มาคินที่นั่งขับรถมาตลอดทางเขาเองก็ชวนเธอคุย ซึ่งก็ได้คำตอบบ้างไม่ได้บ้าง ส่วนมากเธอจะสนใจแค่สมุดไดอารี่ของเธอ พอมาถึงทางขึ้นทางด่วน บัตรอีซี่พาสของมาคินยังไม่ได้เติมเงิน และที่สำคัญเขาน่าจะไม่ได้พกเงินสดขึ้นมาทางด่วน
"คุณ ๆ คุณพอจะมีเงินหนึ่งร้อยบาทไหม" มาคินเอ่ยปากถามร้อยดาว
" ห๊ะ คุณว่าอะไรนะ " ร้อยดาวที่ไม่ทันฟังรถกำลังเข้าช่องจ่ายเงินแล้ว
"ผมไม่ได้กดเงินสดมาครับ คุณพอจะมีสักหนึ่งร้อยบาทไหมครับ ผมขอยืมก่อนลงทางด่วนผมกดคืนให้ครับ" มาคินเอ่ยขอยืมอีกครั้ง
"อ๋อ ได้ค่ะ "ร้อยดาวที่มองขึ้นไป เธอก็หยิบเงินในช่องเล็กๆ มาให้เขาทันที และเงินนี้น่าจะเป็นหนึ่งร้อยบาทเกือบ ๆ ใบสุดท้ายของเดือนนี้
"ขอบคุณครับ ผมเอาคืนให้นะ" มาคินกล่าวคำขอบคุณที่เธอยังพอมีน้ำใจอยู่บ้าง
เมื่อผ่านทางด่วนมา จนมาถึงทางแยกที่จะลงทางอ่อนนุช ใกล้จะถึงบ้านของร้อยดาวแล้ว เขาก็หันกลับไปถามเธออีกครั้ง
"แล้วบ้านคุณซอยไหนหละ ผมจะลงทางด่วนแล้ว"
"อ่อนนุช 85 ค่ะ" ร้อยดาวตอบปัด ๆ ไป เพราะลงจากทางด่วนเกือบ ๆ ปากทางอ่อนนุช ต้นซอย เธอเลยหลุดปากบอกออกไป เขาเองนั่งยิ้ม ๆ มองทางต่อไป สักพักมาถึงหน้าปากซอยบ้านของเธอ เขาขับเข้ามาในซอยเกือบ ๆ กลางซอยก็เข้ามาถึงหน้าหมู่บ้านจัดสรร กลางซอยบ้านทาวน์โฮม
"บ้านเธอหลังไหนหละ ไหน ๆ เข้ามาจนจะครึ่งหมู่บ้านแล้ว" มาคินถามเธออีกครั้ง จนเธอหันมามอง
"คุณจอดตรงนี้หละ มันเลยมาหลายหลังแล้ว ฉันเองก็ลืมมอง" ร้อยดาวบอกเขาให้จอด เขาเองแทบจะหยุดรถทันที
"ขอบคุณนะคะที่มาส่ง" ร้อยดาวกล่าวคำขอบคุณเขา และรีบลงจากรถของมาคินทันที เธอเองก็กลัวแม่จะมองออกมา
มาคินมองตามหญิงสาวที่ลงจากรถไปแต่ยังไม่ทันไรเลยเธอก็ลืมเอาสมุดไดอารี่ลงไปด้วย เขาเลยต้องถอยรถลงมาเรื่อย ๆ จนเห็นเธอเปิดประตูรั้วเดินเข้าบ้านไปโดยที่ไม่ได้ปิด เขาเลยจอดรถที่หน้าบ้านของเธอและหยิบสมุดของเธอติดมือลงมาด้วย เขามองซ้ายมองขวา ไม่เห็นมีใครเขาเลยถือโอกาสเดินเข้าไปภายในบ้าน ร้อยดาวที่เข้ามาก่อนหน้าเธอเดินเข้าไปในครัวเปิดตู้เย็นหยิบแก้วเทน้ำเย็น แม่ที่เดินเข้ามาเห็นมีใครอีกคนอยู่ในบ้านด้วยก็คิดว่ามากับลูกสาวของตนเอง
