สามคนสนิทหิ้วปีกแม่ทัพใหญ่ผู้มั่นใจในรักแท้ของสาวคนรักที่ได้ยินความจริงทั้งสองหูมองเห็นทั้งสองตาของตัวเองและเสียใจที่สุดก็คือ หูตามืดบอดทำร้ายชีวิตผู้หญิงอีกคนที่คิดว่ารักตัวเองจนเลือกฟังความข้างเดียว
ไม่ว่าอีกคนจะอธิบายเช่นไรก็หาได้ใส่ใจไม่เฝ้าโทษแต่ความผิดของเธอแต่ในตอนนี้วันนี้ยังเขียนหนังสือหย่าให้กับภรรยาของตัวเอง ยังไม่พอพูดจาดูถูกว่าหญิงหม้ายแล้วใครจะมารับเป็นเมียต่อ คาดไม่ถึงว่านางก็ใจเด็ดยิ่งนักเขาก็แค่ขู่ไม่คิดเลยว่าภรรยาก็เต็มใจรับใบหย่าไปจริงๆทั้งๆที่นางก็คือเหยื่อของสองแม่ลูกนั้นเหมือนกัน พอมาถึงที่จวนของตัวเอง ก็บอกคนสนิทพาไปที่ เรือนของฮูหยินที่อยู่เกือบท้ายจวน สามองครักษ์มองหน้ากันแต่ก็พาเจ้านายไปที่เรือน ที่ใช้เป็นเรือนหอเมื่อคืน ของอดีตฮูหยินตามที่ท่านแม่ทัพสั่ง โจวหลี่เฉิงเดินเข้าเรือนเหมือนร่างที่ไร้วิญญาณสมควรให้นางด่าทุกอย่างเซียเสี่ยวหลาน "ข้าจะทำเช่นไรดีจะได้เจ้ากลับคืนมาที่จวนได้อีก" แม่ทัพใหญ่ได้แต่ค่ำครวญในใจ มองเรือนหอที่จัดไว้ให้กับภรรยาของตัวเองเรือนนอนสองห้องหนึ่งห้องโถงห้องครัวเล็กอยู่กับสาวใช้สองคนที่อยู่ถัดไปอีกหลัง เขามันโง่เอง เรือนหลักเลือกไว้ให้กับหญิงคนรักแต่อีกคนที่ไม่รักให้อยู่ที่เรือนเกือบท้ายจวน เขาช่างเป็นผู้ชายที่น่ารังเกียจเหลือเกินโจวหลี่เฉิงเดินเข้าไปในห้องของฮูหยินเก่าได้แต่สะท้อนใจ หมอนสองใบบนเตียงนอนที่ไม่ใหญ่มากนอนได้แค่สองคนพอดี เพราะเขาไม่คิดจะมานอนที่นี้กับภรรยาที่ได้มาอย่างไม่ได้ตั้งใจและไม่ต้องการแม่ทัพเดินขึ้นไปนอนบนเตียงที่คิดว่าจะไม่มาที่นี้อีกหลังจากเข้าหอผ่านไปเมื่อคืนนี้ เป็นเขาที่รังแกเซี่ยเสี่ยวหลานทั้งคืนที่บอกว่าแค่จะมาทำให้นางแค้นใจที่ทำคนรักของเขาเสียใจแต่เป็นตัวของเขาเองที่อดใจที่จะไม่จับนางกิน เขาคิดแค่ว่าในเมื่อแต่งเข้ามาแล้วก็แค่ทำหน้าที่ให้จบๆไปถึงจะไม่มีความรัก แต่ก็ได้เสียเป็นเมียมาแล้วและก็ยังติดใจตั้งแต่ครั้งแรกที่โดนวางยาแต่หมดฤทธิ์ยาก็คือตั้งใจทำทุกรอบรวมถึงเมื่อคืนนี้ที่เข้าหอจนถึงยามเหมาจึงปล่อยให้ภรรยานอนต่อ พอถึงเที่ยงก็ต้องเสียนางไปเสียแล้วจะโทษใครนอกจากตัวเองที่โง่งมอย่างที่นางบอก แม่ทัพหนุ่มนอนลงที่เก่าของฮูหยิน ก้มลงดมกลิ่นหอมที่ติดหมอนให้สะท้อนใจ ผ้าห่มที่ห่มให้ภรรยาก่อนออกจากห้องหอตอนที่นางหลับ โจวหลี่เฉิงน้ำตาไหลรินสะอื่นไห้ ใครจะคิดว่าแม่ทัพใหญ่ก็มีวันเสียใจเหมือนกันในความผิดพลาดและความโง่เขล่า เขาหลับตาอย่างทรมานกว่าจะนอนหลับที่ห้องเก่าของเซี่ยเสี่ยวหลานจนถึงเช้า โจวหลี่เฉิงตื่นมาตอนเช้าในเรือนของอดีตฮูหยิน กินอาหารเช้าที่นี้เลยและสั่งพ่อบ้านให้เตรียมสินสอดที่เตรียมไว้ให้กับสาวคนรักว่าให้ส่งไปที่จวนของบิดาของเซียเสี่ยวหลานเพราะเขาให้สินสอดนางแค่ห้าสิบหีบเองส่วนของที่ดีอีกร้อยหีบที่เตรียมแต่งจือเหลียนเม่ย เขาชั่งน่าสมเพชอย่างเซียเสี่ยวหลานด่าเขาเมื่อวานนี้จริงๆ ส่วนสองแม่ลูกนั้นเขาจะเอาคืนให้อย่างสาสมแน่นอนโจวหลี่เฉิงคิดเขากำมือด้วยความแค้นใจที่ตามมารยาหญิงไม่ทัน เก่งแต่ในสนามรบ แต่สนามรักโดนคนรักหักหลังบทเรียนนี้มันแลกมาด้วยความแค้นเกินกว่าจะให้อภัย "เตรียมเสร็จแล้วไปกันที่จวนของอดีตพ่อตาเซื่ยต้าเหิง ข้าจะเอาสินสอดไปเพิ่มกับเซี่ยเสี่ยวหลานเพิ่มเมื่อวานนี้มันน้อยไป" แม่ทัพโจวบอกพ่อบ้านให้รีบไปจัดการโดยเร็ว "ถ้าจัดเสร็จแล้วมาแจ้งด้วย ข้าจะไปที่จวนของฮูหยินด้วยตัวเอง" แม่ทัพสั่ง "อืมพ่อบ้านช่วยบอกบ่าวทุกคนด้วยว่าจวนของข้ามีฮูหยินคนเดียวชื่อเซี่ยเสี่ยวหลานเท่านั้นและจะมีนางเพียงคนเดียวตลอดไป" เขาสั่งก่อนจะเดินเข้าไปในห้องหอเพื่อรอให้พ่อบ้านจัดของให้เรียบร้อย ส่วนเสื้อผ้าเป็นคนสนิทไปเตรียมมาให้อาบน้ำกินนอนที่เรือนเก่าของเซี่ยเสี่ยวหลาน ที่จวนของท่านนายท่านเซี่ยต้าเหิงตอนนี้หลังจากกินมื้อเช้าอิ่มกับบุตรสาวแล้ว ก็นั่งทำบัญชีในห้องหนังสือจากร้านค้าที่ไปส่งสินค้าต่างเมืองกลับมาจึงจะเคลียงานให้จบๆไป ท่านเห็นลูกสาวกลับมาจวนตั้งแต่แต่งเข้าไปวันแรกก็โกรธแม่ทัพโจวหลี่เฉิงเป็นอย่างมากแต่บุตรสาวบอกว่า "ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นให้อยู่เฉยๆเดี๋ยวจะดีเองเจ้าค่ะท่านพ่อ ลูกไม่เป็นไรสบายดีไม่ได้รักใคร่ชอบพอที่ผ่านมาถือซะว่าใช้กรรม