ตอนที่ 15.น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ็บช้ำ จ้องมองอินทรายุธทั้งน้ำตา ชายหนุ่มเบือนหน้าหนี หัวใจอ่อนยวบกับน้ำตาของมัลลิกา แต่ความเจ็บปวดที่เคยได้รับทำให้เขาเลือกที่จะแข็งแกร่งและสลัดเจ้าความใจอ่อนนั้นออกไป“ฉันมีวิธีที่ดีกว่านี้ในการทำให้เธอเจ็บปวด อีกไม่นานหรอกมัลลิกา... เธอจะรู้ว่านรกบนดินนั้นมีจริง และมันก็จะทำให้เธอเกลียดการมีชีวิตอยู่เลยทีเดียวแหละ”เขาหัวเราะเสียงกระด้าง จ้องมองหล่อนด้วยความเกลียดชัง ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปจากห้องที่กักขังมัลลิกาไว้ด้วยมาดแห่งผู้ชนะ“พี่ยุธใจร้าย... พี่ยุธใจร้าย...”เมื่อเงาแห่งซาตานร้ายพ้นไปจากกายแล้ว หญิงสาวก็คร่ำครวญออกมาอย่างปวดใจ ร่างกายคล้ายถูกเข็มนับร้อยทิ่มแทงไม่หยุด เจ็บจนต้องกัดฟันแน่น หัวใจร้าวราญไม่ต่างจากถูกเฉือนด้วยคมมีด ยื่นโทรศัพท์มือถือส่งคืนให้กับคนสนิท พร้อมๆ กับรอยยิ้มสมใจ ขณะเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้นุ่มตัวโปรด ดวงตาเต็มไปด้วยไฟริษยาแผดเผา “ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเราไหมพ่ะย่ะค่ะ นายท่าน” คำลือเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ สมถวิลหัวเราะร่วน “ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ตอนนี้รอแค่เพียงเจ้าพี่เสด็จกลับมาพบกับความตายที่
ตอนที่ 14. เขาพึมพำขณะงับปลายถันสีสวยมาไว้ในอุ้งปาก ก่อนจะใช้ฟันคมๆ ขบเม้มอย่างรุนแรง มืออีกข้างก็ตะโบมบีบปทุมถันอีกดอกที่ชูไหวรออยู่อย่างรุนแรงไม่แพ้กันสาวน้อยครางสะอื้น ร่างกายอ่อนเปลี้ย ไร้แรงต้านทาน สมองหยุดทำงานไปชั่วขณะ รับรู้แต่เพียงความเสียวซ่านที่เขาปลุกเร้ามันขึ้นมา“พี่ยุธ... ได้โปรด...”สะโพกงามส่ายไหว ยกขึ้นหาความกำยำที่ผงาดใหญ่โตเป็นจังหวะอย่างเชิญชวน ชายหนุ่มครางออกมา อย่างหมดสิ้นความอดทนส่วนที่บ่งบอกความแตกต่างระหว่างเพศชายเพศหญิงของมัลลิกาเด่นชัดเต็มสองตา และมันก็ทำให้เขาถึงกับตะลึงงัน ร่ำๆ อยากจะฝังตัวเองลงไปในนั้นให้สิ้นเรื่องสิ้นราวสิ้นซากไปเสียที“มันน่าจะเป็นของฉันคนเดียว...”“พี่ยุธ... ได้โปรด”ชายหนุ่มแสยะยิ้ม ไล้นิ้วมือลงต่ำมาตามหน้าท้องแบนราบ และต่ำลงมากางมือกุมไว้ที่เนินสาว “ตรงนี้... มันควรจะเป็นของฉัน... มัลลิกาหากเธอไม่ทรยศต่อความรักของฉัน เราคงจะมีความสุขร่วมกัน...”จบคำนิ้วแกร่งก็แทรกลงไปในความคับแน่นนั้นเต็มแรง สาวน้อยตัวเกร็งร้องกรี๊ดออกมา “พี่ยุธ มะลิเจ็บนะ...”น้ำตาร่วงกราว ชายหนุ่มหรี่ตามองสาวน้อยที่ดิ้นเร่าคล้ายกับเจ็บสุดแสนด้วยความแปลกใจ แค่นิ
ตอนที่ 13.“ปล่อยฉันนะ! ปล่อยสิ...” ดิ้นรนเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโตที่เป่าลมหายใจร้อนผ่าวลดพวงแก้มของตนเองด้วยความไม่พอใจแม้หล่อนจะทำไม่ดีกลับเขา แต่อินทรายุธก็ไม่มีสิทธิ์มาทำหยาบคายอย่างนี้กับหล่อน เรื่องนั้นมันก็จบมาตั้งสามปีแล้ว เขาจะยังติดใจอะไรอีก ผู้หญิงที่สวยที่ดีกว่าหล่อนมีเยอะยิ่งกว่าเม็ดทรายเสียอีก ทำไมเขาถึงยังจดจำอดีตที่ปวดร้าวนั้นอยู่อีกทำไม?“เมื่อสามปีก่อน... หากฉันไม่เป็นสุภาพบุรุษเธอคงเสร็จฉันตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอใส่ผ้าขนหนูออกมาเปิดประตูให้ฉันแล้วล่ะ ความจริง... ฉันก็โง่เองแหละที่ไม่จัดการเธอวันนั้น”“คนหยาบคาย คุณไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะมาวิจารณ์ฉันแบบนี้นะ ไม่มีสิทธิ์!”อินทรายุธหัวเราะอย่างสะใจ “แล้วใครมีสิทธิ์ล่ะไอ้ผู้ชายคนไหน หรือว่าไอ้ผัวคนปัจจุบันของเธอ นี่ฉันถามจริงๆ เถอะ ไอ้คนนี้ใช่คนที่ทำให้เธอทิ้งฉันเมื่อสามปีก่อนหรือเปล่า หรือว่าเปลี่ยนคนใหม่แล้ว... ถ้าเปลี่ยนแล้วไอ้หมอนี่คนที่เท่าไหร่ล่ะ”“คุณ...!”เสียงนั้นมาพร้อมกับฝ่ามือบอบบางที่วางลงบนแก้มสากด้วยโทสะ แม้มันจะไม่ได้รุนแรงเพราะหญิงสาวไม่ถนัด แต่กระนั้นมันก็ทำให้ดวงตาคมกล้าที่เต็มไปด้วยความเย้ยหยันลุกโชนด้วยโท
ตอนที่ 12.ทวิภาคอมยิ้ม “ฉันทำในสิ่งที่เธอต้องการต่างหากล่ะ ไม่เอาน่าอย่าทำหน้าแบบนี้สิ... เมื่อกี้ยังจูบตอบฉันอยู่เลย...” ชายหนุ่มหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี ขณะที่อีกฝ่ายหน้างอง้ำ“ฉันยังไม่อยากกลับเมืองไทยแล้วสิ...”ราชาวดีเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสายตาประหลาดใจ “ทำไมล่ะเพคะ...”ชายหนุ่มระบายยิ้มก่อนจะพูดวาจาน่าตบออกมา “ฉันติดใจปากหวานๆ และการกระตือรือร้นของเธอไงล่ะ”“นายท่านพูดน่าเกลียด...”หมุนตัวจะเดินหนี แต่ข้อมือกลมกลึงก็ถูกรวบเอาไว้ด้วยอุ้งมืออุ่นร้อนของคนตัวโตที่ชอบทำร้ายหล่อนด้วยวาจาเผ็ดร้อนเสียก่อน“จะรีบไปไหนล่ะ อยู่เป็นเพื่อนฉันทานข้าวก่อนสิ องค์หญิงของเธอก็ทิ้งฉันไปแล้ว”“เชิญนายท่านตามลำพังเถอะเพคะ ข้าน้อยขอตัว...”ปฏิเสธออกไปแต่ดูเหมือนว่ามันจะไร้ผล เพราะไม่ช้าก็ถูกทวิภาคจับร่างของหล่อนให้มานั่งบนเก้าอี้ข้างๆ กับเขาอย่างไม่มีทางเลี่ยงได้“ฉันไม่ชอบให้ใครขัดใจ... มันเป็นมาตั้งแต่เกิด”ชายหนุ่มพูดขณะตักข้าวใส่ปาก ราชาวดีมองค้อน ก่อนจะก้มหน้าก้มตาจัดการกับอาหารตรงหน้าด้วยท่าทางสง่างามราวกับคุ้นเคยกับมันมาตลอดชีวิตทวิภาคลอบสังเกตด้วยความแปลกใจ และเอ่ยถามขึ้น “เธอเหมือนคุ้นเคยกั
