลียง คอยป้อนทั้งยาบำรุง ทั้งทายาที่ท่านป้าสะใภ้หามาให้ถึงสองหีบใหญ่ๆ ไม่เว้นวัน ทำราวกับเด็กสาวอย่างนางป่วยหนักก็ไม่ปาน กระทั่งผู้ที่ทำให้นางหกล้มเพราะบังเอิญหยอกล้อกันตามประสาพี่น้องกับพี่หญิงใหญ่และพี่หญิงรอง จนพลาดวิ่งมาชนนางล้มอย่างน้องสี่ ก็ยังถึงกับมาก้มศีรษะขอขมานางยกใหญ่ กล่าวแต่ว่า “ข้าจะไม่ทำให้พี่หญิงสามต้องเจ็บตัวอีกแล้ว จะไม่ทำอีกแล้ว” ซ้ำๆ ไม่ยอมหยุด พี่หญิงใหญ่และพี่หญิงรองเองก็ยังรีบร้อนมาถามไถ่อาการด้วยใบหน้าเผือดสี จับมือขอขมา กล่าวในทำนองเดียวกันว่า “จะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกเด็ดขาด”

และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ หลังจากเหตุการณ์คราวนั้น ต่อมาแม้จะมีเรื่องขัดแย้งใด พี่หญิงน้องหญิงในจวนเฉินกั๋วกงก็ล้วนยั้งมือไว้ไมตรี ต่อให้กรุ่นโกรธจนตัวสั่นก็ไม่เคยแตะต้องรังแกนางสักนิด อย่างมากที่สุด พวกนางก็แค่โวยวายต่อว่า ทว่าเมื่อระงับความโกรธได้ แต่ละคนก็ยังยอมรักษาหน้าไว้ไมตรี ยอมปล่อยให้คุณหนูสามอย่างนางได้ใช้ชีวิตอย่างสงบในเรือนหลังต่อไปตามประสานาง

สิ่งศักดิ์สิทธิ์และท่านแม่ผู้ล่วงลับคอยรักใคร่ให้ความคุ้มครองอย่างนั้นหรือ...

จนถึงตอนนี้ เซียงหรงคิดว่าบางทีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และวิญญาณของท่านแม่ที่ล่วงลับของนางอาจมีอยู่จริงและคอยดลใจให้ผู้คนในจวนล้วนดีต่อนางเช่นนี้ก็เป็นได้

นึกขึ้นมาได้เช่นนี้แล้ว เซียงหรงก็รู้สึกอุ่นวาบขึ้นมาในอก สุขใจยิ่ง

ในจวนเฉินกั๋วกงเกิดความวุ่นวาย ทว่าภายในตำหนักอันโอ่อ่าของจวิ้นหวังเถี่ยเม่าจื่อเพียงหนึ่งเดียวของเทียนจินในยามนี้ กลับมีเสียงหัวเราะของสวีเซียงเซียง ชายาเอกในจวิ้นหวังผู้เป็นเจ้าของครอบครองตำหนักอันยิ่งใหญ่งามตระการแห่งนี้ ดังกึกก้องต่อเนื่องยาวนานอย่างที่ไม่เคยมีมา

ช่วยไม่ได้เลยจริงๆ ที่ผู้เป็นจวิ้นหวังเฟยอย่างนางจะดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่เช่นนี้...

หลานสาวของนางสามารถผ่านการคัดเลือกได้จริงๆ อย่างที่คิด!

หึหึ เหตุใดจะไม่ผ่านการคัดเลือกเล่า ในเมื่อผ้าปักลายผืนนั้นทั้งงดงาม ทั้งแฝงไว้ด้วยความห่วงใย ใส่ใจ และความปรารถนาดีอย่างแรงกล้า ทุกฝีเข้ม ทุกเส้นด้าย ล้วนบอกถึงความตั้งใจจริงของผู้ปักชัดแจ้งถึงเพียงนั้น

“ทีนี้หรงเอ๋อร์ของข้าก็จะได้กอบกู้ชื่อเสียงที่เสียหายลงไปเพราะคำครหาในวัยเยาว์ และได้ฉายแสงต่อหน้าผู้คนทั้งหมดเสียที!”

การประชันขันแข่งชิงตำแหน่งโฉมงามยอดเมธีเช่นนั้นหรือ...

