แชร์

หลี่อวี้อ๋อง 1

ผู้เขียน: Priyada
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-02 12:58:57

เฉินหลี่อวี้หรือที่รู้จักในนามหลี่อวี้อ๋องนั่งอยู่กับผู้ติดตามคนสนิทในโรงเตี๊ยมของคนพเนจร ซึ่งเป็นสถานที่ที่ไม่เหมาะกับเขาเลยแม้แต่น้อย เขามีศักดิ์เป็นพระอนุชาของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน เปี่ยมทั้งอำนาจบริวารและเป็นที่กลัวเกรงของทุกคนในราชสำนัก ด้วยเพราะแม้แต่ตัวฮ่องเต้เองก็ยังรับฟังคำแนะนำหรือคำคัดค้านในกิจการบ้านเมืองของหลี่อวี้อ๋อง

แต่เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตหรือจดจำได้ เขาจึงต้องแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าธรรมดาสีซีดจางเนื้อหยาบ ราวกับคนใช้แรงงานหนัก เสียแต่ว่าพวกเสื้อผ้าซอมซ่อเหล่านี้ยังมิสามารถปิดปังความมีสง่าราศี ผิวพรรณผุดผ่องและท่วงท่าแบบคนชั้นสูงของชายหนุ่มได้

ช่วงนี้หลี่อวี้อ๋องมักจะออกมาสืบราชการลับข้างนอกอยู่บ่อยครั้ง แต่วันนี้นอกจากงานอันหนักหนาที่ทำอยู่ เขายังต้องการที่จะตามหา

กูเหนียงน้อยนางหนึ่งที่สะดุดตาเขาในตลาดเมื่อวานนี้ การจะรู้ชื่อแซ่ของนางคงไม่ใช่เรื่องยากเย็นนัก เพราะคงมีสตรีเพียงไม่กี่คนที่จะงดงาม

ตราตรึงได้เช่นนาง และจะมีที่ไหนเหมาะไปกว่าโรงเตี๊ยมที่ผู้คนมากมายพร้อมจะตอบคำถาม หรือเล่าทุกความลับ เพียงเพื่อแลกกับเหล้าหนึ่งไหหรือไก่หนึ่งตัว 

อาจจะเป็นการง่ายกว่า หากเขาจะเพียงแค่เดินดุ่มเข้าไปถามหรือรีดเอาความจริงจากใครสักคน แต่คนที่เป็นถึงท่านอ๋อง จะทำกิริยาเช่นนั้นได้อย่างไร และเขาก็ต้องการที่จะรู้เรื่องของนางอย่างละเอียด จึงลงทุนมาสืบหาข้อมูลด้วยตัวเอง

“พี่ชาย มานั่งหย่อนใจที่นี่บ่อยหรือ” ฉีฟ่างเอ่ยถามชายหนุ่มท่าทางดุดัน มือหยาบกร้านและข้อนิ้วปูดโปน ที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ ก่อนจะทำท่ายกกาที่มีสุราบรรจุอยู่ เมื่อชายหนุ่มพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต ฉีฟ่างก็รินสุราใส่จอกให้

“บ่อย เจ้าต้องการอะไร” บุรุษร่างยักษ์ตอบเสียงห้วน

“ข้าต้องการจะถามพี่ชายเรื่องหนึ่ง คือข้ากับเพื่อนนำสารมาส่งให้กับบสตรีนางหนึ่ง แต่เราไม่รู้แน่ชัดว่านางคือใครกันแน่”

บุรุษร่างยักษ์ยกเหล้าเข้าปากรวดเดียวหมด เมื่อฉีฟ่างรินเติมให้

อีกครั้ง เขาถึงได้เอ่ยปากพูด “ฮึ แล้วเจ้าไม่รู้ชื่อแซ่ของนางหรอกรึ” สายตาเคลือบแคลงของอีกฝ่ายทำให้หลี่อวี้อ๋องต้องออกโรงพูดด้วยตัวเอง 

