Share

บทที่ 82

Penulis: Karawek House
last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-18 07:35:20

ชั่วขณะแรกที่เปิดประตูเข้ามาเห็นว่าบนเตียง มีสตรีผิวขาวจัดรูปร่างอ้อนแอ้นบอบบางนอนแนบชิดอยู่ในอ้อมกอด ‘บ่าวรับใช้’ ซ้ำในห้องยังอัดแน่นไปด้วยกลิ่นกามาน่ารังเกียจ หานชิงเยว่และเฉินชิวเยว่ดีใจนัก

เสียงกรีดร้องเรียก ‘น้องสาม’ เมื่อครู่ แปดส่วนคือความยินดี อีกสองส่วนที่เหลือคือความตกใจ...ตกใจที่แผนการครั้งนี้สำเร็จง่ายดายนัก! เท่านี้น้องสามสารเลวสมควรตายก็ไม่สามารถเผยอหน้ามาชิงดีชิงเด่นกับนางได้อีก

ในบรรดาบุตรสาวทั้งหมดของจวนกั๋วกง แต่ไหนแต่ไร นางคือผู้ที่เป็นที่กล่าวขวัญถึงมากที่สุด หากไม่ใช่เพราะน้องสามสารเลวผู้นี้ทรยศนาง ทุกสิ่งที่เฉินเซียงหรงแย่งชิงไป ย่อมต้องตกเป็นของนางอย่างไม่ต้องสงสัย

ทุกอย่าง...ตั้งแต่ความรักหวงแหนปกป้องของบิดา

...สถานะโฉมงามยอดเมธี

...ปิ่นหงส์ทองคำและข้าวของล้ำค่าที่ฝ่าบาทและหวงโฮ่วพระราชทาน

...วาสนาดีๆ ในการแต่งงานออกเรือน...ซึ่งอาจรวมถึงตำแหน่ง ‘ว่าที่จวิ้นหวังเฟย’ และสินสอดทั้งหมด ตั้งแต่เครื่องประดับมงคลล้ำค่า อัญมณีน้ำงามจากทั่วทุกทิศ แพรพรรณชั้นดีที่ต่อให้มีเงินมากมายเพียงใดก็หาซื้อไม่ได้นับพับไม่ถ้วน ทองคำแท่งที่หนักเสียจนต้องใช้คนหาบมา ไหนจะยังมีตั๋วเงินใบละแสนตำลึงอีกตั้งไม่รู้กี่ฉบับในกล่องหยกขาวมันแพะค่าควรเมืองใบใหญ่

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ล้วนสมควรเป็นของนางทั้งสิ้น

เป็นเจ้าที่ผิดต่อข้าก่อน เฉินชิวเยว่จ้องมองร่างเปลือยเปล่าที่ห่อหุ้มไว้ด้วยผ้าห่มอย่างลวกๆ ของน้องสาวต่างมารดาอย่างสาแก่ใจยิ่ง ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะเจ้าผิดต่อข้า...ผิดตั้งแต่เกิดมาแล้ว!

หานชิงเยว่และเฉินชิวเยว่ดีใจจนแทบคลั่ง แต่กลับเก็บสีหน้าได้อย่างมิดเม้น ยามนี้พวกนางทั้งสองดูเดือดเนื้อร้อนใจดังไฟลน

เฉินกั๋วกงถูกคำว่า ‘น้องสาม’ ทำให้หัวสมองด้านชาไปหมด ความเจ็บแปลบแล่นเข้าเล่นงานหัวใจเฉียบพลันจนแทบยั้งยืนไม่อยู่ ได้แต่ฝืนข่มความทรมาน พยายามคิดอ่านแก้ไขสถานการณ์ให้บุตรสาว

ไม่ควรเป็นเช่นนี้เลย...เรื่องร้ายๆ ก่อนเก่าเพิ่งจะจางหาย เหตุใดจึงเกิดเรื่องใหม่ขึ้นมาอีกเช่นนี้! เฉินกั๋วกงทั้งเจ็บปวด ทั้งสมเพชตนเอง ที่อุตส่าห์มุมานะร่ำเรียนจนได้ดี ทว่ากลับมีความรู้เสียเปล่า ปกป้องบุตรสาวและคนรักไม่เคยได้ ยามนี้เขารู้สึกไร้เรี่ยวแรงกำลังเหมือนอายุไขถูกสูบออกไปหลายปี