" อ้าว ทำไมไม่เทน้ำไปให้เพื่อนด้วยหละ" แม่ของร้อยดาว บอกลูกสาวที่กำลังจะเก็บขวดน้ำ
"เพื่อนหนูหรือคะ " เธอเองสงสัย จนต้องเดินออกมาดูเองที่หน้าบ้าน เห็นมาคินที่ยืนชะเง้อคอมองดูอยู่ เธอเลยต้องรีบเดินออกมา
"อ้าวคุณ เข้ามาในบ้านฉันทำไม คิดว่าคุณกลับไปแล้วเสียอีก" แม่ของเธอ เอ่ยเชิญเพื่อนของเธอ
"แม่เขากำลังจะกลับ เขาคงไม่อยากทานน้ำหรอกจ้า" ร้อยดาวบอกปัดไป แต่ก็มีเสียงของมาคินดังเข้ามาแทน
"ผมขอเข้าห้องน้ำหน่อยได้ไหมครับคุณน้า ผมมาส่งร้อยดาวบังเอิญผมปวดท้องหนักมากเลยครับ" มาคินบอกผู้เป็นแม่ของร้อยดาวที่กำลังเดินมาด้านหลังของเธอ
"อ๋อ เชิญเลยจ้า พ่อหนุ่มเดินเข้าไปด้านในห้องครัวนะจ๊ะ ห้องน้ำจะอยู่ทางขวามือ พาเพื่อนไปสิลูก" แม่ของร้อยดาวบอกให้ลูกสาวนำเพื่อนไป เขาเองก็หันมาขอบคุณแม่ของเธออีกครั้ง
"นายเดินตามเข้ามาทำไม ฉันก็คิดว่านายกลับไปแล้ว" เธอเดินพาเขาเข้ามาในห้องครัว
"นี่ไงเธอลืมเอาไว้อีกแล้ว เดี๋ยวก็จะหาว่าผมขโมยไปอีก " เขาส่งสมุดไดอารี่คืนเธอ
"อ้าว" เธอรับมาด้วยความงง ๆ ว่าตัวเองลืมเอาไว้บนรถของเขาอีกแล้ว
"จะขอบคุณสักคำไม่มี ลืมเครื่องมือหากินแบบนี้บ่อย ๆ ไม่ดีนะคุณ"
"ขอบคุณ ก็คนมันลืมอะ ทำไมอะ ลืมไม่ได้หรอ"
"คราวหน้าใช้แผนอื่นบ้างก็ได้นะ มุกลืมของที่จะอ่อยผมนะ "
"นายจะมากไปแล้วนะ นี่นายจะหาว่าฉันอ่อยนายหรอ นายมาคิน มาคินหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ หยุดเลย" มาคินที่ไม่ได้ตั้งใจจะเข้าห้องน้ำแต่แรก เขาเดินออกมาเจอแม่ของเธอ
"ขอบคุณนะครับคุณน้า ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ สวัสดีครับ" มาคินดูรีบร้อน เกรงว่าร้อยดาวจะรีบตามมา
"จะรีบร้อนกันไปไหนเด็กสมัยนี้"
"นี่นายมาคิน นายหยุดเดินเลยนะ นายจะมาหาว่าฉันอ่อยนาย มันไม่ใช่แบบที่นายคิดเลยนะ
"กลับก่อนคุณ เอาไว้เจอกันใหม่ คราวหน้าคุณคิดวิธีอื่นนะที่จะเข้าใกล้ผมนะ" มาคินยืนเกาะรถของตนเอง พอพูดจบเขาเปิดประตูรถเข้าไปในรถไม่รอให้เธอพูดอะไรออกมาอีก
"โอ้ย...ชีวิต ทำไมต้องมาเจอนายด้วยเนี่ย" ร้อยดาวเอามือขยี้หัวตัวเองที่โดนมาคินแกล้งตลอดเวลา เธอเดินเข้าบ้านมาก็เห็นแม่นั่งรออยู่ที่โซฟา เพื่อรอเธอ ร้อยดาวจึงต้องยอมไปนั่งข้าง ๆ ด้วยสีหน้าแววตาที่ดูสลดลงเพื่อให้ผู้เป็นแม่เห็นใจ