“คุณชายของเราบอกแต่เพียงว่านางคือคุณหนูที่อยู่ในตระกูลสูงของเมืองนี้ นางมีใบหน้าสะสวย ท่าทางสดใสร่าเริง และแม้ว่าจะยังไม่พ้นวัยปักปิ่นก็ดูเหมือนว่าจะมีชายหนุ่มให้ความสนใจมากมายถึงขนาดยอมเสียเงินมหาศาลเพื่อเอาใจนาง”

เถ้าแก่ที่ยืนฟังอยู่ใกล้ ๆ ได้ยินเข้าก็หัวเราะร่วน “ถ้าเช่นนั้นก็เห็นจะมีอยู่เพียงคนเดียว”

“ใครหรือ”

ก่อนที่เถ้าแก่เจ้าของร้านจะมีโอกาสได้ตอบ ชายร่างยักษ์ก็สวนขึ้นมาทันที “เจ้าบอกว่าคุณชายของเจ้าฝากจดหมายมา แต่ไม่รู้จักชื่อของนางนี่น่ะรึ”

“คุณชายเพียงบอกว่าความงามจะเป็นตัวบอกชื่อของนางเองน่ะสิ พวกข้าเลยต้องมานั่งกุมขมับกันอยู่นี่ไง” หลี่อวี้อ๋องเคาะนิ้วกับโต๊ะ “ถ้านางจะงามจริงอย่างที่คนเขาพูดกัน” 

เถ้าแก่ที่อดรนทนไม่ได้โพล่งขึ้น “แล้วเจ้าจะได้เห็นเอง ฮ่า ๆ ๆ”

“ข้าก็อยากจะเห็นเช่นกัน หากจะได้รู้ว่านางชื่ออะไร”

“จะเป็นใครไปได้เล่านอกจากท่านหญิงมู่หรงเยว่ชิง บุตรีหนึ่งเดียวของท่านแม่ทัพใหญ่มู่หรงเซียนหลิวยังไงล่ะ”

หลี่อวี้อ๋องรู้สึกสะดุดใจกับชื่อที่ได้ยิน แน่นอนว่าเขาต้องรู้จักท่านแม่ทัพใหญ่มู่หรง แต่มีเพียงคุณชายทั้งสามของตระกูลเท่านั้น ที่เขาพอจะเคยเห็นหน้าค่าตามาบ้าง และหากจำไม่ผิด ครั้งสุดท้ายที่ได้พบบุตรีของ

แม่ทัพมู่หรงก็น่าจะสักสิบปีมาแล้วกระมัง ในตอนนางยังเป็นแค่เด็กหญิงตัวน้อยเท่านั้น ใครจะไปคาดคิดละว่า นางจะเติบโตมาราวกับดอกไม้ที่ได้รับการทะนุถนอมเป็นอย่างดีถึงเพียงนี้ แต่นั่นก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะในขณะที่ขุนนางตระกูลต่าง ๆ พากันอวดโฉมบุตรหลานบ้านตัวเอง แต่จวนแม่ทัพกลับระแวดระวังไม่ค่อยพานางออกงานเพราะถนอมนางราวกับไข่ในหิน

รู้อย่างนี้เขาควรผูกมิตรกับท่านพ่อตาแต่เนิ่น ๆ เห็นจะดี

“ขอบคุณท่านมาก เถ้าแก่ เพื่อเป็นการตอบแทน ข้าจะสั่งเหล้าเลี้ยงคนทั้งร้านเอง”

หลี่อวี้อ๋องพยักหน้าให้ฉีฟ่างวางเงินเป็นถุงลงกับโต๊ะ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เมื่อมองจากมุมนี้ ก็ดูออกเลยว่าชายผู้นี้ไม่น่าใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน แต่ทุกคน ณ ที่นี้ต่างรู้ความเป็นอย่างดี สิ่งใดที่ไม่ควรพูดก็ควรกลืนลงท้องเสีย

“โอ ขอบคุณเจ้ามาก ขอบคุณจริง ๆ ขอให้คุณชายของพวกเจ้าสมหวังนะ”

