Share

บทที่ 8

บทที่ 8

แต่เธอก็พูดไม่ได้และไม่รู้จะทำอย่างไรนอกจากทำตามที่บิดาต้องการนั่นคือ โอนเงินให้พี่ชายของเธอทุกๆ เดือนตามที่เขาต้องการในระยะเกือบสองปีที่ผ่านมา จนสองสามเดือนก่อนหน้านี้ที่เธอไม่ได้โอนเงินให้มิ่งเมืองเพราะเงินเก็บของบิดานั้นมันแทบไม่เหลือติดบัญชีเพราะต้องใช้ในการรักษาพยาบาลด้วย

 “แล้วเงินเก็บพ่อล่ะ มนไปถอนออกมาสิ...” มิ่งเมืองยังคงหาวิธีที่จะให้น้องสาวหาเงินมาให้ตนเองด้วยท่าทางร้อนรนจนมนตราเริ่มสงสัยพฤติกรรมของพี่ชาย...

 “พี่เมืองกำลังหนีอะไรคะ ทำไมต้องทำท่ารีบร้อนขนาดนั้นด้วย ไม่เจอกันเป็นปีๆ จะมาขอแค่เงินใช้นี่มันไม่น่าจะใช่ บอกมนมาตรงๆ ดีกว่า...”

“แกไม่ใช่แม่ฉันนะยายมน... ฉันแค่มาขอเงินใช้ก็เท่านั้นแกจะถามเรื่องอื่นทำไมให้วุ่นวาย ไม่เอาก็ได้วะ มาขอความช่วยเหลือแค่นี้ก็ทำเป็นท่าโน้นท่านี้”

มิ่งเมืองโวยวายหงุดหงิดใส่ มนตราพิจารณาพี่ชายอย่างจับสังเกต... มิ่งเมืองดูคล้ำลงร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดูซูบลงไปเยอะจนใบหน้าที่เคยคมคายเข้าขั้นหล่อเหลาในแบบชายไทยนั้นตอบลงดวงตาก็ลึกโหล ผมเผ้ายาวไม่มีรูปทรงไร้ซึ่งสง่าราศี ซึ่งหากเทียบกับเมื่อก่อนที่พี่ชายของเธอทำงานที่บริษัทเดิมมิ่งเมืองดูดีและหล่อเหลาจนเพื่อนๆ ยังมาขอให้เธอติดต่อพี่ชายให้หลายคนอยู่ แต่ตอนนี้เธอไม่แน่ใจว่าหากเพื่อนๆ ของเธอเหล่านั้นมาเจอมิ่งเมืองในขณะนี้ จะยังมีใครอยากจะได้เขาเป็นแฟนหรือคู่รักอยู่หรือไม่...

“พี่เมืองคะ มนไม่ได้หมายความว่าจะไม่ให้นะคะเพียงแต่ตอนนี้มนไม่มีจริงๆ พี่เมืองต้องรอ...”

“มีอะไรกันหรือจ๊ะหนูมน...” ก่อนที่สองพี่น้องจะได้คุยกันต่อเสียงของ เสี่ยวิบูล เสี่ยใหญ่วัยสี่สิบปลายที่มักมาที่ร้านและเทียวไล้เทียวขื่อมนตรามาได้สักระยะก็เดินมาถามด้วยแววตาที่ไม่น่าไว้วางใจเท่าที่ควร

“ไม่มีอะไรค่ะเสี่ย พอดีว่ามนคุยกับพี่ชายอยู่ ยังไงมนขอตัวก่อนนะคะ เราไปคุยกันที่บ้านดีกว่าพี่เมือง”

พูดจบมนตราก็ดึงแขนพี่ชายให้เดินตามไป มิ่งเมืองเดินตามน้องสาวแต่สายตาของเขาก็ยังมองมาที่เสี่ยวิบูลอย่างพอมีความหวังขึ้นมาบ้าง ชายหนุ่มลอบยิ้มร้ายกาจกับตนเอง... แต่มิ่งเมืองกับมนตราไม่รู้เลยว่าพวกตนนั้นก็ถูกจับจ้องมองมาจากใครบางคนอยู่เช่นกัน...