เฉินกั๋วกงรู้สึกคล้ายเลือดลมตีกลับ ขณะซวนเซ ร่างกายเอียงวูบ ก็ได้มือเล็กๆ ดูบอบบางคู่หนึ่งก็มาช่วยจับประคองเอาไว้

“ท่านพ่อ!” เซียงหรงตกใจจนเผลอร้องออกมา “ท่านพ่อ เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้!”

เพียงได้ยินเสียงบุตรสาว เฉินกั๋วกงพลันได้สติ

“หรงเอ๋อร์!”

“เจ้าค่ะ เป็นลูกเอง” เฉินเซียงหรงไม่ใช่ไม่เข้าใจสถานการณ์ในยามนี้ ทว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนางแล้วไม่ใช่ชื่อเสียง แต่เป็นบิดา

“หากคุณหนูสามอยู่ตรงนี้...แล้วที่อยู่ด้านใน...” อนุจางอดสงสัยไม่ได้

เอ่ยออกมาแล้ว นางก็พลันสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา

แต่ไหนแต่ไรมา หานชิงเยว่และสกุลหาน แม้ผิวเผินดูดีต่อคนสกุลจางและซู ทว่าลึกๆ แล้ว คนเหล่านี้ก็ไม่ได้ดีไปกว่านาง ล้วนปากอย่างใจอย่าง ทั้งยังสามารถพลิกลิ้นกลับดำเป็นขาว กลับขาวเป็นดำได้ซึ่งๆ หน้า

หลายวันมานี้บุตรสาวทั้งสองคนของนางดูเก็บเนื้อเก็บตัวเป็นพิเศษ นางเคยเข้าใจว่าเป็นเพราะยามนี้สกุลจางเกิดเรื่อง พวกนางจึงรู้สึกอับอายจนไม่กล้าสู้หน้าคนในจวน ทว่าหากไม่ใช่เช่นนั้นเล่า? หากอนุหานและเฉินชิวเยว่คุกคามรังแกบุตรสาวของนางเล่า? หากเฉินชิวเยว่คิดร้ายต่อบุตรสาวของนางที่ยามนี้ตระกูลข้างมารดาตกที่นั่งลำบาก ไม่อาจออกหน้าปกป้องใดใดได้เล่า?

นางกวาดสายตามองหาบุตรสาว เมื่อเห็นเพียงบุตรสาวคนเล็กก็ยิ่งตื่นตระหนกจนฝืนรักษาสีหน้าสงวนท่าทีไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว จางเหม่ยเหมยรีบวาดมือผลักเหล่าคนที่ขวางทาง พุ่งตามเข้าไปในห้องด้วยหัวใจเต้นระรัว

สตรีผิวขาวร่างอ้อนแอ้นเรือนผมยาวเหยียดที่นอนแนบชิดอยู่ในอ้อมกอดบ่าวชายร่างใหญ่รู้สึกตัวตื่นขึ้นพอดี นางบิดตัวเข้าซบบ่าวรับใช้ที่ยังคงหลับสนิท ครางเสียงเบา

จางเหม่ยเหมยรู้สึกเหมือนหัวใจหล่นวูบ

รูปร่างนั่น...เสียงนั่น...

เป็นบุตรสาวนาง!

เหตุใด...เหตุใด...

