Home / รักโบราณ / ภาพวาดลิขิตรัก / บทที่3 เซียวต้าถง

Share

บทที่3 เซียวต้าถง

Author: SnailW
last update Huling Na-update: 2025-05-29 16:58:37

หลังจากมื้อเย็นผ่านพ้นไป ทุกคนต่างแยกย้ายที่กันไปพักผ่อน หนิงเหอเองเมื่อล้างชามที่กินอาหารกันไปเมื่อครู่หมดแล้ว จึงกลับเข้ามาในห้องนอนของตนเอง พร้อมเอามือก่ายหน้าผากอย่างคิดหนัก

บ้านหลังนี้เล็กและแคบมาก ทำให้นางได้ยินการเคลื่อนไหวของอีกสองห้องอย่างชัดเจน หนิงเหอได้แต่เหม่อลอยมองหลังคาที่มุงด้วยหญ้าแห้งด้วยสายตาที่คิดหนัก นางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? หากนางมาอยู่ที่นี่ และตัวนางที่อยู่ในอีกมิติหนึ่งล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น?

นางพอเคยที่จะอ่านหนังสือแนวทะลุมิติมาอยู่บ้าง แต่คนเหล่านั้นล้วนมีของวิเศษติดตัวมา หรือแม้แต่ความสามารถเป็นหมอข้ามมายังมิติเช่นนี้ แล้วหากนางกลับไปไม่ได้ล่ะ? นางจะต้องอยู่ที่นี่ตลอดไปเลยใช่หรือไม่? แม้ว่าที่แห่งนั้นจะไม่มีคนที่ให้นางห่วงก็เถอะ

ในมิติเดิมของหนิงเหอ เธอเป็นเด็กกำพร้าที่อยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเท่านั้น แต่แล้ววันหนึ่งก็มีชายแก่คนหนึ่งรับนางไปเลี้ยงดูเนื่องจากว่าอีกฝ่ายไม่มีลูกหลาน แต่เมื่อเห็นนางก็รู้สึกว่าถูกชะตาจึงรับนางไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม

หลี่หม่าซุนหรือชายแก่ที่รับนางไปเลี้ยงนั้น เป็นจิตรกรมือหนึ่งของประเทศเลยก็ว่าได้ เขาไม่เคยรับลูกศิษย์มาก่อนจึงใช้เวลาที่เหลือทั้งชีวิตของเขาทุ่มเทสั่งสอนนางเรื่องศิลปะทุกแขนง อย่างเช่น วาดภาพ คัดอักษร เดินหมาก หรือแม้แต่เรื่องดนตรี ทำให้ทุกคนในวงการศิลปะต่างรู้จักนางกันในนามของลูกศิษย์เทพแห่งศิลป์ แต่ยังไม่ทันที่ผลงานของนางจะได้แสดงต่อสาธารณชน นางกลับมาอยู่ที่นี่เสียแล้ว

หนิงเหอถอนหายใจออกมาอย่างไม่รู้ตัว… หากจะใช้ความสามารถในการหาเงิน อย่างน้อยนางจำเป็นต้องมีต้นทุนเสียก่อน แต่ดูจากสถานะของครอบครัวนี้แล้ว แม้แต่อาหารแต่ละมื้อยังเป็นเช่นนี้ อย่าว่าแต่หาเงินซื้อพู่กันเลยแม้แต่ขนสักเส้นของพู่กันนางก็คิดว่ายังหาเงินซื้อไม่ได้

……………

เช้าวันต่อมา

หนิงเหอตื่นขึ้นมาในช่วงเช้ามืด สาเหตุที่นางตื่นมาก็เพราะว่าได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวที่อยู่ด้านนอก เมื่อออกมาก็เห็นว่า ทุกคนในครอบครัวต่างตื่นขึ้นกันหมดแล้ว หนิงเหอเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ทำได้เพียงหลบสายตาทุกคนด้วยความเก้อเขิน แต่ตื่นมาเช้าเช่นนี้ นางก็ไม่รู้ว่าหนิงเหอคนเดิมนั้นต้องทำหน้าที่อะไร