“เส้นผมบังภูเขาจริงๆ ฉันไม่นึกเลยว่ามันจะอยู่แค่ใต้จมูกฉันนี่เอง มันเก่งพอตัวที่หลบหน้าพวกนายได้เป็นปีๆ” อัครวัฒน์กล่าวเสียงเครียด ทำให้บรรดาบอดีการ์ดของเขาก้มหน้านิ่งยอมรับโดยดีกับสิ่งที่เจ้านายหนุ่มกล่าว...

“พวกเราขอโทษครับ...”

“ไม่เป็นไร มันไม่ใช่ความผิดของพวกนายเสียทีเดียว นับว่ามันเก่งมากที่หลบหลีกการตามล่าของเราไปได้แต่ตอนนี้เห็นทีมันจะไปไหนไม่รอด เอาเป็นว่าพวกนายไปพักเถอะ อ้อ... อย่าลืม เฝ้ามันไว้อย่าให้คลาดสายตา รวมไปถึงทุกคนที่เกี่ยวข้องกับมัน... พรุ่งนี้เตรียมตัวสะสางทุกอย่างให้จบสิ้น...”

“ขอบคุณครับคุณโดม...”

แดนนี่กับดาเนียลก็เดินออกไปจากห้องทำงานกว้างของเจ้านายหนุ่ม เมื่ออยู่เพียงลำพังดวงตาสีน้ำเงินเข้มที่เคยอ่อนหวานพรายด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ก็ผุดพรายด้วยรอยยิ้มหยันร้ายกาจราวจะหยันเหยียดคนทั้งโลก...

“ถึงเวลาของแกแล้วไอ้มิ่งเมือง แกจะต้องเจ็บยิ่งกว่าที่ไอ้เนวินมันเจ็บและปวดร้าวกว่าที่ฉันเคยพบเจอมา... ฉันสาบาน...”

เย็นวันนั้นมิ่งเมืองเดินออกมาจากร้านอาหารกึ่งร้านคาราโอเกะที่มีบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่สวยสดงดงามเป็นพนักงานเสิร์ฟซึ่งต่างก็นุ่งน้อยห่มน้อยเป็นจุดขายด้วยความกระปรี้กระเปร่าและสมหวังดังหมายเพราะทุกอย่างมันช่างลงตัวยิ่งนักโดยที่เขาแทบไม่ต้องทำอะไรเลย...

“แหม.. บทจะง่ายมันก็ง่าย แถมยังได้เงินมากกว่าที่ต้องการเสียอีก ฮ่าๆ” มิ่งเมืองหัวเราะชอบใจตบกระเป๋าเสื้อเชิ้ตซึ่งมีเงินจำนวนสองหมื่นบาทที่ได้จากเสี่ยวิบูลเป็นการตอบแทนน้ำใจที่เขาจะนำพาน้องสาวคนสวยมาดินเนอร์กับเสี่ยวิบูลในคืนนี้

ในความคิดของผู้เป็นพี่นั้นก็เพียงแต่หวังว่าน้องสาวจะได้คนมีเงินหนาๆ ไว้เลี้ยงดูและเขาเองก็จะได้สุขสบายไปด้วยหากเสี่ยวิบูลเลี้ยงดูมนตราในฐานะอนุภรรยา มนตราเองก็จะได้สบายอีกทั้งยังจะมีเงินไปรักษาพ่อที่นอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลอีกด้วย งานนี้เขาคิดคำนวณแล้วว่ามีแต่ได้กับได้หากมนตราไม่นำพาเสี่ยวิบูลก็ไม่เป็นไรก็ต่างคนต่างไปเพราะเสี่ยวิบูลก็สัญญากับเขาแล้วว่าหากมนตราไม่เต็มใจเสี่ยวิบูลก็จะไม่บังคับฝืนใจเธอ...   

