เซี่ยต้าเหิงก็ตกใจเหมือนกันที่แม่ทัพใหญ่มาคุกเข่าขอโทษต่อหน้าที่ทำผิดกับทุกสิ่งที่ทำผิดพลาดเรื่องบุตรสาวของนายท่านเซี่ยต้าเหิง หัวเข่าลูกผู้ชายมีค่าดังทองคำเขาสำนึกผิดแล้วจริงๆ ถึงกล้ามายอมรับผิดต่อหน้าเขาตรงๆเช่นนี้
"ท่านแม่ทัพลุกขึ้นก่อนเถอะ" นายท่านเซี่ยบอกอดีตลูกเขยที่เขาโง่เขลาเพราะความรักบังตา ใครจะคาดคิดสาวสวยหน้าตาใสซื่อจะใจคตคิดทำร้ายกับคนที่ให้ที่อยู่อาศัยและยังให้เป็นพี่สาวถึงจะคนละแม่ก็ดี ที่เขารู้นิสัยของนางซือให่ถงมาก่อนจึงไม่วางใจในเรื่องของเงินทอง แต่ให้อยู่ในจวนเพราะโดนนางวางยาตอนไปคุยงานที่เมืองอื่นและสงสารเด็กสาวที่กำพร้าเหมือนลูกสาวของตัวเองจึงรับมาเลี้ยงดูเพราะความสงสารลูกของนางที่ไม่มีบิดาเหมือนที่บุตรสาวของเขาที่กำพร้าแม่เหมือนกันแต่ใครจะคิดว่านางจะสั่งสอนให้ลูกของตัวนางมาทำร้ายบุตรสาวของเขาเองทั้งที่ให้เป็นพี่สาวของบุตรสาวของตัวท่านเอง จึงให้นางซือให่ถงทำร้ายเซี่ยเสี่ยวหลานและยังร่วมมือกับลูกสาวของนางทำร้ายบุตรสาวของท่านลับหลังอีก ถ้านางพอใจในสิ่งที่มีก็คงไม่ต้องเป็นเช่นนี้แม่ทัพก็มีอนาคตที่ดีแต่นางและแม่ยังหวังอยากเป็นชายาขอวองค์รัชทายาทอีก ช่างไม่เจียมตัวเองเลยเขาที่เป็นพ่อค้าให้เงินนางสองคนใช้ทุกเดือนยังไม่พอใจ แถมแว้งกัดคนในครอบครัวเขาอีกจนต้องขับไล่ออกจากจวน "ข้าเข้าใจท่านแม่ทัพเพราะเจอมาก่อนท่านอาจจะเก่งเรื่องรบ แต่เรื่องผู้หญิงท่านยังไร้ประสบการณ์จนทำให้มันทำร้ายตัวเอง เรื่องลูกสาวข้าขอบอกว่าโกรธท่านมากที่หยามเกียรติลูกของข้าเซี่ยเสี่ยวหลานนางไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมสองคนแม่ลูก ท่านก็ตกเป็นเหยื่อเสี่ยวหลานก็เป็นเหยื่อแต่ที่หน้าเจ็บใจก็คือท่านไม่มีเหตุผลและสืบความฟังความข้างเดียวและทำร้ายจิตใจลูกสาวของข้ายังไม่พอ แต่งอีกวันหย่าอีกวัน ท่านจะไม่ให้ข้าที่เป็นบิดาโกรธเช่นนั้นหรือท่านแม่ทัพใหญ่โจว" นายท่านเซี่ยเหิงพูดด้วยเสียงนิ่งๆและถามคำถามกับผู้ที่เป็นแม่ทัพแผ่นดินบ้าง "ถ้าท่านมีลูกสาวบ้างถ้ามีคนมาทำร้ายดวงใจและคนในครอบครัวท่านจะทำเช่นไร ท่านปกครองทหารเป็นแสน ต่หูเบาใจบอดตาบอดจนทำร้ายชีวิตที่สดใสของบุตรสาวของข้าท่านมีอะไรจะแก้ตัวอีก"นายท่านเซี่ยต้าเหิงถามกับแม่ทัพใหญ่ทันทีที่ทำอะไรไม่คิดและสืบหาความจริงก่อนจะทำโทษคน "ท่านพ่อตาข้ายอมรับผิดทั้งหมดไม่มีข้อแก้ตัวใดๆทั้งสิ้นขอรับและจะมายกสินสอดเพิ่มให้กับเซี่ยเสี่ยวหลานเพิ่มให้นางและขอโอกาสกับท่านพ่อตาด้วยขอรับ ข้าขอมาคืนดีกับฮูหยินใหม่ จะมีแค่นางคนเดียวที่เป็นนายหญิงของจวนแม่ทัพโจวหลี่เฉิงขอรับ" แม่ทัพโจวหลี่เฉิงตอบเสียงมั่นคงบอกความต้องการออกไปให้พ่อตารับรู้ความต้องการของตัวเอง "ข้าไม่รับปากที่ท่านขอมามันขึ้นอยู่กับท่านว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ ข้าก็จะดูไปนานๆเช่นกันในเมื่อมีบทเรียนแล้ว ก็จงจำไว้ให้ดีในวันข้างหน้ามีเมียและลูกจะได้ไม่เสียใจ ถ้าเราไม่หนักแน่นและลำเอียงก็จะเสียคนที่รักจนไม่เหลือใครเลย ในเมื่อเราเป็นที่พึ่งให้ใครไม่ได้เลยจะฟังแต่คนที่ตัวเองรักโดยไม่มีความเป็นกลางและอยุติธรรมใครจะเคารพตัวเราอีกต่อไป" "ขอบคุณท่านพ่อตาที่สั่งสอนข้าจะจำใส่ใจไว้ขอรับ จะไม่ทำตัวอย่างที่แล้วมาขอรับจะหนักแน่นและไม่ลำเอียงและทำตัวให้ลูกน้องเคารพขอรับ" แม่ทัพใหญ่พูดเสียงแน่วแน่และมั่นคงบทเรียนครั้งนี้ยิ่งใหญ่นักยังมีอีกหลายอย่างที่เขาต้องเรียนรู้ในฐานะแม่ทัพใหญ่ของแผ่นดินและฐานะสามี "แล้วเซี่ยเสี่ยวหลานนางไปไหนหรือขอรับ" "ทำงาน" นายท่านเซี่ยตอบเพียงเท่านั้น "ข้าขอพบนางได้ไหมขอรับ" "ข้าจะให้คนไปถามให้แต่ไม่รับปากและข้าก็จะไม่บังคับลูกสาวด้วยเช่นกัน ถึงไม่มีท่านข้าก็เลี้ยงบุตรสาวของข้าได้" "ข้าจะไม่บังคับใจของนางขอรับแต่จะขอโอกาสกับนางให้แต่งคืนเป็นฮูหยินเอกเพียงแค่คนเดียว ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็จะรอขอรับ" แม่ทัพโจวหลี่เฉิงตอบอย่างหนักแน่น ก่อนที่นายท่านเซี่ยจะหันไปให้สาวใช้ไปเรียกบุตรสาวว่าต้องการพบแม่ทัพโจวหลี่เฉิงหรือไม่ ก็มีเสียงจากบ่าวหน้าจวนเข้ามาบอกว่า "มีราชโองการด่วนถึงแม่ทัพโจวหลี่เฉิงขอรับ มีกงกงคนใกล้ชิดขององค์ฮ้องเต้เชิญราชโองการมาด้วยตัวเองขอรับนายท่าน" บ่าวรีบรายงานอย่างรวดเร็ว แม่ทัพลุกขึ้นทันที "สงสัยว่าจะมีเหตุด่วนขอรับงั้นข้าคงต้องมาใหม่ขอรับ ตอนนี้คงมีเรื่องในวังด่วนข้าขอตัวก่อน" แม่ทัพโจวหลี่เฉิงก้มหัวทำความเคารพก่อนจะรีบเพื่อจะออกจากห้องโถงรองรับแขก แต่ขันทีก็เข้ามาก่อนและพูดขึ้นเสียงดังว่า "ท่านแม่ทัพโจวหลี่เฉิงรับราชโองการ" โจวหลี่เฉิงคุกเข่าลงรับราชโองการในจวนของนายท่านเซี่ยต้าเหิง "ขณะนี้ มีข้าศึกประชิดชายแดนที่องค์ชายสองประจำการและขอกำลังทหารเพื่อจะไปช่วยพร้อมเสบียง จึงมีรับสั่งให้ท่านแม่ทัพโจวหลี่เฉิงเป็นคนนำทัพไปช่วยองค์ชายสองพร้อมเสบียงจบราชโองการ" "น้อมรับราชโองการ" แม่ทัพโจวหลี่เฉิงรับเอาม้วนผ้าสีทองมาและพ่อบ้านเอาสินน้ำใจให้กงกง "ข้าไปที่จวนแม่ทัพ บ่าวที่จวนบอกว่าท่านแม่ทัพมาที่จวนของพ่อตาข้าจึงตามมาที่นี้ทันที เพราะเป็นราชโองการเร่งด่วนของรับ จะต้องออกเดินทางในคืนนี้เลยขอรับท่านแม่ทัพโจวเพราะทุกอย่างฮ้องเต้ทรงให้คนเตรียมเอาไว้พร้อมหมดแล้วขอรับ" กงกงบอกแม่ทัพโจวหลี่เฉิง "ต้องขอโทษนายท่านเซี่ยต้าเหิงด้วยนะขอรับ" กงกงหันไปพูดกับเจ้าของจวนตัวจริง "ไม่เป็นไรขอรับ ข้าเข้าใจว่าคือเรื่องเร่งด่วนจริงๆเชิญท่านกงกงเข้าไปรับน้ำชาในเรือนก่อนขอรับ" นายท่านเซี่ยต้าเหิงเชิญกงกงด้วยเสียงนอบน้อม "ข้าลืมไปว่าท่านแม่ทัพพึ่งแต่งคุณหนูเซี่ยเสี่ยวหลานเมื่อวานยังครบไม่สามวันเลยก็มาเยี่ยมพ่อตาแล้วช่างใจร้อนจริงๆคนหนุ่มสาว" กงกงหัวเราะเพราะไม่รู้เรื่องอะไรภายในจวนของแม่ทัพใหญ่ "เอาเป็นคราวหน้าก็แล้วกันนะท่านเซี่ยต้าเหิง วันนี้ข้ารีบต้องไปจัดการอีกหลายเรื่องในวัง จึงไม่สะดวกที่จะนั่งรับน้ำชาด้วยต้องขอโทษจริงๆของรับ" กงกงตอบกับเสียงนอบน้อมเช่นกันก่อนจะลากลับจากนั้นก็รีบกลับเข้าวังหลวงไป "ข้าคงต้องกลับไปเตรียมตัวเหมือนกันขอรับ ช่วยบอกเซี่ยเสี่ยวหลานด้วยว่า ข้าจบศึกจะกลับมาแต่งนางอีกครั้ง" ก่อนจะลากลับไปเตรียมตัวไปชายแดนในคืนนี้วันเวลาหนุนเวียนไปผ่านไปตอนนี้สองแฝดอายุได้สองขวบกว่าๆแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานกำลังตั้งครรภ์ได้สี่เดือนกว่าแล้วเช่นเดียวกันสร้างความดีใจให้กับแม่โจวหลี่เฉิงเป็นอย่างมากที่ทำลูกเพิ่มได้อีกในครรภ์ของฮูหยินสาวคนสวยของท่านแม่ทัพแทบจะไม่ให้นางทำอะไรเลย เพียงแค่ฮูหยินขยับตัวแม่ทัพหนุ่มก็จะลุกขึ้นประคองทันทีและคอยช่วยงานแทนฮูหยินทุกสิ่งอย่าง จนเซี่ยเสี่ยวหลานต้องบอกสามี"น้องไม่ได้เป็นง่อยเจ้าค่ะท่านพี่ให้น้องทำอะไรบ้างเถอะเจ้าค่ะ ข้ารับรองว่าจะไม่ทำเกินแรงของตัวเองอย่างแน่นอนนะเจ้าค่ะท่านพี่""ได้พี่ตามใจน้องทุกอย่างแต่ขอให้พี่ได้อยู่ดูแลตอนน้องตั้งท้องลูกของพี่บ้างนะเพราะสองแฝดพี่ก็ติดรบกับข้าศึกที่ชายแดน กว่าจะได้มาตอนที่น้องคลอดลูกในวันนั้นพอดี ท้องนี้พี่จะดูแลน้องอย่างดีเลยท้องนี้พี่จะดูและไม่ให้คลาดสายตาเลย" แม่ทัพโจวหลี่เฉิงพูดกับฮูหยินคนสวยอย่างเอาใจจนเซี่ยเสี่ยวหลานส่ายหัวในความเห่อของสามีตอนนี้เจ้าสองแฝดพี่น้องแทบจะไปนอนกับบิดาของนางทุกคืนอยู่แล้วตื่นมาตอนเช้าถ้าจบมื้อเช้าก็จะไปเรียนกับอาจารย์ที่บิดาหามาให้สอนทุกวัน แต่ถ้าวันไหนหยุดสองแฝดก็จะตามท่านตาไปที่ฟาร์ทุกวันเช่นเดียวกัน ละตอนน
ในที่สุดเซี่ยเสี่ยวหลานก็ทำโครงการจนครบหมดทุกอย่างในเวลาสามเดือนต่อมาจากนี้คือคนขององค์ชายสองทำต่อ ส่วนตัวนางกับสามีก็ได้เดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงเป็นที่เรียบร้อยแล้วและสองแฝดก็จะครบปีในเดือนนี้แล้วทั้งแฝด ตั้งแต่เดินได้นี้วิ่งตามบิดากับท่านตาในตอนเช้าทุกวันต้องออกไปดูฟาร์มของท่านตากับบิดาทุกวันส่วนเซี่ยเสี่ยวหลานก็วาดแบบชุดเสื้อผ้าอาไว้เยอะๆและออกไปตรวจงานที่ร้านผ้าเดือนละสองสามครั้งบ้างส่วนมากเป็นพ่อบ้านจี้ที่ดูแลแทน แม่ทัพโจวขอกลับมาดูแลทหารในสังกัดของเมืองหลวงฝึกซ้อมทหารในค่ายขององค์ชายสองที่ดูแลรักษาวังหลวง ทุกวันต้องออกไปฝึกซ้อมและดูแลค่ายแทนองค์ชายสองทุกอย่างส่วนวันหยุดก็เลี้ยงบุตรช่วยฮูหยินพากันไปที่ฟาร์มของพ่อตาเป็นส่วนใหญ่เพราะได้เรียนรู้งานทุกสิ่งอย่างซึ้งทั้งสองแฝดจะชอบมากเวลาได้ออกข้างนอกกันส่งเสียงกรีดกร๊าดกันเลยทีเดียว เซี่ยเสี่ยวหลานได้แต่หัวเราะสองแฝดที่อยากรู้อยากเห็นส่งเสียงถามใหญ่เลยยังกับตัวเองพูดชัดเสียอีก นางมองลูกที่ช่างจ้อถามอย่างเอ็นดู"ว่ายังไงหือเจ้าตัวยุ่งทั้งสองของแม่อยากรู้อะไรอีกถามพ่อกับแม่ไม่หยุดเลยหือเจ้าหมูน้อยของแม่" ก่อนที่นางจะฟัดพุงของลูกน้อยท
เซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ช่วยงานองค์ชายสองจนครบเดือนแล้วตอนนี้สินค้าทุกย่างเริ่มส่งออกขายไปยังเมืองใกล้เคียงหลายเมืองแล้ว ตั้งแต่ที่ทางตัวเมืองที่องค์ชายสองลงมาให้ความรู้และสอนอาชีพให้กับชาวบ้านที่อาศัยในแทบชายทะเลให้รู้จักว่าสิ่งไหนสามารถกินได้และนำมาใช้ประโยชน์ได้บ้าง