"แล้วนี่จะเอายังไงนะเรา จะลอยไปลอยมา เขียนเพลงมันได้อะไรไหม" แม่ของเธอเอ่ยถามน้ำเสียงจริงจังมากขึ้น
"แม่นี่หนูได้งานแล้วนะ ได้ไปทำงานในค่ายเพลง G.Media เลยนะ" ร้อยดาวเล่าถึงงานที่ได้ทำ แต่พอคิดอีกทีคือต้องไปตามมาคิน
"ฉันไม่เชื่อหรอก ไปหาอาบน้ำเลยไป อ้อแล้วพรุ่งนี้เตรียมตัวไปสมัครงานที่ร้านเพื่อนแม่ " แม่เธอที่นั่งไขว่ห้าง
"แต่แม่ค่ะ ที่นี่เขารับหนูเข้าทำงานแล้วนะคะ ที่นี่ค่ายเพลงที่ดังมาก ๆ ในตอนนี้เลยนะแม่" ร้อยดาวที่พูดเสียงเริ่มเครือนิด ๆ ที่แม่จะให้เธอไปทำงานที่อื่น
" จริงหรอ" แม่ที่แอบดีใจลึก ๆ แต่ยังทำหน้าตึง ๆ ใส่ลูกสาวตัวดี
" นี่แม่ดีใจกับหนูใช่ไหมเนี่ย" ร้อยดาวที่มีรอยยิ้มขึ้นมานิด ๆ แต่ไม่วายที่จะโดนแม่ดุอีกครั้ง
"ร้อยดาวทำไมหนูทำแบบนี้ ไม่ต้องมาทำท่าทางกลัวฉันขนาดนั้น อย่างกับฉันเป็นยักษ์หรือยังไง" แม่ที่หันมาทำหน้าดุใส่ลูกสาวอีกครั้ง
"แม่น่ากลัวกว่านั้นเยอะเลยหนูว่า" ร้อยดาวที่ต่อปากต่อคำกับแม่
"ทำไมเราถึงไม่เชื่อฟังแม่ อย่างลูกบ้านอื่น ๆ บ้างมันดีหรือยังไงอาชีพนักเขียนเพลง มันจะทำให้ชีวิตแกไปรอดได้แค่ไหนกัน แล้วนี่ยังกล้าไปเซ็นสัญญากับเขา ไม่ถามฉันสักคำร้อยดาว" คุณแม่เริ่มเสียงดังขึ้นจนลูกสาวหน้าสลดลงไปอีก แต่เธอก็หาคำตอบมาโต้แม่ของเธอ
"แต่นี่มันคือโอกาสครั้งใหญ่เลยนะแม่ แล้วโอกาสดี ๆ มันไม่ได้มีเข้ามาหาหนูบ่อย ๆ พอหนูเห็นว่าเขาให้โอกาสหนูแค่รับโอกาสนั้นมา หนูคิดว่าถ้าหนูบอกแม่ แม่จะต้องดีใจกับหนูเสียอีก" ร้อยดาวน้ำเสียงเครือคล้ายจะร้องไห้ ในใจของเธอรู้สึกเสียใจไปแล้ว
" ไม่ต้องมาทำหน้าจะร้องไห้ให้ฉันเห็นใจเลยนะ ยังไงฉันก็ไม่เห็นดีเห็นงามด้วย ว่างานนี้มันจะไปรอด แกเตรียมหางานใหม่ได้เลย" แม่นั่งมองหน้าลูกสาวที่กำลังเสียใจ
"โธ่แม่อะ แต่นี่มันเป็นความฝันของหนูเลยนะ แม่จะทำลายความฝันเล็ก ๆ ของลูกสาวเลยหรอไง หนูไม่เข้าใจแม่เหมือนกัน ทำไมแม่ชอบเอาหนูไปเปรียบเทียบกับคนอื่น หนูไม่ได้ดั่งใจแม่ขนาดนั้นเลยหรอ " เธอพูดพร้อมด้วยใบหน้าปากกับจมูกจะชนกันอยู่แล้ว