แต่แล้วมิ่งเมืองก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติเมื่อยู่ๆ ก็มีชายฉกรรจ์สามคนเดินมาขวางเขาไว้ขณะที่จะเดินเข้าไปในซอยเล็กๆ ซึ่งเขาเปิดห้องพักเอาไว้ ใบหน้าถมึงทึงของชายทั้งสามทำให้เขาแทบเข่าอ่อน... ชายหนุ่มหันหลังจะวิ่งหนีแต่สุดท้ายทำได้เพียงคิดเพราะสติและเรี่ยวแรงของเขาได้ดับวูบลงพร้อมๆ กัน...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มนต์เสน่หาซาตานเถื่อน   บทที่ 61. อวสาน

    บทที่ 61. อวสาน “ไม่อยากนอนค่ะอยากทำอย่างอื่น..” มนตราบอกสามีเสียงพร่าเล็กน้อยแล้วเผยอกายขึ้นผลักเขานอนลงแทนที่ตนก่อนจะก้มลงไล้เลียยอดอกของเขาอย่างที่เขาทำกับเธอเมื่อครู่อัครวัฒน์ถึงกับครางเสียงดังเลยทีเดียว..“โอ้ว มนจ๋ามนที่รัก... ดีเหลือเกินเมียจ๋า...” อัครวัฒน์ครางกระเส่าเร่าร้อน กายแกร่งปวดหนึบไปด้วยความต้องการอยากจะโจนจ้วงเข้าสู่โพรงร่างสาว อัครวัฒน์ร้อนจนไม่อาจจะรีรอให้หล่อนเล่นเกมเหนือเขาได้ ชายหนุ่มผลักร่างเล็กลงนอนแทนที่ตนเปลี่ยนจากเกมรับเป็นเกมรุก มนตราหัวเราะเบาๆ อย่างถูกใจเมื่อเห็นแววตาและความพรั่งพร้อมของสามี อัครวัฒน์ก้มลงไปยังกึ่งกายสาวแล้วแตะแต้มริมฝีปากเลียไล้ไปทั้งกลีบกายสาวสดฉ่ำชุ่มชื้น...“อ๊า โอ้ววว... พี่โดมขา...” มนตราครางกระเส่าแล้วแอ่นหยัดสะโพกเข้าหาปากร้ายของเขาเร่าๆ ด้วยความเสียว ก่อนที่สะโพกมนจะเกร็งค้างกับปากและลิ้นของเขาเมื่อพุ่งทะยานไปสู่ความสุขสมอัครวัฒน์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วจับร่างเล็กให้ก้มก้งโค้งในท่าคลา

  • มนต์เสน่หาซาตานเถื่อน   บทที่ 60.

    บทที่ 60. มนตรามองสามีที่กำลังจูงมือลูกๆ มาหาตนในสวนผักปลอดสารพิษที่เธอกับลูกสาวฝาแฝดทั้งสองช่วยกันปลูก น้องมิ่งแก้ว กับ น้องมิ่งขวัญ ชอบกินผักซึ่งเธอพอใจมากที่เด็กๆ ชอบกินผัก ตอนนี้เด็กหญิงทั้งสองสี่ขวบแล้ว“คุณแม่ขา.. พวกเรามาแย้วววว..” เด็กหญิงหน้าตาน่ารักวิ่งมาหาผู้เป็นแม่จนผมเปียปลิวไสว มนตรากางแขนรอรับลูกสาวทั้งสองแล้วหอมแก้มแดงๆ ของสองสาวจอมซนหนักๆ อย่างรักใคร่และมันเขี้ยว“เหงื่อท่วมมาเชียวไปเล่นอะไรกันมาคะเนี่ย”“วิ่งจับผีเสื้อค่า แต่จับไม่ได้สักตัว” เด็กหญิงมิ่งขวัญตอบเจื้อยแจ้ว“ผีเสื้อบินเร็วๆๆ แบบนี้ค่า” เด็กหญิงมิ่งแก้วทำท่าบินๆ ให้ผู้เป็นแม่ดู“ผีเสื้อบินน่ารักจัง”“ช่ายค่า น่ารักเหมือนแก้วเหมือนขวัญ” เด็กหญิงทั้งสองพูดขึ้นพร้อมกันแล้วกอดคอกันยิ้มแฉ่งให้บิดามารดาของตน“เซี้ยวจริงๆ เลยลูกพ่อ” อัครวัฒน์เดิน

  • มนต์เสน่หาซาตานเถื่อน   บทที่ 59.