“หนิงเหอ เจ้ายังไม่สบายอยู่ วันนี้ก็อย่าเพิ่งไปซักผ้าที่ลำธารเลย พักผ่อนสักวันเถอะ” กู้อวี้สยงเดินออกมาจากห้องบอกกับลูกสาว

หนิงเหอจึงพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินมาหากู้หลันโจวที่กำลังมัดเศษกิ่งไม้แห้งอยู่

“พี่ใหญ่กำลังทำอะไรอย่างนั้นหรือ?” แม้จะเก้อกระดากที่ต้องเรียกเด็กที่อายุน้อยกว่าตนเองว่าพี่ชาย แต่เมื่อนางมาอยู่ในร่างของเด็กสาวคนนี้แล้ว จะให้ทำอย่างไรได้

“วันนี้เป็นวันที่ต้องเอาฟืนเหล่านี้ไปส่งให้ที่บ้านนายท่านเซียว เจ้าอยากไปด้วยหรือไม่?”

“นายท่านเซียว?”

“นายท่านเซียวก็คือท่านเศรษฐีเซียวจื่อหาน บ้านของเขาอยู่ก่อนทางเข้าหมู่บ้านของเรานี่เอง” จากนั้นกู้หลันโจวจึงเล่าเรื่องของนายท่านเซียวให้แก่น้องสาวที่ความจำเสื่อมฟัง จนทำให้หนิงเหอได้ว่ารู้ว่า

นายท่านเซียวที่หลันโจวเล่านั้นมีชื่อว่า เซียวจื่อหาน เป็นพ่อค้าที่อาศัยอยู่แถบนี้ บ้านของเขาและครอบครัวอยู่ห่างจากหมู่บ้านของเราไม่มาก ทำให้เมื่อนายท่านเซียวต้องการจ้างแรงงาน จึงมักจ้างคนที่หมู่บ้านของเรา

แต่เมื่อหลายปีก่อน นายท่านเซียวเกิดถูกชะตากับกู้อวี้สยง ที่เป็นคนหนุ่มขยันทำมาหากิน เพื่อส่งเสริมกู้อวี้สยงนายท่านเซียวจึงรับซื้อฟื้นกับครอบครัวกู้โดยเฉพาะ และยังมีหลายครั้งที่กู้อวี้สยงล่าสัตว์กลับมาได้ ก็นำไปขายที่บ้านของนายท่านเซียวแห่งนั้น

หนิงเหอคิดว่าเมื่ออยู่ที่บ้านก็ไม่มีอะไรทำ หากออกไปด้านนอกเปิดหูเปิดตาบ้างคงจะดี ในขณะที่กู้หลันโจวและกู้เหวินอี้กำลังแบ่งฟืนใส่ไม้หาบออกไป หนิงเหอก็กำลังจะเข้าไปช่วยทั้งสอง แต่กลับถูกอีกฝ่ายปฏิเสธ ทำให้นางทำได้เพียงเดินตามอีกฝ่ายไปบ้านนายท่านเซียวเท่านั้น

พวกเขาทั้งสามคนเดินอ้อมมาที่ด้านหลังของบ้านหลังใหญ่ เพื่อนำฟืนมาให้อีกฝ่าย กู้หลันโจวทักทายเหล่าสาวใช้ที่อยู่ด้านหลังอย่างเป็นกันเอง เพราะเขาจะต้องมาส่งฟืนที่นี่ทุกสองสามวันอยู่แล้ว ทำให้คุ้นเคยกับผู้คนภายในนี้เป็นอย่างมาก