"งั้นก็ได้ค่ะ หนูจะเลิกคิดเลิกฝันแล้วหนูจะไปสมัครงานกับเพื่อนของเแม่ อยู่ให้แม่เลี้ยงหนูไปจนแก่ไปเลย" ร้อยดาวอารมณ์ตัดพ้อแม้ ซึ้งผู้เป็นแม่เองก็ถอนหายใจออกมายาว ๆ เอ็นดูในความคิดลูกสาว แม่เลยลุกจากโซฟาของตรงเอง มานั่งตรงที่พักแขนโซฟาของร้อยดาว มือนึงก็ลูบผมลูกสาวด้วยความรัก
"โธ่เอ๊ยลูกสาวแม่ นี่ฉันหมายถึงให้แกเตรียมหางานใหม่ เพื่อลูกทดลองงานสามเดือนไม่ผ่านยังไงหละ " แม่นั่งโอบกอดลูกสาวโดยที่ลูกสาวยังไม่โอบกอดแม่สักนิดด้วยความน้อยใจ แต่พอได้ยิน
"หนูรักแม่ที่สุดเลย แม่แกล้งหนูหรอค่ะ" ร้อยดาวโอบกอดแววตาและรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข
"โอ๊ย นี่แล้วเมื่อกี้ทำหน้าบูดหน้าบึ้ง เป็นส้วมซึมเลย เราแกล้งแม่หรอ" แม่ที่แอบเขกหัวลูกสาวเบา ๆ
"ไม่ใช่นะคะ หนูเสียใจจริง ๆ หนูอยากได้งานนี้จริง ๆ " ร้อยดาวที่โอบกอดแม่ตนเองแน่น ๆ
"หนูต้องจำคำแม่ไว้นะลูก ไม่มีใครที่จะหวังดีกับลูกทุกคน โลกไม่ได้สวยงาม อย่าไว้ใจใคร อย่าทำให้ตัวเองเสื่อมเสียชื่อ" แม่ที่ยังคงสอนลูกสาวไปในตัวถึงแม้ลูกสาวจะโตมากแค่ไหน แต่ยังเป็นเด็กในสายตาของแม่วันยังค่ำ
กำลังใจจากครอบครัวหลังจากนั่งพักได้ไม่นาน เสียงประตูข้างเวทีก็เปิดออกอย่างเบา ๆ แม่ของร้อยดาวเดินนำเข้ามาก่อน ตามด้วยพ่อแม่ของมาคิน ทุกคนยิ้มให้กันด้วยความเก้อเขินปนอบอุ่น“แม่” ร้อยดาวร้องเรียกเสียงเบา ลุกไปกอดแม่ตัวเองแน่น แม่ลูบหัวลูกสาวเบา ๆ เห็นใบหน้าเหนื่อยล้าก็ถอนหายใจอย่างโล่งใจ“ลูกทำได้ดีแล้วนะ แม่อยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ต้องกลัวแล้วนะ” มาคินเดินไปยกมือไหว้พ่อแม่ตัวเอง ก่อนจะหันมายกมือไหว้แม่ร้อยดาวด้วย ร้อยดาวยกมือไหว้พ่อแม่มาคินเช่นกัน“ขอบคุณนะคะ ที่มาดูพวกเราด้วยตัวเอง” ร้อยดาวก้มศีรษะบอกแม่มาคินด้วย รอยยิ้มบนหน้าทุกคนเหมือนเชื่อมกันไว้แน่นกว่าเดิมในอ้อมแขนพ่อของมาคินมี เจ้ามะยม หมาตัวน้อยหูตั้ง ๆ ใส่ผ้าพันคอสีเหลือง ส่วนเจ้าก้อนทองนั่งอยู่บนตักแม่ร้อยดาว ขนฟูจมอยู่ในตะกร้าใส่ของกิน พร้อมเสียงเห่าเมื่อเจอหน้าร้อยดาวทันที“ดูสิ ๆ พาเด็ก ๆ มาด้วย เผื่อจะให้กำลังใจพวกแก” แม่มาคินพูดขำ ๆ แล้วอุ้มเจ้ามะยมเดินวนไปรอบ ๆเจ้าก้อนทองกระโดดออกจากตะกร้า พุงเล็ก ๆ ชะโงกดมถุงขนมบนโต๊ะ ทำเอาอ๊อฟกับก๊อปเปอร์หัวเราะแล้วแหย่มันเล่น“โอ๊ย ก้อนทองนี่กินเก่งเหมือนแม่มันเลย" ก๊อปเปอร์แซวแล้วโดนร
