Share

บทที่ 83

Penulis: Karawek House
last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-19 06:21:46

ไม่ทันที่จางเหม่ยเหม่ย หานชิงเยว่ และเฉินชิวเยว่จะได้เอ่ยอะไร ในห้องกลับมีเสียงบุรุษสบถบ่นไม่เป็นภาษา เมื่อมองไปตามเสียงก็เห็นว่าเสียงนั่นไม่ได้เกิดจากคนเพียงหนึ่ง แต่มีถึงสอง

นอกจากบนเตียงแล้ว ในห้องยังมีบ่าวชายนอนเปลือยร่างกองอยู่ที่มุมห้องอีกสองคน!

จางเหม่ยเหมยคิดจะเดินไปปิดประตู ซ่อนภาพอันน่าอุจาดนี้จากคนทั้งหมด ทว่าไม่ทัน

“ผู้ใดมั่วสุมอยู่ในห้อง กระทำเรื่องต่ำทรามในวันดีๆ ของน้องสาวข้า ใส่ร้ายป้ายสีน้องสาวข้า ไปลากตัวออกมาให้หมด!”

สิ้นเสียงเฉินจิ้งอี้ องครักษ์ที่ล้วนเป็นคนของเฉินจิ้งอี้ก็ปราดเข้ามาในห้อง

จางเหม่ยเหมยรีบควานหาเสื้อผ้ามาคลุมร่างให้บุตรสาว แม้จะคับแค้นใจก็ทำได้เพียงตวัดสายตามองสองแม่ลูก หานชิงเยว่ เฉินชิวเยว่ อย่างอาฆาตมาดร้าย

ชั่วอึดใจนั้น นางตะโกนเสียงดัง “คุณชายใหญ่ บุตรสาวของข้าถูกคนชั่วทำร้าย ยามนี้ยังคงไม่ได้สติ ตัวนางในยามนี้ ปกป้องตนเองก็ยังทำไม่ได้ แล้วจะเอาปัญญาที่ใดไปใส่ความคุณหนูสามของท่าน!” ในเมื่อยามนี้ตระกูลนางตกต่ำไม่อาจพึ่งพาได้ อีกทั้งในจวนก็ไร้ผู้รักใคร่ให้ความคุ้มครอง หากวันนี้นางกับบุตรสาวต้องย่อยยับ อย่างน้อยๆ นางก็จะลากเอาสองแม่ลูกอสรพิษคู่นี้ให้ตกนรกหมกไหม้ไปพร้อมๆ กับนางด้วย!

คำพูดของจางเหม่ยเหมยประโยคเดียว แม้ไม่ต่างอะไรไปจากการตบหน้า ‘ศัตรู’ ทั้งสองฝั่งของตนในยามนี้ แต่ยังกระทบไปถึง ‘บุตรสาว’ ของนางด้วย

เฉินเหม่ยเซียงไม่อาจทนแบกรับข้อครหาใดใดได้ คุณหนูสี่ของจวนรีบแสดงตัวให้คนทั้งหมดเห็นชัดถนัดตาว่าตนไม่ใช่ ‘บุตรสาวของอนุจางที่ถูกคนทำร้าย’ ด้วยการร้องไห้โฮ กล่าวเสียงดัง “พี่หญิงรอง! เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้!”

เฉินหมิงเยว่เห็นแล้วได้แต่หัวเราะในอก เห็นปากเปราะไม่รู้จักคิดก็นึกว่าจะตื้นเขิน สมองหมู ที่ไหนได้...ฮึๆ ที่แท้พี่สี่ของนางก็ช่างเลือดเย็นนัก ยามโคลนจะสาดกระเซ็นมาถึงตัว กระทั่งพี่สาวร่วมครรภ์มารดาของตน เฉินเหม่ยเซียงก็ยังลากเอามาประจานได้ ไม่ละเว้น

เฉินเหม่ยเซียงยังสะอึกสะอื้นกล่าวต่อ “เมื่อครู่พี่หญิงใหญ่ร้องโวยวายเสียงดังว่าเป็นพี่หญิงสาม เหตุใดจึงกล่าวว่าเป็นพี่หญิงสามล่ะเจ้าคะ!”