จะได้ไม่ต้องเกิดมาพบเจอกันอีกเจ้าค่ะ ท่านพ่อ" เซียเสี่ยวหลานพูดกับบิดา ตอนนี้สองพ่อลูกช่วยกันทำบัญชีในห้องทำงานของบิดา เซียเสี่ยวหลานอยากช่วยบิดาทำงานให้เสร็จเพราะท่านเหนื่อยมามากพอแล้ว ไหนจะต้องออกไปที่ร้านผ้าที่ตลาดอีก เมื่อก่อนเซียเสี่ยวหลานก็เคยไปช่วยงานบิดาที่ร้านผ้าเหมือนกัน มีพักหลังที่นางหัดปักผ้าวาดแบบผ้าอยู่ที่จวนและทำอาหารรอบิดาตั้งแต่ที่มารดาเสียชีวิตไป ก็ทำให้สาวน้อยเก็บตัวอยู่ที่จวนเป็นส่วนใหญ่จึงไม่คอยมีคนพบเจอเซี่ยเสี่ยวหลานมาสามสี่ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเพราะเสียใจที่บิดาพานางจือให่ถงกับลูกเข้ามาในจวน สองแม่ลูกเจ้ากี้เจ้าการทุกอย่างในจวนจนนางเข้าใจบิดาผิดที่พาเมียใหม่เข้าจวนจึงทำให้พ่อลูกห่างกันพักใหญ่ จนบิดาบอกความจริงทุกอย่าง นางจึงเข้าใจบิดาและขออยู่ที่จวนไม่ออกไปไหนจึงทำให้สองแม่ลูกอ้างตัวว่าตัวเองเป็นคนโปรดของบิดากระทำการทำร้ายนาง ตอนที่บิดาออกไปต่างเมืองเพื่อส่งสินค้าเองและไปคุยงานใหญ่ในต่างเมืองในหลายปีที่ผ่านมา ยามอู่พ่อบ้านเข้ามาบอกนายท่านว่า "ท่านแม่ทัพมาขอพบและนำสินสอดมาเพิ่มให้คุณหนูอีกขอรับ" บิดามองหน้าลูกสาว เซี่ยเสี่ยวหลานพยักหน้าบอกเชิงว่านางไม่เป็นอะไร "หลานเอ๋อร์จะรับของเขาอีกหรือลูก เมื่อวานให้มาห้าสิบหีบช่างขายหน้ายิ่งนักที่เขาดูถูกลูกสาวของพ่อ ถึงไม่แต่งออกพ่อก็เลี้ยงดูลูกสาวของพ่อได้หยามกันขนาดนี้ยังกล้ามาอีกหรือข้าว่าจะไม่เอาเรื่องแล้วนะ" เสียงบิดาเอ่ยขึ้นเสียงดังลั่นจวนจนบ่าวไพ่ตกใจกลัว "ใจเย็นเจ้าค่ะท่านพ่อเจ้าคะเอาสิเจ้าคะเขาเอาเงินมาให้เรื่องอะไรจะไม่เอาจริงไหมเจ้าคะ เรื่องอะไรจะให้ฟันฟรีๆตั้งสองคืนเจ้าคะ" เซี่ยเสี่ยวหลานพูดหน้าตาเฉยจนบิดากระแอ่มเตือนเบาๆลูกสาววเชิงพูดไม่งามตรงเกินลูกเซี่ยเสี่ยวหลานจึงเกาแด้มแก้เก้อ ที่บิดากระแอ่มเตือนยิ้มแห้งๆให้บิดาและพูดว่า "ก็มันจริงนี้เจ้าคะท่านพ่อ" "ลูกจะไปด้วยไหม" บิดาถาม "ไม่เจ้าค่ะลูกจะทำงานรอที่นี้เชิญท่านพ่อไปรับมาแทนลูกเลยเจ้าคะ ท่านพ่อบ้านท่านไปเปิดห้องคลังสมบัติอย่างเร็วเลยนะเจ้าคะ" รวยแล้วเราหึๆเขากล้าเอามาเราก็กล้ารับ เอามาให้หมดจวนเลยยิ่งดีเซียเสี่ยวหลานคิด แม่ทัพโจวหลี่เฉิงนั่งรอที่ห้องโถงที่รับแขกมีบ่าวเอาน้ำชาและขนมมารับรองเรียบร้อย รอก็แต่นายท่านเจ้าของจวนมาพูดคุยของแม่ทัพใหญ่ก็เท่านั้น "ไม่ทราบว่าท่านแม่ทัพใหญ่มาถึงที่จวนของข้า มีเรื่องอะไรอีกหรือ" นายท่านเซียถามทันทีที่มาถึงห้องโถง แม่ทัพโจวลุกขึ้นทำความเคารนายท่านเซียอย่างนอบน้อมและคุกเข่าลงขอโทษนายท่านเซี่ย "ท่านพ่อตา ข้ายอมรับผิดทั้งหมดเรื่องที่เกิดขึ้น จนถึงการหย่ากับเซียเสี่ยวหลานที่ข้าไม่ฟังที่นางบอก ยังตามืดบอดจนเขียนใบหย่านาง วันนี้ข้าสำนึกผิดทุกอย่างขอรับท่านพ่อตาโปรดให้อภัยคนโง่เขลาอย่างข้าด้วยเถิดขอรับ วันนี้นำหีบสินสอดมาให้กับฮูหยินเพื่อขอโทษที่ใจร้อนและไม่มีเหตุผลหูเบาเชื่อคำลวงของซือเหลียนเม่ยจนโดนวางยาในจวนของตัวเอง ยังโดนจัดฉากเพราะนางไม่ต้องการแต่งงานกับข้าขอรับท่านพ่อตา เป็นข้าที่ผิดต่อเซียเสี่ยวหลานทั้งหมดและไม่ขอแก้ตัวใดๆทั้งสิ้นขอรับท่านพ่อตา"วันเวลาหนุนเวียนไปผ่านไปตอนนี้สองแฝดอายุได้สองขวบกว่าๆแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานกำลังตั้งครรภ์ได้สี่เดือนกว่าแล้วเช่นเดียวกันสร้างความดีใจให้กับแม่โจวหลี่เฉิงเป็นอย่างมากที่ทำลูกเพิ่มได้อีกในครรภ์ของฮูหยินสาวคนสวยของท่านแม่ทัพแทบจะไม่ให้นางทำอะไรเลย เพียงแค่ฮูหยินขยับตัวแม่ทัพหนุ่มก็จะลุกขึ้นประคองทันทีและคอยช่วยงานแทนฮูหยินทุกสิ่งอย่าง จนเซี่ยเสี่ยวหลานต้องบอกสามี"น้องไม่ได้เป็นง่อยเจ้าค่ะท่านพี่ให้น้องทำอะไรบ้างเถอะเจ้าค่ะ ข้ารับรองว่าจะไม่ทำเกินแรงของตัวเองอย่างแน่นอนนะเจ้าค่ะท่านพี่""ได้พี่ตามใจน้องทุกอย่างแต่ขอให้พี่ได้อยู่ดูแลตอนน้องตั้งท้องลูกของพี่บ้างนะเพราะสองแฝดพี่ก็ติดรบกับข้าศึกที่ชายแดน กว่าจะได้มาตอนที่น้องคลอดลูกในวันนั้นพอดี ท้องนี้พี่จะดูแลน้องอย่างดีเลยท้องนี้พี่จะดูและไม่ให้คลาดสายตาเลย" แม่ทัพโจวหลี่เฉิงพูดกับฮูหยินคนสวยอย่างเอาใจจนเซี่ยเสี่ยวหลานส่ายหัวในความเห่อของสามีตอนนี้เจ้าสองแฝดพี่น้องแทบจะไปนอนกับบิดาของนางทุกคืนอยู่แล้วตื่นมาตอนเช้าถ้าจบมื้อเช้าก็จะไปเรียนกับอาจารย์ที่บิดาหามาให้สอนทุกวัน แต่ถ้าวันไหนหยุดสองแฝดก็จะตามท่านตาไปที่ฟาร์ทุกวันเช่นเดียวกัน ละตอนน
