ด้านแม่ทัพหลินซูเฉินนั้นได้ออกเดินทางจากจวนมาที่จวนของแม่ทัพจางอี้เทียนคู่หมั้นของน้องสาวของตัวเองแต่คลาดกันกับแม่ทัพจางอี้เทียนที่ต้องรีบออกไปทำภาระกิจที่ฮ้องเต้สั่งการด่วนเป็นความลับได้ออกเดินทางไปแล้วมีเพียงพ่อบ้านที่ดูแลจวน
แม่ทัพหลินจึงฝากจดหมายหมั้นหมายคืนท่านแม่ทัพจางอี้เทียนถ้าเขากลับมาถึงเมืองหลวงอีกครั้ง จากนั้นจึงเดินทางไปที่หอส่งข่าวที่ให้ช่วยสืบหาคนวางยาน้องสาวและคนที่ออกมาใส่ร้ายน้องสาวจนดังไปทั้งเมืองหลวงในตอนนี้ และแม่ทัพหลินซูเฉินส่งจดหมายไปหาคนของตัวเองที่เมืองชายแดนใต้ให้ไปซ่อมแซ่มบ้านของมารดาและขุดบ่อน้ำตามที่น้องสาวบอกให้ทำอะไรบ้างแม่ทัพก็จัดการเสร็จจึงเดินทางกลับไปที่จวนก็ยามเว่ยแล้ว ส่วนหลินซูซานวันนี้นางนอนพักทั้งวันเพราะพรุ่งนี้นางจะไปตรวจบัญชีในร้านค้าของครอบครัวและหางานให้กับคนในจวนที่ไม่ได้เดินทางลงใต้ไปกับนาง โรสรินฝันถึงบ้านที่อยู่ภพเดิมของตัวเองที่ริมชายหาดที่พ่อแม่ทิ้งเอาไว้ให้บนเกาะ ต้องนั่งเรือออกไปครึ่งชั่วโมงกิจการของครอบครัวคือรีสอทร์เกือบห้าสิบหลังที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกวัน ทำเงินให้กับตัวของโรสรินไม่น้อยและมีเพื่อนรักที่คอยช่วยบริหาร ตั้งแต่ที่เรียนจบออกมาจากมหาลัยส่วนตัวเธอกับเลือกทำอาชีพตำรวจจึงกลายเป็นสายลับสาวที่เก่งกาจแต่ก็ตายเพราะหน้าที่อีกนั้นแหละ บ้านอีกหลังที่แยกออกมาจากรีสอทร์ทรงไทยน่ารักตะมุตะมิที่บิดามารดาสร้างเอาไว้ให้ลูกสาวสุดที่รักและสมบัติก็คือเกาะและรีสอทร์แห่งนี้ของนางนั้นเอง ตอนนี้เหมือนว่านางเดินเข้าออกในบ้านของตัวเอง ของทุกอย่างยังมีครบข้าวสารอาหารแห้งของสดมีหมดเพราะเพื่อนรักจะสั่งมาจากชายฝั่งมาเดือนละสองครั้งสำหรับใช้ในบ้านพักตากอากาศ เรือนางก็มีหลายลำทั้งออกหาปลาเองทั้งเอาไว้สำหรับพานักท่องเที่ยวล่องเรือชมประการังและตกปลากลางทะเล โรสรินกับเพื่อนดูแลกิจการมาได้เป็นสิบๆปีตั้งแต่ที่พ่อแม่เสียชีวิตเครื่องบินตกที่ทั้งสองไปเที่ยวเมืองนอกกัน สายไหมคือเพื่อนรักที่กำพร้าเติบโตมาจากสถานสงเคราะห์ มีแค่โรสรินที่รักและคอยช่วยเหลือเธอมาโดยตลอดทั้งสองคนรักกันมากและโรสรินก็ให้เพื่อนรักดูแลกิจการร่วมกันกับเธอมาตั้งแต่เรียนจบมาด้วยกัน เพื่อนรักไม่เคยทำให้เธอผิดหวังเลยนางเก่งมากทำกำไรให้กับโรสรินในแต่ละปีมากมาย