นึกถึงเรื่องนี้แล้ว ก็พาให้อดีตบุตรสาวที่ไม่ได้รับความสำคัญจากสกุลสวีอย่างนาง ทั้งสะท้อนใจและอาลัย ‘เซียงเหลียนจวิ้นจู’ สตรีแสนดีที่โน้มกายลงมาเป็นสหายผู้รู้ใจกับบุตรสาวซึ่งเกิดจากอนุภรรยาชาติกำเนิดต่ำต้อยที่ไม่ได้รับความสำคัญอย่างนางยิ่งนัก

คนถึงกล่าวกันว่าสวรรค์ไม่เป็นธรรมอย่างไรเล่า สตรีที่ดีอย่างหลี่เซียงเหลียนสหายเพียงผู้เดียวของนางต้องมาด่วนตายจากไป ในขณะที่เหล่าสตรีอสรพิษในจวนเฉินกั๋วกงกลับได้อยู่เสวยสุข หากไม่เรียกว่าสวรรค์ไม่ยุติธรรมแล้วจะให้เรียกว่าอย่างไร?

ครั้งนั้นสหายของนาง หลี่เซียงเหลียน ก็ใช้ฝีมือการปักผ้าในการสมัครเข้าคัดเลือกเพื่อเข้าประชันขันแข่งชิงตำแหน่งโฉมงามยอดเมธีเช่นเดียวกัน...

นับตั้งแต่ยังเยาว์ หรงเอ๋อร์ของนางจิตใจสะอาดบริสุทธิ์ เรียนรู้ไว ชำนาญสิ้นทั้งพิณ ภาพ หมาก อักษร ทั้งยังปักผ้าได้งดงามเป็นที่หนึ่ง ทั้งคุณสมบัติและรูปสมบัติล้วนราวกับถอดแบบมารดาของตนมาไม่มีผิด นางไม่เชื่อหรอกว่าสตรีดีๆ เช่นหลานสาวของนางผู้นี้จะไม่อาจคว้าเอาตำแหน่งโฉมงามยอดเมธีมาครอบครอง ตอกหน้าเหล่าคนจิตใจสกปรกหยาบช้าเห็นแก่ได้ในจวนเฉินกั๋วกง และบิดาที่เอาแต่ขลุกอยู่กับภาระการงานและสุราละเลยบุตรธิดา ให้หงายหลัง!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 111

    ตลอดการเดินทางไปยังหมู่บ้านว่อหลงที่มีซู่ซินรออยู่ หลี่จือหลินซื้อรถม้าคันหนึ่งให้นางนั่งอยู่ด้านใน ส่วนตัวเขาขับรถม้าด้านนอก เขาให้เหตุผลว่าจะทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นนั่นก็จริงอยู่นับตั้งแต่มีรถม้า นางก็ไม่เคยต้องนอนบนพื้นหินพื้นหญ้าให้เจ็บหลังปวดเอว หรือคันเนื้อคันตัวเหมือนก่อนหน้านี้หลังจากที่เปิดเผยตัวตนแล้ว หลี่จือหลินปฏิบัติต่อนางอย่างดียิ่ง ไม่ว่านางอยากกินอยากดื่มอะไร เมื่อผ่านเข้าไปในหมู่บ้านหรือเมืองเล็กๆ ก็จะหาซื้อให้นางทุกอย่าง หากเป็นกลางป่ากลางเขา ไม่ว่าจะจับสัตว์ใดได้เขาก็จะแบ่งเนื้อส่วนที่ดีที่สุดให้นาง ปรุงรสด้วยเกลือหรือเครื่องเทศต่างๆ เท่าที่จะหาได้เพื่อให้นางเจริญอาหารยิ่งขึ้น ทั้งยังบ่นพึมพำทุกคืนว่านางผอมลงไม่น้อย ไม่เต็มไม้เต็มมือ...น่าเกลียดที่สุด ปากบอกว่านางผอมเกินไป แต่ใครกันที่คอยจับนางกินทุกคืน!คนเจ้าเล่ห์พรรค์นั้นตั้งใจทำให้นางได้พักผ่อนเต็มที่ในเวลากลางวันเพื่อรับใช้เขาในเวลากลางคืนชัดๆ!แม้จะรู้เช่นนั้น แต่เซียงหรงก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงอ้อมกอดนั้นได้เลยเวลากลางคืนช่างหนาวเหน็บนัก แม้ว่าจะเหนื่อย

