วรรษมนวางสายจากแพรพลอยแล้วก็หันมามองหน้าออสตินเธอไม่รู้ว่าตอนนี้ตนเองจะทำยังไงต่อเพราะเรื่องที่รู้จากเพื่อนมันทำให้หญิงสาวต้องคิดหนัก
“คุณคงได้ยินหมดแล้วนะคะ”
“ใช่ แล้วเธอจะเอายังไงต่อ”
“คุณจะไม่ให้คนจับตัวหนูกลับไปใช่ไหมคะ”
“ฉันบอกไปแล้วว่าไม่รู้เรื่องนี้ ทุกคนที่ทำงานให้ฉันก็เต็มใจด้วยกันทั้งนั้น อย่างเพื่อนเธอนั้นไงล่ะ”
“แล้วถ้าหนูไม่กลับไปทำงานที่นั่นหนูก็ต้องหาเงินมาใช้พวกเขาใช่ไหมคะ”
“ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาที่เธอพูดถึงนั้นคือใคร เพราะฉันไม่เคยใช้เงินซื้อใครมาแบบนั้น นอกจากจะตกลงกันเอง”
“คุณไม่รู้จริงหรือแกล้งไม่รู้”
“ฉันจะโกหกเธอให้ได้อะไรขึ้นมาล่ะ เอาล่ะฉันเสียเวลามามากแล้วตกลงเธอจะเอายังไงต่อ”
“หนูขอกลับไปพร้อมคุณได้ไหม”
“แล้วไม่กลัวคนพวกนั้นตามเอาเงินคืนเหรอ”
“กลัวสิคะ หนูถึงอยากกลับพร้อมคุณถ้าหนูอยู่กับคุณหนูคิดว่าตัวเองคงปลอดภัย”
“เธอมองโลกในแง่ดีเกินไปแล้วนะ ฉันเป็นผู้ชาย”
“หนูรู้ แต่ถ้าให้หนูกลับไปแล้วต้องไปขายตัวแบบนั้นหนูไม่เอาหรอกค่ะ”
“แต่เธออย่าลืมนะว่าเธอเป็นหนี้พวกนั้นอยู่ถึงสองแสนแล้วถ้าพวกมันก็คงจะต้องมาทวง”
“หนูยืมเงินคุณก่อนได้ไหม เดี๋ยวหนูจะหามาผ่อนคืนให้”
“เงินตั้งสองแสนนะ เธอจะไปหามาจากไหน”
“มันก็ต้องมีสักทางแหละค่ะ”
“ฉันมีข้อเสนอ”
“อะไรคะ” วรรษมนตาโตเมื่อคิดว่าเขากำลังจะช่วยหาทางออก
“ถ้าเธอยอมนอนกับฉัน”
“นั่นไง หนูว่าแล้วผู้ชายก็เหมือนกันทุกคน หนูไม่น่าไว้ใจคนผิดเลย”
“ถ้าไม่ยอมก็ลงจากรถ เรื่องง่ายๆ แค่นี้”
“คุณก็พูดง่ายเพราะคุณเป็นฝ่ายได้ประโยชน์นี่”
“คิดดูดีๆ นะเมล่อนว่าใครกันแน่ที่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ เธอไม่ต้องเสียเงินสองแสน ไม่ต้องถูกส่งกลับไปที่เดิมแล้วยังจะได้นอนกับฉันอีก กำไรเห็นๆ”
“นอนกับคุณน่ะเหรอคะที่ได้กำไร”
“ใช่สิ ใครก็อยากนอนกับฉันกันทั้งนั้น”
“แต่ใครๆ คงไม่ใช่หนูหรอกค่ะ”
“เพราะอะไร”
“ก็คุณกับหนูอายุเราคงห่างกันมาก”
“อายุห่างกันแล้วยังไง หรือกลัวว่าฉันจะตายคาอก”
“มันก็ไม่แน่นะคะ หนูทั้งสาวทั้งสวยแล้วหุ่นก็แซ่บแบบนี้ผู้ชายที่ไหนก็ต้องหลงกันทั้งนั้น”