จนโรสรินยกหุ้นให้เพื่อนรักด้วยเพราะเธอไม่มีสมบัติติดตัวมาเลยและยังทำพินัยกรรมเอาไว้ให้เพื่อนอีก ถ้าหากเธอเป็นอะไรไปเพราะงานที่ทำของเธอเสี่ยงกับชีวิตทุกย่างก้าวเดินจึงยกให้สายไหมดูแลกิจการต่อจากตัวเองและแบ่งเงินออกเป็นสามส่วน กองกลางดูแลกิจการ ทำบุญกับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าช่วยเหลือสังคมและฝากเข้าบัญชีส่วนของตัวโรสรินเอง และเธอก็เห็นเพื่อนรักร้องให้จัดงานศพให้เธออย่างสมเกียรติ์ ทำตามที่เปิดพินัยกรรมตามที่โรสรินสั่งเอาไว้ทุกอย่าง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราตายจนมาสวมร่างของสาวน้อยในโลกคู่ขนานแห่งนี้โรสรินในร่างของหลินซูซานเดินเข้าบ้านสำรวจดูของทุกอย่างในบ้าน แล้วเธอก็บังเอิญเจอจดหมายที่ติดไว้กับตู้เย็นในจดหมายเขียนไว้ว่า "เพราะตอนยังมีชีวิตในภพเดิมเจ้าทำความดีมามากมายข้าจึงขอมอบเกาะแห่งนี้ให้เจ้าและพาคนอื่นเขามาได้ด้วยแต่ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าเท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างจะอยู่คงเดิมเจ้าใช้ได้ทุกอย่างอาหารจะไม่มีวันหมดเจ้าใช้ได้เรื่อยๆ ขอให้โชคดี" โอ๊ะ!!!!แม่เจ้าอเมซิ่งมากแม่จ๋าขอบคุณนะคะที่ให้ของที่หนูมีในภพนี้ตามหนูมาด้วย ขอบคุณมากจริงๆค่ะรอดตายแล้ว หลังเข้าไปอาบน้ำอุ่นกินอาหารในครัวของตัวเองจนอิ่มแปล้ นางก็ออกจากในห้องข้างนอกก็มืดค่ำแล้วนางจึงเดินไปที่เรือนใหญ่หาพี่ชายใหญ่ของตัวเองเพื่อถามไถ่เรื่องที่ให้พี่ชายไปทำแทนนาง "ซานเอ๋อร์วันนี้พี่ใหญ่ไปที่จวนของแม่ทัพจางอี้เทียนแต่คลาดกันจึงฝากใบถอนหมั้นจากบิดาให้พ่อบ้านเอาไว้ให้ท่านแม่ทัพจางอี้เทียนแล้ว ทั้งสั่งความความไว้ว่าไม่ต้องให้ท่านแม่ทัพมาคุยเผาใบถอนหมั้นทิ้งไปได้เลยและพี่ก็ส่งจดหมายไปหาคนของเราที่หมู่บ้านเก่าของท่านแม่ให้ซ่อมแซมบ้านของท่านแม่และส่งกระดาษที่น้องเขียนให้ส่งไปเรียบร้อยแล้ว พี่ไปที่หอขายข่าวจ้างคนสืบเรื่องวางยาปล่อยข่าวให้น้องสาวของพี่เสื่อมเสียรอให้พวกเขาสืบอีกไม่นานคงจะได้คำตอบแล้วละ" สองพี่น้องนั่งคุยกันจนดึกหลังจากจบมื้อค่ำนางก็บอกพี่ชายว่านางจะเข้าไปที่ร้านค้าของมารดาในวันพรุ่งนี้ ส่วนพี่ชายต้องเข้าวังเพราะต้องเข้าประชุมทุกวันในตอนเช้าจนกว่าจะกลับเมืองชายแดนใต้ในอีกสามเดือน แต่ท่านแม่ทัพจะออกเดินทางก่อนสองเดือนเพื่ออยู่เป็นเพื่อนน้องสาวที่บ้านของมารดาหนึ่งเดือน