โอ๊ะ... เฉินหมิงเยว่รีบแสร้งวิงเวียน ส่งมือให้สาวใช้คนสนิทประคองถอยหลัง พาหลบออกไปจากงิ้วโรงฉากใหญ่อีกสักหลายๆ ก้าว เกรงว่าโคลนจะสาดมาถึงตัวด้วยอีกราย

เฉินชิวเยว่ที่กำลังเล่นละครเป็นพี่สาวห่วงใยน้องสาวต่างมารดาได้ยินที่เฉินเหม่ยเซียงพูดก็พลันสะดุ้งในอก ทว่าแม้จะตกใจก็ยังไม่ถึงขั้นขาดสติ นางรีบแก้ตัวเสียงสั่น “เมื่อครู่สาวใช้ที่กรีดร้องอยู่ด้านนอกกล่าวว่าเป็นน้องสาม...ข้าจึงนึกว่า...ทว่าคาดไม่ถึงว่าจะเป็นน้องรอง...”

จางเหม่ยเหมยฟังแล้วแค้นใจนัก เช่นนี้นางสารเลวเฉินชิวเยว่กับมารดาก็จะเอาตัวรอดไปได้... นางไม่ยอม!

“เป็นสาวใช้คนใด ไปลากตัวมา!” อนุจางสั่งคนรับใช้เสียงดัง ทว่าสาวใช้ของนางกลับกล่าวว่าหาตัวสาวใช้ผู้นั้นไม่เจอ นั่นทำให้นางหมดความอดทนทันที

“คุณชายใหญ่” จางเหม่ยเหมยตะโกนเสียงดังยิ่งกว่าเก่า “ครั้งนี้ไม่เพียงบุตรสาวข้าถูกรังแก คุณหนูสามเองก็ยังถูกปรักปรำอย่างไม่เป็นธรรม บุตรสาวของข้าเองก็เป็นน้องสาวของท่านเช่นกัน ขอคุณชายใหญ่จับตัวสาวใช้ผู้นั้นและบ่าวชายพวกนี้ทั้งหมดไปสอบสวน คืนความเป็นธรรมให้บุตรสาวของข้าและคุณหนูสามของจวนพวกเราด้วย!”

 “พอ!” เฉินกั๋วกงตวาดเสียงดัง “หยุดสร้างความวุ่นวายได้แล้ว เรื่องครั้งนี้ข้าจะสอบสวนด้วยตัวเอง” เฉินกั๋วกงออกคำสั่งเฉียบขาด “องครักษ์! จับตัวบ่าวชายพวกนี้ไปขัง มัดมือมัดเท้า หาอะไรมาอุดปากไว้ อย่าให้ชิงกัดลิ้นฆ่าตัวตาย ส่วนสาวใช้คนนั้น ต่อให้ต้องพลิกจวนก็ต้องควานหาตัวหญิงต่ำช้าปากเปราะที่ปรักปรำคุณหนูสามออกมาให้ได้!” ออกคำสั่งแล้ว เฉินกั๋วกงก็หันไปประสานมือคำนับครอบครัวจวิ้นหวัง ฝืนข่มความอัปยศ กล่าวอย่างเข้มขรึมจริงจัง “วันดีๆ เช่นนี้กลับเกิดเรื่องอัปยศขึ้นในจวน ขายหน้าทุกท่านแล้ว”

“ที่ใดใดก็ล้วนเกิดเรื่องได้ทั้งนั้น” จวิ้นหวังกล่าวคล้ายไม่ถือสา ทว่าประโยคถัดมา ไม่ว่าจะฟังอย่างไรก็พบว่า ‘ถือสา’ เป็นอย่างยิ่ง “ทว่าว่าที่สะใภ้ตระกูลเราไม่สมควรต้องมาถูกปรักปรำเช่นนี้ เรื่องครั้งนี้หวังว่าเฉินกั๋วกงจะสืบสวนให้ดี อีกทั้งสมควรเพิ่มองครักษ์วางเวรยามให้รัดกุมกว่านี้อีกสักหน่อย”

เฉินกั๋วกงค้อมศีรษะน้อมรับอย่างเสียมิได้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 104