“หลันโจวววว” ในขณะที่กู้หลันโจวและกู้เหวินอี้กำลังช่วยกันแบกฟืนไปกองในห้องเก็บของนั้น เสียงเรียกชื่ออีกฝ่ายจากทางด้านหลังก็ดังขึ้น ก่อนที่ร่างสูงของใครคนหนึ่งวิ่งผ่านหนิงเหอไปอย่างรวดเร็ว และเขาไปกอดคอหลันโจวและเหวินอี้เอาไว้อย่างสนิทสนม

“คุณชาย” หลันโจวร้องทักขึ้นอย่างตกใจ เพราะอีกฝ่ายโถมร่างกายเข้าหาเขาจนเขาเสียหลังเซไปหาชั้นวางของที่อยู่ด้านข้าง

“หลันโจว เหตุใดเจ้าถึงหายไปหลายวันไม่ไปหาข้าที่เรือนเลย จนข้าต้องสั่งคนที่อยู่ห้องครัวด้านหลังเอาไว้ ว่าเมื่อเจ้ามาส่งฟืนเมื่อไหร่ให้ไปแจ้งแก่ข้า” เซียวต้าถงกล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงน้อยใจ ก่อนจะกอดคออีกฝ่ายทำท่าจะเดินออกมาจากห้องเก็บของ

“ขออภัยคุณชายด้วย เนื่องจากหลายวันมานี้ข้าจะต้องดูแลงานที่บ้าน ไม่สามารถปลีกตัวมาหาท่านได้” กู้หลันโจวตอบกลับอีกฝ่ายด้วยท่าทีจนใจ

“ช่างเถอะ ๆ ไหน ๆ เจ้าก็มาแล้ว พวกเราไปนั่งเล่นที่สวนด้านหลังกันก่อนดีกว่า” ไม่รอให้อีกฝ่ายปฏิเสธ เซียวต้าถงก็ลากกู้หลันโจวกับกู้เหวินอี้ออกไปตามความต้องการของตนเองทันที

ทำเอาหนิงเหอที่ยืนอยู่มึนงงไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อ โชคดีที่กู้เหวินอี้ฝาแฝดของนางหันมาส่งสัญญาณให้นางเดินตามพวกเขาไป

เซียวต้าถงพาพี่น้องตระกูลกู้ทั้งสามคนมาเล่นที่สวนดอกไม้ด้านหลัง โดยที่บ่าวไพร่เห็นแต่ไม่มีใครเข้ามาห้าม แสดงให้เห็นว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาเข้ามาที่นี่ ดูจากท่าทางสนิทสนมของทั้งสามคนแล้ว หนิงเหอก็ค่อยโล่งใจ เป็นนางที่อาจจะคิดมากไปเอง

ด้านในสวนดอกไม้มีชุดเก้าอี้หลายตัวถูกตั้งเอาไว้ พร้อมทั้งมีขนมอาหารว่างวางเอาไว้อยู่อีกมาก ด้านข้างมีสาวใช้สูงวัยยืนอยู่คนหนึ่ง

“แม่นมหลี่ ท่านกลับเข้าไปเถอะ พวกข้าอยากเล่นกันตามลำพัง” เซียวต้าถงที่เดินเข้ามาก็สั่งอีกฝ่ายออกไปทันทีอย่างเอาแต่ใจ

“เจ้าค่ะ อาหารพวกนี้ข้าให้คนครัวจัดไว้ให้ พวกเจ้ากินได้ตามสบายเลยนะ” แม่นมหลี่รับคำ ก่อนจะหันมาบอกพวกเขาสามพี่น้องด้วยน้ำเสียงมีเมตตา

“ขอรับ / เจ้าค่ะ”

เนื่องจากหลายวันมานี้พี่น้องสกุลกู้ไม่มาที่นี่ ทำให้นายน้อยมีสีหน้าซึมเศร้าเป็นอย่างมาก หลังจากที่ได้ยินว่าวันนี้พวกเขาเอาฟืนมาส่ง นางจึงให้แม่ครัวเตรียมขนมมาให้อีกฝ่าย เพื่อตอบแทนที่พวกเขามาเล่นเป็นเพื่อนนายน้อยผู้เอาแต่ใจของนาง เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว แม่นมหลี่จึงเดินออกไปจากสวนไปทำงานของตนเองต่อ