“คงยากอยู่” ชายร่างยักษ์พูดทั้งที่ไก่ยังเต็มปาก “เพราะท่านหญิงมาพร้อมกับข่าวลือหนาหูว่าโปรดปรานเงินทองของมีค่านัก หากนางจะแต่งงาน ข้าคิดว่าคงจะแต่งกับกองเงินกองทองของตัวเองมากกว่า”

ท่านอ๋องเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งอย่างสนใจ พลันนึกไปถึงตอนที่เห็นมู่หรงเยว่ชิงใช้ลูกไม้ให้ชายหนุ่มผู้นั้นเสียเงินซื้อของให้นางจนแทบจะหมดตัว

“อย่างไรหรือ” ฉีฟ่างถามแทน

“ก็อย่างที่ข้าพูดไปนั่นแหละ ว่ากันว่ามีชายหนุ่มมากมายที่

หมายปองนาง แต่ก็ต้องถอยทัพกลับไป เพราะรู้แน่ว่าไม่สามารถหาแก้วแหวนเงินทองมาให้นางตามที่นางปรารถนาได้”

“งั้นหรือ” หลี่อวี้อ๋องกลั้นเสียงหัวเราะในลำคอ “ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย คุณชายของข้าเป็นคนมีอันจะกิน เรื่องเท่านี้ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเขาหรอก”

ทั้งเถ้าแก่และชายร่างยักษ์มองเขาก่อนจะส่ายหัว “ความงามของนางมีราคาแพงจริง ๆ”

“ข้าจะเอาจดหมายไปให้นางตามที่ได้รับมอบหมาย ขอตัวก่อนนะท่านทั้งสอง”

ทั้งนายทั้งบ่าวออกจากโรงเตี๊ยมมาที่รถม้าซึ่งจอดอยู่ในตรอก ห่างออกมาหลายซอย

“ข้าต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”

“ขอรับ”

ฉีฟ่างกระโดดขึ้นนั่งประจำที่คนขับ เมื่อท่านอ๋องเข้าไปนั่งข้างในเรียบร้อย เขาก็รีบขับตรงไปยังบ้านพักหลังเล็กที่สร้างไว้เพื่อเป็นที่หลีกหนีความวุ่นวาย และอยู่รอจนกระทั่งท่านอ๋องเดินออกมาด้วยชุดที่เหมาะสม

หลี่อวี้อ๋องเป็นชายหนุ่มทรงเสน่ห์ หน้าตาเข้มขรึมจริงจัง และออกจะถือตัวเล็กน้อย ความเด็ดขาดส่งผ่านทางสายตาคมกริบ มีท่าทางน่า

เกรงขามอย่างคนมีอำนาจ แม้แต่การเดินเหินหรือขยับตัว เขาขึ้นชื่อว่าไร้ปราณี และเมื่ออยากได้อะไร ก็ต้องเอาสิ่งนั้นมาครอบครองให้ได้เสียด้วย

“ไปได้”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • มู่หรงเยว่ชิง ท่านหญิงตำลึงทอง   บทส่งท้าย (จบ)

    “อ๊ะ” เยว่ชิงสะดุ้งกับการถูกรุกล้ำเข้ามาในกายสาว นางรัดแขนรอบคอเขาแน่น สัมผัสของมันทำให้ภายในส่วนกลางกายบีบรัดจนร้อนระอุ พาให้นางเสียววูบวาบอย่างตั้งตัวไม่ติด นางกลั้นหายใจพลางซบหน้าอยู่กับไหล่กว้างเมื่อเขาขยับมือชักเข้าออกเริ่มจากเชื่องช้าไปสู่ความรัวเร็วจนร่างกายของนางรับไม่ไหว เขาเงยหน้าขึ้นมองดวงหน้าที่มีเม็ดเหงื่อผุดพรายแหงนหงายไปด้านหลัง ริมฝีปากเม้มแน่นเป็นเส้นตรง ขณะที่เส้นผมสีดำขลับปัดป่ายอยู่ตรงช่วงลำตัวของนาง ในตอนที่นางหลุดเสียงร้องครวญครางแล้วตัวกระตุกเกร็งภายใต้มือของเขา “ท่านอ๋อง” นางกล่าวเพียงเท่านั้นก่อนจะถอนหายใจหนักหน่วง คล้ายจะบอกว่าตัวเองได้รับความสุขสมเป็นอย่างดีแต่เหนื่อยเกินกว่าจะเอ่ยและปล่อยให้เขาจับพลิกตัวนอนลงกับเตียง “ข้าหวังว่าคงจะไม่มีใครเข้ามาขัดอีก เพราะคราวนี้ข้าจะไม่ยอมถอนกำลังเป็นแน่ หากข้าไม่ได้ชัยชนะ” “แล้วชัยชนะของท่านคือสิ่งใดกัน” นางถามราวกับจะยั่ว “เดี๋ยวเราก็จะได้รู้กัน” เขาปลุกปั่นความปรารถนาของนางขึ้นมาอีกครั้ง แต่กลับทำรุนแรงยิ่งกว่าเดิมอย่างหักห้ามใจไม่ไหว ทั้งบดขยี้กลีบปากบาง สองมือต้องการที่จะได้สัมผัสแตะต้องทุกตารางนิ้ว จนก