    บทที่ 59.“เมื่อคืนมนฝันถึงคุณชลิตาด้วยค่ะ” มนตราบอกสามีซึ่งซบหน้าหอบกระเส่าอยู่กับอกอวบใหญ่ของตนหลังจากที่เพลงรักเร่าร้อนที่ไม่รู้ว่าเป็นรอบที่เท่าไหร่จบลง...แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ความรักที่พวกเขามีให้กันก็ยังคงฉ่ำหวานอยู่ตลอดเวลา ยิ่งตอนนี้ลูกๆ ไม่อยู่ขัดความสำราญพวกเขาก็ยิ่งรักกันเหนียวแน่นมากขึ้น เพราะน้องมิ่งแก้วกับน้องมิ่งขวัญในวัยสองขวบนั้นไปเที่ยวพักผ่อนที่ไร่ของคุณลุงเด่นคุณป้ายอดรักกับคุณปู่คุณย่าที่ยังคงแข็งแรงสดใส ซึ่งยินดีจะเลี้ยงดูหลานๆ เพื่อให้โอกาสลูกชายลูกสะใภ้คนดีได้อยู่ด้วยกันลำพังบ้างมนตรากับอัครวัฒน์นั้นต่างช่วยกันเลี้ยงดูลูกๆ ฝาแฝดทั้งสองด้วยกันมาตลอด ไม่ว่าจะไปไหนมาไหนพวกเขาก็จะยกกันไปทั้งครอบครัว มาดคุณโดมแฟมิลี่แมนจึงเป็นที่กล่าวขวัญและมนตราก็เป็นหญิงสาวที่ใครๆ ต่างก็อิจฉาในความโชคดีของเธอที่ได้สามีที่ดีแสนน่ารักอย่างคุณโดม อัครวัฒน์ ดีแลนด์ คนนี้...“จริงเหรอ เหมือนพี่เลย พี่ก็ฝันว่าหนูเล็กมาเยี่ยม เธอดูมีความสุขมากทั้งที่พี่ไม่ได้ฝันถึงเธอมานานมากตั้งแต่เราแต่งงานกัน...”

  • มนต์เสน่หาซาตานเถื่อน   บทที่58.

    บทที่58.“แล้วแก้แค้นเธอสำเร็จไหมคะ...” มนตราถามล้อๆ พลางยิ้มพรายอย่างเจ้าเล่ห์...“ก็ไม่รู้สินะ รู้แต่ว่ามันทำให้พี่ได้ทั้งเมียและลูกมาพร้อมๆ กัน...”อัครวัฒน์ยิ้มกว้างพอๆ กับเธอที่ยิ้มไม่หุบ รอยยิ้มสดใสของมนตราดังมีมนต์ขลังที่ทำให้เขาถอนสายตาจากใบหน้านวลไม่ได้เลย ชายหนุ่มมองเธออย่างหลงใหลจนมนตรารู้สึกร้อนๆ หนาวๆ กับแววตาที่เริ่มจะพราวพรายของเขา“เราทานข้าวกันดีกว่าค่ะ มนอยากจะไปเดินเล่นในไร่...” หญิงสาวตัดบทและหาทางเอาตัวรอดจากเปลวเสน่หาของเขาไปก่อนในเช้านี้อัครวัฒน์รู้ทันความคิดเธอจึงคีบจมูกเล็กๆ นั้นเบาๆ อย่างมันเขี้ยวแล้วนั่งลงเคียงข้างกัน... หนุ่มสาวนั่งรับประทานอาหารเช้าด้วยกันและคุยกันด้วยความรักและเข้าใจ ความบาดหมางความแค้นเคืองขึ้งโกรธมลายหายไปจากใจของพวกเขาจนหมดสิ้นมีเพียงความรักอ่อนหวาน ที่โอบล้อมพวกเขาไว้ด้วยรักแท้ที่ต่างอภัยให้กันและกัน...หลังจากที่ปรับความเข้าใจกันแล้วอัครวัฒน์ก็จดทะเบียนกับมนตราไว้ก่อนแล้วจัดงานแต่งงานใ

  • มนต์เสน่หาซาตานเถื่อน   บทที่57.