เมื่อได้อยู่ตามลำพังแล้วเซียวต้าถงเข้ามาพร้อมกับกล่องจิ้งหรีดหนึ่งใบ ก่อนจะกล่าวกับหลันโจว

“หลันโจว เจ้าดูนี่สิ นี่คือจิ้งหรีดที่เจ้ามอบให้ข้า เมื่อวันก่อนข้าพามันไปพนันกับเพื่อนที่สำนักศึกษา ปรากฏว่ามันชนะจิ้งหรีดคนอื่น ๆ แทบไม่เห็นฝุ่นเลยละ"เซียวต้าถงเล่าออกมาอย่างดีใจ

“ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว พ่อข้าบอกว่า มันเป็นจิ้งหรีดที่กำลังโตเต็มวัย พละกำลังของมันย่อมดีกว่าจิ้งหรีดที่เอามาแข่งด้วย” หลันโจวอธิบายกับเซียวต้าถง

หนิงเหอเห็นทั้งสองพูดคุยกันเรื่องทั่วไปของเด็กผู้ชายที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ นางจึงมองหันมองไปรอบ ๆ แทน ก่อนจะพบว่า ที่โต๊ะหินอ่อนนั้น มีกระดาษบางอย่างถูกที่ทับกระดาษทับไว้อยู่ ด้วยความอยากรู้ของนาง นางจึงเดินเข้าไปดู ก่อนจะพบว่า มันคือกระดาษคัดลายมือที่เซียวต้าถงคัดทิ้งเอาไว้ ตรงพื้นด้านข้างโต๊ะหินอ่อน มีกระดาษหลายใบถูกขยำทิ้งไว้หลายก้อนด้วยเช่นกัน

…………………………………..

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ภาพวาดลิขิตรัก   ตอนพิเศษ5(จบ)

    ตอนพิเศษ 5ยามจื่อ (23.00น.-00.59น.)เจิ้งหย่งซีและกู้หนิงเหอที่พึ่งจะสะสางงานของตนเองเสร็จ จึงเดินมาที่เรือนของเด็กๆ ทั้งสามคนเพื่อดูว่าพวกเขาเข้านอนกันรึยัง ก่อนจะเห็นสาวใช้ของพวกเด็กๆ กำลังช่วยกันเก็บกระดาษที่ใช้การไม่ได้แล้วออกมาด้วยฝีเท้าเบาเมื่อสาวใช้เห็นทั้งสองคนก็รีบย่อกายเคารพทั้งสอง“พวกเด็กๆ ยังไม่นอนหรือ?” เจิ้งหย่งซีถามสาวใช้ทั้งสองด้วยความแปลกใจ เพราะเวลานี้เองก็ดึกมากแล้ว พวกเด็กๆ ควรจะนอนได้แล้ว“ท่านอ๋องน้อยทั้งสองกับท่านหญิงกำลังคัดอักษรกันอยู่เจ้าค่ะ แต่ข้าน้อยเห็นว่าทั้งสามก็เริ่มง่วงกันบ้างแล้ว จึงแอบหยิบกระดาษเหล่านี้ออกมาจัดการก่อนเจ้าค่ะ”สาวใช้คนหนึ่งรีบรายงานเจิ้งหย่งซีที่ได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าให้ทั้งสอง ก่อนจะโบกมือให้อีกฝ่ายไปจัดการงานของตนเองส่วนตัวเขาและกู้หนิงเหอก็เดินเข้าไปที่ตัวเรือนด้านในเพื่อดูลูกๆ ของตนเองแต่เมื่อเข้าไปด้านในก็ต้องเบาฝีเท้าของตนเองลงเล็กน้อย เมื่อเห็นว่า เจ้าหัวผักกาดน้อยทั้งสามคนตอนนี้ ต่างหลับคาโต๊ะหนังสือไปเรียบร้อยแล้วโดยที่เจิ้งเลี่ยงหรูและเจิ้งเลี่ยงหลิงหน้าฟุบลงที่โต๊ะหนังสืออยู่ ส่วนเจิ้งหลงเป่าตอนนี้นอนแผ่หลาอยู่ที่พื้