“ฉันเจอผู้หญิงมาเยอะ สวยกว่าเธอสาวกว่าเธอหุ่นก็ดีกว่าเธอฉันยังไม่เคยหลงใครสักคน อย่ามั่นใจไปหน่อยเลย”
“แต่ตอนนี้คุณก็อยากจะนอนกับหนู”
“ฉันก็แค่เสนอ เพราะมันเป็นทางเดียวที่เธอจะไม่ต้องหาเงินมาใช้หนี้สองแสน แต่ถ้าเธอไม่อยากนอนกับฉัน ฉันก็จะไม่บังคับหรอกนะ แต่รู้ไว้อย่างถ้าเธอลงจากรถไปแล้วฉันก็จะช่วยอะไรเธอไม่ได้ เลือกเอานะว่าจะนอนกับฉันแค่คนเดียว หรืออยากจะนอนกับใครอีกหลายๆ คน ฉันว่าถ้าเธอฉลาดพอเธอก็คงเลือกได้ว่าแบบไหนมันดีกว่ากัน”
“แต่หนูว่าไม่ดีทั้งสองแบบ”
“แต่เธอก็ต้องเลือก ถ้าเธอตกลงฉันจะบอกลูกน้องขับรถกลับกรุงเทพ แต่ถ้าไม่ฉันจะเปิดประตูแล้วให้เธอลงไป”
วรรษมนมองไปด้านนอกแล้วเธอก็ขนลุกซู่เพราะไม่คิดว่าคนขับรถของเขาจะขับวนกลับมาที่เดิมในขณะที่เธอกับออสตินกำลังคุยกันอยู่
“หนูขอไปกับคุณ แต่หนูขอเวลาทำใจหน่อยได้ไหม”
“ถึงอยากจะนอนกับเธอมากแค่ไหนแต่ฉันก็ไม่อยากเสี่ยงหรอกนะ”
“หมายถึงอะไร”
“เธอต้องให้หมอตรวจก่อนว่ามีโรคติดต่ออะไรบ้าง”
“หนูไม่มีโรคติดต่ออะไรทั้งนั้น”
“ฉันไม่เคยเชื่อคำพูดใคร ฉันเชื่อหลักฐาน กลับไปถึงกรุงเทพเธอจะต้องย้ายมาอยู่กับฉัน”
“แล้วหนูต้องนอนกับคุณนานแค่ไหน”
“ถ้าเป็นหนี้แค่สองแสนก็คงไม่นาน”
“กำหนดระยะเวลาได้ไหมคะหนูต้องรีบไปหางานทำ”
“นอนกับฉันก็คืองาน”
“แต่มันก็แค่ชั่วคราว”
“เรื่องนั้นเราค่อยคุยกันอีกที ตอนนี้เราจะกลับกรุงเทพกันเลยเธอไม่เปลี่ยนใจแล้วใช่ไหม”
“ไม่ค่ะ ถึงหนูไม่อยากจะนอนกับคุณแต่มันก็คงดีกว่าต้องไปนอนกับคนอื่นอีกหลายคน”
“ถ้างั้นก็กลับ”
“หนูอยากกลับกรุงเทพพร้อมคุณนะคะ แต่ไม่มีพาสปอร์ตคุณจะพาหนูข้ามไปได้ใช่ไหมคะ” หญิงสาวมองเขาอย่างมีความหวัง
“ได้สิ เธอตกลงเป็นคนของฉันแล้วนี่ เรื่องแค่นี้ไม่มีปัญหาหรอก”
“ขอบคุณค่ะ ตอนนี้หนูไม่แค่แน่ใจเลยว่าจริงๆ แล้วคุณเป็นคนดีหรือไม่ดีกันแน่” วรรษมนมองหน้าเขาแล้วก็รู้สึกสับสนเพราะงานที่เขาทำมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่เขาก็ให้ความช่วยเหลือเธอถ้าเขาไม่ใจดีก็คงส่งเธอกลับไปทำงานอย่างเดิม
“ฉันไม่ใช่คนดีแต่ก็ไม่ได้เลวมาก เอาล่ะไหนๆ เธอก็รับข้อเสนอของฉันแล้วลองเล่ามาสิว่าเธอเป็นใครมาจากไหน”
“คุณอย่างฟังเหรอคะ”
“ฉันไม่นอนกับใครสุ่มสี่สุ่มห้าหรอกนะ”
“หนูชื่อเมล่อน ชื่อจริงวรรษมนค่ะ อายุ 21 ตอนนี้เรียนอยู่ปี 3 เปิดเทอมก็จะขึ้นปีสี่ หนูอยู่กับแม่เลี้ยงแล้วก็พี่สาวค่ะ เขาเป็นลูกติดของแม่เลี้ยง พ่อหนูตายไปแล้วประวัติของหนูก็มีแค่นี้”
“แต่เท่าที่ได้ยินตอนนี้พี่สาวกับแม่เลี้ยงของเธอหนีไปแล้วนี่ก็เท่ากับว่าตอนนี้เธอเหลือตัวคนเดียวใช่ไหมหรือยังเหลือใครในครอบครัวอีก” ออสตินไม่อยากมีปัญหาตามาถ้าหากเขาจะพาเธอมาอยู่ด้วยจึงต้องถามให้ละเอียด
“ค่ะ เขาไปก็ดีแล้วเพราะหนูก็ไม่อยากอยู่กับพวกเขาหรอกค่ะ ที่ทนอยู่มาหลายปีก็เพราะบ้านหลังนั้นพ่อยกให้หนู แม้ว่าตอนนี้มันจะยังผ่อนไม่หมดก็ตาม”
“เธอยังเรียนอยู่แล้วเอาเงินที่ไหนผ่อนบ้านล่ะ”
“หนูทำงานพิเศษค่ะ แล้วก็เก็บค่าเช่าจากสองแม่ลูกนั่นคนละพัน”
“เขายอมจ่ายเหรอ”
“ยอมสิคะ เพราะถ้าเขาต้องออกไปเช่าข้างนอกอยู่ก็คงไม่ได้ราคานี้”
“แล้วทีนี้จะเอายังไงต่อ จะเอาเงินที่ไหนมาผ่อนบ้านล่ะ”
“ก็คงต้องกลับไปหาเถ้าแก่ร้านเหล้า ขอกลับไปทำงานเหมือนเดิม”
“ร้านเหล้าเหรอ แบบนั่งดื่มกับแขกเหรอ”
“ใช่ค่ะ อย่าดูถูกเชียวนะคะเงินดีออก”
“แล้วทำไมถึงไปทำงานที่กาสิโนล่ะ”
“ก็ยัยพี่สาวของหนูบอกว่าได้เงินเยอะกว่าที่ร้านเหล้า ใครจะคิดล่ะว่าต้องไปนอนกับแขกด้วย”
“เธอทำงานที่ร้านเหล้ามานานแล้วเหรอ”
“ก็ตั้งแต่ปีหนึ่ง หนูทำไปด้วยเรียนไปด้วย เรื่องของหนูก็มีแค่นี้แหละ แล้วคุณล่ะคะเป็นใครมาจากไหน”
“เธออยากรู้เรื่องของฉันไปทำไม”
“ก็แลกเปลี่ยนกันไงคะ หรือว่าคุณทำแต่เรื่องผิดกฎหมายเลยเล่าให้ใครฟังไม่ได้” วรรษมนมองหน้าเขาอย่างท้าทาย เธออยากรู้เรื่องของเขาอยากรู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหนแล้วที่บอกว่าจะช่วยเธอนั้นเขาจะช่วยได้จริงๆ หรือแต่พูดเพราะต้องการนอนกับเธอกันแน่