  • มู่หรงเยว่ชิง ท่านหญิงตำลึงทอง   บทส่งท้าย

    หญิงสาวยืนตัวตรงอยู่ข้างเตียง สวมเพียงชุดหลวม ๆ สำหรับ ซับในเอาไว้เรียบร้อย หลี่อวี้อ๋องมองนางแน่นิ่งราวกับจะมองให้ทะลุเนื้อผ้าเข้าไปจนกระทั่งเห็นถึงผิวเนื้อด้านใน คนที่ตกเป็นเป้าสายตาก็รู้ตัวดีจนถึงขนาดร้อน ๆ หนาว ๆ ต้องหาเรื่องเบี่ยงประเด็น “ฮ่องเต้เสด็จมาหรือเจ้าคะ” เขาพยักหน้าก่อนจะวางกล่องในมือเอาไว้บนโต๊ะ “เอาของขวัญมาให้ แต่ที่จริงน่าจะอยากแกล้งเสียมากกว่า” “แกล้ง?” “ก็จงใจมาขัดขวางตอนที่ข้าจะเข้าสนามรบน่ะซี่” คำพูดของเขาทำให้นางอายจนต้องก้มหน้างุด ไม่ว่านางจะทำสิ่งใดในสายตาของเขานั้นนางก็น่าเอ็นดู น่าจับมาโอบกอดและรัดแน่น ๆ แล้วก็ไม่ทำสิ่งใดเลยนอกจากมีนางอยู่ในอ้อมแขนทั้งวันทั้งคืน “ข้าจะไปอาบน้ำก่อนละ” “ไปอาบน้ำก่อนอะไรหรือ ก่อนทำเรื่องนั้นหรืออย่างไร” เขาถามแกล้ง ๆ เยว่ชิงอ้าปากค้าง นับวันหลี่อวี้อ๋องที่กลายมาเป็นสามีของนางก็ยิ่งเจ้าเล่ห์เพทุบาย ขี้แกล้งและช่างหยอกเย้าเก่งขึ้นทุกที จนนางไม่รู้ว่าจะรับมือกับเขาอย่างไร “ไปเถอะ ข้าจะนอนรออย่างใจจดใจจ่ออยู่ที่นี่” “ท่าน!” “ข้าพูดความจริงนี่” เขาตอบหน้าตาเฉย ก่อนจะพูดไล่หลังเมื่อนางกำลังจะเปิดประตูออกไป

  • มู่หรงเยว่ชิง ท่านหญิงตำลึงทอง   ครองคู่ 2

    งานอภิเษกสมรสของหลี่อวี้อ๋องกับมู่หรงเยว่ชิงถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ถึงขนาดที่ฮ่องเต้มาเป็นประธานในงาน และเหล่าเชื้อพระวงศ์และขุนนางชั้นสูงจำนวนมากต่างมาร่วมงาน ที่ด้านนอกชาวบ้านล้านตลาดก็พากันออกมาดูเจ้าสาวที่นั่งเกี้ยวแปดคนหาม ซึ่งด้านหลังมีสินเดิมของเจ้าสาวยาวเหยียดชนิดที่ว่าหัวขบวนเคลื่อนไปถึงถนนอีกสายแต่ท้ายขบวนที่ตั้งคอยอยู่ยังไม่มีทีท่าว่าจะขยับออกจากจวนแม่ทัพ สมแล้วที่นางเป็นถึง ท่านหญิงตำลึงทอง แล้วหลังจากที่แต่งงานกับหลี่อวี้อ๋อง ตำลึงทองของนางเห็นจะมีแต่เพิ่มพูนขึ้นไปอีก พิธีการทุกอย่างราบรื่นสวยงามจนกระทั่งจะถึงตอนเข้าหอที่ทำให้เจ้าสาวอย่างเยว่ชิงรู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมา นางได้รู้อะไรมาบ้างจากเพ่ยเพ่ย ก็ไม่ได้มีสิ่งใดมากมายนักเนื่องจากเรื่องเช่นนี้พูดสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้และมันยังน่าอายที่จะหยิบยกเอามาพูดบ่อย ๆ ด้วย สิ่งที่นางรู้ก็เห็นจะเป็นเรื่องห้ามนอนนิ่งเป็นหินแข็งเท่านั้นเอง บ่าวแก่แดด ในขณะที่นางนั่งกังวลเรื่องนี้อยู่ หลี่อวี้อ๋องก็ได้รับกลเม็ดเคล็ดลับมากมายที่จะทำให้มีบุตรอย่างง่ายดายจากทั้งพี่ชายอย่างฮ่องเต้และพ่อสามีหมาด ๆ ว่าด้วยท่

  • มู่หรงเยว่ชิง ท่านหญิงตำลึงทอง   ครองคู่ 1

    มู่หรงเยว่ชิงเฝ้าครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่พบเจอในฝัน หรืออันที่จริงคือตัวนางในชาติที่แล้ว ต้องตกตายเพราะเศษเงินเพียงเหรียญเดียวเท่านั้น ช่างอนาถโดยแท้ ขนาดมาเกิดใหม่ในตระกูลที่มีอันจะกิน นิสัยขี้งก เอ้ย เอาเป็นว่า เห็นคุณค่าของเงินยังติดตัวมาอีก แต่ถ้าจะให้แก้ตอนนี้ก็คงสายไปเสียแล้วกระมัง “คุณหนูเจ้าคะ” เสียงเรียกของสาวใช้คนสนิทขัดความคิดของนาง “ท่านอ๋องมาถึงแล้วหรือ” “ถึงแล้วเจ้าค่ะ” นางพยักหน้ารับ ก้าวเดินไปยังประตูห้อง นางเพิ่งผ่านพิธีปักปิ่นไปเมื่อสิบวันที่แล้ว และแน่นอนว่าปิ่นที่นางเลือกใช้คือปิ่นทองลายหลันฮวาที่หลี่อวี้อ๋องมอบให้แก่นาง ซึ่งเป็นอันเดียวกับที่นางใช้ปักอยู่ทุกวันนี้ ตอนนี้เท่ากับว่านางผ่านพ้นจากวัยเด็กเข้าสู่วัยผู้ใหญ่และพร้อมสำหรับการออกเรือนแล้ว ช่างรวดเร็วจนน่าใจหาย นางเพียงแค่อายุสิบหกหนาวเท่านั้น ร่างบางที่นับวันความงามยิ่งฉายชัดเดินมาหยุดยืนข้างร่างสูงที่ยืนรออยู่ที่ศาลากลางสวน เมื่อเขาเห็นนางก็เผยยิ้มต้อนรับ กวาดสายตามองนางอย่างถวิลหา ช่วงนี้ทั้งสองคนมัวแต่ยุ่งอยู่กับพิธีอภิเษกที่จะมาถึงในไม่ช้า และนางก็จะต้องถนอมเนื้อตัวจน