    ไม่ทันที่นางจะได้ขยับตัว ตงหยางที่รัดท่อนแขนตัวเองเอาไว้อย่างแน่นหนาก็ก้มลงดูดที่แผลของตนเอง ดูดแล้วก็พ่นเลือดสีคล้ำเข้มออกมา ดูด แล้วก็พ่นเลือดสีคล้ำเข้มออกมา ทำวนซ้ำอยู่อย่างนี้จนเลือดที่ดูดออกมาจากปากแผลเป็นสีแดงสด ถึงยอมหยุดมือเขาปล่อยให้สายรัดเอวที่รัดท่อนแขนอยู่ค่อยๆ คลายออกเอง กระถดเข้าไปนั่งชิดผนัง ก่อนถอนหายใจออกมาตงหยางเหลียวมองซากงูตัวนั้นอีกครั้ง ก่อนจะตวัดสายตามองเฉินเซียงหรง เอ่ยอย่างหัวเสีย“ดีเหลือเกิน ข้าบอกให้อยู่นิ่งๆ เจ้าก็รีบขยับตัวทันที!”“ก็ข้านึกว่า...” นางละอายเกินกว่าจะกล้าพูดต่อเขาช่วยชีวิตนาง...อีกเป็นครั้งที่สอง นางกลับคิดว่าเขาจะฉวยโอกาสใช้กำลังข่มเหงรังแก ทำเรื่องที่นาง...ไม่ยินยอม...“คุณหนูเฉิน ข้าบอกเจ้าแล้ว ข้าไม่มีความจำเป็นต้องบังคับข่มเหงสตรีที่ไม่เต็มใจ” เขาแค่นหัวเราะ ก่อนกล่าวต่อไป “ทว่าเป็นเช่นนี้จะดีหรือ หากร่วมทางกันไปเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งข้าเกิดดื่มสุราเมามายจนขาดสติเล่า เจ้าจะทำอย่างไร เจ้าจะยังกล้าติดตาม ‘รับใช้’ ข้าอีกหรือ ข้าว่าเจ้ายอมกลั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 103

    วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เร็วจนเซียงหรงเองยังอดตกใจไม่ได้คืนหนึ่ง ขณะหลบฝนอยู่ในถ้ำเล็กๆ ตงหยางจุดไฟให้แสงสว่าง อากาศในถ้ำเย็นชื้น และเสื้อผ้าของพวกเขาเปียกชื้นจนต้องพาดไว้ใกล้กองไฟ เซียงหรงนั่งกอดเข่าห่างออกไปเล็กน้อย ดวงตาของนางมองเปลวไฟนิ่งราวกับตกอยู่ในห้วงภวังค์กระทั่งตงหยางมองนางด้วยสายตาขบขัน ก่อนจะเอ่ยขึ้น “เจ้าเคยคิดบ้างไหม ว่าแม้จะหนีการแต่งงาน แต่ในที่สุดเจ้าก็ต้องหาสามีอยู่ดี” เขาเอ่ยเสียงเบาเช่นเดิม “คุณหนูเฉิน เจ้ากล่าวว่าต้องการแน่ใจว่าจะสามารถส่งจดหมายถึงมือบิดาและพี่ชายที่อยู่ต่างเมือง จะทำเพียงส่งจดหมายบอกล่าวเล่าความ ไม่พบพวกเขา เจ้ามีพ่อและพี่ชายกลับคิดหนีหน้า เจ้าบอกว่ามีคู่หมั้น แต่ก็ไม่ปรารถนาที่จะแต่งงานกับคู่หมั้นผู้นั้น กลับมุ่งหมายออกบวชละกิเลสเสียมากกว่า ช่างไม่รู้เสียเลยว่าต่อให้เจ้าจะโกนผมโกนคิ้ว บุรุษที่ได้พบเห็นเจ้า พูดคุยกับเจ้า พวกเขาไหนเลยจะลืมเลือนเจ้าได้ลง เจ้าคิดว่าหากได้ออกบวช จะสามารถใช้ชีวิตอย่างสงบได้จริงหรือ” เซียงหรงเงยหน้าขึ้นมองเขา สีหน้าของนางเย็นชา “ก็ยังดีกว่ามีสามี&rdquo