วรรษมนอยู่อิตาลีเกือบสองสัปดาห์ก็กลับมาเมืองไทยเพราะอีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอม เธอกลับมาพร้อมกับออสตินส่วนบิดามารดาของเขานั้นกำลังจัดการเรื่องธุรกิจและวางแผนจะบินตามมาอยู่ที่เมืองไทยถ้าทุกอย่างที่นั่นเรียบร้อยแล้ว “พี่ออสตินไม่อยู่เมล่อนขอไปเดินซื้อของกับเพื่อนได้ไหมคะ เมล่อนว่าตอนนี้ตัวเองอ้วนขึ้นคงต้องไปซื้อชุดนักศึกษาเพิ่มใหม่หรือว่าจะลดความอ้วนดีคะ” “อ้วนที่ไหนพี่ว่าแบบนี้ดีออกเวลากอดก็เต็มไม้เต็มมือดี ส่วนเรื่องชุดพี่ว่าซื้อใหม่เถอะแล้วอย่าเอากระโปรงสั้นมากนะ เสื้อก็อย่ารัดรูป เขาแค่พอดีตัว” “พี่ออสตินหวงเหรอคะ” “หวงสิ เมียทั้งสวยทั้งเซ็กซี่แบบนี้เป็นใครก็หวง” ตั้งแต่ตกลงว่าจะแต่งงานกับออสตินก็มักจะเรียกเธอว่าเมียจนติดปากแต่วรรษมนก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเธอก็ชอบที่ได้ยินเขาเรียกแบบนี้ ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังเป็นแค่เมียลับๆ ของเขาก็ตาม“พี่จะไปนานไหมคะ”“ไปแค่สองวันเองแล้วก็จะรีบกลับมากอดเมีย”“เมล่อนอยากไปด้วยนะคะถ้าไม่ติดว่าต้องเตรียมตัวก่อนเปิดเทอมเมล่อนจะขอไปด้วย”“เอาไว้ครั้งหน้าที่จะเลือกวันไปทำงานให้ตรงกับวันหยุดดีไหมเมล่อนจะได้ไปดูโร
คุณจิโอวานนี่กลับมายังห้องนั่งเล่นอีกครั้งพร้อมกับกล่องกำมะหยี่อีกหลายกล่อง “นี่มันอะไรคะ” “เปิดดูสิผมว่าคุณน่าจะชอบนะ” เขาบอกภรรยา เธอเปิดกล่องที่วางตรงหน้าออกทุกใบซึ่งในนั้นมีสร้อยเพชรและต่างหูที่เขาชุดกันจะขาดก็แต่สร้อยข้อมือซึ่งเธอรู้ดีกว่าใครว่าสร้อยข้อมือนั้นอยู่ที่ไหน “คุณซื้อทั้งชุดเหรอคะ ฉันนึกว่ามีแต่สร้อยข้อมือ” “ใช่สิ ผมอยากให้คุณใส่ทั้งชุดแต่คุณไม่ยอมสวมเสื้อเปิดคออีกเลย ผมไม่อยากให้คุณคิดมากก็เลยเอาแค่สร้อยข้อมือให้คุณ” ที่ผ่านมาเขาซื้อชุดเครื่องเพชรให้ภรรยามาตลอดแต่ก็จะเก็บสร้อยคอและต่างหูแยกไว้ เขารอวันที่ภรรยาจะกล้าใส่เสื้อที่เปิดให้เห็นคอซึ่งมีรอยแผลนิดเดียวและถ้าไม่สังเกตหรือจ้องนานก็ไม่มีใครเห็น “ขอบคุณนะคะที่ซื้อมาให้ ต่อไปนี้ฉันคงจะได้ใส่ครบชุด” “ผมถามหน่อยสิ ทำไมคุณถึงได้กล้าสวมชุดแบบนี้ล่ะ” “ก็แผลมันนิดเดียวนี่ถ้าไม่มองดีๆ ก็ไม่มีใครเห็นหรอก จริงไหมเมล่อน” “จริงค่ะ ถ้าคุณแม่ไม่บอกหนูก็ไม่เห็น” “ผมกับลูกก็เคยบอกคุณแล้วแต่คุณไม่ยอมฟังเราเลย” “ก็