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 110

    “ตอนที่เจ้ายังเป็นทารก ข้าจำได้ ในตอนนั้นข้าบอกเจ้าว่า ข้าจะคอยปกป้องเจ้าไปชั่วชีวิต...คำพูดประโยคนั้นเป็นทั้งคำสัญญาและคำสาบานแรกในชีวิตข้า” หลี่จือหลินพูดพร้อมกับยิ้มจางๆ “ในเทศกาลหยวนเซียวคืนนั้น ตอนที่ข้าซื้อถังหูลู่ให้เจ้า เจ้าคงไม่รู้หรอกว่ารอยยิ้มที่เจ้ามอบให้ข้ายามนั้นทั้งงดงามอ่อนโยนและหวานล้ำเพียงใด เพราะจดจำภาพนั้นได้ ข้าจึงไม่เคยยอมแพ้ในสงคราม ทุกครั้งที่เพลี้ยงพล้ำ ข้ามักคิดเสมอว่าจะต้องได้กลับมาเจอเจ้าเพื่อทำตามคำสัญญาสาบานและจะต้องปกป้องรอยยิ้มที่บริสุทธิ์งดงามเช่นนั้นเอาไว้ให้ได้ หรงเอ๋อร์ ข้าออกศึกมากมาย แม้กึ่งหนึ่งเพื่อบ้านเมือง แต่อีกกึ่งหนึ่งล้วนเป็นเพราะแผ่นดินเทียนจินคือบ้านของเจ้า เพราะที่แห่งนี้มีคนที่ข้าต้องการปกป้องเอาไว้อย่างเจ้าอยู่ข้างหลัง”เซียงหรงได้แต่จ้องเขาด้วยความงุนงง นางไม่เคยจำเรื่องราวเหล่านี้ได้เลย แต่เขากลับเล่าได้ละเอียดอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้ง…เรื่องสาเหตุที่เขาออกรบและไม่เคยยอมแพ้จนมีชีวิตรอดกลับมาก็ช่าง…เขายังกล่าวต่อไป “หลายปีผ่านไป ข้าคิดว่าเจ้าอาจลืมข้าไปแล้ว แต่ข้ากลับไม่เคยล

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 109

    หลี่จือหลินไม่อยากให้นางตั้งกำแพงในใจอีก ไม่ว่าอย่างไรเขากับนางก็ลงเอยกันไปแล้ว ไม่ว่านางจะยินดีแต่งให้เขาหรือไม่ นางก็หนีไปไหนไม่ได้อีกแล้วอยู่ดี…ทว่าเขาเองก็ยังอยากให้นางแต่งให้เขาด้วยความยินดี ไม่ใช่ด้วยความไม่เต็มใจเช่นนั้นเขาค่อยๆ ปัดปอยผมที่ล้อมกรอบหน้านางออก บีบนวดเนื้อตัวที่ปวดเมื่อยจากการร่วมรักเมื่อคืนพลางพูดเบาๆ เมื่อรำลึกถึงความทรงจำเมื่อเนิ่นนานมาแล้ว“เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงยืนยันที่จะแต่งงานกับเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะอยากหนีข้าไปให้ไกลแค่ไหนก็ตาม” หลี่จือหลินเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น ดวงตาคู่คมมองลึกเข้าไปในดวงตาของเซียงหรงที่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลง“จะยังมีอะไรได้ นอกจากความดื้อด้านอยากเอาชนะคะคานของท่าน” นางตอบเสียงแข็ง ลุกขึ้นนั่งหันหน้าหนีราวกับไม่อยากรับฟังคำใดจากเขาอีกแต่หลี่จือหลินไม่ได้โกรธ เขายิ้มบางๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งเคียงข้างนาง แววตาอ่อนโยนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“ไม่รู้เจ้ายังจำถังหูลู่ในเทศกาลหยวนเซียวได้หรือไม่”เซียงหรงขมวดคิ้วทั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 108

    “หรงเอ๋อร์…ชายหญิงร่วมเตียง จะเป็นอันใดกันได้ นอกจากสามีภรรยา” เขาพูดเสียงนุ่ม “อีกอย่าง เจ้าคิดว่าหากเฉินกั๋วกงได้ทราบ เขาจะไม่บังคับให้เจ้าแต่งงานจริงหรือ ต่อให้เป็นคุณชายใหญ่จวนเจ้าที่เจ้าคิดว่าจะเข้าข้างเจ้าแน่ๆ หากเป็นเรื่องนี้...เชื่อเถิดว่าเขาเองก็จะต้องเกลี้ยกล่อมให้เจ้ายอมแต่งให้ข้าเช่นกัน”คนฟังหน้าซีดเผือดลงทุกขณะ ยิ่งเมื่อเอ่ยถึงว่าเขาจะบอกบิดาและพี่ชายนางเกี่ยวกับเรื่องนี้ เซียงหรงก็ยิ่งรู้สึกราวกับถูกหลอกขึ้นมาทันทีไม่หรอก...ไม่ได้รู้สึก...นางถูกหลอกจริงๆ นั่นล่ะ!ใบหน้าหวานล้ำเผือดซีด ความเจ็บปวดตรงกึ่งกลางกายราวกับจะส่งเสียงหัวเราะเย้ยหยันความโง่เขลาของนางนางวิ่งวนอ้อมไปทั่ว แต่สุดท้ายแล้วก็กลับตกอยู่ในเงื้อมมือของเขาเช่นเดิมราวกับตัวตลก ราวกับสัตว์ที่ติดในกรง ต่อให้นางจะวิ่งไปข้างหน้าเช่นไร ก็มีเพียงกับดักที่รออยู่เท่านั้น“หากเจอท่านกั๋วกงแล้ว ข้าจะรีบปรึกษาว่าเราจะเร่งแต่งงานกันให้เร็วที่สุด ยังต้องหาฤกษ์ยาม ต้องดูก่อนว่าท่านพ่อตาต้องการสิ่งใดเป็นพิเศษ อ้อ