วันแถลงข่าวเปิดตัว 1st Anniversary คู่วงจิ้น Kin&Daoจัดที่โถงใหญ่ของค่าย ศิลปินรุ่นพี่รุ่นน้องยืนออรอให้กำลังใจอยู่รอบนอกมาคินใส่สูทสีเบจ เนี้ยบแต่ดูอบอุ่น ร้อยดาวอยู่ในเดรสยาวลูกไม้สีขาวอมชมพู รวบผมหลวม ๆ ให้ดูน่ารักแต่สง่าสองคนเดินจับมือออกมาหน้าแบ็กดรอปพร้อมกัน ท่ามกลางแฟลชกล้องจากนักข่าวและเสียงกรี๊ดของเอฟซีที่ตามมาตั้งแต่เช้าหลังตอบคำถามเรื่องอัลบั้มใหม่ โปรเจกต์เพลง และเซอร์ไพรส์เวทีใหญ่ ร้อยดาวหันมามองกลุ่มแม่ ๆ เอฟซีที่ยืนรวมกันตรงแถวหน้า เธอจับไมค์แน่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงชัดเจน สั่นนิด ๆ เพราะตื้นตัน“ขอบคุณนะคะ ที่รักกันมาตลอดปีที่ผ่านมา ขอบคุณที่อยู่ข้างเราตั้งแต่ตอนที่เรายังไม่มีอะไรเลย จนถึงวันที่มีเวทีเป็นของตัวเองแบบนี้” เธอยกมือไหว้แฟนคลับทุกบ้าน เสียงกล้องยังดังไม่หยุด แต่ทุกคนจะได้ยินถ้อยคำที่ออกจากใจเธอชัดเจน“หนูขออ้อนแม่ ๆ ทุกบ้านเลยนะคะ วันจริงอย่าลืมพากันมาดูพวกเราด้วยนะ มาเจอกันหน้างานอีกครั้ง จะมีที่ว่างตรงนี้ให้แม่ ๆ เสมอค่ะ” เสียงกรี๊ดแทบแตกฮอลล์ มาคินหันมามองแฟนสาวแล้วส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนหัวเราะออกมา“ถ้าใครไม่ได้มานะ ดาวจะน้อยใจจริง ๆ ด้วย”หลังจบช่วงตอบ
วันซ้อมใหญ่เปิดเวที 1 ปีคู่จิ้นฮอลล์คอนเสิร์ตขนาดกลาง ถูกจัดไฟรันระบบเต็มสูบเป็นรอบ ซ้อมใหญ่ โปสเตอร์ข้างเวทีติดป้ายชัดเจน “1st Year Anniversary คู่จิ้นรักร้อยดาว x มาคิน”ร้อยดาวสวมเสื้อยืดคอกลมกับกางเกงยีนส์ขาสั้นง่าย ๆแต่บนเวที เธอเหมือนคนละคน จับไมค์ด้วยมือที่เคยสั่นแต่วันนี้กลับมั่นคงเสียงหัวเราะของทีมซาวด์ ทีมแดนซ์ ทีมไฟดังระหว่างพักเบรก โปเต้ยืนกอดอกดูงานเงียบ ๆ ส่วนสงครามนั่งหลังบอร์ดควบคุมไฟด้วยแววตาเหมือนพ่อที่ภาคภูมิใจในลูกศิษย์มาคินยืนอยู่ข้างเธอในชุดสบาย ๆ เหมือนกัน