กลับมาถึงบ้านวรรษมนและคุณอลิษาก็ช่วยกันเข้าครัวซึ่งวันนี้คุณอลิษาเป็นคนลงมือทำอาหารเองทั้งหมดโดยมีป้าวิไลและวรรษมนคอยเป็นลูกมือ “อร่อยมากเลยค่ะคุณผู้หญิง วิไลว่าวันนี้คุณผู้ชายกับคุณออสตินคงได้ทานข้าวกันหลายจานแน่ๆ” “อย่าลืมตักไปแบ่งกันกินด้วยนะฉันทำเผื่อทุกคน” “ขอบคุณค่ะคุณผู้หญิงมาเรียว่าคงต้องหุงข้าวเพิ่มล่ะคะ กับข้าวฝีมือคุณผู้หญิงอร่อยมากจริงๆ” “อร่อยจริงหรือแกล้งชมกันล่ะมาเรีย” คุณผู้หญิงของบ้านถามเพราะไม่ค่อยมั่นใจเนื่องจากตนเองไม่ได้เข้าครัวมานานหลายปีแล้ว “อร่อยจริงๆ ค่ะ” สาวใช้พยักหน้า เธอเคยทานอาหารไทยมาแล้วแต่ไม่เคยทานอาหารไทยที่อร่อยแบบนี้มาก่อน “ถ้าพวกเธอชอบฉันจะพยายามเข้าครัวบ่อยๆ” คุณผู้หญิงของบ้านยิ้ม “ชอบสิคะ แต่มาเรียกลัวคุณผู้หญิงเหนื่อยคุณผู้หญิงสอนมาเรียได้ไหมคะ มาเรียอยากทำเก่งๆ” “สอนหนูด้วยนะคะหนูก็อยากทำเก่งๆ” วรรษมนอยากเรียนรู้เพื่อจะเอากลับไปทำให้ออสตินทาน “ถ้าอยากจะเรียนกันจริงก็จะสอนให้” “ขอบคุณค่ะคุณผู้หญิง” / “ขอบคุณค่ะแม่” สองสาวที่วัย
เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่คุณอลิษาเลือกซื้อเสื้อผ้าอย่างมีความสุข เธอเข้าร้านนั้นออกร้านนี้อยู่นานก็ได้เสื้อผ้ามาเกือบยี่สิบชุดจนวรรษมนต้องโทรศัพท์ตามคนขับรถมาเอาไปเก็บ ส่วนเธอกับมารดาของคนรักก็เดินไปช้อปปิ้งกันต่อ “แม่คะ เราแวะร้านนั้นกันไหม” วรรษมนชี้ไปยังร้านเครื่องประดับแบรนด์ดังที่อยู่ถัดออกไปอีกไม่มากนัก “ก็เอาสิ” เพราะตนเองได้ของที่ถูกใจแล้วก็เลยอยากจะตามใจหญิงสาวบ้าง พอเข้ามาถึงในร้านวรรษมนก็เดินไปยังมุมที่มีสร้อยคอโชว์อยู่เต็มตู้ “เธออยากได้สร้อยเหรอ” “เปล่าค่ะ คุณแม่นั่นแหละค่ะที่ต้องซื้อ” “ฉันเหรอ” “ค่ะ ก็ชุดที่เราซื้อเมื่อกี้คอมันกว้างและคุณแม่ก็ต้องมีสร้อยสวยๆ ไว้ใส่คู่กันนะคะจะให้คอโล่งไม่ได้” “แต่เครื่องเพชรที่บ้านฉันก็มีอยู่แล้ว” “นั่นมันคือเครื่องเพชรสำหรับใส่ออกงานค่ะ แต่ที่เรามาซื้อมัยเป็นสร้อยที่เราจะใส่ได้ทุกวันเอาหลายๆ แบบเลยนะคะจะได้เปลี่ยนไปตามชุดที่เราใส่” “ทีซื้อกระเป๋าเธอทำเป็นว่าแล้วทำไมสร้อยพวกนี้ถึงไม่ว่าล่ะ” “เมล่อนอยากให้คุณแม่แต่งตัวส