ตอนที่ 11.“ก็อย่าให้สนุกจนเกินเลยไปนักก็แล้วกัน เพราะเลือดขัตติยาแบบหลานมันจะจางเอาได้...” สมถวิลพูดยิ้มๆ ก่อนจะหันไปหาคนสนิท“ไปกันเถอะคำลือ อาไปนะราชาวดี...”หญิงสาวมองตามร่างของท่านอาสมถวิลไปอย่างหวั่นเกรง กลัวว่าท่านอาจะนำเรื่องนี้ไปบอกกับท่านพ่อและท่านแม่ของตนเองที่กำลังจะเสด็จกลับมาภายในไม่กี่วันนี้“ไปกันเถอะ ท่านอาคงไม่สงสัยอะไรมากกว่าคำอธิบายของหญิงหรอก”“แต่มาลีกลัวเพคะ...” มาลีที่อยู่ในชุดเจ้าหญิงแสนงามไม่ยอมขยับเดินตาม ร้อนถึงราชาวดีต้องมาดึงแขนให้เดินไปด้วยกัน“ไม่เอาน่ามาลี เราตกลงกันแล้วนะ ไม่ต้องกลัว หญิงรับผิดชอบทุกอย่างเอง...” มาลีพูดอะไรไม่ออกได้แต่ก้มหน้านิ่ง เดินตามองค์หญิงตัวเองไปอย่างหวั่นเกรงอาญาทวิภาคหรี่ตามองสตรีในชุดที่มองก็รู้ว่าแตกต่างจากนางกำนัลที่ยืนอยู่ข้างๆ นิ่ง ขณะทรุดกายลงนั่งตรงหน้าเจ้าหล่อน“นายท่านนี่องค์หญิงราชาวดีเพคะ” เสียงใสของแม่นางกำนัลดอกเอื้องดังขึ้น“ทรงพระเจริญพ่ะย่ะค่ะ” ทวิภาคเอ่ยอย่างเสียไม่ได้ อยากจะให้การพบปะกันครั้งนี้จบสิ้นลงโดยเร็วที่สุด“เอ่อ... ไม่เป็นไรมิได้เพคะ...”มาลีลืมตัวพูดออกไป ร้อนจนราชาวดีต้องรีบแก้ให้ เพราะสีหน้าของ
ตอนที่ 10.“ฉันอุตส่าห์ให้เกียรติเธอทุกอย่างตลอดเวลาที่คบกัน แต่เธอกับตอบแทนฉันซะเจ็บแสบ... เอาล่ะ ฉันไม่อยากพูดถึงอดีตที่มันน่าขยะแขยงนั้นอีก...” ศีรษะทระนงก้มต่ำลงมาหา พร้อมๆ กับรอยยิ้มชิงชังที่ขว้างใส่หน้า“คุณจะทำอะไร...”อินทรายุธหัวเราะร่วน “อย่าทำเป็นไม่รู้จักสิ ลองอยู่ทุกคืนกับไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นไม่ใช่หรือ...! ฉันจะทำให้เธอเจ็บ... เจ็บจนไม่สามารถบรรยายมันออกมาเป็นคำพูดได้เลย มัลลิกา เจ็บให้เหมือนกับที่ฉันเคยเจ็บเมื่อสามปีที่แล้ว...”หญิงสาวพยายามดิ้นรน แต่ก็ถูกพ่อคนตัวโตกระชับไว้แนบอก ไม่มีทางหนีสำหรับหล่อน “ได้โปรดเถอะ... ปล่อยมะลิไปเถอะ เราไม่ควรจะพบกันอีก...”น้ำตาไหลพราก แม้มันจะเนิ่นนานถึงสามปีแล้ว แต่หล่อนก็ยังโหยหาอ้อมกอดอบอุ่นของเขาไม่เสื่อมคลาย หากเป็นเมื่อก่อนหล่อนคงมีความสุขไม่น้อยเลยทีเดียวแต่ตอนนี้ไม่ใช่! ทุกอย่างมันคืออดีตไปแล้ว...“แต่ฉันกลับไม่คิดอย่างนั้นนะคนสวย... หลังจากที่เธอปั่นหัวจนฉันตกลงไปในหลุมที่เธอขุดจนปีนขึ้นมาไม่ได้ และจากนั้นเพียงไม่นานเธอก็หนีฉันไป พร้อมๆ กับจดหมายที่บอกว่าเธอกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายที่เธอรัก ฉันก็ไม่คิดว่าการที่ปล่อยให้เธอลอยน