ของที่นำเข้าร่วมงานของดีของตัวเมืองนี้ได้รับความสนใจจากเมืองข้างเคียงเป็นจำนวนมากเพราะสินค้าที่จะส่งขายทุกตัวอย่าง จะให้ชิมฟรีกันภายในงานสร้างความแปลกใหม่สำหรับชาวเมืองเป็นอย่างมากและพอทุกคนได้ชิมสินค้าทุกตัวจึงขายดี จนกลับไปขนที่จวนมาขายสร้างตำลึงให้กับองค์ชายสองเป็นจำนวนมากหักค่าคนงานที่มารับจ้างออกแล้ว แม้แต่ทหารก็ยังได้รับเงินพิเศษต่างหากนอกจากเบี้ยหวัดรายเดือนที่ได้รับอีกด้วยสร้างความดีใจให้กับทหารในสังกัดขององค์ชายสองยิ่งนัก พวกเขาพากันส่งตำลึงให้ครอบครัวที่รออยู่ทางบ้านกันทุกคน ชาวบ้านก็มีงานทำใครมีที่ทางไม่ติดกับทะเลจนเกินไปองค์ชายสองก็แจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ผักต่างให้จนครบทุกครัวเรือนและให้เข้าร่วมโครงการหลวงขององค์ชายสองที่ซื้อที่ไว้สำหรับสอนชาวบ้านเพาะปลูกและพาลงมือสอนทุกขั้นตอน ใครไม่มีที่องค์ชายสองก็จัดสรรให้ทุกครอบค
ในที่สุดก็ถึงวันที่ไปดูเกลือกันที่ได้เวลาตามที่กำหนดหลังจากอิ่มมื่อเช้าทุกคนก็ออกไปที่ทำนาเกลือเลย เซี่ยเสี่ยวหลานก็ขี่ม้าตัวเดียวกับสามีเพราะแม่ทัพหนุ่มไม่ยอมให้นางขี่ม้าคนเดียวอีกนั้นเอง พอมาถึงที่ทำนาเกลือทั้งสามหนุ่มตกตะลึงกับผลงานของตัวเองจากที่มองไปจนสุดลูกหูลูกตามีแต่เกลือสีขาวจนเต็มไปหมด สามคนสูดลมหายใจจนสุดก่อนจะหันหน้ามองกันและยิ้มด้วยความภาคภูมิใจในที่สุดก็สำเร็จ"ขอบใจน้องสะใภ้ยิ่งนัก" องค์ชายสองตรัสขึ้นหลังจากมองดูนาเกลือจนพอใจ"เอาละทุกคนเอาที่คาดแจกจ่ายให้กับคนงานกวาดเอาไว้เป็นกองๆ ให้คนลำเลียงเข้าไปเก็บที่โรงเรือนใหญ่เพื่อจะบรรจุใส่ชะรอมใหญ่รอส่งออกขายต่อไปทั่วทุกเมืองได้เลย" นางบอกหัวหนัาทหารที่คอยดูแลนาเกลือ"อย่าลืมเอาจัดส่งเข้าวังให้องค์ฮ้องเต้ได้เห็นว่าแคล้นของเราก็สามารถผลิตเกลือใช้เองแล้วนะเพคะองค์ชายจะได้ไม่ต้องนำเข้าให้เสียตำลึงทองมากมาย ตอนนี้ให้ราชสำนักจัดการขายให้ราษฎรของค์ฮ้องเต้ได้เลยเพคะองค์ชาย" เพราะองค์ชายสองเป็นคนผูกขาดและขายเกลือแต่เพียงผู้เดียวโดยคนในราชสำนักของฮ้องเต้ลงมาดูแลด้วยอีกทาง วันนั้นทั้งวันทั้งสี่คนก็อยู่ที่นาเกลือจนถึงมื้อเที่ยงเซี่ยเสี่