  • ภาพวาดลิขิตรัก   ตอนพิเศษ4

    ตอนพิเศษ 4“ไทเฮา พะยะค่าาาา”ขณะที่ผู้ใหญ่กำลังพูดคุยกันอยู่ในห้องโถง เสียงเล็กๆ ของเจ้าแฝดคนหนึ่งก็ดังขึ้น โดยที่เสียงมาก่อนตัวคนเสียอีกไม่ต้องเดาทุกคนที่อยู่ภายในห้องก็รู้ว่าเป็นแฝดคนไหนเจิ้งหลงเป่าวิ่งตุ๊ต๊ะเข้ามาทันทีที่สิ้นเสียง เพียงผ่านธรณีประตูเพียงก้าวเดียว เมื่อเห็นว่ามีใครอยู่ภายในห้องโถงบ้าง เจ้าตัวก็ยิ้มแฉ่งจนสามารถเห็นฟันครบทุกซี่“หลงเป่า อาบน้ำเสร็จแล้วหรือ? มานี่สิ ให้ข้าดมดูหน่อยว่ายังเหม็นอยู่หรือไม่” เมื่อเห็นหลานชายตัวเล็กวิ่งเข้ามา ไทเฮาก็กล่าวกับเขา พร้อมอ้าแขนทั้งสองข้างเพื่อรอรับอีกฝ่ายโถมตัวเข้ามาหาทันทีเจิ้งหลงเป่าเองก็ไม่ทำให้อีกฝ่ายผิดหวัง เขารีบวิ่งไปหาหญิงชราที่ตนเองเรียกว่าไทเฮาทันที เพื่อให้อีกฝ่ายได้พิสูจน์ว่าตัวเขาไม่เหม็นแล้วอีกต่อไปฟืดดด“อ่าา หลงเป่าไม่เหม็นแล้วจริงๆ ด้วย” ไทเฮากล่าวกับเขาอย่างอ่อนโยน นางมีความสุขทุกครั้งที่อยู่กับเจ้าแฝดทั้งสามคน อาการเจ็บป่วยที่มักจะเป็นอยู่บ่อยๆ ยามอยู่ในวังหลวง แต่เมื่อมาเห็นหน้าของทั้งสามแล้วคล้ายกับว่านางลืมความเจ็บป่วยของตนเองไป“หลงเป่าไม่เหม็นแล้ว เช่นนั้นคืนนี้ให้หลงเป่านอนกับท่านดีหรือไม่พะยะค่ะ” เ