ออสตินพาวรรษมนลงมาจากห้องนอนเพื่อจะพาเธอไปส่งที่โรงแรมแต่ยังไม่ทันได้ออกจากบ้านมารดาของชายหนุ่มก็เรียกทั้งสองเอาไว้ก่อน “เดี๋ยวสิออสติน” “มีอะไรครับแม่” “แม่รู้ว่าวันนี้ลูกจะไปทำธุระกับพ่อ” “ครับแม่ แม่มีอะไรหรือเปล่าถ้าไม่มีผมจะรีบไปส่งเมล่อนก่อนแล้วจะตามพ่อไป” “วันนี้อยากจะไปช้อปปิ้งแล้วบังเอิญว่าไม่มีคนช่วยถือของก็เลยอยากจะให้คนของลูกไปช่วยถือหน่อย” “จะให้หนูไปช่วยถือของใช่ไหมคะ” วรรษมนถามอย่างรู้ทันก็มุกพวกนี้เธอเคยอ่านเจอในนิยายมาเยอะแล้ว “แล้วเธอจะไปถือให้ฉันไหมล่ะ” คุณอลิษาหันมาถามด้วยใบหน้ามึนตึง “ไม่มีปัญหาอยู่แล้วค่ะ กลับไปโรงแรมหนูก็ไม่มีอะไรทำอยู่ดี ไปกับคุณแม่น่าจะสนุกกว่านะคะ” “ถ้าไม่อยากไปก็ไปก็ไม่ต้องฝืนนะเมล่อน” ออสตินกลัวว่าคนรักของตนเองจะลำบากใจ “ไม่หรอกค่ะ เมล่อนเต็มใจคุณรีบไปทำงานเถอะนะคะเดี๋ยวเมล่อนไปกับคุณแม่เองแล้วเจอกันตอนเย็นค่ะ” “งั้นผมไปนะ” ก่อนไปออสตินก็ขโมยหอมแก้มของหญิงสาวอีกฟอดใหญ่ทำให้มารดาของเขาแต่เบะปากด้วยความหมั่นไส้ คุณ
วรรษมนตื่นนอนตั้งแต่เช้าและลงมาด้านล่างก่อนที่เจ้าของบ้านจะตื่นเธอเห็นแม่ครัวกำลังเตรียมอาหารเลยคิดจะเดินเข้ามาช่วย “คุณลงมาทำอะไรตั้งแต่เช้ากันคะ” ป้าวิไลแม่ครัวใหญ่ตกใจที่เห็นว่าคนรักของเจ้านายลงมาตั้งแต่เช้าตรู่ “ป้าเป็นคนไทยเหรอคะ ดีจังตั้งแต่หนูมาที่นี่ก็เจอคนไทยไม่กี่คนเอง” “ป้าเป็นคนไทยจ้ะแต่มาอยู่ที่นี่เกือบสามสิบว่าปีแล้ว” “นานมากเลยนะคะ แล้วป้าทำอะไรคะให้หนูช่วยไหม” “เมื่อวานป้าไปตลาดเอเชียแล้วได้ขนมจีนมาก็เลยจะทำขนมจีนแกงเขียวหวานให้คุณๆ ทานจ้ะ” “ให้หนูช่วยไหมคะ” “หนูทำเป็นเหรอ” “ค่ะ หนูเคยทำให้คุณออสตินทานค่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะได้รสชาติเหมือนที่ป้าเคยทำไหม” “หนูทำอย่างที่หนูเคยทำเลย ป้ามาอยู่ที่นี่นานบางครั้งรสชาติก็ไม่เหมือนกับของต้นฉบับเท่าไหร่ แต่ขออย่าให้เผ็ดมากก็พอ” “ป้าจะให้หนูทำจริงๆ เหรอคะ หนูกลัวว่าจะทำออกมาไม่อร่อย” “ไม่ต้องกลัวป้าจะคอยดูอยู่ใกล้ๆ” วรรษมนลงมือทำแกงเขียวหวานอย่างที่ตนเองถนัดโดยมีป้าแม่ครัวและเด็กรับใช้อีกคนยืนดูอยู่ห่างๆ ใช