สามหนุ่มที่กลับมาจากนาเกลือรอบค่ำและเข้าตรวจความคืบหน้าภายในจวนก็ได้รับรายงานเรื่องที่ฮูหยินของท่านแม่โจวหลี่เฉิงพาทุกคนในจวนทำงานก็ยิ้มด้วยความดีใจที่นางช่างใส่ใจคนในจวนและชาวบ้านยิ่งนัก"ชาตินี้ข้าจะเจอคนเช่นน้องสะใภ้บ้างไหมนะข้าอิจฉาแม่ทัพโจวสหายข้ายิ่งนัก" องค์ชายสองหันมาพูดคุยกับสหายทั้งสองของตัวเอง"ข้าก็อยากมีฮูหยินเหมือนแม่ทัพโจวเช่นเดียวกัน แต่จะไปหาจากที่ไหนละพะยะค่ะองค์ชาย" กุนซือเจียงหันมาพูดกับองค์ชายสอง ส่วนแม่ทัพใหญ่โจวยืนยิ้มหน้าบานเป็นจานเชิงที่ได้ศรีภรรยาที่ดี จนทุกคนอยากมีเช่นเดียวกับภรรยาของตัวของท่านแม่ทัพหาให้ตายก็ไม่มีวันพบเจอหรอกกระมังเพราะบุพเพสันนิวาส นางจึงข้ามภพข้ามชาติมาเป็นคู่ผัวตัวเมียกับข้าผู้เป็นแม่ทัพใหญ่คนนี้หึๆ พวกท่านทั่งสองก็จงแสวงหากันต่อไปก็แล้วกันนะ แม่ทัพโจวคิดในใจเพราะมันคือความลับส่วนตัวของฮุหยินคนงามจากนั้นทั้งสามคนต่างก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำเพื่อจะมากินมื้อค่ำร่วมกัน แม่ทัพหนุ่มรีบกลับไปหาเมียกับลูกน้อยทันที"หลานเอ๋อร์พี่กลับมาแล้วลูกหมูทั้งสองของพ่อ พ่อกลับมาแล้ว" ทั้งสองแฝดได้ยินเสียงบิดาก็หันหน้ามามองร้องเรียกด้วยควมดีใจยกไม้ยกมือเรียกร
หลังจากแยกย้ายกันกลับมาพักเรือนที่รับรองเรียบร้อย สองผัวเมียก็มารับเอาตัวบุตรทั้งสองคนมาดูแลต่อจากพี่สาวหลิวฟางและพี่สาวหลิวมู่ตาลให้ทั้งสองคนได้พักผ่อนหลังจากที่ดูแลคุณๆทั้งสองมาทั้งวัน"ว่าไงละจ้ะทำไมยังไม่นอนละเจ้าหมูน้อยของแม่" เซี่ยเสี่ยวหลานพูดกับบุตรที่ตอนนี้เริ่มหัดเดินในคอกและร้องเรียกแมะๆจ้อเลย ถ้าเห็นหน้ามารดากับบิดายิ่งคึกคักแข่งกันเรียกชื่อพ่อกับแม่และยังพูดไม่ชัดจึงสร้างเสียงหัวเราะให้นางที่เห็นลูกน้อยพยายามที่จะเรียกชื่อแม่กับพ่อตลอดหลังจากที่พี่สาวทั้งสองกลับไปพักที่เรือนนอนกันแล้ว แม่ทัพหนุ่มก็อุ้มบุตรชายขึ้นมาหยอกล้อเรียกชื่อและพูดคุยกันอ้อแอ้สองคนพ่อลูก ส่วนเซี่ยเสี่ยวหลานก็อุ้มเอาบุตรสาวลูกหมูน้อยจ้ำหม่ำของนางขึ้นมาอุ้มและพาทุกคนเข้าในมิติเลยพอมาในห้องนอนใหญ่นางก็พาลูกน้อยขึ้นเตียงนอนเพื่อจะให้นมลูกน้อยทั้งสองคนก่อนนอนทุกคืน เจ้าสองแฝดรีบโผเข้าหามารดาด้วยความดีใจที่จะได้ดื่มนมนางทำความสะอาดเต้านมเรียบร้อยแล้ว จึงเอาบุตรสาวให้ดื่มอีกข้างส่วนบุตรชายตอนนี้ก็ต้องดื่มอีกข้างหนึ่งด้วยเช่นกัน ส่วนมือป้อมน้อยก็จับแก้มมารดาคนละข้างลูบเล่นมองตามารดาปากก็ดื่มนมสื่อความหมายด