  • ภาพวาดลิขิตรัก   ตอนพิเศษ3

    ตอนพิเศษ 3ส่วนลูกชายคนโตของนาง หรือแฝดคนที่สอง เจิ้งเลี่ยงหลิง (แปลว่า ระฆังที่ส่องสว่าง)ลูกชายคนนี้ของนางเป็นเด็กที่ค่อนข้างเรียบร้อยมาก หากเปรียบเทียบกับน้องชาย คนภายนอกอาจจะคิดว่าเจิ้งเลี่ยงหลิงเป็นเด็กที่ว่าง่ายและอยู่ในโอวาท พวกเขาคิดผิด!!!เจิ้งเลี่ยงหลิงเป็นเด็กที่ค่อนข้างดื้อเงียบ เจ้าคิดเจ้าแค้นและเป็นเด็กขี้รำคาญ ครั้งหนึ่งที่เจิ้งหลงเป่าแอบเอาพู่กันของเขาไปเล่นและเขาจับได้ เขาไม่ได้เปิดโปงและต่อว่าเจิ้งหลงเป่าทันที แต่วันต่อมาเจิ้งหลงเป่าก็ต้องร้องไห้ออกมาเสียงดังเพราะ ตุ๊กตาหุ่นไม้ของรักของหวงของเขา อยู่ๆ ชิ้นส่วนต่างๆ ก็หลุดกระจายออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทำให้เจิ้งหลงเป่าเศร้าเสียใจอยู่หลายวันทีเดียวตอนแรกนางก็เพียงคิดว่าอาจเป็นเรื่องบังเอิญ แต่เมื่อพ่อบ้านเฉินที่คอยดูแลพวกเขามารายงานนาง ก็ทำเอานางและสามีถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว“ตุ๊กตาหุ่นไม้ของท่านชายรองมีร่องรอยของการแกะแยกชิ้นส่วนที่เชื่อมต่อออกไปขอรับ ทำให้เมื่อคุณชายจับหุ่นไม้ขึ้นมา มันจึงมีชิ้นส่วนกระจัดกระจายออกไป…ข้าสอบถามองครักษ์เงาที่ดูแลแล้ว พบว่าเป็นฝีมือของท่านอ๋องน้อยขอรับ”“จะเป็นไปได้อย่างไร เจิ้งเลี่ย

  • ภาพวาดลิขิตรัก   ตอนพิเศษ2

    ตอนพิเศษ 2ตอนแรกเขาคิดว่าขอเพียงท่านแม่ตำหนินิดหน่อยก็ไม่น่าเป็นอะไรแล้ว แต่ดูจากสีหน้าท่านแม่ตอนนี้ที่ยังนิ่งเงียบอยู่ เจิ้งหลงเป่าก็เริ่มหวาดกลัวขึ้นมา แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด อยู่ๆ เขาก็รู้สึกแสบจมูกแสบตาขึ้นมาเล็กน้อยอย่างห้ามไม่อยู่ น้ำตาหยดใสๆ ก็เริ่มไหลรินออกมา“อึก ฟืดด” เจิ้งหลงเป่าก้มหน้าร้องไห้อยู่เงียบๆ เขารีบใช้แขนเสื้อของตนเองเช็ดน้ำตาที่ไหลรินออกมาทำเอาพ่อบ้านเฉินที่ยืนอยู่รู้สึกปวดใจมากเป็นอย่างยิ่ง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่กล้าออกหน้ามาช่วยท่านชายรองของตนเอง“เจ้ารู้หรือไม่ว่าตนเองมีความผิดอะไร?” กู้หนิงเหอยังฝืนใจทำน้ำเสียงนิ่งเรียบกล่าวถามอีกฝ่ายเจิ้งหลงเป่าที่ได้ยินเช่นนั้นก็ผงกหัว พร้อมกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ลูกผิดเอง ลูกไม่ตั้งใจคัดอักษรอยู่ในห้องกับพวกท่านพี่ และยังแอบมาเล่นในสวนโดยที่ไม่ได้บอกสาวใช้ตนเอง”กู้หนิงเหอมองลูกชายคนเล็กของตนเองสำนึกผิดด้วยความปวดใจ นางเองก็ทำโทษเขารุนแรงไม่ลงเช่นกัน แต่หากครั้งนี้ยังไม่ทำโทษเขาอีก เขาก็จะได้ใจไปเรื่อยๆบรรยากาศภายในสวนเป็นไปอย่างเคร่งเครียดในตอนนั้นเองที่ด้านหน้าประตูทางเข้าสวนมีความเคลื่อนไหว พร้อมกับกลุ่มผู้สู