และช่วยน้องสาวทำในสิ่งที่นางบอกว่าจะให้คนของตัวเองออกหาปลามาแปรรูปส่งไปขายทุกเมืองเลย สองพี่น้องคุยกันด้วยความสนุกนาน นานแค่ไหนแล้วที่ร่างเดิมมัวแต่วิ่งตามหาความรักจากคนอื่นทั้งที่พี่ชายและคนของนางที่รักอยู่เคียงข้างนางไม่ว่านางจะร้ายกาจแค่ไหนก็ตาม ช่างเสียดายชีวิตที่สดใสของเจ้ายิ่งนักถ้าเจ้าอยู่ที่ภพเก่าของข้าก็ยังเป็นเด็กมอปลายและเตรียมเข้าสอบมหาลัยคนที่นี้พอปักปิ่นก็วิ่งหาสามีมีลูกกันตั้งแต่เด็กแล้วยังไม่เห็นโลกภายนอกที่สวยงามให้ออกค้นหาเลย โรสรินนอนคิดหลังจากกลับมาจากเรือนใหญ่ อาบน้ำเข้านอนนางก็เข้ามิตินอนในบ้านของตัวเองเลยมีแอร์ด้วยสบายมากแถมตื่นมาก็มีเสียงคลื่นลมฟัง ที่เกาะอากาศดีสุดๆไปเลยนางคิดก่อนที่จะหลับไป หลังจากจบมื้อเช้าที่จวนกับพี่ชายหลินซูซานก็ขึ้นรถม้าออกจากจวนไปที่ตลาดใหญ่ของเมืองหลวงที่มีร้านค้าของครอบครัวของนางที่บิดามารดาทิ้งเอาไว้ให้นางกับพี่ชาย ร้านค้าร้ายใหญ่ขายข้าวสารอาหารแห้งเครื่องปรุงรสทุกอย่างที่หลงจู๊คนเก่าแก่ดูแลให้มาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ เพราะบิดามารดาของนางช่วยครอบครัวของหลงจู๊เอาไว้ จึงให้มาช่วยดูแลร้านค้าแทนที่ไว้ให้กับบุตรทั้งสองคน และดูแลเวลาที่พวกท่านไม่อยู่ออกไปค้าขายต่างเมืองจนร่ำรวยมีร้านค้าอยู่หลายเมืองลงไปทางใต้ก็มีคนของบิดามารดาคอยดูแล บิดามารดาซูซานเสียเพราะพวกท่านหนีโจรป่าจนรถม้าตกเขาไปได้หลายปีแล้ว หลินซูซานเดินสำรวจหน้าร้านก็มีคนเข้าซื้อหาเรื่อยๆหลงจู๊ถือว่ามีฝีมือดีหาของมาขายมากเหมือนกันและสั่งจากที่บิดากับมารดารับสินค้ามายาวนานค้าขายด้วยความซื่อสัตย์ "คุณหนูหลินเชิญเข้ามาข้างในเลยขอรับ" หลงจู๊ออกมาต้อนรับด้วยตัวเองและพานางไปที่ห้องทำงาน ภรรยาของหลงจู๊นำน้ำชากับขนมมาต้อนรับ นำเอาบัญชีมาเอาไว้ให้นางตรวจ นางขอบคุณหลงจู๊กับภรรยาและนั่งตรวจบัญชีจนถึงเวลาจะกินมื้อเที่ยง วันนี้ไปกินที่เหลาอาหารดีกว่านางคิดก่อนจะเดินออกจากร้านค้าไปกับสาวใช้ข้างกายวันเวลาหนุนเวียนไปผ่านไปตอนนี้สองแฝดอายุได้สองขวบกว่าๆแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานกำลังตั้งครรภ์ได้สี่เดือนกว่าแล้วเช่นเดียวกันสร้างความดีใจให้กับแม่โจวหลี่เฉิงเป็นอย่างมากที่ทำลูกเพิ่มได้อีกในครรภ์ของฮูหยินสาวคนสวยของท่านแม่ทัพแทบจะไม่ให้นางทำอะไรเลย เพียงแค่ฮูหยินขยับตัวแม่ทัพหนุ่มก็จะลุกขึ้นประคองทันทีและคอยช่วยงานแทนฮูหยินทุกสิ่งอย่าง