Share

บทที่ 3

บรรยากาศเงียบลงจนน่ากลัว

วินาทีนี้ราวกับเข็มเล่มหนึ่งตกลงบนพื้นก็ยังได้ยินเสียงอย่างชัดเจน กู้อิ๋นยืนหลังเหยียดตรง ทว่าในใจราวกับมีฝนห่าใหญ่กำลังตกลงมา

สายตาอันน่ากลัวของเผยเซียวจ้องมาที่ใบหน้าน้อย ๆ ที่กำลังบังคับตัวเองให้ทำสีหน้าตายด้าน จากนั้นเอ่ยเสียงเย็นยะเยือกว่า “อะไรที่เรียกว่าน่าจะ?”

กู้อิ๋น “...”

แย่แล้ว เผยเซียวเกลียดคำตอบที่ไม่แน่นอนเป็นที่สุด

เธอก้มหน้า พูดขึ้นอย่างกัดฟันแข็ง “เมื่อคืนหลังจากที่ฉันไปส่งคุณที่ห้อง ก็ไม่ได้มีใครเข้าไปในห้องอีกเลยค่ะ!”

น้ำเสียงของเธอแฝงไปด้วยความมั่นใจอย่างคงมั่น ไม่มีข้อบกพร่องเลยสักนิด

บรรยากาศกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง กู้อิ๋นไม่รู้เลยว่าแต่ละวินาทีมันยาวนานขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร

แต่เธอต้องอดทนเอาไว้ก่อน

ถ้าทำให้เผยเซียวจับได้ว่าเธอโกหก ไม่เพียงแต่อนาคตของเธอจะถูกทำลาย แต่ยังพลอยทำให้เหยียนฉู่ติดร่างแหไปด้วย

และเธอได้ปักหลักอยู่ที่เมืองก่างแล้ว ถ้าถูกขับออกจากเมืองก่าง คงจะน่าเวทนาน่าดู

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไรแล้ว เหงื่อเปียกโชกไปทั้งแผ่นหลังของกู้อิ๋น ในที่สุดเผยเซียวก็เอ่ยปาก “รู้แล้ว!”

กู้อิ๋นหลับตา ถอนหายใจฟู่ยาวๆไปทีหนึ่ง ในใจเธอคิดว่าเคราะห์ด่านนี้ถือว่าผ่านไปแล้วใช่ไหม?

“ไปหยิบแฟ้มการประมูลของไห่ซ่างมา” เผยเซียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

เห็นเขาทุ่มเทอยู่กับการทำงาน กู้อิ๋นถึงได้เบาใจลงเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า “ค่ะ!”

หนึ่งเดือนหลังจากนี้ พวกเขาต่างต้องใช้เวลาไปกับการเดินทางไปทำงานนอกสถานที่ครั้งแล้วครั้งเล่า กู้อิ๋นพยายามหลีกเลี่ยงเผยเซียวอย่างตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ

หนึ่งเดือนผ่านไป พวกเขากลับมาจากต่างประเทศและได้กลับมาถึงเมืองก่าง

เหมือนเช่นเคย หลังจากเดินทางอันแสนยาวนานก็จะให้พนักงานหยุดพักผ่อนสองวัน เผยเซียวมีประชุมด่วนจึงต้องมายังบริษัท

เมื่อออกมาหลังประชุมเสร็จ ลั่วเหยียนก็เดินขึ้นหน้ามาทำความเคารพ “คุณผู้ชายครับ”

เมื่อเห็นลั่วเหยียน เผยเซียวจึงขมวดคิ้วแล้วถามว่า “กู้อิ๋นล่ะ?”

“คุณลืมไปแล้วเหรอครับ หลังจากเดินทางมาก็ต้องให้เธอหยุดพัก ออกไปทำงานนอกสถานที่ครั้งนี้หนึ่งเดือน ผู้ช่วยกู้คงจะอยากไปพบแฟนหนุ่ม”

นัยน์ตาของเผยเซียวมีความเย็นยะเยือกแผ่ออกมาในทันใด แล้วก็กลับมาสงบลงหลังจากนั้น

ลั่วเหยียนรับรู้ได้ว่าจู่ ๆ รอบข้างก็มีบรรยายกาศน่าอึดอัดคืบคลานเข้ามาอย่างไร้สาเหตุเล็กน้อย

ณ หอพักของบริษัท

เหยียนฉู่ขยับเข้าไปข้างหูกู้อิ๋น “หลังจากนั้นประธานเผยไม่ได้มาทำอะไรกับเธอใช่ไหม?”

เมื่อกู้อิ๋นได้ยินเรื่องเมื่อหนึ่งเดือนก่อนที่จู่ ๆ เหยียนฉู่ก็พูดถึงขึ้นมา ก็ตกใจจนสะดุ้งทีหนึ่ง จากนั้นรีบมองไปที่ประตูอีกสองบาน

เหยียนฉู่ “วางใจเถอะ คนอื่นออกไปกันหมดแล้ว เหลือแค่เราสองคน!”