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 102

    ยามบ่ายคล้อย แดดร่ม ลมตก เป็นช่วงเวลาที่เซียงหรงรู้สึกสบายเนื้อสบายตัวที่สุดในช่วงวัน พื้นอารมณ์จึงค่อนข้างดีทว่าอารมณ์ดีๆ ของนาง กลับถูกทำลายลงด้วยเสียงเฉยชาที่ดังขึ้นทำลายความเงียบ“เป็นเช่นไรล่ะ คุณหนูเฉิน ใช้ชีวิตแบบนี้สนุกดีหรือไม่ ไม่ต้องมีคนคอยรับใช้ ไม่ต้องมีที่นอนอุ่นๆ ไม่ต้องกินอาหารดีๆ ใช้สองขาเดินทาง ร่อนเร่พเนจร ค่ำไหนนอนนั่น” นั่นประไร! นางรู้ว่าเขาคงอดทนไม่ว่านางได้ไม่ถึงครึ่งชั่วยามหรอก ยิ่งในตอนที่นางกำลังมี ‘ช่วงเวลาดีๆ’ รู้สึกสบายเนื้อสบายตัวเช่นนี้ยิ่งแล้วใหญ่!เดินทางร่วมกันมาจนถึงตอนนี้ นางแทบจะนับเวลาที่เขาจะเอ่ยปากเหน็บแนมนางได้แม่นยำแล้ว!นางชำเลืองมองเขาด้วยสายตาขุ่นมัว “ไม่เห็นจะลำบากอะไร” นางตอบเสียงเรียบพลางรวบชายเสื้อที่ปลิวเพราะลมเย็นตงหยางหันมามองนาง หัวคิ้วของเขายกขึ้นเล็กน้อย “อ้อ เช่นนี้ไม่ลำบาก” เขาหัวเราะในลำคอ “เจ้านี่ช่างเป็นสตรีที่ดื้อดึงยิ่งนัก เจ้าอยากมีชีวิตแบบนี้ไปจนตายเช่นนั้นหรือ”นางหยุดเดิน หันไปสบตาเข

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 101

    “ข้าขอร้อง...” เซียงหรงเงยหน้ามองเขาด้วยดวงตาที่เริ่มแดงก่ำ “ข้าไม่มีที่ไปแล้วจริงๆ ที่บ้านของข้าในยามนี้ไม่มีใครที่ข้าจะไว้ใจได้อีก อีกทั้ง... อีกทั้งในเมืองหลวงยังมีสิ่งที่น่ากลัวมากๆ รอข้าอยู่ที่นั่น...” นางพยายามยื่นข้อเสนอ “ท่านช่วยชีวิตข้าเอาไว้ ขอเพียงท่านช่วยสะสางเรื่องที่ยังค้างคาใจและพาข้าหลบหนีจากฝันร้ายเหล่านั้น ข้ายินดีติดตามรับใช้ท่านในฐานะบ่าวคนหนึ่ง จะไม่สร้างความลำบากใดใดให้ท่านจอมยุทธสักนิด”“บ่าวคนหนึ่ง...” ชายสวมหน้ากากนิ่งเงียบไปอีกพักใหญ่ ก่อนถอนหายใจยาว “เอาเถิด หากเจ้าไม่สร้างปัญหาจริงดังปากว่า ข้าจะให้เจ้าเดินทางไปด้วย ระหว่างนั้นสบโอกาสค่อยหาทางส่งจดหมายไปถึงบิดาและพี่น้อง เรื่องคนของเจ้า สหายของข้าช่วยนางเอาไว้แล้ว”“จริงหรือ!”ได้ยินเช่นนี้ เซียงหรงโล่งใจเป็นอย่างยิ่งเขายังคงกล่าวต่อไป “ตงหลินผู้นี้เป็นสุภาพชน เชื่อถือได้ คนของเจ้าจะปลอดภัยอย่างแน่นอน หากเจ้าไม่มีความคิดอยากกลับบ้านก็ไม่ควรติดต่อ ‘คนของเจ้า’ ผู้นั้นอีก”แม้แว