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 104

    ไม่ทันที่นางจะได้ขยับตัว ตงหยางที่รัดท่อนแขนตัวเองเอาไว้อย่างแน่นหนาก็ก้มลงดูดที่แผลของตนเอง ดูดแล้วก็พ่นเลือดสีคล้ำเข้มออกมา ดูด แล้วก็พ่นเลือดสีคล้ำเข้มออกมา ทำวนซ้ำอยู่อย่างนี้จนเลือดที่ดูดออกมาจากปากแผลเป็นสีแดงสด ถึงยอมหยุดมือเขาปล่อยให้สายรัดเอวที่รัดท่อนแขนอยู่ค่อยๆ คลายออกเอง กระถดเข้าไปนั่งชิดผนัง ก่อนถอนหายใจออกมาตงหยางเหลียวมองซากงูตัวนั้นอีกครั้ง ก่อนจะตวัดสายตามองเฉินเซียงหรง เอ่ยอย่างหัวเสีย“ดีเหลือเกิน ข้าบอกให้อยู่นิ่งๆ เจ้าก็รีบขยับตัวทันที!”“ก็ข้านึกว่า...” นางละอายเกินกว่าจะกล้าพูดต่อเขาช่วยชีวิตนาง...อีกเป็นครั้งที่สอง นางกลับคิดว่าเขาจะฉวยโอกาสใช้กำลังข่มเหงรังแก ทำเรื่องที่นาง...ไม่ยินยอม...“คุณหนูเฉิน ข้าบอกเจ้าแล้ว ข้าไม่มีความจำเป็นต้องบังคับข่มเหงสตรีที่ไม่เต็มใจ” เขาแค่นหัวเราะ ก่อนกล่าวต่อไป “ทว่าเป็นเช่นนี้จะดีหรือ หากร่วมทางกันไปเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งข้าเกิดดื่มสุราเมามายจนขาดสติเล่า เจ้าจะทำอย่างไร เจ้าจะยังกล้าติดตาม ‘รับใช้’ ข้าอีกหรือ ข้าว่าเจ้ายอมกลั

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 103

    วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เร็วจนเซียงหรงเองยังอดตกใจไม่ได้คืนหนึ่ง ขณะหลบฝนอยู่ในถ้ำเล็กๆ ตงหยางจุดไฟให้แสงสว่าง อากาศในถ้ำเย็นชื้น และเสื้อผ้าของพวกเขาเปียกชื้นจนต้องพาดไว้ใกล้กองไฟ เซียงหรงนั่งกอดเข่าห่างออกไปเล็กน้อย ดวงตาของนางมองเปลวไฟนิ่งราวกับตกอยู่ในห้วงภวังค์กระทั่งตงหยางมองนางด้วยสายตาขบขัน ก่อนจะเอ่ยขึ้น “เจ้าเคยคิดบ้างไหม ว่าแม้จะหนีการแต่งงาน แต่ในที่สุดเจ้าก็ต้องหาสามีอยู่ดี” เขาเอ่ยเสียงเบาเช่นเดิม “คุณหนูเฉิน เจ้ากล่าวว่าต้องการแน่ใจว่าจะสามารถส่งจดหมายถึงมือบิดาและพี่ชายที่อยู่ต่างเมือง จะทำเพียงส่งจดหมายบอกล่าวเล่าความ ไม่พบพวกเขา เจ้ามีพ่อและพี่ชายกลับคิดหนีหน้า เจ้าบอกว่ามีคู่หมั้น แต่ก็ไม่ปรารถนาที่จะแต่งงานกับคู่หมั้นผู้นั้น กลับมุ่งหมายออกบวชละกิเลสเสียมากกว่า ช่างไม่รู้เสียเลยว่าต่อให้เจ้าจะโกนผมโกนคิ้ว บุรุษที่ได้พบเห็นเจ้า พูดคุยกับเจ้า พวกเขาไหนเลยจะลืมเลือนเจ้าได้ลง เจ้าคิดว่าหากได้ออกบวช จะสามารถใช้ชีวิตอย่างสงบได้จริงหรือ” เซียงหรงเงยหน้าขึ้นมองเขา สีหน้าของนางเย็นชา “ก็ยังดีกว่ามีสามี&rdquo