กู้อิ๋นได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจ วันนั้นไม่ง่ายเลยกว่าจะแถต่อหน้าเผยเซียวให้ผ่านมาได้

แม้จะผ่านไปหนึ่งเดือนแล้ว แต่เมื่อได้ยินเหยียนฉู่พูดขึ้นมา หัวใจของเธอก็อดไม่ได้ที่จะเต้นระรัว

เมื่อนึกถึงท่าทางหน้าคล้ำดำเขียวของเผยเซียวในวันนั้น เธอก็ครุ่นคิด “ประธานเผยเองก็คงจะไม่อยากให้มีผู้หญิงมานอนอยู่ในห้องเขาคืนนั้น”

ฉะนั้นเขาเลยอยากจะเช็กดู? อันที่จริงก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย?

ในตอนที่กำลังคิดเช่นนี้ ความตึงเครียดของกู้อิ๋นก็ค่อยๆผ่อนคลายลง

เหยียนฉู่พยักหน้า “งั้นก็ดี หลายปีมานี้คนที่คิดชอบประธานเผยก็น่าเวทนามากทั้งนั้น มีความสัมพันธ์กับเขาไม่ใช่เรื่องดีอะไรหรอก”

“ฉันรู้ เอาละ อย่าพูดเรื่องพวกนี้อีกเลย ฉันต้องรีบไปธนาคารสักหน่อย”

กู้อิ๋นไม่อยากพูดคุยในหัวข้อบทสนทนานี้ต่อ

เมื่อได้ยินว่าเธอจะไปธนาคาร เหยียนฉู่ก็พูดอย่างเป็นห่วง“น้องชายเธอก็อยู่ในช่วงฝึกงานแล้ว ยังมาขอเงินจากเธออีกเหรอ?”

กู้อิ๋นหยิบกระเป๋าสตางค์ของตัวเองขึ้นมาก่อนจะเดินไปที่ประตู

เปลี่ยนรองเท้าไปพลางเอ่ยขึ้นว่า “เขายังหางานที่เหมาะสมไม่ได้ ตอนไปทำงานนอกสถานที่ก็โทรมาหาฉันหลายครั้ง”

พ่อจากไปตั้งแต่เธออายุได้ห้าขวบ ที่บ้านเธอเป็นลูกสาวคนรอง เธอยังมีพี่สาวหนึ่งคน และน้องชายอีกหนึ่งคน

พี่สาวมีครอบครัวและสร้างเนื้อสร้างตัวไปแล้ว น้องชายอยู่ในช่วงฝึกงานของมหาวิทยาลัย ถึงอย่างไรก็ยังอีกครึ่งปีกว่าจะเรียนจบ ถึงเวลานั้นเธอกับพี่สาวคนโตถึงจะได้หมดห่วง

เมื่อได้ยินว่าโทรศัพท์ไปหาหลายครั้ง

เหยียนฉู่ก็ยิ่งไม่พอใจ “ฉันว่าแม่เธอตามใจจนติดนิสัย ตอนเธอขึ้นมหาลัยแม่เธอไม่ได้ออกเงินเลยสักแดงเดียว”

“ตอนนี้น้องชายเธอฝึกงานเกินสามเดือนมาแล้ว ยังหางานไม่ได้อีก เกรงว่าคงไม่ใช่เพราะเขามักใหญ่ใฝ่สูงหรอกนะ!”

เมื่อพูดถึงแม่ นัยน์ตาของกู้อิ๋นก็แสดงออกอย่างเฉยชาออกมาเล็กน้อย ไม่ได้ต่อหัวข้อบทสนทนานี้ แต่กลับถามเหยียนฉู่ว่า “จะออกไปด้วยกันไหม?”

“ไม่ไป เดี๋ยวเธอซื้อกับข้าวกลับมาให้ฉันด้วยนะ”

กู้อิ๋นพยักหน้า “ได้!”

ออกมาจากหอพัก

ด้านนอกแสงแดดกำลังดี ทว่ากู้อิ๋นกลับขนลุกไปทั้งตัว หรือจะพูดว่า หลายปีมานี้ตั้งแต่คุณย่าจากไปเธอก็ไม่เคยรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นเลย

มือถือในกระเป๋าพลันสั่นขึ้นมาในทันใด

ล้วงออกมาดู เป็นเบอร์โทรศัพท์ของสวีจิ้งอวี่น้องชาย เธอตัดสายด้วยใบหน้าเบื่อหน่าย

ทว่าเพิ่งจะตัดสาย โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง

กู้อิ๋นรับสายอย่างไม่สบอารมณ์ “แกยังมีหน้ามาเร่งฉันอีกนะ ทั้งที่ไปสัมภาษณ์มาตั้งหลายบริษัทแล้ว!”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status