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 100

    เซียงหรงมองชายแปลกหน้าเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง แม้จะรู้สึกหวาดระแวงอยู่ลึกๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชายร่างใหญ่ชุดดำสวมหน้ากากปกปิดใบหน้าผู้นี้ช่วยชีวิตนางเอาไว้ ช่วยนาง...ทั้งในตอนที่นางเสี่ยงชีวิตกระโดดลงมาจากหน้าผาสูงชัน และตอนนี้สายตาของเฉินเซียงหรงกวาดมองไปรอบๆ อีกครั้งกระท่อมหลังนี้ดูเหมือนจะถูกปล่อยทิ้งร้างมานานแล้ว โต๊ะไม้ที่วางตะเกียงอยู่มีรอยถลอกลึก มุมหนึ่งของผนังมีช่องโหว่ที่ลมพัดผ่านเข้ามาได้ ดังนั้น นอกจากกลิ่นสาบภายในกระท่อมแล้ว ยามนี้นางได้กลิ่นสนเขาอ่อนๆ ลอยมากับสายลมนางเริ่มรู้สึกถึงความเย็นของกระแสลมที่กัดกินเนื้อหนัง“ข้าจะจดจำบุญคุณครั้งนี้ไว้จนวันตาย...ข้าจำได้ว่าคล้ายจะเห็นท่านพลิ้วตัวมารับร่างข้าไว้ก่อนจะตกลงไปในแม่น้ำ ท่านเป็นจอมยุทธ์ใช่หรือไม่ จึงสามารถช่วยข้าไว้ได้เช่นนี้” นางถาม น้ำเสียงเจือความขอบคุณเขาไม่ตอบไม่เพียงไม่ตอบ ยังเบนสายตาไปทางอื่นด้วยซ้ำดวงตาที่มองลอดหน้ากากนั้นยังคงนิ่งลึกท่าทางเช่นนี้...ดูๆ ไปแล้ว ก็คล้ายองครักษ์ที่รับหน้าที่ติดตามคุ้มกันนางเช่นกันหรือว่า...นางอดถามไม่ได้ “ท่านคือองครักษ์จากตำหนักจวิ้นหวังที่คอยติดตามคุ้มกันข้าหรือ?”“ไม่ใช

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 99

    ยามเมื่อเซียงหรงค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา นางรู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นที่แทรกซึมผ่านผิวกาย แสงไฟจากตะเกียงน้ำมันเล็กๆ บนโต๊ะไม้ส่องประกายริบหรี่สะท้อนเงามืดบนผนังไม้ที่แตกร้าวราวกับภาพเขียนที่น่าขนลุกภาพหนึ่ง รอบตัวนางในยามนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงลมที่พัดผ่านช่องว่างของกระท่อมเก่าคร่ำคร่า“ท่านแม่...” นางยังรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากอ้อมกอดมารดาด้วยซ้ำทว่า... เพียงฝันไปหรอกหรือ?“ที่นี่ที่ไหน...” นางพึมพำแผ่วเบา รู้สึกร้าวระบมไปทั่วทั้งตัว เมื่อมองไปรอบๆ ก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเสื่อเก่าขาด มีหมอนสีดำสนิทที่คล้ายจะทำขึ้นมาด้วยการเอาเสื้อคลุมเปียกๆ ตัวหนึ่งมาหุ้มฟางรองศีรษะ กลิ่นอับของไม้ผุและฝุ่นทำให้นางแสบจมูกจนแทบทนไม่ไหวดวงตาของนางเลื่อนไปหยุดที่ร่างของชายคนหนึ่ง เขาสวมชุดสีดำทั้งตัว ใบหน้าครึ่งบนกว่าแปดส่วน[1]ถูกปกปิดด้วยหน้ากากโลหะรูปพยัคฆ์ เผยให้เห็นเพียงดวงตาคมดุสะท้อนแสงไฟสลัวเหมือนตาของสัตว์ร้ายเซียงหรงสะดุ้งเล็กน้อย ความหวาดกลัวไหลย้อนกลับมาบีบรัดหัวใจของนางไว้แน่นเสื้อคลุมที่ใช้ทำเป็นหมอนยังคงเปียกชุ่ม เสื้อผ้าผมเพ้าของคนผู้นี้เองก็ไม่ต่างกัน...สังเกตได้เท่านี้เฉินเซียงหรงก็ห

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status