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 102

    ยามบ่ายคล้อย แดดร่ม ลมตก เป็นช่วงเวลาที่เซียงหรงรู้สึกสบายเนื้อสบายตัวที่สุดในช่วงวัน พื้นอารมณ์จึงค่อนข้างดีทว่าอารมณ์ดีๆ ของนาง กลับถูกทำลายลงด้วยเสียงเฉยชาที่ดังขึ้นทำลายความเงียบ“เป็นเช่นไรล่ะ คุณหนูเฉิน ใช้ชีวิตแบบนี้สนุกดีหรือไม่ ไม่ต้องมีคนคอยรับใช้ ไม่ต้องมีที่นอนอุ่นๆ ไม่ต้องกินอาหารดีๆ ใช้สองขาเดินทาง ร่อนเร่พเนจร ค่ำไหนนอนนั่น” นั่นประไร! นางรู้ว่าเขาคงอดทนไม่ว่านางได้ไม่ถึงครึ่งชั่วยามหรอก ยิ่งในตอนที่นางกำลังมี ‘ช่วงเวลาดีๆ’ รู้สึกสบายเนื้อสบายตัวเช่นนี้ยิ่งแล้วใหญ่!เดินทางร่วมกันมาจนถึงตอนนี้ นางแทบจะนับเวลาที่เขาจะเอ่ยปากเหน็บแนมนางได้แม่นยำแล้ว!นางชำเลืองมองเขาด้วยสายตาขุ่นมัว “ไม่เห็นจะลำบากอะไร” นางตอบเสียงเรียบพลางรวบชายเสื้อที่ปลิวเพราะลมเย็นตงหยางหันมามองนาง หัวคิ้วของเขายกขึ้นเล็กน้อย “อ้อ เช่นนี้ไม่ลำบาก” เขาหัวเราะในลำคอ “เจ้านี่ช่างเป็นสตรีที่ดื้อดึงยิ่งนัก เจ้าอยากมีชีวิตแบบนี้ไปจนตายเช่นนั้นหรือ”นางหยุดเดิน หันไปสบตาเข

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 101

    “ข้าขอร้อง...” เซียงหรงเงยหน้ามองเขาด้วยดวงตาที่เริ่มแดงก่ำ “ข้าไม่มีที่ไปแล้วจริงๆ ที่บ้านของข้าในยามนี้ไม่มีใครที่ข้าจะไว้ใจได้อีก อีกทั้ง... อีกทั้งในเมืองหลวงยังมีสิ่งที่น่ากลัวมากๆ รอข้าอยู่ที่นั่น...” นางพยายามยื่นข้อเสนอ “ท่านช่วยชีวิตข้าเอาไว้ ขอเพียงท่านช่วยสะสางเรื่องที่ยังค้างคาใจและพาข้าหลบหนีจากฝันร้ายเหล่านั้น ข้ายินดีติดตามรับใช้ท่านในฐานะบ่าวคนหนึ่ง จะไม่สร้างความลำบากใดใดให้ท่านจอมยุทธสักนิด”“บ่าวคนหนึ่ง...” ชายสวมหน้ากากนิ่งเงียบไปอีกพักใหญ่ ก่อนถอนหายใจยาว “เอาเถิด หากเจ้าไม่สร้างปัญหาจริงดังปากว่า ข้าจะให้เจ้าเดินทางไปด้วย ระหว่างนั้นสบโอกาสค่อยหาทางส่งจดหมายไปถึงบิดาและพี่น้อง เรื่องคนของเจ้า สหายของข้าช่วยนางเอาไว้แล้ว”“จริงหรือ!”ได้ยินเช่นนี้ เซียงหรงโล่งใจเป็นอย่างยิ่งเขายังคงกล่าวต่อไป “ตงหลินผู้นี้เป็นสุภาพชน เชื่อถือได้ คนของเจ้าจะปลอดภัยอย่างแน่นอน หากเจ้าไม่มีความคิดอยากกลับบ้านก็ไม่ควรติดต่อ ‘คนของเจ้า’ ผู้นั้นอีก”แม้แว