จนเซี่ยเสี่ยวหลานต้องบอกสามี"น้องไม่ได้เป็นง่อยเจ้าค่ะท่านพี่ให้น้องทำอะไรบ้างเถอะเจ้าค่ะ ข้ารับรองว่าจะไม่ทำเกินแรงของตัวเองอย่างแน่นอนนะเจ้าค่ะท่านพี่""ได้พี่ตามใจน้องทุกอย่างแต่ขอให้พี่ได้อยู่ดูแลตอนน้องตั้งท้องลูกของพี่บ้างนะเพราะสองแฝดพี่ก็ติดรบกับข้าศึกที่ชายแดน กว่าจะได้มาตอนที่น้องคลอดลูกในวันนั้นพอดี ท้องนี้พี่จะดูแลน้องอย่างดีเลยท้องนี้พี่จะดูและไม่ให้คลาดสายตาเลย" แม่ทัพโจวหลี่เฉิงพูดกับฮูหยินคนสวยอย่างเอาใจจนเซี่ยเสี่ยวหลานส่ายหัวในความเห่อของสามีตอนนี้เจ้าสองแฝดพี่น้องแทบจะไปนอนกับบิดาของนางทุกคืนอยู่แล้วตื่นมาตอนเช้าถ้าจบมื้อเช้าก็จะไปเรียนกับอาจารย์ที่บิดาหามาให้สอนทุกวัน แต่ถ้าวันไหนหยุดสองแฝดก็จะตามท่านตาไปที่ฟาร์ทุกวันเช่นเดียวกัน ละตอนน
ในที่สุดเซี่ยเสี่ยวหลานก็ทำโครงการจนครบหมดทุกอย่างในเวลาสามเดือนต่อมาจากนี้คือคนขององค์ชายสองทำต่อ ส่วนตัวนางกับสามีก็ได้เดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงเป็นที่เรียบร้อยแล้วและสองแฝดก็จะครบปีในเดือนนี้แล้วทั้งแฝด ตั้งแต่เดินได้นี้วิ่งตามบิดากับท่านตาในตอนเช้าทุกวันต้องออกไปดูฟาร์มของท่านตากับบิดาทุกวันส่วนเซี่ยเสี่ยวหลานก็วาดแบบชุดเสื้อผ้าอาไว้เยอะๆและออกไปตรวจงานที่ร้านผ้าเดือนละสองสามครั้งบ้างส่วนมากเป็นพ่อบ้านจี้ที่ดูแลแทน แม่ทัพโจวขอกลับมาดูแลทหารในสังกัดของเมืองหลวงฝึกซ้อมทหารในค่ายขององค์ชายสองที่ดูแลรักษาวังหลวง ทุกวันต้องออกไปฝึกซ้อมและดูแลค่ายแทนองค์ชายสองทุกอย่างส่วนวันหยุดก็เลี้ยงบุตรช่วยฮูหยินพากันไปที่ฟาร์มของพ่อตาเป็นส่วนใหญ่เพราะได้เรียนรู้งานทุกสิ่งอย่างซึ้งทั้งสองแฝดจะชอบมากเวลาได้ออกข้างนอกกันส่งเสียงกรีดกร๊าดกันเลยทีเดียว เซี่ยเสี่ยวหลานได้แต่หัวเราะสองแฝดที่อยากรู้อยากเห็นส่งเสียงถามใหญ่เลยยังกับตัวเองพูดชัดเสียอีก นางมองลูกที่ช่างจ้อถามอย่างเอ็นดู"ว่ายังไงหือเจ้าตัวยุ่งทั้งสองของแม่อยากรู้อะไรอีกถามพ่อกับแม่ไม่หยุดเลยหือเจ้าหมูน้อยของแม่" ก่อนที่นางจะฟัดพุงของลูกน้อยท
เซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ช่วยงานองค์ชายสองจนครบเดือนแล้วตอนนี้สินค้าทุกย่างเริ่มส่งออกขายไปยังเมืองใกล้เคียงหลายเมืองแล้ว ตั้งแต่ที่ทางตัวเมืองที่องค์ชายสองลงมาให้ความรู้และสอนอาชีพให้กับชาวบ้านที่อาศัยในแทบชายทะเลให้รู้จักว่าสิ่งไหนสามารถกินได้และนำมาใช้ประโยชน์ได้บ้าง ของที่นำเข้าร่วมงานของดีของตัวเมืองนี้ได้รับความสนใจจากเมืองข้างเคียงเป็นจำนวนมากเพราะสินค้าที่จะส่งขายทุกตัวอย่าง จะให้ชิมฟรีกันภายในงานสร้างความแปลกใหม่สำหรับชาวเมืองเป็นอย่างมากและพอทุกคนได้ชิมสินค้าทุกตัวจึงขายดี จนกลับไปขนที่จวนมาขายสร้างตำลึงให้กับองค์ชายสองเป็นจำนวนมากหักค่าคนงานที่มารับจ้างออกแล้ว แม้แต่ทหารก็ยังได้รับเงินพิเศษต่างหากนอกจากเบี้ยหวัดรายเดือนที่ได้รับอีกด้วยสร้างความดีใจให้กับทหารในสังกัดขององค์ชายสองยิ่งนัก พวกเขาพากันส่งตำลึงให้ครอบครัวที่รออยู่ทางบ้านกันทุกคน ชาวบ้านก็มีงานทำใครมีที่ทางไม่ติดกับทะเลจนเกินไปองค์ชายสองก็แจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ผักต่างให้จนครบทุกครัวเรือนและให้เข้าร่วมโครงการหลวงขององค์ชายสองที่ซื้อที่ไว้สำหรับสอนชาวบ้านเพาะปลูกและพาลงมือสอนทุกขั้นตอน ใครไม่มีที่องค์ชายสองก็จัดสรรให้ทุกครอบค
ตอนนี้สองร่างพัวพันกันบนเตียงหลังใหญ่ด้วยความเร่าร้อนฟางอี้หลิงที่ไม่เคยผ่านมือชายมาก่อนตอนนี้ถูกพระสวามีปรนเปรอจนไม่เป็นตัวของตัวเอง มันทั้งเสียวทั้งเรียกร้องให้นางตอบสนองเขากลับแบบเงอะๆงะๆของคนที่ไม่ประสาเรื่องของสามีภรรยาที่มีสัมพันธ์ลึ้กซึ้งต่อกัน นางก็ทำไปตามสัญชาตณาญของนางเองสร้างความพอใจให้กับชายหนุ่มยิ่งนัก ที่พระชายรักยอมตอบสนองตัวเองแบบไร้เดียงสายิ่งทำให้อารมณ์ของท่านอ๋องหนุ่มที่กักเก็บมานานแทบจะคลั่งต่อกริยาน่ารักของพระชายารักของตัวเองเขาจึงต้องให้นางพร้อมกัน ก่อนจะนำอ๋องน้อยเข้าไปในกุหลาบงามของนางการร่วมหอในครั้งนี้ชายหนุ่มจึงต้องใจเย็นและให้นางประทับใจในการร่วมรักกับพระสวามีมากที่สุดเนางร้องครวญครางใต้ร่างใหญ่ของพระสวามีมือก็ลูบสะเปะสะปะไปทั่วตัวของพระสวามี ชายหนุ่มกำลังดูดดึงหน้าอกอวบใหญ่เกินตัวของนางด้วยความหลงไหลส่วนมืออีกข้างก็ลูบลงไปแหวกร่องกลางกายของนางที่มีน้ำสีใสรื่นออกมาเพราะมีอารมณ์ร่วมกับพระสวามีก่อนจะใช้นิ้วเขี่ยจุดอ่อนไหวของนางจนฟางอี้หลิงต้องส่งเสียงครางหวานออกมา อ๋องหนุ่มเร่งชักนิ้วเร็วขึ้นให้ชายารักถึงฝั่งฝันไปก่อนตนเองพอท่านอ๋องชักนิ้วเร็วขึ้นตามเสียงกรี