เขาหันมาดึงสายกีตาร์ปรับจูนให้แฟนสาวเอง มือเขากับมือเธอสอดกันแว็บหนึ่ง“พร้อมมั้ยดาว” เสียงมาคินทุ้มนุ่ม ไม่ได้ถามแบบโปรดิวเซอร์ แต่ถามในฐานะคนที่อยู่ข้างเธอทุกครั้งร้อยดาวพยักหน้า เหงื่อผุดเต็มหน้าผากแต่รอยยิ้มกลับสดใส เธอยกไมค์ขึ้น ร้องท่อนฮุคเพลงเก่าที่เธอเคยเขียนไว้ ครั้งนี้ เธอร้องในชื่อของเธอจริง ๆเสียงกลองซ้อมรัวตามจังหวะเบา ๆ พวกเด็กฝึกงานที่ยืนดูกันอยู่ตรงขอบเวทีโห่เชียร์กันเบา ๆ อ๊อฟกับก๊อปเปอร์ที่มาซ้อมแดนซ์เซ็ตใหญ่ทีหลังยังส่งเสียงแซว“พี่ดาวแม่งอย่างเท่! ฮู้วววว”“พี่มาคินอย่าเขินดิ๊! หยิกแก
นามแฝงในเพลงมือของสงครามที่ยื่นให้ร้อยดาวเดินเข้ามาในห้องโปรดิวเซอร์ของค่ายที่เธอคุ้นเคยดี แต่วันนี้บรรยากาศกลับอึดอัดจนลมหายใจแทบขาดห้วงโปเต้นั่งข้างเฮียสงครามเหมือนมือขวาที่เฝ้ารอดูว่าบทสนทนานี้จะไปจบตรงไหนบนโต๊ะไม้สีเข้ม เอกสารหลายแผ่นถูกเรียงอย่างเป็นระเบียบ ไฟสปอตไลท์ในห้องประชุมสว่างพอจะเห็นเงาหน้าร้อยดาวที่ซีดเผือดและมือเล็กที่กำชายเสื้อแน่น สงครามวางปากกาลงบนแฟ้มเสียงเบา ดวงตาคมใต้แสงไฟสบตาเธอโดยไม่กระพริบ“ฉันได้ยินมาว่ามีคนกำลังจะเอาเพลงเก่ามาขายซ้ำ ใช่เพลงเดียวกับที่เธอเคยเขียนไว้หรือเปล่า เพลงที่เธอใช้นามแฝงตอนนั้น” เสียงเขาราบเรียบ เหมือนครูใหญ่เรียกเด็กนักเรียนมาคุย แต่ในความนิ่งนั้นกลับกดดันเหมือนมีหินก้อนใหญ่ทับอกร้อยดาว ร้อยดาวหลบตา ปลายนิ้วเธอขยำชายกางเกงจนยับยู่ยี่ เธอพยายามจะตอบ แต่เสียงที่เปล่งออกมากลับแหบแห้ง“ค่ะ” เพียงคำเดียวก็พอให้โปเต้ที่นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ เห็นร่องรอยเจ็บเก่าที่เธอเก็บไว้มานานสงครามพยักหน้าช้า ๆ เขาเอื้อมมือไปเปิดแฟ้มเอกสาร เผยให้เห็นสำเนาสัญญาเก่าที่มีตราประทับชื่อกันจ์ชัดเจน“ฉันรู้ตั้งแต่วันแรกแล้วว่ากันจ์มันทำอะไรไว้”“มันไม่ใช่แค่เพล