  • มู่หรงเยว่ชิง ท่านหญิงตำลึงทอง   อดีตชาติ 2

    “รับปิ่นข้าไปแล้วเท่ากับว่าเจ้าเป็นของข้าไปครึ่งหนึ่งแล้ว รอหลังเจ้าปักปิ่นเราจะจัดงานมงคลกันทันที” “ไม่เร็วไปหน่อยหรือเจ้าคะ” “ข้าเตรียมการไว้หมดแล้ว” “นี่ท่าน” หญิงสาวเบิกตาโต “ข้าจะยอมให้เจ้าตกเป็นของคนอื่นได้อย่างไรกัน ไหนจะหลานชายข้าอีก” “แล้วฝ่าบาท…” “เสด็จพี่ย่อมทำตามที่ข้าต้องการ” เขาพูดพลางหยิบอะไรบางอย่างออกมาชูให้นางดู เป็นม้วนผ้าสีทอง “นี่อย่างไรล่ะ รอเพียงเจ้าฟื้นจะได้ประกาศราชโองการฉบับนี้เสียที” “ราชโองการอันใดเจ้าคะ” นางคาดเดาไว้ในใจ แต่ก็เอ่ยปากถาม “สมรสพระราชทานระหว่างชินอ๋องเฉินหลี่อวี้ พระอนุชาใน เสวียนจงฮ่องเต้ กับท่านหญิงมู่หรงเยว่ชิง ธิดาของแม่ทัพใหญ่มู่หรง เซียนหลิวอย่างไรเล่า” “ท่านมั่นใจอย่างไรว่าข้าจะแต่งกับท่าน” นางนึกหมั่นไส้ “เจ้าย่อมแต่งให้ข้า เพราะไม่มีใครเหมาะสมกับเจ้าและใจกว้างเท่าข้าอีกแล้ว” “องค์ชายชาง…” นางยังพูดไม่ทันจบก็ถูกเขาขโมยจูบ “หากยังพูดถึงชายอื่นข้าจะจูบเจ้าอีก” “ท่านนี่มัน…ร้ายกาจนัก ฮึ่ย! แต่ข้าก็รักท่าน” นางแสร้งต่อว่าและบอกรักเขาไปในตัว ก็เขาอยากฟัง

  • มู่หรงเยว่ชิง ท่านหญิงตำลึงทอง   อดีตชาติ 1

    มู่หรงเยว่ชิงไม่รู้ว่าตนเองอยู่ที่ใด นางไม่รู้ว่าสิ่งนี้คือความฝันหรือจริงกันแน่ หรือว่านางอาจตายแล้ววิญญาณออกจากร่าง เพราะหลายวันมานี้นางได้แต่ตามดูชีวิตของหญิงสาวนางหนึ่งซึ่งมีใบหน้าเหมือนกันกับนางมิผิดเพี้ยน นางได้ยินเสียงเรียกชื่ออันคุ้นเคยมาจากที่ไกล ๆ แต่นางกลับสนใจที่จะตามดูชีวิตของหญิงสาวนางนี้มากกว่าสถานที่ที่หญิงสาวนางนี้อยู่คล้ายโลกที่นางไม่รู้จัก ผู้คนแต่งตัวผิดแผก มีสิ่งก่อสร้างแปลกตา บ้างก็สูงเสียดฟ้าจนนางนึกว่าอาจเชื่อมไปถึงสวรรค์ก็เป็นได้ ข้าวของที่นางไม่รู้จักมากมาย บนถนนก็มียานพาหนะแปลก ๆ แล่นไปด้วยความเร็วสูงโดยที่ไม่ต้องใช้ม้าเทียมหญิงสาวนางนี้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างลำบากกว่านางนัก เริ่มตั้งแต่ตื่นแต่เช้าออกจากบ้านที่เป็นเพียงห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ไปทำงาน เวลาที่นางต้องการซื้ออะไรแม้จะเป็นอาหารก็ตาม นางจะต้องคอยนึกถึงเงินในกระเป๋าอยู่ตลอดเวลา พอเวลานางอยู่คนเดียวในห้องก็มักจะเหม่อมองแล้วหยิบภาพคนซึ่งน่าจะเป็นครอบครัวของนางขึ้นมาดู และทุกครั้งแววตาของนางจะสะท้อนทั้งความรู้สึกเศร้าเสียใจ เจ็บช้ำ และสุดท้ายจะเปลี่ยนเป็นเคียดแค้นชี

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status