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 107

    ยามรุ่งอรุณแรกของวันใหม่ แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องลอดเข้ามาผ่านปากถ้ำ เสียงนกร้องแว่วดังจากบนยอดไม้ ช่วยเสริมให้บรรยากาศดูเงียบสงบ แต่ภายในถ้ำเล็กๆ นั้นกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ปะทุอยู่ในใจคนทั้งสองเฉินเซียงหรงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาพร้อมความเจ็บปวดที่แล่นแปลบไปทั้งร่างเพียงนางขยับตัวเล็กน้อย ความเจ็บและเมื่อยล้าเนื้อตัว รวมถึงความปวดร้าวจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทำให้นางข่มความเจ็บใจเอาไว้แทบไม่ไหว น้ำตาพลันเอ่อคลอเบ้าอีกครั้งหลี่จือหลินที่นอนตะแคงร่างหันหน้าเข้าหานางกลับอยู่อย่างเงียบๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่มักประดับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กลับดูซีดเซียวและเต็มไปด้วยความสำนึกผิด แววตาของเขาดูหม่นแสงราวกับแบกรับทุกความผิดบาปบนโลกนี้ไว้ "เจ้าเจ็บมากหรือไม่?" เสียงของเขาแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเซียงหรงเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองหน้าเขาอีกแม้แต่น้อยนางกัดริมฝีปากแน่น พยายามลุกขึ้นด้วยตนเอง แต่เพียงแค่ขยับตัวเพียงนิด กลางกายที่ยังคงทั้งบวมทั้งแดงก็ส่งความเจ็บปวดจนต้องทรุดฮวบลงไปอีกครั้งหลี่จือหลินรีบประคองนางไว้ เขากุมมือนางเบาๆ แต่เซียงหรงกลับสะบั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 106

    หลี่จือหลินนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาฉายแววความเจ็บปวดและสับสน ก่อนที่เขาจะถอนหายใจยาว ปล่อยนางให้เป็นอิสระ รู้สึกได้ถึงความชื้นแฉะที่อก…พอเดาได้ว่ารอยกระบี่ฟันซึ่งได้จากการร่วมต่อสู้กับกลุ่มนักฆ่าที่หานชิงเยว่ส่งมาสังหาร ‘ตงหลิน’ องครักษ์ที่เขาวางตัวให้คอยติดตามคุ้มกัน เฉินเซียงหรงในที่แจ้ง ปริแยกเพราะแรงผลักของนางเมื่อครู่“เจ้าไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เฉินเซียงหรง” เสียงของเขาอ่อนลงเล็กน้อย “สำหรับข้า สัมพันธ์ระหว่างเราจะไม่ใช่และไม่มีทางเป็นสิ่งที่ทำเพื่อตัดความสัมพันธ์ แต่เป็นสิ่งที่ข้าหวังจะทำเพื่อให้เราสองคนผูกพันกันตลอดไป”เซียงหรงบอกอย่างปลดปลง “ท่านต่างหากที่ไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด เรื่องนั้นก็ช่างเถอะ สำหรับข้า ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน หากท่านเพียงอยากได้ร่างกาย ท่านก็เอามันไปเถิด”ขอเพียงไม่ต้องแต่งงาน...อย่างนั้นหรือ?เพียงเพื่อหลีกเลี่ยงเขา ต่อให้ต้องพลีกายให้ชายอื่น นางก็ไม่สนใจแม้จะต้องขึ้นเตียงกับเขา นางก็ยังดื้อด้านไม่ยอมแต่ง!หลี่จือหลินมองสตรีตรงหน้าด้วยแววตาเจ็บ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status