    บทที่57.พระมิ่งเมืองกล่าวด้วยน้ำเสียงเนิบนุ่มเต็มไปด้วยเมตตาธรรมซึ่งมนตราสัมผัสได้ น้ำตาแห่งความปลื้มปีติเอ่อล้นออกจากดวงตางามช้าๆ เธอไม่อยากเชื่อเลยว่านี่คือคนคนเดียวกันที่เคยทำร้ายเธออย่างเลือดเย็นมาก่อน...“ชีวิตคนเราไม่ได้ยืนยาวสักเท่าไหร่หรอกนะโยมน้องมน... อะไรที่ดีๆ ผ่านเข้ามาในชีวิตก็ควรจะคว้าไว้ โดยเฉพาะความสุขเพราะมันอาจจะอยู่กับเราไม่นาน หรือ เราอาจจะไม่ได้อยู่จนพบเจอมัน หากให้มิจฉาทิฐิบดบังจิตใจ... หลวงพี่จะบอกกล่าวเพียงเท่านี้...” มนตรารู้สึกเหมือนมีใครเขี่ยผงเล็กๆ ออกจากตาทั้งที่รู้แต่เธอกลับเขี่ยมันออกเองไม่ได้“ไหนแบมือมาสิโยมน้องมน...” หญิงสาวยื่นมือออกไปตามที่หลวงพี่บอก แล้วพระมิ่งเมืองก็วางของสิ่งหนึ่งลงบนมือของเธอด้วยการปล่อยให้มันตกลงมาเบาๆ มนตรามองของตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ“ฝากไปให้โยมโดมด้วย บอกว่าเป็นของขวัญจากหลวงพี่ให้เป็นของขวัญแต่งงาน... เจริญพร...”“สาธุค่ะหลวงพี่...” มนตราสาธุการด้วยความซาบซึ้งมองตามหลังพระมิ่งเมืองไปด้วยดวงใจที่เปี่ยมล้นด้วยควา

  • มนต์เสน่หาซาตานเถื่อน   บทที่ 56.

    บทที่ 56.“หากไม่ยุ่งกับเมียจะไปยุ่งกับใครล่ะครับ ไม่เอาไม่ทะเลาะกันนะ เดี๋ยวลูกเราจะหน้ายุ่ง...”“เมื่อไหร่คุณจะกลับไปคะ”“ทำไมน้องมนพูดแบบนี้ล่ะครับ เมียอยู่ที่ไหนผัวก็ต้องอยู่ที่นั่นสิครับ”“ฉันจำได้ว่าไม่เคยแต่งงานกับคุณนะคะ และเราก็ไม่ได้มีสถานะอะไรที่เกี่ยวข้องกันแล้ว แม้แต่แฟน หรือคนรัก เราก็ไม่เคยใช้มันร่วมกันมาก่อน...” คำพูดของเธอทำให้อัครวัฒน์สะอึกถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว...“พี่...”“พอเถอะค่ะ หากคุณจะทำทุกอย่างให้ฉันเพื่อไถ่โทษ หรือเพราะรู้สึกผิดที่หลอกใช้ฉันเพื่อนแก้แค้น เราจบสิ้นกันไปแล้ว ฉันยกโทษให้คุณ เราเป็นอิสระต่อกัน... ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ถือว่าเราให้โอกาสกันและกัน ให้อิสระกันและกัน ฉันอาจจะได้เจอผู้ชายสักคนที่รักฉันจริงและพร้อมจะดูแลฉันกับลูก คุณเองก็อาจจะเจอผู้หญิงดีๆ ที่เหมาะสมกับคุณทุกๆ ด้าน ผู้หญิงที่ไม่ใช่ลูกสาวพ่อบ้านกระจอกๆ อย่างฉัน...”มนตราตัดสินใจพูดออกมาเพื่อไม่ให้ตัวเองมีหวังอะไรลมๆ แล้ง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status