ในที่สุดก็ถึงวันที่ไปดูเกลือกันที่ได้เวลาตามที่กำหนดหลังจากอิ่มมื่อเช้าทุกคนก็ออกไปที่ทำนาเกลือเลย เซี่ยเสี่ยวหลานก็ขี่ม้าตัวเดียวกับสามีเพราะแม่ทัพหนุ่มไม่ยอมให้นางขี่ม้าคนเดียวอีกนั้นเอง พอมาถึงที่ทำนาเกลือทั้งสามหนุ่มตกตะลึงกับผลงานของตัวเองจากที่มองไปจนสุดลูกหูลูกตามีแต่เกลือสีขาวจนเต็มไปหมด สามคนสูดลมหายใจจนสุดก่อนจะหันหน้ามองกันและยิ้มด้วยความภาคภูมิใจในที่สุดก็สำเร็จ"ขอบใจน้องสะใภ้ยิ่งนัก" องค์ชายสองตรัสขึ้นหลังจากมองดูนาเกลือจนพอใจ"เอาละทุกคนเอาที่คาดแจกจ่ายให้กับคนงานกวาดเอาไว้เป็นกองๆ ให้คนลำเลียงเข้าไปเก็บที่โรงเรือนใหญ่เพื่อจะบรรจุใส่ชะรอมใหญ่รอส่งออกขายต่อไปทั่วทุกเมืองได้เลย" นางบอกหัวหนัาทหารที่คอยดูแลนาเกลือ"อย่าลืมเอาจัดส่งเข้าวังให้องค์ฮ้องเต้ได้เห็นว่าแคล้นของเราก็สามารถผลิตเกลือใช้เองแล้วนะเพคะองค์ชายจะได้ไม่ต้องนำเข้าให้เสียตำลึงทองมากมาย ตอนนี้ให้ราชสำนักจัดการขายให้ราษฎรของค์ฮ้องเต้ได้เลยเพคะองค์ชาย" เพราะองค์ชายสองเป็นคนผูกขาดและขายเกลือแต่เพียงผู้เดียวโดยคนในราชสำนักของฮ้องเต้ลงมาดูแลด้วยอีกทาง วันนั้นทั้งวันทั้งสี่คนก็อยู่ที่นาเกลือจนถึงมื้อเที่ยงเซี่ยเสี่
เรื่องราวของเมืองจี่เป่ยถูกจัดการเสร็จสิ้นภายในสองอาทิตย์นายอำเภอลู่ฟงถูกชาวบ้านข้วางปาผักเน่าไข่เน่าอยู่หนึ่งอาทิตย์เต็มทุกคนต่างพากันสาปแช่งเขาสารพัดที่อยากจะทำ แล้วผู้ตรวจการจากเมืองเหลียวเดินทางมาถึงพร้อมทั้งหลักฐานหลายอย่างตระกูลลู่สิ้นสลายไปเพราะหลานชายคนโปรดชาวเมืองเหลียวโกรธแค้นบุกเข้าทำร้ายปู่กับย่าของลู่ฟงจนตายคาจวนอย่างอนาถที่ส่งเสริมหลานชายในทางที่ผิด บิดาถูกตรวจสอบจากจดหมายที่ท่านอ๋องส่งไปถึงพี่ชาย จัดการบิดาของลู่ฟงถูกปลดจากตำแหน่งขุนนางใหญ่พบหลักฐานมัดตัวต้องโทษประหาร แต่ฝั่งฮูหยินเอกไม่ได้รู้เรื่องด้วยได้จึงลงโทษผู้เป็นบิดาโทษคือประหารและไม่ให้ลูกหลานตระกูลลู่รับราชการอีกชั่วเก้าโครต ฮูหยินเอกขายกิจการพาลูกๆทุกคนย้ายไปที่เมืองอื่นกับครอบครัวเก่า ตอนนี้ในเมืองจี่เป่ยติดป้ายรับสมัครสอบนายอำเภอคนใหม่ในอีกหนึ่งเดือน ให้ทุกคนที่อยากจะสอบเป็นนายอำเภอให้ตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบที่จะมีขึ้นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าส่วนท่านอ๋องนั้นตามเกี้ยวพระชายาทุกวันแต่ยังไม่สำเร็จแต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยท้อถอยเพราะหลงรักพระชายาของตัวเองจนถอนตัวไม่ขึ้น โดนนางสั่งสอนด่าทอชายหนุ่มกับย