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 100

    เซียงหรงมองชายแปลกหน้าเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง แม้จะรู้สึกหวาดระแวงอยู่ลึกๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชายร่างใหญ่ชุดดำสวมหน้ากากปกปิดใบหน้าผู้นี้ช่วยชีวิตนางเอาไว้ ช่วยนาง...ทั้งในตอนที่นางเสี่ยงชีวิตกระโดดลงมาจากหน้าผาสูงชัน และตอนนี้สายตาของเฉินเซียงหรงกวาดมองไปรอบๆ อีกครั้งกระท่อมหลังนี้ดูเหมือนจะถูกปล่อยทิ้งร้างมานานแล้ว โต๊ะไม้ที่วางตะเกียงอยู่มีรอยถลอกลึก มุมหนึ่งของผนังมีช่องโหว่ที่ลมพัดผ่านเข้ามาได้ ดังนั้น นอกจากกลิ่นสาบภายในกระท่อมแล้ว ยามนี้นางได้กลิ่นสนเขาอ่อนๆ ลอยมากับสายลมนางเริ่มรู้สึกถึงความเย็นของกระแสลมที่กัดกินเนื้อหนัง“ข้าจะจดจำบุญคุณครั้งนี้ไว้จนวันตาย...ข้าจำได้ว่าคล้ายจะเห็นท่านพลิ้วตัวมารับร่างข้าไว้ก่อนจะตกลงไปในแม่น้ำ ท่านเป็นจอมยุทธ์ใช่หรือไม่ จึงสามารถช่วยข้าไว้ได้เช่นนี้” นางถาม น้ำเสียงเจือความขอบคุณเขาไม่ตอบไม่เพียงไม่ตอบ ยังเบนสายตาไปทางอื่นด้วยซ้ำดวงตาที่มองลอดหน้ากากนั้นยังคงนิ่งลึกท่าทางเช่นนี้...ดูๆ ไปแล้ว ก็คล้ายองครักษ์ที่รับหน้าที่ติดตามคุ้มกันนางเช่นกันหรือว่า...นางอดถามไม่ได้ “ท่านคือองครักษ์จากตำหนักจวิ้นหวังที่คอยติดตามคุ้มกันข้าหรือ?”“ไม่ใช

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 99

    ยามเมื่อเซียงหรงค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา นางรู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นที่แทรกซึมผ่านผิวกาย แสงไฟจากตะเกียงน้ำมันเล็กๆ บนโต๊ะไม้ส่องประกายริบหรี่สะท้อนเงามืดบนผนังไม้ที่แตกร้าวราวกับภาพเขียนที่น่าขนลุกภาพหนึ่ง รอบตัวนางในยามนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงลมที่พัดผ่านช่องว่างของกระท่อมเก่าคร่ำคร่า“ท่านแม่...” นางยังรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากอ้อมกอดมารดาด้วยซ้ำทว่า... เพียงฝันไปหรอกหรือ?“ที่นี่ที่ไหน...” นางพึมพำแผ่วเบา รู้สึกร้าวระบมไปทั่วทั้งตัว เมื่อมองไปรอบๆ ก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเสื่อเก่าขาด มีหมอนสีดำสนิทที่คล้ายจะทำขึ้นมาด้วยการเอาเสื้อคลุมเปียกๆ ตัวหนึ่งมาหุ้มฟางรองศีรษะ กลิ่นอับของไม้ผุและฝุ่นทำให้นางแสบจมูกจนแทบทนไม่ไหวดวงตาของนางเลื่อนไปหยุดที่ร่างของชายคนหนึ่ง เขาสวมชุดสีดำทั้งตัว ใบหน้าครึ่งบนกว่าแปดส่วน[1]ถูกปกปิดด้วยหน้ากากโลหะรูปพยัคฆ์ เผยให้เห็นเพียงดวงตาคมดุสะท้อนแสงไฟสลัวเหมือนตาของสัตว์ร้ายเซียงหรงสะดุ้งเล็กน้อย ความหวาดกลัวไหลย้อนกลับมาบีบรัดหัวใจของนางไว้แน่นเสื้อคลุมที่ใช้ทำเป็นหมอนยังคงเปียกชุ่ม เสื้อผ้าผมเพ้าของคนผู้นี้เองก็ไม่ต่างกัน...สังเกตได้เท่านี้เฉินเซียงหรงก็ห

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status