ในที่สุดเซี่ยเสี่ยวหลานก็ทำโครงการจนครบหมดทุกอย่างในเวลาสามเดือนต่อมาจากนี้คือคนขององค์ชายสองทำต่อ ส่วนตัวนางกับสามีก็ได้เดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงเป็นที่เรียบร้อยแล้วและสองแฝดก็จะครบปีในเดือนนี้แล้วทั้งแฝด ตั้งแต่เดินได้นี้วิ่งตามบิดากับท่านตาในตอนเช้าทุกวันต้องออกไปดูฟาร์มของท่านตากับบิดาทุกวันส่วนเซี่ยเสี่ยวหลานก็วาดแบบชุดเสื้อผ้าอาไว้เยอะๆและออกไปตรวจงานที่ร้านผ้าเดือนละสองสามครั้งบ้างส่วนมากเป็นพ่อบ้านจี้ที่ดูแลแทน แม่ทัพโจวขอกลับมาดูแลทหารในสังกัดของเมืองหลวงฝึกซ้อมทหารในค่ายขององค์ชายสองที่ดูแลรักษาวังหลวง ทุกวันต้องออกไปฝึกซ้อมและดูแลค่ายแทนองค์ชายสองทุกอย่างส่วนวันหยุดก็เลี้ยงบุตรช่วยฮูหยินพากันไปที่ฟาร์มของพ่อตาเป็นส่วนใหญ่เพราะได้เรียนรู้งานทุกสิ่งอย่างซึ้งทั้งสองแฝดจะชอบมากเวลาได้ออกข้างนอกกันส่งเสียงกรีดกร๊าดกันเลยทีเดียว เซี่ยเสี่ยวหลานได้แต่หัวเราะสองแฝดที่อยากรู้อยากเห็นส่งเสียงถามใหญ่เลยยังกับตัวเองพูดชัดเสียอีก นางมองลูกที่ช่างจ้อถามอย่างเอ็นดู"ว่ายังไงหือเจ้าตัวยุ่งทั้งสองของแม่อยากรู้อะไรอีกถามพ่อกับแม่ไม่หยุดเลยหือเจ้าหมูน้อยของแม่" ก่อนที่นางจะฟัดพุงของลูกน้อยท
เซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ช่วยงานองค์ชายสองจนครบเดือนแล้วตอนนี้สินค้าทุกย่างเริ่มส่งออกขายไปยังเมืองใกล้เคียงหลายเมืองแล้ว ตั้งแต่ที่ทางตัวเมืองที่องค์ชายสองลงมาให้ความรู้และสอนอาชีพให้กับชาวบ้านที่อาศัยในแทบชายทะเลให้รู้จักว่าสิ่งไหนสามารถกินได้และนำมาใช้ประโยชน์ได้บ้าง ของที่นำเข้าร่วมงานของดีของตัวเมืองนี้ได้รับความสนใจจากเมืองข้างเคียงเป็นจำนวนมากเพราะสินค้าที่จะส่งขายทุกตัวอย่าง จะให้ชิมฟรีกันภายในงานสร้างความแปลกใหม่สำหรับชาวเมืองเป็นอย่างมากและพอทุกคนได้ชิมสินค้าทุกตัวจึงขายดี จนกลับไปขนที่จวนมาขายสร้างตำลึงให้กับองค์ชายสองเป็นจำนวนมากหักค่าคนงานที่มารับจ้างออกแล้ว