อดีตของร้อยดาวเบื้องหลังเพลงที่ไม่มีชื่อเธอเสียงลมจากแอร์ตัวเก่าดังหึ่ง ๆ ในห้องซ้อมส่วนตัวที่ร้อยดาวใช้ฝึกทุกวัน คืนนี้เธอนั่งอยู่ตรงมุมเดิมที่ใกล้เปียโนไฟฟ้ามากที่สุด มือบางยังคงถือโน้ตเพลงเก่าแผ่นเดิมไว้แน่น ปลายนิ้วที่เคยแต่งทำนองนั้นสั่นเล็กน้อยเหมือนกำลังรื้อความทรงจำที่เธอพยายามลืมมาตลอดร้อยดาวถอนหายใจ ลมหายใจร้อนวาบเพราะเพิ่งร้องเพลงใหม่กับมาคินจนคอแห้ง แต่สิ่งที่ติดอยู่ในหัวเธอกลับไม่ใช่เพลงใหม่ ไม่ใช่ท่อนฮุคหวาน ๆ ที่เขาเพิ่งชมว่าเพราะที่สุดตั้งแต่แต่งมา กลับเป็นประโยคท่อนหนึ่งในสมุดโน้ตแผ่นนี้ที่เธอแต่งมันด้วยลายมือสั่น ๆ ในวันที่ยังอายุไม่ถึงยี่สิบ“ฉันยังจำเนื้อเพลงได้ทุกคำเลยมาคิน แต่ฉันไม่มีสิทธิ์ร้องมัน" เสียงเธอเบาราวกับกลัวว่าลมแอร์จะพัดมันหายไปมาคินหันมามองแฟนสาวตรงหน้า เขานั่งพิงขอบเปียโน ปล่อยให้เสียงกีตาร์โปร่งที่เพิ่งวางไว้เงียบสนิทแสงไฟสีส้มอ่อนสะท้อนในดวงตาเขาอย่างระมัดระวังเขารู้ดีว่าร้อยดาวรักทุกคำ ทุกท่อน ทุกเมโลดี้ในสมุดโน้ตนั้นมากแค่ไหน เขาเคยเห็นเธอลงแรง แก้คำ แก้คอร์ดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไม่เคยเห็นเธอพูดถึงมันด้วยแววตาเจ็บเท่านี้มาก่อน“ทำไมล่ะดาว นั
ถูกมือกาวย้อนกลับ1645 คำทางเข้าคอนโดของยิปซี ค่อนข้างมืด ไม่มีผู้คนมากนัก“เฮ้ แม่นางเอก เงินฉันอยู่ไหน”เสียงแห้ง ๆ ของเด็กผู้ชายวัยรุ่นที่โผล่มาจากเงามืดหลังรถตู้จอดส่งของ ผมมันเยิ้มกลิ่นกาวและบุหรี่คลุ้งลอยปะทะ จับคอเสื้อยิปซีทันทีที่เธอเดินเลี่ยงออกมาจากฝูงแฟนคลับ ไฟลานจอดรถสว่างเป็นจุด ๆ แต่กลับไม่มีใครสังเกตว่ามีคนกำลังลงไม้ลงมือ“อย่ามาโวย แกยังไม่ได้ทำงานให้ฉันด้วยซ้ำ จะเอาเงินส่วนที่เหลือไปทำเหี้ยอะไร”ยิปซีแหวเสียงสูง ใบหน้าแต่งจัดแต่เหงื่อซึม เธอใส่ชุดเดรสรัดรูปคลุมด้วยโค้ทยาว พยายามแกะมือมันออกแต่โดนบีบแน่นกว่าเดิม“ฉันติดคุกเพราะแกนะเว้ย แกเป็นคนจ้าง ถ้าฉันไม่ได้ตังค์ แกก็อย่าหวังจะได้อยู่ดี ๆ”เสียงเด็กกาวกระแทกพร้อมฟันเหลือง มันหัวเราะหยันเธอเบี่ยงหน้าเลี่ยงกลิ่นกาวที่พ่นรดอยู่ใกล้“อย่ามาขู่ฉันนะ ไอ้ขี้ยา”ยิปซีฟาดเล็บเข้าหน้ามันเต็มแรง เสียงเพี้ยะสะท้อนในลานจอด รถขนเครื่องเสียงสั่นเบา ๆ เหมือนร่วมเป็นพยาน“อีดอก” เด็กกาวสบถลั่น ผลักเธอไปกระแทกผนังคอนกรีตด้านหลังเวที เศษกระดาษโปสเตอร์คอนร่วงปลิวลงเท้าเธอ“สภาพแกตอนนี้ก็เหมือนหมาข้างถนนแล้วล่ะ ยัยนางเอกตกกระป๋อง”เด็