  • ภาพวาดลิขิตรัก   ตอนพิเศษ1

    ตอนพิเศษ1ณ ดินแดนเหนือแห่งแคว้นเป่ยเอี้ยนแม้ตอนนี้จะเป็นฤดูร้อน แต่อากาศในช่วงเช้ามืดของที่นี่ก็มีสายลมเย็นเอื่อยเฉื่อยพัดผ่านอยู่ตลอดเวลา ร้านรวงต่างๆ เริ่มเปิดหน้าร้านเพื่อต้อนรับลูกค้าในยามเช้าแล้วเสียงของเจ้าของร้านต่างทักทายเหล่าผู้พิทักษ์ความสะอาดตัวน้อยทั้งหลาย ที่ออกมากวาดถนนหนทางในเมืองให้แก่พวกเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและโอบอ้อมอารี“อรุณสวัสดิ์ เถ้าแก่จ้าว” เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่งกล่าวทักทายเจ้าของร้านแพรพรรณที่ออกมาเปิดร้านของตนเอง“อรุณสวัสดิ์ วันนี้ก็ฝากด้วยนะ” เฒ่าแก่จ้าวขานรับเด็กๆ“เจ้าค่ะ/ขอรับ” เด็กๆ_ที่มีไม้กวาดอยู่ในมือทั้งหลายตอบรับเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสผู้คนที่เคยมาเยือนเมืองเหนือแห่งนี้หลายครั้งจะเห็นภาพเหล่านี้ด้วยความชินตา แต่สำหรับผู้ที่เคยเดินทางมาที่นี่ครั้งแรกต่างประหลาดใจกับการทักทายเช่นนี้เป็นอย่างมากตอนนี้แดนเหนือที่เคยเป็นสถานที่ของเหล่าขอทานและเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน กลับกลายเป็นสวรรค์บนดินที่ไม่ว่าใครก็อยากมาเที่ยวที่แห่งนี้สักครั้งในชีวิตโดยเฉพาะการได้แช่บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติของที่นี่ เป็นสิ่งที่แต่ละคนที่ได้แช่มันก่อนกลับไป_แล้วจะไปเล่าต

  • ภาพวาดลิขิตรัก   บทที่136 ยินดี (จบ)

    ตอนที่ 136 ยินดี (จบ)“พระชายา คือว่า…”“ข้าจะคลอดเขาให้ได้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม… ท่านเตรียมตัวเถอะ” กู้หนิงเหอกล่าวตัดบทกับอีกฝ่าย ก่อนจะหลับตาลงเพื่อเรียกแรงของตนเองกลับมาอีกครั้ง บ่งบอกว่านางจะทำตามที่นางพูดจริงหมอหลวงเกาที่ได้ยินดังนั้นก็เดินออกจากเรือนเพื่อไปเตรียมสมุนไพรด้วยตนเองแอ๊ดดเพียงเปิดประตูออกก็พบชินอ๋องที่ยืนอยู่ เจิ้งหย่งซีรีบเข้ามาถามอีกฝ่ายด้วยความร้อนใจ“หนิงเหอเป็นอย่างไรบ้าง?”หมอหลวงเกามองหน้าอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะรายงานอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว“เรียนท่านอ๋อง ในครรภ์ของพระชายายังมีเด็กอยู่อีกหนึ่งคนขอรับ และพระชายาเลือกที่จะคลอดเด็กออกมาให้ได้”เจิ้งหย่งซีและคนอื่นๆ ที่ได้ยินเช่นนั้นก็ต่างตื่นตะลึงและลุกขึ้นเดินมาหาเขาอีกที“ข้าจำเป็นต้องต้มยาขับเลือดเพื่อให้คลอดเด็กคนที่สามออกมาได้โดยไว ไม่เช่นนั้นอาจเป็นอันตรายกับทั้งสองได้”“นางจะเป็นอันตรายหรือไม่?”เจิ้งหย่งซีถามอีกฝ่ายด้วยสีหน้าราวกับจะกินเลือดกินเนื้ออีกฝ่าย ทำให้หมอหลวงเกาไม่อาจตอบคำถามอีกฝ่ายได้ในตอนนั้นเอง หมอหลวงลู่ก็ได้เดินออกมา“หมอหลวงเกา ท่านไปต้มสมุนไพรเถิด… ท่านอ๋อง พระชายามีคำพูดหนึ่

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status