แม้แต่ทหารก็ยังได้รับเงินพิเศษต่างหากนอกจากเบี้ยหวัดรายเดือนที่ได้รับอีกด้วยสร้างความดีใจให้กับทหารในสังกัดขององค์ชายสองยิ่งนัก พวกเขาพากันส่งตำลึงให้ครอบครัวที่รออยู่ทางบ้านกันทุกคน ชาวบ้านก็มีงานทำใครมีที่ทางไม่ติดกับทะเลจนเกินไปองค์ชายสองก็แจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ผักต่างให้จนครบทุกครัวเรือนและให้เข้าร่วมโครงการหลวงขององค์ชายสองที่ซื้อที่ไว้สำหรับสอนชาวบ้านเพาะปลูกและพาลงมือสอนทุกขั้นตอน ใครไม่มีที่องค์ชายสองก็จัดสรรให้ทุกครอบค
ในที่สุดก็ถึงวันที่ไปดูเกลือกันที่ได้เวลาตามที่กำหนดหลังจากอิ่มมื่อเช้าทุกคนก็ออกไปที่ทำนาเกลือเลย เซี่ยเสี่ยวหลานก็ขี่ม้าตัวเดียวกับสามีเพราะแม่ทัพหนุ่มไม่ยอมให้นางขี่ม้าคนเดียวอีกนั้นเอง พอมาถึงที่ทำนาเกลือทั้งสามหนุ่มตกตะลึงกับผลงานของตัวเองจากที่มองไปจนสุดลูกหูลูกตามีแต่เกลือสีขาวจนเต็มไปหมด สามคนสูดลมหายใจจนสุดก่อนจะหันหน้ามองกันและยิ้มด้วยความภาคภูมิใจในที่สุดก็สำเร็จ"ขอบใจน้องสะใภ้ยิ่งนัก" องค์ชายสองตรัสขึ้นหลังจากมองดูนาเกลือจนพอใจ"เอาละทุกคนเอาที่คาดแจกจ่ายให้กับคนงานกวาดเอาไว้เป็นกองๆ ให้คนลำเลียงเข้าไปเก็บที่โรงเรือนใหญ่เพื่อจะบรรจุใส่ชะรอมใหญ่รอส่งออกขายต่อไปทั่วทุกเมืองได้เลย" นางบอกหัวหนัาทหารที่คอยดูแลนาเกลือ"อย่าลืมเอาจัดส่งเข้าวังให้องค์ฮ้องเต้ได้เห็นว่าแคล้นของเราก็สามารถผลิตเกลือใช้เองแล้วนะเพคะองค์ชายจะได้ไม่ต้องนำเข้าให้เสียตำลึงทองมากมาย ตอนนี้ให้ราชสำนักจัดการขายให้ราษฎรของค์ฮ้องเต้ได้เลยเพคะองค์ชาย" เพราะองค์ชายสองเป็นคนผูกขาดและขายเกลือแต่เพียงผู้เดียวโดยคนในราชสำนักของฮ้องเต้ลงมาดูแลด้วยอีกทาง วันนั้นทั้งวันทั้งสี่คนก็อยู่ที่นาเกลือจนถึงมื้อเที่ยงเซี่ยเสี่
สามหนุ่มที่กลับมาจากนาเกลือรอบค่ำและเข้าตรวจความคืบหน้าภายในจวนก็ได้รับรายงานเรื่องที่ฮูหยินของท่านแม่โจวหลี่เฉิงพาทุกคนในจวนทำงานก็ยิ้มด้วยความดีใจที่นางช่างใส่ใจคนในจวนและชาวบ้านยิ่งนัก"ชาตินี้ข้าจะเจอคนเช่นน้องสะใภ้บ้างไหมนะข้าอิจฉาแม่ทัพโจวสหายข้ายิ่งนัก" องค์ชายสองหันมาพูดคุยกับสหายทั้งสองของตัวเอง"ข้าก็อยากมีฮูหยินเหมือนแม่ทัพโจวเช่นเดียวกัน แต่จะไปหาจากที่ไหนละพะยะค่ะองค์ชาย" กุนซือเจียงหันมาพูดกับองค์ชายสอง ส่วนแม่ทัพใหญ่โจวยืนยิ้มหน้าบานเป็นจานเชิงที่ได้ศรีภรรยาที่ดี จนทุกคนอยากมีเช่นเดียวกับภรรยาของตัวของท่านแม่ทัพหาให้ตายก็ไม่มีวันพบเจอหรอกกระมังเพราะบุพเพสันนิวาส นางจึงข้ามภพข้ามชาติมาเป็นคู่ผัวตัวเมียกับข้าผู้เป็นแม่ทัพใหญ่คนนี้หึๆ พวกท่านทั่งสองก็จงแสวงหากันต่อไปก็แล้วกันนะ แม่ทัพโจวคิดในใจเพราะมันคือความลับส่วนตัวของฮุหยินคนงามจากนั้นทั้งสามคนต่างก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำเพื่อจะมากินมื้อค่ำร่วมกัน แม่ทัพหนุ่มรีบกลับไปหาเมียกับลูกน้อยทันที"หลานเอ๋อร์พี่กลับมาแล้วลูกหมูทั้งสองของพ่อ พ่อกลับมาแล้ว" ทั้งสองแฝดได้ยินเสียงบิดาก็หันหน้ามามองร้องเรียกด้วยควมดีใจยกไม้ยกมือเรียกร
หลังจากแยกย้ายกันกลับมาพักเรือนที่รับรองเรียบร้อย สองผัวเมียก็มารับเอาตัวบุตรทั้งสองคนมาดูแลต่อจากพี่สาวหลิวฟางและพี่สาวหลิวมู่ตาลให้ทั้งสองคนได้พักผ่อนหลังจากที่ดูแลคุณๆทั้งสองมาทั้งวัน"ว่าไงละจ้ะทำไมยังไม่นอนละเจ้าหมูน้อยของแม่" เซี่ยเสี่ยวหลานพูดกับบุตรที่ตอนนี้เริ่มหัดเดินในคอกและร้องเรียกแมะๆจ้อเลย ถ้าเห็นหน้ามารดากับบิดายิ่งคึกคักแข่งกันเรียกชื่อพ่อกับแม่และยังพูดไม่ชัดจึงสร้างเสียงหัวเราะให้นางที่เห็นลูกน้อยพยายามที่จะเรียกชื่อแม่กับพ่อตลอดหลังจากที่พี่สาวทั้งสองกลับไปพักที่เรือนนอนกันแล้ว แม่ทัพหนุ่มก็อุ้มบุตรชายขึ้นมาหยอกล้อเรียกชื่อและพูดคุยกันอ้อแอ้สองคนพ่อลูก ส่วนเซี่ยเสี่ยวหลานก็อุ้มเอาบุตรสาวลูกหมูน้อยจ้ำหม่ำของนางขึ้นมาอุ้มและพาทุกคนเข้าในมิติเลยพอมาในห้องนอนใหญ่นางก็พาลูกน้อยขึ้นเตียงนอนเพื่อจะให้นมลูกน้อยทั้งสองคนก่อนนอนทุกคืน เจ้าสองแฝดรีบโผเข้าหามารดาด้วยความดีใจที่จะได้ดื่มนมนางทำความสะอาดเต้านมเรียบร้อยแล้ว จึงเอาบุตรสาวให้ดื่มอีกข้างส่วนบุตรชายตอนนี้ก็ต้องดื่มอีกข้างหนึ่งด้วยเช่นกัน ส่วนมือป้อมน้อยก็จับแก้มมารดาคนละข้างลูบเล่นมองตามารดาปากก็ดื่มนมสื่อความหมายด